ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม...

99
ปที35 ฉบับที 2 เดือนพฤษภาคม 2545 พฤษภารําลึก

Upload: others

Post on 03-Aug-2020

12 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

ปท่ี 35 ฉบับท่ี 2 เดือนพฤษภาคม 2545

พฤษภารําลึก

Page 2: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพ่ือนไทย 1

ปที่ 35 ฉบับที ่2 เดือนพฤษภาคม 2545

จํานวนพิมพ 330 เลม

จุลสารสมาคมนักเรียนไทยในรัฐเยอรมัน ในพระบรมราชูปถัมภ (ส.น.ท.ย.) จัดพิมพสําหรับเผยแพรโดยไมคิดมูลคาแกสมาชิก

บรรณาธิการ

ศราวุธ เลศิพลงัสันติ กองบรรณาธิการ

เพญ็ประภา บุญศิริเศรษฐ จิรพัชร เมธเศรษฐ สุภาวด ีมนตสถาพร กนกพร อุนวิจิตร

นักเรียนไทยเมือง Stuttgart หนาปก ปรฉัตร ศรีสุข

ขอขอบคุณ หนากระดาษแผนนี้ที่ทําใหผมมีโอกาสไดขอบคุณนักเขียนทุกทาน และผูที่มีสวนเกี่ยวของทุกๆคนที่ไมอาจเอยชื่อในที่น้ีไดหมด แตมันก็คงไมมีความจําเปนอีกตอไป เพราะมันก็ไดอยูในความทรงจําของผมหมดแลว ขอบคุณครับ ที่ติดตอ สงความคิดเหน็ ขอติชม คําเสนอแนะ หรือขอเขียนสําหรับเพื่อนไทยฉบับตอไปไดที ่ [email protected] (ปดรับตนฉบับวันที่ 15 กรกฎาคม 2545) Sarawut Lerspalungsanti Dieselstr. 25 D-70469 Stuttgart

http://www.thai-students.de Copyright Reserved © 2002 Printed in Germany

Page 3: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 3

สารบัญ เรื่องจากปก พฤษภารําลึก :ลําดบัเหตุการณ “พฤษภาวิปโยค” กองบรรณาธกิาร 5 บทกวี ขาวหอพฤษภาฯ ชลวุฒ ิ 15 เรื่องจากปก บทสัมภาษณ “ พฤษภารําลึก ” รําลึก 10 ปเหตุการณพฤษภา 2535

ศ.ดร. สมบัติ ธํารงธัญวงศ 17 ปรญิญา เทวานฤมิตรกุล 19

ละไม Oelgemöller 22 เรื่องจากปก รําลึกพฤษภา นายมกรา มีนา 24 บทกวี สิบปพฤษภาปสามหา ปรญิญา เทวานฤมิตรกุล27 รายงาน พระเทพฯ และบททรงสนทนากับนักเรียนเกิททิงเงน นายปริญญา 28 คอลัมน บทความรับเชิญ หกวานร ประภาส ชลศรานนท 30 คอลัมน เมือง สถาปตยกรรม มนษุย สองแคว 35 คอลัมน คลีนิคหมอขางบาน : หนาบวม หมอกุก 38 บทกวี งาน ครอบครัว สุขภาพ มิตร และจิตใจ ธีร 40 รายงาน ในความเคลือ่นไหว นายกสมาคม 41 คอลัมน เศรษฐกิจ (จากมุมมองของชาวบาน) เฮยีมืด 44 คอลัมน แวะเย่ียมชมเมือง :เที่ยว Kassel … เมืองที่ยังไมมีคนพูดถึง จินตหรา 47

อักษรภาษาเยอรมัน ในเชิงสังคมและการเมือง แกววิวาท 52 คอลัมน เหตุบานการเมือง :ผูกระเบิด จร ยามแดง 56 บทกวี นิราศเยอรมนั บวร (อ่ึง) 60 คอลัมน ธรรมะอบรมใจ : เราเกิดมาทาํไม รสธรรม 62 คอลัมน ยอนอดตี :อาณาจักรดอยชที ่1-3 สุภาวด ีมนตสถาพร 67 คอลัมน สารศิลป : ประวัติศาสตรศิลปะตะวันตก ป.ปายศรี 70 คอลัมน มุมไอที ออทโต ณ ฉะตุดการท 74 คอลัมน วิทยาศาสตรนารู :กวาจะมาเปน…homosapiens ทัตพล 79 บทกวี ตั๋วขึ้นสวรรค ทินยา 83 เรื่องสั้น เปลี่ยนฝง....พระจันทรดวงเดิม หลังถวยชา 85 เรื่องสั้น แผนดินของแม บุญยงั 87

การประกันสุขภาพใหประหยัดสําหรับนักเรียนนักศึกษา KSC 89 คอลัมน ติดขอบสนาม :นับถอยหลัง...ฟุตบอลโลก 2002 ต.ขาโต 92 คอลัมน หนาเตา :ปลาเผา ลาบปลา สุภา 97 คอลัมน หนาบาร Mr.Carrot 99

Page 4: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 4

บรรณาธิการแถลง

จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เปนเวลา 10 ปเต็มพอด ี มนุษยทุกคนยอมเติบโตข้ึนไปตามอายุขัยและประสบการณ ตามแตมากนอยตางๆกันไป หลังจากเหตุการณ “ พฤษภาวิปโยค 35 ”นั้น คนไทย และสังคมไทยก็ไดเติบโตขึ้น เชนเดียวกับระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยที่แมจะยังคงไมอยูในรูปแบบที่สุกงอมเตม็ที่นัก แตใครเลาที่จะทําใหมันสมบูรณได นอกเสียจากประชาชนคนไทยทุกคนนั่นเอง เพื่อนไทยจึงอยากจะใชโอกาสนี้ “รําลึก” ถึงเหตกุารณประวติัศาสตรครัง้น้ี ถึงการตอสูใหไดมาซึ่งประชาธิปไตยของวีรชนไทย แมจะตองแลกมันมาดวยเลือดเนื้อและชีวิตก็ตาม เพื่อนไทยจึงไดจัดทําลําดับเหตุการณ สัมภาษณผูที่มีสวนรวมใหเหตุการณครั้งนี้ ดวยความตั้งใจที่จะนําเสนอขอเท็จจริง ซึ่งบางทานอาจจะลืมไปแลว หรือยังไมไดติดตามในตอนนั้น โดยมิไดมีจุดประสงคจะยุยงสงเสริมเพื่อเปนการตอตานหรือสนับสนุนผูใดทั้งสิ้น

ฉบับนี้ใน บทความรับเชิญ เราก็ไดรับเกียรติจากนักเขียนมือพระกาฬของไทยมาฝากอะไรดีๆไว อยากรูเปนใครตองติดตาม คนที่กําลังคอยลุนฟุตบอลโลก 2002 ครั้งนี้หามพลาด ติดขอบสนาม วิเคราะหฟอรมของทีมตางๆกอนวันแขงจริงวันท่ี 31 พฤษภาคมนี้ สวนใครที่คิดจะเที่ยวในวันหยุดมากกวาก็ไป “แวะเย่ียมชมเมือง Kassel” กับ จินตหรา ได หากใครยังเท่ียวไมอ่ิมก็ไปตอกบั บวร ใน”นิราศเยอรมัน” ใครชอบเรื่องสั้นซึ้งๆจาก บุญยัง ก็ยังคงยิม้ไดเพราะพ่ีเคายงัสงเร่ืองมาไดทันกอนปดเลมพอดี ตามคํารองขอของหลายคนคราวนี ้หลังถวยชา พกพาความฝนถายทอดใน “เปล่ียนฝง....พระจันทรดวงเดิม” สวนคอลัมนประจําอื่นๆก็ยังมีอยูเพรียบพรอมเชนเคย เหตุบานการเมือง ในมุมมองอีกแบบถึงสังคมยุคใหมยุคตอตานผูกอการราย ใน “ผูกระเบิด” อยูดีๆ “คางบวม” อยาตกใจ ฉบับนี้หมอกุกเจาเกาจาก คลีนิคหมอขางบาน พาแพทยผูเชี่ยวชาญมาแจงสาเหตุให สาระหนารูตางๆก็ยังคงมีไมวาจะจาก มุมไอที ยอนอดีต สารศิลป กับศิลปกรรมจากอดีตถึงปจจุบัน หรือ ที่มาของมนุษยใน “กวาจะมาเปน...Homosapiens” ในวิทยาศาสตรนารู เกี่ยวเนื่องจากประชาธิปไตยสู”เสรีภาพ” หนนีส้องแควจะพาเราตามเจาขนนกไปคนหาความจริงใน เมืองสถาปตยกรรม มนุษย

จากฉบับที่แลว เพื่อนไทย ไดรับการตอบอยางดีเยี่ยมจากผูอาน รวมถึงนักเขียนใหมๆที่เริ่มสนใจ จับปลายปากกาขีดเขียนผลงานดีๆมาแบงปนแลกเปลี่ยนประสบการณกัน จนทําใหเพื่อนไทยเลมนี้ยิ่งมีความหนามากขึ้นไปอีก สิ่งเหลานี้ไดรวมรวบถายทอดออกมาเปนกําลังใจใหแกทีมงานทุกๆคน ไดมุงม่ันในการที่สรางสรรคงานดีๆออกมาตอไป โดยทัง้น้ีทางคณะผูจดัทําหวังเปนอยางยิง่วาผูอานจะไดรับอรรถ-รส ประโยชน หรือความเพลิดเพลินไปบางโดยสังเขป หากมคีวามผดิพลาดบกพรองหรือไมเหมาะสมประการใด ทางกองบรรณาธิการก็ตองขออภัยมา ณ ที่นี้ดวย

Stuttgart , 22 พฤษภาคม 2545

Page 5: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 5

เรื่องจากปก

“ พฤษภารําลึก “

วันที ่20 พฤษภาคม 2535

พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหพล.อ.สุจินดา คราประยูร และ พล.ต.จําลอง ศรเีมือง เขาเฝาใตฝาละอองธุลีพระบาท

Page 6: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 6

เรื่องจากปก “พฤษภารําลึก” รําลึก 10 ปเหตุการณพฤษภาวิปโยค ลําดับเหตุการณโดยยอที่มาของเหตุการณ “พฤษภาวิปโยค” เดือนกุมภาพันธ พุทธศักราช 2534-พฤษภาคม พุทธศักราช 2535

กองบรรณาธิการ 23 กุมภาพันธ 2534 คณะรกัษาความสงบเรียบรอยแหงชาติ (รสช.) ซึ่งม ีพล.อ. สุนทร คงสมพงษ เปนหัวหนา ไดทําการรัฐประหารรัฐบาลของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ พรอมยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 แลวตรา ”ธรรมนูญการปกครอง” (ชัว่คราว) ขึ้นบังคับใชเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2534 โดยเสนอแตงต้ัง นายอานันท ปนยารชุน เปนนายกรฐัมนตรคีนท่ี 18 ของประเทศไทย ตอมา รสช.แตงต้ัง สภานิติบัญญัติแหงชาติ มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน เปนประธาน และแตงตั้ง คณะกรรมาธิการรางรัฐธรรมนูญ มีนายโอสถ โกสิน เปนประธานยกรางฯ รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2534 โดยกําหนดให -นายกรัฐมนตรีไมจําเปนตองมาจากการเลือกตั้ง -ใหขาราชการประจาํดํารงตําแหนงทางการเมืองได 22 มีนาคม 2535

เลอืกต้ัง 2535 พรรคการเมืองท่ีจํานวนสมาชิกสภาผูแทนราษฎรมากเปนอันดับ 1 คือพรรคสามัคคีธรรม (79คน) ตามดวย พรรคชาติไทย (74 คน) ความหวังใหม (72 คน) ประชาธิปตย (44 คน) พลังธรรม (41 คน) กิจสังคม (31 คน) ประชากรไทย (7 คน) เอกภาพ (6 คน) ราษฎร (4 คน) ปวงชนชาวไทย (1 คน) และมวลชน (1 คน) นายณรงค วงศวรรณ ในฐานะหัวหนาพรรคสามัคคีธรรมที่ไดรับเสียงมากที่สุด ไดรับเสนอชื่อจากทางพรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย และพรรคราษฎร รวมจํานวนเสียงสนับสนุน 175 เสยีงใหเปนนายกรฐัมนตร ี แตยังไมทันที่ พล.อ.สุนทรจะไดทูลเกลาถวายฯ ช่ือนายณรงค ก็มีการยืนยันจากนาง มารกาเร็ต แท็ตไวเลอร โฆษกกระทรวงการตางประเทศสหรัฐอเมริกาวา นายณรงคเปนผูหนึ่งที ่“ตองหาม” ไมสามารถขอวีซาเดินทางเขาสหรัฐฯได เพราะมีความใกลชิดกับนักคายาเสพติด 7 เมษายน 2535 มีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯให พล.อ.สุจินดา คราประยูร ซึ่งลาออกจากตําแหนงผูบัญชาการทหารสูงสุดและผูบัญชาการทหารบก เปนนายกรฐัมนตรี คนท่ี 19 ของประเทศไทย สวนพรรค

Page 7: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 7

การเมืองอีก 4 พรรคคือ พรรคความหวังใหม พรรคประชาธิปตย พรรคพลังธรรม และ พรรคเอกภาพ ที่กลายเปนพรรคฝายคานไดออกแถลงการณคัดคานนายกฯ ท่ีไมไดมาจากการเลือกตั้ง องคกรตางๆเริ่มเคลื่อนไหวคัดคานเชน การประชุมเพื่อคัดคานนายกฯที่ไมไดมาจากการเลือกตั้งของคณะกรรมการรณรงคเพื่อประชาธิปไตย (ครป.) รวมกับองคกรพัฒนาเอกชนและสหพันธนิสิตนักศึกษาแหงประเทศไทย (สนนท.) หลังจากนั้นมีการวางหรีดอาลัยแกตําแหนงนายกฯ ของ พล.อ.สุจินดา ท่ีสวนรื่นฤด ีรวมทั้งมีการแสดงการคัดคานของนักวิชาการหลายทาน 8 เมษายน 2535 เวลาตีหนึ่ง ร.ต.ฉลาด วรฉัตร อดีต ส.ส.เริ่มอดอาหารประทวงใหนายกฯ ตองมาจากการเลือกต้ัง ที่บริเวณหนารัฐสภา พรอมปายสีดําขอความวา “ ขาขอพลีชีพเพื่อประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีตองมาจากการเลอืกตัง้” สวนทางฝาย ครป. และ สนนท. ไดมีจดหมายสงถึงพล.อ.สุจินดา คัดคานการรับตําแหนงนายกฯ และขอรองใหลาออก มีการเสวนาท่ีจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย สวนนักศึกษาไทยในสหรัฐฯ ประกาศจะวางหรีดดําประทวง 9-15 เมษายน 2535 ทางพรรคฝายคาน พล.ต.จําลอง ศรีเมือง หัวหนาพรรคพลังธรรม ไดมีจดหมายเปดผนึกถึงพล.อ.สุจินดา คัดคานนายกฯ คนนอก และขอให พล.อ.สุจินดา ลาออกจากตําแหนง พรรคฝายคานท้ังส่ีพรรคมติแตงชดุดําไวทุกข และจัดปราศรัยเพื่อคัดคานนายกฯคนนอก สําหรับการคัดคานจากฝายอื่นๆยังมีอยูทั่วไป จากองคกรตางๆและนักวิชาการทั้งในและนอกประเทศ 16-19 เมษายน 2535 “รัฐบาลเปดงอย”เปนชื่อที่ทางสื่อมวลชนไดตั้งใหคณะรัฐบาลชุดใหม หลังจากวันที ่17 มีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯใหแตงต้ังคณะรฐัมนตรี โดยมรีฐัมนตรท่ีีถกูยึดทรัพยรวมอยูดวยสามคน ซึง่ก็ทําใหเกดิเสยีงตอตานมากขึน้หลังจากทีค่ณะรสช.ใชเหตุผลในการทํารัฐประหารเมื่อป 2534 วาสาเหตุหนึ่งก็เพื่อกําจัดรัฐมนตรีที่คอรัปชัน หลังการประชุมสภาวันที ่16 ฝายคานซึง่พรอมใจกนัแตงชุดดําเขาสภาไดแถลงวา จะเปดการปราศรัยใหญที่ลานพระบรมรูปฯในวันที่ 20 เวลา 17.00 น. และจะเสนอรางแกไขรัฐธรรมนูญ 20 เมษายน 2535 การปราศรัยของตัวแทนฝายตางๆเริ่มขึ้นตามกําหนดเวลา โดยมปีระชาชนมารวมชุมนุมเพิ่มขึ้นจนตํารวจตองปดการจราจรบริเวณลานพระบรมรูปทรงมา มีประชาชนเขาฟงประมาณ 1 แสนคน โดยแกนนําคือพรรคการเมืองฝายคานไดออกมาแสดงความคิดเห็นคัดคาน และชี้ใหเห็นถึงความไมเหมาะสมของนายกฯคนปจจุบัน หลังการปราศรัยของพรรคตางๆจบลง มีการจุดเทียนพรอมกัน

Page 8: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 8

21 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2535 ร.ต.ฉลาดที่อดอาหารมาเกอืบ 20 วันเริ่มมีอาการแยลง แตก็ยังอดอาหารตอไปแมจะไดรับการขอรองใหเลิกจากสมเด็จพระสังฆราช ในตอนสายของวันท่ี 29 ร.ต.ช็อกหมดสติและถูกนําตัวสงโรงพยาบาล ตอมาน.ส.จิตราวดี ไดประกาศอดอาหารตอแทนบิดา 4 พฤษภาคม 2535 วันนี้เปนวันชุมนุมของประชาชนเพื่อคัดคานนายกฯคนนอก ท่ีสนามหลวงบรรยากาศเร่ิมคึกคักขึ้นตั้งแตชวงเย็น กลุมมวลชนตางๆผลัดกันขึ้นเวทีอภิปรายในหัวขอ ”รวมพลังประชาธิปไตย นายกฯตองมาจากการเลอืกตัง้” มีประชาชนเขารวมเกือบแสนคน ในชวงทายเปนการปราศรยัของนักการเมืองฝายคาน เนนถึงความไมถูกตอง ความไมชอบธรรม และการสืบทอดอํานาจของพล.อ.สุจินดา มีการกลาวถึงคําพดูของนายกฯ เชน “เสียสัตยเพื่อชาติ” การอภิปรายมุงไปที่ตัวนายกฯโดยตรง และเรียกรองให พล.อ. สุจินดาลาออก จากนั้น พล.ต.จําลอง ศรีเมือง หัวหนาพรรคพลังธรรมไดขึ้นเวทีประกาศอดอาหารทุกชนิด และขอใหประชาชนไปรวมแสดงพลังคัดคานนายกฯคนนอกที่หนารัฐสภา สวนร.ต.ฉลาดที่ออกจากหองไอซียูแลว บอกวาจะไปอดขาวกับพล.ต.จําลอง 5 พฤษภาคม 2535 ประชาชนที่มารวมชุมนุมไดเพิ่มจํานวนขึ้นเปนหมื่นคน จนตองตั้งเวทีขึ้นในตอนค่ําและปดการจราจรในถนนอูทองใน กระแสการคัดคานไดเกดิข้ึนในตางจังหวัดดวย เชน ท่ีเชียงใหม ขอนแกน นครราชสีมา สงขลา เปนตน 6 พฤษภาคม 2535 วันนี้เปนวันแถลงนโยบายของรัฐบาลและมีการซักถามของส.ส.ในชวงกอนเปดสภา พล.อ.สุจินดา ไดใหสัมภาษณวา ไมมีเหตุการณอะไรและไมมีอะไรกดดัน และในชวงการแถลงนโยบายของนายกฯ ส.ส.ฝายคาน ซึ่งมีมติไมเขาฟงไดออกมาปราศรัยกับประชาชนกวา 3 หมื่นคนที่มาชุมนุมอยูหนา รัฐสภา เสร็จแลวจงึกลบัเขาไปอภิปรายโจมตีนโยบายตางๆ เชน นโยบายท่ีบอกวาจะรกัษาไวซึง่การปกครองระบอบประชาธิปไตย การกระจายอํานาจ และพูดถึงรัฐมนตรีที่ถูกยึดทรัพย 7 พฤษภาคม 2535 ที่หนารัฐสภาหลังจากที่ปดสภาไปแลว ก็มีประชาชนมารวมชุมนุมมากข้ึน แตถูกฝายตํารวจก้ันไวภายนอก หลังจากปดสภาไดมีการประชุมกันของฝายทหาร ประกอบดวย พล.อ.สุจินดา พล.อ.เกษตร พล.อ.อิศรพงศ พล.ท.ชัยณรงค พล.อ.อ.อนันต สรปุวาจะใชมาตรการสามมาตรการ ถาผูชุมนุมไมสลายตัว คือ 1.ออกประกาศเตือน 2.ประกาศกฎอัยการศึก 3.ใชมาตรการขั้นเด็ดขาด เวลา 15.00 น. มีการประกาศของกองอํานวยการรักษาความสงบเรียบรอยภายในประเทศฉบับที ่1 เรียกรองใหยุติการชุมนุม และเวลา 17.00 น.ก็มีประกาศกองกาํลังรักษาพระนคร ฉบับที ่1 วาจะ

Page 9: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 9

จัดการกับผูชุมนุม แตอยางไรก็ตามก็ยังคงมีประชาชนเขารวมชุมนุมมากขึ้นๆ จนลนออกมาถึงบริเวณลานพระบรมรูปฯ ในตอนค่ําครป. สนนท. และพล.ต.จําลองไดนําผูชุมนุมนับแสนคนจากหนารัฐสภาไปยังสนาม- หลวงอยางเปนระเบียบ ทามกลางเสียงเชียรจากประชาชนโดยรอบ 8 พฤษภาคม 2535 พล.อ.สุจินดาใหสัมภาษณในเวลาตอมาวาตนสามารถทนการถูกอภิปรายในสภาได ที่พูดในสภาเรื่องเหตุผลของการเปนนายกฯ เปนการชี้แจงสวนการแกไขรัฐธรรมนูญก็เปนเรื่องของสภาซึ่งตนจะทําตามมติของสภาเทาน้ัน ตนไมยดึติดกบัอํานาจ และพรอมที่จะลาออกถาเปนไปตามกระบวนการ และจะไมใชมาตรการรุนแรงอยางเด็ดขาด ที่ทองสนามหลวง บรรยากาศเริม่คึกคกัต้ังแตตอนเชา มีประชาชนทยอยเดินทางมามากขึ้นเรื่อยๆ จนเกินแสนคน ในตอนเย็นพล.ต.จําลองซึ่งอดอาหารมาเปนวันที่ 5 ก็ยอมรับเง่ือนไขของประธานสภาผูแทนฯ แตมีเง่ือนไขที่พล.อ.สุจินดาตองมาแถลงเองวาจะแกไขในหน่ึงเดือน ไมมีบทเฉพาะกาล และตองขอรับโทษถาไมทําตาม หลังจากนั้นไดมีการเคลื่อนคนไปยังถนนราชดําเนิน 9 พฤษภาคม 2535 กลุมผูชุมนุมยังคงปกหลักอยูที่ถนนราชดําเนินกลาง บริเวณเชิงสะพานผานฟาฯถูกกั้นดวยลวดหนาม ในตอนสายของเชาวันนั้น พล.ต.จําลองไดขอประชามติจากที่ชุมนุมวาจะใหอดอาหารตอหรือใหเลิกเพื่อที่จะสูตอไป ผูชุมนุมมีมติเลือกขอที่สอง พล.ต.จําลองจึงเลิกอดอาหารและประกาศลาออกจากหัวหนาพรรคพลังธรรม เพือ่ปองกันขอครหาวาตอสูเพือ่อํานาจ พรอมท้ังลดเง่ือนไขการเรียกรองเหลือเพียงการแกไขรัฐธรรมนูญ และใหมีบทเฉพาะกาลไมเกินหนึ่งเดือน กลุมผูที่มาชุมนุมในครั้งนี้สวนใหญจะเดินทางมามากในตอนเย็น และเริ่มนอยลงในตอนเชาของแตละวัน กลุมผูชุมนุมจํานวนมากขับรถยนตมากันเอง และใชโทรศัพทมือถือ การชุมนุมครั้งนี้จึงไดรับการขนานนามจากสื่อมวลชนวา “ม็อบรถเกง” หรือ “ม็อบมือถือ” พรรคการเมือง นักวิชาการ อาจารย พยายามหาทางออกดวยการขอแกไขรัฐธรรมนูญตัวแทนพรรคฝายรัฐบาล และพรรคฝายคานรวมเกาพรรคไดรวมประชุมกัน และมีมติวาเกาพรรคเห็นชอบแกไข รัฐธรรมนูญ โดยพรรครัฐบาลขอเวลาไปขอมติพรรคและจะยื่นวาระใหประธานรัฐสภาไดทันในวันท่ี 15 10-15 พฤษภาคม 2535 หลังจากการชุมนุมของประชาชนยุติลงในวันที ่ 10 หาพรรครัฐบาลก็มีทาทีที่เปลี่ยนไป โดยมีการยืดเวลาการแกไขรัฐธรรมนูญออกไป โดยใหเหตุผลวาตองไปปรึกษากับส.ส.ในพรรคกอน ไมสามารถยื่นหนังสือขอแกไขรัฐธรรมนูญไดทันในวันที ่ 15 ซึ่งการกระทําของพรรคฝายรัฐบาลในครั้งนี้คาดวาเปนสาเหตุสําคัญที่ทําใหประชาชนเขารวมชุมนุมที่ทองสนามหลวงวันที ่17 พฤษภาคม 2535 เปนจํานวนมาก หลังจากยุติการชุมนุมชั่วคราว บรรดาแกนนําไดประชมุรวมกันเพ่ือปรกึษาและสรุปบทเรียนท่ีผานมาในวัน

Page 10: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 10

ที่ 14 พฤษภาคม ที่โรงแรมรัตนโกสินทร เนื่องจากพบวาการชุมนุมท่ีผานมานั้นแกนนําขาดความเปนเอกภาพ มีความแตกตางทางแนวคิดและไมสามารถหาขอยุติไดดวยอํานาจขององคการนํา ท่ีประชุมจึงลงมติจัดต้ัง”สมาพันธประชาธิปไตย” ขึ้น ประกอบดวยกรรมการเจ็ดคนดวยกัน ไดแก พล.ต.จําลอง ศรีเมือง นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล น.พ.เหวง โตจิราการ น.พ.สันต หัตถรีตัน นายสมศักดิ ์โกศัยสขุ นางประทีป อึง้ทรงธรรม ฮาตะ และ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร 17 พฤษภาคม 2535 เวลา 13.00น. ที่ทองสนามหลวง เจาหนาท่ี สมาพันธประชาธิปไตย เริ่มตั้งเวทีขึ้น หลังจากน้ันเวลาประมาณ 15.00 น.จากผูชุมนุมประมาณ 3 หมื่นคนก็เพิ่มเปน 3 แสนคน และเม่ือถึงเวลาทุมครึง่การจราจรโดยรอบสนามหลวงก็เริ่มติดขัดเพราะมีผูคนมาจากทุกสารทิศ แอด คาราบาวขึ้นรองเพลงบนเวท ี ตัวแทนสมาพันธประชาธิปไตยทยอยขึ้นปราศรัยบรรยา-กาศเปนไปอยางคึกคัก มีการตะโกนคําขวัญขับไล พล.อ.สุจินดาตลอดเวลา หนังสือพิมพประมาณวามีผูรวมชุมนุมในครั้งนี้เกือบ 5 แสนคน นับเปนการชุมนุมครั้งยิ่งใหญของพลังประชาธิปไตย ทวาไมมีสถานีโทรทัศนชองใดรายงานขาวการชุมนุมครั้งนี้ ผูบัญชาการกองกาํลังรกัษาพระนคร ไดสั่งการใหหนวยขึ้นตรง กองกําลังรักษาพระนคร ปฏิบัติการตามแผนไพรีพินาศ/33 ขั้นท่ี 2 โดยใหทุกหนวยเขาที่รวมพลขั้นตนใกลพื้นที่ปฎิบัติการตามสี่แยกสะพานและสถานที่สําคัญใหเสร็จสิ้นภายในเวลา 19.00 น. จากนั้นเวลาราวสามทุม คณะกรรมการสมา- พันธประชาธิปไตยไดขึ้นไปบนเวที น.พ.เหวงประกาศใหประชาชนเดินไปทําเนียบรัฐบาล เพื่อขอคําตอบจากพล.อ.สุจินดา ประชาชนจึงทยอยเดินออกจากสนามหลวงไปยังถนนราชดําเนินกลาง โดยมีขบวนของพล.ต.จําลองเปนผูนํา

ท่ีสะพานผานฟาฯ เจาหนาท่ีตํารวจนับพันนายพรอมโลหวาย ไมกระบองตรึงกาํลังอยูโดยมีลวดหนามวางเปนแนวกั้น รถดับเพลิงและทหารเสริมกําลังอยูดานหลัง

การปะทะครั้งแรกเริ่มตนขึ้นในชวงประมาณ 21.20 – 22.00 น. เมื่อฝูงชนกลุมแรกที่มาถึงสะพานผานฟาฯ เผชิญหนากับแนวกีดขวางและขอรองใหตํารวจเปดทางให แตไมสําเร็จ จากนัน้ไดมกีารฉีดน้ําสกัดฝูงชนที่รุกล้ําทําลายลวดหนามเขามา ประชาชนจึงตอบโตดวยการขวางปาขวดน้ําและกอนหินเขาใสเจาหนาที่ ตอมาฝูงชนกลุมหนึ่งสามารถยึดรถดับเพลิงได แลวฉีดน้ําใสกลับเจาหนาที่ แตในที่สุดตํารวจก็เขาชิงรถดับเพลิงคืนมาได โดบใชกระบองกระหน่ําตีกลุมผูยึดรถ การปะทะครัง้น้ีไดกินเวลานานเปนชัว่โมง นอกจากนี้ยังมีคนที่ใชขวดน้ํามันจุดไฟรวมทั้งระเบิดขวดขวางใสเจาหนาที่ ทางตํารวจก็ใชกระบองเขาทุบตีประชาชน รถยนต รถจักรยานยนต (ผูจัดการฉบับพิเศษ 2535)

เวลา 22.15น. ตํารวจนําลวดหนามมาตัง้ขวางไวตามท่ีเดิม ผูบาดเจ็บถอยมารวมกับกลุมท่ีเพ่ิงเดินทางมาถึง พล.ต.จําลอง ไดกลาวขอใหประชาชนอยูในความสงบและนั่งลงตอสูโดยสันติวิธี ประชาชนสวนใหญอยูในความสงบ แตมีบางสวนยังใชขวดน้ําขวางปาใสเจาหนาที่ตํารวจเปนครั้งคราว

Page 11: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 11

ในขณะที่กลุมผูชุมนุมบริเวณสะพานผานฟาฯกลับสูความสงบ กลุมทางดานกรมโยธาธิการกลับใชความรุนแรงและยั่วยุเจาหนาที่ตํารวจจนเกิดการปะทะขึ้น มีการขวางปาดวยระเบิดเพลิงและประทัด ในที่สุดก็มีการยึดสถานีตํารวจดับเพลิงภูเขาทอง และเผาสถานีตํารวจนครบาลนางเลิ้ง โดยตลอดเวลาที่เกิดความวุนวายที่ถนนราชดําเนินนอก ประชาชนนับแสนตั้งแตสะพานผานฟาฯ ถึงสี่แยกคอกวัว ซึง่พลต.จําลองคุมสถานการณไวไดยังคงน่ังชุมนุมอยางสงบ พล.ต.จําลองไดประกาศตอท่ีชมุนุมวา ไมขอรับผิดชอบตอการกอจลาจลทั้งหมด เพราะเปนฝมือของมือที่สามที่หวังสรางสถานการณเพื่อสรางความชอบธรรมในการปราบปรามประชาชน 18 พฤษภาคม 2535 เที่ยงคืนเศษ โทรทศันออกขาววาพล.ต.จําลองไดปลุกระดมประชาชนทําลายทรัพยสินของทางราชการ ซึง่ทางราชการจึงตองดาํเนนิการอยางเด็ดขาดเพือ่ไมใหเกดิความเสียหายมากข้ึน เวลา 00.30 น. โทรทัศนออกประกาศสถานการณฉุกเฉินในเขตทองที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หามชุมนุมมั่วสุมเกิน 10 คนขึ้นไป และตอนตีสาม โทรทัศนไดประกาศเพิ่มเติมวาพล.ต.จําลองไดนําการจลาจลเผารถ เผาสถานีตํารวจดับเพลิงภูเขาทอง ยึดสถานีตํารวจนางเลิ้ง หลังจากน้ันในราวตีสี่เศษ กําลังทหารจํานวน 2,000 นาย และตํารวจ 1,500 นาย ซึง่เตรียมพรอมท่ีสะพานมัฆวานฯ ก็เคลื่อนกําลังสูสะพานผานฟาฯ จากนั้นก็มีเสียงปนชุดแรกของฝายทหารดังขึ้น เปนเวลานานประมาณ 15 นาท ีลูกกระสุนมีวิถีขึ้นสูทองฟาตามวิถียิงเพ่ือขูขวัญ ประชาชนที่ชุมนุมอยูบริเวณผานฟาฯ ภูเขาทอง ปอมมหากาฬ หลบหนีกันแตกกระเจิง มีเสียงรองโอดครวญของผูที่ไดรับบาดเจ็บ และหลายคนเสียชีวิต เกือบรุงสาง เสียงปนชุดท่ีสอง ก็ดังอกีครัง้ ทหารเคลื่อนพลเดินดาหนาพรอมรถดับเพลิงฉีดน้ําใสฝูงชนจนแตกกลุมถอยรนจากบริเวณสะพาน กําลังทหารที่เขายึดสะพานผานฟาฯ พรอมกบัเอาลวดหนามกั้นไว วิถียิงที่มีทั้งขึ้นฟาและระดับบุคคล ทําใหมีผูเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายราย สวนลําโพงบนเวทีใหญถูกยิงแตกกระจุย ในเวลาเดียวกนัทางโทรทัศนไดประกาศวากาํลังทหาร ตํารวจ ไดเขากวาดลางผูกอความไมสงบเรียบรอยแลว 14.00 น. พล.อ.สุจินดาออกแถลงการณทางโทรทัศนวา พล.ต.จําลองและบุคคลบางคนวาเปนภัยตอชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย เปนผูยุยงปลุกปนใหการชุมนุมเกิดความรุนแรงจนทํารายเจาหนาที่และทําลายสถานที่ราชการ จึงตองใชกําลังตํารวจเขาปราบปรามขั้นเด็ดขาดเพื่อยุติความเสียหาย หลังจากนั้นเวลาราว บายสามโมง บนถนนราชดําเนิน ก็มีเสียงปนดังขึ้น ทหารเขาลอมผูชุมนุมโดยมีรถหุมเกราะเคลื่อนที่ตามมาขางหลัง ผูคนตางแตกกระเจิงว่ิงหนีหลบไปตามท่ีตางๆ สวนที่เหลือราว 3,000 คนหมอบราบลงกับพื้น มีเสียงหวีดรองและรองไหสะอึกสะอื้นทามกลางเสียงปนรัวกระหน่ํา

“อยาทํารายประชาชน จับผมไปคนเดียว” พล.ต.จําลองพยายามเปลงเสียงพรอมกับชูมือแสดงตัวขณะที่หมอบราบอยูกับฝูงชน และถูกนําตัวขึ้นรถออกไปจากที่ชุมนุมในที่สุด จากนั้นกําลังทหารเขายึดพื้นที่ถนนราชดําเนินตั้งแตสะพานผานฟาฯ ถึงสี่แยกคอกวัวไวได ผูชายถูกสั่งใหถอดเสื้อนอนคว่ําหนา

Page 12: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 12

สองมือไพลหลังมัดไวดวยเสื้อ สวนผูหญิงนอนคว่าํหนา รถยีเอ็มซี 10 คนและรถบสั 3 คันนําผูชุมนุมไปกักขังท่ีโรงเรียนพลตํารวจบางเขน โดยมีผูท่ีถูกจับประมาณพันคน

เวลาประมาณหาโมงเย็น กําลงัทหารไดกราดยิงตดิตอกนัเปนเวลานานอกีครัง้ท่ัวท้ังถนนราชดําเนิน ตั้งแตอนุสาวรียประชาธิปไตยไปจนสะพานผานฟาฯ

หลังจากที่พล.ต.จําลองถูกจับ ประชาชนยังคงไมสลายการชุมนุม แตกบัทวีจาํนวนมากข้ึนและถอยรนไปตั้งหลักอยูบริเวณกรมประชาสัมพันธ โรงแรมรัตนโกสินทรและบริเวณใกลเคียง เวลาหกโมงเย็นประชาชนราว 5หมื่นคนไดมารวมตัวกันที่บริเวณหนากรมประชาสัมพันธยาวไปถึงกระทรวงยุติธรรม เสียง ปนดังรัวนานประมาณสิบนาที ฝูงชนตางหมอบราบกับพื้น บางกลุมตอสูโดยการชวยกันเข็นรถเมลที่ยึดมาไดใหเคลื่อนเขาใสทหาร จนทําใหแถบทหารที่ระดมยิงอยูตองถอยรนออกไป

รางผูบาดเจ็บและศพวีรชนคนแลวคนเลา ถูกหามเขาสูหองล็อบบี้ของโรงแรมรัตนโกสินทร ซึ่งทางกลุมแพทยอาสาไดจัดสถานท่ีเปนหนวยพยาบาลฉุกเฉิน มีแพทยประมาณ 40 คน คนเจ็บถูกทยอยสงโรงพยาบาลโดยรถพยาบาลเทีย่วแลวเท่ียวเลา ทวารถพยาบาลท่ีออกไปแลวสวนใหญไมสามารถผานเขามารับผูที่บาดเจ็บได เนือ่งจากถูกทางทหารสกดัไว

ทางดานพรรคฝายคานท้ังส่ีพรรคออกแถลงการณใหรัฐบาลยุติการใชกําลังรุนแรงกับประชาชนโดยทนัที และพรรคฝายคานจะยื่นญัตติใหรัฐบาลชี้แจงกรณีใชความรุนแรงกับประชาชน ท้ังเสนอใหมีการตรวจสอบเหตุการณอยางละเอยีด สวนทางรัฐบาลออกประกาศจับแกนนําเจ็ดคน คือ นายนายปรญิญา เทวานฤมิตรกุล น.พ.เหวง โตจิราการ น.พ.สันต หัตถรีตัน นายสมศักด์ิ โกศัยสขุ นางประทีป อ้ึงทรงธรรม ฮาตะ และ น.ส.จิตรวดี วรฉัตร และ นายวีระ มุสิกพงศ 19 พฤษภาคม 2535 หลังเท่ียงคนืฝูงชนทีถ่นนราชดําเนินเร่ิมบางตา แตยังรวมกลุมกันรอบๆสนามหลวง ตามอาคารและซอกซอยตางๆ ขณะเดียวกันก็มีรถจักรยานยนตจับกลุมวิ่งไปตามถนนสายตางๆกลุมละ 60 คันบาง 70 คันบาง เขาทําลายไฟจราจรตามส่ีแยกตางๆ ปอมยาม ปอมตํารวจถกูทุบเสียหาย โดยเฉพาะสถานีตํารวจ จะเปนจุดที่กลุมรถจักรยานยนตเล็งเปนเปาหมายของการแกแคนแทนฝูงชนที่เสียชีวิตบริเวณราชดําเนิน นอกจากนี้บางคันยังถูกใชเปนยานพาหนะชวยพาผูบาดเจ็บไปสงโรงพยาบาลไดทันเวลา จากบทบาทเหลานี ้จึงเกิดศัพทเรียกกลุมนี้วา “ขบวนการมอเตอรไซค” เวลา 04.55 น.นายแพทยคนหน่ึงในโรงแรมรัตนโกสินทรถือโทรโขงแจงวา กําลังทหารจากศูนยสงครามพิเศษลพบุรีเคลื่อนประชิดเขามาแลว และมีขาววาจะปดลอมปราบขั้นสุดทาย เมื่อเวลาตีหา กําลังทหารกวา 1 พันนายเดินเรียงหนากระดานระดมยิงเขาใสฝูงชนตั้งแตหนากรมประชาสัมพันธเขามา ฝูงชนแตกกระจายกันไปคนละทิศละทาง กําลังทหารจากทุกๆดานโอบลอมตอนฝูงชนไมใหเล็ดลอดออกไปได เสียงหวีดรองระงมไปทั่ว เพียง 30 นาทีหลังจากนัน้ฝูงชนก็ถูกตอนมารวมกันหนาโรงแรมรัตน

Page 13: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 13

โกสินทร จากนั้น คนสองพันคนในสภาพดั่งเชลยศึกสงครามก็ถูกขนไปยังเรือนจําชั่วคราวท่ีโรงเรียนพลตํารวจบางเขน อธกิารบดีมหาวิทยาลยัของรฐั 19แหงทั่วประเทศ ออกแถลงการณขอใหยติุการใชความรุนแรง ขอใหพล.อ.สุจินดาลาออกจากตําแหนงและใหมีการแกไขรัฐธรรมนูญ ประเทศตางๆท่ัวโลกแสดงทาทีหวงใยตอสถานการณในประเทศไทยและเรียกรองใหรัฐบาลดําเนินการโดยเคารพในสิทธิมนุษยชนดวย หลังจากนั้นไดมีการจัดชุมนุมเวทีปราศรัยขึ้นอีกครั้งที่มหาวิทยาลัยรามคําแหง ในชวงเย็น โดยมีผูรวมมาชุมนุมประมาณ 4-5 หมื่นคน 20 พฤษภาคม 2535 เวลาหกโมงเชา สถานีโทรทัศนชอง 9 อ.ส.ม.ท. ไดแพรภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณท่ีประเทศฝรั่งเศสถึงเหตุการณในประเทศไทยวา การฆาฟน หรือทํารุนแรงเปนเรื่องไมด ี การเสียทรัพยสิน ไมสําคัญเทาชวิีตคน อยากใหเลิกฆาฟนกัน เลิกรุนแรง เพราะวาเราเปนคนไทยดวยกัน เวลาบายโมง พล.อ.สุจินดา พรอมดวยแกนนําหาพรรค เดินทางมารวมกันแถลงขาวที่ตึกนารีสโมสร ไดแถลงขาวทางโทรทัศนเสียใจตอเหตุการณที่เกิดข้ึน และยืนยันวามีผูเสียชีวิตเพียง 40 คน บาดเจ็บราว 600 คน เวลาทุมครึ่ง ไดมีประกาศหามบุคคลในทองที่กทม. ออกจากเคหสถานระหวางเวลา 21.00 น. ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุงขึ้น แตในขณะเดียวกันที่มหาวิทยาลัยรามคําแหง ประชาชนยังทยอยมารวมชุมนุมกันกวาแสนคน

เวลาหาทุมครึ่ง โทรทัศนรวมการเฉพาะกิจและสถานีวิทยุโทรทัศนรวมการเฉพาะกิจและสถานีวิทยุกระจายเสียงแหงประเทศไทยไดถายทอด พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหพล.อ.สุจินดา และ พล.ต.จําลอง เขาเฝาใตฝาละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงเตือนสติและสั่งสอนบุคคลทั้งสอง ทรงชี้ใหเห็นถึงผลกระทบที่จะมีตอประเทศชาต ิ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ขอใหบุคคลท้ังสองเปนตวัแทนฝายตางๆ หันหนาเขาหากนั ชวยกันแกไขปญหา ทําอยางไรใหประเทศชาติกลับคืนดีขึ้นมา พล.อ.สุจินดากับพล.ต.จําลอง พรอมดวยนายสัญญา ธรรมศักด์ิ ประธานองคมนตรแีละพล.อ. เปรม ติณสูลานนท องคมนตรีและรัฐบุรุษไดรวมประชุม เพื่อแกไขปญหาท่ีเกิดข้ึนหลังจากน้ัน พล.อ. สุจินดา และพล.ต.จําลองไดออกมาแถลงขาวรวมกันโดยพล.อ.สุจินดา แถลงจะปลอยตัว พล.ต.จําลอง และออกกฎหมายนิรโทษกรรมใหแกผูชุมนุม และจะใหมีการแกไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว สวนพล.ต.จําลองแถลงวา ขอใหผูท่ีกอความวุนวายยุติการกระทํา 21 พฤษภาคม 2535

ผูถูกจับกุมประมาณ 3,000 คนไดรับการปลอยตัว โดยมพีอแมญาติพีน่องมาคอยรับมากมาย บรรยากาศเต็มไปดวยความตื้นตันใจ สวนทางกองกําลังรักษาพระนครประกาศยกเลิกเคอรฟว

Page 14: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 14

22 พฤษภาคม 2535 พรรครัฐบาลไดมีมติแกไขรัฐธรรมนูญโดยไมมีบทเฉพาะกาลและปฎิเสธวาพรรครัฐบาลไมเกี่ยวของกับการสังหารประชาชน เพราะนายกฯไมไดปรึกษารัฐมนตรีเลย 23 พฤษภาคม 2535 พล.อ.สุจินดาไดเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีซึ่งจะใหมีการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเปนพระราชกําหนดแทน โดยมีเนื้อหาสําคัญคือการใหนิรโทษกรรมแกทุกคนที่เกี่ยวของในเหตุการณระหวางวันที ่17-21 พฤษภาคม 2535 ซึ่งรวมถึงผูท่ีสั่งปราบปรามประชาชนดวย ทามกลางเสยีงคัดคานจากหลายๆฝาย 24 พฤษภาคม 2535 ในตอนเชา ประชาชนและญาติผูเสียชิวิตไดรวมทําบุญตักบาตรอุทิศสวนกุศลใหแกวีรชนท่ีเสียชีวิตที่บริเวณถนนราชดําเนิน เวลาบายสองโมง พล.อ.สุจินดาประกาศลาออกจากตําแหนงนายกรัฐมนตรี เมือ่ประชาชนท่ีบริเวณถนนราชดําเนินไดทราบขาวก็โหรองยินดีกันกึกกอง ร.ต.ฉลาดเลิกอดอาหารหลังจากประทวงมาเปนเวลา 47 วัน ท่ีอนุสาวรียประชาธิปไตย มีพวกหรีดนับรอยมาวางเรียงรายโดยรอบ เหนือขึ้นไปมีผาสีดําขงึอยู มีขอความวา “กลุมฆาตกรยังลอยนวล วีรชนจะนอนตายตาหลับไดอยางไร” หลังจากเหตุการณ “พฤษภาวปิโยค”ในครั้งน้ัน นายอาทิตย อุไรรัตน ประธานสภาผูแทนราษฎร ไดเสนอชื่อนายอานันท ปนยารชุน เปนนายกรัฐมนตรีรักษาการอีกวาระหน่ึง ทามกลางกลุมพลงัมวลชนสนับสนุนประชาธิปไตย เรงเราเสนอใหรัฐบาลแกไขรัฐธรรมนูญ 4 ประเด็นหลัก ที่มาของความขัดแยง เมื่อวันที ่10 มิถุนายน 2535 ไดแก ประเด็นที่ 1) ประธานสภาผูแทนราษฎร เปนประธานรัฐสภา ประเด็นที่ 2) เปดประชุมสภาสมัยสามัญปละ 2 สมัย ประเด็นที่ 3) ยกเลิกบทเฉพาะกาล ไมใหสิทธิ์แกวุฒิสมาชิก อภิปรายไมไววางใจรัฐมนตรี กับตัดสิทธิ์การพิจารณารางกฎหมายพระราชกําหนด ประเด็นที่ 4) นายกรฐัมนตรตีองมาจากการเลือกต้ัง ตอมารัฐบาลนายอานันท ปนยารชุน กําหนดใหวันที่ 13 กันยายน 2535 เปนวันเลือกตั้งทั่วไป ไดรัฐบาลใหมจัดตั้งขึ้น ประกอบดวย 4 พรรคการเมือง ไดแก พรรคประชาธิปตย พรรคความหวังใหม พรรคพลังธรรม พรรคเอกภาพ และพรรคกิจสังคม มี นายชวน หลีกภัย เปนนายกรัฐมนตรี คนท่ี 20 ของประเทศไทย หนังสืออางอิง - คณะกรรมการญาติวีรชน พฤษภา ’35 : รําลึก 5 ปพฤษภาประชาธรรม การชําระประวัติศาสตรของประชาชน -สารคดี : รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย

Page 15: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 15

ขาวหอพฤษภาฯ ชลวุฒิ

เพื่อนเกาอายแกย้ํา ราชดําเนิน เพือ่ชาติอยาทําเมนิ หลบหนา หลายปเพิง่โทรเชิญ ตามทั่ว ทุมครึง่กําแพงรัว้ ฝงใตรัฐธรรมนูญ ฯ สปอนเซอรแหบเลี้ยง ขาวหอ อายตุมโอเลีย้งหลอ ลื่นลิ้น พบกันเมื่อชาติฝอ จมปลัก เผด็จการ งานจบแผนตอราน ไกโตงรามอินทรา ฯ มึงยงัเชือ่ม่ันย้าํ ยิงฅน -ไมมีทาง ซ้าํอยางตุลาฝน เลอืดลาง โดดงานสักบายหน รวมไล อุบาทวพนไทยไซร วาไดไมเสียหมา ฯ เสียทารถหมดเสน ราชดําเนิน แท็กซี่มอไซคเมิน สายหนา ผมบเสี่ยงพี่เชิญ คันอื่น ดีกวา เสียสั่งนัดเสียหนา กดเขามือถอื ฯ

อายแกถานหมดแลว หรือไง อายแหบเครือ่งเปดไว หายจอย ทางหมดตอใครได เกือกย่ํา กลบัซอย ปากตรอกคนลือรอย เหง่ือยอยเยือกหลัง ฯ เชาหายชื่อเพื่อนคาง รางหาย ขาวหกโอเลี้ยงละลาย หมดสิ้น ใครรูอยูหรือตาย ไรศพ เรื่องจบเพื่อนผองสิ้น กรวดนํ้าทําบุญ ฯ ฅนส่ังฆาสายข้ึน เสนา –ธิการ งานวางกอลฟยาตรา ยางเยื้อง ไทยสูหยัดยิบตา ตายสลด เมืองพุทธหยุดแตกราว อยารื้อฟนฝอย ? พฤษภาขาวหอเชา ตักบาตร มันไกโอเลี้ยงบาด จิตซ้ํา ตายไรศพสุดอนาถ โธเพ่ือน กลืนเฝอนน้ําตาลอ ถาดน้ีกเูปย(pay) ฯ

Page 16: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 16

เรื่องจากปก “ พฤษภารําลึก ” รําลึก 10 ปเหตุการณพฤษภา 2535

“ ระบอบประชาธิปไตยไดมาจากการตอสู...มิใชการรองขอ ” ศ.ดร. สมบัติ ธํารงธัญวงศ คณบดี คณะรัฐประศาสนศาสตร สถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร

“ เหตุการณนี้ทําใหการเมืองไทยเริ่มประวัติศาสตรยุคใหม คือยุคปฏิรูปการเมือง ซึ่งเราไดมาจากเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน “ ปรญิญา เทวานฤมิตรกุล

อดีตเลขาธิการสหพันธนิสิตนักศึกษายุคพฤษภา 35 “ ผูใหญที่มีสวนเกี่ยวของทั้งหมดเหลานี้ ก็อาจจะแคสูญเสีย ตําแหนง ช่ือเสยีง หรือภาพพจนเทานั้น แตประชาชนตองมาเสียชีวิตไปจํานวนมาก พี่ก็ไมรูวามันคุมคากันหรือไม ” ละไม Oelgemöller หน่ึงในผูเขารวมสังเกตการณในเหตุการณพฤษภาวิปโยค 2535

Page 17: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 17

เรื่องจากปก “ พฤษภารําลึก ” รําลึก 10 ปเหตุการณพฤษภา 2535 บทสัมภาษณ ศ.ดร. สมบัติ ธํารงธัญวงศ คณบดี คณะรัฐประศาสนศาสตร สถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร (นิดา) - อดีตเลขาธิการศูนยกลางนิสิตนักศึกษาแหงประเทศไทย ยุค 14 ตุลา 2516 ----------------------------------------------------------- เพื่อนไทย :สวสัดีคะอาจารยขอขอบคณุอาจารยมากนะคะที่วันนี ้ใหเกียรติมาใหสัมภาษณ อ.สมบัติ : สวัสดีครับ ดวยความยินดคีรับ เพื่อนไทย :ขณะที่เกิดเหตุการณ พฤษภาวิปโยค ในป พ.ศ. 2535 นั้น อาจารยดํารงตําแหนงอะไรอยูคะ และอาจารยไดมีบทบาทหรือมีสวนรวม ในเหตุการณดังกลาวหรือไมคะ อ.สมบัติ : ในตอนนั้นผมเปนอาจารยประจําคณะรัฐประศาสนศาสตร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร ไมไดมีสวนรวมในแกนนําของผูเคลื่อนไหว แตมีสวนรวมในฐานะประชาชนทั่วไป และชวงหลังเหตุการณไดสนับสนุนใหนักศึกษาที่คณะนําวิดีทัศนเกี่ยวกับเหตุการณมาเผยแพรใหประชาชนท่ัวไปไดรับชมท่ีหองประชุมจรีะ บุญมาก ปรากฏวามีประชาชนเขาชมจํานวนมาก จนตองเพิ่มเปน 3 รอบ เพื่อนไทย : เหตุการณ “พฤษภาวปิโยค 35” ในมุมมองของอาจารยเปนอยางไร มีความเหมือนหรือแตกตางอยางไรบางเมื่อเทียบกับเหตุการณ “14 ตุลา 2516” อ.สมบัติ : เหตุการณนีเ้ปนพัฒนาการที่ตอเนื่องจากเหตุการณ 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 ผูที่เขารวมเหตุการณพฤษภา 2535 จํานวนมากเปนผูที่เคยรวมในเหตุการณ 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ทุกเหตุการณเปนขบวนการเรียกรองประชาธิปไตย โดยเหตกุารณพฤษภา 2535 เปนการเรียกรองใหนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง ส่ิงท่ีตางกนัคือ เหตุการณ 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 เปนขบวนการที่ริเริ่มและนําโดยนิสิตนักศึกษา โดยมีประชาชนเปนผูสนับสนุน สวนเหตุการณพฤษภา 2535 เปนการนําโดยพรรคการเมือง โดยมีนิสิตนักศึกษา และประชาชนเปนผูสนับสนุน

Page 18: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 18

เพื่อนไทย : นับจากวันน้ันถึงวันน้ี “พฤษภาวปิโยค” มาผานมา 10 ปพอดี ถาเรามองวาเหตุการณครั้งนี้เปนประวัตศิาสตรเรือ่งหน่ึงท่ีเกีย่วของกบัพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตยของเมอืงไทย อาจารยคิดวาบทเรียนที่คนรุนหลัง ทั้งที่มีและไมมีสวนรวมตอเหตุการณนั้นไดรับจากเหตุการณครั้งนี้คืออะไรคะ อ.สมบัติ : เนือ่งจากท้ัง 3 เหตุการณเปนขบวนการที่เกี่ยวของกับการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของไทย และประชาชนที่เขารวมในเหตุการณสวนใหญเปนคนกลุมเดียวกัน จึงกลาวไดวาเปนพัฒนาการท่ีตอ เนื่องที่เกิดจากการเรียนรูในการตอสูเพื่อระบอบประชาธิปไตยของกลุมท่ีกาวหนาทางการเมืองของสังคมไทย เปนการตอกย้าํถึงจติวิญญาณอันหาญกลาของวีรชนประชาธิปไตย ท่ีจะบงชีใ้หเหน็วาในอนาคตหากมีผูใดจะลมลางประชาธิปไตยอีก ก็ไมสามารถจะดํารงอยูไดนาน เพราะพลังตอสูเพื่อประชาธิปไตยไดฝงรากลึกในสังคมไทยแลว สวนบทเรียนสําหรับคนรุนหลังท่ีสําคัญคือ ประการแรก ระบอบประชาธิปไตยไดมาจากการตอสูมิใชการรองขอ ประการที่สอง ความมั่นคงของระบอบประชาธิปไตยขึ้นอยูกับความศรัทธาและหวงแหนของประชาชน ประการสุดทาย เผด็จการคืออํานาจที่ทําใหชาติลาหลัง เพื่อนไทย : เหตุการณรณรงค หรือตอสูเพื่อประชาธิปไตยในแตละครั้ง ท่ีทําใหประเทศไทยเราตองสูญเสียอะไรไปมากมาย ไมวาจะเปนชีวิตของคนหรือทรัพยสิน มีผลตอการพัฒนาประชาธิปไตยในบานเราอยางเปนรูปธรรมอยางไรบางคะ อ.สมบัติ : ผลจากขบวนการตอสูเพื่อประชาธิปไตยอยางตอเน่ือง ทําใหวันน้ีเรามีรัฐธรรมนูญของประชาชนท่ีรางข้ึนโดยปราศจากการครอบงําของเผด็จการ และเปนรัฐธรรมนูญที่เปนกรอบสําคัญในการปฏิรูปการเมืองไทย หากประเทศไทยสามารถดําเนินการตามรัฐธรรมนูญไดอยางตอเนื่อง ผมเชือ่วาภายใน 2 ทศวรรษขางหนา การเมืองไทยและสังคมไทยจะพัฒนาอยางมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะการสรางความเสมอภาคใหกับคนสวนใหญของประเทศ เพื่อนไทย : ในความคิดเห็นของอาจารยแลว หนทางในการตอสูเพื่อประชาธิปไตยอยางสันติ โดยปราศ-จากความรุนแรงและการสูญเสีย เปนอยางไรคะ อ.สมบัติ : การตอสูอยางสันติเปนแนวทางหลักในการตอสูของผูรักประชาธิปไตย แตตองรูเทาทันเลหกลของเผด็จการ มิฉะนั้นจะถูกปราบปรามอยางตอเน่ืองยาวนาน เพื่อนไทย : สุดทายนีอ้าจารยสมบัติ มีอะไรจะเสริมเพิ่มเติมแกผูอาน “เพื่อนไทย” บางหรอืเปลาคะ อ.สมบัติ : ขอใหเพื่อนไทยในเยอรมัน จงมีพลังจิตที่แข็งแกรง และพยายามศึกษาหาความรูมาชวยกันสรางชาติไทย ใหมีความเสมอภาคทัดเทียมอารยประเทศ และเปนพลังสนับสนุนกระบวนการประชาธิป-ไตยของไทยอยางมั่นคงตลอดไปและขอใหตระหนักวา ไมวาทานจะอยูไกลแคไหน เราคือไทยเปนหนึ่งเดียว เพื่อนไทย : ขอขอบคุณอาจารยมากคะ อ.สมบัติ : ดวยความยินดีครับ

Page 19: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 19

เรื่องจากปก “พฤษภารําลึก ” รําลึก 10 ปเหตุการณพฤษภา 2535 บทสัมภาษณ ปรญิญา เทวานฤมิตรกุล อดีตเลขาธิการสหพันธนิสิตนักศึกษายุคพฤษภา 35 เพื่อนไทย : สวัสดีครับพี่เอก อยากใหพี่เอกเลาเรื่องเหตุการณพฤษภา 2535 กอนที่จะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น พี่เอกคิดอยางไรหรือมีอะไรเปนแรงจูงใจใหเขาไปมีสวนรวม ปริญญา : เหตุการณพฤษภา 35 มีที่มาจากการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ 2534 ของคณะผูนํากองทัพในตอนนั้น ผมคิดวาถาพลเอกสุจินดา คราประยูร ทําตามที่ใหสัญญาไวกับประชาชนวา จะจัดใหมีเลอืกต้ังใน 6 เดือน แลวจะกลับเขากรมกอง เหตุการณประทวงเรียกรองประชาธิปไตยก็คงไมเกิดหรอกครับ ตอนนั้นท่ีผมไปเกี่ยวของเพราะผมเปนนักกิจกรรมอยูท่ีธรรม-ศาสตร หลังจากการรัฐประหารไดเดือนหนึ่ง มีการจัดประชุมองคการนักศึกษาทั่วประเทศ เคาก็เลือกใหผมเปนเลขาธิการสหพันธนิสิตนักศึกษาแหงประเทศไทย ตอนน้ันอยูปหา เพื่อนๆ รุนเดียวกันจบหมดแลว เคาเลือกเราก็คงเพราะเราแกกวาเพื่อน (หัวเราะ) ผมก็เลยมีบทที่ตองออกหนามาคัดคานเผด็จการเรียกรองประชาธิปไตย ก็คิดวาเราเปนพลังนักศึกษาถงึแมไมไดเขมแข็งอะไรเหมือนยคุ 14 ตุลาคม 2516 แตก็หวังวาจะถวงดลุไดบาง ไมใหเคาเผด็จการนําบานเมืองถอยหลังมากเกินไป เพื่อนไทย : เสียงอีกฝายหน่ึงพูดวานาจะใหพลเอกสุจินดาไดลองบริหารประเทศดูกอนไมนาดวนคัดดาน ตรงน้ีพีเ่อกคิดอยางไรครบั ปริญญา : ผมคิดวาเราไดปลอยใหเคาจัดการบานเมอืงมาตัง้ปกวาแลว ต้ังแตรฐัประหารจนพล.อ.สุจินดาขึ้นเปนนายกมันเปนเวลาตั้ง 14 เดือน ก็ไมเห็นปรากฏวาบานเมืองจะกาวหนาไปไหน มีแตถอยหลัง รัฐธรรมนูญที่รางใหมไมไดมีความเปนประชาธิปไตยเลย มีการสืบทอดอํานาจชัดเจน การยึดทรัพยนักการเมืองโกงกินก็กลายเปนเครื่องมือในการตั้งพรรคสามัคคีธรรมเพื่อเปนฐานอํานาจใหกับตนเอง กรมกองท่ีวาจะกลับ สุดทายก็ไมกลับ และมีทีทาวาจะสืบทอดอํานาจเผด็จการไปกันใหญ อันนี้ผมคิดวาเปนอันตรายที่จะปลอยใหเคาใชอํานาจตามอําเภอใจตอไป เผด็จการความจรงิเคาก็ไมไดโงนะครับ เคาไมสรางระบอบเผด็จการขึ้นมาในชั่วขามคืนหรอกแตจะคอยเปนคอยไป เหมือนกับการตมปลาเปนๆ นะครับ ถาตมน้ํารอนโยนปลาลงไป ปลาจะกระโดดออกมาจากหมอทันที แตถาใสในน้ําเย็นแลวคอยๆ เพิ่มความรอนเขาไป ปลากวาจะรูตัวก็ไมสามารถกระโดดหนีไดแลว ดูฮิตเลอรสิครับ มาจากการเลือกตั้งแทๆ เลย ใชเวลาแคปเดียวเองในการสรางระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จขึ้นมา กวาประชาชนเยอรมันจะรูตัว ฮิตเลอรก็เขมแข็งจนเกินกวาจะคัดคานไดแลว แตความจริงนักศึกษาในตอนนั้นก็ไมไดคิดวาจะคัดคานกันเอาเปนเอาตายเลยนะครับ เรายงัมองบทบาทตัวเองเปนพลังถวงดุลอยู เปนบทบาทของพลังบริสุทธิ์ที่คอยรองเตือนประชาชนวาน้ํามันรอนแลว

Page 20: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 20

นะ เคาก็จะไมกลาเผด็จการมาก และประเด็นสําคัญคือเรามองประชาธิปไตยวาเปนเรื่องของกระบวนการสรางจิตสํานึก และความตื่นตัวของประชาชน เราเห็นกันวาน่ีเปนโอกาสที่จะใหประชาชนไดเรียนรูประชาธิปไตย และปลุกใหนักศึกษาตื่นตัวทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้ง แตนักศึกษาในตอนนั้นก็ไมไดเปนพลังเคลื่อนไหวหลักเหมือนยุค 14 ตุลาแลว เราจึงไมอาจกาํหนดการเคล่ือนไหวไดอยางท่ีเราตองการ และในที่สุดก็ถูกกดดันใหรวมในการเคลื่อนไหวที่มีเปาหมายคือใหพลเอกสุจินดาลาออกโดยเร็วท่ีสุด ซึ่งหลังเหตุการณเราก็ไดแคนั้นจริงๆ คือไดแคพลเอกสุจินดาลาออกไป ผมคิดวาเราใจรอนกันเกินไป มองเรื่องการเคลื่อนไหวเปนเรื่องของผลแพชนะ แทนที่จะมองใหเปนเรื่องของกระบวนการสรางจิตสํานึก ผลก็คืองานนี้นักศึกษาสวนใหญไมไดตื่นตัวหรือเรียนรูอะไรขึ้นมาเลย คนที่มาประทวงสวนใหญก็เปนคนที่มาประทวงเมื่อเหตุการณ 14 ตุลาและ 6 ตุลา คนที่เปนนักศึกษาในตอนนั้นเขารวมการชุมนุมเปนสัดสวนที่นอยมาก น่ีเปนเรือ่งท่ีนาเสยีดายมาก เพื่อนไทย : ในตอนนั้นพี่เอกไดคิดลวงหนาไวบางหรือเปลาครับ วาอาจจะเกดิความรุนแรงขึน้มาได ปริญญา : ตอนแรกๆ ไมไดคิดวาจะเกิดเหตุการณรุนแรงอะไรหรอกครับ เพราะเราเชื่อกันวาการปราบปรามประชาชนอยางเหตุการณ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 มันเปนเรื่องที่พนสมัยไปนานแลว จิตสํานึกประชาธิปไตยในสังคมไทยเติบโตขึ้นมามากแลว ชวงท่ีประทวงกันตอนแรกๆ แคกระทบกระทั่งกับตํารวจนิดๆหนอยๆ ก็เปนขาวใหญ ผมไฮดปารกที่สนามหลวงแลวถูกตํารวจจับไปโรงพักก็เปนขาวพาดหัวหนาหนึ่งแลวครับ แตพอถึงตอนที่พลเอกสุจินดาเปนนายกฯ สถานการณก็ตึงเครียดขึ้น โดยเฉพาะต้ังแตการชุมนุมที่หนารัฐสภาในวันที่ 6 พฤษภาคม ซึ่งเปนวันที่พลเอกสุจินดาแถลงนโยบาย ตอนนั้นเริ่มเห็นกันแลววามีโอกาสท่ีจะเกิดเหตุการณนองเลือดขึ้นมาได ผมเองมีจุดยืนมาตลอดวา ชีวิตประชาชนมากอน ชัยชนะมาทีหลัง แตความคิดอยางน้ีก็กลายเปนไมสู และในที่สุดแนวทางนี้ก็แพ แตผมเองลึกๆ ก็ยังเชื่อวาไมนาจะมีการปราบปรามอยางรุนแรงถึงขั้นเขนฆากัน และผมก็เชื่อวาคนสวนใหญเชื่อเหมือนผม เพื่อนไทย : คิดวามีแนวทางหลีกเลี่ยงความรุนแรง หรือหนทางเรียกรองตอสูเพื่อประชาธิปไตยอยางสันติหรือไมอยางไรครับ ปริญญา : ความจรงิแลวความรุนแรงในเหตุการณพฤษภาคม 2535 เปนสิ่งที่หลีกเลี่ยงได ชวงกอนเกิดเหตุการณนองเลือด เมื่อผมเห็นคนหลายแสนคนชุมนุมกันที่ทองสนามหลวง ผมขนลุกและเกิดความเชื่อมั่นขึ้นมาทันทีวาประชาชนจะชนะ และจะเปนการชนะเผด็จการโดยไมเสียเลือดเนื้อเปนครั้งแรกดวย นาเสียดายที่เราใจรอนกันเกินไป และหลีกเลี่ยงความรุนแรงกันนอยเกินไป จึงเกิดเหตุการณนาเศราสลดใจท่ีสุดในประวัติศาสตรการเมืองไทยขึ้นมาอีกเหตุการณหนึ่ง ท้ังๆ ที่ความจริงแลวเราปองกันได แลวก็ชนะไดดวย เพียงแตอาจจะชาหนอย ผมอยากจะบอกวาที่เหตุการณนี้ประชาชนชนะไมใชเพราะการชุมนุม แตเพราะมีคนตายตางหาก พลเอกสจุนิดาถึงตองลาออก นี่คือเรื่องที่ไมถูกตอง ผมอยากใหเราเรียนรูจากเหตุการณนี้ ซึง่ผมคิดวาเรายงัเรยีนรูกนันอยมาก ประเด็นสําคัญของผมคือสันติวิธีไมใชแตเพียงมือเปลา แต

Page 21: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 21

สันติวิธีหมายถึงการหลีกเลี่ยงและการรับมือกับความรุนแรงดวย ซึง่เรือ่งน้ียงัเปนเรือ่งท่ีเราเรยีนรูกนันอยมาก สิบปผานไปแลวผมก็หวังวาเราจะไดเรียนรูอะไรกันบาง เพื่อไมใหเหตุการณนองเลือดกลับมาอีก เพื่อนไทย : เหตุการณน้ีมีผลกระทบกับตัวพี่เอกโดยตรงอยางไรบางครับ ปริญญา : ความจริงผมไมอยากจะพูดถึงเรื่องนี้เลย ความรูสึกของผมคือในฐานะที่เปนผูนําการชุมนุมคนหนึ่ง ผมรูสึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณนองเลือดขึ้น แนนอนคนท่ีผิดคือคนที่สั่งยิงประชาชน แตผมคิดวาผูนําการชุมนุมไมอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได ถาตายไปกับเคาดวยก็แลวไป แตเม่ือไมตายก็ตองใชชีวิตใหเกิดประโยชนกับสังคมตามสมควร แทนคนที่เคาตาย เคาหายสาบสูญ หรือเสียแขนเสียขาไปในเหตุ-การณนี้ เพื่อนไทย : ความสําคญัของ “พฤษภาวปิโยค” ที่มีตอประชาธิปไตยของไทยในมุมมองของพี่เอกเปนอยางไร เหตุการณนี้มีผลตอการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยหรือไมครับ ปริญญา : กอนหนาเหตุการณเดือนพฤษภา 2535 เราเขาใจกันแควาประชาธิปไตยคือการเลือกต้ัง เพราะฉะนั้นประชาชนขับไลเผด็จการทีไร อํานาจก็ตกไปเปนของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งทุกที แลวซักพักเผด็จการก็มาใหม วนๆเวียนๆ อยูอยางน้ัน หลังเหตุการณพฤษภาฯ พอบานเมืองกลับไปอยางน้ันอีก คืออํานาจเปนของนักการเมืองที่มาจากการเลือกต้ัง โดยประชาชนไดแตยืนดูอีก ก็เลยเร่ิมเกิดแนวคิดเร่ืองการปฏิรูปการเมืองขึ้นมา คือทาํอยางไร เราถงึจะตรวจสอบควบคุมนักการเมืองท่ีมาจากการเลือกต้ังได และประชาชนมีสวนรวมมากกวาเพียงแคเลือกต้ัง นั่นคือที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับปจจุบันไงครับ ถึงแมตอนนี้จะดูยุงๆอยู แตผมเห็นวาโดยทิศทางใหญๆ เราเดินกนัมาถูกทางแลว คุณทกัษิณเองถึงแมจะดูนาผิดหวังหลายเรื่อง แตผมเห็นวายังไมเลวรายนัก และเรายังพอตรวจสอบได เมื่อมองยอนกลับไปสิบป ถามวาส่ิงเหลาน้ีมาไดอยางไร ผมสรุปวาเราไดมาเพราะเหตุการณพฤษภาฯ เหตุการณนี้ทําใหการเมืองไทยเริ่มประวัติศาสตรยุคใหมคือ ยุคปฏิรูปการเมือง ซึ่งเราไดมาจากเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน เพื่อนไทย : แลวสิ่งที่พี่เอกคิดวา คนรุนหลงัตอๆ ไปที่อาจจะไมมีสวนรวมหรือไมทันเหตุการณนี้พึงรับรูหรือ ”รําลึก” ถึงคืออะไรครับ ปริญญา : เหตุการณพฤษภาปสามหาบัดนี้ผานไปสิบปแลว ผมอยากใหพวกเราตระหนักวาประชาธิป-ไตย กวาจะไดมาเราตองสูญเสียเลือดเนื้อน้ําตาไปมากมาย เราจงึตองรักหวงแหน และชวยกันสรางสรรคประชาธิปไตยใหกาวหนากันตอไป อยาน่ิงดูดาย และอยาฝากความหวังไวที่นักการเมือง ประวติัศาสตรการเมืองไทยไดบอกเราแลววา ประชาธิปไตยไทยพัฒนามาถึงทุกวันนี้ไดดวยประชาชนไมใชนักการเมือง ซึ่งผมมีความหวังเสมอ อยางการท่ีบก.หนังสือเพื่อนไทย กําหนดใหหัวขอเพื่อนไทยเลมน้ีเปนเรื่องรําลึก 10 ปเหตุการณเดือนพฤษภาปสามหา ทั้งๆ ที่ความจริงแลวกอนหนานี้ผมในฐานะนายกสมาคมฯ ผมเสนอหัวขออืน่ดวยซ้าํ นี่เปนเรื่องที่นายินด ีแสดงวาคนรุนใหมก็สนใจเรื่องบานเรื่องเมืองกันพอสมควร ไมไดลืมงาย หรือเฉยเมยเหมือนอยางที่ชอบวาๆ กันเสมอไปหรอกครับ เพื่อนไทย : ขอขอบคุณพีเ่อกมากครับ

Page 22: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 22

เรื่องจากปก “ พฤษภารําลึก ” รําลึก 10 ปเหตุการณพฤษภา 2535 บทสัมภาษณ ละไม Oelgemöller

หน่ึงในผูเขารวมสังเกตการณในเหตุการณพฤษภาวิปโยค 2535 ปจจุบันอาชีพ แมบาน เมือง Stuttgart

เพื่อนไทย : สวัสดีครับ พี่หนอง ละไม : สวัสดีคะ เพื่อนไทย : อยากใหพี่หนองชวยเลาใหฟงถึงเหตุการณที่ไดเขาไปรวมสังเกตกุารณในชวงน้ันครบั ละไม : ตอนนั้นพี่ทํางานเปนพนักงานขายอยูที่รานจิวเวลรี่ แถวสุขุม-วิท เพื่อนๆที่ทํางานสวนใหญ ก็ไปรวมฟงตรงจุดที่มีการชุมนุม โดยมากจะไปกันตอนเลิกงาน แตพี่ไมไดไปกับเพื่อนๆที่ทํางานดวยกันหรอกคะ พอดีมีเพื่อนเปนนักขาวมาชวนไป เพื่อนไปทําขาว เราก็สังเกตการณ ท่ีไปตอนน้ันคือไปแถวๆหนารฐัสภา มีการปราศรัย ชัก

ชวนใหประชาชนตอสูเพื่อประชาธิปไตย เหตุการณคอยขางตงึเครียด แตโดยรวมๆก็เปนการชุมนุมท่ีสงบดี มีตํารวจยืนรักษาการอยูรอบๆ ตอนแรกที่ไปนั้นก็ไมไดไปเพราะอยากเขารวมชุมนุมประทวงอะไรหรอกคะ แตพอไดไปแลวก็อยากไปอีก เพื่อนไทย : อะไรทําใหอยากไปอีกครับ ละไม : คงเพราะอยากรูเร่ืองราวขาวสาร เราทําแตงานก็ไมคอยรูวามีอะไรเกิดขึน้บาง การไปฟงก็เหมือนกับไปรับรูขอมูลขาวสารวามีอะไรเกิดขึ้น ทําไมคนถึงตองมาชุมนุมเพื่อเรียกรองประชาธิปไตย แตก็ปรากฏวาไดไปแควันเดียวก็คือวันที่ตามเพื่อนนักขาวไป หลังจากนั้นก็ไมไดไปอีก เพราะยาไมยอมใหไป แตก็ยังติดตามขาวความเคลื่อนไหวอยูตลอด และหลังจากที่เกิดเหตุการณรุนแรงขึ้น ตอนน้ันก็ยังนึกวา ถาวันน้ันยาไมหาม แลวเราไปรวมชุมนุมดวย ปานนี้เราอาจจะไมไดมีชีวิตรอดกลับมาก็ได นึกถึงเดีย๋วน้ีกย็งัรูสึกกลัวไมหาย หลานที่บานซึ่งในตอนนั้นเขาเปนทหารอยูที่ลพบุร ีซึ่งอยูรวมใหเหตุการณนั้นดวย ก็เลาวา ตัวเขาเองยิงไป เขากร็องไหไป แตกต็องยงิตามคําส่ังจองผูบังคับบัญชา หลังเหตุการณนั้นเขาก็บวชเลย เพราะรูสึกวาตวัเองบาป เพื่อนไทย : ถามองยอนหลังไป 10 ป จนถึงวันนี ้พ่ีหนองคิดอยางไรกับเหตุการณท่ีเกิดข้ึนครบั ละไม : พีคิ่ดวาการสูญเสียชวีติคนต้ังมากมาย มันไมไดคุมคากับสิ่งที่เราไดรับตามมาเลย พี่มองผลลัพธของเหตุการณสลดใจครั้งนี้วา ผูใหญทุกๆฝายนั้นตางก็มีสวนรวมใหเกิดความรุนแรงขึ้นทั้งสิ้น ไมวาจะ

Page 23: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 23

เปนทางฝายรัฐบาล หรอืฝายท่ีตอสูคดัคาน เพื่อประชาธิปไตย การท่ีคนท่ีมีชือ่เสียงเปนท่ีรกัของประชาชน มีคนนับหนาถือตามาเปนผูนําประทวง ก็มีสวนทําใหคนมาชุมนุมกันมากขึ้น หลังเกิดเหตุการณ ผูใหญท่ีมีสวนเกีย่วของท้ังหมดเหลาน้ี ก็อาจจะแตสูญเสีย ตําแหนง ชื่อเสียง หรือภาพพจนเทานั้น แตประชาชนตองมาเสียชีวิตไปจํานวนมาก พี่ก็ไมรูวามันคุมคากันหรือไม และหลังจากนั้นพี่ก็ไมไดอยูที่เมืองไทย ติดตามครอบครัวไปอยูตางประเทศ ไมไดติดตามอีกวาเกิดผลอะไรข้ึนมาบาง จึงไมทราบวาไดผลตามที่เรียกรองกันหรอืไม นอกจากการที่ไดขับไลคนๆหนึ่งออกไป เพื่อนไทย : ขอบคุณพี่หนองมากครับ ที่กรุณามาใหสัมภาษณ ละไม : ยินดีและเต็มใจคะ ภาพกองทหารหอมลอมประชาชนท่ีมาประทวงบริเวณสะพานผานฟาฯ

Page 24: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 24

เรื่องจากปก รําลึกพฤษภา

นาย มกรา มีนา เดือนพฤษภาคมสําหรับประเทศไทยแลว เปนเดือนที่ความชุมฉ่ําเริ่มเขามาเยือน เปนเดือนที่

เริ่มตนแหงฤดูกาลเพาะปลูก เนือ่งดวยเปนชวงตนของฤดูฝน หลายคนโดยเฉพาะเกษตรกรตางรอคอยและจดจอตอคําทํานายจากการเสี่ยงทายของพระโคในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และถือเอาคําทํานายเปนแนวทางในการวางแผนเตรียมการเพาะปลูก และเดือนพฤกษภาคมยังเปนเดือนที่มีความสําคัญตอคนไทยและประเทศไทยซึ่งเปนที่ทราบกันโดยทั่วไปวาเปนเมืองพุทธ นั่นคือมีวันวิสาขบูชา ซ่ึงถือเปนวันสําคัญวันหน่ึงทางพทุธศาสนา โดยปกติแลวผมจะนึกถึงเดือนพฤษภาคมวาเปนเดือนแหงการเริ่มตนของความชุมชื่นและอิ่มบุญ ซึง่นึกไมถึงวา จะมีภาพเหตุการณรุนแรงที่ถือเปนประวัติศาสตรอีกหนาหน่ึงของการเมอืงการปกครองของไทยเกดิข้ึนในเดอืนน้ี และเกิดข้ึนในชวงชีวิตที่ไมอาจลืมได มันจึงเปนเสมือนจุดสี ที่หยดลงบนกระดาษขาวที่ลบไมออกในความคิดคํานึงถึงเดือนพฤษภา เหตุการณดังกลาวคือ เหตุการณสลายและ ปราบปรามการชุมนุมประทวงของประชาชนที่เรียกรองความเปนประชาธิปไตยในเดือนพฤษภาคม ป พ.ศ. 2535 หรือที่รูจักกันดีวา “พฤษภาทมิฬ”

สําหรับความเปนมาของเหตุการณโดยยอนั้น ตองขอทาวความไปที่การกอรัฐประหารของกลุมทหารในนามคณะรักษาความสงบเรียบรอยแหงชาติ (รสช.) ที่ไดทําการยึดอํานาจจากรัฐบาล ซึง่นายกรฐัมนตรีในขณะนั้นคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ในวันท่ี 23 กุมภาพันธ 2534 จําไดวา การกระทําดังกลาวสอดคลองกับกระแสที่ตองการใหมีการเปลี่ยนรัฐบาล เนื่องจากความระอาตอรัฐมนตรีหลายคนที่มีพฤติ-กรรมสอไปในทางทุจริต หลังจากการทํารัฐประหาร สิ่งหนึ่งที่มักเกิดขึ้นตามมาเหมือนการกระทํารัฐ-ประหารในอดีตกอนหนานี ้คือ มีการรางรัฐธรรมนูญขึ้นมาใชใหม และครั้งนี้ก็เชนเดียวกัน ไดมีการรางรัฐ-ธรรมนูญใหม และนํามาใชซึ่งกระทําโดยผานคณะรางรัฐธรรมนูญและสภานิติบัญญัติแหงชาติที่แตงตั้งโดยรสช. รัฐธรรมนูญดังกลาวเปนประเด็นหลักประเด็นหนึ่ง ในการคัดคานการปกครองบานเมืองของรสช. ในเรื่องท่ีมาของรัฐธรรมนูญท่ีขาดความเปนประชาธิปไตย และบทบัญญัติที่เปดชองใหมีการสืบทอดอํานาจ นอกจากน้ันการข้ึนดํารงตําแหนงผูนํารัฐบาลของนายทหารชัน้ผูนําในรสช. ท้ังท่ีประกาศตอสา-ธารณชนกอนหนานั้นวาจะไมรับตําแหนงนายกรัฐมนตร ี และกลับประกาศ “ยอมเสียสัตยเพื่อชาติ” ในเวลาตอมา ถือเปนอกีหน่ึงประเด็นหลักของการคัดคานในครัง้น้ี

จากเริ่มแรกที่เขารวมชุมนุม เพียงเพื่อตองการไปสังเกตการณรับทราบขอมูลใหเห็นกับตา เนื่องจากเกิดความรูสึกคลางแคลงใจและอึดอัดกับสถานการณที่เกิดขึ้นจากการปดกั้น และบิดเบือนขอมูลขาวสารของสื่อมวลชนทั้งทางวิทยุและโทรทัศนภายใตการควบคุมของรัฐบาลและคณะรสช. ผูเขารวม

Page 25: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 25

ชุมนุมหลายคนก็มาในลักษณะเดียวกัน ผมเห็นการแจงเหตุการณของผูเขารวมชุมนุมที่สงตอไปยังบุคคลอื่นๆ โดยผานทางโทรศัพทมือถือ โทรศัพทสาธารณะ รวมทั้งวิทยุติดตามตัว (Pager) หลายคนมารวมชุมนุมหลงัเลกิงาน ยิ่งนานวันยิ่งเห็นการจงใจปกปดและบิดเบือนขาวสารที่เสนอผานสื่อมวลชน การกระทําดังกลาวจึงเปนเสมือนชนวนกอใหเกิดความไมพอใจของประชาชนแผขยายออกไป และทวีจํานวนของผูเขารวมชุมนุมคัดคานมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็อดสงสัยไมไดเหมือนกันวา ขอมูลขาวสารที่ไดรับการถายทอดแบบปากตอปาก ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผูเขารวมชุมนุม และจากบรรดาผูท่ีผลัดกันขึ้นไปปราศรัยบนเวทีมีความเท็จจริงเพียงใด เนื่องจากผมก็ไมสามารถตรวจสอบขอเท็จจริงไดเชนเดียวกัน หนึ่งในบรรดาผูปราศรัยบนเวทีนั้น ผมรูสึกชื่นชมเลขาธิการสหพันธนิสิตนักศึกษาแหงประเทศไทยในขณะนั้น ท่ีมีความอาวุโสท้ังทางดานความคิด บุคลกิลักษณะ (รวมท้ัง ใบหนา) ที่กลาตอตานผูที่มีอํานาจสูงสุดในขณะนั้น และนึกไมถึงวา ปจจุบันจะไดมารูจักกันในฐานะนักเรียนไทยในเยอรมัน มีนักศึกษาปริญญาเอกคนหนึ่งไดใหการวิเคราะหที่นาคิดในขณะนั้นวา การประมาทตอพลังของประชาชนที่รัฐบาลกลาววา ผูชุมนุมที่มาประทวงมีไมถึง 1% ของประชากรทั้งประเทศนั้น เปนการมองท่ีผิดพลาด เน่ืองจากผูเขารวมชุมนุมประทวงสวนใหญเปนชนชัน้กลาง หลายคนเปนที่รูจักกันโดยทั่วไปของคนในสังคม หลาย

คนเปนเจาของธุรกิจที่มั่นคง น่ันคือ รัฐ-บาลกําลังขัดแยงกับกลุมที่ถือวา มีคุณ-ภาพของประเทศ

ภาพท่ียงัติดตรึงอยูในความทรงจาํคือ ภาพที่เห็นตอหนาในคืนวันที ่17 พฤษภา เปนภาพทหารนั่งเรียงแถวหนากระดานบนถนนราชดําเนิน ระดมยิงใสกลุมผูชุมนุมบนถนน และกลุมผูชุมนุมสวนหนึ่งที่พยายามเข็น และขับรถโดยสารประจาํทาง(รถเมล ขสมก.)ที่

ยึดมาได ฝาแนวลวดหนาม และแถวทหาร ภาพผูบาดเจ็บที่ถูกหามเขาสูโรงแรมรัตนโกสินทร ซึง่เปนท่ีตัง้ชั่วคราวของหนวยแพทยพยาบาลอาสา ภาพความชุลมุนของผูชุมนุมท่ีทั้งวิ่ง และหมอบเพื่อหลบลูกกระสุนและเห็นบางคนที่แสดงการทาทายทหารโดยไมกลัวตาย ความรูสึกท่ีเกิดข้ึนของผมในขณะนั้น ระคนกันท้ังหวาดกลวั สงสารผูบาดเจ็บ สลดใจ และเจ็บแคนชิงชังการกระทําที่รุนแรงของทหาร ตลอดจนบุคคลผูอยูเบื้องหลังคําสั่งการสลายการชุมนุมดวยวิธีนี้ ผมคงไมสามารถบรรยายความรูสึกท่ีเกิดข้ึนไดท้ังหมด และคิดวาคงไมตางจากคนไทยที่ไดเห็นภาพดังกลาวที่เผยแพรผานสื่อในภายหลัง

เหตุการณ “พฤษภาทมิฬ” ไดใหบทเรียนราคาแพงแกประเทศไทยที่ตองสูญเสียเลือดเนื้อและนํ้าตาอีกครัง้หน่ึงในการเรียกรองการปกครอง และรัฐธรรมนูญที่มีความเปนประชาธิปไตยซ้ํารอยกับเหตุ-

Page 26: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 26

การณนองเลือด “14 ตุลา 2516” ผมยังจําไดถึงคําพูดของผูเขารวมชุมนุมคนหนึ่งที่พูดกับผม ในการชุมนุมหนามหาวิทยาลัยรามคําแหงวา “การสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการเรียกรองครั้งนี้นั้น เสมือนการคลอดลูกที่ตองเสียเลือด แตในทายท่ีสุดจะนํามาซึง่ความปลาบปล้ืมใจ” ภายหลังท่ีเหตุการณรุนแรงไดผานพนไป ทหารไดรับบทเรียนตอวิกฤติศรัทธาการยอมรับของประชาชน ซึง่สังเกตไดจาก ทหารท่ีแตงเครื่องแบบในเขตกรุงเทพและปริมณฑลถูกตอวาดาทอจากประชาชน จนถึงขนาดที่ทหารไมอยากแตงเครื่องแบบในการเดินทางไปทํางาน พรรคการเมืองท่ีไดใหการสนับสนุนรสช. ไดถูกขนานนามวา “พรรคมาร” ประชา-

ชนไดตืน่ตัว และมีสวนรวม ในการขับเคลื่อน การเมืองการปกครอง ในระบอบประชา-ธิปไตยมากยิ่งขึ้น

ในชวง 10 ปหลังเหตุการณ “พฤษภาทมิฬ” ไดผานพนไป จวบจนถึงปจจ-ุบัน ผมไดเห็นความเคลื่อนไหวทางดานการเมืองการปก-

ครองที่มีแนวโนมในความเปนประชาธิปไตยมากขึ้น มีการปฏิรูปทางการเมืองที่ประชาชนมีสวนรวมในการรางรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 ที่บังคับใชในปจจุบัน ซึ่งถือวาเปนฉบับที่ไดมาดวยสันต ิ แมวาการปกปดขอมูลขาวสาร ความไมโปรงใส การใชอํานาจและความรุนแรงในปจจุบันดูจะลดนอยลงไป แตที่สังเกตเห็นไดชัดเจนยิ่งขึ้นคือ การใชอํานาจทางการเงิน อํานาจทางวิชาการ ความรูและความกาวหนาทางเทคโนโลยี ในการเอารัดเอาเปรียบ ครอบงํา แสวงหาผลประโยชน มีความรุนแรงมากขึ้น

สําหรับผมแลว การนําความรูมาแสวงหาผลประโยชนใสตนเอง เอาเปรียบผูที่ดอยกวา โดยขาดซึ่งคุณธรรม ก็ไมไดตางอะไรกับ “ทรชน”

Page 27: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 27

สิบปพฤษภาปสามหา ปรญิญา เทวานฤมิตรกุล

คืนนั้น เสียงปนสนั่นลั่นผานฟา ลูกไฟแดงยิบยับตาพาขวัญหน ี

ทุกผูคนกมลมหลบซบธรณี หลายชีวีนอนนิ่งไปไมลุกคืน ครานัน้ เลอืดเน้ือนองทองถนน น้ําตาหลนรินไหลพรากยากจะฝน

ถามหาประชาธิปไตยไยกลับคืน ดวยลูกปนกระสุนบาพราวญิญาฯ ยามนั้น ประชาธิปไตยควันไฟหอม อนุสาวรียถูกลอมลวดหนามหนา

ราชดําเนิน ปสามหาเดือนพฤษภาฯ ประชาชนผูหาญกลาลาจากไป ยามนี ้สิบปแลวหวนคืนนั้น คืนครืนครั่นคืนปนลั่นทองถนน

คืนขวัญหายคืนฝนรายของผูคน ประชาชนแลกชีพมาประชาธิปไตย โอ ประชาธิปไตยกวาไดมา กี่ตุลา กี่พฤษภา มาถึงไหน

นักการเมืองยังเลนเมืองอยูร่ําไป ฝากหัวใจหวังอะไรไมไดเลย ประชาธิปไตยอยางไรจะไปตอ อยาทอใจประชาไทยอยาหยุดเฉย

มีสวนรวมติดตามไปอยาหยุดเลย ประชาเอยรวมกาวไปเพื่อไทยทั้งปวง. 17 พฤษภาคม 2545

Page 28: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 28

พระเทพฯ และบททรงสนทนากับนักเรียนเกิททิงเงน นายปริญญา

ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเสด็จมาประทับ ณ เมอืงเกิททิงเงน เพื่อทรง

ศึกษาภาษาเยอรมันที่สถาบันเกอเธ เปนเวลา 4 สัปดาห จึงทรงโปรดใหคนไทยและนักเรียนไทยในเมืองเกทิทิงเงนและเมอืงใกลเคียงเขาเฝาในวันที่ 14 มีนาคม ณ รานอาหารเชียงใหม กอนทรงเสด็จพระราชดําเนินกลับ ทรงรับสั่งถามนายก ส.น.ท.ย. ซึ่งทําหนาท่ีเปนตัวแทนคนไทยและนักเรียนไทยในวันน้ัน พระเทพฯ : อยูมากี่ปแลวเนี่ย? (ประชาชนยิ้ม โดยเฉพาะพวกนกัเรยีน เพราะในบรรดานักเรียนดวยกันตรงนัน้ นายก ส.น.ท.ย. อยูเยอรมันมานานกวาเพื่อน) นายปริญญา : เอออ.. หาปครับ (ท่ีจริงตองพูดพะยะคะ แตลืมสนิท) พระเทพฯ : แลวจะอยูอีกกี่ป (นักเรียนหัวเราะกันครืน มีเสียงแซว ปูๆ) นายปริญญา : ทานทรงถามเหมือนคณบดีผมเลย ..เออ.. (นักเรียนหัวเราะ) อา... อีกสองปมังครับ (ลืมพะยะคะอีกแลว)

Page 29: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 29

เชาวันรุงข้ึนทรงตองอําลาเมอืงเกิททิงเงน เพื่อเสด็จไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่เมืองเวือรซ- บวรก และมึนเชน เชานั้นสถานทูตขอแรงผมกับนองๆ นักเรียนไทยในเมืองเกิททิงเงนสองสามคนไปชวยยกกระเปาพระเทพฯ และคณะผูติดตามขึ้นรถบัส ที่โรงแรมชไวเซอรฮอฟ ที่คณะผูติดตามพักอยู ระหวางผมกําลังยกกระเปาใบโตอยูตรงฟุตบาธ รถตูของสถานทูตที่ไปรับพระเทพฯ ท่ีพลับพลาท่ีประทับ ขับมาจอดขางหนา พระเทพฯ ทรงประทับอยูท่ีน่ังขางคนขับ สะพายเปใบโตดูทะมัดทะแมง ทรงเสด็จลงจากรถและดําเนินมาทักทายพนักงานยกกระเปา พระเทพฯ : (ทรงยิม้) วันนี้อุตสาหมาชวยยกกระเปา นายปริญญา : ขอแรงนองๆ มาชวยดวยครบั (ลืมพะยะคะตามเคย) พระเทพฯ : เปนหัวหนาก็ตองยกกระเปากับเคาดวย นายปริญญา : ดวยความปลาบปลื้มท่ีไดรับใชพระองคทานครับ (ลืมพะยะคะอีกแลว) พระเทพฯ : (หันไปถามนายพจน นักเรียนคนหนึ่ง) จะอยูอีกกี่ป นายพจน : (ดวยความต่ืน เลยฟงคําถามผิด เขาใจวาทรงถามวาอยูมากี่ปแลว) เออ.. อา.. สองปครับ พระเทพฯ : (ทรงหันไปถามนายธรรมนูญ นักเรียนอีกคน) จะอยูอีกกี่ป นายธรรมนูญ : (ต่ืนเตน ทําใหเขาใจผิดเหมือนกับนายพจน นึกวาทรงถามวาอยูมากี่ปแลว) เออ.. อา.. เกือบเกาเดือนแลวครับ พระเทพฯ : (ทรงทําพระพกัตรงงกบัคําตอบ) ? นายพจน : (ถือโอกาสทูลในเรื่องที่อยากทูลตั้งแตเมื่อคืนตอนถายถาพหมูกับพระเทพฯ แตไมมีโอกาส) เออ.. ตอนรับปริญญา ผม.. เออ.. กระหมอม (อยากจะพูดราชาศัพทแตผิด เพราะกระหมอมเปนคําสําหรับผูที่มีเชื้อพระวงศ) รับพระราชทานปริญญาบัตรจาก ฝา พระหัตถพระองคพะยะคะ พระเทพฯ : (ทรงยิม้) นายกบิล (นักเรียนอีกคนหนึ่ง) : พระเทพฯ ครับ พระเทพฯ ครับ (?!) พระเทพฯ : (ทรงหันมา) นายกบิล : วันที ่๒๖ (วันสถาปนาจุฬาลงกรณ) ปนี้พระเทพฯ ไปจุฬาฯ หรือเปลาครับ พระเทพฯ : (ทรงพยักหนา) นายกบิล : ตอนอยูเมืองไทยผม ไปด ูพระเทพฯ ทุกปเลยครับ พระเทพฯ : (ทรงยิม้) นายปริญญา : สองคนนี ้(นายพจนกับนายกบิล) เคาจบจุฬาฯ ครบั (ลืมพะยะคะดังเชนทุกครั้ง) พระเทพฯ : (ทรงหันไปถามนายธรรมนูญอีกครั้ง) แลวจบอะไรมา นายธรรมนูญ : (ต่ืนหนักกวาเกา นึกวาทรงถามวาจบอะไรบางแลวท่ีเยอรมนั) เออ.. อา.. ยังไมจบอะไรซักอยางเลยครับ

Page 30: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 30

พระเทพฯ : (ทรงทําพระพกัตรงงกบัคําตอบยิง่กวาเกา) ??

Page 31: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 30

บทความรับเชิญ เพื่อนไทยฉบับที่สองประจําป 2545 นี้ไดรับเกียรติจากนักเขียนรับเชิญมืออาชีพระดับปรมา-จารยอีกทานหนึ่งของเมืองไทย ใหอนุญาตนําบทความท่ีทานไดเคยเขียนไวใน ”คุยกับประภาส” มาลง ทางกองบรรณาธกิารขอขอบคุณไว ณ ที่นี้ดวยครับ สวนนักเขียนทานนี้จะเปนใคร...คุณ 134 มีคําตอบใหแลวครับ

134 นับตั้งแตป 2529 จนวินาทีนี้ ผมกลาพูดอยางเต็มปากวาผมเปนแฟนของเฉลียงคนหนึ่ง หากจะวากันไป ตองพูดวา ... ผมเปนแฟน “ค ว า ม คิ ด” ของเฉลียงนาจะตรงกวา โดยเฉพาะเพลงที่พลิกผันชีวิตของผมอยาง “ต น ช บ า กั บ ค น ต า บ อ ด” หรืออีกหลากหลายเพลงที่ใชภาษาไดคมเหลือเกิน แตที่คมกวาและแทรกซอนอยูคือ “ความคิด

และมุมมอง” ที่บางครั้งทําเอาแฟนอยางผมถึงกับมึนเหมือนโดนทุบหัวไดบอยๆ ......................................... สิบกวาปที่ผมสงสัยวามีอะไรซุกซอนอยูในสมองของเฉลียงท่ีเขียนเพลงคนน้ี เรียกวาท้ังอานท้ัง

ฟงและตามดูงานของเขา บอกตรงๆอยางไมอาย --อ ย า ก เ ป น อ ย า ง เ ข า-- ในที่สุดผมก็ไดรูจักตัวตนของคนที่ทุบหัวผมมากขึ้นเมื่อเราไดพูดคุยกันผานทางตัวหนังสือหนา

จอคอมพิวเตอร และก็มีบางครั้งที่เลยเถิดออกมานอกจอกันบาง ....................................... ก็แคผูชายธรรมดาคนหนึ่งเทานั้น ผูชายที่ใชภาษาไทยไดสวยหมดจด ผูชายที่มากและมั่นดวยความฝน ผูชายที่มองโลกดวยการมองที่เอียงๆแตงดงาม ผูชายที่เฝามองและสอนสั่งเด็กนอยสารภีใหเติบโตดวยความเอ็นด ู...................................... แมวาตอนน้ีเด็กนอยสารภีคนหน่ึงของเขาเติบโต และพอจะม“ีแรง”ดูแลสังคมของเราไดบาง

แลว แตสารภีหนุมคนนี้ยังเต็มใจและยินดีที่จะโดนทุบหัวอยูเสมอ ...................................... ...................................... ผูชายที่ทุบหัวผม . . . ป ร ะ ภ า ส ช ล ศ ร า น น ท

Page 32: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 31

หกวานร

ประภาส ชลศรานนท

วันนี้ผมจะเลาใหฟงถึงหองๆ หนึ่งครับ หองนี้ถูกสรางขึ้นมาโดยมนุษยกลุมหนึ่งที่ตองการหาคําตอบของพฤติกรรมอยางหนึ่งของ "สัตวสังคม" บอกกอนเลยก็ไดครับวาเรื่องนี้เปนเรื่องจริง

ลักษณะของหองที่วาน้ีเปนหองโลงๆ ที่มีความสูงกวาหองทั่วไปสักสองเทา ทั่วทั้งหองตบแตงใหดูคลายปาโปรงๆ สามารถมองเห็นทุกสวนของหองไดไมวาจะอยูมุมไหน ท่ีสําคัญคนท่ีสรางหองน้ีข้ึนมาสามารถมองมาจากนอกหองก็เห็นทุกสวนของหองได ตามมุมหองมีหินกอนเทาลูกแตงโมวางประดับอยูประปราย นอกจากสิ่งประดับอยางที่เห็นดวยตาเหลานี้แลว หองนี้ยังมีทอโลหะเล็กๆ โผลออกมาจากเพดานและผนังเต็มไปหมด กลางหองมีบันไดอยางท่ีเขาเรียกกันวาบันไดลิงต้ังอยู บันไดนี้ตั้งตรงสูงขึ้นไปถึงเพดาน ตามตอไปเรือ่ยๆ นะครบั บันไดอันนี้แหละครับคือพระเอกของเรื่องนี้

แลวมนุษยผูสรางหองก็ไปหาลิงมาหกตัว พวกเขาพาพวกมันเขาไปอยูในหองที่วาน้ี ลิงหกตัวน้ันมาจากตางท่ีตางครอบครัวกนั แรกๆ ก็รองเจี๊ยกจากโวยวายตามประสาลิง พอเริ่มปรับตัวได ลิงทั้งหกก็เริ่มผูกมิตรกัน บางตัวก็สนิทกันเปนพเิศษ และมีบางเหมือนกันในบางคูที่ดูก็ออกวาไมชอบขี้หนากัน แตลิงท้ังหกตัวกอ็ยูดวยกันอยางสันติ อาจเปนเพราะอาหารที่มนุษยผูสรางหองนําเขามาแจกจายน้ันไมขาดตกบกพรองอะไร

อยูมาวันหน่ึงฝาเพดานตรงที่บันไดพาดถึงก็ถูกเปดออก กลวยหอมสุกเหลืองอรามหวีหน่ึงถูกหยอนลงมาจากเพดาน และก็แขวนเทงเตงไวที่ยอดสุดของบันได จากน้ันฝาเพดานก็ปดลงมา

เดาออกใชไหมครับวาเกิดอะไรขึ้น ลองใหลิงอยูกับกลวยกันตามลําพังอยางน้ี และยิ่งเวลานั้นเปนเวลาของมื้ออาหารพอดีเสียดวย ใชครับ... ลิงท้ังหกพุงตัวไปท่ีบันไดกลางหองทันที

เกิดอะไรขึ้นตอจากนั้นหรือครับ ทานผูอานบางทานคงตัง้คําถามไวในใจแลววา มนุษยผูสรางหองของลิงทั้งหกนี้คงตองทํากลไกอะไรบางอยางไวใหในหองบางเปนแน

ทันทีท่ีลิงตัวแรกเขาไปถึงบันไดและมือของมันสัมผัสบันได ปลายทอโลหะที่มีอยูเต็มไปหมดบนผนังและเพดานหองก็พนฉีดน้ําเย็นจัดออกมาอยางแรง

Page 33: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 32

น้ํานั้นเย็นเฉียบอุณหภูมิใกลๆ นํ้าแข็งเลยครับ และก็พนออกมาดวยแรงดันคอนขางสูง ลิงทั้งหกแตกกระจายไปหลบตามมุมหองทันที เพราะดูเหมือนวาผูสรางหองนี้ขึ้นมาจงใจจะใหตรงบริเวณที่บันไดต้ังอยูมีทอน้ํามากกวาที่อื่นเปนพิเศษ ลิงกับน้ํานี่ไมคอยถูกกันอยูแลว บางตวัรองล่ันดวยความตกใจ บางตัวแอบนั่งตัวสั่นอยูหลังกอนหิน

ถึงตอนนี้หองทั้งหองก็เปยกไปหมดแลว หนําซ้ําความหนาวเย็นก็เริ่มแผไปทั่วทั้งหองดวยฝมือการลดอุณหภูมิของมนุษยผูสรางหอง เหมือนเปนสัญญาณอะไรบางอยาง เมือ่ลิงทัง้หกอยูหางจากบันไดไดสักพัก ทอน้ําก็หยุดฉีดน้ํา ปุมที่ควบคุมอุณหภูมิหองถูกมนุษยปรับเขาที่เดิม

ลิงตัวท่ีโตท่ีสุดยังคงจองมองกลวยหวีน้ัน และดวยความอยากได มันคลานเขาไปหาบันไดอีกครัง้ หลังจากเดินวนรอบบันไดอยูสองสามรอบ มันก็ทําทาจะปนบันได ลิงอกีหาตวัคอยๆ คลานเขามาสมทบ ไมรูจะดวยกลวัถูกลงิตัวอืน่ๆ แยงกลวยหรือดวยความหิว เพราะถึงมื้ออาหารแลว เจาลิงตัวโตตัวน้ันรีบปนบันไดขึ้นไปทันที

และก็ในทันทีเชนเดียวกัน น้ําเย็นเฉียบถูกฉีดออกมาอยางแรงไมแพครั้งแรก เจาลิงตวัโตนั้นโดนเขาเต็มๆ หนาจนแทบจะตกจากบันได

หองท้ังหองหนาวและเปยกยิง่กวาเดิม อาหารประจํามื้อถูกนําเขามาใหแลว พวกมันคลานเขามากินอยางมูมมามดวยความหิวและหนาวสั่น

เวลาผานไปอีกราวสัปดาห กลวยถูกเปลี่ยนหวีใหม เพราะหวีเกานั้นงอมจนเปลือกดําไปหมด มนุษยผูสรางหองน้ีขึ้นมาบันทึกไววา หนึ่งสัปดาหท่ีผานมาทอน้ําไดฉีดออกมาทั้งสิ้นหาครั้ง สองครั้งแรกฉีดออกมาตอนที่กลวยเพิ่งนํามาแขวนใหมๆ ครั้งที่สามฉีดออกมาตอนกลางคืนของคืนน้ัน เพราะเจาลิงตัวโตพยายามจะลองปนบันไดไปเอากลวยอีก ในครั้งที่สี่ทอฉีดน้ําออกมาในบายของอีกวันหนึ่ง มันเปนเวลาอาหารมื้อหนึ่งที่ผูใหอาหารนําอาหารมาสงชาไปหนอย ลิงตัวหน่ึงทนหิวไมไหวจึงจะปนบันไดขึ้นไป และไมทันถึงขั้นที่สองดีหองทั้งหองก็เปยกชุมไปหมด สวนในครั้งที่หาท่ีทอน้ําฉีดออกมา คราวน้ีไมไดมีลิงตัวใดปนบันไดขึ้นไปเอากลวยแตอยางใด มีเพียงแคลิงสองตัวเลนปล้ํากันและตัวหน่ึงกล้ิงไปถูกเสาบันไดเทาน้ัน แตถึงแคนั้นน้ําเย็นจัดก็ถูกฉีดออกมาเชนกัน

เวลาผานไปอีกราวเดือนหน่ึง กลวยถูกเปลี่ยนไปแลวเจ็ดหวี แตบันทึกของมนุษยผูสรางหองกลนี้ ยังคงบันทึกไววาทอน้ําเย็นทํางานไปเพียงหาครั้งเทาเดิม ในบันทึกนั้นยังเขียนเพิ่มเติมไวดวยวา หนึ่งเดือนท่ีผานมาน้ี ไมมีลิงตัวไหนยางกรายเขาไปใกลบันไดเลย

กลางเดือนที่สอง ทอน้าํถูกฉดีอีกครัง้ เพราะลิงตัวเล็กตัวหนึ่งพยายามจะปนบันไดอีก และหลังจากน้ําหยุดฉีดลง ลิงอกีหาตวัก็เริม่คํารามใสลิงตัวเล็กตวัน้ัน

Page 34: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 33

ขึ้นเดือนที่สาม มนุษยนําลิงตัวเล็กออกมา และก็นําลิงตัวใหมเขาไปในหอง และไมทันถึงสิบนาทีดีกลิ่นกลวยหอมก็เริ่มกอคดี ลิงตัวใหมคลานไปที่บันไดอยางไมรูอีโหนอีเหน สายตามองกลวยดวยความอยากกินสุดขีด และแนนอนทันทีที่เขามาใกลบันได ลิงหาตัวท่ีอยูมากอนกพ็ุงตัวเขามาขวางไว พรอมกับแยกเขี้ยวอยางดุราย น้ําเย็นยังไมถูกฉีดออกมา ลิงตัวใหมหลบไปนั่งอยูขางกอนหินอยางหวาดกลัว

หลังอาหารมื้อนั้น ลิงตัวใหมคลานเขาไปนั่งดูหวีกลวยที่แขวนบนบันไดอีกครั้ง คราวน้ีมันเขาไปใกลกวาเดิม

หอมยวนใจอะไรอยางนี้ ผมวามันคงคิด ดวยความที่มันเขามาใกลบันไดเกินไป ลิงตัวโตจึงพุงเขามาเปนตัวแรก และก็งับแขนของลิงตัว

ใหมดวยความโกรธ ลิงตัวเกาอีกสี่ตัวไมรอชาครับ รีบเขามาสมทบและมหกรรมหมาหมูในสังคมลิงก็อุบัติขึ้น ถึงจะมีแผลไมมากนัก แตลิงผูมาใหมก็ถูกโจมตีอยางนี้ถึงสามสี่ครั้งท่ีเผลอเขาไปใกลบันได และจากนั้นเปนตนมา ลิงใหมก็ไมกลาเฉียดกายเขาไปใกลบันไดอีกเลย

เวลาผานไปอีกสี่เดือน ทอนํ้าก็ยังไมถูกสัง่ใหทํางานอีกเลยแมกลวยจะถูกเปล่ียนไปไมรูก่ีสิบหวีแลว และถึงตอนนี้ลิงตัวเกาไดถูกเปลี่ยนออกไปแลว 3 ตัว เทากับวาในหองตอนนี้มีลิงตัวเกาท่ีเคยเจอปรากฏการณหนาวสะทานโลกเพียง 3 ตัว และลิงตัวใหมท่ีไมเคยเจอเหตุการณนั้น 3 ตัว รวมทั้งหมดเปน 6 วานรดังเดิม

เดือนท่ีหา ลิงตัวใหมตัวที่สี่กําลังถูกนําเขามา ลิงตัวเกาตัวหน่ึงกําลงัจะออกไป ไมนาเชื่อนะครบัวาบนัไดธรรมดาอันน้ันไดกลายเปนบันไดอาญาสิทธ์ิท่ีแตะตองไมไดไปเสียแลวสําหรับหมูวานร และก็เชนเดิมทุกครั้งที่ลิงตัวใหมจะถูกรุมกัดทันทีที่ยางกรายเขาไปใกลบันได แตท่ีนาแปลกใจอยางท่ีสุดก็คือ ลิงกลุมใหมสามตัวที่เขามาทีหลังนั้นแมจะไมรูวาเหตุผลของการปกปองบันไดคืออะไรก็ตาม แตพวกมันกลับแสดงอาการขมขูผูเขาใกลบันไดอยางดุรายกาวราวกวาลิงตัวเกาที่เคยอยูมากอนเสียอีก

และเมื่อบันทึกของมนุษยผูสรางหองกลน้ีบันทึกถึงตอนท่ีลิงตัวเกาถูกเปลี่ยนออกไปจนหมด ทําใหหองทดลองนี้มีลิงทั้งหกตัวเปนลิงตัวใหมท้ังหมด บันไดก็ยังเปนสิ่งตองหามของพวกมัน

กลวยยังคงถูกเปลี่ยนใหสดใหมอยูเสมอ และบันไดก็ยังคงไมถูกสัมผัสโดยลิงเลยแมแตตัวเดียวมาเปนเวลาเกือบปแลว

ลิงรุนใหมยังคงถกูเปล่ียนเขาไปอกีหลายรุน และเมื่อใดก็ตามที่ลิงตัวใหมที่เพิ่งเขามาพาตัวเองเขาไปใกลบันได ไมวาจะดวยจุดหมายใดกต็าม การขูคํารามก็จะเกิดขึ้น และถาผูมาใหมไมเชื่อฟง การโจมตีอยางรุนแรงก็จะตามมา

Page 35: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 34

การทดลองของนักวิทยาศาสตรเรื่องนี้บอกอะไรเราบาง นักวิชาการหลายคนพูดถึง CORPORATE CULTURE ซึ่งมีคนแปลไววา วัฒนธรรมองคกร

แปลไทยเปนไทยอีกทีก็คือ ธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกสั่งสมกันมาจากพนักงานรุนกอนๆ และเมื่อพนักงานใหมๆ ท่ีเขามาก็จะปฏิบัติตามโดยไมรูที่มาของเหตุผล เปนธรรมเนียมท่ีไมมีลายลักษณอักษรบงบอกไว ไมมีในกฎระเบียบขอใดขององคกรเลย

นักประวัติศาสตรบางคนฟงเรือ่งการทดลองน้ีแลว นึกไปถงึในครัง้อดีตท่ีมีการส่ังประหารชีวิตผูที่ประกาศทฤษฎีอะไรก็ตามที่ขัดตอหลักศาสนาของตัวเอง

นักศึกษาอีกหลายคนนึกถึงระบบรุนโซตัสของรุนพี่รุนนองที่มีอยูในมหาวิทยาลัย นองผูหญิงของผมคนหนึ่งที่ผมเลาเรื่องการทดลองนี้ใหฟง เธอทําหนาแหยๆ แลวก็พูดวา

มนุษยเรานี่ใจรายชอบทรมานสัตว

ผมคิดเอาวาที่นักวิทยาศาสตรใชลิงเปนสัตวทดลองครั้งนี ้ก็เพราะลิงเปนสัตวที่ฉลาดใกลเคียงกับมนุษย และที่สําคัญลิงเปนสัตวสังคมเหมือนมนุษย ถาเราลองเปลี่ยนสัตวในการทดลองนี้ไปเปนสัตวท่ีตางตัวตางอยูไมไดอยูกันเปนสังคมอยางเสือหรือนกบางประเภท ผลที่ไดอาจออกมาเปนอีกอยางหนึ่ง เชน ไมวาอีกตัวหน่ึงจะพยายามปนบันไดเทาไรก็ตาม ตัวอืน่ๆ ก็อาจจะไมสนใจอะไร ไดแตนอนหลบนํ้าเย็นท่ีฉีดออกมาไปเรื่อยๆ การทดลองเรือ่งลิงหกตัวยงัไมจบแคน้ันครบั

หลังจากที่มนุษยทําใหบันไดตัวนั้นกลายเปนบันไดอาญาสิทธ์ิไปแลว การแขวนกลวยก็ถูกยกเลิกไป แตลิงทั้งหกตัวก็ยังไมมีตัวไหนกลาที่จะเขาไปใกลบันได

คงตองรอสักวันหนึ่งท่ีบังเอิญมีลิงตัวไหนพลาดไปถูกบันไดเขา แลวก็มนุษยก็บังเอิญลืมเปดนํ้าฉีดลงมา ความคิดกบฏตอความเชือ่เกาๆ ก็อาจจะบังเกดิข้ึน

หรือวาโลกเรานี้ก็คือหองๆ หนึ่งท่ีถูกใครก็ไมรูสรางขึ้นมา สรางเสร็จแลวก็สรางความเชื่อตามมาใหดวย และก็มีความเชื่อมากมายหลายอยางที่เปนความเชื่อท่ีไมไดตั้งอยูบนเหตุผล เปนความเชื่อประเภทเดียวกับความเชื่อที่วาถาใครไปถูกบันไดแลวจะมีน้ําฉีดออกมานั่นแหละครับ

มันอยูที่วาจะมีลิงตัวไหนกลาปนบันไดไปเอากลวยที่แขวนอยู เพราะถามันไมใชเหตุผลจริงๆ มันตองมีสักวันหน่ึงหรอกนา ที่ไอเจาคนที่สรางหองนี้ขึ้นมามัน

ลืมเปดทอนํ้าบาง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Page 36: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 35

เมือง สถาปตยกรรม มนุษย สองแคว

เมื่อฤดูใบไมผลิมาถึง เจาขนนกนอยไดตัดสินใจอําลาจากเพื่อนๆของมันเพื่อออกเดินทาง คนหาความหมายของตัวมันเอง " เสรีภาพ " สิ่งที่มนุษยไขวควาหากันนักหนา บางอุปมาวาเปรียบดังการ ลองลอยของขนนก เสรีภาพ....มันคืออะไรกันแนนะ

เจาขนนกออกเดินทางไปพรอมกับสายลม มันลองลอยไป ณ ท่ีใดใด ตามแตสายลมจะนําพา มันเดินทางผานทุงดอกRapsสีเหลืองอราม และกลาวคําทักทาย เหลาดอกไมโบกมือทักทายโบกไสวอยาง ออนโยน มันลอยไปไกลแสนไกลเหมือนอยางที่มันเคยติดตามไปกับนก แตครั้งนี้ความรูสึกชาง แตกตาง และแลว สายลมก็พาเจาขนนกมาหยุดพัก ณ เมอืงเล็กๆเมอืงหน่ึง เจาขนนกพักผอนอยูใตตนไมใหญ "สวัสดี...." ตนไมใหญกลาวทักทาย "สวัสดีครับ ผมชื่อขนนกครับ" "เจาคงจะออกตามหาความหมายของเสรีภาพเหมือนอยางที่ พี่ๆของเจา ตามหาละสิทา" ตนไมถามและยิ้มใหอยางออนโยนพรอมยิ้มใหกับสายลมอยางรูเทาทัน "ครับลุง แลวไอเจาเสรีภาพนี่ มันเปนยงัไงหรือครบั" ขนนกถามตนไมใหญดวยแววตากระตือรือรน "ลุงคงตอบเจาไมได แตลุงมีเรื่องจะเลาใหเจาฟงเรื่องหนึ่ง" แลวตนไมใหญก็เริ่มตน “ เจาเห็นบานเหลานี้มั้ย มันถูกเรียกวา Meisterhäuse สรางมาแลวกวา 80ป โดยมนุษยกลุมหน่ึง ท่ีมีแนวคิด ที่เรียกวา modernism เพื่อใชเปนบานพักของพวกเขา Gropius เปนคนท่ีลุงคุนเคยดวย มากที่สุด แตนาเสียดายที่บานของเคาไดถูกดัดแปลงจนไมเหลือสภาพเดิมซะแลว Gropius เดินทางมา จาก Weimar เคาเปนผูกอตั้งโรงเรียนสถาปตยกรรมท่ีนี่ขึ้น ใหชื่อ Bauhaus อา....ลุงลืมบอกไปวาเจา กําลังอยูในเมือง Dessau เมืองเล็กๆในฝงเยอรมันตะวันออก Bauhaus เปนโรงเรียนสถาปตยกรรมในรูปแบบใหมที่ทําลาย แนวคิด เดิมๆลง อยางส้ินเชงิ Bauhaus ไดปฏิเสธความงามตาม กฏเกณฑแบบดั้งเดิม อันเต็มไปดวยการประดับประดา และเสนอรูป แบบความงามใน แบบใหมอันเกิดจากตัวเนื้อแทของสถาปตยกรรม อันมีผลสืบเน่ือง เปนอยางมากถึง Modern Architecture และ Post-Modern Architecture ในปจจุบัน บานท่ีเจาเห็น และอาคารเรียนของ Bauhaus น้ีเปนตวัอยางของแนวคดิน้ีไดอยางดี ลุงคิดของลุงเองวาส่ิงท่ี Gropius มีนั้น เรานาจะเรียกไดวาเสรีภาพเชนกัน "เสรีภาพทางความคิด" ยังไงละ ไอเจาเสรีภาพทาง ความคิดน่ีแหละท่ี ทําให Gropius สามารถหลุดพนจากแนวคิดเดิมๆและนําพาโลกแหงสถาปตยกรรมสูมิต ิ ใหมท่ีเราเรียกวา modernismในรูปแบบการผสมผสานระหวาง art and craft นี่ไงละ สถาปตยกรรม ที่

Page 37: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 36

ประกอบดวย ความเลื่อนไหลเปนอิสระของที่วาง ปราศจากซึง่กฎเกณฑอันวาดวยความงามท่ีตายตัว ใดใด แตกด็วยเจา เสรีภาพที่มีอยูอยางทวมทนในตัว Gropius นี่ละที่ไดกอใหเกิดความ เปลี่ยนแปลง โดยสิ้นเชิงตอความหมาย ของเสรีภาพใน Modern Architectur หลังจากนั้นไมกี่ป

เรื่องมันมีอยูวา หลังจากทีG่ropiusไดกอต้ัง Bauhaus และทําหนาที่เปน director ไดพักหน่ึง เสรีภาพในตัว Gropius ก็ไดเรียกรอง ใหเคาละหนาที่ของการเปน director กลับไปสูการเปนสถาปนิกอิสระ อีกครั้ง ซึ่งเปนชวงเวลา เดียวกันกับท่ี ลัทธิสังคมนิยมเริ่มเขามาม ี บทบาทในประเทศเยอรมันนี Bauhaus ไดถูกแปลความในรูปแบบ ใหมที่ตอบรับกับลัทธิสังคมนิยมน้ี โดยใชสื่อถึงความหมายของ ความแตกตาง ระหวางความฟุมเฟอยของ สถาปตยกรรมแบบดั้งเดิม กับการตอบสนองตอความจําเปนของชีวิต ในรูปแบบของ สถาปตยกรรมสมัยใหม ดวยเหตุน้ี Modern Architecture จึงไมเหลือความหมายของ เสรีภาพ อยูอีกตอไป เมื่อมันกลายเปนเครื่องมือ ของลัทธิสังคมนิยม “

เจาขนนกยังคงงุนงงกบัเรือ่งราวท่ีตนไมใหญเลาใหมันฟง เสรีภาพเปนยังไงกันแน ทําไมสิ่งซึ่ง เกิดจาก เสรีภาพ กลับแปรเปลี่ยนเปนสิ่งตรงกันขามไปไดดวยความหมายที่ถูกกําหนดขึ้นใหมโดยมนุษย เพยีงเทาน้ันเองหรือ ยังไมทันที่เจาขนนกจะถามอะไร สายลมก็ไดกลาวคําอําลากับตนไมใหญและ ออกเดินทางตอไป เจาขนนกลองลอยไปไกลแสนไกลอีกครั้ง คราวนี้มันลอยเขาไปในเมืองใหญผูคน ขวักไขวบนทองถนน สายลมกระซิบบอกขนนกวา " ที่นี่คือมหานครเบอรลิน ที่ที่เจาจะไดเรียนรู ความหมายของ เสรีภาพไดดียิง่ข้ึน จงตามเด็กนอยคนนั้นไปเถอะ แลวเจาจะไดเรียนรูจักเสรีภาพในอีก มิติหนึ่ง " วาแลว สายลมก็ปลอยใหขนนกทิ้งตัวลงนอนนิ่งอยูบนเปสะพายหลังของเด็กนอย เจาขนนก ไดติดตามเด็กนอย เขาไป ในอาคาร มันคิดในใจ "เอ...ที่นี่มันคือที่ไหนกันนะ" "สวัสดี.." เสียงทักทายเจือดวยความหดหูเศราสรอยดงัขึ้นขางๆขนนก "เธอคือใครนะ" เจาขนนกแปลกใจในท่ีมาของเสียง "ฉันคือที่วาง ที่วางท่ีอยูรอบๆตัวเธอไงละ" "อา....ท่ีวาง.... ฉันสัมผัสเธอไดแลวละ สวัสดี คือวาฉันกําลัง ตามหาความหมายของเสรีภาพอยูนะ เธอพอจะรูจักมันบางมั้ย" "เธอไมตองการคําอธิบายหรอกขนนก ลองสัมผัสมันดูส ิใชความรูสึก ของเธอนะแหละ สัมผัสมันจากตัวฉันนี่แหละ"

เจาขนนกสงบนิ่งซักพัก และแลวมันก็เริ่มรูสึกถึงอะไรบางอยาง ท่ีวางถกูลอมรอบไปดวยผนังทึบตัน มีแสงสองลอดเขามาเพียงเล็กนอย เกิดเปนลําแสงพาดมาบนผนังและพื้น ผนังท่ีลอมที่วางไวนั้น

Page 38: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 37

ชางสูงชะลูดและคอยๆตีบเขาหากัน “โอ... ทําไมมันจึงรูสึกหดหูเศราสรอยเชนนี”้ ตอนนี้มันเขาใจแลววาทําไมเสียง ของท่ีวางจงึเจอืไปดวยความหดหูเชนน้ี "ฉันเขาใจแลวละวาเธอตองการใหฉันสัมผัสถึงอะไร วาแตวาท่ีนี่มันคือที่ไหนกันหรือที่วาง ทําไมฉันจึงรูสึกหดหูเชนนี้" " ที่นี่ถูกสรางขึ้นเพื่อเปนพิพิธภัณฑชาวยิวนะ สิ่งที่เธอสัมผัสก็คือสิ่งที่สถาปนิกเคาส่ือถึงเธอยงัไงละ มันคือความรูสึกของ ชาวยวิท่ีเกิดข้ึนจากการกระทําอนัโหดรายของมนุษย ดวยกันเองไงละ การถูก กักกัน การถูกริดรอนเสรีภาพ ความผิดพลาดครัง้ ยิง่ใหญของมวลมนุษยชาติ ที่ดูเหมือนจะเกิดข้ึนซ้ําแลวซ้ําเลาไมมีวันจบสิ้น " เจาขนนกนิ่งสงบดวย ความหดหู "ตามเด็กนอยคนนี้ไปเถอะแลวเธอจะเขาใจอะไรๆมากขึ้น"

ขนนกกลาวคําอําลาใหกับท่ีวางดวยน้าํเสยีงหดหู แลวเดินทางออกสูภายนอกอาคารพรอมกัน กับเด็กชาย ส่ิงท่ีปรากฏอยูตรงหนาของขนนกทันท่ีท่ีมันออกมาสูภายนอกอกีครัง้คือกลุมเสามากมาย เด็กชายว่ิงวนไป มารอบๆ ขนนกรูสึกสับสนมาก...“นี่มันอะไรกันนี.่....” ทันใดนั้นเด็กชายก็เดินออกมา จากกลุมเสาและเริ่มเดินไปรอบๆกลุมเสานั้น ทันใดนั้นขนนกก็รูสึกไดถึงความมีทิศทางและความหวัง ที่จะพบทางออกจากความสับสนที่มันรูสึกเมื่ออยูทามกลางกลุมเสา แตแลวในท่ีสุดมันกลับพบวา ทางท่ีมันคิดวา กําลังพามันไปสูทางออกนั้นกลับมีกําแพงอันสูงชะลูดมากั้นอยู...... มันพบกับทางตัน!!!! เด็กชายหันหลังกลับแลว วิ่งไปรอบๆ อีกครัง้ "โอ.....ชาวยิวที่นาสงสาร" ขนนกรําพึงกับตัวเองดวย ความสลดใจ สายลมโชยมารบัเจาขนนกเพือ่ออกเดินทางตอไป ขนนกกลาวถามกับสายลม " เรากําลังจะไปที่ไหนกันตอหรือ ฉันไมคิดวาฉันจะหาเสรีภาพเจอหรอกสายลม มันคงเปนแคความฝนของ มนุษยเทานั้นแหละ " สายลมไมตอบอะไรจนกระท่ังไปถึงท่ีแหงหน่ึง สายลมกลาวกับขนนกอีกครั้ง หลังจากเงียบ ไปพักใหญ " สวัสดีกับชาลีหนอยสิขนนก " " สวัสดี..ชาลี " เจาขนนกกลาวทักทายแลวถามตอ "เธอเปนใครหรือชาลี" " ฉันคือผูปกปองเสรีภาพใหกับมวลมนุษยชาติยังไงละ เธอรูจักอเมริกันชนมั้ยละ เราคือตัวแทนของ เสรีภาพนะ " เจาขนนกยังไมแนใจนักกับความหมายของไอเจาเสรีภาพนี้ มันจึงถามชาลีวา "แลวเสรีภาพทําไมถงึตองไดรบัการปกปองดวยละ แลวเธอปกปองมันยังไงนะ ดวยไอเจาปนที่อยูในมือ เธอนี่นะหรือ" ไมมีคําตอบใดใดจากชาล ีมีเพียงเสียงใครบางคนแววมากระซิบ บอกเจา ขนนกวา " เจาขนนกนอย เจาไมอาจเรยีนรูถงึเสรีภาพจากการเดินทางออกแสวงหาและตัง้คําถามจากผูคนท้ังหลาย หรอก เสรีภาพมันอยูใกลนิดเดียว มันอยูในจิตวิญญาณของเจานั่นแหละ จงเรียนรูมันจากจิตวิญญาณ และเมื่อนั้นเสรีภาพจะเบงบานในใจเจาอยางแทจริง " " The wall will still exist in 50 and even in 100 years if the reasons for it still persist " Erich Honnecker - from Haus am Checkpoint Charlie

Page 39: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพือ่นไทย 38

คลินิกหมอขางบาน หมอกุก

ตอน "หนาบวม" ตลอดเดือนที่ผานมา หมอกุกก็คิดแลวคิดอีกวา จะหาเรือ่งอะไรมาคุยกับผูอานด ีก็นึกไมออกสักที จนกระทั่งมีอยูวันหนึ่งไปงานเลี้ยงสงนองเอก วิศวกรท่ีมาดูงานท่ีเมือง Stuttgart 6 เดือนและกําลังจะกลับเมืองไทย งานเลี้ยงนี้จัดขึ้นที่บานของพี่คนไทยคนหน่ืงในเมืองนี ้ซึง่นองๆ แทบจะเรียกเปน พอเมืองก็วาได เพราะมีแขกไปใครมา พี่ทานก็คอนขางจะเอื้อเฟอและเปนธุระในการรับสั่งจัดเลี้ยง ทั้งๆท่ีไมไดมีตําแหนงหนาท่ีอนัใดท่ีเกีย่วของกบันักศึกษาโดยตรงเลย ดวยความใจดีนี้เอง ทําใหบานของพี่ทานกลายเปนแหลงซองสุมรวมถึงเปนที่พักพิงยามยากของนักศึกษาไทยในเมือง Stuttgart และเมืองขางเคียง เย็นวันนั้น กินขาวกันไปน่ังคุยกันไป ก็สังเกตเหน็เพือ่นคนหน่ึงดูจะอวนข้ึนผิดตา แกมยุยเหลือเกิน แตเอะ บวมไมเทากันนี่นา ไมธรรมดาแลวละ ก็เลยอดทักไมไดตามประสาหมอ ผูจะตองชางสังเกตเปนธรรมดา "เอะหนิง หนาบวมนี่นา" "ก็ใชนะส ิปวดดวย กินอะไรก็ไมอรอยเลย" น่ังคุยกันไปพรอมซกัประวติัไปคราวๆ ไดความวา มีฟนกรามอยูซี่หนึ่ง ที่เคยผุจนปวดจนหายปวดไปนานแลว จู จู วันดีคืนดีแกมก็บวมข้ึนมาขางเดียวกบัฟนซี่ที่วานี้แหละ หมอกุกก็บอกไปวา คงตองรีบไปหาหมอฟน และถามียาแกอักเสบที่หมอฟนเคยให อาจตองกินเลย หลังจากนั้นก็แยกยายกันกลับบาน วันรุงขึ้น มีคนโทรศัพทมาบอกวา "หนิง หนาบวมกวาเดิมอีก ทํายงัไงดี" ที่จริงหมอกุกก็ไมถนัดหรอกคะ เรื่องหนาบวมเนี่ย ก็เลยสงมอบใหหมอเกียรติ ชวยดูให วาแลวหนิงกับหมอเกียรติก็คุยกันไปปรึกษากันไป แตไมไดรักษาใหกันโดยตรงหรอกคะ เพราะอยูไกลกันไมสะดวกที่จะมารักษา ในที่สุดคุณหมอฟนหนาบานหนิงก็ไดถอนฟนซี่ที่เปนปญหาออกไป รวมถึงใหรับประทานยา อาการบวมก็ยุบลง จนเปนปรกติ คลินิกหมอขางบาน ก็เลยถือโอกาสเอาเรื่องของหนิงมาคุยกับผูอานในฉบับนี้ โดย นพ.ทพ.เกียรติอนันต บุญศิริเศรษฐ จะเปนผูตอบคําถามและใหความรูความเขาใจในเรื่องนี้คะ คําถาม 1: อาการบวมท่ีใบหนาเกิดจากอะไรไดบางคะ ตอบ : โดยสวนใหญแลวอาการบวมบริเวณใบหนาเกิดจากการติดเชือ้ ซึ่งมักเกิดการบวมภายในระยะเวลาสั้นๆ 1-2 วัน สาเหตุของการติดเชื้อน้ีโดยมากแลวมาจากภายในชองปาก ไดแก ฟน และเหงือก นอกจากนี้ยังเกิดจากโพรงไซนัสขางจมูกอักเสบก็ได ฟนและเหงือก ทําใหเกิดการบวมไดอยางไร อธิบายงายๆคือ ปกติฟนจะมีสวนของรากฟนฝงตัว อยูในกระดูกท่ีเรียกวา กระดูกเบาฟนและมีอวัยวะปริทันตยึดและครอบคลุมอยู ในชองปากเราไมไดเปนอวัยวะที่ปลอดเชื้อ 100 % จะมีเชื่อแบคทีเรียอาศัยอยู โดยสวนใหญ (มักจะเปนพวก Streptococci) และในรองเหงือกก็จะมีเชื้อแบคทีเรียอยูเชนกัน ในภาวะปกติ เชื้อแบคทีเรียเหลานี้ก็จะอยูปกติสุขไมรบกวนอะไรเรา ถาเราดูแลรักษาความสะอาดชองปากไดอยางถูกตอง

Page 40: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพือ่นไทย 39

โดยการแปรงฟน และใชไหมขัดฟน ที่น้ีถาเราทําความสะอาดไมดีพอ (รวมถงึในบางคนท่ีมีสุขภาพไมปกติ ทําใหขาดความสามารถท่ีจะดูแลตัวเอง) เกิดความสกปรกขึ้นในชองปาก เชื้อเหลาน้ีก็จะสามารถทําใหเกดิไดท้ังฟนผ ุและเหงือกอักเสบ ซึ่งในที่นี ้ขอไมอธิบายกลไกแลวกันครับ เพราะวาอาจทําใหผูอานปวดหัวได เมื่อมีฟนผุ ก็จะทําใหเกิดการทําลายฟนซี่นั้น และอยางท่ีไดกลาวไววา รากฟนอยูในกระดูก ซึง่ในกระดูกนี้จะปลอดเชื้อโรค ฟนที่ผุจะทําใหมีการนําเชื้อแบคทีเรียจากในชองปาก ลงไปสูกระดูกเบาฟนได รางกายก็จะจัดระบบภูมิคุมกันมาตอตาน (เกดิการอกัเสบข้ึนซึง่เปนภาวะปกติท่ีเกิดขึน้เมือ่มีเชือ้โรคเขาสูรางกาย โดยจะสังเกตไดจากท่ีมอีาการปวด บวม แดง รอน ขึ้นที่บริเวณนั้นๆ) ถารางกายไมสามารถตอสูกับเชื้อโรคไดก็จะเกิดการเปนหนอง บริเวณที่เกิดการติดเชื้อมีการบวมเกิดขึ้น แรกๆการบวมจะจํากัดบริเวณอยูในชองปาก ถาไมไดรับการรักษาอยางถูกตอง การบวมก็จะลุกลามใหญขึ้น ทําใหเห็นไดจากภายนอก เชน คางบวม แกมบวม และการติดเชื้อนี้ก็อาจลุกลามไปสูอวัยวะสําคัญได เชน ตา ทรวงอก เปนอันตรายถึงชวีติได นอกจากการติดเชื้อแลว สาเหตุอื่นๆ ของการบวมบริเวณใบหนาไดแก - เนือ้งอก (Tumor) และถุงนํ้า (Cyst) ซึง่เปนไดท้ังเน้ืองอกชนิดรายแรง และไมรายแรง และเปนไดตั้งแตเนื้องอกของเสนประสาทและเสนเลือด ซึง่การบวมจากเน้ืองอกนี้ จะคอยๆ บวม คือบวมชาๆ อาจเปนเดือน จนถึงเปนป - การบาดเจ็บบริเวณใบหนาและกระดูกขากรรไกร เชน กระดูกขากรรไกรหัก กระดูกเบาตาหัก จะเปนการบวมซึง่เปนผลมาจากกลไกการอกัเสบเชนกนั และยังบวมจากเลือดค่ัง (Hemaoma) ก็ได (หากเปนการบวมจากการไดรับบาดเจ็บนี ้ เจาตัวคงรูท่ีมาวาเกดิจากการถกูชก หรือ ถูกทําราย หรือเพราะซุมซาม จนเกิดอุบัติเหตุ) - โรคทางระบบตางๆ เชน โรคหัวใจ โรคไตวาย ก็อาจทําใหตาและหนาบวมไดเชนกันครับ โดยการบวมจะเปนทั่วท้ังใบหนา รวมถึงบวมไดท้ังตัวเปนตน คําถาม 2 : แลวเราจะรักษา หรอืปองกันไดอยางไรบางคะ ตอบ : การปองกันก็ขึ้นอยูกับสาเหตุของการบวมวาเกิดจากอะไรครับ ถาหากจากการติดเชื้อเปนหนอง ก็ปองกันไดโดยการรักษาความสะอาดในชองปากใหถูกวิธ ีถาบวมจากเน้ืองอกสวนใหญก็คงปองกนัไมได อาจมบีางชนดิท่ีหากหลีกเลีย่งปจจัยรวมในการกอมะเร็ง ก็ทําใหโอกาสเปนลดนอยลงได เชน การงดเค้ียวหมาก (ซึ่งสมัยนี้ก็คงไมมีใครเคี้ยวแลวมั้งครับ) สวนการบาดเจ็บมันก็ปองกันยาก ก็อยาทําตัวใหมีปญหากับใครๆ แลวกันครับ แลวก็ไมซุมซาม แตหากอุบัติเหตุมันจะเกิด ก็คงชวยไมไดจริงๆ ละครับ สวนโรคประจําตัวหรือโรคทางระบบตางๆ นั้น ถาม ี ก็ตองควบคุมใหเปนไปตามคําแนะนําของแพทยที่ดูแลคุณอยู การรักษาก็ขึ้นอยูกับสาเหตุเชนกันครับ ถาบวมจากการติดเชื้อ งายๆ ก็คือกาํจัดตวัการท่ีเปนสาเหต ุและชวยรางกายตอสูกับเชื้อโรค เชน ถอนฟนท่ีติดเชือ้ ใหยากาํจัดเชือ้แบคทีเรีย และ เจาะระบายหนองเปนตน (ในที่นี้หมายถึงใหหมอเปนคนทําใหนะครับ)

Page 41: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพือ่นไทย 40

ถาบวมจากเนื้องอก การกาํจัดกข้ึ็นอยูกบัชนดิของเน้ืองอก ตําแหนงของเนือ้งอก ลักษณะทางจุลกายวิภาคของเน้ืองอกและขนาดของเน้ืองอก เปนตน... เปนอยางไรบางคะ อานเรื่องหนาบวมมาถึงตอนนี้อาจมีบางคนตาบวม เพราะอานมานานแลว หมอกุกคงจะขอจบเพียงเทาน้ี ขอขอบคุณคุณหมอเกียรติอนันต ท่ีมาชวยตอบคาํถามคะ และหากผูอานมีปญหาเกี่ยวกับสุขภาพในเรื่องใด เชญิสงคําถามมาไดนะคะ แลวเราจะหาผูรูมาตอบใหคะ

งาน ครอบครัว สุขภาพ มิตร และจิตใจ

ธีร๏ ชีวิตเรา ทานเปรียบ เหมือนลูกบอล มีกระดอน มีกระเดง กระโดดบาง มีคนเตะ มีคนโยน ลงขางทาง มีคนขวาง มีคนเหยียบ ใหตองจม ๏ แตลูกบอล ก็กลม แถมกลิ้งได จึงตองเลือก หลีกหาย ตามเหมาะสม ขจัดอุปสรรค กัน้ขวาง ทางสังคม ถึงตรอมตรม ก็ขอสู ใหรูกนั ๏ จิตใจที ่เขมแข็ง ยอมไดเปรยีบ ถึงราวแตก ละเอียด ใชใจฉัน หลอมใหมได งดงามกวา ของเกาพลัน ความสําคญั อยูท่ีสติ ปจจบัุนกาล ๏ มิตรที่ดี ทานวาเหมือน ทรัพยนับแสน หากราวแยก ลูกแกวบิ่น ยากประสาน รีบแกไข ลดทิฏฐิ อโหสิทาน เพื่อนคบนาน ยามมีทุกข สุขแบงปน

๏ สุขภาพ ก็เสื่อมไป ตามเวลา คงตองปลง ธรรมดา ของโลกน่ัน ใครหามได ขอไมปวย ชวยบอกกัน คงสักวนั ทุกคนตอง คืนปฐพ ี ๏ อีกครอบครัว เรือ่งใหญ คนไทยแท ตองมากอน ดูแล ใหสุขข ีเอาใจทาน ตอบแทน พระคุณทวี ลูกที่ดี กตัญู รูคุณธรรม ๏ งานการม ีขอให เปนสัมมา หาเลีย้งพา ใหพอใช ใหอิ่มหนํา หากเหลือเก็บ ยามเจ็บ ประหยัดคํา โรงจาํนํา ไมตองไป เรามีพอ ๏ งาน-ครอบครวั สุขภาพ และใจจิต อีกมวลมิตร กัลยา ท้ังหาหนอ ลวนสําคัญ ทุกอยาง อยูที่พอ เรากาํหนด จดจอ ทางดีเอย.

Page 42: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 41

ในความเคล่ือนไหว นายกสมาคม

เพื่อนไทยฉบับรําลึก 10 ปเหตุการณเดือนพฤษภาปสามหา ผมขอรายงานกิจกรรมในรอบสามเดือนท่ีผานมานับตัง้แตเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ใหเพื่อนๆ ทราบดังตอไปน้ีครับ

6 มีนาคม ส.น.ท.ย. รวมกับศูนยชุมนุมชาวไทยในเบอรลิน และกลุมนักเรียนไทยในเบอรลิน จัด เสวนาโตะกลม " หน่ึงปทักษณิ สิบปพฤษภทมิฬ เจ็ดสิบปประชาธิปไตย คนไทยไดเรียนรูอะไร? " ณ TFH-Berlin โดยมีวิทยากรคืออาจารย สุลักษณ ศิวรักษ นักคิด นักเขียนคนสําคัญของเมืองไทย เจาของรางวัลอัลเทอเนทีฟ

โนเบล หลังจากนั้นตามดวยการบรรยายในหัวขอ "หลักศาสนาพุทธในมุมมองสมัยใหม" โดย Professor Dr. rer. nat. Baierl แหง Technische Fachhochschule Berlin (TFH-Berlin) งานน้ีนอกจากจะไดท้ังความรูการเมืองและประวัติศาสตรอยางลงลึกถึงพริกถึงขิงจากอาจารยสุลักษณ ศิวรักษแลว ยังไดฟงโปรเฟสเซอรชาวเยอรมันพูดเรื่องอริยสัจจสี่เปรียบเทียบกับการทํางานของคอมพิวเตอร นาสนใจและเปนประโยชนมากครับ 14 มีนาคม ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จมาประทับ ณ เมืองเกทิทิงเงน เพือ่ทรงศกึษาภาษาเยอรมัน ณ สถาบันเกอเธ จึงไดทรงโปรดใหคนไทยและนักเรียนไทยในเมืองเกิททิงเงนและเมืองอื่นๆ ไดเขาเฝา ณ รานอาหารเชียงใหม โดยทรงสนทนากับพสกนิกรอยางไมถือพระองคเปนที่ปลาบปลื้มของผูเขาเฝาทุกคน งานน้ี ส.น.ท.ย. เปนแมงานรวมกับประชาชนชาวไทยในเมอืงเกิททิงเงน

30 มีนาคม - 1 เมษายน รวมกับสมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศส (ส.น.ท.ฝ.) จัด งานชุมนุมนักเรียนไทยในยุโรป 2002 ณ เมืองลียง ประเทศฝรัง่เศส ในชวงวันหยุดอีสเตอร มีคนมารวมงานถึงกวา 250 คนจาก 7 ประเทศ ไดแก ฝรั่งเศส เยอรมัน เดนมารก เนเธอรแลนด อังกฤษ ลักเซมเบอรก และสเปน จํานวนคนมารวมงานมากกวาปที่แลวที่เบอรลิน (250 คน) อีกครับ ชาวเยอรมันเปนคนกลุมใหญสุดไปรวม

งานดวยรถบสัสองคนั รวมคนท้ังหมด 135 คน งานนี้สนุกสนานมาก เมอืงกส็วยงามติดตาตรงึใจ ขอขอบคุณเจาภาพคือ ส.น.ท.ฝ. อีกครัง้ครบั

Page 43: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 42

5 เมษายน รวมการประชุมสมาคมนักวิชาชีพไทยในยุโรป เรื่อง "บุคลากรและวิชาการที่เกี่ยวของกับส่ิงแวดลอม: ผลประโยชนสูงสุดของประเทศ" ณ โรงเเรม Steglitz International กรุงเบอรลิน สมาคมนักวิชาชีพไทยในยุโรปมีการจัดประชุมกันทุกป โดยเวียนไปจัดในประเทศตางๆ ปนี้มาจัดที่เยอรมันเปนปแรก ส.น.ท.ย. จึงเขารวมประชุมดวย โดยมเีพือ่นๆ นักเรียนทั้งในเบอรลิน และเมืองอื่นๆ ใกลไกลหลากหลายเมืองเขารวม

13 เมษายน ส.น.ท.ย. รวมกับชมรมหองสมดุเกทิทิงเงน จัด งานสงกรานตปใหมไทย 2002 ณ เมอืงเกิททงิเงน มีรายไดเขาสมาคมฯ จากการออกราน และการละเลนตางๆ เปนเงิน 1,914.90 ยูโร และมีรายไดจากการขายบัตร ลูกโปง และเครื่องดื่ม เพือ่นําไปชวยเด็ก กําพรายากไร ที่จังหวัดสกลนคร เปนเงิน

1,018.23 ยูโร งานนี้มีเพื่อนๆ มาชวยงานกันมากมายถึง 50 คนจากสิบกวาเมือง ในนามนายกสมาคมฯ ผมขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนอีกครัง้ครบั 25 เมษายน นักเรียนไทยในเดนมารกไดมีการประชุมกัน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดนมารก กรุงโคเปนฮาเกน เพื่อจัดตั้งสมาคมนักเรียนไทยในเดนมารก และไดเชิญ นายก ส.น.ท.ย. ไปรวมการประชุมดวยเพื่อใหคําปรึกษา ที่ประชุมมีมติเปนเอกฉันทกอต้ังสมาคมนักเรียนไทยในเดนมารก ขึ้นมา โดยเลือกคุณกิตติพงษ มีสวัสดิ ์เปนประธาน และจะไดมีการดําเนินการจดทะเบียนสมาคมตามกฎหมายเดนมารกในลําดับตอไป พวกเรานักเรียนไทยในเยอรมันขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ นักเรียนไทยในเดนมารกครับ 2 พฤษภาคม ถึงแมวา ส.น.ท.ย. จะไดมีการบริการใหขอมูลเรื่องการศึกษาตอในเว็บไซทของ ส.น.ท.ย. อยูแลว แตยังมีคําถามจํานวนมากที่มีการถามบอยครั้งซ้ําๆ กันทั้งในเว็บบอรดและทางอีเมล ฝายแนะแนวการศึกษาตอในเยอรมันของ ส.น.ท.ย. จึงไดรวบรวมคําถามเหลานี้มาจัดทํา ถาม-ตอบเรือ่งการเรยีนตอเยอรมนั (FAQ-study in germany) เพื่อใหบริการขอมูลเบื้องตนสําหรับผูที่สนใจจะมาศึกษาตอในประเทศเยอรมัน มีทั้งหมด 15 ขอ และไดเริ่มใชในเว็บไซทของ ส.น.ท.ย. เมือ่วันท่ี 2 พฤษภาคมที่ผานมา เพื่อนๆ ที่มีความเห็นและขอเสนอแนะที่จะปรับปรุง FAQ น้ีใหดียิง่ข้ึน หรือตองการเขามารวมทีมงานแนะแนวการศึกษาตอ โปรดติดตอ [email protected] ความคิดเห็นและความสนับสนุนของเพื่อนๆ จะเปนประโยชนแกทีมงานมากครับ

Page 44: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 43

11 พฤษภาคม ณ เมืองคาสเซิ่ล นายกสมาคมฯ รวมกับอุปนายก จิรวดี และกรรมการวัฒนธรรมบุญยัง เปนวิทยากรในนาม ส.น.ท.ย. เพื่อใหขอมูลเรื่องประเทศไทยแกอาสาสมัครเยาวชนเยอรมันจํานวน 30 คน ที่จะไปทํางานกับองคกรเอกชนดานสังคม หรือสิ่งแวดลอมที่ประเทศไทย โครงการนีดํ้าเนินโดยองคกรเยอรมนัท่ีมชีือ่

วา Internationale Jugendgemeinschaftsdienste (IJGD) เปนการอบรมที่สนุกสนานและประสบความสําเร็จจน IJGD ขอให ส.น.ท.ย. ชวยสงวิทยากรไปชวยอีกในปหนาครับ 13-15 พฤษภาคม เพื่อเปนการพัฒนา ประชาธิปไตยแบบมีสวนรวม ของนักเรียนไทยในเยอรมัน ส.น.ท.ย. จึงไดจัดใหมีการลงประชามติทางอินเตอรเน็ตเปนครั้งแรก เพือ่กําหนดวันจดังานชมุนุมใหญประจําปนักเรียนไทยในเยอรมัน 2002 มีผูมาลงประชามติทั้งสิ้น 89 คน ผลปรากฏวาเดือนสิงหาคมชนะเดือนตุลาคมไปแบบฉิวเฉียดครับ ปฏิทินงานตอไป จนถึงงานชุมนุมใหญประจําปที่จะจัดในเดือนสิงหาคม ส.น.ท.ย. มีกิจกรรมที่ผมขอประชาสัมพันธใหเพื่อนๆ ไดทราบดงัตอไปน้ีครับ 24 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน การประกวดบทความภาษาเยอรมนั Was können die Deutschen und die Thailänder von einander lernen? งานนี้เว็บไซทไทยไลฟสปอนเซอรเว็บไซทของเราเปนแมงานโดยรวมกับ ส.น.ท.ย. ผูมีสิทธิสงบทความคือนักเรียนไทยในเยอรมันทุกคน ระยะเวลารับบทความ 24พฤษภาคม - 30 มิถุนายน ประกาศผล 28 กรกฏาคม 2545 ณ เทศกาลสัปดาหไทย Kurpark เมือง Bad Homburg คนไทยและคนเยอรมันสามารถเรียนรูอะไรจากกันไดบาง? เปนเรื่องที่ชวนขบคิดและแสดงความคิดเห็นเปนอยางยิ่ง ขอเชิญเพื่อนๆ เขยีนบทความสงประกวดกัน รายละเอียดตางๆ จะไดประชาสัมพันธใหทราบในลําดับตอไปครับ มิถุนายน การประกวดภาพถายจากงานชุมนุมนักเรียนไทยในยุโรป ณ เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส โดย ส.น.ท.ย. รวมกับ ส.น.ท.ฝ. จัดการประกวดครั้งน้ีครับ กรกฎาคม งานประชุมวิชาการนักเรียนไทยในเยอรมัน ครัง้ท่ี 1 ณ เมอืงอาเคน ชวงน้ีอยูในชวงการเตรียมงานกันอยางขมักเขมน รายละเอียดตางๆ จะไดประกาศใหทราบโดยเร็วที่สุดครับ สิงหาคม งานชุมนุมใหญประจําปนักเรียนไทยในเยอรมัน 2002 ตอนน้ีอยูในชวงการหาสถานท่ีจดังาน เมื่อไดสถานที่และวันเวลาที่แนนอนผมจะไดแจงใหเพื่อนๆ ทราบในทันท ีแลวพบกันใหมใน "ในความเคลื่อนไหว" เพื่อนไทยฉบับหนา ซึ่งจะเปนฉบับสุดทายของคณะกรรมการ ส.น.ท.ย. ชุดน้ีครับ

Page 45: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 44

เศรษฐกิจ (จากมุมมองของชาวบาน) เฮียมืด

ตนเหตุของปญหาเศรษฐกิจตกต่ําของไทยหลังป 1997 สวัสดีครับ พี่ๆนองๆและเพื่อนๆทุกคน พบกันอีกครั้งครับกับเศรษฐกิจจากมุมมองของชาวบาน ครั้งนี้ผมใครจะมาเลาถึงเศรษฐกิจไทยในแงของตนเหตุของปญหาความตกต่ําทางเศรษฐกิจที่ไดเกิดขึ้น ตั้งแตป 1997 เปนตนมา แตกอนอื่นขอยอนกลับไปพูดถึงเรื่องที่เขียนในเพื่อนไทยฉบับท่ีแลวและขออภัยมา ณ ที่นี้ดวย เนื่องจากผมเขียนคําแปลคํายอของ GDP หรือรายไดประชาชาติผิดวา Gross National Product ซึ่งที่ถูกตองแลวควรจะเปน Gross Domestic Product ผมจึงขออภัยและขอความกรุณาชวยแกใหดวยนะครับ เอาละครับเราลองมาคุยกันถึงตนเหตุของปญหาที่ทําใหเศรษฐกิจไทยตกต่ํา และลามไปถึงอีกหลายประเทศในเอเซีย กันเลยดีกวา ปญหาเศรษฐกิจไทยตัง้แตป 1997 นั้น โดยคราวๆ แลว เริ่มตนดวย การลมสลายของระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบยึดติดกับเงินสกุลอื่น มาเปลี่ยนเปนแบบลอยตัว ซึง่นําเน่ืองมาจากการที่นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนตางชาติและนักลงทุนรายใหญ ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยและมกีารคาดคะเนวา คาเงินบาทจะลด ดังนัน้เพือ่เปนการปองกนัการสญูเสยีนักลงทุนเหลาน้ีจงึรีบ นําเงินทุนที่ลงทุนอยูในประเทศไทย ในอัตราเงินบาทไปลงทุนยังตางประเทศ ปญหาที่เกิดขึ้นก็คือ

1) ประเทศไทยก็จะสูญเสียเงินลงทุนที่หมุนเวียนในประเทศไป ซึง่จะทําใหเกดิการฝดเคืองทางเศรษฐกิจ

2) จะมีการนําเงินสกุลตางชาติ เชน US Dollar เพื่อไปลงทุนในตางประเทศได ดังน้ันเมือ่มีความตองการเงินบาทนอยลง ราคาคาเงินบาทก็ยิง่ตกลงมากขึน้เรือ่ยๆ และเมื่อรัฐบาลไมสามารถนําเงินสํารองมาชวยซื้อเงินบาทเพื่อจะรักษาคาเงินบาทไมใหตกต่ําจนเกินไปได ก็จําเปนจะตองเปลี่ยน นโยบายทางเศรษฐกิจ โดยปลอยคาเงินบาทใหลอยตัว หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนปญหาที่ตามมาก็คือ ปญหาทางภาคการเงินการธนาคาร (financial crisis) ซึ่งเปนผลมาจากการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อตอบโตกับการที่คาเงินบาทลอยตัว และคาเงินบาทลดต่าํลงกวาท่ีเคยอยางมาก มีปญหาหน้ีเสีย และลูกหน้ีไมสามารถจายหนี้กูยืมได และในทางเดียวกัน ธนาคารจึงไมสามารถจายเงินตนและดอกเบี้ยของเงินทุนที่ยืมมาจากตางประเทศได จึงเกิดการลมสลายของสถาบันการเงินหลายแหง ตอจากนั้นปญหาสุดทายท่ีตามมา และประเทศไทยยังประสบอยูในปจจุบันก็คือ ปญหาทางเศรษฐกิจ (Economic crisis) วาดวยการหดตัวทางผลิตผล ผูคนตกงาน รายไดของประชากรตกตํ่า และรวมถึงการหดตัวของรายไดรัฐบาลเชนกัน เอาละครบั เราไดคุยกันถงึตนเหตท่ีุทําใหเกิดปญหาเหลาน้ีกันดี

Page 46: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 45

กวา ถาเราลองมองใหชดัข้ึนจะทราบวาเราตองเริม่ศึกษาวา อะไรคือตนเหตุท่ีทําใหเกิดปญหาของอตัราแลกเปลี่ยนของคาเงินเปนสวนประกอบ

1) ความไมมั่นคงของระบบเศรษฐกิจ และการเงินท่ีจะรับมือกับ Currency Crisis และ 2) ตัวเหน่ียวไก หรือตัวที่ริเริ่มทําใหปญหาเกิดขึ้นเราคงสงสัยวาเมื่อไรละเราถึงจะรูวา ระบบ

เศรษฐกิจและการเงินของประเทศเราออนแอที่จะรับมือ กับ Currency Crisis การประเมินความไมมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเงินนั้น มีตัวบงชี้ท่ีสําคัญอยู 3 ประการ

1) จํานวนเงินสํารองไมเพียงพอเมื่อเทียบกับเงินทุนหมุนเวียนในประเทศ (Adequacy of reserves relative to the stock of volatile capital)

2) ความออนแอทางภาคการเงินการคลัง (Financial sector fragility) และ 3) การดําเนินที่ผิดทางของอัตราแลกเปลี่ยนของคาเงินบาทจริง (real exchange rate

misalignment) ขอ 1 จํานวนเงินสํารองไมเพียงพอ

เงินลงทุนภายในประเทศเปนสวนหนึ่งเงินทุนสํารอง ดังน้ันถามีการโยกยายเงินลงทุนประเทศออกตางประเทศเกิดขึ้น โดยเฉพาะเงินลงทุนระยะสั้นหรือโยกยายไดงาย เชน หุน, เงินใหกูระยะสั้น หรือ เงินฝากของชาวตางชาติ เปนตน ดังท่ีกลาวมาขางตนแลววา อัตราเงินบาทจะลดลง ยิ่งแยกวานั้น เงินสํารองของประเทศกล็ดลงอกีดวย ซึ่งทําใหยิ่งยากตอการรับมือกับปญหาเงินบาทลอยตัว และทําใหระบบเศรษฐกิจฝดเคือง สําหรับประเทศไทยนั้นในป 1994 กอนที่จะเกิดปญหา สูงมากกวาถึง 1 เทาตัว ซึ่งเปนตัวที่แสดงถึงความไมแข็งแรงมั่นคงของระบบการเงินที่จะรับมือกับปญหา ขอ 2 ความออนแอทางภาคการเงินการธนาคาร

ซึง่จะวัดโดยอัตราสวนระหวางจํานวนเงินกูยมืท้ังหมด (loan) ตอรายไดประชาชาติ GDP ( Gross Demestic Product)

Loan/GDP ซึง่ถาคาน้ีสูงจะแสดงใหเห็นถงึคุณภาพท่ีต่าํของเงินกูยมื หมายความวา เงินลงทุนที่ยืมไปน้ันไปใชอยางไมมีประสิทธิภาพ ทําใหผลิตผลของประชาชาติมีไมดีเทาที่ควร ผลตอมาก็คือลูกหนี้ไมสามารถนําเงินกูไปทํากําไรได จึงขาดรายไดที่จะมาสงคาเงินตนและดอกเบี้ย จึงทําใหเกิดการลมละลายของบริษัทตางๆ ขึ้น ยิง่กวาน้ัน ถา loan/GDP สูงขึ้นเรื่อยๆ บวกกับการขาดความระมัดระวังมีการปลอยใหกูเงินมากขึ้น (Credit Boom) จะทําใหคนกูยืมเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ท้ังๆที่ไมมีความสามารถที่จะจายคืน หรือถึงขั้นที่วา ตองยืมเงินใหมมาใชหนี้เกา ธนาคารจึงจาํเปนท่ีตองข้ึนดอกเบ้ียเพือ่ตนเองจะไดใชหน้ีเงินกูยืมจากตางประเทศได เน่ืองจากธนาคารเองก็มีเพียงลูกคาบางสวนเทานั้นท่ีสามารถจายหนี้คืนธนาคารได แตวาการขึ้นดอกเบี้ย ก็ทําใหลูกหนี้ท่ีเหลืออีก หลายคนไมสามารถผอนหนี้สินได จึงเกิดการลมละลายมากขึ้น จนกระท่ังตัวธนาคารเองก็ไมสามารถสังเกตเห็นจากการลมสลายของสถาบันการเงินตางได

Page 47: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 46

ขอ 3 การดําเนินในทางที่ผิดของอัตราแลกเปลี่ยนจริง อัตราแลกเปลี่ยนสามารถคิดไดจาก ER = ExP*/P โดย ER คืออัตราแลกเปลี่ยนจริง, E คืออัตราแลกเปลี่ยนทั่วไปที่เราสามารถรับรูไดจากธนาคารหรือหนังสือพิมพ, P* ราคาของตางประเทศและ P ราคาของประเทศไทย อัตราการแลกเปลี่ยนหรือคาเงินที่สูงขึ้นเรื่อยๆนั้น สามารถนําเนื่องมาจาก ความตองการเงินลงทุนเพื่อใชในประเทศ เพราะวา เมือ่มีความตองการเงินลงทุนมากข้ึน เงินลงทุนท่ีมาจากตางประเทศก็จําเปนที่จะตองถูกแลกเปลี่ยนเปนเงินสกุลไทย ดังน้ันถาเงินลงทุนจากตางประเทศเขามาเมืองไทยมากข้ึน ความตองการเงินบาทมากขึน้ คาเงินบาทก็จะสูงข้ึน ดังนั้นการท่ีขาดความควบคุมเงินลงทุนอยางมีประ-สิทธิภาพ นําเงินลงทุนมาใชอยางไมมีผลิตผล ก็จะเกิดปญหาเชนขอ 2 ได เพราะฉะนั้นคาเงินบาทที่สูงขึ้น เรื่อยๆ ก็สามารถเปนสัญญาณของความผิดพลาดทางระบบเศรษฐกิจการเงินไดเชนกัน ซ่ึงคาเงินบาทของไทยน้ัน สูงขึ้นเรื่อยๆตั้งแตป 1990 - 1997

เอาละครับพี่ๆ นองๆ และ เพื่อนๆ ทุกคน เราก็ไดลองมาศึกษาถึงปญหาและตนเหตุของมันตอเศรษฐกิจไทยแลวนะครับ ในฉบับหนาเราจะมาลองศึกษากันวาผลกระทบของการท่ีปลอยใหเงินบาทลอยตัวจะเปนอยางไร และผมก็จะบอกวาเราสามารถมองเศรษฐกิจไทยในดานบวกบางไดอยางไรครับ

มุมที่เหลือ Jo

หนารอนแลวอากาศอุนขึ้น เพื่อนๆหลายคนคงไดไปเที่ยวไหนกันมาบางดูธรรมชาติ ดูปาเขา ผมเองยังบไดไปเที่ยวไหน ก็ไดแตหยิบแผนที่มาพลิกๆดู ดูแลวก็นึกถึงบทเรียนวิชาภูมิศาสตรสมัย ม. 3 เพื่อนๆหลายคงคงเคยเรียนมาแลวสมัยเด็กๆเชนกัน แตเพื่อกันลืม เรามาลองทวนความจํากับคําถามสนุกๆ กันหนอยไหมครับ เริ่มกันเลย แบบฝกหัด 1: ยุโรป จับคูเมืองหลวงกับประเทศ

1.Oslo a. Ireland k. Rumania 2.Madrid b. Hungary l. Bulgaria 3.Bucharest c. Sweden m. Switzerland 4.Helsinki d. Denmark n. Poland 5.Dublin e. Austria o. Czech 6.Stockholm f. Norway p. Slovakia 7.Bern g. Finland q. Portogal 8.Budapest h. Spain r. Scotland 9.Lisbon i. Albania s. Russia 10.Tirana j. Greece t. Belgium (ดูเฉลยหนา 69)

Page 48: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 47

แวะเยี่ยมชมเมือง เที่ยว Kassel … เมืองที่ยังไมมีคนพูดถึง จินตหรา

ฉันนั่ง Regionalbahn ออกจากสถานีรถไฟ Frankfurt ตั้งแตเชามืดขึ้นไปทางเหนือของ Frankfurt เพื่อจะไปเยี่ยมรุนพี่ที่ไดทุนมาเรียนตอที่มหาวิทยาลัย Universität Gesamthochschule Kassel ฉันตั้งใจวาจะอยูเที่ยว Kassel ซักวันสองวันกอนที่จะเดินทางไปหาพี่ที่ตอนนี้เรียนอยู Hannover ตอไป

การเดินทางจาก Frankfurt ดวยรถ RE ใชเวลาราว 2 ชัว่โมงเศษ (ถาน่ังรถดวน ICE ก็จะใชเวลาเพียงชั่วโมงเดียวก็จะถึงสถานีรถไฟ Bahnhof Wilhelmshöhe) เมื่อลงจากรถไฟท่ี Kassel ก็รอพ่ีท่ีนัดวาจะมารอรับที่ชานชลา รอสักพกัยังไมเห็นพ่ีมารบั ฉันเลยเดินขึ้นไปหนาเคานเตอร DB Information รอไปก็กลัววาเรามาผิดสถานีหรือเปลา เพราะพี่เคยบอกวาที ่ Kassel มีสถานีรถไฟอยู 2 แหงคือ Hauptbahnhof ซึ่งปจจุบันกลายเปนสถานีรถไฟขนาดเล็กไปแลว รถไฟท่ีว่ิงเขา Hauptbahnhof ของ Kassel จะเปนรถจําพวก RB, RE และ IR เทาน้ัน สวนอีกสถานีหนึ่งคือ Bahnhof Wilhelmshöhe หรือบางทีก็เรียกวา ICE-Bahnhof เพราะรถพวก IC, ICE วิ่งผานเฉพาะที่ Bahnhof Wilhelmshöhe แตจะไมวิ่งเขา Hauptbahnhof ฉันรออยูพักนึงก็เห็นหนากลมๆของพี่เดินยิ้มมา

พี่พาฉันขึ้นรถรางจาก ICE Bahnhof เขาไปยังใจเมืองลงท่ีปาย Friedrichplatz เราไดเดินเที่ยวในบริเวณตัวเมืองอยูพักนึง ฉันเห็นตัวเมือง Kassel แลวกลับไมประทับใจเหมือนเมืองอื่น เชน Freiburg หรือ Heidelberg ที่เคยไปเที่ยวมา พีจ่งึเลาใหฟงวาสมัยสงครามโลกครัง้ท่ี 2 Kassel เปนแหลงผลิตอาวุธสงครามและหัวรถจักรที่สําคัญที่สุดแหงหนึ่ง เมื่อวันที ่ 22 ตุลาคม ปค.ศ. 1943 เมอืงนีจ้งึถูกฝายสัมพันธมิตรถลมดวยระเบิดราบคาบ ภายในระยะเวลา 86 นาท ี Kassel ที่เคยสวยงาม มี Fachwerkhäuser สวยๆอยูเยอะถูกทําลายลงกวา 80% คนตายไปเปนหมื่น หลังสงครามเลิกก็รีบใหฟนฟูเมือง ตึกทีอ่ยูอาศยัก็สรางกนัอยางรบีเรงเพือ่พอใหคนมีท่ีอยู ดวยเหตุน้ีตัวเมอืงจงึเปนอยางท่ีเห็น

จากใจกลางตัวเมืองไปไมไกลพี่พาฉันเดินไปชม Orangerie ท่ีต้ังอยูใกลใจกลางเมืองมาก ชื่อก็นาจะบอกอยูแลววาเปนอาคารสีเหลืองสมสรางขึ้นในปค.ศ. 1702 - 1711 แตเดิมเปนที่ประทับฤดูรอน (Sommerresidenz) ของ Landgraf Karl พี่เลาใหฟงวาตอนสงครามโลกที่ประทับแหงนี้ก็โดนระเบิดดวย ชวงปลายป 70 ไดบูรณะตัวอาคารขึ้นใหม ปจจุบัน Orangerie กลายเปนพิพิธภัณฑทางวทิยาศาสตร ดานดาราศาสตรและฟสิกซ ภายในยังมีทองฟาจําลอง (Planetarium) เปดใหเขาชมดวย พี่ชายที่แสนนารักยอมควักกระเปาซื้อบัตรเขาไปดูทองฟาจําลองให

Page 49: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 48

ไมไกลจาก Orangerie พี่ก็พาฉันเดินตอไปที่ริมแมน้ํา Fulda พรอมกับเลาวา ท่ี Kassel น้ีทุกๆ 5 ปจะมีการจัดนิทรรศการแสดงศิลปะสมัยใหมของโลกโดยเฉพาะผลงานทางดานประติมากรรมหรือที่เรียกวา documenta ซึง่เริม่จัดงานข้ึนครัง้แรกเม่ือปค.ศ. 1952 ดวยเหตุน้ี Kassel จึงไดชื่อวาเปน documenta-Stadt ดวย งานศลิปะจะตัง้แสดงกระจายอยูตามจุดตางๆของเมือง อยางเชน เสียมยักษที่ปกอยูริมแมน้ํา Fulda มาตั้งแตป 1982 (documenta ครัง้ท่ี 7) เปนผลงานของศิลปนชาวอเมริกันทีช่ื่อ Claes Oldenburg พ่ียงัเสริมวาเมือ่กอนตรงปาย Königsplatz ซึง่อยูใจกลางเมืองน้ันก็เคยมงีานศิลปะ documenta อยูชิ้นหนึ่งมีลักษณะคลายสะพานครึ่งสะพาน แตพึ่งถูกรื้อไปเมื่อปที่แลวเพราะมันทรุดโทรมและทําใหตัวเมืองไมนาดูเขาไปอีก นอกจากน้ีตรงหนาหองสมุดของมหาวิยาลัย (Zentrale Hochschulbibliothek) ก็เคยมีงานศิลปะ documenta ตั้งแสดงอยูตั้งแตป 1987 และเมื่อประมาณ 2 ปที่แลวก็โดนรื้อไป ตอนน้ีหนาหองสมุดของมหาวิยาลัยก็เลยมีพื้นที่โลงใหเดินไดสบาย สวนงานอกีชิน้อยูตรงหนา Hauptbahnhof ชื่อ Walking in the Sky เปนรูปคนเดินบนเสาที่ตั้งขึ้นฟา

ในป 2002 ที่กําลังจะมาถึงนี้เปนปสําคัญของ Kassel เพราะจะจัดงาน documenta ขึ้นอีกคร้ังเปนครั้งที่ 11 โดยจะเริม่ตัง้แต 8 มิถุนายนถึง 15 กันยายน 2002 ในโอกาสน้ีก็จะมีนักทองเที่ยวและผูที่สนใจดานศิลปะมาแวะเยี่ยมชมงานกนัเปนจํานวนมากเหมือนทุกครั้ง หลังจากนั้นพี่ก็พาตะลุยเดินขาขวิดเพื่อแนะนําอาคารสถานที่สําคัญตางๆตรงกลางเมืองเชน ศาลาวาการเมือง Staatstheater รานคา โดยไมจําเปนตองขึ้นรถรางเลย

ในฐานะที่ฉันเปนเด็กสายศิลปภาษาเยอรมัน มาถึง Kassel ท้ังทีจึงขาดไมไดท่ีตองชมพิพิธภัณฑ Brüder Grimm Museum เสียหนอย พี่นอง Jacob และ Wilhelm Grimm เปนนักภาษาและวรรณคดีเยอรมัน (Germanist) ที่โดงดังและมีความสําคัญไมนอยไปกวานักประพันธคนสําคัญของเยอรมันคนอื่นๆ เชน Goethe หรือ Schiller ที่ทั่วโลกรูจักและยกยองในผลงาน แมวา Kassel จะไมใชบานเกิดของ Jacob และ Wilhelm Grimm แตพี่นองคูน้ีไดพักอาศัยและผลิตผลงานชิ้นสําคัญ เชนรวมนิทานสําหรับเด็ก (Kinder- und Hausmärchen) ซึง่ตอมาไดรับการแปลเปนภาษาตางประเทศอืน่ๆมากมาย พิพิธภัณฑแหงนี้ไดรวบรวมประวัติและผลงานของพี่นองคูนี้ซึ่งเกี่ยวของกับนักประพันธท่ีมีชื่อเสียงในยุคนั้นดวยเชน Clemens Brentano, Achim von Arnim

ไมไกลจาก Brüder Grimm Museum มีหองสมุดที่พี่นอง Grimm เคยทํางานเปนบรรณารักษอยู หองสมุดนี้ชื่อ Murhardsche- und Landesbibliothek ชั้นลางของหองสมุดจัดแสดงหนังสือโบราณที่เขียนดวยลายมือทั้งเลม (Hanschriftensammlung) ท่ีมีอายเุกาแกตัง้แตศตวรรษท่ี 6 - 18 หนังสือสําคัญๆ เชน Hildebrandlied ซึ่งเปนงานเขียนที่เกาแกที่สุดในภาษาเยอรมันคือตั้งแตป 830 หนังสือสวดมนตกอนนอนของจักรพรรดินี Kundigunde หรือคัมภีรไบเบิลที่พิมพดวยการพิมพแบบของ Gutenberg ในป 1455 (สมัยโบราณคัมภีรไบเบิลจะถูกคัดดวยลายมือเทานั้น) หนังสือเหลานี้ถูกเก็บอยูในตูกระจกเพื่อปองกันไมใหคนแตะตอง ภายในหองเปดไฟออนเพื่อไมใหหนังสือถูกทําลายดวยแสงสวาง

Page 50: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 49

หลังจากชวงเชาท่ีเท่ียวและกินอาหารกลางวันเล็กนอยตอนอยูในตวัเมอืง ชวงบายพ่ีก็พาไปชม Herkules ที่ถือวาเปนสัญลักษณ (Wahrzeichen) ของเมือง รวมทั้ง Schloß และ Bergpark Wilhelmshöhe ซึง่อยูไกลจากตวัเมอืงพอสมควรตองน่ังรถรางสาย 3 ไปจนสุดสายแลวยังตองตอรถประจําทางเพื่อไปถึง Herkules เสนทางที่รถวิ่งเปนทางขึ้นเขาสูงมาก จะเดินเทาขึ้นก็ไดแตคงใชเวลามากแนนอน เมื่อขึ้นไปถึง Herkules ฉันก็เห็นชีเปลือยฝรั่งตัวเขียวยืนเทาทอนไมพักเหนื่อยอยูบนปรามิดที่อยูบนอาคารฐาน 8 เหลี่ยม พีทํ่าการบานมาอยางดีบอกรายละเอยีดตางๆ เชนอาคาร 8 เหลี่ยมเรียกวา Oktogon เริ่มสรางตั้งแตป 1701 สรางเสร็จป 1717 หลังจากสราง Oktogon เสร็จจึงคอยยกตวัรูปปน

Herkules สูง 9.20 เมตร (ไมแนใจวาทําจากสําริดหรือจากทองแดง) ที ่Landgraf Karl สั่งใหนายชาง Johann Jacob Anthoni สรางขึ้นในชวงป 1713 ถึง 1717 ขึ้นไปวางทาลมหนาวไวขางบน ท่ี Landgraf Karl ตองการใหสราง Herkules ขึ้นมานั้น เปนการสมมติตัวทานเองวาเปนกึ่งมนุษยกึ่งเทพเหมือน Herkules ที่เปนลูกของเทพเจา Zeus กับมนุษยธรรมดา แตกลับมพีละกําลงัมหาศาล งานหินๆที่บรรดาเทพเจาแกไมได ก็ตองลงมาขอความชวยเหลือจาก Herkules เชนตอนหน่ึงพวกอสูรยกพลขึ้นไปบุกบนสวรรค Olympus เหลาเทพตอสูไมไหว บางองคกห็ลบหนีดวยความกลวั รอน

ถึง Zeus และเทพองคอื่นตองลงมาขอให Herkules ขึ้นไปชวยปราบอสูรยักษเหลานั้น รูปปน Herkules ที่ฉันกําลังเห็นอยูลิบๆคือชวงหลังจากที่ Herkules ปราบพวกอสูรราบคาบ กําลังยืนใชตะบองชวยพยุงตัวพักเหนื่อยอยู

พวกเราตดัสินใจเดินลงจาก Herkules ไปตามสวนเพื่อใหไปถึงปราสาท Schloß Wilhelmshöhe ที่ฉันคิดวาเหมือนตึกทําการของรัฐมากกวาที่จะเปนที่ประทับของกษัตริย Wilhelm มากอน ปราสาทที่เห็นอยูทุกวันนี้ไดรับการบูรณะซอมแซมขึ้นมาจากที่โดนระเบิดทําลายไปหลายสวน (เฮอ สงครามโลกอกีแลว) พื้นที่บริเวณที่ตั้งปราสาท Schloß Wilhelmshöhe นั้นพี่เลาใหฟงวาตามหลักฐานที่บันทึกไวนั้นในชวงศตวรรษที่ 12 เคยเปนโบสถ Augustinerinnenkloster ต้ังอยูมากอน พอศตวรรษที่ 16 หลังจากที่โบสถเลิกใชมานานก็ถูกเปลี่ยนเปนที่พักการออกลาสัตว (Jagdhaus) ของเจาผูครองเมืองและเหลาขุนนาง พื้นท่ีและสถาปตยกรรมบริเวณนี้ไดมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของผูปกรองแผนดินในสมัยตอๆมา ครัน้พอถึงป 1701 Landgraf Karl ขึ้นปกครองเมือง Cassel (สมัยกอน Kassel เขยีนดวยตัว c) และปริมณฑลไดมอบหมายใหสถาปนิกชาวอติาเลียน Giovanni Francesco Gueniero ออกแบบ

Herkules

Page 51: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 50

Schloß Wilhelmshöhe

สรางสวน (Bergpark) ขึ้นมาพรอมกับอาคาร Oktogon กับปรามิด สําหรับ Bergpark Wilhelmshöhe นั้นถือวาเปนสวนที่อยูบนเขาที่ใหญท่ีสุดในยุโรปทีเดียว

สวนตัวปราสาท Schloß Wilhelmshöhe นั้นสรางขึ้นตอมาภายหลังเมื่อป 1786 ในสมัย Landgraf Wilhelm ที่ 9 (1743-1821 และไดรับการยกยองฐานะขึ้นเปน Kurfürst Wilhelm ที ่1 ในป 1803) ปราสาทสรางเสรจ็เมือ่ป 1793 ปจจุบันปราสาท Schloß Wilhelmshöhe ไดกลายเปนพิพิธภัณฑแสดงภาพจิตกรรม (Gemäldegalerie Alte Meister) และเปนที่รวบรวมรูปปนแบบกรีกโบราณ (Antikensammlung) สวนปกอีกดานหนึ่งของตัวปราสาทชื่อวา Weissensteinflügel เปนที่เก็บรวบรวมส่ิงของเครือ่งใชของผูปกครองเมือง Kassel พี่ยังใหรายละเอียดเพิ่มเติมวาแถวปราสาท Schloß Wilhelmshöhe ยังมีแหลงพักฟนลักษณะ Kurbad ที่ขึ้นชื่อแหงหนึ่งของเยอรมันจนทําใหเขตนี้ที่แตเดิมเรียกแควา Wilhelmshöhe ตามชื่อปราสาทไดรับชื่อใหมเปน Bad Wilhelmshöhe แลว

กวาจะลงมาจากปราสาท Schloß Wilhelmshöhe ก็เย็นมากแลวและก็เริ่มหิวแลวดวย ฉันเลยขออาสาเปนเจามือเลี้ยงอาหารเย็นขอบคุณพี่ที่อุตสาหมารับฉันแตเชาและพาเที่ยวตลอดทั้งวัน เราตัดสินใจไปกินอาหารไทยที่ภัตตาคารไทยที่อยูใกล Wilhelmshöhe มากกวาอีกรานหน่ึงและยังไมไกลจากบานพ่ีเทาไหรนัก ระหวางทานอาหารฉันก็ถามพี่ถึงเรื่องที่ฉันอยากมาเรียนตอเยอรมันทางดานสายศิลปเยอรมันตามท่ีฉันจบปรญิญาตรมีา ฉันอยากรูวาสาขา DaF ที่พี่ชายเรียนอยูนั้นเกี่ยวกับอะไร เรียนอะไรบาง และตางจากสาขาวิชาของ Germanistik ตรงไหน ฉันรวัคําถามเยอะมาก พ่ีชายก็อุตสาหอดทนน่ังอธบิายใหฟงขณะที่ฉันก็ตักอาหารทานไปอยางเอร็ดอรอย คืนนี้ฉันก็พักอยูกับพี่เพื่อที่จะไดเที่ยวตอวันพรุงนี้อีกวัน

หลังจากทานอาหารเชาเสร็จเรียบรอยแลว สายวันนี้พี่ชายตั้งใจพาฉันไปเที่ยวชมปราสาท Löwenburg กอนที่ฉันตองเดินทางตอไปหาเพื่อนที่ Hannover เย็นวันนี ้ พวกเราขึ้นรถรางสาย 1 ไปจน

Page 52: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 51

สุดสายแลวตองตอรถเมลเล็กขึ้นไปอีก พอฉันไดเห็นตัวปราสาท Löwenburg ฉันแทบไมอยากเชื่อเลยวาจะมีปราสาทเกาแกสมัยยุคกลาง ยุคอัศวินใสชุดเกราะหลงเหลืออยูที่ Kassel ดวย พีช่ายจึงตองรบีปรบัความเขาใจของฉันเสียใหมวาปราสาท Löwenburg ไมไดสรางขึ้นในสมัยยุคกลางจริง แตเปนการสรางเลียนแบบใหเหมือนปราสาทยุคกลางตางหาก

ในป 1793 ปเดียวกันที่ Schloß Wilhelmshöhe เพิ่งสรางเสร็จ Landgraf Wilhelm ที ่9 (หรือ

Kurfürsten Wilhelm ที่ 1) ก็โปรดใหสรางปราสาทที่ประทับบนพื้นที่ของ Schloßpark Wilhelmshöhe ขึ้นอีกหลังใหมีลักษณะของปราสาทสมัยยุคกลางสถาปตยกรรมแบบโกธิค โดยม ี Heinrich Christoph Jussow เปนสถาปนิกและผูดูแลการกอสรางตั้งแตเริ่มตนสราง Löwenburg ในป 1793 จนแลวเสร็จในป 1801 ฉะนั้น ปราสาท Löwenburg จึงถูกสรางขึ้นใหดูเกาและทําใหดูทรุดโทรมเหมือนปราสาทยุคกลางที่ผานกาลเวลามานับรอยๆ ปจริงๆ ท่ีนาสนใจคือ เพื่อใหทุกอยางดูกลมกลืนเหมือนปราสาทยุคกลางสมัยกอน โบสถที่สรางขึ้นภายในพื้นที่ตัวปราสาทนั้นก็ตองสรางขึ้นใหตรงกับสถาปตยกรรมและการตบแตงภายในและภายนอกตามแบบโบสถคาทอลิกสมัยยุคกลาง ท้ังๆ ที ่Kurfürsten Wilhelm ที ่1 เองนับถือศาสนาคริสตนิกายโปรแตสแตนท แตเวลาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา (Gottesdienst) จะประกอบพิธีกรรมในแบบของนิกายโปรแตสแตนท ปจจุบันปราสาท Löwenburg ไดกลายเปนพิพิธภัณฑแสดงอาวุธและชุดเกราะสมัยยุคกลางและเครื่องเคลือบ (Casseler Porzellan) เจาหนาที่ที่ดูแลพากลุมนักทองเท่ียวเขาชมหองหับตางๆ ท่ีสําคัญๆ พรอมใหคําบรรยายเลาเรือ่งราวเกร็ดเล็กเกรด็นอยไดอยางสนุกสนานและนาสนใจ

เวลาผานไปเร็วอยางไมนาเชื่อ พวกเรานั่งรถรางกลับเขามาถึงใจกลางตัวเมืองเมื่อบายมากแลว นาเสียดายที่ฉันมีเวลาจํากัดเพราะยังมีพิพิธภัณฑและสถานที่อื่นๆ รวมถงึเมอืงเล็กๆ รอบ Kassel ที่นาชมอีกหลายแหงที่ยังไมไดไป ยังไงฉันก็ปูทางไวแลววาปหนาป 2002 ที่จะจัด documenta ฉันจะแวะมา Kassel อีกครั้งเพราะฉันก็อยากแวะมาดูงานนี้เชนกัน พี่ชายที่แสนดีก็คงจะอนุเคราะหที่พักใหฉันฟรีและเปนเจาบานที่ดีพาเที่ยวอีกแนนอน…แลวพบกันใหม

Löwenburg

Page 53: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 52

อักษรภาษาเยอรมัน ในเชิงสังคมและการเมือง Ein gesellschaftlich-politisches, deutsches Alphabet

แกววิวาท ____________________________________________________________________________A wie Arbeitslosigkeit สภาวะการวางงาน: ในประเทศเยอรมันในปจจุบันคนวางงานมากกวาสามลานคน ปญหาระยะยาวท่ียังหาทางแกไมได Ä wie Ältern vs. Eltern พอแม: ตามหลักการสะกดคําใหม (Die neue Rechtschreibung) คําวาพอแมนาจะเขียนดวย ä ตาม หลักของรากศัพท (alt ขั้นกวา älter) แตคํานี้ใหเขียนดวยตัว e เหมือนเดิม (= Eltern) เพื่อใหคนเยอรมันรูสึกวาระบบการสะกดคําใหมไมผิดแปลกไปจากเดิมมากนัก ถึงตอนน้ีการสะกดคําแบบใหมก็ยังไมเปนที่ยอมรับกันในสังคมเยอรมันเทาไรนัก เกิดปรากฏการณการแกบางคําใหกลับไปเขียนตามหลักการสะกดแบบเดิมเพราะทนคําคัดคานจากนักตางๆไมได ตอนนี้จะเขียนคําไหนถาไมแนใจใหเปด DUDEN Rechtschreibung (ฉบับพิมพครั้งที ่23 เปนฉบับลาสุด) ตรวจสอบด ูB wie Bundeswehr กองทหารเยอรมัน: ในขณะนี้มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งการเขาไปชวยทางการทหารในประเทศตางๆ การจัดซื้อเครื่องบินรบ การปฏิรูประบบทหาร C wie Centrum ศูนยกลาง: เปนรูปแบบการเขียนคําวา Zentrum ที่พบเจอกันบอยในปจจุบัน ในดานภาษาศาสตรมองวา ปรากฏการณในลักษณะน้ีเปนอิทธิพลของภาษาองักฤษในภาษาเยอรมัน ปญหาเรื่องน้ีเปนที่ถกเถียงกันมากวาภาษาเยอรมันจะสามารถทนรับอิทธิพลของภาษาอังกฤษไดมากแคไหน D wie Diszipliniertheit ความมีระเบียบวินัย: ในสังคมเยอรมันปจจุบันมีแนวโนมวาความมีระเบียบจะลดลงทุกวัน E wie Euro เงินสกุลยูโร: สกุลเงินที่ใชรวมกันในทวีปยุโรปตั้งแตวันท่ี 1 มกราคม 2002 เปนตนมา สหภาพการเงินถือเปนกาวแรกของการรวมตัวของยุโรปในเชิงสังคม ในมุมมองของผูบริโภคอยางเราก็ไดขอสรุปวาสินคาและการบริการตางๆแพงขึ้นหลังจากเปลี่ยนเงินตรามาเปนยูโร เหมือนท่ีคนเยอรมันสรุปวา Euro = Teuro (เปนการเลนคํา ซึ่งมาจากคําวา teuer ที่แปลวาแพง) F wie Familienkrise ปญหาครอบครัว: ปญหาตางๆเชน การอยูดวยกันแตไมมีลูก หรอืการเลือกอยูตวัคนเดยีวโดยไมมีคู นํามาซึ่งการเกิดที่ลดนอยลง ขาดวัยแรงงานผูจายภาษีใหรัฐในอนาคต

Page 54: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 53

G wie Gewalt ความรุนแรง: ปญหาความรนุแรงเกิดข้ึนท้ังในสังคม ในโรงเรียนและในครอบครัว เร่ืองท่ีกําลังเปนท่ีพูดถึงมากคือความรุนแรงที่ผานทางสื่อสารมวลชน ทางอนิเตอรเน็ตและวิดีโอเกมตางๆ H wie Hochschulreform การปฏิรูปการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย: การปฏิรูปในหลายๆดานเพื่อใหมหาวิทยาลัยของเยอรมันเปนที่ดึงดูดของนักศึกษาตางชาติ และการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนเพื่อใหทัดเทียมกับนานาประเทศ I wie Ich ตัวตน: จากการวิเคราะหของนักจิตวิทยาและนักสังคมศาสตรหลายทาน ไดขอสรุปวาสังคมเยอรมันเปนสังคมท่ีเนนความเปนตัวเองมากตั้งแตเปนเด็ก เรียกรองสิทธ"ิของตนเอง"จนบางครั้งไมมองคนและสังคมรอบตัว มุมมองที่วาตัวเองสําคัญที่สุดนี้นํามาซึ่งความไมเปนระเบียบและความไมลงรอยกันในสังคมปจจุบัน J wie Jungendkriminalität การกออาชญากรรมของวัยรุน: แนวโนมที่วัยรุนเยอรมันจะใชความรุนแรงและกออาชญากรรมนั้นสูงขึ้น เปนท่ีขบคิดกันอยูวาเกดิข้ึนจากเหตุใด เกี่ยวของกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมปจจุบันหรือสื่อตางๆหรือไม K wie Konjunkturflaute สภาวะซบเซาทางดานการลงทุน: เปนปญหาท่ีเกิดข้ึนเพราะปจจัยระดับชาติหรือเปนปญหาระดับโลกตามท่ีนายกรฐัมนตรเียอรมนัพยายามยืนยนักันแน L wie lebenslanges Lernen การเรียนรูอยางตอเนื่องตลอดชีวิต: เปนเปาหมายดานการศึกษาของเยอรมัน เพื่อใหสังคมเยอรมันเปนสังคมการเรียนรูท่ีพรอมจะกาวไปกับความเปลี่ยนแปลงของโลก M wie Mehrsprachigkeit สภาวะพหุภาษา: ดวยความหลากหลายทางภาษาในสงัคมเยอรมัน(จากชาวตางชาติท่ีมากข้ึนทุกวัน) จึงมีการพูดถึงเรื่องสภาวะพหุภาษาในสังคมเยอรมันและเกิดความพยายามใหคนเยอรมัน(หรอืคนในยุโรปทั้งหมด) สามารถเขาใจหรือใชภาษาตางประเทศใหไดอีก 2 ภาษา N wie NPD-Verbot การหามการชุมนุมของพรรค NPD (ซึ่งเปนพรรคที่มีแนวโนมในเชิงชาตินิยมตามแบบขวาจัด): ยังถกกันอยูวาจะหามเรื่องลักษณะน้ีที่ถือไดวาเปนการแสดงออกทางความคิดแบบหนึ่งไดหรือไม หรอืถาหามไดจะหามถึงในระดับใด O wie Ost-Erweiterung

Page 55: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 54

แผนการขยายรับสมาชิกประเทศทางยุโรปตะวันออกเขาสูสหภาพยุโรป (Europäische Union): ซึ่งเปนความรวมมือทางเศรษฐกิจ สังคม (และบางสวนทางการทหาร)เพือ่ความเปนหน่ึงเดียวในทวีปยโุรป Ö wie Öko-Landbau การเกษตรแบบรัก(ษ)ธรรมชาติและสภาพแวดลอม: เปาหมายหนึง่ของพรรค Die Grünen ท่ีทําไดจริงแลวบางสวน P wie Pünktlichkeit การตรงตอเวลา: คําทีต่องจาํกัดความใหมวา ความคาดหวังที่จะใหคนอื่นตรงตอเวลา แตตัวเองอาจสาย(นิดหนอย)ได Q wie Qual (der Wahl) ความทรมาน(ในการเลือก): ในที่นี้คือการเลือกตั้งทั่วประเทศเยอรมันที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนที่จะมาถึง จะเลือก Schröder หรือ Stoiber ดี จะเปนรัฐบาลสีแดง เขียว หรือสีดํา เหลือง ตองคอยลุนกัน R wie Rechtsextremismus พวกขวาจัดหัวรุนแรง: ปญหาที่มีอยูจริง บางสวนถูกปดบัง บางสวนพยายามแกไข S wie Senioren ผูสูงอายุ: ปญหาใหญในสังคมเยอรมันคือมีผูสูงอายุอยูมากจนไมสมสัดสวนกับวัยทํางาน ในอีก 10 - 20 ป คาดวาประชากรเยอรมันประมาณรอยละ 35 จะเปนผูสูงวัยเกิน 60 ป (ถาอัตราการเกิดของเด็กไมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น) T wie Tarifverhandlung การตอรองเรื่องคาแรงขั้นต่ํา: ซึ่งกําลังเปนเรื่องที่เปนที่ถกเถียงกันมากในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว วาจะเพิ่มคาแรงขั้นต่ําไดมากนอยแคไหน U wie Umorientierung การมองหาทิศทางอื่น: ความพยายามท่ีจะหาทางออกอื่นใหกับสังคมเยอรมันที่พัฒนาแลวทั้งทางดานสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ที่กําลังเริ่มเสื่อมถอยลงในปจจุบัน Ü wie Übersättigung สภาพอิ่มเกินกวาที่รางกายจําเปน: เปนภาพสะทอนสังคมสมัยใหมวาคนบางสวนอยูอยางสมบูรณพูนสุขเกินความจําเปน ในขณะที่คนอีกสวนหนึ่งในสังคมตองตอสูเพื่อใหชีวิตอยูรอดไปวันๆ สถานการณลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นในสังคมเยอรมันเชนกัน V wie Volksverdümmung การสรางความสับสนหรือหลอกใหผูคนในสังคมเชื่อตาม: ศัพทท่ีบรรดานกัการเมืองใชวาฝายตรงขามในชวงหาเสียงเลือกตั้งวาหลอกลวงประชาชนเพื่อใหคนหันมาเชื่อตามความเห็นของตน

Page 56: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 55

W wie Wiedervereinigung การรวมประเทศเยอรมนีเมื่อป 1990: 12 ปผานไป ความแตกตางทางความคิด(ทางการเมอืง)และทางเศรษฐกจิระหวางตะวนัตกกับตะวนัออกยังคงอยู คงตองใชเวลาอกีชวงชัว่คนกวาความแตกตางน้ีจะหายไปได X wie Xenophobie สภาวะหวาดกลัวคนหรือสิ่งที่ตางไปจากตน: ปรากฏการณทางจิตในระดับรุนแรงที่ตอตานหรือเปนศัตรตูอคนหรอืส่ิงท่ีตางไปจากตนเอง Y wie Yaba ยาบา: มาจากประเทศไทยเราเอง แตเขามาระบาดในเยอรมันแลว เปนสิ่งเสพติดที่เปนที่รูจักในระดับหน่ึงจนทับศัพทเรียกเอาเสียเลยเพื่อความสะดวก Z wie Zuwanderungsgesetz กฎหมายเรื่องการอพยพเขาของชาวตางชาติ: เปนท่ีถกเถียงกันในรายละเอียดอยูมากวาจะออกมาในทางปฏิบัติอยางไร

Kassel, den 13.05.2002 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มุมที่เหลือ (ตอจากหนา ) Jo แบบฝกหัดที่ 2 ปรนัยแสนสนุก 2.1 ทะเลอะไรกั้นเอเซียกับแอฟริกา a. ทะเลแดง b.ทะเลเหลือง c. ทะเลดํา d.ทะเล Dead Sea 2.2 เทียบกันตามเสนละติจูดแลว อะไรอยูใกลขั้วโลกมากสุด a. Frankfurt, เยอรมัน b.โตเกยีว, ญี่ปุน c. ชิคาโก, อเมริกา d.เมืองอูลานบารตอ, มองโกเลีย (ดูเฉลยหนา 69)

2.3 ทวีปอะไรใหญเปนอันดับ 3? a. อเมริกาใต b.เอเซยี c. อเมริกาเหนือ d.แอฟริกา แบบฝกหัดที่ 3 ตอบไดเจง 1. ภูเขาเอเวอรเรสตสูงที่สุดในโลกที่อยูในเนปาล สูงสักกี่เมตรได? 2. แลวดอยอินทนนทของเราละ สูงที่สุดในไทยสูงกีเ่มตร 3. European Union มีประเทศเปนสมาชิก 15 ประเทศมีอะไรบาง? 4. ประเทศอะไรในขอ 3 ยังไมไดใชเงินยูโรบาง มีอยู 3 ประเทศ?

Page 57: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 56

เหตุบานการเมือง ผูกระเบิด จร ยามแดง

รอบตัวเราชวงนี้มีคนคุมคลั่งเปนขาวใหเห็นบอยๆ หลายรูปแบบหลายสถานที่และดูเหมือนดวยสาเหตุท่ีแตกตางกัน แตถาพิจารณาดูจะเห็นวาเขาเหลานั้นมีความคลายคลึงกันอยูอยางหนึ่ง ไมวาจะเปนคนขับเครื่องบินชนตึกในอมริกา คนปาเลสไตนที่ผูกระเบิดไปฆาตัวตายกลางกลุมชนอิสราเอล วัยรุนลากปนบุกยิงครูนักเรียน และฆาตัวตายตามที่เกิดขึ้นแลวหลายครั้ง รวมทั้งครั้งลาสุดในเยอรมันน่ีเอง ผูกอเหตุเหลานั้นมีจุดรวมกันอยางหน่ึง นั่นคือความไมเสียดายชีวิตตนเอง เหน็ชีวิตมคีานอยกวาการกอเหตุอะไรบางอยางท่ีขาดสาระและเปาหมายสาํคัญ อันเปนสิ่งขัดธรรมชาติที่สุด เพราะไมวาจะเปนคนหรือสัตว เมือ่มีภัยอนัตรายใดๆ ดวยสัญชาติญาณยอมตองพยายามรักษาชวีติไวกอนเสมอ อะไรทําใหพวกเขาทําในสิ่งที่รูอยูแกใจวาผลทายที่สุดคือการจบชีวิตของตนเอง?

คนไมกลัวตายไมใชเรื่องแปลก นักบวชที่ฝกสมาธิและควบคุมจิตไดยอมไมหวั่นไหวตอการละสังขาร สงฆในพุทธศาสนาหลายทานสามารถบรรยายไดถึงการ -เกิด- และ -ดับ- ไมใชเพราะทานเหลาน้ันอานมากหรือพูดเกง หากแตทานสัมผัสสภาวะ –ดับ- มาแลว ทานเหลานั้นพรอมที่จะ –ดับ- อยูทุกลมหายใจ เมื่อเวลามาถึง อยางไรวิตกจริตหรือทุรนทุรายใดๆ

ใครเคยคิดพิจารณาถึงความตายของตนเองคงพอเขาใจไดวาทายท่ีสุดความตายไมไดมคีวามนากลัวใดๆ กิเลสละเอียดในรูปของความรักชอบอาลัยอาวรณตอโลกยที่เรายังตัดไมได จะรบกวนในรูปแบบของความเศราอาลัยที่จะสูญเสียเทานั้น จะมากจะนอยก็ขึ้นอยูกับความยึดมั่นถือมั่นของแตละคน หากตัดอาลัยสวนนี้ไดแลว หรือลดมันลงในระดับต่ําได ชีวิตจะตายหรืออยูก็แทบจะไมตางกัน

หากใครไมเคยก็ลองคิดดู คิดถงึวันตายของตนเอง ครั้งแรกที่สรางภาพข้ึนมาไดจะพบกับความเศราและสับสนอยางไมเคยพบ ตอเมื่อเราพิจารณามันหลายครั้งหลายหน เราจะเริ่มคุนเคยและเขาใจ ใครที่สามารถคิดและพิจารณาถึงความตายของตนเองอยูกอนนอนไดทุกคืนและรับรูในความจริงแทตรงน้ีได ยอมจะเยือกเย็นตอปญหาตางๆ ขึ้นมากกวาเดิม ไมทุรนทุรายกับปญหาเล็กๆ นอยๆ และการดับไปของลาภยศสรรเสริญอันเปนธรรมดาที่ผานไปมาในทุกชีวิตมนุษย

วิถีทางเขาสูความตายแบบพุทธนั้น สงบ สันโดษ และไมเปนภัย ความตายเปนเรือ่งของปจเจกบุคคล เปนสิ่งทายที่สุดของชีวิต คนท่ีไมกลวัความตายและมีเปาหมายชีวิตท่ีปจจัยตางๆ ในสังคมไมสามารถชวยใหพวกเขาบรรลุเปาหมายนั้นๆ ได จึงอาจหันเขาหาการแลกชีวิตกับการบรรลุผลนั้นๆ เมื่อพิจารณาแลวเห็นวาไดประโยชนที่คุมคากัน เปนการตายท่ีผานการพิจารณาแลวและทําอยางมีสติ ในดินแดนพุทธมักเปนการละสังขารตนเพื่อกระตุนเตือนผูมีอํานาจแตโงเงา(หรือสารเลว-แลวแตกรณ)ี ใหมองเห็นปญหาของผูคน รับฟงและจัดการแกไข หรือไมก็เพื่อกระตุนเตือนเพื่อนมนุษยรวมสังคม เชน กรณี

Page 58: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 57

คุณสบื นาคะเสถียร ท่ียงิตัวตาย และแมชีที่เกาหลีทานหนึ่ง(ตองขออภัยที่จําชื่อทานและป พ.ศ. ไมได) ที่เผาตนท้ังเปนเมื่อราวสิบกวาปมาแลว ใบหนาท่ีเยือกเย็นทามกลางเปลวไฟท่ีลุกโชนบนรางที่นั่งขัดสมาธิอยางสงบน้ันบอกถึงสภาวะจิตที่สูงสงไดอยางชัดเจน

ดุเดอืดกวานัน้คงตองยกตัวอยางองคกรใตดิน “ญี่ปุนแดง” ที่ทําใหนักการเมืองชั่วชาของญี่ปุนในขณะนั้นตองรามือการทําชั่วและรับฟงประชาชนมากขึ้น เพราะกลัววาสักวันจะถูกหน่ึงในกลุมญี่ปุนแดงผูกระเบิดวิ่งเขาใส แนวคิดตายเพื่อชาติ แลกชีวิตตนกําจัดผูปกครองสารเลว ของกลุมญี่ปุนแดง อาจเปนลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมญี่ปุน ที่พัฒนามาเปนรูปแบบ”คามิกาเซ” ยุคใหม แตก็อาจประยุกตใชในประเทศที่ผูนั่งบัลลังกขายชาต ิหลอกลวงสวาปามอยางหนาดาน และถืออภิสิทธิ์เหนือประชาชนไดเชนกัน หากจําเปนที่กลาวมาขางตนเปนการตายอยางมีสต ิ

แตเหตุการณที่เกิดบอยครั้งขึ้นทุกวันนี้เปนการกระทําที่ขาดสต ิหรือไมก็สับสนคลุมเครือในเปาหมาย จิตของผูตายอยางมีสตินั้น ยอมสงบเยือกเย็น ตางไปอยางสิ้นเชิงจากผูตายอยางเสียสติหรือขาดสติที่จะกระเพื่อมอยางรุนแรงดวยคลื่นลมแหงความแคน ความโกรธเกลียดชัง ความสะใจ หรือความหวังยึดถือมั่นแรงกลาที่จะบรรลุสิ่งแสวงหา เชนดินแดนสวรรควิมานตามสัญญาที่จะไดรับจากการปฎิบัติเชื่อฟง

ไมมีญี่ปุนแดงหนาไหนจะขับโบอิ้ง 747 พรอมผูโดยสารเต็มลําชนอาคารที่เปนสัญลักษณแสดงความยิ่งใหญของวัฒนธรรมตลาดเสร-ีบริโภคนิยมของอเมริกัน ถาจะทํา เขาคงวางแผนรัดกุมเพื่อผูกระเบิดว่ิงใส(อดีต)ประธานาธิบดีอเมริกันผูที่สั่งใหใชนิวเคลียรฆาประชาชนญ่ีปุน มากกวาที่จะฆาคนบริสุทธิ์เพื่อทําลายสัญลักณที่เปนเพียงเปลือกปลอม เพราะพวกเขากลา เขาพรอมท่ีจะตาย แตเขาไมโง เขามีเหตุผลและสามัญสํานึก ปญหาของปจจุบันคือมีคนกลาคนพรอมจะตาย เพราะความผิดหวังคุมคล่ัง แตขาดปญญาและงมงายเชื่อคนงาย ไมเชนน้ันก็โศกเศราจนขาดสติยัง้คิด ฆาตวัตายพรอมคนบรสุิทธ์ิดวยอารมณแตขาดเปาหมายแทจริง แทนที่จะยุติปญหา จึงกลับกระพือไฟความขัดแยงใหมากขึ้น

ผมเคยคุยกับคริสตและมุสลิมท่ีเครงศาสนาจัดและพอเขาใจพวกเขาไดลางๆ ผมเคยเรียนรักษาดนิแดนกบัครฝูกท่ี”รักชาติ”อยางยิง่ยวด พวกเขาทุกคนลวนไมใชคนเลว แตพรอมจะทําทุกอยางเพ่ือสัญลักษณท่ีเขารักและสรรเสริญเพื่อแลกกับการเปน “ผูรักชาติ” หรือ “ผูเครงศาสนา” โดยหากเปนเรือ่งเกีย่วกบั “ชาติ” หรือ “พระเจา”เขาจะไมใชปญญาตนเองในการพิจารณาเพราะน่ันเปนสิ่งตองหาม คนกลุมนี้มีไมมาก แตกไ็มนอย มักเปนคนมีความสามารถทีถ่กูลางสมอง จึงมีอนัตรายมากหาก “ตกอยูในมือ” ของผูที่สามารถโนมนาวใหกระทําการบางอยางเพื่อสัญลักษณที่เขาบูชา คงจําไดเมื่อคราวอัฟกานิสถานเริ่มถูกโจมตี นักบินอเมริกันที่ทิ้งระเบิดลงตัวเมืองใหสัมภาษณอยางภาคภูมิใจกับปฎิบัติการดังกลาววารูสึกยินดีมีความสุขมากเมื่อกดปุมทิ้งระเบิด-คงเปนความรูสึกเดียวกนักับ ผูขับเคร่ืองบินโดยสารชนอาคารเวิรลเทรด เขาทั้งสองลวนถูกลางสมองใหเห็นวาการฆาคนบริสุทธิ์เพื่อชาติและเพื่อศาสนาเปนความงดงามและถูกตอง เขาสัมผัสกลิ่นคาวเลือดนาสะอิดสะเอียนเปนความหอมหวนชวนบริโภค

Page 59: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 58

เราๆ ทานๆ ที่ถือ”เพื่อนไทย” อยูในมือคงไมมีใครอยูในกลุมบุคคล”พิเศษ”ดังกลาว แตกมี็โอกาสกลายเปน “ระเบิดท่ีมชีวิีต” ไดหากขาดสติเชนกรณีบุกยิงครูในโรงเรียนและการผูกระเบิดฆาตัวตายของชาวปาเลสไตน เพราะในสวนนีค้งไมใชเกิดจากการลางสมองปลูกฝงระยะยาว แตนาจะเปนลักษณะของจิตที่ถูกกระทบกระเทือนจนควบคุมไมได และที่สําคัญคือปจจัยสําคัญน้ันอยูรอบๆ ตัวเรานี่เอง

ผมมีเพื่อนสองคนที่ฆาตัวตายไปเมื่อสิบกวาปที่ผานมาเพราะอกหัก ขาวหนังสือพิมพไทยมีคนอกหักยิงคูรักเกาตายแลวฆาตัวตายตามแทบทุกสัปดาห เพื่อนผมสองคนนั้นคอนขางออนไหวและโรแมนติค ผมเชื่อวากรณีอื่นคงคลายคลึงกัน คนที่ออนไหวตอความผูกพันตางๆ โดยไมเคยพจิารณาละวาง”ตัวกู-ของกู” ไมเคยคิดถงึวันตายของตน วาสักวันของรักของหวงทั้งสิ้นยอมจากเราไป คือผูที่เสี่ยงที่สุดที่จะทําลายชีวิตตนเองอยางไรเปาหมายและไรประโยชน เพราะเขาจะฆาดวยความตองการประชดประชัน ความผิดหวัง และความเกลียดชัง โดยไมคํานึงถึงผลท่ีจะตามมา คนเหลานี้ยอมไมเคยพิจารณาความตายในขณะที่ยังมีสต ิ เสพยเปลือกโลกียสุขไปตามชีวิตประจําวันเพราะยังไมถึงเวลาตาย จึงไมอาจยอมรับสภาพของการ “ดับ” จากไปของสิ่งรักของหวงได

หากเราเกลียดชังระบบการศึกษาแบบลางสมองคน สงเขาสายพานปอนระบบอุตสาหกรรม เกลียดระบบโรงเรียนสอนทองจําไปสอบใหเชือ่ใหฟงหามคิดหามเถียง ตอบตรงรับเขาความคดิแตกตางคัดออก สมควรหรือที่จะลากอาวุธสงครามถลมโรงเรียนหรือสถาบันที่เราสอบไมติด? หรือหากพอแมพี่นองเราตายจากผลอาวธุเคมีท่ีอเมริกันโปรยลงมาในสงครามเวียดนาม เราควรผูกระเบิดไปฆาคนกลางนิวยอรคหรือไม?

อารมณชัว่วูบทําใหวยัรุนบางคนเห็นโรงเรยีนและครอูาจารยเปนศตัร ู ทั้งที่สิ่งที่เขาขัดแยงดวยคือระบบคัดเลือกคนปอนเปนพลังงานขับเคลื่อนกงลอทุนนิยมเสร ี อารมณชั่ววูบสรางความแคนและเกลียดชังใหหญิงปาเลสไตนที่สูญเสียสามีหรือลูกชายจากกระสุนปนของทหารรัฐบาลเผด็จการอิสราเอลบาอํานาจ(ไมตางอะไรกับรัฐบาลประธานาธิบดีพอลูกเสี่ยน้ํามันอเมริกัน) ผูกระเบิดไปฆาคนอิสราเอล-ใครก็ไดขอใหเปนอิสราเอล ผมเชื่อวาเขาเหลานั้นไมอาจยอมรับความผิดหวังจากความสูญเสียได เห็นชีวิตตนเองเปนอาวุธชิ้นสุดทายที่จะลากคอ”ศัตรู” ดวยความแคนใหตกตายไปพรอมกนั พวกเขากลา พวกเขาพรอมจะตาย แตเพราะไมใชปญญาพิจารณาพวกเขาจึงตายเปลาอยางนาเสียดาย ทั้งยังชวยใหศัตรูที่แทจริงของเขาระมัดระวังมากข้ึน เขมแข็งขึ้น และมมีาตรการท่ีแข็งกราวยิง่ข้ึนท่ีจะใชความรุนแรงโดยอางความชอบธรรมจากกรณีที่ผานมา

ในความคิดของผม การท่ีใครจะติดอาวุธตนเองบกุเด่ียวเขาทาํลายอะไรบางอยางท่ีเลวรายเปนปรปกษกับเพื่อนมนุษยและสมควรถูกกําจัด โดยรูแกใจวาตนเองจะไมมีโอกาสรอดกลับมาอีก หรือการผูกระเบิดแลกชีวิตตนกับเผด็จการหรือนักการเมืองผูมีอํานาจที่กดขี่ขมเหงลวงหลอกประชาชนเพ่ือใหมวลชนที่เหลือเปนอิสระจากกรอบอํานาจของผูปกครองนั้นเปนวีรกรรมที่ยิ่งใหญอยางหนึ่ง และท่ียิง่ใหญ

Page 60: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 59

กวานั้นคือการแลกเพียงหนึ่งชีวิตตนเองกับการปลุกสํานึกมวลชนใหตื่นขึ้น เปนอิสระจากกรอบความคิดของตนเองที่ถูกกฎเกณฑสังคมลางสมอง และมองเห็นปญหาและชวยกันจัดการแกไขลบลางวิสัยทัศนที่เคยมืดบอดและมองการสรางสะสมปญหาเปนแนวทางดําเนินชีวิตอยูนาน

มองจากมุมนี้มนุษยทุกคนลวนผูกระเบิดอยูในใจแลวทั้งสิ้น ตางกันกต็รงท่ีวาเราไดฝกจติใหพรอมแคไหนที่จะละสังขารตน และที่สําคัญคือมีเปาหมายที่ชัดเจนและคุมคาที่จะแลกชีวิตดวยหรือไม ถาจิตกย็งัไมพรอม ชีวิตเรียนไปทํางานไปวันๆ หาเปาหมายในชีวิตไมม ี หากอกหักหรือเคียดแคนจากอะไรบางอยางท่ีผานเขามาอยางรุนแรง เราก็คงไมพนเปนเพียงระเบิดไรประโยชนท่ีทําลายไดเพียงแคตัวเองและชีวิตคนรอบขางในสังคมเทาน้ัน

เว็บไซท thailife.de และสมาคมนักเรียนไทยในเยอรมันในพระบรมราชูปถัมภ (ส.น.ท.ย.) ขอเชิญชวน เพื่อนๆนักเรียนไทยในเยอรมันรวมประกวดบทความ ภาษาเยอรมัน ในหัวขอ “ Was können die Deutschen und die Thailänder von einander lernen?”

ชิงรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ-แฟรงคเฟรต และรางวัลอื่นๆ มากมาย

ผูมีสิทธิสงบทความ นักเรียนไทยในเยอรมันทุกคนไมวาจะเรียนอะไร หรือเรียนอยูระดับไหน ขนาดและรูปแบบของบทความ 2-3 หนา กระดาษ A4 ฟอนท Courier New ขนาด 12

ไมจํากัดรูปแบบการเขียน และสามารถเขียนรวมกันไดมากกวาหนึ่งคนตอบทความหนึ่งบทความ ระยะเวลาการสงบทความ 24 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2545 ประกาศผล 28 กรกฎาคม 2545 ในงานสัปดาหไทย ณ Bad Homburg

รางวัลชนะเลิศ ต๋ัวเครือ่งบนิไปกลบักรงุเทพ-แฟรงคเฟรต บัตรรับประทานอาหารไทย 50 Euro รางวัลรองชนะเลิศ บัตรกํานัลซื้อหนังสือ 300 Euro บัตรรับประทานอาหารไทย 50 Euro รางวัลชมเชย บัตรกํานัลซื้อหนังสือ 200 Euro บัตรรับประทานอาหารไทย 50 Euro

ติดตอสอบถามและสงบทความไดท่ี: thailife.de

Friedrich-Stoltze- Strasse 74 65824 Schwalbach

คุณแอน Tel. 06196 - 951 9751 Fax 06196 - 951 9755 e-mail: [email protected]

Page 61: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 60

นิราศเยอรมัน บวร ( อ่ึง )

นิราศรางหางไกลไปเมอืงนอก

ตนเมษาขอลาแลวบางกอก วันจะออกเดนิทางน่ังทําใจ ญาติโกโหติกาท่ีรูจกั อีกเกลอรักคุนหนาอัชฌาสัย พอกับนองพรอมพรักสมัครใจ รวมกันไปสงอ่ึงถึงดอนเมอืง

คูหมั้นหมายวุนวายเปนธุระ ชวยเตรียมตระกะการณงานทุกเรื่อง ตองมารางหางไกลไปตางเมือง คิดขดัเคืองโชคชะตาชางกระไร เพิ่งจะผานพนงาน Engagement ก็จําเปนตองหางพลางใจหาย ถึงยังไงก็มาสงกันมากมาย จะบิดพลิ้วยักยายอยางไรกัน

ทุนก็ไปเอาของเขามาแลว นกระแดวขอมาแทบอาสญั พอเขาใหจริง ๆ …บะแลวกัน อยากใหมันยืดออกไปสักหลายเดือน คนเขาเลี้ยงสงไปก็หลายมื้อ หากจะยือ้อยูนานนักชกัดูเฝอน คิดคิดไปหมดหนทางจะบิดเบือน ตองไปเยือนเยอรมันกันซะแลว

กอนข้ึนเครือ่งเดินองอาจมาดมุงม่ัน แตไมทันเทาไรใจเริ่มแปว เออนี่เราตองไปจริงจริงแลว ขอพอแกวแมแกวชวยคุมครอง ข้ึนบนเครือ่งไดน่ังขางตาง ลัดความหมางหมนกมลหมอง จะไปเปนนักเรียนนอกดังใจปอง ก็จะลองดูซักตั้งจะเปนไร

ผูโดยสารไมมีชื่อ “ทักษิณ” เรอืคงบินแคลวคลาดลงตรงจดุหมาย Lufthansa-take off ออกบินไป ประมาณไดสองตื่นก็ถึงพลัน เครื่อง Landing วิ่งลงตรง Frankfurt ดูหรเูริด่กวางใหญกระไรน่ัน เดินเวียนวนคนหาอยูชานาน จึงพบพานสถานีเดินรถไฟ

จับรถไฟตอไปไมชาชัก มินานนักถึง “มารบวรก” เปนที่หมาย ตอ Taxi เบนซตรากลมดูคมคาย นั่งเฉิดฉายเปนบุญกนคนชั้นเรา อยูเมืองไทยไดเปนรถเศรษฐี อยูท่ีนี่เปน Taxi ใหคนเชา ดูรถเบนซแลวยอนดูตัวเรา พอจะเหมาประมาณไดวาคลายกัน

อยูเมืองไทยใสหัวโขนอาจารยหมอ ตําแหนงพองามหรูดูคมสัน นาทีนี้โขนเก็บวิกปดฉากพลัน ถอดหัวโขนเหลือหัวฉันแตหัวเดียว เปนหัวเดี่ยวเดียวดายกระเทียมลีบ ถึงไมฟบแตไมฟูดูเปลาเปลี่ยว ดวยหนาที่แบกมาเต็มบาเชียว ถึงจะเด่ียวกต็องอยูสูสิเรา

Page 62: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 61

เมอืงมารบวรกตอนน้ีมาอยูอาศยั ครึ่งเมืองดูคลาสสิกดีเปนเมืองเกา บานเล็ก ๆ เรียงรายตามไหลเขา ชวนใหเรานึกถงึเมอืงในนิทาน พีน่องกริมมเคยพาํนักพกัอาศัย เขียนนิยายนายกริมมใหเด็กอาน บรรยากาศผสานจนิตนาการ เกิดผลงานฝากไวใหพวกเรา

Elisabeth โบสถเกาของเมืองน้ี ดูขรึมดีในสไตลยุโรปเกา อีกปราสาท Landgrafen ก็ไมเบา พอจะเอาไวดูไดเพลิดเพลิน ภูมิทัศนโดยรวมก็พอไหว พอดูไดชมไดไมขัดเขิน หากมคูีเดินขางพลางหยอกเอนิ คงจะเพลินสุขใจมิใชนอย

แตที่ไมสบอารมณหมาย ดวยเชาสายบายค่ําฝนพรําบอย ฟาซึมเซาเทาหมนยามฝนปรอย คนก็พลอยหดหูดูซึมไป พระพิรุณเมืองนี้ขี้เลนนัก ฝนที่นี่จึงยึกยักนาสงสัย กางรมปุบฝนหยุดปบเหมือนลองใจ หุบรมไปมันตกใหมใหขัดเคือง

มาซือ้ของท่ีน่ีมีเรือ่งเลา ดวยภาษาของเรายังไมเฟอง จึงเกิดเรือ่งชวนหัวอยูเนืองเนือง นับหลายเรื่องตั้งแตตนดั้นดนมา จะตมแกงตัง้ใจไปซือ้ไก แตไฉนไดกระตายนากังขา เจาตัวนอยนาสมเพชเวทนา แผเมตตาแลวซดหมดเกลี้ยงเลย

คราต้ังใจซื้อน้ํายามาลางจาน ก็เกิดเหตุพิสดารดังจะเอย ดวยเห็นขวดรูปทรงก็คุนเคย ไมนึกเลยพลาดผิดอนิจจา ซื้อมาบานใชไปชักทะแมง ดวยน้ําขนกลิ่นแรงเปนหนักหนา เปด Dict. ดูรูความตามตํารา เปนน้ํายาลางสวมอวมอรทัย

ณ ท่ีน้ีถงึทีตองขอจบ แมไมครบถี่ถวนอยาสงสัย แมไมหวานเหมือนดั่งที่ตั้งใจ แมไมไพเราะหนักหนาอยาวากัน ดวยฝไมลายมือมีเทานี ้ ฝากไมตรีเปนรอยกรองทํานองขาน

สงขามฟาแมตัวไกลใจผูกพัน จนถึงวันพบกันใหมภายหนาเอย

GERMANY, April 2001

Page 63: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 62

ธรรมะอบรมใจ เราเกิดมาทําไม รสธรรม เธอจงระวังความคิดของเธอ เพราะความคิดของเธอจะกลายเปนความประพฤติของเธอ เธอจงระวังความประพฤติของเธอ เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเปนความเคยชินของเธอ เธอจงระวังความเคยชินของเธอ เพราะความเคยชินของเธอ จะกลายเปนอุปนิสัยของเธอ เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ เพราะอุปนิสัยของเธอจะกําหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต (โดย พระอาจารยชา สุภัทโท) หลังจากที่ไดอานขอความของพระอาจารยชา สุภัทโท ที่ไดรับมาจากเมลท่ีเพื่อนคนหนึ่งสงมา

ให แลวก็เลยพอจะไดคําตอบท่ีเคยเฝาถามตัวเองมานานแลววา เราเกิดมาทําไม เราเกิดมาทําไม นั้นนะสินะ เพื่อนๆ เคยลองถามตวัเองบางไหมคะวาเราเกดิมาทําไมจากขอ

ความของพระอาจารยชา สุภัทโท นั้น คําตอบหนึง่ก็คือเกิดมาตามชะตากรรมท่ีเราเปนผูกาํหนดไงคะ จะสังเกตไดวา เราเกิดมาก็เกิดมาแตตัว ไมมีเสื้อผา ไมมีเพื่อน เอ สงสัยคงตองยกเวนคนที่เกิดมาเปนฝาแฝดกันแลวมั้งคะ ดังนั้นเมื่อจะตายไปก็คงไมสามารถเอาอะไรติดตัวตามไปไดหรอกคะ

มีบางคนไดกลาวไววา ตั้งแตที่เราลืมตาขึ้นมาอยูในโลกนี ้ เรากเ็กิดมาพรอมกับ ความเจบ็ ความแก และความตาย เพียงแตวาความเจ็บ ความแก และความตายนั้น จะมาปรากฏใหเราเห็นตอนไหนก็เทาน้ันเองคะ

ทุกวันนี ้ถาเราลองสังเกตดู รางกายของเรานี่ทุกสวน มันเสื่อมไปหมดคะ ยกตัวอยาง เชน ผมมันก็เสื่อมไป รวงไป ขนมันก็เสื่อมไป เล็บมันก็เสื่อมไป หนัง มันก็เสื่อมไป อะไรทุกอยางมันเสื่อมไปหมดทั้งนั้นคะ ถาอยางนั้นแลว เราจะเกิดมาทําไมละคะ เกิดมาเพื่อทรมานหรือคะ เกิดมาใหไดรับความทุกขอยางน้ันหรือคะ เอาเถอะนา ไหนๆ ก็เกิดมาแลว ก็อยาใหเสียชาติเกิดแลวกัน เราลองมาดูตามหลักการของวิทยาศาสตรซะหนอยนะคะ ที่วาเมื่อมีการกระทํา (Action) ก็ยอมมีการกระทํากลับ (Reaction)

เราเกิดมาทําไม หลายๆ คนตอบวา เกดิมาเพือ่ชดใชกรรมเกาบางละ เกิดมาเพื่อสรางกรรมใหมบางละ คําตอบแรกนี้เห็นทาจะจริงนะคะ ถาเราลองเฝาสังเกตดไูดจาก ทําไมบางคนที่เกิดมาพรอมดวยทรัพยสมบัติ หรือรูปสมบัติ หรือทั้งสองอยางก็ตาม แตบางคนกลบัเกดิมา แมแตอวัยวะยังไมครบ 32ประการเลย เชน คนที่ตาบอด หรือหูหนวกแตกําเนิด เปนตน ทําไมจึงเปนเชนนั้น เราเคยไปทํากรรมอะไรใหกับใครไวที่ไหนอยางไรหรือเปลาคะแตเมื่อเราเกิดมาแลว ไมวาจะอยูในลักษณะใดก็ตาม หลังจากท่ีเราไดชดใชกรรมเกา เมื่อชาตทิี่ผานมาแลว คําตอบที่สองก็คงจะเปนจริงอีก ก็เราอีกนั่นแหละที่เปนผูสรางกรรมใหม ที่เราตองไดชดใชแน ไมชาตินี้ก็ชาติหนา สวนมากไมตองรอไปถึงชาติหนาหรอก รับรองในชาติ

Page 64: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 63

นี้แน ตัวอยางเชน การที่เราทําดี แลวเราเกิดความสบายใจหรือเราทําไมดี ตัวเราเองนั่นแหละที่ทุกขใจเอง แคนี้ก็เห็นผลกรรมชัดๆ อยูแลว ไมตองไปดอูะไรมาก

สรุปแลวการกระทําตางๆ ของเราคงหนีไมพนเรื่องของกรรมเปนแนแท เราลองมาศึกษาทําความเขาใจกันดใูนเรือ่งของกรรมกันดกีวาคะ หลังจากนั้นเราก็เลือกเอาแลวกันวา เราควรจะประพฤติแบบเดิมตอไปเรื่อยๆ หรือเราควรจะเพิ่มหรือลดการกระทําบางอยางของเราลงคะ กรรม สามารถจําแนกไดเปนประเภทใหญๆ ได 3 ประเภท ดังตอไปนี้ คือ 1. กรรมที่ใหผลตามความหนัก-เบา ซึ่งจําแนกยอยไดเปน 4 ประเภทคือ 1.1 ครุกรรม หรือ กรรมหนัก กรรมประเภทนี้มีอํานาจเหนือกรรมอื่นใดทั้งสิ้น จะสงผลในทันที ถาเปนกรรมฝายกุศล เชน ผูท่ีไดฌานสมาบัติ ยอมไปบังเกิดในพรหมโลก ไมมีอกุศลอืน่ใดมาขัดขวางได ถาเปนครุกรรมฝายอกุศลกรรม หรือกรรมชัว่อยางหนัก เชน อนันตรยิกรรม คือ การฆาบิดา มารดา ฆาพระอรหันต ทํารายพระพุทธเจาจนถึงหอพระโลหิต และการทําใหสงฆแตกสามัคคีกัน ที่เรียกวา สังฆเภท ยอมตกมหานรกอเวจีทันทีหลังจากชาตินี้ ไมมีบุญ กุศลใดๆ มาชวยเหลือปองกันได 1.2 อาจิณณกรรม หรือ กรรมสะสม กรรมสะสมฝายกุศล ไดแก การทําบุญใหทาน รักษาศีล เจริญภาวนา การต้ังอยูในศลีในธรรม การละเวนความชั่ว เปนตน เมื่อสะสมกุศลทั้งหลายแมทีละเล็กทีละนอยเมื่อสะสมอยูเรื่อยๆ มากเขา ก็กลายเปนพลังกุศลที่เพิ่มมากขึ้น สวนกรรมสะสมฝายอกุศลไดแกการทําความชั่วทั้งปวงไมวาจะเปนการฆาสัตววันละเล็กวันละนอย เชน การฆามดหรือการตบยุงก็ตาม กรรมประเภทนี้จะใหผลรองมาจากอาสันนกรรม 1.3 อาสันนกรรม หรือ กรรมเมื่อใกลตาย คือกรรมท่ีระลึกเมื่อใกลจะตาย มีอิทธิพลในการสรางภพสรางชาติใหมรองจากครุกรรม อาสันนกรรมที่ใหผลกอนตายนั้นใหผลหนักเบาในลักษณะที ่แมจะทําความดีมาตลอดชีวิต กอนตาย จิตเศราหมองดวยเรือ่งใดเรือ่งหน่ึง อาสันนกรรมนี้ก็จะบันดาลใหไปสูอบายภูมิกอนกรรมอื่นจะใหผล ยกตัวอยางเชน เศรษฐีผูหนึ่ง บริจาคทรัพยสม่ําเสมอ ตักบาตร ฟงธรรม รักษาศีลเปนนิจแตตอนปวยหนักใกลจะตาย ขาดการดูแลเอาใจใสจากลูกหลาน เกดิความนอยเนือ้ตํ่าใจ เสียแรงที่เปนมหาเศรษฐ ี มีเงินมีทองมากมาย แตก็ไมสามารถซื้อความดูแลจากใครๆได ดูแลวไมตางจากยาจกเข็ญใจ ทําใหนึกเห็นภาพยาจกอยูเนืองๆ พอจิตสุดทายจับที่ยาจก จึงทําใหไปปฏิสนธิในทองของยาจกในชาติถัดไป หรืออีกตัวอยางหนึ่ง พระนางมัลลิกาเทว ีผูเปนมเหสีของพระเจาปเสนทิโกศล ทําความดมีาตลอดชวีติ กอนตายจติเศราหมองเน่ืองจากเคยเดินสะดุดเทาพระสวาม ีเปนเหตุใหเทาของทานตองแหยในนรกถึง ๗ วันมนุษย เปนตน ในทางตรงกันขามคืออาสนันกรรมฝายกุศล เมื่อจิตระลึกไดกอนที่จะดับไปจากภพภูมินี้ ก็ยอมจะมีอิทธิพลไปสรางภพภูมิใหมท่ีดไีด ถึงแมวาจะประกอบอกุศลเปนประจําอยูก็ตาม ดังนั้นอาสันนกรรมจึงทําหนาที่เปนชนก

Page 65: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 64

กรรม คือกรรม ท่ีนําไปเกดิในชาติถดัไป หลังจากหมดหนาที่ของชนกกรรมแลว อาจิณณกรรมทั้งฝายกุศล และฝายอกุศลก็จะเขามาทําหนาที่ใหผลตอไป 1.4 กตัตตากรรม หรือ กรรมเล็กๆ นอยๆ คือกรรมท่ีสักแตกระทํา ไมวาจะเปนฝายกุศลหรือฝายอกุศลก็ตาม จะใหผลเมื่อกรรม ประเภทอื่นๆ ใหผลหมดแลว ดังน้ันกรรมประเภทน้ีจึงเปนกรรมท่ีใหผลนอยที่สุด 2. กรรมที่ใหผลตามหนาที่ ซึ่งจําแนกยอยไดเปน 4 ประเภทคือ 2.1 ชนกกรรม หรือ กรรมที่ใหผลมาตั้งแตเกิด เปนกรรมท่ีใหกําเนิดดจุบิดามารดา คือใหผลในการปฏิสนธิในชาตินี้หรือชาติหนา เชน การเกิดมาในภพภูมิที่สูง หรือต่ํา หรือ การเกิดในภพภูมิมนุษย ในครรภมารดาท่ีเปนเศรษฐ ีหรือเกิดมาเปนสัตวเดรัจฉาน เปนตน 2.2 อุปตถัมภกกรรม หรือ กรรมที่เปนพี่เลี้ยง คือกรรมที่รอใหผลตอจากชนกกรรม เปนกรรมท่ีเกิดมาจากกรรมสะสม ตัวอยางเชน หลังจากที่มหาเศรษฐีไดเกิดมาเปนทารกของยาจก แตจากการท่ีทารกผูน้ีไดเคยทํากุศลมาจากชาติปางกอน จึงทําใหมีผูที่เมตตา คอยชวยเหลอืเขาไมใหไดรับความยากลําบาก ในกาลตอมา หรืออาจมีเหตุบังเอิญใหไดเจอผูมีใจบุญรับไปเลี้ยงเปนบุตรบุญธรรม ใหไดศึกษาเลาเรียนในระดับสงูตอไป ทั้งนี้ก็เพราะอานิสงสของกุศลในชาติที่แลวน่ันเอง 2.3 อุปปฬกกรรม หรือ กรรมเบียดเบียน คือกรรมที่คอยขัดคอ เบียดเบียน บีบคั้น ใหกรรมกอนหนานี้เพลาลง ใหเสียหายไปบาง แตไมถึงกับรุนแรงไป เชน จากทีเ่คยทําความดมีา ทําใหไปเกิดในครอบครัวที่สุขสบาย แตจากการที่เคยเผลอไปฆาหรือเบียดเบียนสัตว จึงทําใหเปนคนท่ีมีสุขภาพไมคอยจะดี มีโรคภัยเบียดเบียนอยูตลอดเวลา หรือคนที่เกิดมาสุขภาพไมดี เจ็บปวยสามวันดีสี่วันไข แตผลจากกุศลกรรมที่เคยสะสมไว ทําใหหายจากโรคภัยไขเจ็บในไมชาได หรอืคนท่ีเกิดมายากจน ผลจากกรรมดีที่ไดสะสมไว จะดลใจใหรูจกัทํามาคาข้ึน ก็อาจมีโอกาสร่ํารวยขึ้นมาได เปนตน 2.4 อุปฆาตกกรรม หรือ กรรมตัดรอน เปนกรรมที่มีอํานาจมากเปนพิเศษ จะใหผลอยางรุนแรงในทันท ีสามารถขจัดหรือทําลาย กรรมที่ใหผลอยูกอนแลวได ตัวอยางเชน ไดเกิดมาในครอบครัวท่ีอบอุน ไดรับการศึกษา ในระดับสูง แตบังเอิญตองกลับบานดึก ก็เลยถูกฆาขมขืน หรอือาจเกิดอบัุติเหตุตายโหงได อันนี้จัดเปนกรรมตัดรอนฝายอกุศล หรือในทางตรงกันขาม เกิดมาในสลัมสกปรกยากจน บังเอิญไดทุนการศึกษาจากผูใจบุญ ทําใหไดมีโอกาสศึกษาเลาเรียนในระดับสงู หรืออาจไดลาภกอนใหญ จากการท่ีเจอคนทํากระเปาสตางคตกไว แตจากการสอบถามแจงความตามหาเจาของแลวไมปรากฏ ทําใหสามารถร่ํารวยขึ้นมาเปนเศรษฐี มั่งมีเงินทองขึ้นมาได เปนตน 3. กรรมที่ใหผลตามกาลเวลา ซึ่งจําแนกยอยไดเปน 4 ประเภทคือ 3.1 ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม หรือ กรรมที่ใหผลในปจจุบัน นั่นคือใหผลในชาติปจจุบันนั่นเอง ซึ่งแบงออกไดเปน 2 อยางคือ 3.1.1 ใหผลในเวลาท่ีไมนานนัก คือประมาณ ึ7 วัน

Page 66: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 65

3.1.2 ใหผลโดยไมมีกําหนดเวลา กรรมประเภทนี้เปรียบเหมือนการนําเมล็ดพันธุพืชตางๆ มาปลูกลงพรอมกันพืชบางชนิดให ผลเร็ว พืชบางชนดิเตบิโตใหผลชา บางชนิดก็ใหผลเปนระยะเวลายาวนาน ข้ึนอยูกับ กรรมท่ีทํานั้นเปนฝายกุศลหรือฝายอกุศล 3.2 อุปปชชเวทนียกรรม หรือกรรมที่ใหผลในชาติที่ตอจากชาตินี ้ เปนผลมาจากครุกรรมหรือกรรมหนัก 3.3 อปราปริยเวทนียกรรม หรือ กรรมที่ใหผลในชาติที่ตอจากชาติหนา คือกรรมที่ใหผลถัดจากชาติหนาไป โดยไมมีกําหนดวากี่ชาติ สุดแตวามีโอกาสเมื่อไร ก็ใหผลเมื่อน้ัน กรรมน้ีจะคอยติดตามอยูตลอดเวลา ถาตามทันเมื่อใดก็ใหผลเมื่อนั้น ยกตัวอยางเชน พระมหาโมคคัลลานะ พระอคัรสาวกเบ้ืองซายของพระพุทธเจาเคยทํารายทุบตีมารดาของทาน แตทานเปนพระอรหันตแลว เปนผูสิ้นอาสวะกิเลสเครื่อง เศราหมอง หมดเหตุที่จะนําพาใหไปเกิดใหม จึงไมมีชาติหนาอีก ไมตองไปเสวยผลกรรมในมหานรก แตทานก็ไมพน ทั้งๆ ที่ทานมีอิทธิฤทธิ์สามารถหายตัวได ทานยอมใหโจรทุบจนปรินิพพาน เปนตน 3.4 อโหสิกรรม หรือ กรรมที่เลิกใหผลคือกรรมที่ไดใหผลจนเสร็จสิ้นแลว หรือกรรมที่ตามไมทันจะใหผล พนกําหนดหมดเชื้อแลว จึงเลิกใหผล ยกตวัอยางเชน เรื่องของทานผูหนึ่งในสมัยพุทธกาล ที่ทานคลอดลูกออกมาแลวโดนยักษิณีแปลงมาขโมยเอาลูกไปกิน จนถึงลูกคนสุดทายทานก็เลย รูแกวรีบว่ิงเขาไปในพระเชตุวันมหาวิหาร ไปเขาเฝาพระพุทธเจา ยักษิณีเขาเขตวิหารไมได รออยูขางนอก จนกระทั่งพระพุทธเจาตองการแสดงเหตุที่คนทั้งสอง เฝาจองเวรกันและกัน มานานแสนนานแลว จึงตรัสเรียกใหยักษิณีเขาเฝาแลวแสดงเหตุใหทราบวา เคยเบียดเบียนกันมาอยางไร หลังจากที่ทั้งสอง ทราบเหตุแลวก็อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ก็เปนอันวากรรมท่ีเคยเบียดเบียนกันมา ก็เปนอันสิ้นสุด จะเหน็ไดวา เหตุการณบางอยางเปนเรื่องของกรรมที่ละเอียดออน สลับซับซอนยิ่งนัก หากเกิดข้ึนแลวจะทําอะไรเพื่อแกไขไมได นอกจากต้ังสตใิหมั่น ทําใจใหยอมรับไปตามกฎแหงกรรม การทําใจยอมรับกรรมนั้น คือการทําใจยอมรับ ความเปนจรงิในสิ่งที่เกิดขึ้น มิใชการนั่งงอมืองอเทารอใหผลมันเกิดขึ้นโดยไมทําอะไรดวยปญญาเลย หรือมัวแตทอแท ควรรีบเจริญสติทําแตความด ี ละเวนความชั่ว และทําจิตใจใหผองใสอยูเสมอ ตามหลักของพระพุทธศาสนา แตถากรรมนั้นบังเอิญเกิดขึ้นกับบุคคลท่ีเรารักเคารพ เราพงึรับรูวากรรมบางอยางก็เปนเรือ่งเฉพาะตัวบุคคล ทําไดเพียงแคแผเมตตาใหบุคคลผูเคราะหรายเหลานั้น และถามีโอกาสควรใหเขาไดทําความเขาใจในเรือ่งของกรรม และใหกําหนดการเจริญสติคะ(ซึ่งเคยไดเกริ่นไวแลวในเพื่อนไทยฉบับเมื่อปที่แลวคะ) นับตั้งแตเวลานี้ไป เราอาจเริ่มละกรรมที่เปนอกุศลได ดวยการทาํความด ีถือศีล 5 พัฒนาจิตใจเราใหกาวหนาไปในทางธรรมยิง่ข้ึน โดยการพิจารณาดูวา เมื่อมีเหตุการณใดๆ เขามา ในขณะนั้นจิตเราตกหรือไม เรารูสึกอยางไร มีโลภ โกรธ หลง หรือไม เพราะเหตุใด เมื่อรูท่ีสาเหตุนั้นแลวก็พยายามระงับที่ตนเหตุน้ัน สวนมากมักเกิดจากการไมถูกใจ ไมเปนที่พอใจของเรา เมื่อดับที่เหตุนั้นไดแลว ผลที่ไดก็คือการลดละกิเลสตางๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเหตุที่จะกอใหเกิดกรรมที่เปนไปในทางอกุศลดวยสุดทายนี้ขออํานาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักด์ิสิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลใหทุกๆ ทานมีสติอยูทุกเมื่อ เพือ่เจริญกศุลกรรมใหยิง่ๆ ขึ้นไป เจริญในธรรมทุกทานเทอญคะ

Page 67: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 67

ยอนอดีต สุภาวด ีมนตสถาพร

อาณาจักรดอยชที ่1-3 เราไดทราบความเปนมาของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอยางคราวๆ จากฉบับที่แลว วันนี้เราลอง

มายอนเวลาถอยหลังไปกวา 2,000 ป และดูสิวาเคยมีเหตุการณในประวัติศาสตรสําคัญอะไรบาง ท่ีเคยเกิดขึ้นบนดินแดนท่ีมีชื่อวาประเทศสหพันธรัฐเยอรมันนี ้

ราวๆ ค.ศ.0 เปนชวงเวลาท่ีอาณาจักรโรมันยงัคงรุงเรอืงอยู อิทธิพลของโรมันไดแผขยายมาถึงพื้นที่ซึ่งครอบคลุมประเทศเยอรมันในปจจุบันและโดยรอบ ทําใหมีการพัฒนาเกิดเปนสังคมมนุษยข้ึน เชน Franken, Sachsen, Alemanen(แถวรอบๆ ปาดําในปจจุบัน)และ Bayern (หรือที่เรียกกันวา บาวาเรีย)จนกระท่ังป ค.ศ.771 ดินแดนทั้งหลายนี้ไดรวมตัวกันกลายเปนหน่ึงอาณาจักรที่เรียกวา อาณาจักรฟรัง-เคน (Fraenkisches Reich) ซึ่งอยูภายใตการปกครองของพระเจาคารลผูยิ่งใหญ (Karl der Grosse)ซึ่งมีชีวิตอยูในชวง ค.ศ 768-816 กษัตริยแหงฟรังเคนทานนี ้หลังจากปค.ศ. 800 ไดกลายมาเปนจักรพรรดิ์แหงโรมันและถูกจดัวาเปนผูรเิริม่กอตัง้อาณาจักรดอยช (Deutsches Reich)ในภายตอมาทานยังไดถูกสรรเสริญยกยองจวบจนทุกวันนี ้ ดิฉันเชื่อวาคุณคงเคยเห็นชื่อของพระเจาคารลอยูบอยๆ ตามพิพิธภัณฑหรือในตํานานประวัติศาสตรของเยอรมันและยุโรป

สรุปก็คือ อาณาจักรดอยชที่ 1 (Das erste Reich) นี้มีที่มาจากประวัติศาสตรของโรมัน และถูกเรียกขานกันงายๆ ในตอนแรกวาดอยช (Deutsch)

ป ค.ศ. 911 พระเจาคอนราดท่ีหนึ่ง (Konrad I)ไดถูกแตงตั้งเปนกษัติรยปกครองอาณาจักร ฟรงัเคนทางตะวันออก และไดมีการนิยามคําวาอาณาจักรดอยชเปนภาษาละตินที่วา Regnum teutonicum ตั้งแตคริสตวรรษที ่11 ไดมีการเรียกดินแดนแหงนี้อยางแพรหลายวาอาณาจักรโรมันที่ศักดิ์สิทธิ์แหงชน ชาติดอยช (Heiliges Roemisches Reich deutscher Nation) เปนศูนยกลางของอาณาจักรโรมันแทนที่โรม (ในสมัยนั้นอิตาลีซึ่งเคยเปนศูนยกลางความเจริญสมัยโรมันไดออนแอลงไปมาก เหมือนที่คนไทยเราพูดกันวามีเกิดก็ตองมีดับนั่นแหละคะ) เจาผูครองจะถกูเรยีกวา กษัตริยหรือจักรพรรดิแหงโรมัน ขอบเขตของอาณาจักรท่ีหนึ่ง ทางทิศตะวันตกเริม่จาก Lothringen ซึง่อยูในแถบ Elsass ในปจจุบัน ถึง Boehmen ในทิศตะวันออก ซึ่งในวันนี้เปนดินแดนในประเทศโปแลนดแถบเมือง Danzig ทางทิศเหนือและใตไดแผขยายจาก Holstein ลงไปจนถึงอติาลี ตอนปลายของยุคกลางจนถึงประมาณป ค.ศ.1500 ไดมีการพัฒนาระบบการปกครอง มีเมืองเล็กเมืองนอยเกิดขึ้น มีการแลกเปลี่ยนสินคา การคาขายซึ่งนําไปสูความมั่งมีและความยากจน แตพรอมกันนั้น ก็มีความตึงเครยีดในสังคมเกดิข้ึน ที่นําไปสูสงครามกรรมกร (Bauernkrieg) ในป ค.ศ.1524-1525 เปนตน คุณตองอยาลมืวาในชวงเวลาน้ันเร่ิมมีการ

Page 68: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 68

กอต้ังมหาวิทยาลัย ทําใหมีการแผขยายทางศาสตรวชิาตางๆ ประชาชนเริ่มรูจักคิดมากขึ้น ไมหลงเชือ่งมงายเหมือนเมื่อกอน

ค.ศ.1517 มารติน ลูเธอร นักบวชในสมัยนั้นไมเห็นดวยกับระบบการศาสนาจากกรุงโรมจึงดําเนินการปฏิรูปดานการศาสนาซึ่งภายหลังทําใหเกิดความขัดแยง และกอนใหเกิดกลุมแนวความคิดที่เรียกตัวเองวาโปรเตสแตนทกับกลุมแคธอลิก ออสเตรียและบาวาเรียไมเห็นดวยกับการปฏิรูปของมารติน ลูเธอร สงครามศาสนาเริม่กอตัวข้ึนอยางจริงจงัในป ค.ศ.1618 และยาวนานถึง 30 ป จึงมีชือ่วา สงครามสามสิบป (Dreizigjaehriger Krieg) ในชวงนี้ไดมีการกําหนดใชคําวา Deutschland ขึ้น และมีรัฐยอยๆเกดิข้ึนประมาณ 300 รัฐ ซึง่ยังคงอยูภายใตอาณาจักรท่ีหน่ึง จักรพรรดิ์ไมสามารถปกครองไดทั่วถึง จึงมีการแตงตั้งขุนนาง (Fuersten) ประจําคอยปกครองแตละรัฐ ทําใหอํานาจของจกัรพรรดิค์อยๆ ลดลง ราวๆ ป 1650 ดินแดนแถบ Pruessen หรือบริเวณรอบๆ เบอรลินในปจจุบันซึ่งมีเบอรลินเปนเมืองหลวง เติบโตและมีอํานาจมากขึ้น เกิดความขัดแยงตอตานออสเตรีย

ความสั่นคลอนภายในอาณาจักรเริ่มกอตัวขึ้น ความพยายามของชนชัน้ปกครองท่ีไมอยากใหประชาชนรูมากเกินไป ประกอบกับการปฏิวัตใินฝรัง่เศสท่ีทําใหประชาชนท่ัวไปรูสึกวารปูแบบการปกครองที่ถูกตองนั้นควรเปนอยางไร ไดนําไปสูการลมสลายของอาณาดอยช (ที่หนึ่ง) ในป 1806

ค.ศ.1815 มีการกอตั้งสหพันธดอยช (Deutscher Bund)ซึ่งมีที่มาจากการแตกสลายของอาณาจักรท่ีหน่ึง และตามดวยการรวมตัวเปนอันหนึ่งอันเดียวกันของรัฐยอยๆ ป ค.ศ.1866 ออสเตรียถูกตัดออกจากสหพันธดอยชและมีการเกิดสหพันธดอยชเหนือขึ้น (Norddeutscher Bund) ทั้งหมดนี ้สงผลสืบเน่ืองใหมีการกอตัง้อาณาจักรใหมข้ึนอีกครัง้ หรือที่เรียกวา อาณาจักรที่ 2 หรืออาณาจักรจักรพรรดิ (Zweites Reich หรือ Kaiser Reich) โดยจักรพรรดิวิลเฮลมที ่1 (Wilhelm I) ซึง่มีชีวิตอยูในชวง ค.ศ.1871-1918 กฏหมายรัฐธรรมนูญของอาณาจักรที่ 2 ที่ไดปรับปรุงมาจากกฏหมายการปกครองของสหพันธดอยชเหนือน้ี ประกอบดวยสภา (Bundesrat) และนายกรัฐมนตรแีหงอาณาจักร (Reichkanzler)

อาณาจักรที่สองนี้ตองตอสูกับปญหามากมายต้ังแตตอนเริ่มตน เชน อุตสาหกรรมซึ่งนับวันจะมีมากขึ้น สงผลขางเคียงคือ ใหเกิดความยากจน ความร่าํรวย และนําไปสูสภาวะตึงเครยีดภายในอาณาจักร ผูคนอพยพออกไปสูอเมริกาเปนจํานวนมหาศาล ชวงเริ่มตนของยุคนี้ไดมีการวางแบบแผน สรางความเสถียรทางการเมอืงระหวางประเทศขึน้ โดยบิสมารค (Bismark) (เดิมเปนท่ีปรึกษาของจักรพรรดิ แตภายหลังไดเปน Reichkanzler) กลาวคอื มีการสรางบัญญัติขอตกลงระหวางประเทศไมใหมีสงครามเกดิข้ึนโดยงาย แตก็ใชไดอยูไมนาน เพราะหลังจากการถอนตัวของบิสมารค ในปค.ศ. 1890 ความตึงเครียดดานการเมืองภายนอก เริ่มกอตัวสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะความสัมพันธกับประเทศสหราชอาณา-จักร ซึง่ยิง่นานวนัก็ยิง่แยลง และแลวสงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็ไดระเบิดขึ้น พรอมกับการเกิดสหพันธไวมาร (Weimar Republik) ซึ่งเปนรัฐแบบประชาธิปไตยที่เกิดข้ึนเปนครั้งแรกของเยอรมัน ครอบคลุมพื้นท่ีของ

Page 69: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 69

เยอรมันในปจจุบันและบริเวณขางเคียงเล็กนอย การสิ้นสุดของอาณาจักรเยอรมันที่สอง และระบบสมบูรณาญาสิทธิราชท่ีมีกษัตริยเปนผูปกครอง

ความสั่นคลอนภายในสหพันธไวมารเริ่มเกิดขึ้นจากผลกระทบมาจากความขัดแยงของ พรรคฝายขวาและพรรคฝายซาย บวกกับสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ําแย ทําใหการฉวยอํานาจของฮิตเลอรเกิดข้ึนอยางงายดาย และมีการสรางอาณาจักรดอยชที่สามขึ้น (Drittes Reich) ขึ้น (ค.ศ.1933-1945) คําวาอาณาจักรท่ีสามน้ีมีตนตอ หรือไดรับอิทธิพลจากทางศาสนา ซึ่งหมายความวา อาณาจักรหนึ่งพันป คํานิยามน้ีถกูใชในสหพันธไวมารโดยพวกนาซี (Nationalsozialiste) หลังจากฮิตเลอรไดกลายเปนผูนําอาณาจักรที่สาม เขาไมพึงพอใจและส่ังหามใชคาํน้ีเด็ดขาด ชวงค.ศ. 1930-1933 ระบบประชาธิปไตยในสหพันธไวมารไดถูกทําลายลงชาๆ

ในปค.ศ. 1933 ฮิตเลอรในฐานะหัวหนารัฐบาลไดถอนตัวออกจากสมาคมยุโรป (Voelker-bund) หลังจากนั้นความไมยุติธรรม การควบคุมทางสิทธิเสรีภาพตางๆ ก็ไดกอตัวขึ้นอยางเปนระบบพรอมกับการเตรียมพรอมในสงคราม ตัง้แตป ค.ศ.1938 ผูคนที่ไมเห็นดวย และชาวยิวถูกตามลาจับ อยางที่เราทราบกันอยูแลว ไมนานนักสงครามโลกครั้งที่สองก็เกิดขึ้นและสิ้นสุดในปค.ศ. 1945 พรอมกับการจบสิ้นของอาณาจักรดอยชท่ีสาม หนังสืออางอิง 1.Wolfgang Hug, "Geschichtliche Weltkunde" 2.Diesterweg von Krochow, "Die Deutschen in ihrem Jahrhundert 1890-1990" ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เฉลยคําตอบจากมุมที่เหลือ แบบฝกหัด 1 1. f 2. h 3. k 4. g 5. a 6. c 7. m 8. b 9. q 10.i แบบฝกหัดที ่2 2.1 ทะเลแดงคราบ ทะเลเหลืองนั้นอยูระหวางจีนกับเกาหลี ทะเลดําอยูทางตอนเหนือของตุรก ีสวนทะเล Dead Sea นั้น ลงไปแลวไมจมอยูในจอรแดนเจา 2.2 แฟรงเฟรตอยูสูงสุดแลวนะครับ อยูประมาณ ละติจูด 50 องศาเหนือตรงเสนศูนยสูตร คือ 0 องศา เรียงตามลําดับลงมาก็คือ อูลานบารตอ, ชิคาโก,โตเกยีว สวนกรุงเทพมหานครของเรานั้นอยูที่ประมาณ 13-14 องศาเหนือนะใกลเสนศูนยสูดร 2.3 อเมริกาเหนือ, เรียงตามลําดับคือ เอเซีย, แอฟริกา, อเมริกาเหนือ แลวก็อเมริกาใต แบบฝกหัด 3 1. 8,848 m 2. 2,565 m 3.EU: Austria, Belgium, Denmark, Finland, France, Germany, Greece, Irland,Italy, Luxembourg, The Nethelands (ตองมี the นะอันนี)้, Portugal, Spain,Sweden, United Kingdom 4. Denmark, Sweden, United Kingdom

Page 70: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 70

สารศลิป ประวัติศาสตรศิลปะตะวันตก

ป.ปายศร ี หลังจากที่ฉบับแรกเปดตัวคอลัมนสารศิลปทักทายผูอานไปแลว สารศิลปในฉบับท่ี 2 น้ีก็คงจะเริ่มกลาว ถึงเน้ือหา สาระของศาสตรดานน้ีกนับาง ซึ่งผูเขียนเองนั่งนึกยอนดูครั้งแรกยามเยาววัยวา.. เมื่อไหรกันนา..ที่ผูเขียนเอง เริ่มรูจักศิลปะ!! จากความทรงจาํน้ัน..คงตัง้แตเร่ิมจําความได ที่ผูเขียนเองเริ่มเรยีนรูวาจุดหลายๆ จุดตอกันทําใหเกิดเสนและจากหลายเสน ก็สามารถเกิดเปนรูปภาพได ชางนามหัศ-จรรยเสียจริงๆ ผูเขียนเชื่อวา ทานผูอานหลายทานก ็คงมีประ สบการณคลายกันกับผูเขียนบาง เราจบัดินสอวาดเสนขีดเขียนกันมาตั้งแตจําความได และยังไดร่ําเรียนวิชาขีดเขียนนี้ตั้งแตวัยเยาว แตนั้นหมายความวาเรารูจกั ศิลปะจริงๆ แลวหรือยัง...!! ประวัติความเปนมาของศิลปะนั้น สวนใหญมักจะดําเนินเหตุการณตามยุคสมยัของประวัติศาสตรสังคมในแตละภูมิภาค ประกอบกับการไดรบัอิทธิพลตางๆ ทางดานของ สังคม การเมือง และ ศาสนา ลวนสงผลใหเกิดความเกิดความแตกตาง ท้ังทางดานความคิด การสรางสรรค และ รวมไปถึงเทคนิควิธีการ ที่ศิลปนไดถายทอดออกมา เปนผลงานในแตละยุคสมัย ซึ่งแมแตประเทศของเราเองก็มี “ ประวัติศาสตรศิลปะไทย ” ดวยเชนเดียวกัน แมอาจไดรับอิทธิพลจากหลายชาติ แตดวยความ สามารถของบรรพบุรุษของเรา ก็สามารถปรับเปลี่ยนและคิดคนจน กลายเปนศิลปะไทยที่งดงาม ประณีตสืบตอกันมาจนถึงยุคปจจุบันนี้ นับวาเปนความภาคภูมิใจ และเปนเอกลักษณ อีกอยางหน่ึงของเรา ที่ทุกคนตองชวยกันรักษาไวใหอยูคูบานเมืองของเราตลอดไป ซึ่งผูเขียนเองจะนําเรื่องราวประวัติศาสตรศิลปะไทยมาเลาสูกันฟงในโอกาสตอๆ ไป เพราะดวยเน่ืองจากวามทีาน ผูอานบางกลุม ตองการทราบและ มีความรูเกีย่วกบัผลงานศิลปะทางตะวันตกกันอยางมาก ซึ่งก็เปนโอกาสอันด ี ที ่ ณ ขณะนี้พวกเราสวนใหญก็พํานักและศึกษาอยูทางประเทศตะวันตกกัน ก็ยอมมีโอกาสที่จะไดสัมผัสและพบเห็นผลงานตนตํารบั ของศิลปนระดับโลกกันบอยครั้ง ซึ่งจะทําใหเราเขาใจถึง แกนความคิด ที่มาของวัฒนธรรม และรวมไปถึงการออกแบบสัญลักษณ ตางๆ ของเขาไดมากข้ึนอีกดวย ขอเลาถึงประสบการณที่วันหนึ่ง ผูเขียนไดมีโอกาสไดไปเขาชม Staatsgalerie ของเมือง Stuttgart ซึ่งเปน พิพิธภัณฑศิลปะประจําเมือง ผูเขียนสังเกตเห็นกลุมเด็กนักเรียนอนุบาลกลุมหนึ่ง เดินชมงานกบัอาจารยอกี 2 ทาน โดยมเีจาหนาท่ีพาชม และอธิบายผลงานศิลปะยุคสมัยตางๆ อยางครึกครืน้ ทําใหหวนนึกถึงวาตอนเราเรียนชั้น อนุบาลไมเคยมีโอกาสไดเรียนรู หรือสัมผัสกับบรรยากาศแบบเชนเลย ที่นี่เขามองเห็นคุณคาของศิลปะ และตองการปลูกฝงการเรยีนรูน้ีต้ังแตตน กวาผูเขียนจะ ไดรูเร่ืองราวประวัติความเปนมาของประวัติศาสตรศิลปะก็ปาเขาไปอยูในรั้วมหาวิทยาลัยแลว จําไดวา ดร.อภินันท โปษยานนท (อาจารยประจาํภาควชิาทัศนศลิป คณะศิลปกรรมศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย) ทาน

Page 71: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 71

เปนอาจารย ผูซึง่มีความเชีย่วชาญ และ เปนนักวิจารณศิลปะ ท่ีมีชือ่เสยีงท่ีสุดคนหน่ึงของประเทศ และไดรับการยกยองจากตางชาติ ไดถายทอดศาสตรความรูเกีย่วกบัประวัตศิาสตรศลิปะตะวันตกนีถ้งึ 2 ภาคการศึกษา ซึ่งเปนเรื่องที่มีเนื้อหาคอนขางมากและตองใช ระยะเวลาในการทําความเขา ใจพอสมควร ดังนั้นผูเขียนจึงแบงเนื้อหาออกเปนตอนๆ ซึ่งในฉบับน้ี จะกลาวถงึ ภาพโดยรวมของประวัติศาสตรศิลปะตะวันตก โดย สามารถแบงยุคสมัยของประวัติศาสตรศิลปะออกเปน 5 สมัย เริ่มตนตั้งแตยุคโบราณ จนถึงยคุศตวรรษท่ี 20 โดยการแบงยคุสมัยของศลิปะน้ี จะใชความเชื่อและรูปแบบลักษณะการสรางสรรคผลงานของศิลปนเปนเกณฑ ไดแก

1.ยุคโบราณ (Ancient Art) ศิลปกรรมยุคโบราณเริม่ตนในสมัยกอนประวัติศาตรโดย ศิลปนยุคหินเผาโครมนัยอง (Caromagnon) ถายทอดประ สบการณ ในชีวิตประจําวนัซึง่เปนเหตุการณจริงออกมาเปนผลงานศิลปะบนผนังถ้ํา ซึ่งตอมาจะเริ่มเปนศิลปกรรมสมัยประวัติศาสตร เน่ืองจากในสมัยอาณาจักรอียิปตโบราณ ชาวอียิปตรูจักประดิษฐ อักษรภาพ (Hieroglyphics)

และกอกําเนิดศิลปกรรมของชาติตางๆ ตอมา ไดแก ศิลปะเมโสโปเตเมีย ศิลปะกรีก ศิลปะ โรมัน และศิลปะไปแซนไทน หมายเหต ุ จากภาพคือ รูปปนแกะสลักหิน “วินัสแหงวิเลนเดอรฟ”มีความสูง 4.75นิ้ว คนพบที่ประเทศออสเตรีย เปนการแสดงถึงความเชื่อในเรื่องความอุดมสมบูรณ เนื่องจากสมัยกอนยึดเกษตรกรรมเปนอาชีพหลัก 2.ยุคกลาง (Medieval Art) ในยุคกลางเปนสมัยซึ่งถือไดวาเปนยุคมืดของศิลปกรรมเพราะเนื่องจากไมมีการคิดคนสรางสรรค ศิลปกรรมไดสวยงามเทาที่ควร ผลงานสวนใหญจะถูกครอบงําความคิดโดยศาสนาคริสต และดวยอีกสาเหตุหนึ่งอาจเนื่องมาจาก ในสมัยน้ันมีการสูรบขัดแยงกันอยูตลอดเวลา ทําใหสภาพสังคม และจิตใจของศิลปนไมสามารถถายทอดผลงานที่ประณีตได ศิลปะที่มีชื่อเสยีงในยคุน้ี ไดแก ภาพประกอบในพระคัมภีรและภาพประดับตามกระจกสีและบานหนาตาง ท่ีเรียกวา สเตนกลาส(Stained-Glass) หมายเหต ุจากภาพเปนรูปพระเยซูถูกตรึงบนไมกางเขน ซึ่งเปนภาพประกอบในพระคัมภีร (Iliumination)สมัยนั้น ชาวยุโรปนับถือศาสนาคริสต เคารพบูชา คัมภรีไบเบ้ิล พระยะโฮวา พระคริสต และนักบุญตาง ๆ มีศูนยกลางอยูที่ นครวาตกินั ประเทศอิตาล ี

3.ยุคฟนฟ ู(Renaissance Art) ศิลปะยุคฟนฟูหรือศิลปะเรอเนซองนี้ เปนสมัยท่ีมีระยะเวลาคอนขางสั้น แตถือวา เปนสมัยที่มีความสําคัญอยางมากตอประวัติศาสตรศิลปะ เนื่องจากเปนสมัยแหงการริเริ่มแนวคิดใหมๆใหแก วงการศิลป

Page 72: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 72

กรรม คําวา เรอเนซอง แปลวา การเกิดใหม นักประวัติศาสตรศิลปะถือวา เปนการเริ่มตนของ ศิลปะสมัยใหม ซึ่งในสมัยนี้ อีตาลีเปนศูนยกลางของยุโรปตะวันตก มีการเปลี่ยนอํานาจปกครองดินแดนมาอยูในมือของประชาชน และพอคาหรือชนชั้นกลาง ซึง่ชนชัน้ เหลานั้นไดชวยเหลืออุปการะศิลปนเปนอยางดี ศิลปนที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ มีมากมาย ไดแก เลโอนารโด ดาวินซ ี(Leonardo da Vinci) ไมเคิล แอลเจโล (Michealangelo Buonarroti ) และ ราฟาเอล (Raphael) ตอมาเมื่อสิ้นสุดความรุงเรืองของศิลปกรรมยุคนี้ ก็กําเนิดศิลปกรรมลัทธิแมนเนอริสมขึ้น ซึง่เปนยุดแหงการเนนลักษณะทาทาง การเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น ตอมาไดพัฒนาจน เ กิดเปน ศิลปกรรมบาโรคและรอคโคโคในเวลาตอมา หมายเหต ุจากภาพ คือ ภาพวาดสีน้ํามันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก”โมนาลิซา” วาดโดยจิตรกรเอก เลโอนารโด ดาวินซ ี(Leonardo da Vinci) จิตรกรรมในยุคเรอเนซองนี ้ใชหลักการเขียนภาพแบบทัศนียภาพ สีทีใ่ชเปนสีน้ําตาลเปนสวนใหญ ภาพคนมีการแสดงกลามเนือ้ ชัดเจนนุมนวล ลักษณะศิลปกรรมสวนใหญ เปนการนาํเอาแบบอยางของกรีก และโรมันมาปรับปรุง ดัดแปลง

4.ยุคใหม (19th-Century Art) ศิลปะสมัยใหม เริ่มตอนปลายศตวรรษที่ 18 ในประเทศฝรั่งเศสหรืออาจกลาวไดวาเริ่มข้ึนหลังจาก ที่ยุคแหงอํานาจ (The age of autority) ไดเสื่อมลง และกลายเปนยุคที่มีเหตุและผล ( The age of reason) เขามาแทนที ่เปนสมัยที่มีการคนควา และทดลองในวิทยาการตาง ๆ ทางวิทยาศาสตรมากมาย ซึ่งมีผลตอความคิด ความรูสึกของศิลปนในยุคนี้อยางมาก ทําใหผลงานเนนทางดานการทํางานของสีมากกวารูปทรง ผูที่ไดรับการยกยองวาเปนผูริเริ่ม คือ ยารหลุยส ดาวิด ศิลปนยุคใหมซึ่งถือเอาเหตุผล และความเปนจริง (Reality) ที่ตนเชื่อมั่นเปนแนวทางในการแสดงออกทําใหเกิดลัทธิศิลปะตางๆ ขึ้นมามากมายในเวลาตอๆ มา ดังเชน ลัทธินีโอคลาสิก ลัทธิโรแมนติก ลัทธิเรียลลิสซึม และลัทธิท่ีเปนท่ีนิยมและมีชื่อเสียงมากที่สุด ไดแก ลัทธิอิมเพรสชันนิสซึม ในยุคน้ีศลิปน จึงนิยมออกไปสรางสรรคผลงานในธรรมชาติโดยเนน รูปทรงท่ีเกิดข้ึนดวยแสงสี ศิลปนท่ีมีชื่อเสียงในยุคนี้ ไดแก มาเนต (Edouard Manet) โมเนต (Claude Monet) เดอกาส (Edgar Degas) ปซาโร (Camille Pissaro) เรอนัวร (Auguste Renoir) และ โรแดง (Auguste Rodin) หมายเหต ุจากภาพเปน ภาพจิตรกรรมสีน้ํามัน “Dancer” โดย เรอนัวร (Auguste Renoir) ศิลปนชาวฝร่ังเศส ผูซึ่งยึดถือลัทธิอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม ไดแหวกหนีจากกลวิธีการเขียนภาพในลักษณะประเพณีนิยม ที่เขียนเสนพูกัน (Bust Stoke) ใหตอเนื่องและแสดงใหเห็นเสนรอบนอกวัตถุอยางชัดเจน โดยลักษณะการสรางสรรคผลงานในลัทธิอิมเพรสชั่นนิสซึมนี ้ศิลปนจะออกไปวาดภาพจากของจริงตามที่ตองการโดยตรง แลวพยายามจับเอา แสงสีในอากาศ ใหไดสภาพบรรยากาศ ในขณะนั้น ใหใกลเคียงทีส่ดุเนือ่งจากสีและแสงจะเปล่ียนแปลงไดตลอดเวลา จึงใชเทคนิคการระการบายสีอยางรวดเร็ว ฉับพลันจนเกิดรอยแปรง เนื่องจากตองใชความไวในการจับแสงสีบรรยากาศใหถูกตอง และไมเนนเรื่องราวที่จะเขียน จะเปนรูปอะไรกไ็ด ทิวทัศน แมน้าํลําคลอง ทะเล หมอกควัน หรือแมกระทั่ง ฝูงชน การละเลน ฯลฯ

Page 73: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 73

5.ยุคศตวรรษที ่20 (20th-Century Art) ในศตวรรษท่ี 20 ไดเกิดลัทธิศิลปะขึ้นอีกมากมาย หลายแขนงอยางไมเคยปรากฎมากอนและในยุคนี้จะแสดงออกถึงความเชื่อ ความตองการสะทอนแนวคิดถายทอดความรูสึกของผูสรางสรรค ผลงานอยางแท จริง จนบางครั้งก็หาผูเขาใจความงามและความหมายไดยากยิง่ นอกจากนั้นศิลปะในยุคนี้ยังเปนการสราง สรรคผลงานศิลปะอยางไมหยุดยั้งของกลุมศิลปนที่ไมยอมนิ่งเฉยตอการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุค

ปจจุบัน ในยุคนี้ประกอบไปดวยลัทธิมากมาย ซึ่งสวนใหญลวนมีความเชื่อ ในทางท่ีแตกตางกนั ไดแก ลัทธิโฟวิสซึม ลัทธิเอกซเพรสชันนิสซึม ลัทธิคิวบิสซึม ลัทธิฟวเจอริสซึม ศิลปะแอบสแตรก ลัทธิเซอรเรียลลิสซึม ศิลปะปอปอารต และ ศิลปะออปอารต หมายเหต ุ จากภาพเปนภาพจติรกรรมสีน้าํมัน “ficionado” ผลงานของอีกหนึ่งศิลปนเอกของโลก ปกัสโซ (Pablo Picasso) ศิลปนชาวอิตาล ีผูริเริ่ม ลัทธิคิวบิสซึม โดยใชหลกัสําคญัคือ กฎเกณฑ ของการควบคุมความรูสึก มีการสรางโดยคํานึงถึงเรื่องโครงสรางของสรรพสิ่งทั้งหลายกอนสิ่งอื่น สวนอารมณและการแสดงออกน้ัน จะตองมีการกล่ันกรอง พิจารณาเสียกอนทีจ่ะปลอยใหหลัง่ไหลโดยปราศจากสิง่ควบคมุเหมือนอยางในลทัธิอ่ืน เหลาศิลปนในลัทธินี้ มีความเชือ่วา โครงสรางเลขาคณิตเปนรากฐาน ของรูปทรงในธรรมชาติทั้งมวลและ ถาเขาใจรูปทรงของโลกภายนอก และโครงสรางตามความเปนจริงแลว จะสามารถมองดูรูปเหลานั้นเปนรูปลูกบาศกงาย ๆ ได และในบางครั้งศิลปนก็จะใชเทคนิคการนําเอาวัสด ุตาง ๆ มาปะติดบนงานจิตรกรรม เรียกวา วิธีคอลาจ (Collage) โดยจะเห็นไดจากภาพตัวอยาง จากเน้ือหาคราวๆ ที่ผูเขียนไดบรรยายไปนั้น คงจะพอที่จะทําใหทานผูอานไดสาระและความกระจางจากผลงานศิลปะยุคตางๆ ไดยิ่งขึ้น สําหรับศัพทตางๆ ที่อานแลวอาจไมคอยคุนเคย ก็ไมตองแปลกใจแตอยางใด ผูเขียนจะนําเรือ่งราวของรายละเอยีดในสวนของ ลัทธิความเชื่อนี ้มาเสนอแดทานผูอานในภายหลัง สวนฉบับหนาคงไดเจาะลึกถึงเนื้อหาทางดานประวัติศาสตรศิลปะกันมากขึ้น (ถายังไมรูสึกหนักสมองมากพอ) แตผูเขียนขอบอก ถาทานผูอานพอมีเวลาวางก็ลองหาเวลาไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑศิลปะประจําเมืองดู น่ีไมไดคานายหนาแตอยางใด แตเน่ืองจากไมอยากใหทานผูอาน พลาดโอกาสอันดีนี้ไปอยางนาเสียดาย และราคานี้ก็ถูกมาก ถาจะซื้อความรูและประสบการณในตางแดน โบนัสสําหรับนักศึกษาศิลปะ ทานยิ่งควรไปเยี่ยมชมอยางยิ่ง เนื่องจากทานไดรับการยกเวนใหไมตองจายแมแตสตางคแดงเดียว เพียงแตขอใหทานผูอานทุกทานอยาลืมพกพาบัตรนักเรียน ไปก็เปนอันใชได ฉบับนี้อาจทําใหทานผูอานหนักสมองเลนเล็กนอย หลังจากอานเสร็จก็ลองไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑศิลปะประจําเมืองด ู จะไดพกัผอนคลายเครียดไดบางนะคะ ตองลองแลวจะติดใจ....แลวพบกันใหมฉบับหนาคะ

Page 74: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 74

Computer case & Power supply

Main board

มุมไอที ออทโต ณ ฉะตุดการท – [email protected]

ฉบับที่แลวมีคําผิดอยูนะครับ ฮารดดิสค ภาษาเยอรมันเรียก Festplatte นะครบั แหะ แหะ ไม

ใช Festplatz ขอขอบคุณผูอานที่กรุณาแจงเขามา คราวกอนเราไดพูดกนัถึงเรือ่งอปุกรณตางๆ ของคอมพิวเตอรไปแลว แตจะเปนเนื้อหาซะสวนใหญ บางทานอาจยงัไมเห็นภาพ ฉบับนี้ผมก็เลยมีรูปประกอบมาฝากกันเยอะหนอย จะไดเห็นวาไอที่พลามไปคราวที่แลวนี่จริงๆ แลวมันหนาตาเปนอยางไร ทานอาจเทียบดูกับภายในเครือ่งคอมพิวเตอรของทานกไ็ดนะครบั หนาตาของสวนประกอบแตละสวน

อาจจะคลายๆ กัน เริ่มจากขางนอก

ที่เราเห็นกอนเลย กลองโลหะ (บางทีอาจเปนพลาสติก) ขางนอก เขาเรียกวา Computer case

(เยอรมัน Computergehäuse) ตามรูปดานลางนี้ ภายในจะเห็นกอนวัตถอุนัหน่ึง มีสายไฟ

ระโยงระยางออกมา ก็คือแหลงจายไฟหรือ Power supply (เยอรมนั Netzteil) นะครบั ถาดจูากดานหลงัของคอมพิวเตอรก็จะเห็นวากนของ Power supply ก็จะเปนที่เสียบสายไฟพอดี หนวยนี้ก็จะรับไฟจากไฟบาน, แปลงไฟสลับเปนไฟตรง และจายตอใหกับอุปกรณอื่นๆ

อุปกรณสวนตอไปก็จะเปนเมนบอรด (Main board หรือ Motherboard, ภาษาเยอรมันกเ็รียกทับศัพท Main board หรือ Mutterboard) ดังภาพดานขวาน้ี รูปรางหนาตาและรายละเอียดอาจแตกตางกันไปตามยีห่อ แตคราวๆ แลวก็จะตองมีชองสําหรับเสียบ CPU อันนี้จะอยูริมขวาที่เปนสี่เหลี่ยมจตุรัสเปนชองใหญๆ อยูน่ัน, ชองสําหรับเสียบ RAM หรือหนวยความจําหลัก อันนี้จะเห็นวามีอยู 3 ชอง อันที่เปนปนสีดํายาวๆ เรยีงกนัอยูริมขวาเชนกัน ดานลางของ CPU, สวนมุมบนซายท่ีเปนชองสีขาว หกอันนั้นเปนจะเปนชองเสียบอุปกรณเพิ่มเติมแบบ PCI (บางเมนบอรดอาจมีชองเสียบแบบอื่นๆ อีกนอก

Page 75: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 75

จาก PCI เชน ISA, EISA) อุปกรณอะไรเพิม่เติมตางๆ ที่ทานซื้อมา เชน Video capture card, TV card หรืออะไรแปลกประหลาดกวานี้ทั้งหลายก็สามารถเสียบเขาไปที่ชอง PCI นี ้นอกจากนี ้ ก็มีอุปกรณอื่นๆ อีกมากมายบน Main board เชน นาฬิกา, BIOS, IDE Controller (ซึง่จะเปนชองท่ีใหเสยีบสายไปยังฮารดดิสค, CDROM) และ Floppy controller นอกจากนี้ก็อาจจะมีอะไรเพิ่มเติมอีก แลวแตรุนและยี่หอของ Main board นะครบั แลวแตราคาดวย เวลาซื้อเราก็เลือกดูวามันมีอะไรใหบาง Main board รุนใหมๆ อาจมีเกอืบทุกอยางท่ีทานตองการอยูบนน้ันเลย เชน VGA, Ethernet แทบไมตองซื้ออะไรมาเสียบเพิ่มเลย แคใส CPU, RAM และตอฮารดดิสค, CD-ROM ก็เปดเครื่องใชงานไดสมบูรณแลว

อุปกรณชิ้นตอไปก็คือRAM ก็เปนหนวยความจําหลัก ยิง่มีมาก เครือ่งกย็ิง่เรว็, CPU ตัวประมวลผลกลางเปรียบดั่งสมองของคนเรา, ฮารดดิสค ก็เปนหนวยความจําสํารอง เอาไวเก็บไฟลอะไรตางๆ, DVD หรือ CD-ROM หรือ CD-Writer (เยอรมัน CD-Brenner) นอกจากน้ี อาจมีอุปกรณเพิ่มเติม ดังท่ีกลาวไวขางตน วาสามารถเสียบลงไปตรงชอง PCI บน Main board ได ตัวอยางเชน Ether card เวลาซื้ออุปกรณเพิ่มเติมมาใสในเครื่องของทาน ก็อาจตองดดูวยวา ทานมีชองเสยีบเหลืออีกกีช่อง บางเมนบอรด โดยเฉพาะที่มากับคอมพิวเตอรราคาถูกๆ มักจะมีชองเสียบใหไมมาก อุปกรณทั้งหาอยางที่กลาวมา สามารถดูไดดังภาพดานลางนี ้

RAM

CPU

Hard disk

DVD/CD-ROM

Ethernet card

อุปกรณท้ังหมดทีก่ลาวมาจะสถิตยอยูภายในคอมพิวเตอร ยกเวน DVD/CD-ROM Drive และ Floppy drive (ที่เราเรียกกันวา drive A:) อาจมีสวนหนาของมันยื่นออกมาภายนอก เวลาที่

Parallel

Serial

Page 76: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 76

เราซื้ออุปกรณเพิ่มเติมมา ถาเปนแบบท่ีตองการชองเสียบแบบ PCI เรากต็องเปดฝาเครือ่งออกและเสียบมันลงไปบนเมนบอรด นอกเหนือจากนี ้อุปกรณอื่นๆ มักจะตอจากชองตอ (เรียกวา Port) ภายนอกไดเลย (มักอยูทางดานหลังของเครือ่ง) อุปกรณแตละแบบจะตองการชองตอไมเหมือนกัน

อุปกรณอยางเชน Keyboard และ Mouse จะมีชองเสียบเฉพาะของมันเอง (เรียกวา PS/2 อานวาพีเอสท)ู ทานลองดูที่หลังเครื่องของทานได อุปกรณอยางโมเด็มท่ีเอาไวเชื่อมตอกับอินเทอรเน็ตผานสายโทรศัพท (แบบภายนอกหรือ External) จะตอกับ port แบบ Serial รวมท้ัง Mouse รุนเกาๆ ก็มักจะตอกับ Port Serial นี้ สวน Printer (หรือ Scanner บางรุน) ก็จะตอกับ Parallel Port นอกจากน้ี เครื่องคอมพิวเตอรใหมๆ จะมี Port แบบ USB (Universal Serial Bus) ตอกับอุปกรณไดสารพัดรูปแบบ คือมี Port USB แบบเดียว ก็ตอไดต้ัง Mouse ยัน Scanner, กลองวดิีโอ ลดความวุนวาย และไดความเร็วสูงดวย หนาตาของ Port รูปแบบตางๆ ดูไดดังรูปดานขางน้ี สําหรับอุปกรณแบบ USB หนาตาของสายทีจ่ะมาเชื่อมตอกับพอรตที่คอมพิวเตอร ก็จะเปนหนาตาดังรปูดานลางน้ี

เอาละครับ มาถึงตรงนี้แลว เราก็ไดรูจัก

อุปกรณท้ังภายในและภายนอก ที่ประกอบกันเปนเครื่องคอมพิวเตอร และลักษณะการเชื่อมตอกับอุปกรณเสริม

ตางๆ ทีนี้ เรามีฮารดแวรพรอมแลว (ฮารดแวรคืออะไรที่เรามองเห็นเปนชิ้นเปนอันเปนอุปกรณ เขว้ียงไปมาได) สิ่งที่เราตองรูตอไปก็คือสวนซอฟตแวร หรือโปรแกรมตางๆ ท่ีควบคุมการทํางานฮารดแวรเหลาน้ี ซ่ึงเปนสิ่งที่โดยปกติแลวเราไมเห็นเวลาที่มันทํางาน (คือจริงๆ แลวจะเห็นก็ไดเวลาที่เราเรียกไฟลขึ้นมาแกไขหรืออะไรทํานองนั้น แตเอาเปนวาเทียบกับฮารดแวรแลวมันมองเห็นไดยากกวาเยอะละกันนะครับ) คอมพิวเตอรที่ซื้อมาสวนใหญในเยอรมันเขาก็มักจะลงซอฟตแวรมาใหอยูแลว (บางทีไมอยากจะเอาเพราะไมไดอยากจะใช มันก็ยัดเยียดมาให บอกวามันมาเปน set แลว ตัดอะไรออกไมได) ซึ่งก็จะมีซอฟตแวรระบบปฏิบัติการ หรือ Operating Systems ตัวยอวา OS (คือซอฟตแวรตัวแรกท่ีตองลงกอน เพื่อเปนตัวจัดการระบบ ควบคุมฮารดแวรตางๆ และประสานงานใหโปรแกรมประยุกต – Application Program – ท่ีลงไปภายหลังน้ัน ทํางานรวมกันไดด)ี ตัวอยางเชน OS ตระกลู Windows ท้ังหลาย, นอกจาก OS แลวก็อาจจะมีซอฟตแวร applications อื่นๆ มาใหดวย เชน ชุด Office, โปรแกรมไวดูหนังฟงเพลง เขียน CD ก็แลวแตขอเสนอของแตละบริษัท

ถาทานไมคิดอะไรมาก ซื้อเครื่องมาเปดขึ้นเสร็จ ก็มีโปรแกรมที่ตองการครบถวน ก็เปนอันจบไป ไมมีปญหา ทีนี้ถาตองการอะไรเพิ่มก็หาลงเพิ่มกันไป คอมพิวเตอรจากบางบริษัทจะม ีRecovery CD มาให แบบวาเอาไวสําหรับเวลาที่ทานเลนคอมพิวเตอรไปนานๆ โปรแกรมตางๆ เริ่มผุพัง เรียกขึ้นบางไมขึ้นบาง หนักขอหนอยก็เปดไมขึ้นเลย ก็เอาเจา Recovery CD น่ียดัเขาไป เปดเครื่องใหม แลวมันจะถาม

Page 77: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 77

สักสองสามคําถาม แลวก็ทําสําเนาขอมูลจากแผน CD ลงไปบนฮารดดิสค เสร็จแลว เครือ่งของทานก็จะมีโปรแกรมอะไรเหมือนตอนท่ีทานซื้อมาใหมๆ เลย คือยอนเวลากลับไปตอนแรกเลย (ซึ่งหมายความวา ขอมลูสวนตัวของทานท่ีเก็บอยูบนฮารดดิสคอาจหลุดหายไปดวย ควรทําสําเนาออกไปไวท่ีอืน่กอน)

ทีนี้เราลองมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกับซอฟตแวรระบบปฏิบัติการหรือ OS น่ี คอมพิวเตอรสวนใหญที่เราๆ ทานๆ ใชกนัอยูตามบานน้ัน ก็จะเปนแบบที่เรียกวา PC (Personal Computer) ซ่ึงทางเทคนิคแลวก็คือ ระบบท่ีใช CPU แบบ x86-compatible เชนจากบริษัท Intel หรือ AMD โดย CPU ก็จะเปนรุนตางๆ ที่เราไดยินคุนหูกันเชน ถาจาก Intel ก็ตั้งแต 8086/88, 80286, 80386, 80486, Pentium, Pentium-II, Pentium-Pro, Celeron, Pentium-III ปจจุบันก็ Pentium-IV เขาไปแลว ถาทางคาย AMD ก็มี K6, Duron, Athlon, Athlon XP เปนตน นอกจากนี้ยังมีคอมพิวเตอรตระกูลอื่นอีก เชน เครื่องจากบริษัท Sun ซึ่งจะใช CPU แบบ SPARC, เครื่องจากบริษัท Apple ที่เรารูจักกันวาตระกูล Mac (แมค) ก็จะใช CPU PowerPC เปนตน CPU ตระกลูตางๆ กันเหลานี ้จะมีโครงสรางทางสถาปตยกรรมภายใน CPU ที่ตางกัน ดังน้ัน ซอฟตแวรระบบปฏิบัติการที่จะไปทํางานบน CPU สถาปตยกรรมตางๆ กันเหลานี ้จึงตองถูกปรับใหเขากับแตละระบบที่แตกตางกัน

ในแตละสถาปตยกรรมของ CPU แตละแบบนั้น ก็จะมีแยกรุนกันไปอีก เชน ของ Intel ก็มีตั้งแต x86 ไปจนถึงปจจุบัน Pentium-IV ความแตกตางน้ันทานคงเดาได ก็คือท่ีออกมาหลัง ก็มักจะมีประสิทธิภาพสูงกวา ทํางานไดเร็วกวา แตก็จะยังคงสถาปตยกรรมเดิม ซอฟตแวรท่ีออกแบบมาใหใชกับสถาปตยกรรมไหน ก็มักจะใชไดกับCPU หลายๆ รุนของสถาปตยกรรมนั้น เชน Windows98 ก็ใชไดตั้งแต 486, Pentium ไปจนถึง Pentium-IV

OS บางตัวเจงขึ้นไปอีก คือ สามารถทํางานไดบนหลายสถาปตยกรรม ไมใชแคอันเดียว เชน ทํางานไดท้ังบน Intel x86-compatible, SPARC, PowerPC OS บางตัวสามารถทํางานไดบนมากกวา 10 สถาปตยกรรม

เนื่องจากผูอานสวนใหญ ปจจบัุนก็คงจะใช PC กัน สําหรับเครื่อง PC (หรือ เรียกใหปลอดภัยหนอยก็คือ ระบบคอมพิวเตอรที่ใช CPU ที่มีสถาปตยกรรมเปนแบบ x86-compatible) นั้น ก็มีระบบปฏิบัติการใหเลือกใชมากมาย ถึงแมวาทานอาจจะคุนเคยกับซอฟตแวรตระกูล Windows แตวานอกจาก Windows แลวก็ยังมีระบบอื่นๆ อีกมาก เชน Linux, Solaris x86 จากบรษัิท Sun, OS/2 จาก IBM, SCO Unix, FreeBSD, NetBSD, OpenBSD, BeOS, RTEMS เปนตน ระบบตางๆ ก็มีขอดีขอเสียแตกตางกันไป อยาง Windows นั้นเนนที่ใชงานงาย เปนตัวท่ีมคีนใชกันมากท่ีสุด สวนตัวอื่นๆ เชน Linux ที่มาแรงในขณะนี ้ก็มีขอดี เชนประสิทธิภาพสูง, ฟรีและ Open Source, ไม hang (อาการเครื่องไมตอบสนอง กดอะไรก็ไมได บางทีขึ้นเปนจอสีฟา ตอง reset หรือปดเครื่องลูกเดียว) โดยไมมีสาเหตุแนนอน สวนซอฟตแวรตระกูล FreeBSD ก็เปนที่นิยมเพราะมีประสิทธิภาพสูง เวบไซตใหญๆ อยาง yahoo.com ก็ใช

Page 78: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 78

FreeBSD เปนระบบปฏิบัติการ, สวน OpenBSD จะเนนท่ีความปลอดภัย ซอฟตแวรจะไดรับการกลั่นกรองเปนอยางดี จะไมคอยไดยินขาวเรื่อง virus หรือ ปญหาดานความปลอดภัยบอยนัก

จะเห็นวาระบบปฏิบัติการแตละตัวก็มีสิ่งที่นาสนใจ ที่มาแรงสุดๆ ตอนน้ีกค็งจะเปน Linux หลายทานคงเคยไดยิน แตอาจจะยังไมไดลอง ฉบับหนา ถาทานผูอานสนใจ เราจะมาคุยกันถึงเรื่องของ Linux วามันเปนมาอยางไร และแนะนําการใชงานอยางงายๆ นะครับ มาดูกันวามันดีชัว่อยางไร คนถึงใหความสนใจ ฉบับนี้เราก็ทิ้งทายดวยหนาตาของ Linux ใหดูซะหนอย วาจะหลอเหลาขนาดไหน ตัวอยางนี้นํามาจากของ Linux-TLE เวอรชั่น 4.1 ที่พัฒนาโดยทีมงานจากศูนยเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกสและคอมพิวเตอรแหงชาติหรือ NECTEC ที่เมืองไทยนะครับ แลวพบกันใหมฉบับหนาคราบ …

(ภาพประกอบจาก http://www.kmelektronik.de/, http://www.usb.org/, http://linux.thai.net/ )

Page 79: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 79

วิทยาศาสตรนารู กวาจะมาเปน Homo sapiens

ทัตพล ตอนท่ีหน่ึง: Am Anfang

"บางครัง้ชีวิตกส้ั็นอยางไมนาเชือ่" ประโยคน้ีไมเคยอยูในหวงคํานงึของบรรพบุรษุในอดตีอัน ไกลโพนของพวกเรา พวกเขาดํารงชวิีตอยูเพียงเพือ่ใหรอดไปเหน็แสงตะวันของวันใหม บทความน้ีเกิดจาก แรงบันดาลใจของผูเขียนหลังจากอานหนังสือ "From Lucy to Language" เปนเพยีงจนิตนาการท่ี ตองการถายทอดใหเห็นถงึโชคชะตา และการตอสูเพื่อความอยูรอดของมนุษยกอนประวัติศาสตร หวังจะใหความบันเทิงกึ่งสารคด ีไมใชบทความทางวิชาการที่สามารถนําไปอางอิงได

Hadar ประเทศเอธิโอเปย สามลานสองแสนปกอนยุคปจจุบัน สมยานาม ครอบครัวแรก : ชื่อวิทยาศาสตร ลิงใตจากอฟาร (Ausralopithecus afarensis) แลวครอบครัวก็ไดมาพบกันอีกครั้ง อฟารท่ีปนี้แกตัวลงมากนั่งอยูทามกลางลูกหลาน เบาตาสี่เหลี่ยม โหนกคิว้หนา หนาผากสั้นราบ บวกกับปากยื่นและจมูกแบน ทําใหเขาดูเหมือนกับลิง มากกวาบรรพบุรุษ ของมนุษยในปจจุบัน

"afar"เจาตัวเล็กอายุไมครบขวบดีกําลังฝกเดินสองขาลมควํ่าคะมําหงายอยูกลางลานทราย พ่ีๆทั้งสามตางก็คอยชวยประคองบาง สงเสียงเรียกบาง สนุกกันไปตามประสาเด็ก อฟารหันไปมองหลานแลวทอดสายตา ออกไปยังทุงกวาง นัยนตาออนระโหยมองไปยังภูเขาไฟที่พนขี้เถาและลูกไฟออกมาตลอดหนาแลงที่ผานมา ทําใหพืชผลยิ่งลมตายกันมากขึ้นไปอีก ลูกๆของอฟารท่ีมารวมตัวกันทุกปหลังหมดฤดูแลง ออกไปหาอาหารตัง้แตเชาตรู เหลือแตผูหญิงและเด็กๆ รวมท้ังอฟารที่ออนแรงเกินกวาจะปนขึ้นไป เก็บผลไมตามตนไมสูงๆได รออยูตรงชายปารมครึ้ม จนบายคลอยจึงกลับกันมากับผลไมเต็มออมแขน สองขากาวเดินอยางไมคอยคลองนัก ลําตวัสายไปมาเหมือนเด็กเพิง่หัดเดิน เมื่อไหรกันหนอที่มนุษย ดึกดําบรรพษเหลานี้เริ่มกาวเดินบนขาทั้งสองแทนที่จะเดินสี่ขาเหมือนสัตวอื่นๆ ผูรอคอยสงเสียงรองรับ ดวยความดีใจ ตางก็ไมไดเห็นผลหมากรากไมมากมายขนาดนี้มานานแลว หนาแลงท่ีผานมาชางยาวนาน เด็กหลายคนรวมท้ังคูชวิีตของอฟารไดสังเวยชวิีตไปกับความอดอยาก ตัวผูเฒาเองก็เกือบเอาชีวิตไมรอด ถาลูกๆไมมาชวยไว ท้ังสิบสามชีวิตลอมวงกินอาหารมื้อแรกของฤดูฝนปนี ้ ตกเย็นฝนก็ตกลงมาอยางไมลืมหูลืมตา ตัวอฟารเองไมเคยเห็นน้ํามากอยางนี้มากอน ชายปา ท่ีครอบครัวอาศยัอยูเปนท่ีตํ่า นํ้าจึงเออทนอยางรวดเรว็ อฟารกับลูกคนโตตัดสินใจพาครอบครัว หนีนํ้าข้ึนไปทางเหนือ พื้นดินริมตลิ่งเต็มไปดวยขี้เถาภูเขาไฟที่เปยกน้ํากลายเปนโคลน ทําใหการเดินขามลําธารไปยังฝงที่สูงกวาลําบากยิ่งขึ้น แมๆจับมือลูกไวเพื่อไมใหหกลม สัตวปาก็ตกอยูในสภาพเดียวกัน ชาง กวาง

Page 80: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 80

ยีราฟ แมกระทั่งแมวปาตางก็พยายามขามน้ําท่ีเออสูงขึ้นเรื่อยๆไปยังอีกฝง ท้ิงรอยเทามากมาย ไวบนริมตลิ่ง ครอบครัวลิงใตที่เคลื่อนที่ไดไมเร็วนักพยายามลุยน้ําตรงที่ตื้นที่สุดขามไป ทันใดนั้นพวกเขา ก็ไดยนิเสียงดังราวกับฟาถลมมาจากทางตะวันตก ทั้งหมดตกตะลึงนิ่งอยูกับที่หันหนาไปทางตนเสียง พลางถามตัวเองวามันคือเสียงอะไร กอนที่ทุกคนจะรูตัววา มันคือเสียงน้ําปา ที่ไหลซัดลงมาจากทางตนน้ําก็สายไปเสียแลว มวลน้ํามหึมาโถมเขาใสครอบครัวของอฟารอยางไมปราณี สิบสามชีวิตไหลไป ตามกระแสนํ้าเชีย่วกราก ไมมีใครรอดชวิีตจากโศกนาฎกรรมครัง้น้ี รางแหลกเหลวถูกซัดไปติดริมตลิ่ง เมื่อกระแสนํ้าลดความเชีย่วกรากลง แมน้ําพัดพาเอาตะกอนและทรายมาทับถมรางไรชีวิต กอนท่ีสตัวปาจะมาพบ กลายเปนสุสานของครอบครัวลิงใต ครอบครวัแรกในประวัติศาสตร Taung ประเทศแอฟริกาใต สองลานสามแสนปกอนยุคปจจุบัน สมยานาม เด็กท็อง : ชื่อวิทยาศาสตร ลิงใตจากแอฟริกา (Australopithecus africanus) แมของท็องเพิ่งจะโตเต็มไวตอนที่เธอตั้งทอง ท็องลูกคนแรกเปนเด็กแข็งแรง แมวาแมจะไมมีประสบการณ ในการเลี้ยงเด็กมากอน แตไดคนในครอบครวัชวยไว ถาวันไหนแมตองออกหาอาหาร ก็มักจะฝาก ท็องไวกับปาเสมอ ลวงเขาปที่สาม ปาตั้งทองและคลอดลูกอีกครั้ง เปนเดก็ผูหญิงนารัก ท็องเองที่ไมเคยเห็นลิงใตตัวเล็กขนาดน้ีมากอนจึงตื่นเตนเปนพิเศษ นับแตน้ันแมจะพา ท็อง ออกไปหาอาหารดวยเสมอ ท็องก็โตพอท่ีจะเรียนรูวาอะไรกินได อะไรที่เปนพิษ แมตองคอยระวังมากเปนสองเทา เพราะอันตรายมีอยูรอบตัว และเด็กเล็กๆอยางท็องมกัจะตกเปนเปาโจมตีของสัตวรายเสมอ วันน้ีท็องตองเรียนรูวาจะเก็บเมล็ดหญาอยางไร แมวางท็องที่กระเตงเขาเอวอยูลงบนพื้นหญาริมทุง แลวเริ่มลงมือเก็บเมล็ดขาวที่ตกเกลื่อนกลาดอยู ท็องทําทาตาม สองแมลูกกมหนากมตาเก็บอยางขะมักเขมน ทันใดนั้น มีเงาลอยพาดผานท้ังสองไป ท็องกดตัวลงแนบพื้นดวย สัญชาติญาณ แมเงยหนาขึ้นมองทองฟาทันที นกเหยี่ยวนั่นเอง มันบินโฉบลงมาที่เดิมอีกครั้ง แมกดตัวลูกชายใหราบลงไปอีก กอนท่ีจะออกว่ิงลอนกเหยีย่วไปอกีทาง ตัวเธอใหญพอ ที่จะตอสูกับมัน แมวากรงเล็บมหึมาจะทําใหเธอบาดเจ็บสาหัสก็ตาม นกเพชฌฆาตไมหลงกลแมของท็อง สายตาคมกริบมองทะลุพงหญาไปถึงรางเล็กๆของท็อง มันบินโฉบเปนครั้งที่สาม ขาเหยียดกรงเล็บกาง ลงมาดิ้นขลุกขลักอยูกับพื้นชั่วครู แลวมันก็กระพือปก บินขึ้นอีกครั้ง…

แมของท็องหัวใจแทบสลาย เมือ่เธอเห็นรางของลูกชายแนน่ิงอยูในกรงเลบ็เหยีย่วท่ีบินไกล ออกไปทุกที เด็กนอยถูกพาออกไปไกลจากทุงหญาที่คุนเคย ไกลออกไปถึงผาหินเว้ิงวาง ท็องตายอยาง โดดเดี่ยวอยูใตกรงเล็บและจะงอยปากของลูกนกเหยี่ยวบนผาหินแหงนั้นเอง

Page 81: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 81

หุบเขา Olduvai ประเทศแทนซาเนีย หนึ่งลานแปดแสนปกอนยุคปจจุบัน สมยานาม มนุษยบดถั่ว : ชื่อวิทยาศาสตร ลิงใตของบอยเซ (Australopithecus boisei) สมยานาม - : ชื่อวิทยาศาสตร มนษุยผูสามารถ (Homo habilis) ลมแรงพัดหวีดหวิวผานทุงหญาแหงกรอบ ซินจเดินตัดทุงอยางไรจุดหมาย รางเต้ียล่ําสั่นสะทานดวย ความหนาว กะโหลกใหญกวาง กรามหนาหนักรับกับฟนบดมหึมา บงบอกถึงความแข็งแรง แตดวงตากลบัเศราหมอง นานแคไหนแลว ท่ีซินจตองเดินทางรอนเรอยางเดียวดาย สมาชิกครอบครัวลมหายตายจากกันไปทีละคนสองคน ทิ้งไวแตตํานานเลาขานถึงยุคที่ทุงหญา ยังอุดมสมบูรณ ฟนที่แข็งแรงของซินจบดอาหารแข็งๆแมกระทั่งถั่ว เปลือกหนาไดเปนอยางดี นี่เองทําใหเผาพันธุของเขาดํารงอยูไดมาก กวาหาแสนป แมวาฤดูแลงจะแรนแคนเพียงใด แตชวงหลายปที ่ผานมา กลับมีลมหนาวพัดเขามา พืชผลลมตาย ตามมาดวยความอดอยาก หลังจากที่ซินจ สูญเสียครอบครัวไปเขาก็ไมเคยพบเห็นลิงใตรวมเผาพันธุอีกเลย โคบีเดินดุมกลับบานอยางราเริง ในมือกํากอนหินไวแนน รางเลก็กาวเดินอยางม่ันคง แมวาลักษณะภายนอกจะดูเหมือนลิง แตความฉลาดมีมากเกินกวาจะเรียกวาเดรัจฉาน วันนี้เขาไดคนพบ หินชนิดใหมที่สามารถนํามากระเทาะทําเปนเครื่องมือไดอยางด ีแมจะตองเดินไกล ไปถึงเชิงภูเขาไฟก็คุมคา พรุงนี้เขาจะพาลูกๆไปขนหินกัน โคบีเริ่มงานทันทีเมื่อถึงบาน มือซายกําหิน ท่ีคนพบใหม มือขวาควานหาหินขนาดพอเหมาะใกลๆตัว เคาะลงไปบนมือซายสองสามทีดวย ความชํานาญ หินสีดํามะเมื่อมกลายเปนมีดขนาดเทากําปน เด็กๆหันมามองดวยความสนใจ มือก็พลางกํากอนหินทุบ

ลงไปบนกระดูกขายีราฟ งานงายๆแบบนี้เด็กทําได ไขกระดูก รสชาติเยี่ยม ถือเปนรางวัลสําหรับงานนี ้ พวกเขาตองฝกอีกมากกวาจะเกงเหมือนพอ โคบีเองก็เรียนวิธีเคาะหินมาจากพอเชนกัน ฮา-ดารคูชวีติ กําลังนั่งแลหนังยีราฟออกจากทอนขา โคบีสงมดี อันใหมใหลองใชหั่นเนื้อ ยังไมทันจะลงมือเพื่อนบานก็วิ่งมาตามตัว หัวหนาครอบครัว ใครสักคนสังเกตเห็นแรงบินวนอยูกลางทุง ตอง เปนสัตวโชครายที่ถูกหมาไนลมแนๆ โคบีกับพรรคพวกออก เดินทางทันที หางออกไปไมไกลนักมีหมาไนฝูงใหญกําลังรุมทึ้ง กวางอยูกลางทุง ฝายโคบีรออยูในพงหญาใตลมอยางอดทนจนพวกมัน

อิ่มผละจากเหยื่อไป ฝูงแรง ลงซากศพกวางทันที โคบีทุมกอนหินลงกลางวงพลางสงเสียงไล ไมนานทุกคนก็แบกขากวางท่ีฝูงหมาไน เหลือไวคนละขาเดินกลับบานไป อาหารเย็นวันน้ันของทุกบานคือเนื้อกวาง ไขกระดูก กับผลไม ฟนเล็กๆของพวกเขาไมแข็งแรงพอที่จะบดเมล็ดพืชหรือรากไมแข็งๆได แตทุกคนยอม

Page 82: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 82

เสียเวลาเคี้ยวเนื้อ สัตวแสนเหนียวที่อุดมไปดวยสารอาหาร แมวาจะตองทนปวดทองเพราะกระเพาะยังไมปรับตวัใหเขากบั อาหารเน้ือก็ตาม ซินจเดินผานกองกระดูกเจากวางโชครายในเย็นวันน้ัน อยางนอยเจาพวกหมาไนก็อิ่มกันแลว คืนนี้เขาคงนอนหลับสนิทกวาทุกวัน ไมตองคอยระวังพวกมันตอไป สัตวปานอนตายเกลื่อนทุงหญา เพราะความอดอยาก สัตวกินเนื้อพากันดีใจ สําหรับพวกมันมีอาหารเกลื่อนกลาดเหลือเฟอ ซินจที่กินแต เมล็ดพืช หรือรากไมแทบจะอดตาย เขาตัดสินใจเดินทางขึ้นเหนือ ในวันรุงขึ้น อยางนอยทุงทางเหนือก ็อุดมสมบูรณกวาทุงหญาแถบนี ้บางทีเขาอาจจะไดพบญาติๆลิงใตบางก็ได ซินจลมตัวลงนอนบนลานดิน ใตตนอะคาเซยีดวยความเหน่ือยออน กลางดึกอนัเงียบสงัดมดีวงตาวาวคูหน่ึงปรากฏข้ึนบนคบไม รางที่ นอนอยูใตตนไมนิ่งไมไหวติง ทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลงเปนจังหวะสม่ําเสมอ แสดงวาเจาของรางหลับสนิท ดวงตาวาวบนคบไมคอยๆเคลื่อนตัวลงมาจนกระทั่งถึงพื้นดิน รางปราดเปรียวเคลื่อนไหวไรเสียง ตรงด่ิง เขาหาลิงใตผูเหนื่อยลา กอนที่ซินจจะรูตัวชีวิตก็หลุดลอยจากรางไปแลว ทุงหญาแถบนี ้ไมไดมีแคหมาไนเทาน้ัน เสอืดาวคือนักลายามราตรีและไมกินซากสัตวท่ีมันไมไดฆาดวยตวัเอง เปนอันขาด! ลากอนซินจผูโดดเด่ียว

จากลานดินแหงนั้นไปทางเหนือไมกี่รอยกิโลเมตรมีพวกลิงใตแบบซินจอาศัยอยูริมทุงสะวันนาอยางสงบสุข อากาศไมรอนหรือเย็นเกินไป อาหารพอเพียง เผาพันธุของซินจจะดํารงอยูตอไปในที่แหงนี้ไดอกีถึง หาแสนป กอนที่รองรอยของพวกเขาจะหายสาบสูญไปตลอดกาล หลังอาหารมื้อเย็นและมื้อเดียวของวันนั้น ทุกครอบครัวก็มารวมตัวกัน ดวงอาทิตยเพิง่จะลับ ขอบฟาไปไมนาน ยังพอมองเหน็อะไรบาง ใครที่ไมตองดูแลลูก ตองออกไปหากิ่งไมบริเวณใกลเคียงมา สะรอบๆลานดินท่ีกวาดไวอยางสะอาดสะอาน บางก็ออกเก็บกอนหินขนาดพอมือมากองไวใกลท่ีนอน ทองฟามืดลงแลว เหลามนุษยขยับตัวเขาใกลกันมากยิ่งขึ้น ลูกเด็กเล็กแดงผล็อยหลับไป กลาง วงลอมของผูใหญ โคบีลมตัวลงใกลกับกองไม ไมกี่อึดใจตอมาทุกคนก็หลับไปในคืนมืดมิดไรกองไฟเชนนี้ การลมตัวลงนอนคือการเสี่ยงตาย เสียงรองของหมาไนแววมาตามลม ฟงเหมือน เสยีงหัวเราะของปศาจ เจาของเสียงหัวเราะขยับตัวใกลเขามายังกลุมของโคบีมากขึ้นทุกที ดวยความรีบรอนทําใหมันเหยียบ ก่ิงไมท่ีสะไวตั้งแตเมื่อเย็น เสียงเปรี๊ยะดังขึ้นเบาๆ แตก็ดังพอจะปลุกผูอยูยามได โคบีพลุงตัวข้ึน กลิ่นสาบสางลอยมาตามลม เขากมลงควานหยิบกอนหินขวางไปยังทิศท่ีมาของเสียงทันที ปากก็สงเสียงรองไล กอนหินกระทบโดนสีขางผูบุกรุกดงัต้ึก แมไมแรงนักแตเจาหมาไนก็วิ่งหนีไป ความสงบกลับมาเยือนอีกครั้ง โคบีลมตัวลงนอนรอจนกวาผูบุกรุกตัวใหมจะเขามาทาทาย สัตวรายไมอาจทําใหมนุษยผูสามารถเหลาน้ีหวาดกลัวได แมจะไมมีเขี้ยวเล็บหรือสายตาที่แหลมคม พวกเขาก็รอดชีวิตอยูไดเพราะมีอาวุธที่ดีกวาอยูกับตัว น่ันคือ "มันสมอง" !

Page 83: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 83

ต๋ัวข้ึนสวรรค

ทินยา

วันน้ีใจรายกับเธอ ทิง้เธอในกลางทะเล ฉลามกับจระเข รอคอยไมยอมอิ่ม

งานทํากองเปนเทือกเขา งานเกาไมยอมพนไป ความเครียดมาดึงหัวใจ แกะออกจากรางกายเธอ

แตในมือฉัน มีต๋ัวสวรรคสองใบ เรามองหมูดาวลอยไป

เมื่อเรานั่งเลนอยูบนพระจันทร

เธอเบื่อกับหนากากเขา ดังเงาไมยอมถอยไป ไมเห็นเมื่อเขาใสราย เพื่อนหายเมื่อเราตองการ แตฉันมีสิ่งใหเธอ โลกนี้ไมยอมยืมให ลาพักไมสนใจใคร ใหจักรวาลลมืเราสักที

เพราะในมือฉัน มีต๋ัวสวรรคสองใบ ในใจเราศัพท์ยังไสว

เมื่อเรานอนอยูบนทองทะเล สองเราลืมเลือน เมื่อโลกนี้ไรความทรงจํา เราจะพนอดีตสีดํา ทํานองปจจุบัน

ใจเธอฉันถือบนฐาน วันวานจะไมรบกวน นิ่งนอนอยูในเปลยวน

ความสุขเฝาเหมือนตนมะพราว ความโมโหความโกรธเคือง เปนเรื่องเราเอาไปเผา อภัยงอกงามในใจเรา เถาถานโมหะเราโยนทิ้งไป

ในมือเธอและฉัน มีต๋ัวสวรรคสองใบ วันนี้สองเรามีชัย โลกไมสนใจ

เมื่อคูดวงใจยังหอบอยูในผาหมหมูดาว เราลาพกัช่ัวคราว.... หมอยูกลางหมูดาว

ธันวา 2544

Page 84: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 84

134 ผมเปนคนมีไฟ ไฟแรง......

ผมคิดอยากเปลี่ยนแปลงโลก เพราะผมเชื่อมั่นในความถูกตอง เพราะผมไดรับเสียงสนับสนุนจากคนรอบขาง

ผมมองมันในแงดีมาโดยตลอด เพราะผมมองเห็นอนาคตที่สวยงาม เพราะผมไดรับเสียงสนับสนุนจากคนรอบขาง

ผมเริ่มที่จะทําในสิ่งที่ผมเชื่อ เพราะผมมีความมั่นใจวาผมจะทําได เพราะผมไดรับเสียงสนับสนุนจากคนรอบขาง

ผมทํามันอยางตั้งใจทุกขณะจิต เพราะผมเชื่อมั่นวานั่นเปนสิ่งที่สมควร เพราะผมไดรับเสียงสนับสนุนจากคนรอบขาง

ผมเริ่มรูสึกวาผมลมเหลว เพราะโลกยังไมเปลี่ยนแปลง

ไม...แมแตจะเริ่มขยับ ผมลมเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะผมมีแตเสียงสนับสนุน เพราะผมไมสามารถทําไดดวยตัวคนเดียว ผมเริ่มจะหมดแรง......

ผมไดยินเสียงเรียกใหสูตอไป พวกเขายังคงสนับสนุนผมอยู

และ พวกเขายังคงสงมาแตเสียง....เหมือนเดิม

....ผมหมดแรง....

Page 85: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 85

เปลี่ยนฝง....พระจันทรดวงเดิม หลังถวยชา

นัยวาเพื่อเปนการเอาใจศิลปนหนุมไฟแรงอยางเขา ทําใหคณะกรรมการคัดเลือกรางวัล “ศิลปนรุนใหม” ตัดสินใจจัดฉลองรางวัลดังกลาวที่รีสอรทเล็กๆริมทะเลแทนที่จะเปนโรงแรมหรูหรากลางกรงุเหมือนท่ีเปนมาทกุป คาที่วาผูไดรับรางวัลน้ันไดรับการยกยองจากสถาบันศิลปะนานาชาติวาเขาเปนศิลปนรวมสมัยที่เขียนรูปทะเลไดงดงามที่สุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะรูปทะเลในคืนพระจันทรเต็มดวง “อาว อาจารย มาหลบเงียบที่ระเบียงคนเดียวทําไม” หนุมใหญในชุดสากลเดินออกมาจากหองโถงใหญเพ่ือทักทายศิลปน “........................” ชายหนุมไดแคยิ้มนอยๆ เหมือนกับจะเปนคําตอบ “นาเสียดายนะที่สัปดาหหนาทานรัฐมนตรีไมวาง ไมอยางนั้นผมจะจัดงานใหคุณในคืนขึ้นสิบหาค่าํ พระจนัทรเต็มดวงพอดี” “นั่นมันวันพระนี่ครับ เด๋ียวกินเหลาไมได” เขาพูดติดตลก “คุณรูไหมวา ทําไมผมถึงสนับสนุนคุณตั้งแตแรก ท้ังๆท่ีตอนน้ันคุณกไ็มไดมชีือ่เสียงอะไรมากมาย” “ผมไมทราบวาจะตอบแทนทานอยางไรเลยครับ” “ไมตอง ไมตอง นี่...คุณรูไหม เมื่อกอนนี้นะ ผมอยากทํางานศิลปะมากเลยนะ แตคุณก็รูน่ีนา วางานอาชีพของผมน่ีทําเอาผมแทบจะไมมีเวลากระดิกตัวไปไหนไดเลย ผมสนับสนุนคุณก็เหมือนกับวาผม ---เติมฝน--- ใหตัวผมเองดวย”

บทสนทนาหยุดลงชั่วอึดใจ ใหจิบหนึ่งของบรั่นดีชั้นเลิศ “เออ...แลวนี่อาจารยพอมีเวลาเขียนรูปใหผมอีกหรือยังหละ หากพรอมเมื่อไหรบอกเลขาฯของ

ผมไดเลยนะครับ จะไดจัดแจงแจงจองตั๋วเครื่องบินกับทําวีซาใหเรียบรอย ตอนน้ีออรเดอรเขามามากเหลือเกิน ท่ัวโลกเขาอยากไดรูปเขยีนของคุณกนัท้ังน้ัน ไปเมื่อไหรก็นอนที่โรงแรมของผมแหละดี มองลงไปจากหองพักนะ คุณจะเห็นริเวียราทั้งหาดเลย ทีนี้จะเขียนรูปริเวียรามุมไหนก็ไดทั้งนั้น”

บทสนทนาถูกขัดดวยเสียงประกาศของพิธีกรบนเวท ีใหศิลปนขึ้นไปรับรางวัล “เม็ดทรายที่อยูในรองเทานี่นารําคาญสิ้นดี” ชายหนุมบอกกับตัวเองขณะที่เดินอยูริมหาดทราย

เสียงคลื่นกําลังเปนกําแพงกั้นระหวางเสียงในงานฉลองกับตัวของเขาใหคอยๆหางออกจากกันทีละกาว และชายหนุมตัดสินใจที่จะเดินทางไปพักผอนสักสองสัปดาห บนเกาะเล็กๆที่มีชื่อเสียงโดงดังในการปลูกมะพราว ศิลปนหนุมเปนเพียงนักทองเที่ยวคนหนึ่ง เขาเดินฝาไอทะเลออกจากกระทอมลัดเลาะไปตามหาดขาว เพือ่ดูการเก็บมะพราวเหมือนนักทองเท่ียวคนอื่นๆทั่วไป หากแตวาเขาไปเฝาดูลิงเก็บมะพราวทุกๆวันจนเริ่มจะสนิทกับเจาของลิง

Page 86: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 86

“ฝกลงิน่ียากมากไหมครบั” ชายหนุมถามอยางอารมณดี .... เขาอารมณดีเสมอเมื่อไดออกทองเทีย่ว “โอย ไมยากเทาไหรหรอกพอหนุม มันโงกวาเรานะ แลวหากเราจับนิสัยมันได สอนไมกี่นานก็ขึ้นมะพราวเปนแลว” เสียงตอบสําเนียงปราแปรงแบบชาวพื้นถิ่น ทําใหชายหนุมรูสึกผอนคลายไปอีกชั้น

ชายหนุมหันไปมองดาราของเกาะ แลวพูดอยางขําๆ “เหมือนคนจังนะลุง สูบบุหรี่ก็ได กินโคกก็ได”

“มันชอบของมันหนะ ลองเอาใหมันสูบ ใหมันกินสองสามครั้งติดใจแลว ” “แลวมีดื้อบางไหมครับน่ี”

“แหม...ก็มีบางนะ แตก็เอาอยูหรอก ดื้อนักก็ลงไมสักสองสามท ีขี้ครานจะทําตามสั่งแทบไมทัน จะหาวาคุยนะ ลิงของลุงทุกตัวน่ีมันจะไมใชลิงอยูแลว ไดบุหรี่ไดโคกไปก็เสร็จ เอาอยู...เอาอยูหมดแหละ ฮา ฮา ฮา” “เย็นแลวส ิ ผมไปหาอะไรกินกอนนะลุง แลววางๆผมมาจะคุยกับลุงใหม” ชายหนุมเดินจากมา มือขวาถือกระปองโคก ปากยังคาบบุหรี่อเมริกันชื่อดัง ไอทะเลยังคงเค็ม เสียงกราวของใบมะพราวยามตองลมทะเลยังคงเปนเสียงเดียวกันกับที่เขาเคยไดยินมา เหมือนกัน ทุกอยางยังคงเหมือนเดิม --จากทุกฝงของทะเล-- แสงนวลในคืนขึ้นสิบหาค่ํากําลังพยายามแขงกับแสงนีออนในเพิงขายอาหารริมทะเล...เขานึกถึงปูลมทอดแกลมเหลามะพราวที่เขาไดลิ้มรสสมัยที่เขาเปนนักเรียนศิลปะปแรก “...หรือวากูเมาแลววะเนี่ย...” เขาคิด แตปากยังคงเคี้ยวมันฝรั่งทอดสีทอง แลวสกอตวิสกี้ก็หายวาบไปในลําคอของเขาอีกแกวหน่ึง หรือพระจันทรเต็มดวงจะแพแสงนีออนจริงๆ “เม็ดทรายที่อยูในรองเทานี่นารําคาญสิ้นด”ี ชายหนุมบอกกับตัวเองขณะที่เดินอยูริมหาดทราย แลวเขาก็ถอดรองเทาหนังคูงามโยนลงในทะเล ... อาจจะดวยความเมา เพราะหลังจากนั้นเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนหาดทรายมองดูพระจนัทร...จนหลับไป อีกคืนถัดมา ... เขานอนดูพระจันทรบนชายหาดอยางเดิม นึกถึงลิงที่ตองสูญเสียความเปนลิง นึกถึงการมาของสกอตวิสกีแ้ทนเหลามะพราวขาวขุน นึกถึงเม็ดทรายในรองเทา และนึกถึงตัวเขาเอง.....

นับเปนครั้งสดุทายที่มีคนไดพบรองรอยของเขา .... หนาประตูของสํานักงานกรรมการศิลปะแหงชาต ิมีโลรางวัล “ศิลปนรุนใหม” ปลาสุดวางท้ิงอยู พรอมกระดาษแผนเล็กๆเขียนไววา “...ขอบคุณครบัสําหรับรางวัล แตนอกจากที่ผมไดรูวาเสียงใบมะพราวยังคงเพราะเหมือนเดิมแลว ผมยังรูอีกวาพระจันทรแรมหนึ่งค่ํากลมเต็มดวงกวาพระจันทรคืนขึ้นสิบหาค่ําดวย....” ....................................

Page 87: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 87

แผนดินของแม บุญยัง

การเจรญิเตบิโตของบานเมืองประเทศชาติของเรากด็าํเนนิไปเรือ่ยๆ เชนเดียวกับการเจริญเติบ

โตของของเด็กบานนอกคนหน่ึง “หมูบานเรากําลังจะมีถนนตัดผานแลว ตอไปนี้หมูบานเราก็จะเจริญ” ถึงแมตอนนั้นผมโตพอที่จะจําความไดแลวแตผมก็ไมเขาใจที่พอผูใหญบานไดกลาวไวในที่ประชุมลูกบานอยูตรงลานตนฉําฉาใหญ ก็มีแตแมเทาน้ันท่ีน่ังฟงอยางใจจดใจจอ ผมก็ไดแตนั่งบนตักแมฟงพอผูใหญพูดไปโดยทีผ่มกไ็มไดเขาใจอะไรนกั เทาท่ีผมจบัใจความไดกค็อืจะตองมีหลายครอบครวัท่ีจะตองเสียทีดิ่นเพือ่ตัดถนนผาน

กลับจากประชุมแมก็นั่งคุยตอกับลุงมากขางบานที่จะตองเสียที ่ในการทําถนนครั้งน้ีเหมือนกัน ผมมองดูรอบๆบาน ก็ไมรูมีพื้นท่ีเทาไร แตเทาที่ฟงแมพูด เราจะตองยกพืน้ท่ีใหประมาณครึง่หน่ึงท่ีเรามีอยู กอนเขานอนคืนนั้น แมหันมาทางผมและบอกผมวาตอไปนี้พื้นที่บานของเราจะเหลือเพียงครึ่งเดียว สวนดอกไมและสวนผักหนาบานจะไมมีใหเห็นอีก แตกดี็ท่ีเราไมตองรือ้บานเพราะบานหลังเล็กๆของเรายังโชคดีที่ปลูกไวในสุดของพื้นที่บาน

เดือนตอมาที่หมูบานก็มีการตั้งแคมปของคนงาน และก็มีรถจักรกลหนักหลายคันเริ่มทยอยเขามาในหมูบาน น่ันก็แสดงวาการเริ่มตนทําถนนไดเริ่มขึ้นแลว รถแทรคเตอรไดไถทางโกยดนิเพือ่ถมเปนทาง ผมและแมก็สาระวนอยูกับการเก็บผักและตัดกลวย แมวาผักบางสวนยังไมถึงเวลาที่จะเก็บและกลวยบางเครือกย็งัไมแกเต็มท่ี แตก็ยังดีกวาที่จะใหรถไถท้ิงไป ผมเสียดายก็แตตนมะขามหวานที่ผมไดเก็บกินมาต้ังแตผมจําความได บัดน้ีมันจะตองโดนตดัท้ิงเสยีแลว แตก็ไมเปนไรแมบอกวาเดี๋ยวจะปลูกขึ้นมาใหม เราสองคนสาระวนเก็บพืชผลอยูหลายวัน จนกระท่ังรถแทรกเตอรไดเกรดทางเขามาถงึบริเวณบานของเรา รถแทรคเตอรมันชางแข็งแรงมากจริงๆ มันสามารถไถเอาดินจํานวนมากๆไปกองไวตรงกลาง เพื่อจะทําถนนและเพียงเวลาไมกี่นาท ี ตนมะขามหวานของผมก็โดนเจารถแทรคเตอรไถลมลงอยางไมเปนทา ผมไดแตคิดวาเพื่อความเจริญของหมูบานเรา จะตองตัดตนไมทิ้งมากมายเหลือเกิน ผมไมชอบเลยความเจริญ ผมคิดตามประสาของเด็กที่เสียดายตนมะขามในตอนนั้น

เพียงเวลาไมถึงเดือนถนนก็เริ่มเปนรูปเปนราง มีการเกรดเอาดินรอบๆขึ้นไปกองเปนฐานของถนน ผมมองดูยาวจนสุดลูกหูลูกตาทีเดียว ตอนน้ีผมก็ไดยินแตพอผูใหญพูดวา “เราโชคดีตอนนี้บานเราติดถนนใหญตอไปจะไปไหนมาไหนก็จะสะดวกสบาย” ประมาณหนึ่งอาทิตยตอมาก็มีรถเกงมาจอดที่หนาบานของเรา มีชายวยักลางคนเดนิเขามาหาแม เขาแตงตัวดีมากทาทางคงเปนคนมฐีานะ เขาเดินมาหาแมพรอมท้ังยกมือไหวอยางนอบนอม แมสั่งใหผมเอาน้ําเย็นไปตอนรับ ตามธรรมเนียมของแขกที่มาเยี่ยม เมื่อผมยกขันน้ํามาตั้ง แมก็บอกใหผมยกมือไหวคุณลุงผูจัดการบริษัททําถนน ผมยกมือไหวคุณลุงรับไหวและยิ้มอยางเปนกันเอง คุณลุงก็เริ่มคุยกับคุณแมถึงจุดประสงคท่ีมาหา

Page 88: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 88

คุณลุงผูจัดการบอกวาถนนที่จะสรางนี้มีประโยชนมาก และจะเปนเสนเลือดใหญในการคมนา-คมขนสง แตถนนยังไมเสร็จงายเพราะจะตองมีการถมถนนใหสูงขึ้นใหไดตามมาตรฐานกอนแลวก็จะมีการลาดยางมะตอย ส่ิงท่ีคุณลุงตองการก็คือดินในการถมทาง คุณลุงบอกวาจะขอขุดดินจากท่ีนาของแมเพราะอยูไมไกลจากหมูบานนัก แตไมไดขุดไปฟรีๆ จะแลกกับการขุดบอน้ําให

การเกิดเปนคนอสีานทุกคนคงทราบดีวา ตองทํางานหนัก เพื่อจะตองเอาชนะความแหงแลงท่ีเกิดจากธรรมชาติ การที่มีบอน้ําถือวาเปนสิ่งที่ชวยเหลือไดมากเลยทีเดียว เวลาหนาแลงกส็ามารถทีจ่ะเก็บกักน้ําไวใชประโยชนได หลังจากแมฟงผูจัดการบอก แมดูทาทางยงัไมแนใจ แมจึงบอกวาขอเวลาปรึกษาผูใหญกอน หลายสัปดาหตอมา ที่นาของผมก็มีรถตักดินถึงสองคันมาตักดินใสรถกระบะใหญเพื่อนําไปถมทําถนน แมบอกวาพื้นที่บริเวณประมาณสิบไรจะยกใหเขาตักเอาดินเพื่อแลกกับการขุดสระบริเวณนั้น หลายวันตอมาผมก็ยังสังเกตไมเห็นเลยวารถตักจะตักใหเปนบอตรงไหน เพราะวาเขาตักเอาแตที่ที่มีดินปนหินซึ่งเหมาะกับการถมถนน ทําใหพื้นที่เปนหลุมเปนบอเต็มไปหมด ทางผูจดัการกบ็อกวา ไมเปนไร เพราะเดี๋ยวเราก็จะกลับมาขุดใหเปนสระขนาดใหญให แตตอนน้ีตองเรงสรางทาง และรับปากวาจะทําบอใหอยางด ี

ผานไปเดือนกวา ที่นาผมก็ถูกขุดเอาไปเยอะมาก เปนบอขนาดใหญลึกบางตื้นบางตามประสาของการขุดแบบไมพิถีพิถัน บางจุดก็มีรากไมตอไม และกอนหินขนาดใหญกองอยู และตอนนี้รถตักก็เหลือเพยีงคนัเดยีว เพราะถมถนนใกลเสร็จแลว ตอนเย็นวันหนึ่งก็มีรถขนาดยาวๆมาจอดที่ท่ีนา แลวคนขับรถก็ขับรถตักขึ้นไปบนรถคันยาวๆคันน้ันแลวก็วิ่งพารถตักออกไป แมเห็นจึงไปถามคนขับ เขาบอกวารถเสียจะตองนํารถตักไปซอม แลวจะกับมาขุดบอใหเสร็จ

หลายอาทิตยตอมาก็ไมเห็นวี่แวววารถตักจะกลับมา แมออกตามหาผูจัดการเพ่ือจะสอบถามก็ไดรูวาบริษัทของผูจัดการนั้นเปนบริษัทถมถนนและไดถมเสร็จเรียบรอยแลว และก็ไดยายบริษัทไปเรียบรอยแลว แมตกใจมากเพราะบอยังขุดไมเสร็จเลย แมออกตามหาบริษัทจนเจอแตก็ไมสามารถท่ีจะทําอะไรไดเพราะเราไมมีสัญญาเปนลายลักษณอักษรแมแตชิ้นเดียว

ทุกวันนี้ผมไดลืมใบหนาอันโศกเศราของแมไปแลว และระลึกยอนหลงัถึงการเอารดัเอาเปรยีบคนบานนอกของคนเมืองกรุงรวมทั้งผูหรับผูใหญที่หลอกลวงหาผลประโยชนแกตน “ พื้นที่บานตั้งหลายไรเปนไปไดหรือ ที่ไมมีคาเวนคืน ” ก็คงไมแปลกเลยท่ีทุกวันนี ้ไมวารัฐบาลจะมีโครงการอะไรออกมาก็มีชาวบานมาประทวง ก็เพราะความไววางใจมันไดหมดไปแลว ทุกวันน้ีชาวบานยังยากจน คนเมอืงกร็่าํรวย เหมือนกับบานหลังเล็กๆหลังหนึ่งท่ีอยูติดถนนสายเอเชีย มีรถวิ่งผานมากมายแสดงถึงความเจริญ เสยีงของรถวิง่ตลอดท้ังวันตลอดท้ังคืน นอนยังแทบไมได รถวิ่งไมเลือกเวลาบนถนนท่ีตัดผานพ้ืนดินของแม ถนนที่กอขึ้นจากการถมดินของแม และที่นาเกือบสิบไรท่ีแทบจะใชประโยชนไมไดเลยโดยที่แมไมไดอะไรสักบาทเดียว นี่คือผลของความเจริญ

Page 89: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 89

การประกันสุขภาพใหประหยัดสําหรับนักเรียนนักศึกษา KSC

คงไมมใีครปฏิเสธแนๆ วา “ความไมมีโรค คือลาภอันประเสริฐ” แตถาเราตองมาเรียนหนังสือ มาใชชีวิตอยูตางบานตางเมืองแบบน้ี และวันดีคืนดีเกิดเจ็บไขไดปวย หรือเปนลมสลบเหมือดหลังจากดูผลสอบ หรือฟนโยกหลังจากกิน Brötchen ขึ้นมา คําถามแรกทีต่องถามก็คือ คุณประกันสุขภาพแลวหรือยัง? ผมคิดวา คงมีเพือ่นๆ ในเยอรมันไมกี่คน ท่ีโชครายตองนอนโรงพยาบาลโดยอาจจะไมไดสมัครใจ ถาเขาเหลานั้นไมไดประกันสุขภาพไวแลวละก ็อาจจะตองเปนลมหมดสติอกีครัง้แนหลังจากท่ีไดเห็นบิลเรียกเกบ็เงินจากโรงพยาบาล ฉะนั้น การทาํประกนัสุขภาพจึงเปนเรือ่งทีเ่ราจําเปนตองทํากันทกุคน ไมวาจะกําลงัเรยีนภาษา เรียน Studienkolleg เรียนมหาลัยตร-ีโท-เอกทกุระดับ เพื่อเปนการปองกันสิ่งที่เรียกวา “เสียนอยเสียยาก เสียมากเสียงาย” (คํานี ้มักไดยินในวงจับหมูบอยๆ)

เพื่อนๆ คงทราบกันดีแลววา ในประเทศเยอรมันมีบริษัทประกันสุขภาพของรัฐบาล กับของเอกชน ซึ่งจะแบงการประกันออกเปน 3 สวนหลักๆ เหมือนกันคือ 1. การรักษาที่ตองนอนโรงพยาบาล (stationär) โดยจะครอบคลุมถึงคายานพาหนะฉุกเฉินดวย 2. การรักษาโรคเจ็บปวยทั่วไป (ambulant) รวมถงึคายา, อุปกรณทําแผล, คาตรวจสายตาและตัดแวน 3. การทําฟน ซึ่งทั้งบริษัทของรัฐและเอกชน จะมีทั้งขอเดนขอดอยตางกันออกไป ผมขออธบิายคราวๆ ดังน้ี

บริษัทประกันสุขภาพของรัฐบาล (Gesetzliche Krankenkasse) ถือวามีความเปนมาตรฐาน เนื่องจากการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานครอบคลุม และอยูในกรอบชัดเจนตามกฎหมายประกันสุขภาพ และมีขอไดเปรียบคือ อัตราคาประกันสําหรับนักศึกษามีราคาถูกเทาเทียมกัน โดยไมแบงวา จะเปนหญิงหรือชาย จะอายุมากนอย หรือจะมีโรคประจําตัวรายแรงหรือไม อีกท้ังการประกันยงัครอบคลุมถึงคูสมรสและลูกโดยไมตองเสียคาประกันเพิ่มเติมอีกดวย นอกจากนี ้สําหรับนักศึกษาจะยังไดรับ Bescheinigung (ที่เปนกระดาษพับแผนเล็กๆ) ที่เอาไวแสดงเพื่อที่ไมตองเสียคายาเพิ่มเติม, คาอุปกรณทําแผล และคารถเวลาเจ็บปวยอีกดวย ชื่อบริษัทของรัฐบาลที่เราไดยินกันอยูบอยๆ เชน AOK, BARMER หรือ TK เปนตน

บริษัทประกันสุขภาพของเอกชน (Private Krankenkasse) ไมมีเกณฑความเปนมาตรฐานแนนอน เนือ่งจากอัตราประกันข้ึนอยูกบัเพศ อาย ุ รวมถึงการครอบคลุมสําหรับการรักษาดวย เชน อัตราประกันที่แพง การรักษาจะครอบคลุมหรือหรูหราเกินความจําเปน เชน ไดนอนหองเด่ียวหรือหองคูในโรงพยาบาล หรือไดใสคอนแทกเลนสในกรณีที่ยังไมจําเปน รวมถึงการรักษาโรคดวยเทคนิคท่ีแปลกๆ ใหมๆ

Page 90: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 90

(ซึ่งสวนใหญบริษัทของรัฐบาลจะยังไมออกคารักษาให) แตถาอัตราประกันท่ีถูก มักจะไมครอบคลุมทั้งหมด ซึง่หมายถึงเราตองควกัเน้ือออกคารักษาเองดวย และทางบริษัทมักจะไมจายคารักษาให ในกรณีท่ีเรารักษาโรคประจําตัวรายแรงที่เคยเปนมากอนหนานี้แลว

จะเหน็ไดวา ถาเราเปนนักศึกษา การไดประกันสุขภาพกับบริษัทของรัฐ ก็เปรียบเหมือนวา เราไดใชของดีราคาถูกนั่นเอง แตคราวน้ี กฎหมายประกันสุขภาพก็ระบุไวชัดเจนวา ใครมสิีทธิท่ีจะประกันกบัรัฐบาลบาง ซึง่จรงิๆ ก็ทราบกันอยูแลววา ก็นักศึกษาในมหาลัยแหละ เพยีงแตวา กฎดังกลาวก็มีรายละเอียดหยุมหยิมลงไปอีก ซึ่งอาจจะเปนประโยชนตอเพื่อนๆ ก็ขอนํามาเลาสูกันฟงนะครับ

นักศึกษาที่มีสิทธิประกันสุขภาพกับบริษัทของรัฐบาลแบงเปน 2 ประเภท คือ 1. ผูที่ถูกบังคับประกัน (Versicherungspflichtige Mitglieder) คือ นักศึกษาระดับ ป. ตรี-โท (Diplom) ที่ลงทะเบียนกับมหาลัยและยังมีอายุไมเกิน 30 ป ซึ่งปจจุบันเสียคาประกันเดือนละ 52.11 EUR 2. ผูที่ประกันโดยสมัครใจ (Freiwillige Mitglieder) ซึ่งหมายถึง นักศกึษาระดับ ป. ตรี-โท ท่ีอายเุกิน 30 ปขึ้นไป หรือจะเปนนักศึกษาระดับ ป. เอกก็ได ที่เคยประกันแบบบังคับ (ขอ 1) ติดตอกันภายในรอบหน่ึงปเต็มที่ผานมา หรือเคยประกันเปนเวลานานกวาสองป (ไมจําเปนตองติดตอกัน) ภายในรอบหาปที่ผานมา โดยปจจุบัน การประกันแบบสมัครใจน้ี เสียคาประกันเดือนละ 120.38 EUR (ท่ีชือ่บอกวา “สมัครใจ” หมายความวา เราสามารถเลือกไปประกันกับบริษัทเอกชนก็ได) ดังน้ัน นักเรียนท่ีไมมีสิทธิจะประกันกับรัฐบาลแนๆ ก็คือ นักเรียนภาษา, นักเรียน Studienkolleg และนักเรียน ป. เอก ท่ีเพ่ิงเดินทางมาจากเมอืงไทย คราวน้ี ในกรณีที่เราตองไปประกันกับบริษัทเอกชนนั้น จะมีอะไรที่เราสมควรตองระวังบาง?

โดยทัว่ไป จุดประสงคหลักของการประกันสุขภาพ คือ การประกันในสวนของการรักษาที่ตองนอนโรงพยาบาล (stationär) นั่นเอง เพราะเราคงไมมีปญญาออกคาโรงพยาบาลเองแนๆ ฉะนั้น บริษัทประกันสวนใหญ จะครอบคลุมในสวน stationär นี้อยูแลว ท่ีตองระวงัก็คือ Eigen- หรอื Selbstbeteiligung? บริษัทประกันสวนใหญ มักจะโฆษณาวา จะชดเชยคารักษาใหเรา 100% (จะพิมพตวัโตๆ) แตก็จะมีประโยคตอทายวา mit Selbstbeteiligung 1,000 EUR (มักจะพิมพตัวเล็กๆ) ซึ่งหมายความวา บริษัทจะออกคารักษาใหเรา 100% หลังจากที่เราออกคารักษาเองไปแลว 1,000 EUR (ตอป) ซึ่งจะพบบอยมากในสวนของการรักษาโรคเจ็บปวยทั่วไป (ambulant) ฉะนั้น ถาเปนแบบนี้ลองคิดดูละกันวา เราจะตองเปนหวัดไปหาหมอและจายคารักษาเองกี่ครั้งในรอบป จนกวาบริษัทประกันจะเริ่มออกคารักษาใหเรา ผมเจอขอแมของการประกันในลักษณะนี้กับบริษัทใหญๆ หลายบริษัทดวยกัน เชน Continental, Vereinte หรือ Allianz ซึ่งนอกจากจะมีคาประกันตอเดือนที่แพงแลว ยังมี Selbstbeteiligung เปนจํานวนไมนอยอีก ซึ่งแบบนี้ก็เหมือนไมครอบคลุมน่ันเอง

Page 91: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 91

Mindestlaufzeit? Kündigungsfrist? คือ ระยะเวลาประกันขั้นต่ําสุด และกําหนดเวลาขอลาออก ขอแมของการประกันที่ดีสมควรมีระยะเวลาพวกนี้ยิ่งสั้นยิ่งดีในความเห็นผม Mindestlaufzeit ไมควรมากเกิน 3 เดือน และ Kündigungsfrist ไมควรเกิน 1 เดือน เพื่อความสะดวกที่เราจะลาออกเมื่อไหรก็ได หรืออยากเปลี่ยนบริษัทประกัน เปนตน

ตารางน้ี เปนตัวอยางคาประกันสุขภาพตอเดือนของบริษัท DKV ซึ่งลักษณะคาประกันเหมือนกับบริษัทเอกชนทั่วไป คือ เพิ่มตามอายุ และของผูหญิงจะแพงกวาผูชายประมาณเทาตัว (เนือ่งจากสาเหตุการต้ังครรภ) สําหรับผมแลว คาประกันของ DKV โดยรวมอยูในระดับปานกลางถึงคอนขางถูก เพราะครอบคลุมการรักษาข้ันพื้นฐานทั้งหมด 100% รวมถงึการทาํฟนดวย (เมื่อเทียบกับของรัฐบาล) และไมม ี Selbstbeteiligung แตอยางใด ผมขอแนะนําบริษัทนี้สําหรับผูที่ไมมีโรคประจําตัวรายแรงมากอน (เนื่องจากกอนทําสัญญา จะมีการสอบถามประวัติการเจ็บปวย) แนนอนวา อาจมีเพื่อนๆ ที่ประกันกับบริษัทเอกชนอื่นๆ อยู ท่ีราคาถกูกวาน้ี บางบริษัทจายแค 20 กวายูโรตอเดือนก็ม ี เชน ของ www.auslandsversicherung.de แตเราจะรูวาบริษัทน้ันด ี(หรือไมหลอกเรา) ก็ตอเมื่อเคาออกคารักษาคายาใหเราครอบคลุมจริงเวลาเราปวยขึน้มา หรือเวลาจะไปขอลาออก อาจพบวาลาออกไดเพียงปละสอง Termin เทาน้ันก็เปนได FAZIT: การมีสิทธิไดประกันสุขภาพกับบริษัทของรัฐบาล จะอุนใจและเสี่ยงนอยที่สุด เนื่องจากเราแทบไมตองควกัเน้ือเลย ถึงแมจะตองผาตัดเขาโรงพยาบาล หรอืมีโรคประจําตวัรายแรงกต็าม สําหรับผูที่มีสิทธิประกันแบบสมัครใจของรัฐ (120.38 EUR ตอเดือน) จะคุมคามากเมื่อมีครอบครัว หรือเปนผูหญิง (เนื่องจากราคาใกลเคียงกับของเอกชน) สวนผูชายที่อายุเกิน 30 ขึ้นไป หรือเรียน ป. เอก จะประหยัดกวาถาประกันกับเอกชนครับ

Page 92: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 92

ติดขอบสนาม ต.ขาโต นับถอยหลัง...ฟุตบอลโลก 2002

และแลวเวลาที ่ คอลูกหนังทั่วโลกรอคอยก็มาถึง ฟุตบอลโลกครั้งที่ 17 ที่จะมีจัดขึ้นในวันที ่ 31 พฤษภาคมถงึวันท่ี 30 มิถุนายนน้ี โดยมปีระเทศเพ่ือนบานของเรา 2 ประเทศเปนเจาภาพรวม ไดแกประเทศ ญี่ปุน และ เกาหลีใต ซึง่ก็นับวาเปนการจัดการแขงขันฟุตบอลโลกในทวีปเอเชียครั้งแรก ซึ่งนับตั้งแตท่ีมีการแขงขันครั้งแรก (ปคริสตศักราช 1930 ที่ประเทศอุรุกวัย) ก็จะมีประเทศเจาภาพจากทวีปยุโรปหรืออเมริกามาโดยตลอด

โดยในครัง้น้ีกมี็ทีมชาติจากทวีปตางๆท้ังหมด 32 ทีม มารวมประลองฝเทาบนสังเวียนลูกหนังซึง่ทางเจาภาพไดจดัเตรียมไวท้ังหมด 20 สนาม (ญี่ปุน 10 สนาม เกาหลีใต 10 สนาม) นัดเปดสนามที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต แชมปเกาทีมตราไก ฝรั่งเศส จะพบกับทีมหมอผี เซเนกัล มานอกสายตาจากทวีป แอฟริกาและนัดชิงชนะเลิศที่เมือง โยโกฮามา ประเทศญี่ปุน ในการแขงขันรอบคัดเลือกรอบแรกทางฟฟา (FIFA) ไดมีการจดัทีมออกเปนท้ังหมด 8 สาย บางสายก็ดู

แลวเหมือนจะหนัก บางสายพวกเซียนพนันทั้งหลายเห็นแลวคงยิ้ม เพราะคงคิดวาผลการแขงขันไมนาจะหลุดจากโผเทาไหร แตถึงอยางไรก็ตาม ผูเขียนก็อยากจะเตือนเพื่อนๆผูอานวา อยาไปเลนเลยไอพวกพนันนะ ถาเราดูฟุตบอลดวยใจรักจริง เชยีรโดยไมตองพนันเงินหรือขาวของก็สนุกได แถมไมตองมาคอยหลบซอนเจาหน้ีภายหลังอีกดวย อีกอยางในยุคศตวรรษที่ 20 นี้ไมมีทีมฟุตบอลทีมไหน ที่ผานเขามาในรอบสุดทายน้ีได เปน”ตือ” มาใหเคามาตอนกันอีกแลว เพราะฉะนั้นขอย้ําอยาไปเลนดีกวา นอกเรื่องไปเยอะพอสมควรแลว

ครบั กลับมาดูกันดีกวา วาแตละสายมีทีมอะไรบาง และฟอรมแตละทีมเปนอยางไร กุนซือ และนักเตะเดนๆ ของทีมมีใครบางโดยสังเขป (ตัวเลขในวงเล็บ เปนอันดับที่ FIFA จัดไวเมื่อ 15 พฤษภาคม 2545 )

สาย A 1.ฝรัง่เศส (1) โคช : โรเจอร แลแมร ผูเลนเดน : ซิเนดีน ซีดาน แชมปเกาทีมตราไกยังคงเปนทีมเต็งหนึ่งของฟุตบอลโลกครั้งน้ี นักเตะดังๆสวนใหญก็ไปคาแขงใน

ลีกใหญๆ ของยโุรปเกอืบท้ังทีม แถมตอนนี้ได ซิเนดีน ซีดาน สตารดังคาตัวแพง ซึง่กําลังอยูในชวงท็อบ-ฟอรมมานําทีม ถาไมสะดุดซะกอน ก็นาจะถึงรอบรองเปนอยางนอยครับ

Page 93: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 93

2.เซเนกัล (42) โคช : บรูโน เมทซุ ผูเลนเดน : เอลฮัดจี ดิโอ ทีมหมอผีเปนทีมมามืดในรอบคัดเลือกโซนแอฟริกา ท่ีเข่ียทีมเต็งอยางโมร็อคโคตกรอบไปอยางผลิกความคาดหมาย แตดวยความออนประสบการณในทัวรนาเมนทระดับน้ี การจะผานรอบแรกไปไดน้ันคงจะไมงายนกั 3.อุรุกวัย (24) โคช : วิคเตอร พัวอา ผูเลนเดน : อัลวาโร เรโคบา อดีตแชมปโลกสองสมัยไดกลับมาแขงในฟุตบอลโลกรอบสุดทายอีกครั้งหนนี ้ ก็หวังท่ีจะทําผลงานดีๆออกไปอยางแนนอน ดาวเดนอยาง เรโคบา จะพาลูกทีมไปไดแคไหนตองลุนหนักหนอยครับ 4.เดนมารก (22) โคช : มอรเทน โอลเซน ผูเลนเดน : เอ็บเบ ซันด ทีมโคนม เปนอีกทีมที่นาจะตองเบียดบี้กับอุรุกวัยอยางสูสีเพื่อการเขาสูรอบสอง สตารดังอยาง เอ็บเบ ซันด ศูนยหนาจากทีมราชันสีน้ําเงิน ชาลเก นาจะชวยทีมไดเยอะพอสมควร มองอยางขาโต ฝรั่งเศส กับ เดนมารก นาจะผานเขารอบไปได

สาย B 1.สเปน (8) โคช : โฮเซ อันโตนโิอ คามาโช ผูเลนเดน : ราอลู กอนซาเรซ

ทีมกระทิงดุถูกมองจากสื่อมวลชนวาเปนหนึ่งในตัวเต็งแนนอน เนื่องดวยความที่ทีมมีการบุกท่ีหลากหลาย ศุนยหนาท่ีคมอยางราอูล หรือ โมเรยีนเตส และกองกลางท่ีทําเกมบุกไดดีไมแพกัน สเปนจึงมีอาวุธเปนเกมรุกมากกวาท่ีจะตั้งรับ คอบอลท่ีรอคอยดูการถลมประตูอันสวยงาม คราวน้ีคงไมผิดหวัง 2.สโลเวเนีย (25) โคช : สเรกโก คาตาเน็ค ผูเลนเดน : ซลัทโก ซาโฮวิช สมันนอย สโลเวเนีย ไมใชทีมนองใหมไรพิษสง ในวงการลูกหนังอีกตอไป หลังจากท่ีทีมโชวผลงานไดดีในฟุตบอลยุโรป 2000 ครัง้ท่ีผานมา ครัง้น้ีจงึนับวาเปนโอกาสดียิง่ท่ีสโลเวเนยีจะพิสูจนตัวเองอกีครั้งในการผานเขามาในฟุตบอลโลกรอบสุดทาย ครัง้แรกของตน 3.ปารากวัย (18) โคช : โฮเซ ซิลวา ผูเลนเดน : รอกเก ซานตา ครูซ

โชคไมดีเทาไหรนัก ที่ผูรักษาประตูจอมปนฟรีคิกอยาง ชาลิแวร และนักเตะหลักบางคนของทีมโดนหามเลนสองนัดแรกในรอบคัดเลือก โอกาสในการผานรอบแรกของปารากวัยจงึไมสวยงามนัก 4.แอฟรกิาใต (37) โคช : คารลอส ไควรอซ ผูเลนเดน : ชอน บารเล็ต เปนการผานเขามาในฟุตบอลโลกรอบสุดทายครั้งท่ีสองของทีม คงไมหวังที่จะกลับบานกอนแน จะทําไดดีแคไหนตองคอยดูไปครับ มองอยางขาโต สโลเวเนีย นาจะเบียดอีกสองทีมอยางสูสีตามสเปนเขารอบไป

สาย C 1.บราซลิ (2) โคช : หลุยซ สโคลารี ่ ผูเลนเดน : ริวัลโด,โรแบรโต คารลอส

Page 94: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 94

ถวยจูลิเมสเปนเปาหมายเดียวของทีมแซมบาในครั้งน้ี หลังจากท่ีตองอกหกัในรอบชงิเมือ่ส่ีปท่ีแลว แมฟอรมในรอบคัดเลือกจะไมดีนัก ทีมที่ประกอบไปดวยสตารอยางพรอมพรั่งคงผานเขาไปถึงรอบลึกๆของการแขงขันนี้อยางแนนอน 2.ตุรก ี(22) โคช : เซนอล กุเนส ผูเลนเดน : ฮาคาน ชูเคอร เปนทีมที่มีตัวผูเลนที่ฝกซอมดวยกันเปนระยะเวลานานแลว การผานเขาสูรอบที่สอง ของตุรกีจึงมีความเปนไปไดสูง 3.จีน (50) โคช : โบรา มิลูทิโนวิช ผูเลนเดน : ฟาน ซิยี่ ทีมอาตี ๋ถูกวางจากฟฟาเปนทีมวางอันดับสุดทายในฟุตบอลโลกครั้งนี ้ จีนตัวแทนจากเอเชียอีกทีมคงตองขยันวิ่งรบคําครหากันหนักหนอย 4.คอสตาริกา (29) โคช : อเล็ก กีมาเรส ผูเลนเดน : เปาโล วานโชเป คอสตารกิา มีผุเลนกองหนาที่ทําประตูไดดีหลายคน แตคงตองเบียดกับจีนและตุรกีหนอย มองอยางขาโต แซมบาไดเฮตามระเบียบ ตุรกีนาจะตามไปอยางไมยากนัก

สาย D 1.เกาหลีใต (40) โคช : กุด ฮิดดิงค ผูเลนเดน : โซ คี ฮุน ดวยกําลังใจและเสียงเชียรในฐานะทีมเจาภาพ ทีมโสมขาวคงเลนสุดใจแนนอน จะสามารถเปนทีมจากเอเชียทีมแรกที่ผานรอบสองไปไดหรือไม ตองคอยเอาใจชวยครบั 2.โปแลนด (38) โคช : แจสซี ่เอ็งเงล ผูเลนเดน : โทมัซ ไฮจโท ทําผลงานรอบคัดเลือกไดดีมาก แตในสายท่ีมีทีมที่ฟอรมสูสีกันหมดขนาดนี ้คงหนักหนอย 3.สหรัฐอเมริกา (13)โคช : บรูซ อเรนา ผูเลนเดน : เคลาดิโอ ไรนา ยูเอส-บอย ยุคนี้แมจะไมไดรอนแรงเหมือนเมื่อหลายปกอนแลว แตมาตรฐานฝเทานักเตะในทีมก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเปนทีมเต็งอีกทีมของกลุมท่ีนาจะผานรอบแรกไปได 4.โปรตุเกส (5) โคช : อันโตนโิอ โอริเวียรา ผูเลนเดน : หลุยส ฟโก ทีมแซมบายุโรป นําทีมโดยสตารที่เคยมีคาตัวสูงที่สุดในโลก อยางหลุยส ฟโก เปนทีมเต็งหนึ่งของสายนี้อยางแนนอน โปรตุเกสเปนอีกทีมที่มีสไตลการเลนบอลที่สวยงาม ปญหาท่ีมอียูอยางตอเน่ืองก็คือ ในทีมยังขาดศูนยหนาตัวทําสกอรที่มีประสิทธิภาพ มองอยางขาโต โปรตุเกส กับ อเมริกา นาจะผานเขารอบสองไปได แฟนเจาภาพตองลุนเหนื่อยหนอย

สาย E 1.เยอรมัน (11) โคช : รูด้ี โฟลเลอร ผูเลนเดน : โอลิเวอร คาหน Auf geht’s Deutschland schiessen Tor !!! Schiessen Tor !! Schiessen Tor - -or - - or !! ฮูรา! ขออภัยทานผูอานครับ ท่ีเชียรออกหนาออกตาไปสักนิด แตแหม มาอยูประเทศเขาแลว ก็มาชวยเอาใจชวยเขาหนอย ทีมอินทรีเหล็กยุคฟนฟู ไมใชบานพักคนชราอีกตอไป การผสมผสานนักเตะดาวรุงเขามา

Page 95: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 95

ในทีมทําใหระบบการเลนของทีมมีสีสันมากขึ้น (ไมไดโม) แตดวยการท่ีในทีมตองขาดนักเตะหลักไปหลายคนไมวาจะเปน เมหเม็ต โชล หรือ เยนส โนวอทน่ี ก็ทําใหลูกทีมของโฟลเลอรไมอาจจะประมาททีมอื่นๆในสายน้ีได เอา ! สงใจชวยอินทรีเละ เอย –เหล็ก กันดวยนะครับ 2.ซาอุดิอาระเบีย (34) โคช : นาสเซอร อัล จอวฮาร ผูเลนเดน : ซามี อัล จาเบอร ทีมเศรษฐีน้ํามัน เคยโชวฟอรมไดดีหลายครั้งในฟุตบอลโลกรอบสุดทายมาแลว แตยังไมเคยไดเขารอบที่สองสักครั้ง ตัวแทนจากเอเชียทีมท่ีสี่จะทําไดดีแคไหนตองติดตามกัน 3.ไอรแลนด (15) โคช : มิค แมค็คารธี ผูเลนเดน : รอย คีน เข่ียทีมอัศวินสีสม ฮอลแลนดตกรอบคัดเลือกไปอยางพลิกล็อคดังนั้นคงไมมีใครมองขามทีมยักษเขียวไปไดเปนแน เกมการโยนบอลยาวขึน้หนา จะเจาะแผงหลังทีมอื่นไดหรือไม ตองคอยดูกนั 4.แคเมอรนู (17) โคช : วินฟรีด เชเฟอร ผูเลนเดน : แพทริก เอ็มโบมา , ทีมพอมดหมอผี กลับมาอีกครั้งพรอมไดกุนซือไอหนุมบลูยีนสชาวด็อยทช มาทําทีมไดระยะหน่ึงแลว แถมยังไดมาอยูสายเดียวกับเยอรมันอีกดวย งวดนี้แฟนๆคงไดดูการดวลแขงของสายนี้อยางสนุกแนนอน แตแคเมอรูนจะมาทําเซอรไพรสไดดังป 1990 หรือไม ยังเปนคําถามอยูครับ มองอยางขาโต เยอรมันนาจะผานไปไดโดยไมยากนัก สวนไอรแลนดก็นาจะเชือดคูแขงตามไปไดอีกทีม

สาย F 1. อารเจนตินา (2) โคช : โฮเซ เปเคอรแมน ผูเลนเดน : กาเบรยีล บาติสตตูา ทีมฟาขาว เปนทีมเต็งอันดับตนของทัวรนาเมนทนี้อีกทีมหนึ่ง แมวาขณะนี้ทีมมีปญหาเรื่องการเงินและการจายคาตัวนักเตะ แตอยางไรก็ตามทีมซึ่งก็มีซูเปอรสตารแนนขนัด เชนเดียวกบับราซิลและฝร่ังเศส และจากฟอรมทีดี่อยางตอเน่ืองมาตัง้แตในรอบคัดเลือก ดูแลวนาจะผานสายมรณะนี้ไปได 2.ไนจีเรยี (27) โคช : อโมดู ไชบ ู ผูเลนเดน : ออกุสติน โอโคชา

อินทรีมรกตผานเขารอบสุดทายเปนครั้งที่สามติดตอกันแลว ดวยผูเลนที่มากประสบการณหลายคน นาจะทําผลงานไดดีในครั้งนี้ดวย แตในกลุมหินๆขนาดนี้เกงอยางเดียวคงไมพอ 3.อังกฤษ (12) โคช : สเว็น โกรัน อิริคสัน ผูเลนเดน :ไมเคิล โอเวน

ทีมสิงโตคํารามก็ทําผลงานไดดีมาตลอด ภายใตกุนซือชาวสเวดิช สิ่งที่แฟนบอลยังตองกังวลก็คือ สตารดังกัปตันทีมอยาง เดวิด เบ็คแฮม ท่ีบาดเจ็บอยูจะกลับมาฟตชวยทีมไดแคไหน สายนี้อังกฤษตองเผชิญหนากับทีมระดับใกลเคียงกัน โอกาสผานเขารอบหรือตกรอบ มีเทากันครับ 4.สวีเดน (19) โคช : ทอมมี่ โซเดอรแบรก ผูเลนเดน : เฟรดริก ลุงแบรก เปนทีมที่มีการเลนสไตลเดียวกับอังกฤษ คือเร็ว ฉาบฉวย และกลาไดกลาเสีย แตโชครายท่ีตองมาอยูสายนี ้โอกาสที่จะผานไปไดมีไมเยอะนัก แตก็ไมใชวาจะไมมีเลย มองอยางขาโต เปนสายมรณะ (Group of Death) ขนานแทครับ อารเจนตินา คงผานไปได ที่เหลือพูดยากครับ แตอังกฤษ ภาษีดีที่สุดในสามทีมที่เหลือ

Page 96: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 96

สาย G 1.อิตาลี (6) โคช :โจวานนี ่ตราปตโตน่ี ผูเลนเดน ฟรานเชสโก ต็อตตี ้ ขุนพลอัซซูรี ่ เปนทีมเต็งแชมปอีกทมี ที่ทําผลงานในเกมทัวรนาเมนทเชนนี้ไดดีสม่ําเสมอ เปาหมายหนนี้คงหนีไมพน แชมปสมัยที่สี่ ทีมมักกะโรนีมีนักเตะฝเทาดีอยูทุกตําแหนง ภายใตการทําทีมของเทรนเนอรตราปตโตน่ี (ท่ีเราเคยรูจกักันจากประโยค “Ich habe fertig!!”) คงไปถึงรอบรองเปนอยางนอย 2.เอกวาดอร (35) โคช : เอด็มุนโด ลูนา ผูเลนเดน : อกุสติน เดลการโด ผานเขามาในฟุตบอลโลกรอบสุดทายเปนครั้งแรก เน่ืองจากเปนทีมทีย่งัไมมใีครไดเห็นฟอรมเทาไหรนัก จึงอาจจะเปนมานอกสายตาได แตในสายที่แข็งขนาดนี้ แฟนๆคงตองลุนกันหนักหนอย 3.โครเอเชีย (21) โคช : เมียรโค โยซิช ผูเลนเดน : ดาเวอร ซูเคอร เขาไปถึงรอบรองเม่ือ 4 ปที่แลวหลังจากหักปกอินทรีเหล็ก ก็ยังมีผลงานที่สม่ําเสมอ ในรอบคัดเลือกเสียประตูเพียง 2 ประตูเทานั้น จุดเดนของทีมจึงอยูที่เกมรับท่ีเหนียวแนน กองหนาจอมเกาท่ีคอยฉวยโอกาสทําประตูไดเสมอ อยางชเูคอร ดาวซัลโวเมื่อ 4 ปที่แลว นาจะพาทีมผานรอบแรกไปได 4.เมก็ซิโก (7) โคช : ฮาเวียร อากีเรย ผูเลนเดน : เคลาติมอค บรังโก เปนทีมที่ไมมีผูเลนแบบซูเปอรสตาร แตสามารถเลนกันเปนทีมไดอยางดุดัน และอันตรายเสมอ มองอยางขาโต ทีมมักกะโรนีอาศัยลูกเกาผานไปได โครเอเชียตองเบียดกับเม็กซิโกหนักหนอย

สาย H 1.ญี่ปุน (32) โคช : ฟลิปป ตรเูซียร ผูเลนเดน : ฮิเดโทชิ นากาตะ เจาภาพอีกทีม ที่นาจะไดเสียงเชียรอยางหนาแนน คงสูสุดใจแนนอน สายนี้ดูแลวนาจะพอไหวสําหรับทีมยุน สตารดังหลายคนที่ไปคาแขงอยูในลีกยุโรป อยางนากาตะ (AS Rom) นาจะพาทีมไปไดไกลกวารอบแรกได 2.เบลเย่ียม (23) โคช :โรเบิรต วาไซเก ผูเลนเดน :เอมิล เอ็มเพนซา ทีมที่ฟฟาจัดอันดับดีที่สุด ในกลุมนี้นาจะนําประสบการณจากนักเตะของทีมมาใชไดแตถึงอยางไร ในสายน้ีก็ไมสามารถประมาททีมใดไดเลย 3.รัสเซีย (27) โคช : อเล็กซานเดอร ทุคมานอฟ ผูเลนเดน : วิคเตอร อนอฟโก หมีขาวเปนทีมที่มีการเลนที่หนักและดุดันมีจุดเดนในเกมรับเหนียวแนนและการสวนกลับที่อันตราย 4.ตุนีเซีย (30) โคช : อองรี มิเชล ผูเลนเดน : อเดล เซลีมี่ เปนทีมจากทวีปแอฟริกาที่ฟฟาจัดอันดับไวดีที่สุด มีผูเลนหลายคนคาแขงอยูในบุนเดสลีกา แตในสายที่ทุกทีมมีความแข็งแกรงใกลเคียงกันขนาดนี้ คงอาจจะไดกลับบานกอน มองอยางขาโต เบลเยี่ยม และ รัสเซีย เปนทีมเต็งของสายแนนอน แตญ่ีปุนก็พอยังมีโอกาสท่ีดี รักชอบทีมไหน ก็ขอเชียรกันใหสนุกนะครับ 4 ปมีครั้งเอง แตยังไงก็อยาใหเสียการเรียนนะครับ ! เว็บไซทอางอิง http://www.fifaworldcup.com , http://www.wm2002.de

Page 97: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 97

หนาเตา สุภา

เมืองไทยเรามีสิ่งสวยงามมากมายที่ยังรอพวกเราไปชื่นชม และชวยกนัดูแลรักษา สุภาเพ่ิงกลับมาจากการไปเทีย่วทะเลสวย ฟาใสที่เมืองไทยไดวายน้ํากับฝูงปลาใหญนอย ของฝากสําหรับเพ่ือนๆคราวนี้ จึงเปนอะไรท่ีเกีย่วกบัทะเล อาหารพื้นๆของชาวเล อยางปลาเผาและลาบปลามีขอด ี นอกเหนือจากระยะเวลาเตรียมที่ไมยาวนานนัก ปลายังเปนแหลงโปรตีนท่ีดีตอสุขภาพอีกดวย สําหรับฉบับนี้ สุภาขอลาเพื่อนๆ ไปกอนพรอมกับคําวา Guten Apetit นะคะ :)

ปลาเผา สวนผสม : ปลาสําล ีหรืออาจใชปลาเทราท (Forelle) 1 ตัว ตะไคร 2 ตน มะนาว 1-2 ลูก (ขึ้นกับขนาดของมะนาวและความชอบของผูทาน) ใบมะกรูด 7-10 ใบ กระเทียม 4-5 กลบีใหญๆ ขา 7-10 แวน พริก 3-5 เม็ด (ขึ้นกับวาชอบเผ็ดแคไหน) เนย 1-2 ชอนโตะ เกลือ 1 ชอนชา นํ้าตาล 1 ชอนโตะ น้ําปลา 2 ชอนโตะ วิธีทํา 1.ลางปลาใหสะอาด สับครีบและหากออกใหดูไมรกตา 2.ขา ตะไคร ใบมะกรดู ลางใหสะอาด หั่นขาเปนแวน ตะไครเปนทอน ใชมีดทุบตะไครใหพอแตก ยัดสวนประกอบทั้งสามนี้เขาไปในทองปลา 3.ทาเนยใหทั่วตัวปลา โรยตามดวยเกลือ 4.หอปลาดวยแผนอลูมิเนียม นําไปเผาใหสุกบนเตาถาน หรือบนเตาไฟฟาโดยตรงก็ได เคล็ดลับคือ หอใหมีชองอากาศตรงปลาย (หัวปลาหรือหางปลา) เพือ่ใหความชืน้ออกมาได มิฉะนั้นจะกลายเปนปลาอบไป 5.สําหรับน้ําจิ้ม ตํากระเทียมใหแหลก ตามดวยพริก ปรุงดวยน้ําปลา นํ้าตาล และน้ํามะนาว

Page 98: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 98

ลาบปลา

สวนผสม : ปลากระพงหรืออาจใชปลาเทราท (Forelle) 1 ตัว หรือปลาแซลมอล 1 ชิ้นใหญ นํ้ามันพชื 1/2 ขวด เกลือ 1-2 ชอนชา ขึ้นกับขนาดของปลา ขาวค่ัว 2 ชอนโตะ น้ําปลา 2 ชอนโตะ นํ้าตาล 1 ชอนโตะ นํ้ามะนาว 1-2 ลูก พริกปน 2-3 ชอนชา ใบสะระแหน 15-20 ใบ หอมแดง 3 หัว

ผักชีลาว 5 ใบ

วิธีทํา 1.ลางปลาใหสะอาด ถาเกล็ดปลาแข็งและมีมากใหขูดออกเบาๆ ดวยมีดที่ไมคมนัก แลวกรีดตัวปลาตามแนวทะแยงดานละ 3-4 รอย 2.ทาตัวปลาดวยเกลือใหทั่ว ตั้งนํ้ามันในกะทะพอรอนคอยใสปลาลงไปทอด แลวลดไฟลงใหเหลือรอนปานกลาง ทอดจนเหลือทองสวยด ีคอยนําปลาขึ้น 3.ระหวางน้ันละลายน้ําตาลในนํ้าปลา และนํ้ามะนาว ผสมพริกปน ขาวค่ัว หอมแดงห่ันเปนแวน ใบสะระแหน และผักชีลาวลงไป แตงปรุงรสเพิ่มไดตามใจชอบ 4.จัดจานดวยผักสลัด มะเขือเทศ และคอยๆ วางปลาที่ทอดสุกแลวลงบนจาน หลังจากนั้น ราดน้ําลาบลงบนตัวปลา เปนอันวาทานไดแลวคะ

Page 99: ป ที่ 35 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2545ott/puenthai/Stuttgart-2545/2/... · 2003-01-20 · เพื่อนไทย 1 ป ที่ 35

เพื่อนไทย 99

หนาบาร Mr.Carrot

สวัสดีครับ เพือ่นๆผูอานทุกทาน นี่ก็เปนครั้งที่สองแลวนะครับ สําหรับคอลัมน "หนาบาร" อันที่

จริง กระผมไมมั่นใจวา ฉบับนี้จะยังคงไดเขียนอีกหรือไม แตเผอิญเห็นวา เรตต้ิง ของคอลัมนนี้สูงมากๆ ถึงกับมีเพื่อนๆหลายทานติดใจ บางก็เขียนจดหมายมาชม บางก็โทรศัพทมาชม โดยผานมาทางบอกอ กระผมตองขอขอบคุณทุกทานมา ณ ท่ีน้ีดวยครับ ดังน้ันเพือ่เปนการตอบสนองความตองการของผูอาน กระผมนาย Carrot เจาเกาจะยังคงขอนําเสนอ เครื่องดื่มตางๆในคอลัมนหนาบารตอไป โดยในฉบับนี้ เราสมมุติวา ไดมีคนติดใจในฝมือผสม Cocktail ของเพื่อนๆที่ไดลองผสมดูจํานวนมาก สูตรนี้ใหไดไปในฉบับกอน (กระผมเชื่อวาไมมีใครหรอกที่จะลองทําดู ) เพื่อนๆจะทําอยางไร หากม ีbon (ใบ order) อยูตรงหนาคุณเปนสิบๆ จนทําแทบไมทันแนนอนวาลําดับของ order ของลูกคาที่มากอนหลัง มีความสําคัญเปนอันดบัแรก แตการจัดแยก ประเภทของ Cocktail ใหอยูในกลุมเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ก็เขาหนารอนแลว ผมจึงอยากแนะนํา Cocktail ใหอยูในจําพวกของ Tropical Cocktail โดยในกลุมนี้มีสวนผสมของ Pineapple Juice และ Coconut Cream (กระทิบานเรา) Pina Coco Pinacolada Black colada - 5 Pineapple Juice - 2 oz light Rum - 1 oz Dark Rum - 2 oz กะท(ิอุนแลว) - 5 oz Pineapple Juice - 5 oz Pineapple Juice - น้ําแข็ง 1 ทัพพีตักขาว - 2 oz กะท ิ - 2 oz กะท ิ - น้ําแข็ง 1 ทัพพีตักขาว - น้ําแข็ง 1 ทัพพีตักขาว Banana Colada Tequila Colada Chi Chi - 2 oz Light Rum - 1 oz Tequilla - 2 oz Vodka - 2 oz Creme de Banana - 5 oz Pineapple Juice - 5 oz Pineapple Juice - 5 oz Pineapple Juice - 2 oz กะท ิ - 2 oz กะท ิ- 2 oz กะท ิ - น้ําแข็ง 1 ทัพพีตักขาว - 1/2 ชอนชา น้ําตาลทรายละเอียด - น้ําแข็ง 1 ทัพพีตักขาว

ขั้นตอนก็คือ หากใชเครื่องปนเราก็จะปนไดครั้งหนึ่ง 4 แกว ดังน้ัน เราก็สามารถปนทีเดียวได 4 ชนิด cocktail พรอมกัน โดยปนเฉพาะสวนผสม ที่เหมือนกัน และแยก Alcohol แตละชนิดไปตามแตละแกว จากน้ันก็ตกแตงดวย สับปะรด ผาครึ่ง เสียบไมพรอมเสิรฟ