พิธีโกนจุกหรือตัดจุก

3
พิธีโกนจุกหรือตัดจุก สีดา (เจตีร) สอนศรี ประเพณีการโกนจุกหรือตัดจุก เดิมเรียกวา การลงทาโกนจุก เปนประเพณีดั้งเดิมของ ไทยเราประเพณีหนึ่ง ซึ่งถือกันวาทําเพื่อความสวัสดิมงคลให.เด็ก กอนที่จะเริ่มต.นเปนผู.ใหญ พิธีนี้มักจะทํากันระหวางเดือนยี่ ถึงเดือน ๔ โดยมีโหรคํานวนฤกษให. แตเพื่อป8องกันวัน โลกาวินาศ จึงมักทํากันในคราวเดียวกับพระราชพิธีตรียัมปวาย ถ.าไมประกอบพิธีที่บ.าน บิดา มารดาจะพาเด็กไปประกอบพิธีที่โบสถพราหมณ ในวันแรม ๕ ค่ํา เดือนยี่ เพราะที่โบสถ พราหมณจะมีการสมโภชเทวรูป และทําบุญตามคติประเพณีทางพุทธศาสนา ในสมัยนี้ยังมีพิธี นี้อยู มีผู.นําบุตรหลานไปโกนจุกที่โบสถพราหมณ เสาชิงช.า แม.พิธีตรียัมพวายจะเลิกไปแล.ว ผู.ที่ยังนิยมให.บุตรหลานของตนไว.จุกอยู ก็ยังพาบุตรหลานไปให.ตัดจุกที่โชสถพราหมณทุกป< สําหรับผู.ที่สามารถประกอบพิธีที่บ.านได. ก็จะทําพิธีที่บ.าน ในวันสุกดิบคือกอนวันงาน ๑ วัน ตอนเย็นนิมนตพระมาสวดมนตที่บ.าน ๕ หรือ ๗ รูป ตอนกลางคืนมีการเลี้ยงฉลอง รุงขึ้นเปนวันทําพิธี ก็จะเชิญพราหมณมาประกอบพิธี โดยทั่วไปมักทําพิธีโกนจุกเด็กในวันแรม ๖ ค่ํา เดือนยี่ มักจัดพิธี ๒ วัน วันแรกมี เบญจาสําหรับรดน้ําเด็กเมื่อโกนจุกแล.ว และวันนั้นใช.เปนที่บูชาบัตรพลี ในวันแรกนี้บิดา มารดาจะแตงตัวเด็กตามแบบโบราณ โดยนําเด็กไปแตงตัวอีกบ.านหนึ่ง เพื่อแหกันมาฟBงพระ เจริญพระพุทธมนตอีกบ.านหนึ่ง เมื่อใกล.เวลาที่พระสงฆจะเจริญพระพุทธมนต พราหมณจะทํา พิธีนําเด็กโดยถือขันข.าวตอกอกไม.กับกระบองเพชร แล.วสงกระบองเพชรให.เด็กถือ เพื่อจะแห โดยมีพราหมณเดินโปรยข.าวตอกดอกไม.นําหน.า และมีพราหมณอีก ๒ คน เดินถัดมา ทาน หนึ่งเปDาสังข ทานหนึ่งแกวงไม.บัณเฑาะวนําหน.าเด็กมายังที่ทําพิธี เมื่อเด็กนั่งแล.ว พราหมณจะ โยงสายสิญจนมาพาดที่ตัวเด็ก ตรงที่เด็กนั่งมีพรมปู มีหมอนสําหรับวางมือขณะประนมมือนั่ง ฟBงพระเจริญระพุทธมนต เมื่อรีบศีลแล.ว พระเริ่มเจริญพระพุทธมนต โหรออกมาบูชาบัตรพลีที่เบญจา เมื่อเจริญพระพุทธมนตเสร็จแล.ว พราหมณจะนําเด็กมาสงที่เดิม ป<Fพาทยบรรเลงทั้งขาไปและ ขากลับ กก กก , ก!" : #ก!$%&ก’ก(, )* ++ , +. !./01!)$’2 31456ก7 !! )$81’6 %$8*’ก1896 !8888*’:*% !:3ก;$3ก<*/; #!=;<!8กก$ >%8*’$’

Upload: thummachuk-prompuay

Post on 12-Mar-2016

216 views

Category:

Documents


3 download

DESCRIPTION

 

TRANSCRIPT

พิธีโกนจุกหรือตดัจกุ๑

สีดา (เจตีร�) สอนศรี ประเพณีการโกนจุกหรือตัดจุก เดิมเรียกว�า การลงท�าโกนจุก เป นประเพณีด้ังเดิมของไทยเราประเพณีหน่ึง ซ่ึงถือกันว�าทําเพือ่ความสวัสดิมงคลให.เด็ก ก�อนที่จะเร่ิมต.นเป นผู.ใหญ� พิธีน้ีมักจะทํากันระหว�างเดือนยี ่ถึงเดอืน ๔ โดยมีโหรคํานวนฤกษ�ให. แต�เพ่ือป8องกันวันโลกาวินาศ จึงมักทํากันในคราวเดียวกับพระราชพิธีตรียัมปวาย ถ.าไม�ประกอบพิธีที่บ.าน บิดามารดาจะพาเด็กไปประกอบพิธีที่โบสถ�พราหมณ� ในวันแรม ๕ ค่ํา เดือนยี่ เพราะที่โบสถ�พราหมณ�จะมีการสมโภชเทวรูป และทําบุญตามคติประเพณีทางพุทธศาสนา ในสมัยนีย้ังมีพิธีน้ีอยู� มผีู.นําบุตรหลานไปโกนจุกที่โบสถ�พราหมณ� เสาชิงช.า แม.พิธีตรียัมพวายจะเลิกไปแล.ว ผู.ทีย่ังนิยมให.บุตรหลานของตนไว.จุกอยู� กย็ังพาบุตรหลานไปให.ตัดจุกที่โชสถ�พราหมณ�ทุกป< สําหรับผู.ทีส่ามารถประกอบพิธีที่บ.านได. ก็จะทําพิธีที่บ.าน ในวันสุกดิบคือก�อนวันงาน ๑ วัน ตอนเย็นนิมนต�พระมาสวดมนต�ที่บ.าน ๕ หรือ ๗ รูป ตอนกลางคืนมีการเลีย้งฉลอง รุ�งข้ึนเป นวันทําพิธี ก็จะเชิญพราหมณ�มาประกอบพิธี โดยทั่วไปมักทําพิธีโกนจุกเด็กในวันแรม ๖ ค่ํา เดือนยี่ มักจดัพิธี ๒ วัน วันแรกมีเบญจาสําหรับรดน้ําเด็กเม่ือโกนจกุแล.ว และวันน้ันใช.เป นที่บูชาบัตรพลี ในวันแรกน้ีบิดามารดาจะแต�งตัวเด็กตามแบบโบราณ โดยนําเด็กไปแต�งตัวอีกบ.านหนึ่ง เพ่ือแห�กันมาฟBงพระเจริญพระพุทธมนต�อีกบ.านหน่ึง เมือ่ใกล.เวลาที่พระสงฆ�จะเจริญพระพุทธมนต� พราหมณ�จะทําพิธีนําเด็กโดยถือขันข.าวตอกอกไม.กับกระบองเพชร แล.วส�งกระบองเพชรให.เดก็ถือ เพ่ือจะแห�โดยมีพราหมณ�เดินโปรยข.าวตอกดอกไม.นําหน.า และมีพราหมณ�อีก ๒ คน เดนิถัดมา ท�านหนึ่งเปDาสังข� ท�านหนึ่งแกว�งไม.บัณเฑาะว�นําหน.าเด็กมายังที่ทําพิธี เม่ือเด็กน่ังแล.ว พราหมณ�จะโยงสายสิญจน�มาพาดทีต่ัวเด็ก ตรงทีเ่ด็กน่ังมีพรมปู มีหมอนสําหรับวางมือขณะประนมมือน่ังฟBงพระเจริญระพุทธมนต� เมื่อรีบศีลแล.ว พระเร่ิมเจริญพระพุทธมนต� โหรออกมาบูชาบัตรพลีที่เบญจา๒ เมื่อเจริญพระพุทธมนต�เสร็จแล.ว พราหมณ�จะนําเด็กมาส�งที่เดิม ป<Fพาทย�บรรเลงทั้งขาไปและขากลับ

� ��������� �� ���ก��ก����� ����� � ������� � ก ก���� ����, ก � !��" : �#��ก!$%�&�ก� �'ก �(�� �, )*� ++ , +�. � � ��� !�./�01���!)$��'�2��� �� �3 � 1��456ก�7� ��!�����!�� )$� ����8�� 1��' 6� ��%$��8*�'ก 18�9�6 �!�8�8�88*�':*�%�� !��:3ก�;�$3ก<�*/� ; �#�!�=�;�<�������!�8�ก��� ก$� >%�8*�'�� ��$�'

วันรุ�งข้ึนอีกวันหน่ึง ตอนเช.าจะประกอบพิธีทางศาสนา เด็กที่จะโกนจุกจะต.องเปลีย่นเคร่ืองแต�งตัวใหม� เป นนุ�งขาวห�มขาวมาน่ังฟBงพระสวด เมือ่รับศลีและฟBงธรรม เม่ือถึงตอนที่พระสงฆ�เร่ิมสวดชยัมงคลคาถา พราหมณ�ก็ถอดจุกออก แบ�งออกเป น ๓ ปอย ปลายผมแต�ละปอยจะมัดและผูกปอยผมแต�ละปอยด.วยใบมะตูมทีแ่ช�นํ้ามนต�ที่ทําพิธีไว.แล.ว แล.วขอดปอยผมแต�ละปอยด.วยแหวนนพเก.า หรือบางทีใช.แหวนพิรอดที่ถักด.วยหญ.าแพรก รวม ๓ วง ซ่ึงหมายถึงพุทธมงคล ธรรมมงคล และสงฆมงคล พอได.ฤกษ�ตามทีคํ่านวนไว. พราหมณ�ก็ลั่น ฆ.องชัยและเปDาสังข� พระสงฆ�สวดมงคลคาถา ถึงบทลงท.าย พราหมณ�ก็เร่ิมตัดปอยจุกแรกด.วยกรรไกร แล.วเอามีดเงิน มีดทอง มีดนาค โกนอีกเล�มละ ๓ ที พอเป นพิธีเท�าน้ัน เพ่ือเป นมงคล ต�อจากน้ันบิดามารดาก็ตัดปอยต�อไป เสร็จแล.ว พราหมณ�ก็ใช.สังข�ตักนํ้าพระพุทธมนต�รดศีรษะเด็ก เมือ่เป<ยกชุ�มดีแล.ว ก็ให.คนโกนผมจนเกลีย้งทั้งศรีษะ เรียบร.อยแล.วพราหมณ�ก็ให.เด็กเปลีย่นเคร่ืองนุ�งห�มใหม� เป นชุดขาวตามเดิมแล.ว พอข้ึนไปรดนํ้าบนเบญจา โหรหรือพราหมณ�ก็จะบอกให.หันหน.าไปทางทิศมงคลในวันนั้น แล.วญาติพ่ีน.องก็จะทะยอยเข.ามารดน้ําอวยพรให.เด็ก บิดามารดารดนํ้าทีหลัง แล.วพราหมณ�รดนํ้าอวยพรเสร็จแล.วทดัใบมะตูมที่หูขวาแล.วสวมมงคลย�น๓ให. เม่ือรดนํ้าเสร็จ บิดามารดานําเด็กไปเปลีย่นเคร่ืองแต�งตัว และให.ออกมาทันเวลาพระฉัน เมือ่พระฉันเสร็จแล.ว ให.เด็กถวายเคร่ืองไทยธรรมแด�พระสงฆ� เมื่อพระว�า ยถาฯ ให.เด็กกรวดนํ้า เมือ่จบยถาฯ ต.องให.เด็กจบกรวดนํ้าพอด ีพอพระข้ึนสัพพีฯ ก็ให.เด็กประนมมือ เมือ่พระกลับแล.ว ก็เป นอันเสร็จพิธีโกนจกุ

+ ������� /8'����<�?*���$��%8!�.� )*�68�ก��5� 91>$*�!6�:*�%����)* 6����$) 76�$��@ !6�8*�'8�����'� <�;<8*2��!�.��'��A2���� )*)� 6��6�� >$*�!6�8�@! �8��6 ��B�ก!�.��%�!��'ก�3!'C���8)*! �'� *6' � ก$� ��B�ก!�.86ก>�8ก$����8�;�%*���@B�ก!�.86ก>�8ก$�� �Dก$�886ก<�*<)�

+

การแต�งกายแบบเดิมของเด็กท่ีเข%าพิธีโกนจุก ตอนฟ'งพระสวดมนต) เด็กจะเกล.าจุก ปBกปJFน และสวมมาลัยดอกไม.สดรอบจุก สวมเสือ้คอต้ังแขนกระบอก นุ�งผ.าโจงกระเบนทับเสือ้ คาดเข็มขัดทับ สวมสายสร.อยและสังวาลเฉวียงบ�า ทีข่.อมือสวม ปอหล่ํากําไลที่ข.อเท.าสวมกําไลเท.าและปอหล่ํา ตอนโกนจุก สวมเสือ้ขาวและนุ�งผ.าขาว สวมเคร่ืองประดับอย�างเดิม ตอนสมโภชเวียนเทียน นุ�งโจงกระเบน สวมเสือ้คอต้ังแขนยาวผ.าหน.าไว.นอกผ.านุ�ง เข็มขัดทับสวมสังวาลเฉวียงบ�า ข.อมอืสวมปอหล่ํากําไล ข.อเท.าสวมกําไลเท.าและปอหล่ํา สวมรองเท.าถุงเท.า

-------------------------------------- หนังสืออ%างอิง ชวน ธนากร, เทีย่วเฟ*+องเร่ืองเมืองไทย. กรุงเทพฯ : เกษมบรรณกิจ. ๒๕๑๔. ณัฏฐภัทร นาวิกชีวิน, พระราชพิธีโสกันต). กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร. ๒๕๑๘. นายอินเครา, สารคดีน�ารู%ของไทยในอดีต. กรุงเทพฯ : ก.าวหน.า, ๒๕๐๖. พูนพิศมัย ดิศกลุ, ม.จ., ประเพณีพิธีไทย. กรุงเทพฯ : เสริมวิย�บรรณาคาร, ๒๕๑๗. อนุมานราชธน, พระยา, ประเพณีเก�าของไทย. กรุงเทพฯ : แพร�พิทยา, ๒๕๐๑.