โคมไฟศรีล านนา culture/01...โคมไฟศร ล านนา...
TRANSCRIPT
โคมไฟศรีลานนา ประวัติความเปนมา
การทําโคมไฟของจังหวัดเชียงใหม ถือเปนงานประณีตศิลปประเภทหัตถกรรมอยางหนึง่ที่ จัดเปนศิลปประจําทองถ่ินทางเหนือ สําหรับการทําโคมไฟของตําบลบานแหวน หรือที่เรียกกันใน หมูบานวา โคมไฟศรีลานนา เริ่มตนที่หมูบานดู หมูที่ 11 โดยแมอุยคําเอย สมวงศ อายุ 61 ป เลาใหฟงวา การทําโคมไฟศรีลานนา ที่มีอุยคําเอย สมวงศ เปนผูคิดริเริ่มทําขึ้นมาเปนคนแรกใน ตําบลบานแหวน โดยไดเรียนรูมาจากผูเฒาผูแกผูรูอ่ืน ๆ ในอดีต ซ่ึงแมอุยคําเอยไดนําวิธีการที่รูมา เดิม ๆ มาประยุกตทําใหโคมไฟมีความสวยงามและเหมาะสมกับยุคสมัยและการใชงาน จนไดรับ รางวัลเปนสินคาโอทอปของอําเภอหางดง
แตเดิมการทําโคมไฟยังไมมีใครคิดจะทําเปนอาชีพหลัก เพราะทุกครัวเรือนจะยึดการทํา นาเปนอาชีพหลัก แตเมื่อหมดฤดูกาลทํานาแลว ชาวบานในหมูบานก็ไมมีอะไรทํากัน จึงรวมกัน คิดจะผลิตสินคาออกมาหลายชนิด รวมทั้งการทําโคมไฟศรีลานนานี้ดวย แตในที่สุด ชาวบานก็ คิดวาการทําโคมไฟเปนงานศิลปหัตถกรรมที่เหมาะสมที่สุดสําหรับหมูบาน เพราะสามารถหา ตลาดไดไมยาก ขายไดนํารายไดมาสูชุมชนไดอยางตอเนื่อง นอกจากนี้ยังสามารถผลิตโดย ดัดแปลงลวดลายรูปทรงใหมๆ ของโคมไฟใหเหมาะสมยุคสมัยและเทศกาลตางๆ ไดตลอดเวลา โดยเฉพาะอยางยิ่งในชวงเทศกาลลอยกระทง ตรุษจีน จะมีการส่ังส้ินคาชนิดนี้เขามามากจน ประดิษฐไมทัน
การทําโคมไฟศรีลานนาในอดีตจะใชวัตถุที่มีอยูในชุมชนมาประดิษฐเปนโคมไฟ แต ปจจุบันไดมีการประยุกตทั้งวัสดุที่ใชทํา รวมทั้งเครื่องมือตาง ๆ โดยมีรายละเอียดและขั้นตอนใน การทําดังนี้
วัตถุที่ใชทํา 1. ไมไผ 2. เหล็กเสนตัด 3. กาว 4. น้ํายา 5. กระดาษ (สวนใหญจะเปนกระดาษสาสีขาว และกระดาษทองไวใชตกแตงลาย)
2
ขั้นตอนในการทําโคมไฟ 1. นําไมไผมาผาและเหลาใหเปนเสนโดยใหมีความหนา - บางและขนาดความยาว
พอเหมาะ ซ่ึงในอดีตการผาไมไผใหเปนเสนนั้นจะใชมือทําเองทั้งหมด แตปจจุบันไดเปล่ียนมาใช เครื่องจักรแทน การผาไมไผเปนเสนและเหลาใหมีขนาดตามท่ีจะใช เรียกวา การจัก
2. เมื่อจักเปนเสน ๆ เสร็จแลวนําไมไผที่จักแลวไปแชในน้ําปูนในเพื่อปองกันมอด หลังจากนั้นก็นําขึ้นมาตากใหแหง
3. ขั้นตอไปเปนการขึ้นรูปโคมไฟซ่ึงจะใชเหล็กดัดมาเปนโครงโดยการนําเหล็กมาดัดให เปนรูปทรงตาง ๆ ตามท่ีตองการ แลวก็ลงมือสานโครงไปตามรูปทรงนั้น ๆ การเช่ือมยึดโครงจะใช กาวเปนตัวยึดแลวนําโครงที่ขึ้นไวไปชุบน้ํายาและผึ่งท้ิงไวหนึ่งคืนใหแหง
4. เม่ือโครงที่ผ่ึงทิ้งไวแหงดีแลว ก็เปนขั้นตอนการติดกระดาษ ซ่ึงถือวาเปนขั้นตอนที่ ตองใชความประณีตละเอียด ผูทําจะตองใชความอดทนสูงมาก รวมทั้งตองมีสมาธิที่ดี เพราะ จะตองดึงกระดาษใหตึงไปตามขอบของโครงโคมไฟ การติดกระดาษจะตองติดกระดาษใหตึงทุก ๆ ดาน มิฉะนั้นกระดาษจะมีรอยยน ไมสวยงาม สินคาก็จะไมไดคุณภาพ ไดราคาไมดี กระดาษที่ ใชติดโคมไฟจะใชกระดาษสา ซ่ึงเปนกระดาษที่ผลิตขึ้นในทองถ่ินและนิยมใชกันมาตั้งแตรุนปูยา ตายาย วัสดุตาง ๆ หลานี้ในสมัยกอนก็จะลงมือทําเองทั้งหมด เชน กระดาษสา เปนตน สําหรับ ปจจุบันก็จะสั่งซ้ือเพราะประหยัดเวลาและมีราคาตนทุนถูกกวาทําเอง
5. เม่ือติดกระดาษตามโครงของโคมไฟเสร็จเรียบรอยแลวก็จะลงมือตกแตงลวดลาย ของ ดั้งเดิมจะนิยมตกแตงเฉพาะบริเวณขอบของตัวโคมไฟ แตปจจุบันมีการประยุกตใชลวดลายที่ หลากหลายมากยิ่งขึ้นเพื่อใหเหมาะสมกับเทศกาลของการใชงาน สําหรับสีของกระดาษที่ใช
3
ตกแตง มักจะนิยมใชกระดาษสีทอง สีเงิน โดยติดตามขอบของโคมไฟ ปจจุบันมีการใชสีสันที่ หลากหลายมากขึ้น และติดตามบริเวณตัวโคมไฟเพื่อใหเกิดลวดลายที่สวยงาม ซ่ึงถือวาเปนการ ประยุกตใหเหมาะสมกับปจจุบัน เทคนิคการตัดลวดลายที่จะใชในการตกแตงนั้นจะเนนวาหากเปน โคมไฟในแบบดั้งเดิม (แบบเกา) ที่เคยทํามาก็จะเปนลวดลายเรียบ ๆ ใชสีทอง, สีเงิน เปนหลัก แตหากเปนโคมไฟประยุกต ก็ติดลวดลายใหออกมาดูแลวไมเหมือนลายที่อ่ืน ใครคิดวาสวยงามก็ ติดมา และสวยอยางไรก็ขึ้นอยูกับเทคนิคการตัดลวดลายอีกวาจะคิดอยางไร ตัดขึ้นหรือตัดเฉียง ติดแลวเรียบหรือไมเรียบ ก็อยูที่ฝมือของชางแตละคนลวดลายที่ใชทําจะมีเสนลายไทยเปนสวน ใหญ ในอดีตโคมไฟชนิดนี้จะมีที่ไวสําหรับใสเทียน ขี้ผึ้งไวจุดใหความสวาง แตปจจุบันโคมไฟ ศรีลานนานี้ไดมีการออกแบบใหนํามาใชกับหลอดไฟในปจจุบันที่สามารถนําไปใชติดตาม บานเรือนและรานคาตาง ๆ ไดอยางเหมาะสม ระยะเวลาในการผลิตโคมไฟแตละอันตองใช เวลานานพอสมควร ดังนั้นในการทําแตละครั้งก็จะทําครั้งละมาก ๆ เพราะแตละขั้นตอนมีวิธีการ ยุงยาก ดังนั้นหากจะทําครั้งละ 1 อัน จะไมคุมคาเวลาในการเตรียมวัสดุตาง ๆ
โคมไฟศรีลานนาของหมูบานดู (หมู 11 ) ต.บานแหวน ไดรับความนิยมจากหมูบานใน ตําบลเดียวกัน และตางตําบล หลักจากไดรับการคัดเลือกใหเปนผลิตภัณฑสินคา OTOP ดีเดน ของ ตําบลบานแหวน ความนิยมจึงมีมากขึ้น จํานวนการส่ังซ้ือสินคามีเพิ่มขึ้นทัง้จากพืน้ทีอ่ื่น ๆ เชนจงัหวดั ลําพูน จังหวัดเชียงเชียงราย หากเปนในชวงเทศกาล จะทําสงไมทัน สําหรับราคาที่ขายก็คิดเปนขนาด ธรรมดา ตนทุนจะอยูที่ 25 บาท / ใบ แตราคาขายสงอยูที่ 50 บาท / ใบ ทําใหผูเขามารวมทําซ่ึงเปน กลุมอาชีพสามารถมีอาชีพที่เล้ียงตนเองได
ปจจุบัน การทําโคมไฟศรีลานนาของบานดู (หมูที่ 11 ) ตําบลบานแหวนไดรับการ สนับสนุนจากองคการบริหารสวนตําบลบานแหวน โดยเริ่มแรกจะอุดหนุนผานมาทางกลุมแมบาน โดยจัดสรรมาใหเปนงบลงทุน โดยไดจัดซ้ือเครื่องมืออุปกรณการทําโคมไฟมาให พรอมทัง้กระตุนให กลุมแมบานเปนองคกรที่เริ่มทําโดยใหสมาชิกรวมกันลงหุนคนละ 100 บาท ในชวงแรก ๆ กม็สีมาชกิ มารวมกันเยอะมาก แตนานไปจํานวนผูเขารวมกลุมก็ลดลงเรื่อย ๆ แตก็ยังมีความยนิดลีงหุนใหเพยีงแต ไมมาทํา ปจจุบันกลุมแมบานที่ทําโคมไฟศรีลานนาก็เหลือเพียง 6 - 7 คน ซ่ึงเปนกําลังหลักในการ ผลิตและสรางงานสรางเงินสรางชื่อเสียงใหกับหมูบานตนเอง
นอกจากนี้กลุมแมบานประดิษฐโคมไฟศรีลานนายังไดมีกิจกรรมสืบทอดภูมิปญญาในการทํา โคมไฟใหแกเยาวชนในตําบลบานแหวน โดยการชวยสอนใหนักเรียนที่สนใจ เชน โรงเรียนบานสัน ปาสัก โรงเรียนสันผักหวาน โรงเรียนชางคํา เปนตน การสอนนักเรียนนัน้โรงเรยีนจะเปนผูนาํนกัเรยีน มาเรียนรูที่หมูบาน ดังนั้นจึงถือไดวาปจจุบันบานดู (หมูบานที่ 11 ) เปนแหลงการเรยีนรูใหแกเยาวชน ทั้งในตําบลและนอกตําบล นอกจากนี้กลุมแมบานนี้ยังไดจัดทําประชาสัมพันธ โดยมีการประกาศ
4
เสียงตามสายของหมูบาน สําหรับผูสนใจทั้งเด็กและผูใหญ ใหมาฟง ทําและเรียนรูได ซ่ึงแหลง การเรียนรูเปนที่ที่บานของอุยคําเอย สมวงศ นั่นเอง
รูปภาพแสดงขั้นตอนการประดษิฐโคมไฟศรีลานนา ต.บานแหวน (หมูที่ 11)
1. การจกั 1. การขึน้รูปโคมไฟ
3. นําโครงโคมไฟไปตากใหแหง 4. การติดกระดาษ
5. การตกแตงลวดลาย