นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช...

20
¹¤Ã´Í¹¾ÃР˹éÒ ò ¹¾.ºÑญªÒ ¾§Éì¾Ò¹Ôª àÃ×èͧ´Õ´Õ·ÕèàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒ ó ¨ÓÅͧ ½Ñ觪ŨԵà ชว¹¤ิ´ ชว¹¤ุย ˹éÒ สุธÃÃม ªยѹµìเกียÃµÔ ศิลปิ¹ถิè¹¹¤Ã ˹éÒ ñ๐ Ãศ.วÔมÅ ด�ÒศÃี àลèÒàÃ× èͧàÁ×ͧà¡èÒ Ë¹éÒ ññ ¼ศ.©ÑµÃªÑย ศุกÃÐกÒญ¨¹ì Ãั¡สุขภÒ¾ ˹éÒ ñò ¾ญ.ภÑทÃÔยÒ มÒÅÑยศÃี ÁุÁÁͧÃั¡ษ์บéÒ¹Ãั¡ษ์àÁ×ͧ ˹éÒ ñó สุเมธ Ãุ¨ÔวณÔªยìกุÅ ·èͧà·Õ èยวàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒ ñ๖ ทÒÃìซÒ¹ºÍย ÁͧàÁ×ͧ¤Í¹ผèÒ¹àล¹ส์ ˹éÒ ñ๗ ¹¾.ÃѧสÔµ ทͧสมÑคÃì >> อ่านต่อหน้า ๘ พบกับเรื่องราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช http://www.nakhonforum.com ราคา ๒๐ บาท ปีท่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน ๒๕๕๗ >> อ่านต่อหน้า ๙ เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗ คณะกรรมการพัฒนา เศรษฐกิจภาคใต้หอการค้าไทย น�าโดยนายอิสระ ว่องกุศล- กิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยร่วมประชุมพัฒนา ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ รายงาน เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๗ นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน ประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริม การจัดสวัสดิการสังคมด้านผู้สูงอายุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ห้องประชุม ศรีปราชญ์ ชั้น ๓ ศาลากลางจังหวัด ที่ประชุมหอการค้าภาคใต้ตั้งเป้าผลักดันอ่าวไทยเป็น แหล่งท่องเที่ยว ราคายางพาราและปาล์มน�้ามันตกต�่า ท�าเศรษฐกิจชะลอตัว เสนอเร่งพัฒนาภาคเกษตร และ ร่วมคัดค้านน�าเข้าน�้ามันปาล์มของกระทรวงพาณิชย์ ปี ๒๕๕๘ ขยายการค้าชายแดนทะลุ ๒ ล้านล้านบาท สลิล โตทับเที่ยง อิสระ ว่องกุศลกิจ สุทัศน์ เลิศมโนรัตน์ วัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ดร.นพพงษ์ ธีระวร จังหวัดนครฯประชุมหารือเรื่องการ ดูแลผู้สูงอายุ ๘๖๔,๖๖๐ ครอบคลุม พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพ นครศรีธรรมราช โดยนางเลขา ซื่อธานุ- วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรี- ธรรมราช คณะอนุกรรมการส่งเสริมการ จัดสวัสดิการสังคมด้านผู้สูงอายุจังหวัด นครศรีธรรมราช เข้าร่วมประชุม สาระส�าคัญของการประชุมคือการ ด�าเนินงานโครงการ

Upload: aree-muthukan

Post on 15-Mar-2016

235 views

Category:

Documents


9 download

DESCRIPTION

รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557 พบกับเรื่องราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช http://www.nakhonforum.com Related publications

TRANSCRIPT

Page 1: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

¹¤Ã´Í¹¾ÃР˹éÒ ò¹¾.ºÑ­ญªÒ­¾§Éì¾Ò¹ÔªàÃ×èͧ´Õ´Õ·ÕèàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒ ó¨ÓÅͧ­½Ñ觪ŨԵÃชว¹¤ิ´ชว¹¤ุย ˹éÒ ๔สุธÃÃม­ªยѹµìเกียõÔศิลปิ¹ถิè¹¹¤Ã ˹éÒñ๐Ãศ.วÔมÅ­ด�ÒศÃีàลèÒàÃ×èͧàÁ×ͧà¡èÒ Ë¹éÒññ¼ศ.©ÑµÃªÑย­ศุกÃÐกÒ­ญ¨¹ìÃั¡สุขภÒ¾ ˹éÒñò¾ญ.ภÑทÃÔยÒ­มÒÅÑยศÃีÁุÁÁͧÃั¡ษ์บéÒ¹Ãั¡ษ์àÁ×ͧ ˹éÒñóสุเมธ­Ãุ¨ÔวณÔªยìกุÅ·èͧà·ÕèยวàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒñ๖ทÒÃìซÒ¹ºÍยÁͧàÁ×ͧ¤Í¹ผèÒ¹àล¹ส์ ˹éÒñ๗¹¾.ÃѧสÔµ­ทͧสมÑคÃì

>> อ่านต่อหน้า ๘

พบกับเร่ืองราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช http://www.nakhonforum.com ราคา ๒๐ บาท

ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน ๒๕๕๗

>> อ่านต่อหน้า ๙

เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗ คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้หอการค้าไทย น�าโดยนายอิสระ ว่องกุศล-กิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยร่วมประชุมพัฒนายุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้

รายงาน

เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๗

นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการ

จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน

ประชุมคณะอนุกรรมการส ่งเสริม

การจัดสวัสดิการสังคมด้านผู้สูงอาย ุ

จังหวัดนครศรีธรรมราช ห้องประชุม

ศรีปราชญ์ ชั้น ๓ ศาลากลางจังหวัด

ที่ประชุมหอการค้าภาคใต้ต้ังเป้าผลักดันอ่าวไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยว ราคายางพาราและปาล์มน�้ามันตกต�่าท�าเศรษฐกิจชะลอตัว เสนอเร่งพัฒนาภาคเกษตร และร่วมคัดค้านน�าเข้าน�้ามันปาล์มของกระทรวงพาณิชย์ ปี ๒๕๕๘ ขยายการค้าชายแดนทะลุ ๒ ล้านล้านบาท

สลิล โตทับเที่ยง อิสระ ว่องกุศลกิจ สุทัศน์ เลิศมโนรัตน์ วัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ดร.นพพงษ์ ธีระวร

จังหวัดนครฯประชุมหารือเรื่องการดูแลผู ้สูงอายุ ๘๖๔,๖๖๐ ครอบคลุมพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพ

นครศรีธรรมราช โดยนางเลขา ซื่อธานุ-

วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรี-

ธรรมราช คณะอนุกรรมการส่งเสริมการ

จัดสวัสดิการสังคมด้านผู ้สูงอายุจังหวัด

นครศรีธรรมราช เข้าร่วมประชุม

สาระส�าคัญของการประชุมคือการ

ด�าเนินงานโครงการ

Page 2: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

-

นครศรีธรรมราชหน้า ๒ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

>> อ่านต่อหน้า ๑๙

กรณีไฟลุกไหม ้บ ่อทิ้ งขยะเอกชนขนาดใหญ่ใน

จังหวัดสมุทรปราการ และหลายพื้นท่ีของประเทศ

ไทย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศร้อนจัด ความร้อน

สะสม หรือก๊าซติดไฟที่เกิดจากการหมักของสิ่งปฏิกูล

จนควันไฟกับกลิ่นที่กระจายไปกระทบชุมชนใกล้เคียง

ท�าให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ระคายเคืองสายตาและ

คลื่นไส้เวียนหัว จนชาวบ้านต้องอพยพไปหาที่อยู่อาศัย

ใหม่ บ้านเรือนถูกโจรกรรมทรัพย์สิน แต่เบื้องลึกไฟไหม้

บ่อขยะอาจไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศร้อนจริงๆ ก็ได้

สภาพอากาศเป็นเพียงแพะที่ไม่อาจพิสูจน์แก้ต่าง

แม้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ประสานไปยัง

กระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้แจ้งเตือนไปยังองค์กร

ปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศให้เฝ้าระวัง

โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพหาขยะขายโรงงานรีไซเคิลที่อาจ

ท้ิงก้นบุหรี่ลงกองขยะท�าให้เกิดไฟไหม้ แต่จะแน่ใจได้

ว่า อปท. หรือเทศบาลต่างๆ จะให้ความสนใจต่อเรื่อง

นี้อย่างจริงจัง เพราะปัญหาขยะเป็นปัญหาใหญ่ของ

ประเทศซึ่งเกิดจากการบริโภค บรรจุภัณฑ์ที่สร้างขยะ

อุปนิสัย ตลอดกระบวนการแก้ไขปัญหาขยะ ตั้งแต่

ต้นธารถึงปลายธาร

เทศบาลนครนครศรีธรรมราชมีบ่อขยะขนาดใหญ่

อยู ่หลังสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ต�าบลนาเคียน

อ�าเภอเมือง ช่วงฝนตกเกิดเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นและมี

น�้าเน่า ส่งผลกระทบต่อชุมชนใกล้เคียงและค่ายวชิราวุธ

ปัจจุบันขยะในเขตเทศบาลนครนครฯ เพ่ิมขึ้น นโยบาย

ก�าจัดขยะจากชุมชนต่างๆ ไม่รัดกุม เราไม่เคยเห็น

โครงการรณรงค์เกี่ยวกับปริมาณขยะหรือการรีไซเคิลใน

ชุมชนใดๆ เลย ผู้บริหารเทศบาลชุดใหม่มักโยนความผิด

และข้อสงสัยเรื่องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะไปให้ผู้

บริหารชุดก่อน ว่าไม่รู้ว่าเขาท�าอะไรกันไว้อย่างไร แทนที่

จะก�าหนดนโยบายของตนเอง แล้วเร่งด�าเนินการให้ก้าว

เดินไปข้างหน้า ไม่ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปถึงสมัย

หน้า ซ่ึงผู้บริหารชุดใหม่จะกล่าวโทษผู้บริหารชุดก่อนวน

เวียนอยู่อย่างนี้

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ยาวมาจนสงกรานต์ ที่บ้านผมมีดอกไม้บานสะพรั่ง จนใครๆ ที่ผ่านไปมาต้องเหลียว

มอง แม้กระทั่งลงมาถามไถ่ว่าต้นอะไร ดอกอะไรอยู่เสมอๆ ส�าหรับพวกเราในบ้านนั้น มีพิเศษอีกอย่าง เพราะในบ้านนอกจากจะมีกล่ินกรุ ่นหอมตระหลบแล้ว ยังมีหมู ่ผีเส้ือบินว่อนไปมาทั้งวันเป็นร้อยๆ ตัว คล้ายกับอยู่ในสวนผีเสื้อสวรรค์ประมาณนั้น ท่านเจ้าคุณวัดศรีทวีถึงกับส่ังให้หาไปปลูกในวัด ถวายไป ๒ ต้นแต่รอดต้นเดียว ตอนนี้ก็ให้ดอกสะพรั่งอยู่ที่หน้าหอระฆังของวัด

๕ ภาพนี้เป็นช่ออโศกทั้ง ๕ ต้นที่ถ่ายไว้เมื่อต้นเดือนมีนาคม

๑) อโศกสปัน ต้นนี้ปลูกมานานตั้งแต่สร้างบ้าน ด้วยเม็ดที่ได้มาจากสวนพฤกษศาสตร์เพเรเดนิยา ในกรุงแคนดี ศรีลังกาจึงขึ้นสูงดอกอยู่ไกลไม่เห็นชัด ได้ดึงรูปจากเน็ตมาให้ดู เป็นอโศกท่ีแพร่หลายมานาน นิยมปลูกในวัดโดยท่ัวๆ ไป ดอกเป็นช่อเป็นพวงแน่นกลมอย่างท่ีเห็น แบบท่ีเป็นดอกแต่ละครั้งบานแต่ละทีได้แหงนคอตั้งตาดูอย่างเต็มตาและสวยสมใจ แม้จะร่วงเร็ว แต่เวลาออกดอกก็ค่อยๆ ทยอยบานอยู่ใต้พุ่มตรงนั้นดอกตรงนี้ดอกส้มแดงแจ๊ดแจ๋อยู่เป็นเดือนๆ ทีเดียว

ตูมก็ชูช่อ ท่ีบานก็สวยสยาย ให้ดอกท่ีปลายยอดแทบตลอดท้ังปี คนรถท่ีมาจอดริมถนนหน้าบ้านชอบเด็ดเอาไปเสมอๆ น่าจะสวยจนเกินห้ามใจ ชื่ออโศกหลวงพระบางนี้ผมตั้งเรียกเอาเองเพราะท่ีนั่นเขาเรียกแต่ว่า “อโศก” เท่านั้น

๔) อโศกศรียะลา ต้นนี้เพาะจากเมล็ดที่ไปเก็บมาจากเมืองยะลา ในฐานะเมืองพ่อ ปู่และย่าของผม เขาปลูกไว้ ๒ ข้างถนนสายหลักของเมืองพร้อมกับตั้งช่ือเรียกจนเป็นไม้คู ่เมือง เวลาออกดอกบานท�าให้ถนนท้ังสายสวยจนบอกไม่ถูก อโศกยะลานี้มีจุดเด่นพิเศษคือแทงช่อใหญ่ยักษ์ออกมาจากแทบทุกข้อของกิ่งและล�าต้น แบบว่าเวลาหน้าดอก สะพรั่งไปทั่วทั้งต้น ทุกกิ่งทุกแขนง จนแม้กระทั่งตามโคน จนตลอดไปถึงยอดแทบทุกยอด แบบท่ีเรียกว่า “บ้าดอก” บอกไม่ถูก เป็นดอกทุกปี ปีละหลายเดือนทีเดียว ต้นน้ีคือต้นท่ีตรึงตาตรึงใจใครๆ ท่ีผ่านไปมา ท่ีหาไปถวายท่านเจ้าคุณวัดศรีทวีก็พันธุ์นี้

๕) อโศก เฉยๆ ต้นนี้ยังไม่มีช่ือเฉพาะ อาจจะจัดเข้ากลุ่มอโศกน�้าทั้งหลายในสารบบก็ได้ ได้มาจากไหนจ�าไม่ได้ แต่เด่นมากกับช่อดอกท่ีแม้ไม่ใหญ่มาก แต่ดกมาก ไล่สีต้ังแต่เหลืองส้มแสด เวลาเป็นดอกหากยืนอยู่บนบ้านแล้วมองลงมาตามเรือนยอด จะเห็นเป็นพรมเขียวท่ีแต้มด้วยช่อดอกส้มเหลืองเต็มไปหมดที่ส�าคัญต้นนี้มีน�้าหวานที่คงหอมหวนชวนผีเสื้อมาดื่มกินแล้วบินว่อนเกาะเพาะพันธุ์เต็มไปท้ังบ้านแบบไม่ต้องไปเท่ียวสวนผีเสื้อท่ีไหน

ไหนๆ ก็เล่าเรื่องอโศกท้ัง ๕ แล้ว ก�าลังนี้ยังมีไม้อีก ๖ - ๗ อย่างในบ้านท่ีก�าลังออกดอกดกให้สีสัน

๒) อโศกระย ้ า ต ้นนี้มีแพร ่หลายในแทบทุกสวนพฤกษศาสตร์ทั่วทั้งโลกในฐานะ “ดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก” แรกพบในพม่าแล้วน�าไปปลูกที่อังกฤษ ได้ชื่อฝรั่งว่า “แอมเฮิร์สเทีย” แต่ไทยเราเรียกว่าอโศกระย้าจากดอกที่ทิ้งช่อระย้ายาวลงมาด้วยกลีบสีชมพูม่วงที่สยายย้อย เผยปากดอกแต้มเหลืองและขาว ผมได้มาจากนักสะสมพันธุ์ไม้ตัวยงที่สวนจตุจักร บอกว่าหากจะปลูกให้ได้ดอกนอกจากอากาศจะเหมาะสมและดินดีสภาพสมบูรณ์แล้ว ต้องปลูกเป็นคู่ ต้นน้ีให้ดอกมา ๒ ปีแล้ว แต่ต้นคู่กันยังไม่ได้ดอก

๓) อโศกหลวงพระบาง ต้นนี้ผมขอปันมาจากแถบภูสีที่หลวงพระบาง เมื่อคราวพาแม่ น้าและพี่น้องไปกันหลายปีก่อน ให้ดอกหลายปีแล้ว มีลักษณะเด่นคือช่อใหญ่ ดอกสีส้มนวล ที่

อโศกระย้า

อโศกหลวงพระบาง

อโศกศรียะลา

อโศก

๕ อโศก ในบ้าน กลางตลาดท่าวังเมืองนคร

อโศกสปัน

Page 3: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๓

จ�าลอง ฝั่งชลจิตร

ผมเขียนถึง ‘โกเลน’ โกวิทย์ เงาอัศวชัย อย่างคร่าวๆ ใน ‘เนชั่นสุดสัปดาห์’ เมื่อราวๆ มีนาคม ๒๕๕๖

โกเลนเป็นเจ้าของท้องหยีแค้มปิ้ง ริมหาดท้องหยี อ�าเภอขนอม จังหวัด

นครศรีธรรมราช ชายวัยกลางเป็นลูกทะเลตัวจริง เป็นนักอนุรักษ์ของแท้ แต่ไม่คุยโม้อวดตนว่าเป็นนักอนุรักษ์ ไม่สอนให้ใครอนุรักษ์ แต่ลงมือท�าให้ดู

เมื่อกลางๆ เมษายน ๒๕๕๖ หลังทราบว่าเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ แม ่ เต ่าตนุตัวหนึ่ งคลานขึ้นมาบนหาดทรายอ่าวท้องหยี หน้าท้องหยีแค้มปิ้งของโกเลน แล้วก้มหน้าก้มตาขุดหลุมวางไข่คราวเดียว ๑๐๙ ฟอง วางไข่แล้วแม่เต่าก็กลับสู่ท้องทะเล

พอวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๖ ลูกเต่า ๒ ตัวแรกโผล่จากหลุมทรายมาดูโลกภายนอก จากนั้นตัวอื่นๆ ก็ตามออกมารวม ๑๐๑ ตัว อัตรารอดชีวิตนับว่าสูงมาก เด็กๆ แถวขนอมอยู่ระหว่างปิดเทอมทราบว่าอ่าวท้องหยีมีข่าวใหญ่ก็ชวนกัน มาดูและลุ้นอย่างตื่นเต้น

หลังทราบข่าวเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลชายฝั ่งเข้ามาดูและตัดครีบไปศึกษาวิจัย โกเลนแจ้งความประสงค์แก่เจ้าหน้าที่ว่าแกจะขอเลี้ยงดูลูกเต่าตนุพวกนี้เอง เพราะแกเคยเลี้ยงตะพาบน�้ามาก่อนคิดว่าพอมีประสบการณ์

ตอนผมเข้าไปดูลูกเต่าเหลืออยู่ ๙๙ ตัว โกเลนอนุบาลโดยแบ่งลูกเต่าใส่ถังใบใหญ่ๆ ๔ ใบ เหตุที่ต้องขอเลี้ยงเอง โกเลนอธิบายว่าถ้าปล่อยลูกเต่าลงทะเลช่วงตัว

แล่เนื้อสับให้กิน บางวันเปล่ียนมาให้กล้วยน�้าว้าบ้าง

มีนาคม - เมษายน ๒๕๕๗ ลูกเต่าเติบโตอย่างสมบูรณ์ ท้องหยีแค้มปิ้งกลายเป็นศูนย์เรียนรู ้เต่าทะเลปราชญ์ชาวบ้านอ่าวท้องหยี ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักได้ศึกษาชีวิตเต่าตนุ (Green Turtle) เมื่อเร็วๆ น้ี ‘สโมสรเยาวชนเสียงเด็ก’ จัดค่ายเยาวชน น�าโดย ยุทธนา กับ สุพินดา ไกร-เสม น�าเด็กๆ ประมาณ ๕๐ คน มาเข้าค่ายศึกษาชีวิต อบรมการเขียนการ์ตูน โดย ‘ครูอ๋า’ นักเขียนการ์ตูนชื่อดังมาเป็นวิทยากร เรียนรู ้การถ่ายท�าวีดิโอ การเล่นละครใบ้ ศึกษาชีวิตนกออก โลมาสีชมพู ลิงแสมบริเวณปากอ่าวขนอมและเข้าร่วมกิจกรรม

ณ ศูนย์เรียนรู ้เต่าทะเลปราชญ์ชาวบ้านอ่าวท้องหยี

สุพินดาเล่าว่า “เด็กๆ ลงมือจับเต่าออกจากบ่อ ล้างท�าความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อ ตามล�าตัวของเต่า ก่อนลงมือทายาให้ตาม

อ่อนๆ เนื้อเยื่อใต้ท้องที่ยังเหลืองนุ ่ม ก็จะเป็นอาหารของปู คิดว ่าจะดูแลให้โตกว่านี้แล้วค่อยปล่อยให้อยู่ในธรรมชาติ

ดูแลเต ่า ๙๙ ตัวไม่ใช่ง่ายๆ เลย โกเลนต้องสูบน�้าจากทะเลมาเปลี่ยนทุกวัน ซื้อปลามา

ครีบของเต่าทั้งสี่จุดและบริเวณหลังคอ ล้างท�าความสะอาดบ่อเต่า และเปลี่ยนถ่ายน�้า ซึ่งเป็นกิจวัตรประจ�าวันของศูนย์ เรียนรู ้ เต ่าทะเลปราชญ์ชาวบ้าน อ่าว ท้องหยี

หนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ของค่ายเยาวชน ‘บ้านเรา...ก็บ้านเขา (ด้วย)’ ของสโมสรเยาวชนส�านักข่าวเสียงเด็ก โดยมีโกเลน และป้ากุลเป็นครูภูมิปัญญาให้กับเด็กๆ”

เมื่อก่อนลูกเต่าตัวยังเล็กขนาดวางในฝ่ามือ ปีกว่าๆ ลูกเต่าตัวใหญ่ขึ้นน�า้-หนักกว่ากิโลกรัม ถ้าโตเต็มที่หัวถึงยางจะยาวประมาณ ๑ เมตร น�้าหนัก ๑๓๐ กิโลกรัม

ปัจจุบันโกเลนสร้างบ่อเลี้ยง ๓ บ่อ ขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก พื้นปูกระเบื้อง ที่ส�าคัญต้องเปลี่ยนน�้าเกือบทุกวันโดยใช้เครื่องสูบจากชายหาดหน้าศูนย์ฯ วันไหนคลื่นจัดน�้าขุ่นสูบไม่ได้ วิธีแก้ก็คือสูบน�้ามาเก็บไว้ก่อน เร่ืองน้ีต้องดูลมดูฝนฟังพยากรณ์อากาศอยู่เรื่อยๆ

โกเลนมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าไฟค่อนข้างสูง รวมทั้งค่าอาหารส�าหรับลูกเต่าก�าลังโต ๙๙ ตัว วันไหนถ้าออกเรือได้เองก็พอได้ปลามาแล่เนื้อ ถ้าวันไหนออกเรือไม่ได้ต้องไปซื้อปลาหรืออาหารเม็ด ค่าอาหารเฉลี่ยวันละ ๕๐๐ บาท และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ปลาที่เต่าชอบจะเป็นปลาเนื้อ ถ้าเป็นปลามีก้างเต่าไม่ชอบกิน ชีวิตจริงๆ ของเต่าตนุต้องกินสาหร่ายทะเลบ้าง ผมยังไม่ถามว่าโกเลนไปหาสาหร่ายมาให้กินบ้างหรือเปล่า

จ�าค�าพูดของโกเลน วันที่เข ้าไปดูลูกเต่า “อ่าวขนอม ทะเลขนอมยังอุดมสมบูรณ์ครับ เต่าจึงเลือกมาไข่”

กว่าเต่าจะโตเต็มที่ก็อีก ๓-๗ ปี อายุยืนยาวถึง ๘๐ ปี ถ้าไม่ทยอยปล่อยลงทะเล เสียบ้าง ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ผมเขียนมาถึงตรงนี้ ก็อยากบอกกับฝ่าย CSR ของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายให้หันมาสนใจเรื่องนี้บ้าง

สสส. ที่สนับสนุนงบประมาณแก่กลุ่มอนุรักษ์ต่างๆ น่าจะเจียดงบฯ สนับ-สนุนศูนย์เรียนรู้เต่าทะเลปราชญ์ชาวบ้านอ่าวท้องหยีสักก้อน เพื่อเป็นก�าลังใจให้ชาวบ้านนักอนุรักษ์ที่เห็นถึงความส�าคัญของสิ่งแวดล้อมจริงๆ

ลูกเต่าตนุเพิ่งออกจากไข่

Page 4: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๔ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

ชวนคดิ ชวนคยุ

สุธรรม ชยันต์เกียรติ

โดย : นครา

[email protected]

หนังสือพิมพ์ รักบ้านเกิด ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือน

เมษายน ๒๕๕๗ หลังการเลือกต้ังวันท่ี ๓๐ มีนาคมมา

ถึงวันน้ีชาวเมืองนครคงทราบแล้วว่าประชาชนเลือกใคร

มาเป็นสมาชิกวุฒิสภาท�าหน้าที่ต่อจากสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์

ก่อนเลือกตั้ง ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีต รมว.

ต่างประเทศ และอดีตเลขาธิการอาเซียนออกเดินพบปะ

ประชาชนในตัวเมือง ขอเสียงสนับสนุน พ.ต.อ.ธรรมนูญ

ไฝจู ที่ลาออกจากราชการมาสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าประสบ

ความส�าเร็จก็ขอแสดงความยินดี หากได้คะแนนน้อยกว่า

ท่านอื่นก็เตรียมตัวไว้สู้ใหม่

เดือนเมษานี้จะมีกิจกรรมงานประเพณีของเมืองนครที่มี

สืบทอดกันมาหลายปี คืองานสงกรานต์แห่นางดานเมือง

นคร แล้วยังมีพิธีพุทธาภิเษกน�้าศักดิ์สิทธิ์ เมืองนคร และ

สรงน�้าพระพุทธสิหิงค ์ ท้ังสี่ กิจกรรมล้วนมีมาแต่โบราณ

งานสงกรานต์และพิธีสรงน�้าพระพุทธสิหิงค ์เพิ่งเริ่มเมื่อ

สมเด็จฯ กรมพระยาด�ารงราชานุภาพได้น�าแบบอย่างมาจาก

กรุงเทพมหานครมาเป็นแบบอย่างให้หัวเมืองนครปฏิบัติตาม

แทนงานบุญเดือน ๕ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน เช่น วันเจ้าเมืองเก่า

เจ้าเมืองใหม่ และวันว่าง แต่ผิดกันตรงของนครเรามีวันสรงน�้า

พ่อท่าน (พระสงฆ์) และอาบน�้าคนแก่ เปลี่ยนมาเป็นสรงน�้า

พระพุทธสิหิงค์แทน และสาดน�้าสงกรานต์กัน ไม่มีประเพณี

ด�าหัวอย่างภาคเหนือ แต่ก็มีบ้างทางราชการจัดให้ผู ้สูงอายุ

มานั่งหมอบประนมมือ แล้วให้ลูกหลานหรือผู้อาวุโสน้อยกว่า

ไปรดน�้าอวยพร จะยังคงประเพณีแบบเก่าอยู่บ้างก็เฉพาะใน

ชนบท ซึ่งเหลือน้อยเต็มที แบบของภาคกลางดูจะเป็นทางการ

กว่าเท่กว่า

ส่วนพิธีพุทธาภิเษกน�้าศักดิ์สิทธ์ิเริ่มมาหลายร้อยปีแล้ว

ใช้ในพิธีถือน�้าพิพัฒน์สัตยามาแต่โบราณของเมืองนคร เพิ่ง

มาเลิกเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ ส่วนพิธีแห่นางดานมีมานานนับพันปี

เพราะเป็นพิธีของพราหมณ์ท่ีเรียกว่า “พิธีตรียัมปวาย” ใน

พิธีมีการแห่แหนรูปไม้กระดานแกะสลักเป็นรูปพระอาทิตย์

พระจันทร์ พระนางคงคาและพระนางธรณี ชาวบ้านมิใช่

พราหมณ์โดยทั่วไปจะเรียกว่า “แห่นางกระดาน” หรือเรียก

สั้นๆ อย่างคนใต้ว่า “แห่นางดาน”

พิธีแห่นางดานได้ยกเลิกไปเมื่อประมาณปี ๒๔๖๒ และ

ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อปี ๒๕๔๕ โดย ททท.นครศรีธรรมราช

มหาวิทยาลัยราชภัฏและชมรมรักบ้านเกิด แต่เป็นการจ�าลอง

เพื่อน�ามาแสดงและในปีต่อๆ มาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

รับเป็นเจ้าภาพตลอดมาจนถึงปัจจุบัน หลักฐานทางโบราณคดี

หลายอย่างได้บ่งชี้ว่าเหล่าพราหมณ์ได้เดินทางเข้ามาเมืองนคร

หลายพวก กลุ่มที่มีอิทธิพลมากๆ ล้วนสืบสายมาจากอินเดีย

ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๘-๑๒ หลักฐานจากจารึกต่างๆ เทวรูป

ที่พบในเทวสถานร้างหลายแห่งตามท่ีพราหมณ์เหล่าน้ันมาตั้ง

หลักแหล่ง เช่น ท่าศาลา สิชลและเมืองนคร เทวสถาน เช่น

เขาคา ตุมปัง ฐานพระสยม เป็นต้น

พราหมณ์เหล่านี้จะเป็นผู ้ที่เชี่ยวชาญทางด้านราชพิธี

ต่างๆ จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นชนชั้นสูงในทุกราชส�านัก ท�า

พิธีต่างๆ ในราชส�านัก และพิธีทางศาสนาพราหมณ์เอง เช่น

วันที่ ๒๔ มีนาคม ที่ผ่านมาโนช เสนพงศ์ นายก

อบจ.นครฯ แถลงนโยบาย ๘ ข้อต่อสภา อบจ. ได้แก่

นโยบายด้านบริหารงาน, การท่องเที่ยว, การกีฬา, การ

ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, การอาชีพ, สาธารณสุข

และคุณภาพชี วิต , การพัฒนทรัพยากรธรรมชาติ

และสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาโครงสร ้างพื้นฐาน

ทั้งนี้อย ่าลืมสานต่อโครงการต่างๆ ที่ พิชัย บุณย-

เกียรติ อดีตนายกด�าเนินการค้างเอาไว ้ให ้คืบหน้า

ด้วย การก่อสร้างมัสยิดกลางประจ�าจังหวัด

นครฯ ‘นายกมาโนช’ ควรหารือกับ เอกชัย ดารากัย

ประธานคณะกรรมการอิสลามประจ�าจังหวัดฯ ว่าควรจะ

เริ่มต้นอย่างไร ก่อนนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง อบจ.

กับเทศบาลนครนครฯ ไม่ค่อยราบรื่นเพราะเป็นคนละพวก

กัน ปัจจุบัน นายก อบจ. กับ เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายก

เทศมนตรีเป็นพี่น้องคลานตามกันมา อะไรที่เป็นอุปสรรค

ขัดขวางความเจริญและประโยชน์ของท้องถ่ินน่าจะหารือ

กันได้ แต่จะกีดกัน เทพไท เสนพงศ์ ไม่ให้รู้เห็นก็กระไร

อยู่ เรื่องนี้ชาวนครต้องจับตา วัณโรครักษาหาย...

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล ผอ.ส�านักงานป้องกัน

ควบคุมโรคที่ ๑๑ จ.นครฯ เป็นห่วงเรื่องการแพร่กระจาย

พิธีโล้ชิงช้า ยัมปวาย และตรียัมปวาย

หอพระอิศวร หอพระนารายณ์

ที่ เห็นอยู ่ ในป ัจจุ บัน ถูกสร ้างขึ้นเมื่อ ๖๐๐ กว่าปีที่แล้ว ในสมัยพระนารายณ์รามาธิบดีที่ ๑

(พระเจ้าอู่ทอง) เสวยราชย์กรุงศรีอยุธยา ตามต�านานพราหมณ์

เมืองนครกล่าวไว้ว่า “พระเจ้ารามาธิบดีแห่งรามนคร”

(อินเดียปัจจุบัน) ได้ส่งเครื่องราชบรรณาการ คือ “เทวรูปพระ

นารายณ์” “รูปพระศรีลักษมี” “รูปพระอิศวร” “รูปหงส์

และชิงช้าทองแดง” มาถวายพระเจ้าอู่ทอง แต่เรือที่น�าเครื่อง

บรรณาการถูกคล่ืนซัดเข้าปากน�้าเมืองตรัง กรมการเมืองตรัง

ก็รายงานมายังเมืองนครและน�ามาไว้ที่เมืองนคร เจ้าพญา

นครก็ได้ท�าหนังสือถึง พญาโกษาให้มารับ เจ้าพญาโกษาให้

แต่งเรือ ๖ ล�ามารับและจอดรออยู่ที่ปากน�้านครรถา (ปาก

นคร) แต่เกิดเหตุอัศจรรย์ มีพายุพัด เมฆหมอกมืดด�า ๗ วัน

๗ คืน มิได้หยุด เจ้าพญาโกษาได้เกิดนฤมิตรว่า พระนารายณ์

เทวรูปว่า “เราเสด็จอยู่เมืองนคร” เพราะเหตุว่า “หาดทราย

แก้วมีสาริกอิศรา” อยู่ “พญาโกษา” จึงแต่งเครื่องพลีกรรม

ถวาย หากนฤมิตรเป็นจริงขอให้พายุสงบท้องฟ้าที่มืดมัวพลัน

สว่างไสวพายุสงบลง “พญาโกษา” จึงแจ้งไปยังพระนารายณ์

รามาธิบดี ครั้นทรงทราบจึงมีพระราชโองการให้เจ้าพญานคร

จัดหาที่เหมาะสมสร้างหอพระอิศวร หอพระนารายณ์ และ

โบสถ์พราหมณ์ (ปัจจุบันถูกรื้อไปแล้ว) ตั้งแต่นั้นมาทุกปี ในวัน

แรม ๑ ค�่า เดือน ๑ ก็จะมีพิธี “ยัมปวายและตรียัมปวาย” ร่วม

กับฐานพระสยมสืบมา จนยกเลิกเสียเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๖๒

แต่จังหวัดนครศรีธรรมราชก็ยังท�าพิธีเล็กๆ ในหมู่พราหมณ์

อยู่พักหนึ่ง จนถูกรื้อโบสถ์พราหมณ์จึงเลิกโดยเด็ดขาด ส่วน

กรุงเทพฯ ก็ยังท�าเป็นพิธีภายในเว้นเสียในเรื่องการโล้ชิงช้า

ในพิธีแห่นางดานที่นครศรีธรรมราช ก็คือพิธีตรียัมปวาย

แต่เดิม แต่จัดเป็นการแสดงเป็นการสาธิต และมาจัดร่วมกับ

งานบุญเดือน ๕ หรืองานสงกรานต์เมืองนคร ถือว่าเป็นเรื่องดี

ที่เราได้อนุรักษ์ประเพณีโบราณของเมืองเอาไว้ ทั้งแห่นางดาน

น�้าศักดิ์สิทธิ์เมืองนครและสรงน�้าพระพุทธสิหิงค์ แต่ขอฝาก

ให้อนุรักษ์ประเพณีโบราณ “เล่นว่างเดือน ๕” “สรงน�้าพระ

สงฆ์” และ “อาบน�้าคนเฒ่าคนแก่” เอาไว้ด้วย จะเล่นสาดน�้า

สงกรานต์อย่างภาคกลาง หรือด�าหัวอย่างภาคเหนือก็ไม่ว่า ขอ

ให้รักษาของเก่าเราเอาไว้ด้วยนะครับ

Page 5: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๕

ของเชื้อวัณโรค ซึ่งประเทศไทยมีผู ้ป่วยรายใหม่มากกว่า

๘๐,๐๐๐ รายต่อปี ประชาชนทุกคนมีสิทธิได้รับเชื้อผ่าน

ทางการไอ จาม พูดคุย โดยไม่ปิดปาก ถ้าใครมีอาการไอ

ติดต่อกันเกิน ๒ สัปดาห์ หรือไอปนเลือด มีไข้ตอนบ่ายๆ

มีเหง่ือออกมากเวลากลางคืน น�้าหนักลด อ่อนเพลีย

เบื่ออาหาร เจ็บหน้าอก และเหนื่อยหอบง่าย ให้รีบพบ

แพทย์ทันที วาริน ชิณวงศ์ ปธ.หอการค้านครฯ

และคณะกรรมการแสดงความสามารถจัดงาน ‘ก ้าว

สู ่ทศวรรษท่ี ๔ หอการค้านครศรีธรรมราช’ ได้อย่าง

มีเนื้อหา ทั้งได ้รับความร ่วมมืออย ่างดีจากผู ้บริหาร

หอการค้าฯ ๑๔ จังหวัดภาคใต้ งานนี้ กลินทร์

สารสิน กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยให้เกียรติ

บรรยายเรื่อง ‘นาวาน�าทิศเศรษฐกิจไทย สู ่การปฏิรูป’

อิสระ ว่องกุศลกิจ ปธ.กรรมการหอการค้าไทยมาร่วม

ประชุมหาแนวทางสนับสนุนและส่งเสริมเศรษฐกิจของ

ภาคใต้อย่างเอาจริงเอาจัง สลิล โตทับเที่ยง

ปธ.หอการค ้ากลุ ่มจังหวัดอันดามัน มาให ้ภาพรวม

เศรษฐกิจของภาคใต้ฝ ั ่งอันดามันได ้อย ่างมีน�้ามีเนื้อ

ผู ้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากงานประชุมของ

หอการค้าฯ ครั้งนี้น่าจะเป็น บุญชัย ศักดาวุธ เจ้าของ

‘เฮงฮกก่ี ขนมเปี ๊ยโกชัย ปากพนัง’ อ.ปากพนัง ใน

ฐานะต้นแบบโครงการ ‘๑ บริษัท ดูแล ๑ ชุมชน’ ที่

คณะกรรมการหอฯ ๑๔ จั งห วัดภาคใต ้ สมาชิ ก

โครงการนักธุรกิจรุ ่นใหม่ไปเยี่ยมชมการท�าขนมเปี ๊ยะ

แสนอร่อย พร้อมสื่อมวลชนนับสิบส�านัก

ห้างเพชรทองซีกวง โดย ปาลิกา จึงไพศาล

มอบเงินสนับสนุนเพื่ อ โครงการพัฒนาห ้อง เรียน

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ สู ่ห ้องเรียนคุณภาพ โดยมี

ผอ.ภักดี เหมทานนท์ ผู้อ�านวยการโรงเรียนเป็นผู ้รับ

Not only you are contented with our fine diamond and gold jewels, but community also enjoys.

ตลาดท่าม้า ตลาดคูขวางตลาดหัวอิฐ ตลาดเสาร์อาทิตย์

คณะผู ้บริหารโรงแรมทวินโลตัส มอบกระเช้า

ดอกบัวคู่ แสดงความยินดี กับ นพ.สมชัย อัศวสุดสาคร

ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เนื่องในโอกาส

รับรางวัลผู้บริหารโรงพยาบาลดีเด่นระดับประเทศ

กลินทร์ สารสิน

อิสระ ว่องกุศลกิจวาริน ชิณวงศ์

สลิล โตทับเที่ยง

เชิญเที่ยวงาน ‘เทศกาลมหาสงกรานต์แห่นางดาน’

ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๔ เมษายน ณ สวนศรีธรรมาโศกราช,

สนามหน้าเมือง และหอพระอิศวร จังหวัดนครฯ ชมขบวน

แห่นางดาน, ร่วมสรงน�้าพระพุทธสิหิงค์, ชมการแสดง

ศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบ้านและมหกรรมขนมพ้ืนบ้านอาหาร

พื้นเมือง สงกรานต์ปีนี้สาดน�้าเล่นน�้าอย่างสุภาพ

กิจกรรมของฮอนด้าศรีนครวันที่ ๒ มีนาคม

๒๕๕๗ ชักชวนญาติมิตรผู้มีจิตศรัทธาถวายพระพุทธ-

รูปและร่วมบูรณะกุฏิโบราณ วัดโคกสะท้อน ต.นาเคียน

อ.เมือง จ.นครฯ วันที่ ๑๓ - ๑๔ มีนาคม น�าพรีเซ็นเตอร์

สาวสวยไปออกบูธประชาสัมพันธ์ท่ี ธ.กรุงไทย สาขา

ท่าศาลา ต่อมาวันที่ ๑๗ - ๑๘ มีนาคม ที่สาขาชะอวด

มอบ เมื่อเดือนมีนาคม

ที่ผ่านมา

รุ ่นพี่ - รุ ่นน้อง

กัลยาณีศรีธรรมราช พบ

กันโดยบังเอิญ จ�าลอง

ฝ ั ่ งชลจิตร ถือโอกาส

มอบรวมเรื่ อ งสั้ น เล ่ม

ใหม่ ‘เรื่อง ผม เล่า’ แด่

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ

อดีต รมว.ต่างประเทศ

และอดีตเลขาฯอาเซียน

ผู ้ว ่าฯ อภินันท์-

ซื่ อ ธ านุ ว งศ ์ บรรยาย

สั้นๆ เรื่อง ‘พระบรมธาตุ

สู ่มรดกโลก’ ในงาน ๔

ทศวรรษหอการค้านครฯ

Page 6: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๖ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

เวิลด์ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ จ�ำกัด ซึ่งเป็นบริษัท รับประมูลคอมพิวเตอร์สถำนศึกษำ ทั้ง ๑๔ จังหวัดภำคใต้ ผมท�ำซองประมูลเองด้วย สนุกมำกครับ ผมสนุกกับกำรท�ำงำน ท�ำเเหมือนเป็นบริษัทของตัวเองเลย”

สัมพันธ์เปิดเผยว่ำ เขำท�ำยอดขำยได้สูงมำก เพรำะเข้ำใจแนวทำงพัฒนำตลำดจนเป็นที่รักของหัวหน้ำและ ผู้จัดกำร ขณะเดียวกันเขำฝันถึงธุรกิจของตนเองหลังเรียนจบ “ผมอยำกเป็นเจ้ำของธุรกิจแต่ไม่ค่อยมีทุน”

เขำเล่ำว่ำ-- ท�ำงำนบริษัทนี้ได้ไม่นำนก็ลำออกเพรำะควำมเข้ำใจผิดที่ท�ำให้เขำหมดก�ำลังใจ ลำออกแล้วอำศัยควำมสำมำรถไปสมัครที่บริษัทประมูลคอม-พิวเตอร์ให้หน่วยงำนต่ำงๆ ซึ่งเจ้ำของตกลงว่ำจะแบ่งหุ้นให้เขำ “แต่พออยู่ไปๆ เขำก็ไม่ให้ผมหุ้น เพรำะผมไม่มีทุนไปหุ้นกับเขำ เขำว่ำจะแบ่งหุ้นลมให้ ก็ไม่แบ่งให้ ก็เสียใจ แต่ก็ยังเป็นเซลล์ ประมูลคอมพิวเตอร์ล็อตใหญ่ๆสองสำมล็อตผมก็ลำบวช”

เขำบวชที่วัดเกำะจำก ได้ฉำยำ-- พระสัมพันธ์ จุลฺลปัณฑิโต แรกบวชตั้งใจจะอยู่ในผ้ำเหลือง ๓๐ วัน เกิดควำมสุขขึ้นมำเลยอยู่ต่อ

“ผมรู้สึกเสียดำยถ้ำลำสิกขำ เพรำะมีควำมสุขมำก ควำมสุขที่เกิดจำกควำมสงบ ไม่วุ่นวำย แค่เดินบิณฑบำตด้วยปลีน่องของตนเอง มีผ้ำกำสำยะคลุมกำยก็สำมำรถออกหำกินด้วยบำตรของตนเองได้แล้ว อีกอย่ำงหนึ่ง อยำกทดแทนคุณพ่อแม่ซึ่งแก่มำกแล้วด้วย”

พรรษำแรกสัมพันธ์สอบได้นักธรรมชั้นตรี และตั้งใจจะไม่ลำสิกขำ ปีที่ ๒ สอบได้นักธรรมชั้นโท “ผมได้สมัครเรียนในมหำวิทยำลัยมหำมกุฏรำชวิทยำลัยด้วย (ป.ตรีพระ) แต่ลำออก เพรำะเป้ำหมำยของพระที่บวชเรียน มหำวิทยำลัยพระกับที่ผมเรียนไม่เหมือนกัน พระอยำกได้วุฒิกำรศึกษำ แต่ผมอยำกได้ควำมรู้”

เมื่ออยำกได้ควำมรู้ก็ค้นคว้ำต�ำรำทำงพระพุทธ-ศำสนำ และพระสงฆ์ไทยกับกำรเมือง จนได้ค�ำตอบอย่ำงแจ้งแก่ใจ เขำได้ธุดงค์ไปทำงภำคเหนือ ได้ค้นพบควำมวิเวกและเข้ำใจควำมหมำยของชีวิต

“เรื่องกำรเลื่อนสมณศักดิ์ท�ำให้พระภิกษุติดใจในโลกธรรม ๘ จนแยกไม่ออก ว่ำไหนพระไหนคฤหัสถ์ คฤหัสถ์ติดใจใน ลำภ ยศ สรรเสริญ บำรมีอย่ำงไร พระบำงรูปก็เป็นอย่ำงนั้น”

บวชศึกษำหำควำมรู้ครบ ๓ ปี ก็ลำสิกขำออกมำดูแลพ่อแม่ที่อำยุมำกขึ้น และตั้งใจอยู่กับโลกให้ได้ “ผมออกมำท�ำงำนกับคุณสุรินทร์ สิริชยำนนท์ บริษัท วิชั่น อินเตอร์เน็ต จ�ำกัด และบริษัท วิชั่น พร๊อพเพอร์ตี้ จ�ำกัด” เขำสำรภำพว่ำได้ประสบกำรณ์เกี่ยวกับกำรค้ำ ที่ดินจำกบริษัทนี้อย่ำงมำก ไม่นำนเขำก็ลำออกอีกครั้ง

“คุณสุรินทร์แนะน�ำให้รู ้จักคุณสมพร ศรีเพชร เรำนัดพบกันคร้ังแรกที่ ร้ำนอำหำรในบวรบำซำร์ มุมพระเคร่ือง ผมสอบถำมคุณสมพร เร่ืองกำรท�ำปั๊มน�้ำมัน ผมได้รับควำมรู้จำกคุณสมพร ว่ำกำรท�ำปั๊มน�้ำมันอิสระนั้นไม่ใช่เรื่องยำก เรำต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบกำร มีถังน�้ำมัน มีตู้จ่ำยน�้ำมัน มีหลังคำคลุมตู้จ่ำยน�้ำมัน และซื้อน�้ำมันมำขำย เท่ำน้ีก็จบ แต่ในโลกของควำมเป็นจริง มีกำรแข่งขันรุนแรงมำก ผมจึงขออนุญำตจดทะเบียนเป็นปั๊มน�้ำมันเมื่อ ๒๘ พฤศจิกำยน ๒๕๔๕”

สัมพันธ์เล่ำต่อ “ผมโชคดีที่มีพี่ชำยที่รัก พ่อแม่และรักครอบครัว ต้องขอบคุณพี่ชำยคนน้ีของผมจริงๆ คุณสุพจน์ กุ้ยเส้ง ท�ำงำนบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหำชน) เขำมีเงินอยู่

สัมพันธ ์ กุ ้ยเส ้ง เจ ้าของปากพนังปิโตรเลียม ปั ๊ม

น�้ามันคุณภาพดีขนาดกะทัดรัดริมถนนนครฯ - ปากพนัง และสวนปาล์มขนาดเหมาะแก่ก�าลังตน

‘รักบ ้ านเกิด ’ ติดตามความเคลื่อนไหวของนักธุรกิจหนุ ่มลูกปากพนังคนนี้ทางสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมมาปีกว่าๆ ได้รับรู ้ทัศนคติ แนวคิดทางธุรกิจตลอดจนวิธีคิดที่อิงแนบกับหลักธรรมในพระพุทธ-ศาสนาอย่างน่าสนใจ จึงติดต่อ

การตลาดจากวิทยาลัยอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช “ตอนเรียนที่อาชีวะผมเป็นเด็กวัดมเหยงคณ์ตลอด ๕ ปี”

จากน้ันจึงไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี สาขาการตลาดที่มหา-วิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลา เขาเรียนภาคสมทบช่วงกลางวันเขาออกหางานท�า “ผมไปอาศัยบ้านเขาอยู ่ก็เลยเกรงใจ ได้งานท� า เป ็นพนักงานธุ รกิ จ บ ริษัท บ้านซอฟท์แวร์ จ�ากัด ในอ�าเภอหาดใหญ่ วันหนึ่งพนักงานขาย ลาออก ต�าแหน่งนั้นว่างลง เขาก็ให้

ขอสัมภาษณ์ทางสื่อออนไลน์ยอดนิยม เขาตอบกลับมาว่ายินดี

สัมพันธ์ กุ ้ยเส้ง เกิดในครอบครัวชาวปากพนังฝั่งตะวันตก ได้รับการศึกษาระดับประถมจากโรงเรียน วัดเกาะจาก ต�าบลเกาะทวด ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ระดับมัธยมที่โรงเรียนโศภณคณาภรณ์ ระดับ ปวช. และ ปวส. สาขา

ผมทดลองขายดู ผมเรียนภาคสมทบ กลางวันไปท�างานขาย Software และ Computer ปรากฏว่าปีนั้นผมเป็นพนักงานขายดีเด่น ผมเริ่มท�างานปี ๒๕๓๘”

เขาน�าความรู ้ด ้านการตลาดที่ เล ่าเ รียนมาไปประยุกต์วางแผนการขาย

“ผมท�าอยู่สองปี แล้วย้ายไปท�าที่ บริษัท หาดใหญ่

(อ่านต่อหน้า ๙)

ประชุมชมรมชาวสวนปาล์มที่จังหวัดกระบี่

Page 7: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๗

สังคมต้องการอะไร?” ตัวอย่างกรณี คณะ

วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ได้เปิดโอกาสให้บริษัทเอกชน ๓ แห่ง

ได้แก่ ทรูแลปของบริษัททรู คอร์เปเรชั่น

จ�ากัด (มหาชน) บริษัท เบทาโกร จ�ากัด

(มหาชน) และบริษัทพรีเมียร์ อินโนเวชั่น

เซ็นเตอร์ จ�ากัด (ไพรส์) เข้ามาจัดตั้งใน

มหาวิทยาลัย เพื่อท�าหน้าที่ช ่วยพัฒนา

และสนับสนุนงานวิจัยของคณาจารย์ให้

มีมูลค่าเพิ่มตรงความต้องการของภาค

อุตสาหกรรมและได้รับการสานต่อเชิง

พาณิชย์

แต่งานวิจัยภาคสังคมและมานุษย-

วิทยาก็ถือได้ว่าเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับวิถี

ชีวิตของผู้คน ขนบธรรมเนียม ประเพณี

วัฒนธรรม การศึกษา ความเชื่อ ฯลฯ ซึ่ง

เป็นผลงานที่จะสร้างองค์ความรู ้-ความ

เข ้าใจต ่อคุณค ่าของความเป ็นมนุษย ์

จ�าเป็นที่ภาคธุรกิจหันมาให้ความส�าคัญ

กับคุณค่าของทรัพยากรมนุษย์ที่สร ้าง

มูลค่าให้กับองค์กรทางธุรกิจนั่นเอง ท�าให้

ผมนึกไปถึงภาคองค์กรปกครองส่วนท้อง-

ถิ่น สมาคม ชมรมต่างๆ ทั้งในภาคธุรกิจ

และสังคมถ้าได้มีการจัดเสวนาร่วมกับ

มหาวิทยาลัยในท้องถิ่น เร่ืองการท�างาน

วิจัยของนักศึกษาทุกคณะเพื่อน�าประเด็น

เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ผมได้

รับเกียรติเชิญไปเป็นวิทยากรในฐานะ

นักธุรกิจท้องถิ่น ที่มหาวิทยาลัยวลัย-

ลักษณ์ เรื่อง “งานวิจัยทางสังคมที่สังคม

ต้องการ” มีผู้ร่วมเสวนา ศาสตราจารย์

สุวิชัย หวันแก้ว จากจุฬาลงกรณ์มหา-

วิทยาลัย คุณประยงค์ รณรงค์ ปราชญ์

ชาวบ้านรางวัลแมกไซไซ ด�าเนินรายการ

โดย อาจารย์ ดร.เลิศชาย ศิริชัย มหา-

วิทยาลัยวลัยลักษณ์ สืบเนื่องด้วยส�านัก

วิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

เป็นเจ้าภาพการจัดสัมมนา เครือข่าย

นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สาขาสังคม

วิทยาและมานุษยวิทยาฯ ครั้งที่ ๑๓ ปี

การศึกษา ๒๕๕๖ ระหว่างวันที่ ๑๕ –

๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ โดยมีวัตถุประสงค์

เพื่อให ้คณาจารย ์และนักศึกษาระดับ

บัณฑิตศึกษาจากมหาวิทยาลัย ภาคีเครือ

ข่ายฯ เข้าร ่วมกิจกรรมแสดงความคิด

เห็นแลกเปลี่ยนทัศนะและประสบการณ์

การท�าวิจัย อันจะเป็นการพัฒนาศักย-

ภาพของนักศึกษาสาขาสังคมวิทยาและ

มานุษยวิทยา รวมถึงสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยว

ข้องให้มีความรู้ทางวิชาการเพิ่มข้ึน

ประเด็นที่ทางคณะผู้จัดมีความเห็น

ว ่านักศึกษาท่ีมาน�าเสนอวิทยานิพนธ ์

ควรจะได้ฟังเสียงสะท้อนจากสังคมถึง

งานวิจัยที่สังคมต้องการ เพื่อให้นักศึกษา

ซึ่งจะออกไปเป็นนักวิจัยในอนาคต ได้

ใคร ่ครวญถึงประเ ด็นการท�าวิจัยที่ มี

ประโยชน์ต ่อสังคม พูดให้เข ้าใจง ่ายก็

คือทางคณะผู ้จัดเชิญผมไปในฐานะนัก

ธุรกิจท้องถิ่นมีว ่าความเห็นอย่างไรกับ

งานวิจัยของนักศึกษา และต้องการน�า

เสนออะไรบ้างในฟากความเห็นของคน

ท�าธุรกิจ ส่วนของลุงประยงค์ รณรงค์ นั้น

เป็นตัวแทนของภาคชุมชนที่เข้มแข็ง เป็น

ภาคประชาสังคมในภาคเกษตรมีความ

ต้องการงานวิจัยอย่างไร? เพื่อไปช่วยให้

ภาคเกษตรเข้มแข็งและมีการพัฒนาได้

อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยสรุปแล้วความ

เห็นและข้อเสนอแนะจากภายนอกคือผม

และลุงประยงค์ก็ไปในทิศทางเดียวกันคือ

ท�ำอย่ำงไร? ให้ผู ้ท�ำวิจัยเปิดโอกำสให้

ตัวเขำเองลงไปหำพันธมิตรในภำคธุรกิจ

หรือภำคชุมชนรวมถึงภำคอื่นๆ เพื่อ

ก�ำหนดประเด็นงำนวิจัยร่วมกัน แทนที่

นักศึกษาจะเป็นผู ้ เลือกประเด็นขึ้นมา

ก่อน แล้วจึงลงไปท�างานวิจัยภาคสังคม

เพราะในปัจจุบันน้ีกระแสในการท�างาน

วิจัยทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว “งำน

วิจัยต้องสำมำรถตอบโจทย์ประเทศและ

สังคมได้” ค�าถามใหญ่และเป็นประเด็น

ส�าคัญมากที่ผมถามนักวิจัยและผู ้ เข ้า

ร่วมเสวนาในวันน้ัน ก็คือ “ผู้วิจัยทรำบ

หรือไม่ว่ำเป้ำหมำยของภำคเอกชนและ

ของท้องถิ่นมาเป็นงานวิทยานิพนธ์ของ

นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทุกสาขา

วิชา นี่นับได้ว่าเป็นหน้าต่างแห่งโอกาส

ที่จะท�าให้การพัฒนาเกิดขึ้นจากการใช้

ข้อมูลข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์มาก

ขึ้นกว่าที่เป็นอยู ่ และส�าคัญมากท�าให้

เป้าหมายการท�างานวิจัยของนักศึกษา

อาจารย์ และสถาบันการศึกษา เป็น

เป้าหมายเดียวกันกับภาคสังคมทุกภาค

ส่วน เท่ากับงานวิจัยสามารถตอบโจทย์

ท้องถิ่นประเทศชาติได้นั่นเอง แต่แน่นอน

การใช้ประโยชน์จากงานวิจัยจะเกิดผล

เป็นจริงได้หรือไม่อย่างไร? ผู้มีส่วนเกี่ยว

ข้องอาจต้องตอบค�าถามตัวเองว่า

๑.งานวิจัยมีคุณค่าและดีพอส�าหรับ

เราหรือไม่?

๒.งานวิจัยที่ท�าให้เกิดประโยชน์ใน

การสร้างมูลค่าและคุณค่าต่อภาคธุรกิจ

–สังคมมีอยู่จริงหรือไม่?

๓.งานวิจัยจะสร ้ าง โอกาสและ

ความเป็นไปได้ให้กับองค์กรภาคธุรกิจ-

สังคมได้อย่างไร?

ผมขอชื่นชมกับคณะผู ้ จัดที่ เป ิด

โอกาสให้ภาคส่วนของสังคมและภาค

ธุรกิจเข ้าไปน�าเสนอข้อคิดเห็นในเวที

เสวนาของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา

และที่ จะขอเสนอต ่อ ไปจากนี้ จะท� า

อย่างไร? ให้มีเวทีเสวนานี้โดยเปิดกว้าง

ให้นักวิจัยได้มีโอกาสน�าเสนองานวิจัยต่อ

องค์กรภาคเอกชน และองค์กรภาครัฐ

รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ

ภาคประชาสังคม-สื่อมวลชนเพื่อให้ทุก

ภาคส่วนเห็นคุณค่าของงานวิจัยที่ผู ้ท�า

วิทยานิพนธ์ได้เพียรพยายามในการหาข้อ

เท็จจริงมาน�าเสนอต่อสาธารณะอันจะก่อ

ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาท้องถิ่นและ

ประเทศชาติสืบไปครับ

ไพโรจน์ เพชรคง

ท�ำอย่ำงไร?

ให้ผู้ท�ำวิจัยเปิดโอกำสให้ตัวเขำเอง

ลงไปหำพันธมิตรในภำคธุรกิจหรือภำคชุมชนรวมถึงภำคอ่ืนๆ

เพ่ือก�ำหนดประเด็นงำนวิจัยร่วมกัน

วันจันทร์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นวันขึ้น ๘ ค�่า เดือน ๕

วันจันทร์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค�่า เดือน ๕

ตรงกับวันสงกรานต์

วันอังคารที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นวันแรม ๘ ค�่า เดือน ๕

วันจันทร์ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นวันแรม ๑๔ ค�่า เดือน ๕

เดือนเมษายน ๒๕๕๗

Page 8: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๘ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

<< ต่อจากหน้า ๑เร่ืองจากปก

ณ ห้องบงกชรัตน์ โรงแรมทวินโลตัส ที่ประชุม โดยสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของภาคใต ้ ว ่าต ้องพ่ึงพาจากเศรษฐกิจภาคการเกษตรอย่างยางพาราและปาล์มน�้ามันเป็นหลัก เมื่อราคาผลผลิตตกต�่าการบริโภคและการลงทุนจึงชะลอตัว ส่วนการท่องเที่ยวบางจังหวัดไม่กระทบ

นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดอันดามัน กล่าวว่า จังหวัดฝั ่งอันดามันขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยยางพาราและปาล์มน�้ามัน แต่ปีนี้ราคาแย่กว่าปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวยังคงอยู่

ประสิทธิภาพด้านการผลิตให้ความส�าคัญกับพืชผักปลอดภัย ลดสารเคมี การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ท�าให้ผลิตภัณฑ ์มีมาตรฐานคุณภาพให้ตลาดยอมรับ

ส่วนการท่องเที่ยว

หอการค ้าทั้ง ๑๔ จังหวัด ก�าลังเร ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาการเกษตรสร้างโอกาสให้มากขึ้น ทั้งยังยืนยันถึงการคัดค้านโครงการน�าเข้าน�้ามันปาล์มของกระทรวงพาณิชย์อย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะส่งผลกระทบซ�้าเติมราคาปาล์มภายในประเทศ พร้อมทั้งขยายโอกาสทางด้านการท่องเที่ยวให้มีความเชื่อมโยงระหว่างฝั ่งอันดามันและฝั ่งอ่าวไทยให้มากขึ้น ขณะเดียวกันเห็นควรพัฒนาระบบคมนาคมทางรางกระจายไปยังจังหวัดฝั ่งอันดามัน รวมทั้งพัฒนาระบบจราจร ๔ ช่องจราจร

ดร.นพพงษ ์ ธีระวร ประธานกลุ ่มการค ้า จังหวัดฯชายแดน กล่าวว่าการค้าชายแดนที่ผ่าน มามีสินค้าผ่านระบบศุลกากรสูงถึง ๙๐๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ภาคใต้จะมีมูลค่าอยู่ในนี้สูงถึง ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วยังมีระบบการค้าที่ไม่ผ่านศุลกากรอยู่อีก โดยคาดว่าใน ปี ๒๕๕๘ จะเร่งผลักดันให้มีการขยายตัวสูงถึง ๒ ล้านล้านบาท

นางสาววาริน ชิณวงศ์ ประธานหอการค้า จังหวัดนครฯ กล่าวเน้น เรื่องภูมิศาสตร์เศรษฐกิจทั้งการเกษตรและประมง ในมุมมองทางเศรษฐกิจโลกจะต้องสะท้อนภาพอ่าวไทยให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ท�าให้

วาริน ชิณวงศ์

ที่ตลาด ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มยุโรป สแกนดิเนเวีย ส่วนกลุ ่มเอเชียลดลงอย่างมาก จังหวัดที่กระทบหนัก คือ ระนอง ตรัง ส่วนกระบี่ และภูเก็ต การท่องเที่ยวยังดีเพราะมีเที่ยวบินตรงทั้งในและต่างประเทศ พังงากระทบไม่มากนัก นักท่องเที่ยวเอเชียโดยเฉพาะจีนชะลอการเดินทาง นักท่องเที่ยวไทย (ไทยเที่ยวไทย) กระทบมาก คงต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองว่าจะนิ่งเมื่อไหร่ แต่โดยรวมลดลงกว่าไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๖

นายสุทัศน์ เลิศมโนรัตน์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดอ่าวไทย กล่าวว่า พืชเศรษฐกิจคือยางพาราและปาล์มน�้ามันรายได้ลดลงมาก การใช้จ่าย การ บริโภคจึงลดลง การลงทุนจะชะลอตัว การแก้ปัญหาคือ ต้องศึกษาปัจจัยต่างๆ ในเชิงลึก เช่นการเพิ่ม

ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อย่างเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเต็ม ท�าอย่างไรถึงจะกระจายนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวพื้นที่บนบก จังหวัดนครฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นป่าเขามากมาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ส�าคัญคือ วัดพระมหาธาตุฯ ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เรื่องอาหารทางฝั่งอ่าวไทยสมบูรณ์ที่สุด โดยรวมๆ ฝั่งอ่าวไทยต้องพัฒนาพืชผลทางการเกษตร การกระจายนัก ท่องเที่ยวทะเลมาสู ่บก และการเชื่อมโยงกับฝั ่งอันดามันในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไม่ตรงกันให้สลับมาเที่ยวทางฝั่งอ่าวไทย

นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรม-การพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้หอการค้าไทย ระบุว่า

โลกรู ้จักอ่าวไทยที่เชื่อมโยง ๔ - ๕ จังหวัดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ

ผู้ร่วมประชุมจากทุกจังหวัดมีความเห็นเหมือนกันว่าจะร่วมกันผลักดันให้พระบรมธาตุเจดีย์เป็นมรดกโลก เพราะพระ บรมธาตุฯ ไม่ได้เป็นสมบัติของชาวนครเท่านั้น แต่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาวไทยและเอเชีย

ภาพโดย : ณัฐ ธีระกุล

Page 9: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๙

<< ต่อจากหน้า ๖

รายงานศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู ้สูงอายุ

ปี ๒๕๕๗ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง

ของมนุษย์ก�าหนดให้มีกิจกรรมขับเคลื่อนศูนย์พัฒนา

คุณภาพชีวิตฯ ระดับจังหวัด คณะกรรมการบริหาร

ศูนย์ระดับพื้นท่ี ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่องค์กรปกครอง

ส่วนท้องถ่ิน และชมรมผู้สูงอายุ เพื่อให้ได้รับทราบถึง

แนวทางการด�าเนินงานโครงการฯ ซึ่งในเบื้องต้นได้

ก�าหนดให้มีกิจกรรมเพื่อการขับเคลื่อนหลายกิจกรรม

อาทิ การปรับปรุง/ก่อสร้างอาคาร การติดตามนิเทศ

งาน กิจกรรมด้านอบรมให้ความรู้ด้านต่างๆ กิจกรรม

ด้านฝึกอาชีพ ด ้านถ่ายทอดวัฒนธรรมภูมิป ัญญา

ท้องถิ่น ด้านนันทนาการ และด้านอ่ืนๆ นอกจากน้ี

ยังด�าเนินงานเพื่อขยายผลโครงการอาสาสมัครดูแล

ผู ้สูงอายุที่บ ้าน โดยมอบหมายให้องค์กรปกครอง

ส่วนท้องถิ่นเป็นองค์กรหลักในการด�าเนินงานร่วมกับ

ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนในท้องถิ่น สร้าง

ระบบงานอาสาสมัครดูแลผู ้สูงอายุที่บ ้านให้เกิดขึ้น

ทุกเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในปี ๒๕๕๖

ท่ีขณะนี้สามารถด�าเนินการได ้ครบทุกเขตองค ์กร

ปกครองส่วนท้องถ่ินแล้ว ส่งผลให้มีอาสาสมัครดูแล

ผู ้สูงอายุท่ีบ้านจ�านวน ๘๑,๘๘๓ คน และมีผู ้สูงอายุ

ที่ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนที่ได้รับการ

ดูแลจากอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ ๘๖๔,๖๖๐ คน

ผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ

อารมณ์ สังคมและสิ่งแวดล้อม จนยากแก่การปรับตัว

ประมาณร้อยละ ๓๐ เคยมีประสบการณ์ของการมีภาวะ

ซึมเศร้าที่รุนแรงอย่างน้อยหน่ึงคร้ัง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาวะ

อย่างยิ่ง บุคคลทั่วไปมักเข้าใจเป็นเร่ืองธรรมดาจึงมัก

ละเลย ท�าให้ผู ้สูงอายุมีความทุกข์ทรมานมากขึ้น หาก

ผู ้สูงอายุได ้มีการเตรียมความพร้อมทั้งร ่างกายและ

จิตใจก่อนที่จะเข้าสู ่วัยสูงอายุก็สามารถหลีกเลี่ยงหรือ

ป้องกันได้

ภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ

เช่น สาเหตุทางพันธุกรรม การเสื่อมของเซลล์ประสาท

หรือสมองฝ่อ บางคนเป็นโรคสมองเสื่อม โรคหลอด

เลือดสมอง โรคพาร์กินสัน โรคต่อมธัยรอยด์ ฯลฯ สาเหตุ

ทางด้านจิตใจที่พบบ่อย ได้แก่ การไม่สามารถปรับ

ตัวต่อการสูญเสีย เหตุการณ์ที่ท�าให้เกิดความผิดหวัง

เสียใจ น้อยใจ หรือมีความเครียดความทุกข์การสูญเสีย

บุคคลอันเป็นที่รัก เจ็บป่วยด้วยโรคเร้ือรังที่มีค่าใช้จ่าย

จ�านวนมาก เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคข้อ

โรคมะเร็ง หรือความขัดแย้งระหว่างลูกหลาน

ผู้สูงอายุสามารถป้องกันโรคซึมเศร้า หรือความ

ทุกข์ต่างๆ ให้ทุเลา โดยการรับประทานอาหารที่เหมาะ

สมกับวัยให้ครบ ๓ มื้อในปริมาณที่เหมาะสม หมั่นออก

ก�าลังกายทุกวัน เข้ารับการตรวจสุขภาพประจ�าปี ที่

ส�าคัญคือหมั่นดูแลจิตใจและอารมณ์ตัวเองให้เบิกบาน

อยู่เสมอ

สอง-สามปีแรกเขาเปิดปั๊มขายเอง และนั่งจดชื่อลูกค้ารายใหญ่ อย่างแพปลา นากุ้ง รถสิบล้อ รถบรรทุกดิน และรถเมล์ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย

ต่อไปได้กลุ่มแพปลารายใหญ่ๆ ก็เข้ามาเป็นลูกค้า “ลูกค้ารายแรกๆ คือกลุ่มแท๊กซี่ปากพนัง เป็นรถ

คันเก่าๆ ท่ีพร้อมจะเสี่ยงกับปั๊มน�้ามันของผม—ผมขายเฉพาะดีเซล ผมแจกเบอร์โทรพวกเขา บอกว่าถ้าพวกคุณเดือดร้อนตอนกลางคืน รถแพต้องไปมหาชัย แล้วไม่รู้จะเติมน�้ามันที่ไหนให้โทรหาผม ผมจะเปิดปั๊มให้เขาถูกใจกันมาก นั่นเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ผมผูกใจรถแพไว้ได้เกือบ ๕๐ คัน”

ปั ๊มของเขาเป็นที่รู ้จักมากขึ้น กลุ ่มรถเมล์ รถกะบะ รถบรรทุก เล้ียวเข้าไปใช้บริการมากขึ้น “ผมยังใช้กลยุทธ์เดิม คือ การลดราคาให้ต�่ากว่าปั๊มยักษ์ใหญ่โดยเฉพาะรถเมล์ผมให้เครดิตพวกเขาด้วย พวกเถ้าแก่รถเมล์เขาพอใจมากที่ผมช่วยจัดการเรื่องการทุจริตของ

พวกคนรถได้ส�าเร็จ”สัมพันธ์ให้ความส�าคัญกับคุณภาพน�้ามันมาก เขาไม่

ค่อยเปลี่ยนซัพพลายเออร์ เขาวางแผนธุรกิจ และก�าหนดยุทธศาสตร์ ให้ซัพพลายเออร์ด้วย

ประสบการณ์จากปั๊มน�้ามันเล็กๆ ปัจจุบันเขายังเป็นที่ปรึกษาให้ธุรกิจในเครือ หจก.ศรีเพชรปิโตรเลียม (สามแยกสวนผัก) หจก.เกษมพร (แยกนาพรุ) และ บริษัท ศรีเพชรพร๊อพเพอร์ตี้ ในแบบให้ฟรีในฐานะเพื่อนที่ดี

ต่อมาสัมพันธ์ลงทุนท�าสวนปาล์ม “ระหว่างท�าปั๊มน�้ามัน ผมมีที่ดินของพ่ีน้องที่ว่างๆ อยู่ประมาณ ๕๐ ไร่ เราได้วางแผนกับพี่ชาย (คุณสุพจน์ กุ้ยเส้ง) เพื่อพัฒนาเป็นแปลงปาล์มน�้ามันเพื่อป้องกันความเสี่่ยงจากธุรกิจน�้ามัน ซึ่งผันผวนมาก ปั ๊มน�้ามันทั้งใหญ่เล็กทยอยปิดตัวมากมาย ปั๊มอิสระ ๑๐๐ ปั๊ม มีโอกาสรอดสัก ๕ ปั๊มเท่านั้น ส่วนปั๊มใหญ่ๆ ต้องลงทุนสูง ถ้าแบงค์ไม่ปล่อยก็จบ ถ้ามีปัญหามากก็จบเช่นกัน เราวางแผนโดยการเอาก�าไรจากน�้ามันไปลงทุนเรื่องปาล์มและเราก็ท�าได้ เป็นของครอบครัว ๕๕ ไร่ และที่หุ้นกับญาติอีก ๒๕ ไร่ ครับ เมื่อวงการปาล์มน�้ามันมีปัญหา คุณสมพร ศรีเพชร และเพื่อนๆ ด�าริที่จะจัดตั้งสมาคมชาวสวนปาล์มน�้ามันจังหวัดนครศรีธรรมราช พวกเขาก็ชวนผมเข้าไปช่วยด้วย ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ว เรามีเวลากันน้อยมาก แต่เราก็ตั้งสมาคมปาล์มฯ ส�าเร็จ และมีการขับเคลื่อนกันในระดับประเทศ มีการโทรถึงกันตลอดเวลา โดยผมรับหน้าที่สร้าง เฟซบุ๊คของสมาคมชาวสวนปาล์มน�้ามันจังหวัดนครฯ เพื่ออัพเดทข่าวสารให้สมาชิกได้รับทราบ เราได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เพื่อเป็นที่ปรึกษางานวิจัยต่างๆ เพ่ือยกระดับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม เพ่ือให้เกิด การบูรณาการกันระหว่างชุมชน ซึ่งเราก็ท�าได้ดีในระดับ

หนึ่ง ผมอาจจะพูดมากไปหรือเปล่า เราท�าส่ิงเล็กๆ กันเท่านั้น ธุรกิจของผมก็เล็กนิดเดียว”

‘รักบ้านเกิด’ ถามว่า เขาน�าหลักธรรมทางพระ พุทธศาสนามาปรับใช้อย่างไร

เขาตอบว่า “พระพุทธเจ้าสอนเร่ืองสันตุษฐี : สันโดษ ความยินดี ความพอใจ คือ ความรู้จักพอดี ความรู้จักพอเพียง ผมยึดหลักความพอเพียง ไม่ท�าอะไรเกินตัว และไม่หลอกตนเอง เราอยู่ในโลกของความเป็นจริง มองโลกตามความเป็นจริงครับ แต่เมื่อมีโอกาสผมก็รุกฆาตเช่นกัน”

ในมุมมองของนักธุรกิจก็ควรเป็นเช่นนั้น“อีกข้อหนึ่งที่ผมยึดถือปฏิบัติเรื่อยมาคือ หลัก

ปฏิจจสมุปบาทซึ่งสอนเรื่อง การอิงอาศัยกัน สรรพสิ่งอิงอาศัยกัน เราทุกคนบนโลกใบนี้ต้องอิงอาศัยกัน เราจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้ ใครท�าอะไรทั้งดีและร้าย ก็กระทบถึงกันหมด ผมเรียนรู้การจัดการความทุกข์ ความทุกข์เกิดที่ใด ก็ขอให้มันดับที่ตรงน้ัน ผมจะไม่เป็นคนแบกทุกข์ เพราะสรรพส่ิงเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ทั้งความสุข ความทุกข์ ต่างก็เป็นของไม่เที่ยง ผมเตือนตนเองเสมอว่า โลกธรรม ๘ เป็นของไม่เที่ยง มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ เช่นนั้นเอง”

สัมพันธ์กล่าวอย่างถ่อมตนว่าเขาไม่ใช่คนเคร่งศาสนา แต่สนใจเฉพาะแก่นแท้ ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ตามหลักธุรกิจว่าโลกธุรกิจเป็นอย่างไร จะท�าอย่างไรจึงจะทันโลกธุรกิจ”

สัมพันธ์ กุ ้ยเส้ง ยึดมั่นอยู ่กับความเป็นจริง ของโลก

๒๐๐,๐๐๐ กว่าบาท เ ข า ใ ห ้ เ งิ น ผ ม ม าลงทุนซื้อตู ้จ ่าย ซื้ออุปกรณ์ทุกอย่าง และ เราก็เริ่มถมที่ดินหน้าบ้านท�าเป็นปั๊มน�้ามันเล็กๆ ชื่อปากพนังปิโตรเลียม”

Page 10: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๐ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

รศ.วิมล ด�าศรีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

ตอนที่ ๓

หนังตะลุงถึงแม้หนังตะลุงสมัยก่อน ทุกคนจะแสดงเรื่องรามเกียรติ์เพียงเรื่องเดียว แต่การ

แสดงของทุกคณะก็จะน�าเอาศีลธรรม สังคม การเมือง เข้าสอดแทรกในการแสดง

ด้วยตามความถนัด และความรู้ของผู้แสดง เช่น บางคณะ มีความรู้เกี่ยวกับศาสนาดี

ก็จะน�าเอาพิธีกรรมต่างๆ ของศาสนาเข้าสอดแทรกในตัวละคร ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับ

การเมืองก็จะน�าเอาหลักการเมืองการปกครองเข้าไปใช้ในการแสดงอย่างกลมกลืน

กับตัวละครในท้องเรื่องจนเป็นที่พออกพอใจของผู้ชม

๑. หนังตะลุงในสมัยโบราณ๑.๑ บททศกัณฐ์แต่งตัว

เมื่อตรองตรึกนึกได้ข้ึนเช่นนั้น จอมมารันแต่งองค์ทรงเครื่องเพชร

ใส่เสื้อนวมสร้อยประสานสังวาลรัตน์ สารพัดเลิศแล้วซึ่งแก้วเก็จ

ทั้งตาบทับอุระการะเม็ด มงกุฎเก็จกนกตลอดดับยอดครุฑ

สอดฉลองบาทาหัตถ์คว้าจักร อันเรืองศักดิ์ฤทธิ์เลิศประเสริฐสุด

ค�ากลอนทศกณัฐ์แต่งกายเพยีงไม่กีบ่ท ท�าให้ผูช้มเข้าใจเครือ่งทรงสมยัโบราณได้ดี

๑.๒ นางสีดาเตือนทศกัณฐ์เร่ืองความรัก

เป็นกษัตริย์เชื้อพรหมอุดมศักดิ์ ไม่ควรรักเมียเขาเฝ้าถนอม

ควรจะมีกรุณาเมตตาพร้อม สมควรยอมไปส่งจากลงกา

ผัวยังห่วงเมียเขาเอาแล้วบาป เป็นการหยาบผิดกฎเสียยศฐา

๑.๓ บทพระรามรับพิเภกเข้าเป็นทหาร

อวตาลนิ่งนั่งฟังพิเภก เป็นผู้เอกเปร่ืองปราดฉลาดหลาย

สมกับเป็นเชื้อเชาว์นี้เลาลาย ไม่เข้าฝ่ายคนพาลสันดานคด

ควรรับไว้ใช้สอยคอยช่วยเหลือ จะแผ่เผ่ืออารียินดีหมด

ข้าราชการทุกชั้นเป็นหล่ันลด ได้ปรากฏมองเห็นเป็นตัวอย่าง

๑.๔ บทกุมภกรรณลักหอกโมกขศักด์ิ

กุมภกรรณวันทาลาเจ้าพี่ จัดโยธีดังแซ่แลสลอน

มุ่งไปยังนทีสีทันดร จากนครโห่ดังตั้งไชโย

ตัดว่าสามวันครึ่งถึงริมฝั่ง มีค�าส่ังให้ตัดต้นรุกโข

ปลูกขึ้นเป็นพลับพลาหลังคาโต พักกาโยจอมมารผู้ชาญฤทธิ์

สั่งท�าบายศรีมีเครื่องหอม คาวหวานพร้อมมากมายไหว้ศักดิ์สิทธิ์

เครื่องบวงสรวงเทวาอัฎฐทิศ อีกศักดิ์สิทธิ์ในสถานย่านนที

บายศรีเสร็จเจ็ดชั้นเกลากล่ันสอด กลางมียอดแวววับระยับสี

ให้ผู้เฒ่าเข้านั่งตั้งพิธี หมอคนดีเลยน่ังตั้งสักเค

หมูข้าวเหล้าเป็ดไก่ใส่พร้อมสรรพ เพื่อต้อนรับศักดิ์สิทธิ์จิตไม่เห

บวงสรวงเสร็จเจ้าจอมหม่อมมาเร ตั้งสักเคชุมนุมเทวดา

แล้วยกหอกตั้งจิตอธิษฐาน เดชะท่านพรหมสวรรค์ชั้นเวหา

ศีลธรรมกับสังคมและการเมืองเป็นของคู่ศิลปินหนังตะลุงมาตั้งแต่โบราณ ค�า

กลอนข้างต้นเพียงไม่กี่บท ถ้าถอดความออกมาบางตอนมีเหตุผลในการปกครอง บาง

ตอนมีคุณค่าทางศีลธรรม และบางตอนท�าให้เราทราบถึงประเพณีวัฒนธรรม ของ

จังหวัดนครศรีธรรมราชในสมัยโบราณได้ดี

(อ่านต่อฉบับหน้า)

พิกุล พลิ้วไกว แกว่งใบแผ่ว

ตะวันใส เหมือนแก้ว ตระการใส

แสงส่อง ประสบ อบอุ่นไพร

หว่ันใจ ไหวหว่ัน วันตื่นตา

สงบ ซ้ึงวัน แห่งสันติ

ปีกขน งามผลิ เพื่อบินกล้า

แต่วัน นี้มี แม่คอยมา

ป้อนเหย่ือ กายา ลูกสองตัว

เพื่อผก ผินได้ บินผันผก

เกิดเป็นนกถวิล บินไปทั่ว

ทั้งดง พงไพร ใจระรัว

ทั้งกลัว เกรงภยันตรายราย ฯ

สุรชาติ เกตุประสิทธิ์ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Page 11: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๑

ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์

นอกจากเมืองไชยา เมืองกาญจนดิษฐ์ และเมือง

ท่าชนะ อันเป็นเป็นเมืองเก่าของดินแดนภาคใต้

ซึ่งปัจจุบันขึ้นกับจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว ยังมีอีกเมือง

หน่ึงซ่ึงมีอายุความเป็นชุมชนเก่าแก่ในจังหวัดดังกล่าว

อีก นั่นคือ “เมืองเวียงสระ”

ก่อนจะมีฐานะเป็น “อ�าเภอใหม่” ของจังหวัด

สุราษฎร ์ธานี อดีตของอ�าเภอน้ีมีความเก ่าแก ่และ

ยืนยาวไปร่วม ๑,๒๐๐ ปี พอๆ กับชุมชนเก่าแก่หลาย

แห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช จากการศึกษาและ

รวบรวมข้อมูลของนักโบราณคดีแห่งกรมศิลปากร เรา

ได้ทราบว่าที่นี่มีเทวรูปศิลาเก่าแก่ถึงสามองค์ องค์แรก

เป็นพระวิษณุ (เหมือนพระนารายณ์) ยืนสวมหมวก

ทรงกระบอก สูง ๑๔๘ ซม. พิจารณาตามรูปแบบศิลป-

กรรมแล้ว เห็นได้ว่าเป็นศิลปะสกุลช่างปัลลวะ อายุ

ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑ - ๑๒ องค์ที่สอง เป็นพระวิษณุ

สูง ๕๐ ซม. และองค์สุดท้ายเป็นพระศิวะ (หรือพระอิศวร)

อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๖ เทวรูปท้ังสามนี้สะท้อน

แห่ง เมื่อพระพนมวังถึงแก่กรรม บุตรทั้งสาม (เจ้า-

ศรีราชา เจ้าสินตรา และเจ้ากุมาร) ได้น�าอัฐิธาตุของ

พระพนมวังไปประดิษฐานท่ีถ�้าแห่งหนึ่งในเมืองเวียงสระ

ถือเป็นจุดแจกจ่ายอัฐิธาตุแก่ญาติวงศ์ เพื่อน�าไปเป็น

เสมือนศูนย์รวมใจญาติวงศ์ ให้เกิดความสมานสามัคคี

และจรรโลงท้องที่ให้เติบโตและรุ ่งเรืองขึ้น เหตุดังนี้

ชุมชนเวียงสระจึงกลายเป็นเมือง ที่มีสายสัมพันธ์ทาง

เครือญาติกับนครศรีธรรมราชสืบมา

นอกเหนือจากการเป็นเขตอิทธิพลอารยธรรม

อินเดียแล้ว ในเวลาต่อมาเวียงสระยังเป็นเมืองเก่าที่

ได้รับอิทธิพลจากจีนและอาหรับ จากการขุดค้นได้พบ

ภาชนะดินเผาของจีนสมัยราชวงศ์ถัง อายุราวพุทธ

ศตวรรษที่ ๑๔-๑๕ ภาชนะดินเผาสมัยราชวงศ์ซุ ่น

หรือซ้อง อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ รวมทั้งพบเหรียญ

อาหรับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒.๙ ซม. สองเหรียญ

และเหรียญยุคกาหลิบอุไมญาด (Umriyaard Kaliph

ate) อายุราว พ.ศ. ๑๓๒๕ (ตรงกับสมัยศรีวิชัยใน

ดินแดนภาคใต้) ซึ่งสะท้อนว่าเมืองเวียงสระเป็นชุมชน

การค้าระหว่างชาติอยู่ด้วยเช่นกัน

เรื่องราวของเมืองเวียงสระท�าให้เรามองเห็น

สัจธรรมแห่งพระพุทธศาสนาอยู่ข้อหนึ่ง คือ “อนิจจัง”

ความไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู ่ และ

ดับไปได้ตลอดเวลา เมื่อดับไปแล้วก็เกิดขึ้นใหม่ได้

วนเวียนเป็นสังสารวัฏเช่นนี้มิรู้จบ

ต�าบลเวียงสระและต�าบลทุ่งหลวงมาต้ังเป็น “ก่ิงอ�าเภอ

เวียงสระ” และสามปีต่อมาคือ พ.ศ. ๒๕๑๔ ก็ได้รับการ

ยกฐานะเป็นอ�าเภอ เรียกว่า “อ�าเภอเวียงสระ”

เวียงสระเป็นเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับนครศรี-

ธรรมราชอยู่มาก โดยเฉพาะในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา

ตอนกลางเป็นต้นมา เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชในสมัย

นั้น (ราว พ.ศ.๒๒๐๙) ซึ่งมีชื่อ “พระพนมวัง” ได้บุกเบิก

ชุมชนที่นี่ขึ้น มีการสร้างวัดในพระพุทธศาสนาหลาย

สระน�้าโบราณที่มาของชื่ออ�าเภอเวียงสระซากพระพุทธรูปปรักหักพังที่หลงเหลืออยู่

ศูนย์การเรียนรู้เมืองโบราณเวียงสระ

ว่าท้องที่แห่งน้ีเคยมีผู้คนซึ่งนับถือศาสนาพราหมณ์เข้า

มาอยู่อาศัย และอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม ๕๐๐ ปี

ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในภาคใต้ ท่ีได้

รับอารยธรรมอินเดียเข้ามา

ในยุคแรกเริ่มก่อตัวชุมชน ท้องที่นี้จะมีชื่อเรียก

ว่ากระไรก็ไม่มีหลักฐานชี้ชัด แต่ในช่วงราว พ.ศ.๒๒๐๙

(ตรงกับสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุง-

ศรีอยุธยา มีหลักฐานบ่งบอกว่ามีชื่อเรียก “จรุงสะ”

บ้าง “จรงสะ” บ้าง และ “จงสระ” บ้าง ซึ่งทั้งสาม

ช่ือน้ี ปรากฏอยู่ในเอกสารชื่อ “ต�านานเมืองนครศรี-

ธรรมราช” ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตน-

โกสินทร์ ช่วง พ.ศ. ๒๓๕๔ ชื่อเมืองได้เปลี่ยนไปเป็น

“เมืองเวียงสระส้องห้วยมะนาว” ภายหลังทางราชการ

ได้รวมท้องที่ต�าบลเวียงสระกับต�าบลส้องห้วยมะนาว

เข้าด้วยกัน ช่ือน้ีเป็นชื่อทางราชการ ซึ่งปรากฏอยู่ใน

“ท�าเนียบข้าราชการเมืองนครศรีธรรมราช พ.ศ.

๒๓๕๔” จนกระทั่งใน พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้แยกท้องที่

Page 12: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

พญ.ภัทริยา มาลัยศรี. อายุรศาสตร์โรคข ้อและรูมาติซั ่ม รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๒ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

เกาต์เป็นสาเหตุที่พบเป็นอันดับหนึ่งของโรคข้ออักเสบ อุบัติการณ์ประมาณ ๕ ใน ๑๐๐๐ ของประชากรท่ีมี

อายุมากกว่า ๑๕ ปี นับเป็นโรคข้ออักเสบเพียงชนิดเดียวที่มียารักษาจ�าเพาะรักษาง่ายและได้ผลดี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าผู้ป่วยโรคเกาต์ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง กลายเป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังที่มีภาวะทุพพลภาพและมีไตพิการแทรกซ้อนมากกว่า ร้อยละ ๕๐

เกาต์เป็นโรคข้ออักเสบที่เกิดจากการสะสมของผลึกของกรดยูริก ในข้อและเน้ือเยื่อต่างๆ ของร่างกาย เป็น ผลสืบเน่ืองจากการมีระดับกรดยูริกในเลือดสูง อยู่เป็นเวลานานนับสิบปี

จากการติดตามในระยะยาวพบว่าเพียงร้อยละ ๓๐ ของผู ้ที่ตรวจพบว่ามีระดับกรดยูริกในเลือดสูงจะเกิดมีข้ออักเสบจากโรคเกาต์ในอนาคต ที่เหลืออีกร้อยละ ๗๐ ไม่มีอาการใดๆ ตลอดชีวิต สรุปได้ว่าส่วนใหญ่ของผู้ท่ีบังเอิญตรวจพบว่ามีระดับกรดยูริกในเลือดสูงไม่เป็น โรคเกาต์

ปัจจัยเสี่ยง ต่อการเกิดโรคเกาต์ ได้แก่๑. พันธุกรรม ถ้าตรวจพบว่ามีระดับกรดยูริกใน

เลือดสูงร่วมกับมีประวัติครอบครัวเป็นโรคเกาต์จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์ในอนาคต

๒. เพศ มากกว่าร้อยละ ๙๐ ของผู้ป่วยโรคเกาต์เป็นผู้ป่วยชายที่อายุมากกว่า ๓๕ ปีขึ้นไป ในเพศหญิงจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์น้อยมากยกเว้นวัยหลังหมดประจ�าเดือน เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลต่อระดับกรดยูริกในเลือด

๓. ระดับกรดยูริกในเลือด ผู้ที่ตรวจพบว่ามีระดับกรดยูริกในเลือดสูง > ๙ mg% จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์มากกว่าผู้ที่มีระดับกรดยูริกในเลือดสูงเล็กน้อย

๔. อาหาร ??? ประชากรส่วนใหญ่เข้าใจว่าการกินอาหารที่มีระดับกรดยูริกสูง เช่น สัตว์ปีกหรือเครื่องในสัตว์จะท�าให้เป็นโรคเกาต์ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง การกินอาหารที่มีพิวรีนสูง ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ท�าให้เกิดโรคเกาต์ในคนปกติ แต่อาจกระตุ้นให้ข้ออักเสบก�าเริบขึ้นได้ในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์อยู่แล้ว การมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงมากๆ เป็นผลจากความผิดปกติของเมตาโบลิซึ่มของกรดยูริก ที่เกิดขึ้นเองในร่างกาย มากกว่าที่จะเกิดจากการได้รับกรดยูริกจากอาหารที่มี พิวรีนสูง ผลจากการกินอาหารที่มีพิวรีน สูงจะท�าให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้นจากเดิมได้ไม่เกิน ๑ - ๒ mg %

อาการแสดง๑. เกิดข้ออักเสบอย่างเฉียบพลันขึ้นมาทันทีโดย

ก่อนหน้านี้สบายดีมาตลอด มักเกิดตอนเช้าหลังต่ืนนอน ส่วนใหญ่เป็นที่ข้อเท้าหรือนิ้วหัวแม่เท้า แต่จะเป็นที่ข้ออื่นๆ ก็ได้ อาการปวดจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเป็นชั่วโมงกระทั่งขยับหรือเดินไม่ได้ สร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยมากกระทั่งต้องมาพบแพทย์ตั้งแต่วันแรก บางครั้งอาจมีไข้ร่วมด้วย

๒. เป็นระยะที่กลายเป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังหลายๆ

ข้อ ไม่เคยหายขาด ข้ออักเสบก�าเริบรุนแรงขึ้นมากบ้าง น้อยบ้างสลับกันไป มีการท�าลายของกระดูกข้อต่อเพิ่ม มากขึ้น มีก้อนโทฟัส (จากการสะสมของผลึกกรดยูริก ใต้ผิวหนัง) เกิดข้ึนบริเวณข้อศอก เท้าแขน ตาตุ่ม นิ้วมือ และนิ้วเท้า ถ้าก้อนนี้แตกออกจะเห็นของเหลวขาวข้นคล้ายชอล์กหรือยาสีฟันไหลออกจากก้อน เป็นระยะสุด ท้ายของโรคเกาต์ที่มักจะตรวจพบภาวะไตพิการร่วมด้วย

๑.๑ colchicine เป็นยาท่ีจ�าเพาะเจาะจงส�าหรับการรักษาข้ออักเสบจากเกาต์ ได้ผลดี อาการข้างเคียงไม่รุนแรง เหมาะส�าหรับผู้ป่วยที่เริ่มปวดข้อมาไม่เกิน ๖ - ๑๒ ชั่วโมง ให้กิน ๑ เม็ด (๐.๖ มก.) ๓ เวลาหลังอาหารในวันแรก ถ้าอาการดีขึ้นให้ลดขนาดลงเหลือ ๑ เม็ด ๒ เวลากระทั่งหายสนิทจึงหยุดยา โดยทั่วไปมักกินยาไม่เกิน ๑ สัปดาห์ อาการข้างเคียงที่พบบ่อยคือท้องเดินโดยเฉพาะในวันแรกๆที่กินในขนาดสูง อาการจะหายได้ถ้าลดขนาดยาลงหรือหยุดยา

๑.๒ NSAID เป็นยาที่ไม่จ�าเพาะเจาะจง ระงับการอักเสบในโรคเกาต์ได้ดีมาก เหมาะส�าหรับผู้ป่วยที่มีอาการมานานกว่า ๑ - ๒ วัน ในวันแรกๆให้กินในขนาดสูง ลดขนาดยาลงถ้าอาการดีขึ้น และหยุดยาเมื่อหายสนิท โดยทั่วไปผู้ป่วยจะหายได้ภายใน ๑ สัปดาห์ ก่อนใช้ NSAIDs ในผู้ป่วยโรคเกาต์ต้องแน่ใจว่าผู ้ป่วยไม่มีภาวะไตพิการ

ร่วมด้วย เพราะการใช้ NSAID ในขนาดสูงอาจท�าให ้ไตวายเฉียบพลันได้

๒. การป้องกันไม่ให้ข้ออักเสบก�าเริบ ผู ้ป ่วยที่มีข ้อ อักเสบเป็นๆ หายๆ เกือบทุกเดือน ควรป้องกันโดยให้กิน colchicine วันละ ๑ เม็ดหรือไม่เกิน ๒ เม็ดต่อวันต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน แต่ส�าหรับผู้ที่เป็นปีละ ๑ - ๒ ครั้งอาจไม่จ�าเป็นต้องกินยาป้องกัน

๓. การลดระดับกรดยูริกในเลือด : ไม่ควรเร่ิมยาขณะท่ียังมีข้ออักเสบเพราะจะท�าให้

๓. นิ่วทางเดินปัสสาวะ พบประมาณร้อยละ ๑๐ - ๒๕ ของผู้ป่วยโรคเกาต์ ผู้ป่วยร้อยละ ๔๐ เกิดอาการของนิ่วไตก่อนที่จะเกิดข้ออักเสบ อุบัติการณ์ของการเกิดนิ่วไตจะสูงขึ้นตามระดับกรดยูริกในเลือด ถ้ามีระดับกรดยูริก ในเลือดมากกว่า ๑๐ mg% จะมีโอกาสเกิดนิ่วไตได้สูงถึงร้อยละ ๕๐ ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการท่ีเกิดจากการติดเช้ือในทางเดินปัสสาวะ การวินิจฉัยอาจต้องอาศัยการส่งตรวจ อุลตราซาวด์

การวินิจฉัยต้องเจาะตรวจน�้าไขข้อ : จะวินิจฉัยว่าข้ออักเสบนั้น

เกิดจากโรคเกาต์ได้แน่นอนก็ต่อเมื่อ ตรวจน�้าไขข้อพบผลึกรูปเข็มภายในเม็ดเลือดขาวหรือตรวจพบผลึกรูปเข็มจากสารสีขาวที่ดูดได้จากก้อนโทฟัส

ไม่ควรวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคเกาต์จากการตรวจพบว่ามีระดับกรดยูริกในเลือดสูงแต่เพียงอย่างเดียว

โรคที่มักพบร่วมกับโรคเกาต์๑. โรคความดันโลหิตสูง๒. ภาวะไขมันในเลือดสูง (hypertriglyceridemia)๓. เบาหวาน๔. ภาวะแทรกซ้อนเนื่องจาก premature artheros-

clerosis เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดตายเฉียบพลัน หลอดเลือดสมองอุดตัน

ท้ังหมดนี้เป็นโรคท่ีพบร่วมกัน แต่ไม่ได้สัมพันธ์กันในแง่พยาธิก�าเนิด

การรักษา๑. การรักษาข้ออักเสบเฉียบพลันจากโรคเกาต์:

รักษาด้วย colchicine หรือ NSAIDs

การอักเสบรุนแรงขึ้นและหายช้าลงต้องรอให้ข้ออักเสบหายสนิทก่อนจึงพิจารณาเร่ิมยา ควรเร่ิมยาในขนาดต�่าแล้วค่อยปรับยาขึ้นเป็นระยะๆ ตามระดับกรดยูริกในเลือดจนกว่าจะได้ระดับที่ต้องการคือ ๕.๕ mg% ยาที่ใช้มีอยู ่๒ กลุ่ม คือ

๓.๑ ยาที่ เร ่งการขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะ (uricosuric drugs) ได้แก่ probenecid และ benzbro-marone ห้ามใช้ในผู้ป่วยท่ีมีนิ่วไต มีภาวะไตวาย หรือมีการขับกรดยูริกออกทางไตมากอยู่แล้ว (hyperexcretor)

๓.๒ ยาที่ช ่วยยับยั้งการสร ้างกรดยูริกในเลือด (xanthine oxidase inhibitor) ได้แก่ allopurinol

๔. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ท�าให้ข้ออักเสบก�าเริบ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ระวังเรื่องการใช้ยาบางชนิด ระหว่างท่ีก�าลังปรับยาเพ่ือควบคุมระดับกรดยูริกในเลือดแนะน�าให้ผู้ป่วยควบคุมอาหารท่ีมีพิวรีนสูงช่ัวคราวก่อน แต่ถ้าควบคุมระดับกรดยูริกในเลือดได้ดีแล้วให้กินอาหารตามปกติได้

๕. การรักษาอื่นๆ แนะน�าให้ผู ้ป่วยดื่มน�้ามากๆ ประมาณ ๒ - ๓ ลิตรต่อวัน ออกก�าลังกายสม�่าเสมอ งดสุรา ถ้าอ้วนให้ควบคุมอาหารและลดน�้าหนัก อาจให้ กิน sodium bicarbonate เพื่อปรับให้ปัสสาวะเป็นด่าง (pH ~ ๗) เพื่อลดการตกตะกอนของเกลือกยูเรตใน เนื้อไต วิธีการนี้เหมาะในการรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบว่ามีกรดยูริกในเลือดสูงที่ไม่มีอาการ

๖. ให้การรักษาโรคที่พบร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน นิ่วไต การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ไตพิการหรือไตวาย ต้องให้ความส�าคัญกับโรคเหล่านี้และให้การรักษาควบคู่ไปกับการรักษาโรคเกาต์ เนื่องจากเป็นสาเหตุการตายที่ส�าคัญที่สุดในผู้ป่วย โรคเกาต์

Page 13: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๓

สุเมธ รุจิวณิชย์กุล[email protected]

เมษายนเดือนร้อนครับ ทั้งเรื่องดินฟ้า

อากาศท้ังเรื่องการเมืองประเทศไทย

ดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจให้เย็นลงกันเอง

นะครับ ผมเห็นบรรยากาศที่คนไทยตื่นตัว

กับความต้องการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ

ซึ่งผมก็เห็นด้วยจึงได้เสนอเรื่องร้อนๆ ไป

๒ ฉบับที่ผ่านไปแล้ว (เรื่องขยะและเรื่อง

แหล่งน�้าบริโภคของเมือง) เดือนนี้ก็ขอ

เสนอเรื่องร้อนอีกสักเร่ืองให้ครบองค์ ๓

ในด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่ท�าไม่ได้แล้ว เพื่อ

อนาคตของเมืองเรา

ค�าถามแรกๆ ของเจ้าของโครงการ

บ้านจัดสรรที่มักถามผมในฐานะผู้วางผัง

ว่า จะต้องถมดินสูงจากถนนหน้าโครงการ

เท่าไหร่ แน่นอนครับว่าคงไม่มีสถาปนิกคน

ใดแนะน�าให้ที่ดินของโครงการอยู่ต�่ากว่า

ถนน เพราะเท่ากับเจ๊งตั้งแต่ไม่ได้เริ่มต้น

แล้ว จึงเป็นโจทย์ที่ผมต้องถามตัวเองว่า

ท�าไมการจัดสรรที่ดินจะต้องลงทุนซื้อดิน

มาถมที่ทุกครั้งด้วยมูลค่ามหาศาล อาจจะ

สูงกว่ามูลค่าซื้อที่ดินด้วยซ�้า และผมเองก็

เชื่อว่าเจ้าของโครงการก็คงไม่ได้มีความสุข

นักกับต้นทุนนี้ เมืองนครอาจโชคดีหน่อยที่

มีบ่อดิน (ความจริงเป็นภูเขาเสียส่วนใหญ่)

ไม่ไกลจากตัวเมืองนักจึงมีต้นทุนที่ไม่สูง

เท่ากับเมืองที่ไม่มีแหล่งดินถมเลย เมื่อ

แกะรอยหาความจริงก็พบว่าต้นตอใหญ่

เรื่องหนึ่งอยู ่ที่การก่อสร้างถนนของทาง

ราชการไม่ว่าเป็นถนนหลวงแผ่นดิน หรือ

ถนนในเขตการดูแลขององค์กรบริหารส่วน

ท้องถิ่นที่มีการยกระดับให้สูงกว่าระดับดิน

เดิมที่ตัดผ่าน และบางพื้นที่สูงกว่าระดับ

บ้านที่ปลูกสร้างริมถนนอยู ่ก ่อนถึงครึ่ง

อาคารก็มี ชาวบ้านหมดสิทธิ์แย้งหรอก

ครับเพราะจะมีค�าอธิบายเหตุผลทางด้าน

เทคนิคต่างๆ นานาออกมามากมาย และ

การสร้างถนนยกระดับสูงมากนี้ได้เคยก่อ

ให้เกิดน�้าท่วมใหญ่ในตัวเมืองหลายแห่งมา

แล้ว เช่นเมื่อครั้งการสร้างถนนทางหลวง

ด้านทิศใต้ของเมืองหาดใหญ่ (เส้นทาง

หาดใหญ่-ปัตตานี) ปีที่มีฝนตกหนักช่วง

เดือนพฤศจิกายน (ปีพ.ศ.ใดจ�าไม่ได้ครับ

www.nakhonforum.com

เน่ืองจากธรรมชาติทุกอย่างเกี่ยวข ้อง

สัมพันธ์กันไปหมดแม้คิดว่าสิ่งที่เราท�าไป

เป็นสิ่งเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าทุกคนท�า

พร้อมๆ กันก็ย่อมเป็นมวลใหญ่ที่มีพลัง

ท�าลายความสมดุลได้ ดั่งค�าอุปมาว่า

“เคลื่อนย้ายหินหนึ่งก้อน

สะท้อนสะเทือนทั้งปฐพี”

ความจริงมีข้อกฎหมายที่นักธุรกิจ

นักจัดสรรต้องรู้คือ พระราชบัญญัติการขุด

ดินและถมดิน พ.ศ.๒๕๔๓ ที่ได้ตราขึ้นมา

เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม โบราณวัตถุ ศิลป-

วัตถุ ซากดึกด�าบรรพ์ หรือแร่ที่มีคุณค่า

ทางเศรษฐกิจหรือทางการศึกษาในด้าน

ธรณีวิทยา และสิทธิของประชาชนที่อาจ

ได้ผลกระทบจากการขุดดินถมดิน เช่น

การไปขุดดินหรือถมดินใกล้ที่ดินหรือบ้าน

เรือนของบุคคลอื่นที่เกินกว่าข้อก�าหนด

จะมีข้อบังคับหลายขั้นตอนและหากไม่

ปฏิบัติก็มีโทษปรับหรือจ�าคุกได้ นอกจาก

นี้จังหวัดนครศรีธรรมราชได้มีการประกาศ

กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมฉบับ

ใหม่ พ.ศ.๒๕๕๖ กันแล้ว มีรายละเอียด

ข้อบังคับในการใช้ที่ดินคลุมทั้งจังหวัด

ใครจะท�าโครงการอะไร ที่ไหนก็ขอให้ดู

กันให้ดีว่าขัดต่อผังเมืองหรือเปล่า ผมจึง

ขอแนะน�าให้ไปศึกษาดู หรืออาจแวะไป

ขอข้อมูลจากคุณวิชัย คัมภีรปรีชา โยธาธิ

การและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช

คนบ้านเราที่ย ้ายกลับมาเป ็นหัวหน้า

ส�านักงาน และท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ความ

สามารถด้านผังเมืองมากคนหนึ่งที่จะช่วย

แนะน�าได้ แต่ในฝ่ายทางราชการด้วยกัน

ก็ฝากให้ช ่วยพิจารณาปัญหาตามที่น�า

เสนอมาในตอนต้นแล้ว โดยเฉพาะอย่าง

ยิ่งเร่ืองระดับถนนหลวงทั้งหลายรวมทั้ง

การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งช่วงนี้เป็นระยะ

ก�าลังร้อนในการคิดแก้ปัญหาบ้านเมืองใน

มิติต่างๆ หากทิ้งไว้จนเย็นไม่มีใครหยิบยก

ขึ้นมาดูแลอย่างจริงจัง อนาคตเมืองนคร

ที่วาดฝันจะเป็นเมืองน่าอยู่ก็คงเอวังด้วย

ประการฉะนี้

ไม่มีเวลาสืบค้น) น�้าหลากมาจากอ�าเภอ

สะเดามารวมตัวหยุดที่ถนนสายนี้ที่ก�าลัง

อยู ่ระหว่างการก่อสร้าง ถนนจึงเหมือน

เขื่อนดินท่ีสูงเมื่อมีมวลน�้ามากเข้าจนถนน

ทานไม่ไหวจึงพังทลายลงมาและไหลเข้า

สู่ตัวเมืองท่ีมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะโดย

ทันที น�้าท่วมปีน้ันผมติดอยู่ที่หาดใหญ่

พอดีเกือบเอาชีวิตไปทิ้งเหมือนกัน เพราะ

น�้าท ่วมถึงระดับชั้นสองของอาคารใน

เมือง มีคนเสียชีวิตจากน�้าท่วมและไฟฟ้า

ดูดมากมาย ปัจจุบันถนนสายน้ีมีอาคาร

ใหญ่ๆ ขึ้นเต็มไปหมดและการถมดินก็สูง

กว่าระดับถนนซึ่งคาดคะเนด้วยสายตา

คงไม่ต�่ากว่า ๒ - ๓ เมตร และผมก็เชื่อ

ว่าตลอดระยะเวลากว่า ๒๐ ปีที่หาดใหญ่

มีการถมดินสร้างอาคาร จะต้องมีภูเขา

ถูกขุดไปใช้หมดไปหลายลูกแล้ว ผมจึง

ตั้งค�ำถำมว่ำ ถนนทำงหลวงทั้งหลำยมี

ควำมจ�ำเป็นต้องยกสูงมำกไหม เพราะนี่

เป็นระดับอ้างอิงของทุกโครงการที่มีการ

ก่อสร้างจะต้องถมสูงเท่ากับระดับถนน

เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้มีการเคลื่อนย้าย

ดินจากแหล่งหนึ่งมายังอีกแหล่งหนึ่ง ซึ่ง

แน่นอนว่ามีส่วนในการท�าลายธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วย แล้วนครเรำ

มีกรณีแบบนี้มำกไหมหนอ ?

ในมุมมองของผมเก่ียวกับระดับถนน

ที่ต้องยกสูงนั้นมีความจ�าเป็นครับ แต่ไม่

เห็นว่าจะต้องสูงขนาดกินไปคร่ึงบ้าน (ยัง

เห็นในถนนสายท่าศาลา-สิชล) อยาก

ยกตัวอย่างเมืองนอกที่น ่าอยู ่ใกล้บ ้าน

เราก็ได้ เช่นเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ

มาเลเซีย สร้างอยู่เชิงเขาที่มีความลาดสูงๆ

ต�่าๆ ไม่ได้ถมเกลี่ยดินให้เป็นที่ราบไปทั้ง

เมืองดูแล้วมีเสน่ห์สวยงาม ถนนของเขา

ยกระดับไม่สูงจากดินเดิมมากนัก แต่จะมี

คูระบายน�้ากว้างใหญ่ระบายน�้าได้สะดวก

คู ่ขนานไปกับถนน นครศรีธรรมราชเรา

มี เชิงเขาสวยงามมากหลายแห่ง เช ่น

อ�าเภอลานสกา อ�าเภอพรหมคีรี และอีก

หลายๆ อ�าเภอที่ผมผ่านไปเห็นภูเขาถูกตัด

แหว่งเหวอะหวะไปหมด ด้วยเหตุขุดดิน

ไปถมในที่ราบตัวเมืองกันมากมายเหมือน

กัน ในตัวเมืองนครเป็นที่ราบ หากมีการ

ส�ารวจท�าแผนที่ระดับ (contour map)

ก็จะทราบความสูงต�่าของดินเดิมที่จะไป

ก�าหนดระดับของถนนและทิศทางการ

ไหลของท่อระบายน�้าได้ เราอาจไม่ต้องใช้

ปริมาณดินมาถมที่มากเกินความจ�าเป็น

และหากเราไปแก้ที่ต้นเหตุได้ (ซึ่งความ

เห็นของผมอาจไม่ได้ครอบคลุมทุกสาเหตุ)

อาจช่วยให้แหล่งต้นน�้าและธรรมชาติที่

สวยงามคงอยู่ได้ การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวด

ล้อมใดๆ โดยขาดองค์ความรู้ หรือรู้แล้วไม่

ท�าอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องก็น่าเสียดาย

เครดิตรูป www.thaimtb.com/forum

Page 14: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๔ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

การส่งเสียงดังเกินควร ก็เป็นสิ่งที่ไม่

ควรกระท�า และอาจท�าให้เราพลาด

โอกาสที่จะได้พบเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

...เร่ิมจะน่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ?

ถ ้าเช ่นนั้นชวนมาดูผีเสื้อด ้วยกันค่ะ

ศูนย์วิทย์เมืองคอน ก�าลังจะจัดทริป

พาไปดูผีเสื้อเขาหลวง ป่าฝนแดนใต้

Tropical Rainforest ที่มีความอุดม-

สมบูรณ ์ที่สุดในเมืองไทย พร ้อมผู ้

เชี่ยวชาญมือหน่ึงเร่ืองผีเสื้อเมืองไทย

คุณเกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ผู ้ เขียน

หนังสือแมลง / ผีเสื้อเมืองไทยหลาย

เล่ม คอลัมนิสต์และนักเขียนอิสระ /

ผู ้เชี่ยวชาญผีเสื้อ ซึ่งกิจกรรมโดยรวม

จะเป็นรูปแบบ...กลางคืนดูดาว เช้าดู

นก สายดูผีเสื้อ วาดภาพบันทึกธรรม-

ชาติ สัมผัสวัฒนธรรมชุมชน ในวันที่

๒๘ – ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗

ผู ้สนใจสามารถสอบถามราย

ละเอียดในการเข้าร ่วมกิจกรรมได้

ที่ อ.ทานตะวัน เขียวน�้าชุม โทร.

๐๘๑ ๘๒๔ ๘๘๘๐ หรือ e-mail :

[email protected] รีบ

หน่อยนะคะ รับสมัครสมาชิกจ�านวน

จ�ากัดค่ะ !!

เพื่อนเรียนรู ้ฉบับนี้ ขอพักเรื่องกิจ-

กรรมในค ่ายกิจกรรมการเรียนรู ้

วิทยาศาสตร์ไว้ก่อนนะคะ ขอคั่นด้วย

กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่เป็น

รายการพิเศษในรูปแบบท่องเที่ยวเรียน

รู้ ที่ก�าลังจะจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้...

นั่นคือ ทริปดูผีเสื้อเขาหลวง เขาขุนพนม

ค่ะ แต่ก่อนอื่นเรามารู้กันก่อนว่า “ดู

ผีเสื้อไปท�าไม?”

การดูผีเสื้อแตกต่างจากการสะสม

ผีเสื้อ ในอดีตการศึกษาผีเส้ือจะเน้น

การเก็บรวบรวม ตัวอย่างผีเสื้อจาก

พื้นที่ต ่างๆ เพื่อน�าไปศึกษาอนุกรม-

วิธาน สัณฐานวิทยาและพันธุกรรม

ความเชื่อมโยง เกี่ยวพันกันของสิ่งต่างๆ

ในธรรมชาติ เพราะผีเส้ือมีส่วนส�าคัญต่อ

สิ่งมีชีวิตชนิดอ่ืนๆ มากมาย นับตั้งแต่ท�า

หน้าที่ช่วยผสมเกสรดอกไม้ ให้พืชพันธุ์

ต่างๆ ด�ารงเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ และในช่วง

ชีวิตที่เป็นหนอน หรือว่าตอนท่ีเป็นผีเส้ือ

ก็ยังเป็นอาหารแก่สัตว์นานาชนิด ไม่ว่า

จะเป็น นก กบ กิ้งก่า ตั๊กแตน แมงมุม

๒๐ ชนิด โดยที่เราไม่ต้องเดินไปไหน

นอกจากนี้เราสามารถท่ีจะล่อให้ผีเสื้อ

ออกมาให้เราเห็นได้ด้วยวัสดุง่ายๆ เช่น

ดอกไม้ น�้าผลไม้เน่า (สัปปะรด มะละกอ

ฯลฯ) ส่ิงท่ีเน่าเปื่อย (ปลาเน่า ปูเน่า กะปิ

ฯลฯ) หรือการใช้น�้าปัสสาวะ เทลงบน

พื้นท่ีมีท้ังโคลนและทราย ทิ้งไว้สักพัก

ผีเส้ือก็จะลงมาดูดกิน หรือแม้แต่เหงื่อ

ของเราเองก็ใช้ได้

นอกจากนี้ “ความดังของเสียง นั้น

ไม่รบกวนผีเส้ือ” ดังนั้นการดูผีเสื้อจึงไม่

จ�าเป็นต้องระวังเรื่องเสียงมากนัก แต่

ถึงอย่างไรเมื่อเราเข้ามาอยู่ในธรรมชาติ

บางประการ แต่ตัวอย่างที่ตายแล้ว

ไม ่สามารถให ้ข ้อมูลเราได ้ทั้ งหมด

ป ัจจุบันแนวความคิดในการศึกษา

ธรรมชาติได้เปลี่ยนไป จากการสะสม

ตัวอย่างเป็นการเฝ้าดูพฤติกรรมใน

ธรรมชาติ เป็นการศึกษาธรรมชาติ

โดยไม่ท�าลาย เพื่อประโยชน์ในการ

จัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่เหลืออยู่

น้อยแล้วให้ยั่งยืนขึ้น

กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ให้ความ

เพลิดเพลินและเป ็นการพักผ ่อนที่

มีคุณค่า ได้สัมผัสกับความสวยงาม

ความร่ืนรมย์ของธรรมชาติ อากาศที่

บริสุทธิ์ ท�าให้เรารู ้จัก และเข้าใจใน

ปลา ฯลฯ ดังนั้นการเรียนรู ้ ชีวิตของ

ผีเ ส้ือ จะท�าให ้ เราตระหนักในความ

ส�าคัญ และเห็นคุณค่าของส่ิงต่างๆ ใน

ธรรมชาติมากย่ิงขึ้น เพราะคนเรานั้น

เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

การดูผีเสื้อนั้นคล้ายๆ กับการดู

นกจะแตกต่างกันก็ตรงที่ การดูนกจะมี

กิจกรรมหลักในตอนเช้าตรู่และบ่าย แต่

การดูผีเสื้อกิจกรรมหลักจะอยู ่ในตอน

กลางวัน (พูดกันเล่นๆ ได้ว่าน่าจะเป็นอีก

ทางเลือกส�าหรับคนท่ีชอบนอนตื่นสาย)

ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นกหลายชนิดเข้าซุ ้ม

นอน และเรายังพบเห็นผีเสื้อได้ง่าย ซึ่ง

ในบางครั้งเราอาจพบเห็นผีเสื้อมากกว่า

นพ.ณรงค ์ สหเมธาพัฒน ์ ป ลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าว

ถึงกรณีข่าวพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 เสียชีวิต ๒ ราย ที่ จ.นครศรี- ธรรมราช และ รพ.มหาราชนครศรี- ธรรมราชรับผู ้ป ่วยไข้หวัดไว ้รักษาตัวในโรงพยาบาล ๑๒ ราย ว่าจากผลการตรวจวิ เคราะห ์ เ ช้ืออย ่างละเอียดในห้องปฏิบัติการพบว่า ผู ้เสียชีวิตท้ัง ๒ ราย เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ H1N1 ซึ่งเป็นไข้หวัดประจ�าฤดูกาล ไม่ใช่ไข้หวัดนกแต่อย่างใด และจากการประสานเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่ ได้ตรวจสอบไปยัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชแล้ว พบว่า ขณะนี้โรง

พยาบาลได้รับผู ้ป ่วยที่มีอาการไข้หวัดใหญ่ H1N1 รักษาตัวในโรงพยาบาลเพียง ๔ รายเท่านั้น โดย ๒ ราย อาการหายดีกลับบ้านแล้ว ทั้งนี้ โรคที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือ ไข้หวัดใหญ่ H1N1 หรือไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล มีแนวโน้มพบผู้ป่วยมากขึ้น เนื่องจากติดต่อกันง่ายผ่านระบบทางเดินหายใจ และประชาชนยังขาดการป้องกันตนเอง จากการติดตามของ สธ.ยังไม่พบเชื้อกลายพันธุ์ แต่ในปี ๒๕๕๗ ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค. พบว่าผู ้ป่วยทั่วประเทศ ๑๖,๐๖๕ ราย เสียชีวิต ๙ ราย ส่วนใหญ่อยู่ในวัยท�างานและผู้สูงอายุ ขณะที่ปี ๒๕๕๖ พบผู้ป่วย ๔๓,๗๙๑ ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ได้สั่งก�าชับให้ทุกจังหวัดคุมเข้ม ๔ มาตรการป้องกันและรักษา ได้แก่ ๑. รณรงค์ประชาชน

สธ.ยันป่วยไข้หวัดตาย ๒ ราย ที่นครศรีธรรมราชไม่ใช่ไข้หวัดนก แต่เป็นหวัด ๒๐๐๙ ยอมรับน่าเป็นห่วง เหตุปีนี้ระบาดสูงขึ้น ไม่ถึง ๓ เดือน พบผู้ป่วยทั่วประเทศกว่า ๑๖,๐๐๐ ราย ตาย ๙ ราย ส่ังทุกจังหวัดเร่งหามาตรการป้องกัน

Page 15: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๕

อาจารย์แก้ว

๙. Intel RealSense 3D

ในอนาคตคุณไม่ต้องเดินเข้าร้านไอทีเพื่อหาซื้อ

กล้องเว็บแคมแล้ว เพราะ Intel RealSense 3D โดย

ก็อปปี ้ขึ้นรูปทุกสิ่ งทุกอย ่างขึ้นมาได ้ คล ้ายกับใน

ภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ท่ีก�าลังจะกลายเป็นความ

จริงแล้วนั่นเอง

๑๐. Pebble Steel

ในงาน CES 2013 ปีที่แล้ว นาฬิกาอัจฉริยะ Peb-

ble กลายเป็นแก็ดเจ็ทสุดฮิต ท่ีได้รับท่ังความนิยมและ

เสียงวิจารณ์ไปในทิศทางที่ดีอย่างล้นหลาม แต่ถึงแม้

จะดีแค่ไหน ก็ยังมีช่องว่างเหลือให้พัฒนาต่อได้อีกไกล

โดยเฉพาะในแง่ของดีไซน์ ด้วยเหตุผลนี้เองท�าให้ใน

ปีนี้จึงมีการเปิดตัวอัพเกรดรุ่นใหม่ในชื่อของ Pebble

Steel แทนที่จะใช้วัสดุพลาสติกเชยๆ ถูกๆ Pebble

๘. Samsung Galaxy Note Pro 12.2

‘Pro’ จะกลายเป็นค�าส�าคัญที่โผล่มาในแท็บเล็ต

รุ ่นใหม่ๆ ของ Samsung Galaxy รุ ่นปี ๒๐๑๔ แค่

เฉพาะในงาน CES ก็มีเปิดตัวไปแล้วถึง ๔ รุ ่นด้วย

กัน แต่รุ่นที่เราสนใจมากที่สุดก็เห็นจะเป็น Samsung

Galaxy Note Pro 12.2 ในมุมมองของเราแล้ว นี่

แหละคือแท็บเล็ต Android ระดับท็อป หน้าจอขนาด

๑๒.๒ นิ้ว มาพร้อมปากกา S Pen และชุดซอฟท์แวร์

ของตระกูล Note ที่คราวนี้มาในรูปของแท็บเล็ตขนาด

ใหญ่ยักษ์จนเกือบจะเกินพกพา ด้านสเปคหน้าจอขนาด

๑๒.๒ นิ้ว ให้ความละเอียด HD ที่ ๒๕๖๐x๑๖๐๐

พิกเซล, ซีพียู quad-core Snapdragon 800, แรม 3GB,

ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat, เพิ่มหน่วยความ

จ�าได้ด้วย microSD, รองรับ 4G และกล้องหน้า-หลัง

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

Steel เปลี่ยนมาใช้โลหะสมชื่อ ทั้งบริเวณหน้าปัดและ

สายข้อมือ ที่ท�าให้ดูเหมือนนาฬิกาที่เราสามารถหยิบ

มาใช้ในชีวิตประจ�าวันได้มากยิ่งขึ้นภายในยังคงเป็น

ระบบ Pebble OS และหน้าจอสัมผัส เหมือนเดิมกับ

ที่เคยประสบความส�าเร็จจากรุ่นก่อน กระจกรุ่นใหม่ได้

รับการปกป้องโดย Gorilla Glass กันน�้าได้ลึก ๕ ม.

สนนราคาท่ีราวๆ ๘,๓๐๐ บาท เตรียมวางขายในต่าง

ประเทศภายในเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หรือใน

ที่สุดก็จะมีสมาร์ทวอท์ชที่ทุกคนเลือกหามาสวมใส่ และ

ใช้งานกันจริงๆ แล้วสักที

ท้ายนี้อย่าลืมนะครับว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ท่ี

ทันสมัยย่อมมาพร้อมกับราคาที่สูงเอาการ เพราะ

ฉะนั้นเราๆ ทั้งหลายก็ควรจะใช้มันแต่พอดีตามก�าลัง

ที่เรามี อย่าให้ถึงขั้นเดือดร้อนตนเองและครอบครัว

เพราะปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เปลี่ยนแปลง

ไวมากจริงๆ ครับ

ด้วยความปรารถนาดี

อาจารย์แก้ว

RealSense จะกลายเป็นเทคโนโลยี

ส�าหรับกล้องเว็บแคมขั้นเทพ และ

มันก็น่าจะมีขนาดเล็กพอที่จะติดตั้ง

อยู่บนโน้ตบุ๊คได้ด้วยเทคโนโลยี Re-

alSense ช่วยให้กล้องสามารถถ่าย

และสร้างภาพบรรยากาศเสมือน ๓

มิติขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ได้ แล้วคุณ

ยังสามารถแปลข้อมูล ๓ มิติในคอม

ให้กลับมาเป็นวัตถุจริงๆ ได้ด ้วย

เคร่ืองพิมพ์ ๓ มิติ เอาจริงๆ แล้ว

นี่ก็คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่สามารถ

ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งให้ผลดีมากป้องกันได้ทั้งไข้หวัดใหญ่และท้องเสีย ๒. เมื่อป่วยให้ใส่หน้ากากอนามัย ๓. ให้หยุดงานหรือหยุดเรียนเมื่อป่วย และ ๔. ให้แพทย์ให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ตามแนวทางการรักษาอย่างเคร่งครัด เชื้อยังไม่มีการดื้อยา ขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งส�ารองยาไว้อย่างเพียงพอและให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตยานี้เพิ่มอีกจ�านวน ๓.๕ ล้านแคปซูล ในสัปดาห์หน้า และให้โรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัยไข้หวัดใหญ่เพ่ิมมากผิดปกติให้จัดจุดตรวจให้บริการแบบเบ็ดเสร็จแยกผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจจากผู้ป่วยอื่นและแจกหน้ากากอนามัยทุกราย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อไปสู่ผู้ป่วยอื่น พร้อมทั้งให้กรมการแพทย์ตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อทางเดิน

หายใจและปอดจาก สธ.และมหาวิทยาลัยให้ค�าปรึกษาแพทย์ท่ีท�าการรักษากรณีท่ีพบผู้ป่วยมีอาการหนัก

ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ได้ให้ส�านักควบคุมโรคท้ัง ๑๒ เขต ร่วมกับส�านักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจที่ไปรับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อตรวจจับสัญญาณผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและปรับระบบบริการให้เหมาะสม และจัดให้มีการประชุมผู้เช่ียวชาญทุกสัปดาห์ ประเมินสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ และให้ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ควบคุมโรคทันทีหากพบผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่

“ขอย�้าเตือนประชาชนที่ที่มีอาการป่วย ได้แก่ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ขอให้นึกถึงไข้หวัดใหญ่ ขอให้หยุดงานหรือหยุดเรียน ผู้ใหญ่ควรใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่เช้ือไปสู่ผู้อื่นโดยเฉพาะเด็กๆ หรือลูกหลานที่อยู่ในบ้าน หากไม่ดีข้ึนใน ๒ วันให้รีบพบแพทย์ โดยเฉพาะผู้ท่ีมีความเสี่ยงสูงจากอันตรายของโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต�่ากว่า ๒ ขวบ ผู้ท่ีมีโรคประจ�าตัว เช่น โรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจอุดตัน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ให้พบแพทย์ทันที” อธิบดี คร. กล่าว

ที่มา : เว็บไซด์กระทรวงสาธารณสุข

Page 16: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

งหุบนี้ก่อน ข้ามนั่น มุดไปตรงนั้น

ดู ก็ไม่น่าไกลน่ะพี่ แต่คราวก่อน

ผมต้องถอดใจมาแล้ว” ผมร่ายแผนการ

ใหญ่ฉบับเดิมให้สมาชิกฟังตั้งแต่เช้าตรู ่

กาแฟกรุ่นผ่านล�าคอ นี่แก้วที่สองของเช้านี้

“ไป ไม่ต้องคิดแล้ว ถึงไหนถึงกัน”

พยักหน้ารับพร้อมกันแล้ว มีดข้างเอวผม

เริ่มท�างานหนักอีกครั้ง

ไผ่ ที่แห้งการตัดฟันนั้นยากยิ่งกว่า

ไม้สด บ่อยครั้งท่ีเราจ�าต้องมุดไปตามทาง

ของเจ้าเลียงผา หากโชคดีหน่อยก็จะได้

ทางใหญ่ของเจ้าสมเสร็จ แต่บางครั้งก็

เทรลหายไปในหมู่ไม้รกทึบนั่นเอาดื้อๆ

เนินแล้วเนินเล่า ผ่าน ผาการุณย์

ชื่อท่ีเพิ่งเกิดหมาดๆ ด้วยเจ้าของชื่อคือ

พี่กอล์ฟหรือมิสเตอร์การุณย์เกือบต้อง

เอวังลงเหวเอาตรงหน้าผาถล่มที่ไหลหลาก

ยาวหายไปในแนวดิ่งร่วมกิโลเมตร ข้ามต่อ

ไป ใกล้ตาแต่ไกลฝ่าเท้านั้นคือ ยอดพรหม-

โลก หนาเหลือเกิน ผมหมายถึง หนามไผ่

และดงทึบ มันหนาเกินมีดด้านๆ ของผม

จะตัดฟันออก มุดขวาดีกว่า

“เฮ้ย บอย ถึงยังยอดพรหมโลก” ใคร

บางคนทันความคิด

“รอบหน้าแล้วกันพี่ เลี้ยวขวาลงหุบ

นี่ดีกว่า ส�าคัญไฉนยอดนั่นยอดนี่” คือ ผม

ไปไม่ถึงแล้วล่ะ คิดว่านะ

“อ่า เคยเดินในแนวดิ่ง ๘๙ องศามั้ย

ครับ แบบว่าหุบปีกได้เลย” ประสบการณ์

บอกว่างั้น

เสียงวู้ๆ อยู่เหนือหัว ใครบางคนคง

ยังไม่ชินกับการแกะรอย..ก้น ที่ครูดกับดิน

เป็นทางนั่นลงจากเขา ทางเลียงผาไปทาง

ซ้าย ผมน�าไปซ้าย แป๊ปเดียวมันวนขวาอีก

ผมไปขวา นี่รอบที่สี่แล้ว รอยเท้าก็น่าจะ

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๖ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

Tarzanboy

เห็นน�้าได้จากจุดนี้ แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าน�้า

จากฟ้าที่พร้อมใจกันหล่นตูมลงมาก่อนเรา

จะได้ทันตั้งหลัก

“ตรงมาทางนี้ ยึดแนวห้วยที่ราบนั่น

เราจะพักกันตรงนี้” ผมปล่อยเกียร์ว่างลง

เนิน ดิ่งไปหาร่องล�าธารที่มีน�้าไหลเอื่อยๆ

ที่เห็นแว๊บๆ นั่น ปลดเป้ งัดอุปกรณ์ส�าหรับ

ตั้งแค้มป์ออกมาอย่างรีบเร่ง

“กางฟลายชีตใหญ่ก่อน อย่าๆ คน

อื่นๆ ช่วยกันยกเป้เข้ามาหลบฝนก่อน ช่วย

กางกันสองสามคนพอ”

บ่อยส�าหรับการรีบเร่งกางหลังคา

หากพร้อมๆ กัน มันกลับไม่เสร็จหรือ

เรียบร้อยสักที มันต้องค่อยๆ ผูกให้ตึงที

ละด้านถึงจะส�าเร็จ ชุดแรกเสร็จ เป้ทยอย

เข้ามา คนทยอยเข้ามา ชุดที่สองเริ่มออก

ไปกองท่ามกลางสายฝนที่กระหน�่าชนิด

ลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เราเลือกกางริมน�้านั้น

เพราะเห็นว่าค่อนข้างโปร่งและไม่น่าจะอยู่

ในแนวกระแสน�้า แต่ที่ไหนได้ !!!

“ยกเป้ขื้น ยกขึ้นวางบนก้อนหินเร็ว”

แทบไม่มีใครทันสังเกตว่า สายน�้าที่เล็กจน

แทบหาไม่เจอนั้น บัดนี้เริ่มเอ่อล้นและแตก

สายเข้ามาที่แค้มป์อย่างรวดเร็ว ผมออก

ไปยืนนอกแค้มป์ ล�าธารสายใหม่จากรอบ

ทิศทางของไหล่เขาเกิดขึ้นโดยฉับพลัน

เราอยู่กลางหุบ !!! น�้าจากทุกทิศทุกทางจึง

ต้องไหลผ่านโตรกนี้

“นอนได้เหรอพี่บอย” ใครบางคน

กังวล

ผมไม่ได้ตอบแต่ก้าวเดินออกไปกลาง

ล�าธารเชี่ยว ฝนยังกระหน�่าและดูหนาเม็ด

ขึ้น นี่บ่ายสาม ผมคิดพลางขยับปีนขึ้นเนิน

เป้าหมายนั้น หากไม่พลาด นั่นมันสันเขา

เป็นตัวเดิม อ๋อ เล่นงี้เหรอ รอบห้าผมตัด

ดิ่งลงตรงกลางที่คิดว่าต้องเป็นร่องล�าธาร

อะเจ้ย !!! ดงหนามชุดใหญ่ ขวา ครับขวา

รอยเลียงผาอีก อืมน่าจะสองตัวมีรอยเล็ก

ด้วยน่าจะเป็นลูกมัน เอ้า ขวาก็ขวา

“วู้ ขวาโว้ยครับ !!” มันแหงอยู่แล้ว

ตรงไปนั่นตามแนวล�าธารที่ผมแหกคอก

มันหน้าผาชัดๆ ผมหักขวาสุดคราวน้ีจ�า

ต้องงัดวิชาแกะรอยออกมาใช้อย่างจริงๆ

จังๆ นั่นมันรอยสมเสร็จ ใช่แล้ว ผมต้อง

ตามรอยนี้ เจ้านี่ต้องลงหาน�้าแน่นอน ถึง

กล้าลงด่ิงแบบน้ี เจ้าเลียงผามันชอบเล่น

หวาดเสียว ตามมันไม่ได้ สุดทางขวามีรอย

เท้าวนไปซ้ายและข้ามไปอีกสันเขา แนวไม้

ใหญ่เริ่มมี ตามดิ่งลงไปเข้าหุบทึบน่ัน อืม

เต่าร้างยักษ์ โขดหิน ใช่แน่แล้ว แนวล�าธาร

นั่นๆ เสียงน�้าไหล

...ร่วมชั่วโมงที่ผมน�าดิ่งลงจากปลาย

สุดด้านตะวันตกของยอดพรหมโลก มุด

ลงสู ่ก้นหุบรอยต่อที่ผมจ�าได้ว่ามีสันต่อ

เช่ือมกันเพียงสันเดียวที่จะข้าม ไปสู่แนว

ต่อกับสันปันน�้าปลายอวน และต่อไปยอด

พันแปด

“เอ้า ไหนล่ะน�้า” ใครบางคนท�าหน้า

งงๆ ตามผม

“มันไหลใต้หินครับ” กลางหุบแนว

ดิ่งเสียงน�้าไหลจ๊อกๆ ที่ได้ยินนั้นกลับเป็น

ว่า มันไหลอยู่ใต้หมู่หิน พยายามล้วงหา

ก็ไม่เจอสักหยดเดียว ผมหันไปแกะรอย

เพื่อนเก่า สมเสร็จตัวเดิมแทะกินยอด

บิโกเนียสีเขียวหมู ่นั้นแล้วข้ามต่อไปอีก

สันหนึ่ง ด้านซ้าย ผมเอาบ้าง หักก้าน

ที่เหลือของบิโกเนียใส่ปากเคี้ยว ความ

เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด เรียกน�้าลายออกมาได้บ้าง

พลางบอกใบ้ให้หลายคนที่มายืนงงๆ อยู่

ท�าตาม

“ผมเจอน�้าแล้ว”

“ไหน อยู่ไหน”

ผมบอกพร ้อมชี้มือไปบนฟ ้า น้ัน

เพราะ มันคือเมฆก้อนมหึมาที่จู ่โจมเรา

แบบไม่รู ้เน้ือรู้ตัว เรามัวแต่มุดดินอยู ่ใน

พุ่มไม้ทึบๆ โดยไม่รู้ว่า มันทึบจนแทบต้อง

เปิดไฟหน้านั้นเพราะว่า เมฆก้อนนั้น คราว

นี้ผมไม่ลังเลแล้ว เมื่อเห็นลมหุบพัดไหว

สวนทางขึ้นมา ข้างหน้านั้นคือแนวล�าธาร

แน่นอน และก็จริงดั่งคาดเราสามารถมอง

Page 17: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๗

นพ.รังสิต ทองสมัคร์

รอยต่อ ไม่น่าจะมีเนินสูงกว่านี้อีก น�้านี้น่าจะเพียง

น�้าฝน ไม่ใช่ล�าธารใหญ่

“ได้ นอนเนี่ยแหละ สวยดี ฮ่ะๆ” ผมพูดพลาง

แลบลิ้นกินน�้าฝนไปพลาง

เปลคอนโด ถูกผูกข้ึนเพื่อเก็บของก่อน ข้าว

ที่ต้องหุงด้วยแก๊สสนามยกเปลี่ยนที่อยู่บ่อยเพราะ

น�้าเอ่อท่วมเข้ามาเรื่อยๆ ที่นอนเสร็จ ข้าวสุก ฝน

ก็หยุดตกพอดี เราจึงเห็นว่าน�้าก็ลดลงหลังจากนั้น

ไม่นาน ความมืดเข้ามาเยือน ผมไม่รู้ว่าเปลใครเปียก

บ้างแต่เห็นทุกคนก็หลับสนิทกันดี ฝนตกอีกรอบ

ตอนใกล้รุ่ง น�้าเอ่อล้นขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่มีใครสนใจ

จะลงไปทะเลาะด้วย คืนที่สี่นี้ก็อีกรสชาติหนึ่งของ

เจ็ดชีวิต

“....ตื่นสายได้ม้ัย อยากอยู่บ้านกะลมฝน...ไม่

อยากออกไปไหน” ในฝันผมอยากตื่นสาย รอยยิ้ม

แรกของลูกชายความจริงคือแสงตะวันที่ส่องทแยง

เข้ามาปลุกถึงเปล ....เช้าแล้ว

ผืนป่าเขียวสด ไม้ใหญ่ยืนตรงแผ่กิ่งก้านที่มี

มอสเฟิร์นห้อยระย้าเต็มต้น มองไปตามแนวล�าธาร

สายน�้าอารมณ์ดีไหลน่ิงลัดเลาะสลับแนวก้อนหิน

สีมอส หมู่ไม้เล็กบ้างใหญ่บ้างแน่นขนัด พื้นล่างก็

เต็มไปด้วยไม้ชุ่มน�้า

....สวยอะไรเช่นนี้ ผมดึงถุงเท้าออก ก่อนคลี่

ตัวเองออกจากถุงนอน หย่อนเท้าลงจรดพื้นดิน เมื่อ

สองขามั่นแล้วก็ก้าวย�่าเพียงเท้าเปล่าออกไปสู่แนว

ล�าธารน้ัน แสงวันใหม่ลอดผ่านใบไม้ แมลงเริงร่า

นกร้องเพลง

ขอนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยน่ะ...ผมเอ่ยทักทาย

“สวยจัง !!! ถ่ายรูปๆ ” เสียงเบิร์ดเจ้าเก่า อ้อ

เกือบลืม ผมไม่ได้มาคนเดียว

เสียงไม้ประทุไฟส�าหรับกาแฟมื้อเช้า แค่เสียง...

กรุ่นกลิ่นก็ล่องลอยมา เราเริ่มส�ารวจกันตอนเช้านี้

จึงเห็นว่า ...มันเป็นล�าธารสายมรกตจริงๆ หินทุก

ก้อนเขียวพรืดไปหมด ป่าทึบแต่ไม่รกจึงมองออก

ไปได้สุดตา เหนือล�าธารขึ้นไปคือละลอกขาวของ

สายน�้าตกเล็กๆ เราค่อยๆ ลัดเลาะไปที่นั่น ใครบาง

คนจึงบ่นเสียดายว่า ฟิล์มที่เอามาน้อยไปรึเปล่า

“ขึ้นเนินนี้ ข้ามไปนั่น มีแนวสันเขาทางซ้าย

ทอดตัวยาวไปจรดยอดพันแปด แต่ต้องมุด ลอด

คลาน ทะเลาะกับหนามหวายตลอดทาง” ผมแจ้ง

แผนการคร่าวๆ ที่เหลือสองวันข้างหน้า

“พี่บอยเคยมากี่ครั้งแล้วแถวนี้” บางคนถาม

ยิ้มแบบคาดหวังค�าตอบ

“ครั้งแรก !!” ผมตอบแบบหน้าตาเฉย

พาช่างภาพอาเซียนจากประเทศกัมพูชาสองท่านไปบันทึกภาพ อ�าเภอปากพนัง

เพ่ือเผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลก....

ปากพนังทุกวันยังมีวิถีท่ีงดงาม อบอุ่น ดูง่ายๆ แต่มีเสน่ห์อยู่ในตัว

ผมไปทุกคร้ังก็ประทับใจทุกคร้ัง

Page 18: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๘ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

นภสร มีบุญ

..โอ ล่ัลล้าฉบับนี้ ขอพาท่านผู้อ่าน

มาท�าความรู ้จักกับที่พักหรูหรา

สไตล์บูติคโฮเต็ล ท่ีโรงแรมเมืองลิกอร์

โรงแรมที่แสนจะลงตัวกับการออกแบบ

ตัวอาคาร เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย

ปักษ์ใต้ประยุกต์ ซึ่งแม้จะดูเป็นไทย แต่

ก็ยังมีความทันสมัยควบคู ่กันอย่างลงตัว

ทีเดียว โรงแรมเมืองลิกอร์เป ิดบริการ

มากว่าห้าปีแล้ว ประกอบด้วยห้องพัก

ทั้งหมด ๘๐ ห้องแยกเป็นห้องซูพีเรียร์

๓๘ ห้อง ดีลักซ์ ๓๔ ห้อง และห้องสวีทอีก

๘ ห้อง ห้องพักที่นี่ตกแต่งแบบเรียบ หรู

แต่ดูอบอุ่น สบายตา เอกลักษณ์ของที่นี่

นอกจากจะมีความสวยงามแบบทันสมัย

ยังแฝงไปด้วยการน�าเอาศิลปวัฒนธรรม

ของเมืองนครศรีธรรมราช เข้ามาประยุกต์

ให้เกิดความกลมกลืน และลงตัวกันได้

อย่างประณีตไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์หัว

นะโม ซึ่งตามความเชื่อความศรัทธาของ

ด�าเนินการโดย..บริษัท เอส.พี.เอ.คอมพิวเตอร์ จ�ากัด และ บริษัท เพชรไพลิน ดีเวลลอปเม้นท์ จ�ากัดสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนักธุรกิจรุ่นใหม่ ติดต่อเช่าพื้นที่ โทร.082-2922437 (คาดว่าจะแล้วเสร็จราวกลางปี 2556)

มุ่งมั่นของทั้งคุณพ่อและคุณลูกจึงท�าให้

โรงแรมเมืองลิกอร์ ได้สยายปีกเพิ่มเติมใน

อนาคตเพื่อรองรับบริการจัดเลี้ยงส�าหรับ

ผู้ใช้บริการ ๕๐๐ คนขึ้นไป

การก้าวย่างทีละก้าวแม้ไม่เร่งรีบแต่

มั่นคง นับเป็นข้อพิสูจน์ของความเป็นมือ

อาชีพระดับโรงแรมจริงๆ ค่ะ อย่าลืมนะ

คะ “มาเมืองคอน นอนที่นี่ โรงแรมเมือง

ลิกอร์”

ได้สร้างเป็นโดมกระจกแก้ว ณ บริเวณ

ล็อบบี้

โรงแรมเมืองลิกอร์ เน้นด้านการ

บริการ การเอาใจใส่กับความต้องการ

ของลูกค้า ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม

ซึ่ ง เป ็นคอนเซ็ปของทั้ งท ่านประธาน

กรรมการ คุณมงคล อ่อนแสงแก้ว และ

คุณศิริกมล อ ่อนแสงแก ้ว (คุณอุ ้ม)

ผู ้จัดการทั่วไป เพราะนอกจากคุณอุ ้ม

จะได้รับและซึมซับการเป็นนักบริหารที่

คนเมืองคอน คือรักษาคุ้มครองให้พ้นภัย

และยังเสริมสิริมงคล ให้กับผู้ที่น�ามาเป็น

เครื่องประดับ หรือจะเป็นสัญลักษณ์ของ

จังหวัดคือรูป ๑๒ นักษัตร ซึ่งทางโรงแรม

โดยการลงมือท�าให้เห็นเป็นตัวอย่างถือ

เป็นการสอนที่ดีที่สุด เรียกได้ว่าเป็นผู้น�า

ที่กุมหัวใจลูกน้องได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต ์

จริงๆ ส่วนเร่ืองรสชาติอาหารยิ่งไม่ต้อง

กังวลค่ะ ทุกเมนู ทุกรายการอาหารจะได้

รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีทั้งวัตถุดิบที่

น�ามาประกอบ และปรุง รวมไปถึงการจัด

จานให้น่าลองลิ้มชิมรส มาตรฐานระดับ

โรงแรมการันตีไม่มีผิดหวัง และด้วยความ

ดีในหัวใจจากคุณพ ่อมา

อย่างเต็มที่แล้ว เธอยังสวม

วิญญาณของนั กปฏิบั ติ

การเพราะนอกจากจะฝึก

อบรมพนักงานด้วยตนเอง

แล ้ วก็ ยั งปฏิบั ติ ตน เช ่น

พนักงานท�าทุกอย่าง สอน

ส�ำรองห้องพักได้ที่ : ๐๗๕-๓๑๒๕๕๕ www.ligourcityhotel.com/[email protected]/โรงแรมเมืองลิกอร์

สิทธิพิเศษส�ำหรับผู้อ่ำน นสพ.รักบ้ำนเกิด ห้องพักราคาพิเศษสุดๆ พร้อมส่วนลดค่าอาหาร ๑๐% (ส�ำรองห้องพักล่วงหน้ำอย่ำงน้อยสำมวัน)

ขอขอบคุณ : คุณมงคล แก้วแสงอ่อน ประธานกรรมการ โรงแรมเมืองลิกอร์ คุณศิริกมล แก้วแสงอ่อน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเมืองลิกอร์

Page 19: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๙

<< ต่อจากหน้า ๒

นพ.บัญชา พงษ์พานิช

นครดอนพระ

และส่งกลิ่นไปทั่วทั้งย่าน จึงขอบอกเสียในคราวเดียวกันเพื่อท่านจะได้สนุกไปกับผมด้วย โดยทั้ง ๗ อย่างนี้มีดอกอยู ่ ท่ีปลายยอดสูงลิ่ว ทิ้งดอกร่วงหล่นลงมาแต้มพื้นเป็นระยะ ทั้ง แคแสด ศรีตรัง สุพรรณิการ์ และ กาสะลอง สีแสด ม่วง เหลือง ขาว ตามล�าดับ แทบทั้งนั้นเป็นไม้จากเมืองนอกท่ีถูกทยอยน�ามาปลูกจนแพร่หลาย เฉพาะแคแสดนั้น ผมจ�าชื่อนอก เขาเรียกว ่า African

แปลว่าไม่โศกไม่เศร้าต่างหาก ผมปลูกไว้รอบบ้านเพื่อเป็นเครื่องเตือนตนว่ายังไงๆ จะไม่โศกไม่เศร้า พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้เยอะแยะในเรื่องเหล่านี้ สุดท้ายนี้ขอชวนคิดสักนิดว่าเมืองนครของเราน่าจะหาต้นไม้อะไรมาปลูกเป็นสัญญลักษณ์บ้างไหม หรือเอามาตั้งชื่อเป็นศรีเมือง อย่างที่เขามีศรีตรัง ศรียะลา หากจะมีศรีนครสักต้นน่าจะดี แล้วเอามาปลูกถนนสักสายให้สวยอย่างรูปถนนต้นศรีตรังเส้นนี้ท่ีไม่ทราบว่าท่ีไหน หรือจะเอากลิ่นให้หอมไปท้ังเมืองก็ยังได้นะครับ.

๑ มีนาคม ๒๕๕๗

ตอบว่าก็เขาไม่ปลูกกันตามชื่อว่าโศกว่าเศร้า ผมจึงถามกลับว่าชื่ออะไรแน่เล่า อโศกนั้น

Tulip หรือ Flame of the Forest เพราะส ีดอกที่ดูเหมือนเปลวเพลิงอยู ่กลางป่าทึบในแอฟริกาใต้โน่น ในขณะที่สุพรรณิการ์ก็มีหลายชื่อ เช่น ฝ้ายค�า และมีหลายพันธุ์ รวมถึงที่ดอกซ้อนสวยงามมาก ยกเว้นกาสะลองซึ่งเป็นไม้ไทย สีขาวและมีกลิ่นหอมตามเรือนยอดตลอดปี ส่วนพยอมต้นใหญ่ในตระกูล ยูงยางนั้น ให้ดอกปีละครั้งเป็นพวงห้อยพราวไปท้ังต้น ร่วงหล่นขาวเต็มพื้นทุกเช้าหลังให้กล่ินระรวยในตอนกลางดึกแล้ว ท้ังนี้ยังมีจันทร์กะพ้ออีกต้นหน่ึงที่ก�าลังชูช่อดอกน้อยๆ หลังจากปีที่แล้วให้ดอกมาแล้วรอบหนึ่ง หอมเย็นอย่างที่ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ บอกให้ปลูกไว้ในบ้านอย่างยิ่ง

สุดท้าย หลายคนชอบทักว่าท�าไมปลูกอโศกในบ้าน ผมจึงถามว่าท�าไมถาม ได้รับค�า ถนนสายศรีตรัง ไม่ทราบว่าที่ไหน ชวนคิดถึงถนนสายศรีนครสักเส้น

ศรีตรัง สุพรรณิการ์ กาสะลอง และ แคแสด ร่วงบนพื้นทราย

ช่อดอกแคแสด

ช่อดอกสุพรรณิการ์ซ้อน

ดอกพยอมบนต้นที่มุมบ้าน

ช่อดอกพยอม ช่อกาสะลอง (ปีป)

Page 20: นสพ รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช ฉบับที่ 31 เมษายน 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๒๐ ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๓๑ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗