blurred vision

18
Blurred vision Blurred vision นนนนนนนนนนนนนน นนนนนนนนน นนนนนนนนนนนนนน นนนนนนนนน อออออออออออออออออออ อออออออออออออออออออออ อออออออออออออออออออ อออออออออออออออออออออออออออออ อออออออออออออออออ ออออออออออออออออออออออออออออออ ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ อออออออ อออออออออ อออออออออออออออออออออ นนนนนนนนนน (Vision) "ออออออออออ" ออออออออออออออออออ อออออออออออออ ออออออออออออออออออออ ออออ ออออออออออออออออออออออออ ออออออออ (visual acuity , VA) อออออออออออออออ ออออออออ (color vision), ออออออออออออออออออออ (visual field) อออออออ นนนนนนนนนนนนนน (Physiology of vision) ออออออออออออออออออออออออออ อ อออออ อออออออออ ออออออออออออออ ออออ ออออออออ อออออออออออออออออออ อออออออออออออออออออออออออออ อออออออออออออออออออออออออออออออออออ อ อออออ (optical media) ออออออออออออออออออออออออออออออออออ (cornea) ออออออออ (crystalline lens) อออออออออออออ อออออออออ (fovea) ออออ ออออออออออออออออออออออออออ ออออออออออออออออออออ อออออออออออออออ (optic nerve) อออออออ อออออออออออออออออออออออออออออออออออออ อออออออออออออออ 1. ออออออออออออออออออออออออออออ (emmetropia) 2. อ อ optical media อ อออ อ (cornea, aqueous, lens, vitreous) 3. ออ sensory pathway อออออออ (retina, optic nerve, chiasm, tract, radiation, occipital lobe) นนนนนนนนนนนนนน (Etiology of visual loss) อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ อออ ออออออออออออออออออ 4 อออออออออ อออ

Upload: softmail

Post on 16-Nov-2014

2.918 views

Category:

Documents


13 download

TRANSCRIPT

Page 1: Blurred Vision

Blurred visionBlurred visionนายแพทย�อนชิ�ต กิ�จธารทองนายแพทย�อนชิ�ต กิ�จธารทอง

อาการตามั�วเฉี�ยบพลั�น ถื�อเป็�นภาวะฉี�กเฉี�นทางจั�กษุ�ว�ทยาท��สำ าคั�ญ จั าเป็�นต#องได้#ร�บการด้&แลัร�กษุาท��ถื&กต#องรวด้เร(ว แพทย)เวชป็ฎิ�บ�ต�ท��วไป็จั,งมั�คัวามัสำ าคั�ญอย-างย��งท��ต#องว�น�จัฉี�ยโรคัได้#อย-างถื&กต#องแมั-นย า แลัะให้#การ ด้&แลัร�กษุาเบ�1องต#นได้#กิารมองเห็�น (Vision)

"การมัองเห้(น" มั�คัวามัห้มัายท��กว#าง ซึ่,�งเราสำามัารถืตรวจัว�ด้ได้#ห้ลัายลั�กษุณะ เช-น คัวามัสำามัารถืในการเห้(นว�ตถื�ขนาด้เลั(ก (visual acuity , VA)

คัวามัสำามัารถืในการจั าแนกสำ� (color vision), คัวามักว#างของลัานสำายตา (visual field) เป็�นต#นกิลไกิกิารมองเห็�น (Physiology of vision)

คันเราสำามัารถืมัองเห้(นสำ��งต-าง ๆ ได้#ด้� เมั��อสำภาพแวด้ลั#อมัพอเห้มัาะ เช-น แสำงสำว-าง ร-วมัก�บด้วงตาแลัะระบบป็ระสำาทการมัองเห้(นท��เป็�นป็กต�

เมั��อแสำงจัากว�ตถื�เด้�นทางผ่-านสำ-วนต-าง ๆ ของตา (optical media) จัะเก�ด้การห้�กเห้ข,1นเมั��อผ่-านกระจักตา (cornea) แลัะเลันสำ) (crystalline lens)

แลั#วโฟก�สำตกบนจั�ด้ร�บภาพ (fovea) พอด้� จัากน�1นสำ�ญญาณภาพจัะถื&กน าไป็แป็ลัผ่ลัท��สำมัองสำ-วนกลัาง โด้ยเสำ#นป็ระสำาทตา (optic nerve)

โด้ยสำร�ป็ การมัองเห้(นท��ด้�ต#องมั�ระบบการร�บภาพท��คัรบถื#วนต-อไป็น�11. ภาพท��โฟก�สำตกบนจั�ด้ร�บภาพพอด้� (emmetropia)

2. มั� optical media ท��ใสำ (cornea, aqueous, lens, vitreous)

3. มั� sensory pathway ท�� ป็ ก ต� (retina, optic nerve, chiasm, tract, radiation, occipital lobe)สาเห็ตของตาม�ว (Etiology of visual loss)

อาการตามั�วจัะเก�ด้ข,1นเมั��อองคั)ป็ระกอบข#างต#นไมั-คัรบ ซึ่,�งสำามัารถืแบ-งเป็�น 4 กลั�-มัให้ญ- คั�อ1. สายตาผิ�ดปกิต� (Refractive errors , Ametropia) คั�อ สำภาวะของ

ตาท��แสำงขนานจัากว�ตถื�(ว�ตถื�ท�� ไกลั) ผ่-านเข#ามัาในตาท�� ไมั- เพ-ง (no

accommodation) แลั#วภาพโฟก�สำตกไมั-ตรงบนจั�ด้ร�บภาพ แบ-งเป็�น

Page 2: Blurred Vision

1.1 สำายตาสำ�1น (myopia) ภาพโฟก�สำตกเป็�นจั�ด้เด้�ยวก�น ก-อนถื,งจั�ด้ร�บภาพ 1.2 สำายตายาว (hyperopia) ภาพโฟก�สำตกเป็�นจั�ด้เด้�ยวก�น แต-เลัยจั�ด้ร�บภาพ

1.3 สำายตาเอ�ยง (Astigmatism) ภาพโฟก�สำตกไมั-เป็�นจั�ด้เด้�ยวก�นกิารว�น�จฉั�ย

ว�ด้ VA โด้ยใช# pin hole ซึ่,�งจัะพบว-าสำามัารถือ-านได้#ด้�กว-าไมั-ใช# pin

hole อย-างน#อย 2 แถืวของ Snellen chart

2. Cloudy optical media เป็�นภาวะข�-นของต�วกลัางแสำงภายในด้วงตา เช-น

2.1 กระจักตา (cornea) ; corneal abrasion, corneal ulcer, corneal scar, corneal edema

2.2 ช- อ ง ลั& ก ต า สำ- ว น ห้ น# า (anterior chamber) ; hyphema, hypopyon

2.3 เลันสำ) (crystalline lens) ; cataract

2.4 ว� # น ต า (vitreous) ; vitreous hemorrhage, endophthalmitisกิารว�น�จฉั�ย

1. ใช# pen light เพ��อว�น�จัฉี�ย1.1 corneal disease โด้ยด้&คัวามัใสำของกระจักตาร-วมัก�บ

corneal light reflex1.2 anterior chamber opacity1.3 cataract

2. ใ ช# direct ophthalmoscope เ พ�� อ ด้& red reflex ซึ่,� งป็รากฏการณ)น�1เก�ด้ข,1นเมั��อเราถื�อเคัร��องมั�อห้-างจัากผ่&#ป็9วยป็ระมัาณ 1 ฟ�ต แสำงจัาก direct ophthalmoscope จัะเข#าไป็ย�งตาผ่&#ป็9วย ผ่-านกระจักตา, เลันสำ)แลัะเมั��อกระทบป็ระสำาทตา (ซึ่,�งมั�สำ�แด้งจัากช�1นโฆรอยด้) (choroid)) จัะสำะท#อนกลั�บออกมัาเข#าตาผ่&#ตรวจั ด้�งน�1นเมั�� อมั� cloudy optical media ห้ร�อ retinal disease บางโรคั ก(จัะมั�คัวามัผ่�ด้ป็กต�ของ red reflex แต-เน��องจัากเราสำามัารถืว�น�จัฉี�ยโรคัทาง cornea แลัะ anterior chamber ได้#ด้#วย pen

light เราจั,งมั�กใช#ในการว�น�จัฉี�ยโรคัต-อไป็น�1

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

22

Page 3: Blurred Vision

2.1 cataract2.2 vitreous opacity2.3 retinal disease เช-น retinal detachment

3. Abnormal sensory pathway3.1 retina (โด้ยเฉีพาะอย-างย��งโรคัท��มั�ผ่ลัต-อจั�ด้ร�บภาพ) เช-น

central retinal artery occlusion, retinal detachment, diabetic retinopathy เป็�นต#น

3.2 optic nerve เ ช- น optic neuritis, anterior

ischemic optic neuropathy, glaucoma เป็�นต#น3.3 optic chiasm เช-น pituitary tumor เป็�นต#น3.4 optic tract, lateral geniculate body, optic

radiation เ ช- น cerebrovascular accident, tumor

เป็�นต#น3.5 occipital lobe เ ช- น cerebrovascular accident,

tumor, trauma เป็�นต#นข#อมั&ลัท��จั าเป็�นต#องทราบคั�อ

1. กลัไกการเก�ด้ direct light reflex แลัะ consensual light reflex

จัากร&ป็ท�� 1 เมั��อแสำงกระต�#น retina จัะมั� afferent pathway ผ่-านท า ง optic nerve, chiasm, tract ก- อ น จั ะ ถื, ง lateral geniculate

body จัะมั� pupillary fibers แยกออกมัา ไป็ย�ง pretectal nucleus ไป็ย� ง Edinger - Westphol nucleus ท�1 ง 2 ข# า ง (เ ป็� น สำ- ว น ห้ น,� ง ข อ ง oculomotor nucleus)

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

33

Page 4: Blurred Vision

จั า ก Edinger - Westphal nucleus ซึ่,� ง เ ป็� น จั� ด้ เ ร�� มั ต# น ข อ ง efferent pathway จั ะ ใ ห้# nerve fibers ไ ป็ เ ป็� น สำ- ว น ห้ น,� ง ข อ ง

oculomotor nerve ไป็ย�ง sphineter muscle ท าให้# pupil ห้ด้ต�ว

ด้�งน�1นเมั��อแสำงกระต�#น retina จัะท าให้# pupil ด้#านเด้�ยวก�นห้ด้ต�วเร�ยก direct light reflex แลัะจัะท า ให้# pupil ด้#านตรงข#ามัห้ด้ต�วด้#วยเร�ยก consensual light reflex

Afferent pupillary defect ในผ่&#ป็9วยท��มั�โรคัทางจัอป็ระสำาทตาห้ร�อเสำ#นป็ระสำาทตาเสำ�ยท�1งห้มัด้ จัะท าให้#

มั�คัวามัผ่�ด้ป็กต�ของ light reflex แต- consensual light reflex ย�งป็กต�อย&- เช-น เป็�นโรคัตาซึ่#าย เมั��อสำ-องไฟตาซึ่#าย มั-านตาซึ่#ายไมั-ห้ด้แต-เมั��อสำ-องข#างขวา มั-านตาข#างซึ่#ายจัะห้ด้

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

44

ร!ปท"# 1 ภาพแสดง pathway

ของ light reflex

Page 5: Blurred Vision

Alternate light testว�ธี�ตรวจั ตรวจัในห้#องมั�ด้ ให้#ผ่&#ป็9วยมัองท��ไกลั ผ่&#ตรวจัถื�อไฟฉีาย สำ-องตา

ข#างห้น,�ง แลั#วเลั��อนไป็สำ-องตาอ�กข#างห้น,�งโด้ยเร(ว แลั#วเลั��อนกลั�บมัาข#างเด้�มัอ�ก

คัร�1ง เช-น ตาซึ่#ายผ่�ด้ป็กต� จัะตรวจัพบคัวามัผ่�ด้ป็กต�ด้�งน�1

ร!ปท"# 2 ภาพแสดงผิลกิารตรวจ RAPD positive

ในตาซ้'าย

(A) pupil ขณะย�งไมั-สำ-องไฟ(B) ขณะท��เราสำ-องไฟตาขวา pupil ท�1ง 2 ข#างห้ด้

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

55

Page 6: Blurred Vision

(C) เมั��อเลั�อนไป็สำ-องไฟตาซึ่#าย pupil ท�1ง 2 ข#างจัะขยาย (เน��องจัากมั� light stimulus น#อยกว-าเมั��อสำ-องตาขวา) ซึ่,�งเร�ยกป็รากฏการณ)น�1ว-า relative afferent pupillary defect (RAPD)

(D) เมั��อเลั��อนมัาตรวจัตาขวาอ�กคัร�1ง pupil ท�1ง 2 ข#างจัะห้ด้นอกจัากน�1 เราย�งสำามัารถืตรวจัห้า RAPD ได้# ในตาท��มั�ป็<ญห้าเร��อง

immobile iris เช-น third nerve palsy, posterior eynechia ได้# โด้ยด้&ร&ป็ด้#านลั-าง

ร!ปท"# 3 ภาพแสดงกิารตรวจ RAPD ในตาท"#ม"ป(ญห็าเร*#อง immobile iris

2. optic nerve ของตา 2 ข#าง จัะมั� cross fibers ป็ระมัาณคัร,�งห้น,�งท�� chiasm แลัะมั�การจั�ด้เร�ยงของ fibers แตกต-างก�นในแต-ลัะต าแห้น-งของ visual pathway ซึ่,�งจัะท า ให้#มั�ลั�กษุณะเฉีพาะของ visual field

defect เมั��อเก�ด้โรคัข,1น ด้�งร&ป็

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

66

Page 7: Blurred Vision

ร!ปท"# 4 แสดง visual field defect ในรอยโรคท"#ต-าแห็น.งต.าง ๆ

กิารว�น�จฉั�ย1. direct light reflex, consensual light reflex ถื# าผ่�ด้ป็กต�

แป็ลัว-ามั�รอยโรคัท�� retina ถื,ง optic nerve (เสำ�ยท�1งห้มัด้)

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

77

Page 8: Blurred Vision

2. relative afferent pupillary defect (RAPD, Marcus Gunn pupill) ถื#าผ่�ด้ป็กต� (positive) แป็ลัว-า มั�รอยโรคัท�� macula ถื,ง optic nerve แลัะในกรณ�เป็�นโรคัท�1ง 2 ข#าง แป็ลัว-า มั�รอยโรคัท��ร�นแรงกว-าอ�กข#าง

3. visual field จัะมั�ร&ป็แบบของ visual field defects เมั��อเก�ด้รอยโรคัท��ต าแห้น-งต-าง ๆ ก�น โด้ยถื#ามั�ลั�กษุณะผ่�ด้ป็กต�แบบ hemianopia ในตาท�1งสำอง รอยโรคัมั�กจัะอย&-ท�� chiasm ถื,ง occipital lobe (VA จัะไมั-ลัด้ลัง ถื#ามั�รอยโรคัอย&-ข#างเด้�ยว (unilateral) ในต าแห้น-งห้ลั�งต-อ chiasm)

4. direct ophthalmoscope ( ห้ยอด้ยาขยายมั-านตา) เพ�� อตรวจัด้&รายลัะเอ�ยด้ของจัอป็ระสำาทตา เช-น optic disc, macula, retinal

vessels เป็�นต#น4. Malingering คั�อ กรณ�ของผ่&#ป็9วยแกลั#งท า เพ��อผ่ลัป็ระโยชน)บางอย-าง เช-น เง�นป็ระก�นช�ว�ต, ห้ลั�กเลั��ยงการเกณฑ์)ทห้าร เป็�นต#น ซึ่,�งภาวะน�1จั าเป็�นต#องให้#จั�กษุ�แพทย)ช-วยในการว�น�จัฉี�ย

Decision tree conclusion

Pin hole Improve Not improveRefractive error Pen light

Abnormal Normal Red reflex

Abnormal Normal RAPD

Positive Negative Fundus

examination (อาจัจัะห้ยอด้ยาขยายมั-านตา)

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

88

Visual

Opacity of cornea, Anterior

Cataract, Vitreous opacity, Retinal disease

Macula to prechiasmatic optic nerve lesion

Page 9: Blurred Vision

Abnormal findings Normal

Visual field

AbnormalNormal

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

99

Retinal disease

- Chiasmatic to occipital lobe lesion- Malingering

- Amblyopia

Page 10: Blurred Vision

กิารร�กิษา1. Refractive error ห้ลั�กการร�กษุาคั�อ ป็ร�บแสำงโฟก�สำให้#ตกบนจั�ด้ร�บภาพเป็�นจั�ด้เด้�ยว เช-น

1.1 Glasses1.2 Contact lens โด้ยในกลั�-มั - myopia ใช# concave lens (minus lens, เลันสำ)เว#า)

- hyperopia ใช# convex lens (plus lens, เลันสำ)น&น)

- astigmatism ใช# cylinder lens (เลันสำ)ทรงกระบอก)1.3 Refractive surgery เป็�นการผ่-าต�ด้เพ��อเป็ลั��ยนจั�ด้โฟก�สำให้#ตกบนจั�ด้ร�บภาพ โด้ยไมั-จั าเป็�นต#องใช#แว-นตาห้ร�อคัอนแทคัเลันสำ)อ�กต-อไป็ ซึ่,�งในป็<จัจั�บ�นท��ยอมัร�บคั�อการใช#เลัเซึ่อร) เพ��อเป็ลั��ยนคัวามัโคั#งของกระจักตา มั�อย&- 2 ว�ธี�คั�อ

1. LASIK (Laser in-situ keratomileusis)2. PRK (Photorefractive keratectomy)

2. Opaque optical media ห้ลั�กการร�กษุาคั�อ ท าให้# optical media กลั�บมัาใช#เห้มั�อนเด้�มั การร�กษุาจั,งแตกต-างก�นในแต-ลัะโรคั เช-น

corneal abrasion ร�กษุาโด้ย pressure patch

blunt traumatic hyphema ร�กษุาโด้ย bed rest

cataract ร�กษุาโด้ย cataract extraction with IOL

3. Abnormal sensory pathway มั�ท�1งสำาเห้ต�ท��แก#ไขได้#แลัะแก#ไขไมั-ได้# เช-น สำาเห้ต�ท��แก# ไข ห้ร�อท า ให้#ด้�ข,1 นได้# เช-น retinal detachment,

macular edema, hypertensive แ ลั ะ diabetic retinopathy

เป็�นต#น สำ-วนสำาเห้ต�ท��แก#ไขให้#มัองเห้(นได้#ยาก เช-น intraocular tumor ท�� involve macula, aging macular degeneration, cortical blindness ซึ่,�งสำาเห้ต�เห้ลั-าน�1ท�1งห้มัด้ จัะต#องให้#จั�กษุ�แพทย)เป็�นผ่&#ท าการร�กษุาท��เห้มัาะสำมั แต-น�กศึ,กษุาคัวรจัะสำามัารถืให้#การว�น�จัฉี�ยได้#คัร-าว ๆ เพ��อจัะสำ-งต-อให้#จั�กษุ�แพทย)ได้#อย-างเห้มัาะสำมัแลัะถื&กต#อง

4. Malingering เป็�นเร��องยากท��จัะให้#การตรวจัแลัะว�น�จัฉี�ยในกรณ�น�1 น�กศึ,กษุามั�กจัะต#องสำ-งต-อให้#จั�กษุ�แพทย)เพ��อให้#ได้#ร�บการตรวจัแลัะใช#เคัร��องมั�อ

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

1010

Page 11: Blurred Vision

พ�เศึษุห้ลัาย ๆ อย-างพร#อมัก�น รวมัถื,งการต#อง exclude โรคัต-าง ๆ ท��คัลั#ายก�บ malingering เช-น Cortical blindness เป็�นต#น

อากิารตาม�วเฉั"ยบพล�น (Acute visual loss)

เมั��อท-านอ-านถื,งตรงน�1 ก(จัะสำามัารถืว�น�จัฉี�ยได้#ว-าผ่&#ป็9วยตามั�วเป็�นจัากรอยโรคัท��ต าแห้น-งใด้ของระบบการมัองเห้(น แลัะถื#ารอยโรคัน�1นเก�ด้ข,1นอย-างกะท�นห้�น ก(จัะเป็�นผ่ลัให้#เก�ด้อาการตามั�วเฉี�ยบพลั�นตามัมัา เช-น- Vascular causes ; central retinal artery occlusion

branch retinal artery occlusioncentral retinal vein occlusionbranch retinal vein occlusionanterior ischemic optic neuropathyabnormal vessels (esp. neovascularization)

with hemorrhagecerebrovascular accident

- Inflammatory causes ; corneal ulceracute uveitisendophthalmitisoptic neuritis

- Traumatic causes ; corneal abrasion, corneal opacityruptured globehyphemalens dislocationvitreous hemorrhagetraumatic optic neuropathy

- Poisoning ; methyl alcohol- Others ; retinal detachment

acute glaucoma ซึ่,�งในแต-ลัะโรคัจัะมั�อาการ อาการแสำด้ง คัวามัร�บด้-วนของการร�กษุาแตกต-างก�น แลัะในบทคัวามัน�1จัะมั�เฉีพาะป็ระเด้(นสำ าคั�ญท��น-าจัะเป็�นป็ระโยชน)สำ าห้ร�บแพทย)เวชป็ฎิ�บ�ต�ท��วไป็1. Chemical burn

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

1111

Page 12: Blurred Vision

สำ��งท��สำ าคั�ญท��สำ�ด้ คั�อ การร�กษุาเบ�1องต#น ซึ่,�งป็ฎิ�บ�ต�เห้มั�อนก�นในผ่&#ป็9วยท�กคัน ด้�งน�11. copious irrigation

ห้ยอด้ยาชา, ใช# lid speculum เป็?ด้ตา, ร�บลั#างด้#วยน 1าสำะอาด้ท��ห้าได้#ในท�นท� เช-น saline, RLS ห้ร�อแมั#แต-น 1าป็ระป็า นาน 30 นาท� ห้ร�อ 2 ลั�ตร จันกระท��ง PH เป็�นกลัาง (7.2-7.4) แลัะคัวรตรวจั PH อ�กคัร�1งห้ลั�ง 30 นาท�

2. พยายามัห้ย�บเอาสำ��งแป็ลักป็ลัอมั แลัะเน�1อเย��อท��ตายออก3. ป็ระเมั�นคัวามัร�นแรง

3.1 ถื#ามั� limbal ischemia มัากกว-า 1/3 ของเสำ#นรอบกระจักตา ให้#สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)ท�นท�

3.2 มั� limbal ischemic น#อยกว-า 1/3 แลัะกระจักตาใสำ ให้# - ยาห้ยอด้สำเต�ยรอยด้) ว�นลัะ 4 คัร�1ง นาน 1 สำ�ป็ด้าห้)

- ยาห้ยอด้ป็ฎิ�ช�วนะ ว�นลัะ 4 คัร�1ง ถื#าไมั-ด้�ข,1นภายใน 1 สำ�ป็ด้าห้) ให้#สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)

4. ในกรณ�ท��ไมั-ทราบว-าเป็�นสำารเคัมั�อะไร อ�นตรายต-อด้วงตาห้ร�อไมั- ให้#สำ�นน�ฐานว-าเป็�นสำารอ�นตรายไว#ก-อน

2. Central retinal artery occlusionกิารว�น�จฉั�ย

1. มั�กพบในผ่&#สำ&งอาย� ท��มั�ป็<ญห้าห้ลัอด้เลั�อด้แลัะห้�วใจั2. อาการ : acute painless unilateral visual loss

2. อาการแสำด้ง : 1. visual acuity แย-มัาก (ยกเว#นในรายท��มั� cilioretinal

artery) 2. ตรวจัตาแลั#วป็กต� ยกเว#นมั� RAPD positive

3. ตรวจัจัอป็ระสำาทตา จัะพบว-ามั�จัอป็ระสำาทตาซึ่�ด้ขาด้เลั�อด้ ยกเว#นต าแห้น-งจั�ด้ร�บภาพ (cherry-red spot) เสำ#นเลั�อด้แด้งต�บ เห้(นเป็�นเสำ#นเลั�อด้มั�เลั�อด้เป็�นช-วง ๆ (railway trucking)

กิารร�กิษาเป็�นภาวะเร-งด้-วน โด้ยเฉีพาะในผ่&#ป็9วยท��มั�อาการภายใน 24 ช��วโมัง

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

1212

Page 13: Blurred Vision

1. กด้นวด้ตา โด้ยให้#ผ่&#ป็9วยมัองลัง ใช#น�1วมั�อ 2 น�1ว กด้ตาพอต,ง ๆ นาน 20-30 ว�นาท� แลั#วป็ลั-อยท�นท�คัอย 20-30 ว�นาท� แลั#วท าซึ่ 1า 5-10 คัร�1ง โด้ยห้ว�งว-า emboli ท��อ�ด้จัะห้ลั�ด้ออกไป็

2. ให้#ยาลัด้คัวามัด้�นตา - Acetazolamide (250 ml) 2 เมั(ด้- Topical beta - blocker

3. สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)ท�นท�3. Trauma อ�บ�ต�เห้ต�เป็�นสำาเห้ต�ท��พบได้#บ-อยท��ท าให้#ตามั�วเฉี�ยบพลั�น เช-น

cornea ; corneal abrasion, corneal ulcerlens ; cataract, lens dislocationvitreous ; vitreous hemorrhageretina ; macular edemaoptic nerve ; optic neurapathyeye wall , ruptured globe

3.1 Corneal abrasionกิารว�น�จฉั�ย

ป็วด้ตา ตามั�ว เคั�องตามัาก น 1าตาไห้ลั ตรวจัพบ irregular corneal

light reflex แลัะย#อมัสำ�ฟลั&ออเรสำซึ่�น ต�ด้สำ�เข�ยวขอบเขตช�ด้เจันกิารร�กิษา

1. ห้าสำ��งแป็ลักป็ลัอมัท��อาจัเป็�นสำาเห้ต�2. ป็Aายยาป็ฎิ�ช�วนะ แลัะป็?ด้ตาแน-น (pressure patch) ยกเว#นภาวะท��

เสำ��ยงต-อการต�ด้เช�1อ เช-น โด้นก��งไมั# เลั(บมั�อห้ร�อตรวจัพบมั� corneal

infiltration ให้#พ�จัารณาให้#ยาป็ฏ�ช�วนะชน�ด้ห้ยอด้ท�ก 1 ช��วโมัง

ข'อควรระว�ง คั�อ ภาวะการต�ด้เช�1อ (corneal ulcer) ซึ่,�งผ่&#ป็9วยจัะป็วด้ตามัากข,1น มั�ข�1ตา

มัาก ตรวจัพบ ขอบแผ่ลัข�-นมั�สำ�ขาว (corneal infiltration) ขอบแผ่ลัไมั-เร�ยบ แลัะอาจัมั�ห้นองในช-องตาสำ-วนห้น#า (hypopyon) ซึ่,�งแนะน าให้#สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)3.2 Traumatic hyphrmaกิารว�น�จฉั�ย

ตรวจัพบเลั�อด้ในช-องลั&กตาสำ-วนห้น#ากิารร�กิษา

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

1313

Page 14: Blurred Vision

1. ร�บไว#ในโรงพยาบาลั2. ให้#นอนพ�ก(bed rest) ศึ�รษุะสำ&ง 30 องศึา นาน 5 ว�น เพ��อลัด้โอกาสำ

การมั�เลั�อด้ออกซึ่ 1า (rebleeding) ซึ่,�งมั�กเก�ด้ในว�นท�� 2-5 จัะท าให้#พยากรณ)โรคัแย-ลังมัาก

3. ให้#ยาห้ยอด้ตาสำเต�ยรอยด้) ว�นลัะ 4 คัร�1ง4. ให้#ยาลัด้คัวามัด้�นตา ในกรณ�ท��คัวามัด้�นตาสำ&ง5. ลัด้อาการป็วด้ เช-น 1 % atropine eyedrop bid,

acetaminophen (ห้#ามัให้# aspirin)

6. สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย) ในกรณ�ท��ไมั-แน-ใจัในการด้&แลัร�กษุา โด้ยเฉีพาะอย-างย��งในกรณ�ท��6.1 คัวามัด้�นตาสำ&ง6.2 มั�เลั�อด้ออกซึ่ 1า

ข'อควรระว�งอาจัมั�ภาวะลั&กตาแตกร-วมัด้#วย (ruptured globe)

3.3 Rupture globeกิารว�น�จฉั�ย

การว�น�จัฉี�ยไมั-ยาก (ยกเว#น occult scleral rupture ห้มัายถื,ง ภาวะผ่น�งลั&กตาแตกในต าแห้น-งท��อย&-ด้#านห้ลั�งลั&กตา ท าให้#ไมั-เห้(นรอยแตก ซึ่,�งให้#การว�น�จัฉี�ยยาก ให้#สำงสำ�ยในรายท��มั�อ�บ�ต�เห้ต�แลั#วมั�อาการตามั�ว แลัะคัวามัด้�นตาต �ามัาก จัะตรวจัพบมั�เย��อบ�ตามั�เลั�อด้ออกแลัะบวมัมัาก, ช-องลั&กตาสำ-วนห้น#าลั,กกว-าอ�กข#าง อาจัมั�เลั�อด้ออกในว� #นตา)กิารร�กิษา

1. ป็Aองก�นไมั-ให้# intraocular content ทะลั�กออกมัา โด้ย1.1 ตรวจัตาโด้ยไมั-กด้ลั&กตา อธี�บายให้#ผ่&#ป็9วยไมั-บ�บตา 1.2 ในกรณ�ท��เป็�นเด้(ก อาจัต#องตรวจัภายห้ลั�งให้#ยานอนห้ลั�บห้ร�อ

ด้มัยาสำลับ1.3 คัรอบ eye shield

1.4 อาจัให้#ยาลัด้อาเจั�ยน เช-น plasil IV/IM

2. งด้อาห้ารแลัะน 1า3. สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)ท�นท�

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

1414

Page 15: Blurred Vision

ข'อควรระว�ง อาจัมั�สำ��งแป็ลักป็ลัอมัในลั&กตาด้#วย (intraocular foreign body)

แนะน าให้#สำ-งเอกซึ่เรย) moving eye ball (ท-า AP แลัะ lateral มัองข,1น มัองลัง) ในผ่&#ป็9วยท�กคันท��ว�น�จัฉี�ยห้ร�อสำงสำ�ยว-ามั�ภาวะลั&กตาแตก (ถื#าพบสำ��งแป็ลักป็ลัอมัในลั&กตา ย�นย�นได้#ว-ามั�ลั&กตาแตกจัร�ง)3.4 Traumatic optic neuropathyกิารว�น�จฉั�ย

ให้#สำงสำ�ยในผ่&#ป็9วยอ�บ�ต�เห้ต�ท�กคันท��มั� RAPD positive โด้ยไมั-สำามัารถือธี�บายได้#จัากโรคัทางจัอป็ระสำาทตากิารร�กิษา

สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)ท�นท�4. Acute glaucomaกิารว�น�จฉั�ย

ผ่&#ป็9วยจัะมั�อาการตามั�ว ป็วด้ตา เห้(นสำ�ร� #งรอบด้วงไฟ อาจัมั�ป็วด้ศึ�รษุะ คัลั��นไสำ#อาเจั�ยน ตรวจัพบ คัวามัด้�นลั&กตาสำ&ง กระจักตาบวมั ciliary injection,

semidilated, fixed pupil ช-องห้น#าลั&กตาต�1นกิารร�กิษา

1. ให้#ยาลัด้คัวามัด้�นตา1.1 Topical beta blocker เช-น 0.5 % Timol eye drop

1.2 Carbonic anhydrase inhibitor เช-น acetazolamide (250 mg) 2 เมั(ด้

1.3 Osmotic agent เช-น glycerine 1 cc/kg โด้ยผ่สำมัน 1าสำ#มั 1 : 1 คั-อย ๆ ด้��มั2. สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)ท�นท�

5. Retinal detachmentกิารว�น�จฉั�ย

ผ่&#ป็9วยมั�อาการตามั�วคัลั#ายมั�มั-านมัาบ�งตา โด้ยไมั-ทราบสำาเห้ต�แลัะ VA แย-ลังเมั��อมั� macular detachment อาจัมั�ป็ระว�ต� flashing floater ตรวจัพบมั� abnormal red reflex มั�ลั�กษุณะเป็�น grey reflex พลั�1วไป็มัา อาจัมั� RAPD positive ในกรณ�ท��มั� macular detachment ด้#วย ตรวจัจัอ

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

1515

Page 16: Blurred Vision

ป็ระสำาทตาพบ membrane สำ�ขาวท��มั�เสำ#นเลั�อด้ (retinal vessels) พลั�1วไป็มัากิารร�กิษา

สำ-งต-อจั�กษุ�แพทย)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- The endThe end

Reference1. Catalano, RA : Ocular emergencies. Philadelphia : W.B

Saunders company, 1992 ; 6-12, 17-19,155,159-162,17--190,201-207,405-407,395-428

2. Basic and Clinical Science Course Section 5, Neuro-Ophthalmology San Francisco : American Academy of Ophthalmology, 1997-1998 ; 71, 97,-104

3. Kline LB : Ophthalmology Monographsio, Optic Nerve Disorders ; San francisco : American Academy of Ophthalmology, 1996 ; 21-25, 179-197.

4. Walsh IJ : Ophthalmology Monographs, Visual Fields. San Francisco : American Academy of Ophthalmology 1996 ; 39-43

5. Basic and Clinical Science Course Section 12, Retina and Vitreous. San Francisco : American Academy of Ophthalmology, 2000-2001 ; 138-140, 245-248

6. ว�สำ&ตร ฉีายาก�ลั, เท�ยมั ห้ลั-อเท�ยนทอง. จั�กษุ�ว�ทยาเบ�1องต#น. กร�งเทพ : ศึร�สำมับ�ต�การพ�พมั)มั 2527 ; 18-21.

Block : Ambulatory care/15 มั�.คั 46

1616