อินเทอร์เน็ตแบบwifi เกี่ยวกับ...

Post on 18-Feb-2020

5 Views

Category:

Documents

0 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

หลักเกณฑ์ มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบบ WiFi เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสาร

ถึงกันโดยทางโทรคมนาคม บริษัท ดีแทค บรอดแบนด์ จํากัด

************** เพื่อให้ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบบ WiFi ได้รับการคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิ

ในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาต ิ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสือ่สารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม จึงกําหนดมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม ไว้ดัง ต่อไปนี ้ ข้อ 1 ในประกาศนี ้ “ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ที่ตกลง ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบบ WiFi ของผู้ให้บริการ “ผู้ให้บริการ” หมายความว่า บริษทั ดีแทคบรอดแบนด์ จํากัด “บริการ” หมายความว่า บริการอินเทอร์เน็ตแบบ WiFi ย่านความถี่วิทยตุามที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ

“สัญญาใช้บริการ” หมายความว่า สัญญาหรือข้อตกลง ใช้บริการของผู้ให้บริการ "ขอ้มูลส่วนบุคคล" หมายว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ ดังต่อไปนี ้

(1) ข้อเท็จจริงที่บ่งชี้ถึงตัวผู้ใช้บริการ (1) กรณีบุคคลธรรมดา หมายถึง ชื่อ ที่อยู ่ วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประจําตัว

ประชาชน หรือบัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหนังสือเดินทาง สําเนาบตัรประจําตัวประชาชน หรือสําเนาบัตรประจําตัวอื่น ๆ ที่ออกโดยส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือข้อมูล หรือเอกสารหลักฐานที่สามารถกําหนดตัวบุคคลของผู้ใช้บริการได้แน่นอนตรงตามความเป็นจริง (ข) กรณีนิติบุคคล หมายถึง ชื่อ สถานทีต่ั้งสํานักงานใหญ ่เลขที่จดทะเบียนการจัดตั้งนิติบุคคล ชื่อผู้กระทําการแทนนิติบุคคล หรือผู้รับมอบอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคล สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน หรือสําเนาบัตรประจําตัวอื่น ๆ ที่ออกโดยส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ หรือ ข้อมูล หรือเอกสารหลักฐานที่สามารถกําหนดตัวบุคคลของผูก้ระทําการแทนผู้ใช้บรกิารได้แน่นอน ตรงตามความเป็นจริง

(2) ข้อมูลการใช้บริการ และการชําระค่าบริการ รวมทั้งข้อมูล ข้อเท็จจริง เอกสารหลักฐาน หรือสิ่งอื่นใดอันเกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการ ของผู้ให้บริการ

“การประมวลผลข้อมูล” หมายความว่า การดําเนินการใดๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การบันทกึ การจัดเรียบเรียง การเก็บรักษา การแก้ไขเพิ่มเติม การนํากลับมา การใช ้การเปิดเผย การพิมพ์ การให้เข้าถึง การลบหรือการทําลาย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และให้หมายความรวมถึง

การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการประกอบธุรกิจการให้บริการของผู้ให้บริการ “การเก็บรวบรวม” หมายความว่า การกระทําด้วยประการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล “สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ข้อ 2 ผู้ให้บริการจะดําเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการประกอบธุรกิจ

การให้บริการ ของผู้ให้บริการ หรือตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 หรือตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวขอ้ง ทั้งนี้ ภายใตห้ลักเกณฑก์ารได้รับความยินยอมของผู้ใช้บริการตามที่กฎหมายกําหนด

ข้อ 3 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้ไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑใ์นข้อ 2 (1) เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่ง หรือหมายเรียกพยานเอกสารหรือวัตถ ุ ในคด ี

แพ่ง หรือคดีอาญา ต่อศาล หรือพนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หรือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือบทบัญญัติกฎหมายอื่น ตลอดจนเจ้าพนักงาน ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมายและให้ปฏิบัตหิน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยได้ปฏิบตัิครบถ้วนตามขั้นตอนและกระบวนการที่กฎหมายนั้น ๆ ได้บัญญัตไิว้แล้ว

(2) ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จําเป็นโดยผู้ให้บริการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ให้บริการ เพื่อประโยชน์ในการรับเรื่องร้องเรียน และกระบวนการพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน

(3) ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จําเป็น โดยผู้ให้บริการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ให้บริการ เพื่อประโยชน์ในการแจ้งรายละเอียดของการให้บริการ หรือการแก้ไขข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการให้บริการ หรือการบอกกล่าว ติดตาม ทวงถาม หรือการใช้สิทธเิรียกร้องตามกฎหมายของผู้ให้บริการ

(4) ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จําเป็นต่อทายาท คู่สมรส หรือผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายของผู้ใช้บริการ หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน ร่างกาย หรือ สุขภาพของผู้ใช้บริการ หรือทายาทหรือคู่สมรสของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ โดยบุคคลดังกล่าว ได้ดําเนินการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว

(5) เปิดเผย หรือส่งข้อมูลให้คณะกรรมการ หรือสํานักงานตามคําร้องขอหรือตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกําหนด

ข้อ 4 ผู้ให้บริการจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ใช้บริการโดยตรงเท่าที่จําเป็นแก่การประกอบธุรกิจการให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบ WiFi และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย

กรณีผู้ใช้บริการเป็นบุคคลธรรมดา ผู้ให้บริการจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ใช้บริการอย่างน้อย ดังนี ้ (1) ชื่อ สกุล

(2) วนั เดือน ปี เกิด (3) ที่อยู่ตามข้อมูลสํานักงานทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย หรือที่อยู่อื่นๆ

สําหรับการสง่ใบแจ้งค่าบริการตามสัญญาใช้บริการ หรือตามที่กฎหมายกําหนด (4) เลขหมายประจําตัวประชาชน สําหรับบุคคลผู้มีสัญชาติไทย หรือเลขที่หนังสือเดินทางของต่างประเทศ หรือเลขหมายประจําตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา หรือเลขที่ใบสําคัญถิ่นที่อยู ่ หรือเลขหมายบัตรประจําตัวอื่น ๆ ที่ออกโดยส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐสําหรับบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย

(5) สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน หรือสําเนาบตัรประจําตัวอื่น ๆ ซึ่งมีภาพถ่าย ของผู้ใช้บริการที่ออกโดย ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือสําเนาใบสําคัญถิ่นที่อยู่ หรือสําเนาหนังสือเดินทาง และสําเนาใบอนุญาตให้ทํางาน ในกรณีผู้ใช้บริการเป็นคนต่างด้าว หรือสําเนาบัตรอื่น ๆ ซึ่งแสดงสถานภาพของผู้ใช้บริการอย่างหนึ่งอย่างใด หรือหลายอย่างประกอบกัน

(6) ข้อมูลหรือเอกสารอื่นๆ ซึง่สามารถกําหนดตัวบุคคลได้แน่นอน หรือที่อาจ กําหนดตัวบุคคลนั้นได ้

กรณีผู้ใช้บริการเป็นนิติบุคคล ผู้ให้บริการจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ใช้บริการ อย่างน้อยดังนี ้

(1) ชื่อนิติบุคคล และเลขทะเบยีนนิติบุคคล (2) ที่ตั้งสํานักงานใหญข่องนิติบุคคล (3) สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือสําเนาทะเบียนพาณิชย ์ และ

หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือสําเนาใบจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีเป็นสํานักงานภูมิภาคของบริษัทข้ามชาต ิที่จัดตั้งสํานักงานภูมิภาคในราชอาณาจักร สําหรับนิติบุคคลที่ไม่มีภูมิลําเนาในราชอาณาจักร

(4) หนังสือมอบอํานาจ ในกรณเีป็นผู้ได้รับมอบอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคล หรือ รับมอบอํานาจช่วงจากผู้มีอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคล

(5) สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้กระทําการแทนนิติบุคคล หรือผู้มอบอํานาจ และผู้รับมอบอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคล

(6) สําเนาหนังสือเดินทาง และสําเนาใบอนุญาตให้ทํางาน ในกรณทีี่ผู้กระทําการแทน นิติบุคคลหรือผู้รับมอบอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคลเป็นคนต่างด้าว

(7) สําเนาหลักฐานทางการเงินอื่น ๆ หรือหลักฐานที่แสดงสถานภาพทางการเงินที ่จําเป็นต่อการพิจารณาอนุมัติให้เปิดใช้บริการ

ข้อ 5 ผู้ให้บริการจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมตามประกาศนี้เท่านั้น การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ตามประกาศนี้ ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ โดยแสดงเหตุผลในการดําเนินการดังกล่าว ในกรณีทีม่ีเหตุจําเป็นที่ผลกระทบต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคล ซึ่งมิอาจดําเนินการตามที่กําหนดประกาศได้ ผู้ให้บริการจะใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครอง หรือควบคุมดูแลได้เท่าที่จําเปน็เท่านั้น โดยมิต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้ให้บริการจะมีหนังสือแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยเร็ว

ข้อ 6 ในระหว่างการใช้บริการตามสัญญา ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไวต้ลอดระยะเวลาการใช้บริการ เว้นแต่ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการใช้บริการผู้ให้บริการซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการดําเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน หรือการดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาไว ้ในรอบระยะเวลาการใช้บริการไม่เกิน 90 วันนับจากวันสุดท้ายของการใชบ้ริการ ข้อ 7 ในกรณีสัญญาใช้บริการสิ้นสุดลง ผู้ให้บริการจะเก็บรกัษาข้อมูลส่วนบุคคลไว ้ เป็นเวลาไม่เกิน 365 วันนบัถัดจากวันสิ้นสุดของสัญญาใช้บริการ เว้นแตก่รณีมีความจําเป็น ซึ่งผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาไว ้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดําเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องรอ้งเรียน หรือเพื่อเป็นข้อมูลในการดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไวจ้นกว่าการดําเนินการจะถึงที่สุด

ข้อ 8 ผู้ใชบ้ริการมีหน้าที ่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถกําหนดตัวบุคคลได้แน่นอน ตามความเป็นจริง ให้แก่ผู้ให้บรกิารอย่างเพียงพอ ต่อการพิจารณาอนุมัติให้ใช้บริการ หรือตามที่กฎหมายกําหนด และห้ามมิให้ใช้บริการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ข้อ 9 ผู้ใช้บริการมีหน้าที ่ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตน ให้ผู้ให้บริการทราบ เพื่อแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการอาจแจ้งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้ให้บริการ ผ่านสํานักงานบริการสาขา หรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้ให้บริการกําหนด ข้อ 10 ผู้ให้บริการจะดําเนินการให้มีมาตรการป้องกนั และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสม โดยผู้ให้บริการจะดําเนินการปรับเปลี่ยนระบบการเข้า และการถอดรหัสที่ใช้ เพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และปรับระดับความปลอดภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ตามทางการพัฒนาของเทคโนโลย ีทั้งนี้ บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามหลักเกณฑภ์ายในว่าด้วยการเข้าถึงระบบข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ผู้ให้บริการกําหนด

ข้อ 11 ผู้ให้บริการจะดําเนินการให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย การป้องกัน การดกัฟัง ตรวจ กักสัญญาณ หรือเปิดเผยการสื่อสารถึงกัน โดยทางวิทยุคมนาคม ที่ผู้ใช้บริการติดต่อถึงกันไม่ว่ารูปแบบหรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐานและคุณภาพการให้บริการตามเงื่อนไขการอนุญาตบริการอินเทอร์เน็ต เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพบริการ และการแก้ไขปัญหาการร้องเรียนของผู้ใช้บริการ ผ่านพนักงานรับเรื่องร้องเรียนทางโทรศัพท์ ผู้ให้บริการอาจทําการบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างผู้ใช้บริการ กับพนักงานรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวได้ ข้อ 12 ผู้ใช้บริการมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียน เกีย่วกับการละเมิดสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑก์ารรับเรื่องร้องเรียน และกระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ ตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ให้บริการกําหนด

top related