คนฮักถิ่น_76

6
คนฮักถิ่น จดหมายขาว ปที่ 8 ฉบับที่ 76 ประจํา เดือน มกราคม พ.ศ. 2555 : ขาวสารดานนิเวศวัฒนธรรม เพื่อความเปนธรรมในสังคมอีสาน วิกฤติอีสาน วิกฤติโลก ถาจะพัฒนาอีสาน แลวทําใหคนอีสานไมมีความสุข หรือทุกขยิ่งกวาเดิม ก็ ยากที่จะบอกไดวาสิ่งนั้นคือการพัฒนา แตกอนจะพูดถึงวิกฤติอีสาน อยากจะอยากจะ ตั้งคําถามกอนวา ทุกวันนี้ใครตอใครกําลังนําพาสังคมอีสานไปสูหนใด? เราตองการ ความเจริญแบบไหน หรือแบบที่โลกๆ เขาเปนกัน อันที่จริงแลวโลกาภิวัตนฝงอยูในตัว เรามาแตไหนแตไร เราเปนตัวรับเอาสิ่งที่ถูกจริตกับเรา เลือกเอาสิ่งที่สอดคลองกับ ความตองการแลวเอามาใช บางครั้งเราอาจจะยังไมไดกลั่นกรองสิ่งเหลานั้นอยางดีพอ ยังไมไดคิดถี่ถวนดีพอ เราก็อยากเปนอยางที่เขาพูดเสียแลว (พลิกอานดานใน...) บทบรรณาธิการ ..."พี่นองเอย เพิ่นวาเมืองอีสานนี่ดินดําน้ําซุปลากุมบอนคือแขแกวงหาง ปลานางบอนคือขางฟาลั่น จั๊กจั่นฮองคือฆองลั่นยาม คนมีศีล ดินมีน้ํา บหอนขาดเขินบก ฝูงหมูสกุณานก บินซวนซมปลายไม ไทเมืองไกล เมืองใกล ไปมาไดจอดแว น้ําใจหลายดีแท แท หมูเฮาชาวอีสานซั่นแลว”... คนอีสานสมัยกอนจะใชคําผญา หรือภาษิต อีสาน เพื่อสอนสั่ง เตือนสติลูกหลานใหอยูในฮีต- คอง อนึ่ง คือการถายทอดความรูสึกนึกคิด บอกเลา เรื่องราวตางๆ อันสะทอนถึงภูมิปญญา และองค ความรูที่ไดสั่งสมมา ดังคําผญาขางบน ซึ่งไดขับเนน ถึงความเปนอีสาน ความสมบูรณของขาว ปลา อาหาร และอุดมไปดวยทรัพยากรธรรมชาติ แตมาวันนี้ภาคอีสานกําลังถูกพัฒนาอยางเต็มทีโดยเฉพาะการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม เมื่อจะมี เหมืองแรโปแตช เกือบ 10 โครงการ, จะมีโรงไฟฟา นิวเคลียร ขุดเจาะกาซธรรมชาติ และน้ํามันดิบใน หลายพื้นที่ เพื่อสรางความมั่นคงดานพลังงาน เชน บริเวณทุงกุลาฯ ซึ่งเปนแหลงนาขาวหอมมะลิทีสําคัญ, จะมีการสรางเขื่อนกั้นแมน้ําโขง, พื้นที่นา ปา โคก ถูกรื้อทิ้ง แปรสภาพใหเปนสวนยางพาราและพืช เศรษฐกิจ หรือแมแตการกาวเขาสูเสรีประชาคม อาเซี่ยนในป 2558 ฯลฯ... “สิไปทางหนา ใหแนมเบิ่งคืนหลัง คั่นมะ หลืดถืดเทา สูเจาอยาสิไป”...@ วิกฤติอีสานจากการพัฒนา (1) สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย

Upload: paitoon-turapan

Post on 24-Oct-2014

33 views

Category:

Documents


3 download

TRANSCRIPT

Page 1: คนฮักถิ่น_76

คนฮักถิ่น จดหมายขาว

ปที่ 8 ฉบับที่ 76 ประจํา เดือน มกราคม พ.ศ. 2555 : ขาวสารดานนเิวศวัฒนธรรม เพ่ือความเปนธรรมในสังคมอีสาน

วิกฤติอีสาน วิกฤติโลก

ถาจะพัฒนาอีสาน แลวทําใหคนอีสานไมมีความสุข หรือทุกขย่ิงกวาเดิม ก็ยากที่จะบอกไดวาส่ิงนั้นคือการพัฒนา แตกอนจะพูดถึงวิกฤติอีสาน อยากจะอยากจะต้ังคําถามกอนวา ทุกวันนี้ใครตอใครกําลังนําพาสังคมอีสานไปสูหนใด? เราตองการความเจริญแบบไหน หรือแบบที่โลกๆ เขาเปนกัน อันที่จริงแลวโลกาภิวัตนฝงอยูในตัวเรามาแตไหนแตไร เราเปนตัวรับเอาส่ิงที่ถูกจริตกับเรา เลือกเอาส่ิงที่สอดคลองกับความตองการแลวเอามาใช บางคร้ังเราอาจจะยังไมไดกล่ันกรองส่ิงเหลานั้นอยางดีพอ ยังไมไดคิดถ่ีถวนดีพอ เราก็อยากเปนอยางที่เขาพูดเสียแลว (พลิกอานดานใน...)

บทบรรณาธิการ

..."พี่นองเอย เพิ่นวาเมืองอีสานนี่ดินดําน้ําซุม ปลากุมบอนคือแขแกวงหาง

ปลานางบอนคือขางฟาล่ัน จ๊ักจ่ันฮองคือฆองล่ันยาม คนมีศีล ดินมีน้ํา บหอนขาดเขินบก ฝูงหมูสกุณานก บินซวนซมปลายไม ไทเมืองไกล เมืองใกล ไปมาไดจอดแว น้ําใจหลายดีแท แท หมูเฮาชาวอีสานซ่ันแลว”... คนอีสานสมัยกอนจะใชคําผญา หรือภาษิตอีสาน เพื่อสอนส่ัง เตือนสติลูกหลานใหอยูในฮีต-คอง อนึ่ง คือการถายทอดความรูสึกนึกคิด บอกเลาเร่ืองราวตางๆ อันสะทอนถึงภูมิปญญา และองคความรูที่ไดส่ังสมมา ดังคําผญาขางบน ซ่ึงไดขับเนนถึงความเปนอีสาน ความสมบูรณของขาว ปลา อาหาร และอุดมไปดวยทรัพยากรธรรมชาติ แตมาวันนี้ภาคอีสานกําลังถูกพัฒนาอยางเต็มที่ โดยเฉพาะการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม เม่ือจะมีเหมืองแรโปแตช เกือบ 10 โครงการ, จะมีโรงไฟฟานิวเคลียร ขุดเจาะกาซธรรมชาติ และน้ํามันดิบในหลายพื้นที่ เพื่อสรางความม่ันคงดานพลังงาน เชน บริเวณทุงกุลาฯ ซ่ึงเปนแหลงนาขาวหอมมะลิที่สําคัญ, จะมีการสรางเขื่อนก้ันแมน้ําโขง, พื้นที่นา ปาโคก ถูกร้ือทิ้ง แปรสภาพใหเปนสวนยางพาราและพืชเศรษฐกิจ หรือแมแตการกาวเขาสู เสรีประชาคมอาเซ่ียนในป 2558 ฯลฯ... “สิไปทางหนา ใหแนมเบ่ิงคืนหลัง ค่ันมะ หลืดถืดเทา สูเจาอยาสิไป”...@

วิกฤติอีสานจากการพัฒนา (1) สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย

Page 2: คนฮักถิ่น_76

จดหมายขาว คนฮักถ่ิน ปที่ 8 ฉบับที่ 76 ประจําเดือน มกราคม พ.ศ. 2555

ศูนยสื่อชุมชนเพ่ือสังคมที่เปนธรรม(ศสธ.) หนา 2

ยกตัวอย างจากตัว เลขง ายๆ ทุก วันนี้ หากเ ราอยากสะดวกสบายเหมือนกับประเทศซ่ึงเรามองวาเขาเจริญแลวอยางญ่ีปุน แมเขาจะมีพื้นที่ไมไดใหญโตมากหากเทียบเมืองไทย แตก็มีประชากรต้ัง 120 ลานคน การที่เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี มันไมไดเกิดขึ้นแบบไมตองเสียอะไร มันแลกมาดวยการเปล่ียนมนุษยใหเปนเคร่ืองจักร และการใชพลังงานที่สูงมาก หากคิดเปนพลังงานไฟฟา เคาใชกันอยูประมาณ 2 แสนเมกกะวัตต เปรียบเทียบกับเขื่อนปากมูลบานเราที่ผลิตไฟฟาได 136 เมกกะวัตต เขาคงตองมีเขื่อนขนาดเขื่อนปากมูลประมาณ 1,500 เขื่อน จึงจะผลิตไฟไดพอใช ตอนนี้ เ มืองไทยประชากรนอยกวาญ่ีปุนอยูคร่ึงหนึ่ง แตเราก็ยังใชพลังงานนอยกวาญ่ีปุนถึง 10 เทา แลวลองคิดดูวาหากเรายังคิดจะพัฒนาไปแบบญ่ีปุน เราตายแน เราตองใชพลังงานถึง 1 แสนเมกกะวัตต แลวจะไปเอาพลังงานมาจากไหน

แตถาหากอยากจะเปนแบบอเมริกา เราทราบหรือไมวาอเมริกาใชทรัพยากรไปต้ัง 50% ที่ทั้งโลกผลิตได เม่ือกอนปลอยกาซเรือนกระจก 40% ของที่ทั้งโลกปลอย ตอนนี้จีนก็เร่ิมจะแซงอเมริกาแลว จีนเรงพัฒนาผลิตอุตสาหกรรมอยางมาก แตถาเทียบเฉล่ียตอหัวประชากร ก็ยังทําลายโลกไดไมเทาอเมริกา เพราะอเมริกามีประชากรประมาณ 300 ลานคน ขณะที่จีนมีประชากรกวา 1,600 ลานคน คนอเมริกาจึงใชทรัพยากรเยอะกวามาก มันจะย่ิงนากลัวขึ้นมาอีกหากจีนอยากเปนแบบอเมริกาขึ้นมา ตอนนี้ในประเทศจีนไมขี่จักรยานกันแลว รถยนตในจีนกวา 100 ลานคัน ใชพลังงานมากแคไหน เอาแคคนจีนรับประทานไก เพิ่มขึ้นคนละ 1 กิโลกรัม/ป ก็จะตองผลิตไกเพิ่มปละ 1,600 ลานตัว ซ่ึงหากจะหาขาวโพดมาเล้ียงไกพวกนี้ก็ตองใชถึง 3 ลานตัน ซ่ึงตองหาพื้นที่ปลูกขาวโพดประมาณ 5 ลานไร พื้นที่เหลานี้อยูที่ไหนบางละ ถาไมใชบนภูเขาในภาคเหนือของไทย ในลาว จีน โดยเฉพาะแถวปากชม เชียงคาน ดานซาย วังสะพุง แนนอนวาเกษตรกรผูปลูกขาวโพดมักจะถูกสังคมโจมตีวาเปนผูทําลายปา ถางปาปลูกขาวโพด แตเราไมเคยมองไปที่ตนเหตุจริงๆ เลยวาคืออะไร ใครเปนเจาของโรงงานอาหารสัตวรายใหญของโลก ใครขายปุย ขายสารเคมี ขายเมล็ดพันธุขาวโพด แมกระทั่งวาใครสงออกไกไปจีน ไปญ่ีปุน และยุโรป ใครไดประโยชนกันแน ใครเปนสาเหตุของการทําลายปา?

แตปจจุบันพื้นที่ปลูกขาวโพดในบานเราเร่ิมลดลงบาง หันไปปลูกยางพาราแทน เพราะการเติบโตของอุตสาหกรรมตางๆ ที่ใชยางธรรมชาติมีมากขึ้น ซ่ึงมันเช่ือมโยงกับราคาน้ํามัน หากน้ํามันแพง

ผลพลอยไดจากการกล่ันน้ํามันที่จะเอาไปทํายางสังเคราะหมันก็แพงไปดวย ก็ตองหันไปหายางธรรมชาติมากขึ้น แลวคนทั่วโลกก็ใชรถยนตมากขึ้นดวย ก็คงไมพนจีนอีกนั่นละ โรงงานผลิตยางรถยนตก็ไปอยูที่จีนหมด ตราบใดที่รถยนตยังใชลอยางอยู ก็ตองเปล่ียนยาง

ทุกๆ 50,000 กิโลเมตร อันนี้ก็ทําใหชาวบานปลูกขาวโพดนอยลง ปลูกยางมากขึ้น รวมถึงตัดมะขามหวานทิ้งเพื่อปลูกยาง ตลาดโลก กลไกราคา เปนตัวควบคุมแบบแผนการผลิตของเรา ดังนั้น ชาวบานปฏิเสธไมไดหรอกวาเราทําไรทํานาเฉยๆ ไมนาจะไดรับผลกระทบจากโลกาภิวัตน จึงอยากทิ้งคําถามสําคัญวา ถาทุกประเทศในโลกนี้อยากจะเจริญอยางอเมริกา ยุโรป ญ่ีปุน หรือจีน จะเกิดอะไรข้ึนกับโลกใบนี?้

ทุกวันนี้คนที่จัดการทรัพยากรบนโลกมีเพียง 5% สวนคนอีก 95% ไมรูอยูสวนไหนของโลก บางที่ก็แทบไมมีน้ําจะกิน หรือกําลังเดินๆ อยู แตมีอีแรงคอยเดินตามเพื่อรอกินศพ โลกของเรามีความไมเปนธรรมในการจัดการทรัพยากรอยางรุนแรง หากเราดูระดับโลกก็จะเห็นชัด กระบวนการตางๆ เหลานี้ทําใหหลายภาคสวนในสังคมเห็นรวมกันวา ทําไมไมพัฒนาบนพ้ืนฐานนิเวศวัฒนธรรมของตนเอง พัฒนาบนฐานของความเปนพ้ืนถ่ินของเรา โดยไมตองไปมองเขามาก แมเราตองการความสะดวกสบายเหมือนกัน แตจริงๆ แลวความสะดวกสบายนาจะมีจุดที่สมดุลได และไมจําเปนตองแพง เพราะการที่สังคมจะสะดวกสบายมากๆ นั้น ไมใชไดมาลอยๆ ตองมีกระบวนการไปขูดรีดคนจน หรือคนซ่ืออีกมาก เราก็อยานึกวาตนฉลาด กวาที่ประเทศไทยจะพัฒนาเศรษฐกิจไดอยางที่เปนอยู เราก็ถูกเขาขูดรีดมากอน แลวก็ไปขูดรีดคนอื่นเขาตอ ถายังอยูในวังวนอยางนี้ โลกของเราจะอยูกันอยางไร ยกตัวอยางเร่ืองโรงงานไฟฟานิวเคลียร เขาใชงบประมาณในการประชาสัมพันธสูงมาก ตอนนี้กระทรวงพลังงานใชงบประมาณของประเทศประมาณ 1,500 ลานบาท เพื่อเอาไปสรางความเขาใจ ประชาสัมพันธใหคนอยากไดโรงไฟฟานิวเคลียร โดยพื้นที่ยุทธศาสตรในการสรางโรงงานไฟฟานิวเคลียรทั้ง 5 แหง มีภาคอีสานอยู 2 แหง คือ กาฬสินธุ และอุบลราชธานี และมีขอเสนอวา ควรเร่ิมดําเนินการสรางโรงไฟฟานิวเคลียรโรงแรกใหไดในป 2563 ในชวงเดียวกันนี้ก็เปนที่นาแปลกใจวา สหรัฐอเมริกาเขามามีบทบาทตออาเซียนคอนขางมาก โดยเฉพาะการเสริมสรางประชาธิปไตยในพมา การลงทุนในภูมิภาคนี้ รวมถึงการขายสินคาเก่ียวกับเทคโนโลยีพลังงาน ซ่ึงเม่ือไมนานมานี้อเมริกาก็เพิ่งจะอนุมัติใหสรางโรงไฟฟานิวเคลียรแหงใหม ในรอบ 30 ป

Page 3: คนฮักถิ่น_76

จดหมายขาว คนฮักถ่ิน ปที่ 8 ฉบับที่ 76 ประจําเดือน มกราคม พ.ศ. 2555

ศูนยสื่อชุมชนเพ่ือสังคมที่เปนธรรม(ศสธ.) หนา 3

ส่ิงเหลานี้อาจจะเปนจุดเปล่ียนของประเทศไทย หรืออาจจะเปน เพียงความพยายามในการด้ินรนอย างที่ สุดของอุตสาหกรรมนิวเคลียรก็เปนได เพราะขณะนี้โลกของเราใชประโยชนจากพลังงานนิวเคลียรแครอยละ 6 สูงสุดคือน้ํามัน รองลงมาคือกาซธรรมชาติ และถานหิน เพราะความเปนจริงแลวหากสรางโรงไฟฟานิวเคลียรในทุกประเทศ และเพิ่มระดับการใชประโยชนจากรอยละ 6 เปนรอยละ 25 ของการใชพลังงานในโลก แรยูเรเนียมอาจจะหมดภายใน 3 ป อุตสาหกรรมนิวเคลียรจึงพยายามขายโรงไฟฟานิวเคลียร และหาทางทํากําไรจากเทคโนโลยีนิวเคลียรใหมากที่ สุด เพราะอุตสาหกรรมนี้ซบเซามานานแลว กรณีตางๆ เหลานี้จึงเห็นไดชัดวาโลกาภิวัฒน หรือทุนขามชาติจะทํางานไดดีก็ตองอาศัยความฉอฉลของนักการเมือง พอคา ขาราชการ เขาอาศัยความไมรูของเรา เอาเงินภาษีของเรามาใชสรางภาพหลงใหเราเช่ือตาม หรือแมแตหลงไปกับภาพสวยงามของประชาธิปไตย ตลาดเสรี แตสุดทายก็เปนเ ร่ืองผลประโยชนของคนบางกลุม

ส่ิงที่อยากเสนอก็คือ หากทุกประเทศในโลกของเรายังพยายามหาประโยชนกันแบบนี้ มีการคาดการณกันไววาอีกเพียง 40 ปขางหนา เราอาจตองใชโลกอีก 6 ใบ จึงจะมีทรัพยากรมากพอ หรือไมก็มีอีก 2 วิธีก็คือ 1) ตองฆาคน 2-3 พันลานคน หรือ 2) เฉล่ียกันใชใหพอโดยไมตองโลภมาก เราจะเอาแบบไหน? เม่ือมังกรตื่นข้ึนมาเขมือบโลก

จีน กําลังเปนทุนนิยมที่กลัว กระบวนการทางนโยบายทุก

อยางผานขั้นตอนเร็วมาก เปนทุนนิยมแตเผด็จการทางปกครอง ประชาชนมีสวนรวมในการกําหนดนโยบายนอยที่สุด จีนจึงไปลงทุนอยูทั่วโลก ในเวทีโลกจีนอางวาใหความสําคัญกับการลงทุนที่สะอาด โดยใหขอมูลวาแม GDP ของจีนจะเพิ่มขึ้นมาก แตการปลอยกาซเรือนกระจกกลับมี

สัดสวนลดลงถึง 40% เม่ือเทียบกับรายไดประชาชาติของจีนที่เพิ่มขึ้น แตอันที่จริงแลวจีนไปลงทุนตางประเทศเยอะมาก ไปปลอยกาซเรือนกระจกในประเทศตางๆ ก็มาก แตเวลาเอามาคํานวณการเติบโต ก็เอามาแตตัวเลขทางเศรษฐกิจ ไมเอาตัวเลขการปลอยกาซเรือนกระจกในบานคนอื่นมารวมดวย ดังนั้น กาซเรือนกระจกในโลกโดยภาพรวมก็ไมไดลดลงเลย

จีนลงทุนกับระบบ Logistic หรือสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในภูมิภาคอินโดจีนและลุมน้ําโขงเยอะมาก ทั้งในลาว กัมพูชา พมาและไทยในอนาคต นอกจากนี้ จีนยังลงทุนภาคอุตสาหกรรมเกษตรมากเชนกัน อยางกรณีลงทุนปลูกยางพาราที่เขมร ซ่ึงจีนเขาไปสัมปทานที่ดินแปลงใหญรวมๆ กันแลวนับลานไร เขาตองตัดปาสมบูรณออกเพื่อปลูกยางพารา ปาในเขมรจึงถูกทําลายอยางยอยยับ เขาไปสรางผลกระทบใหกับเกษตรกรประเทศอื่นเอาไวมาก แตจีนก็อุดหนุนเกษตรกรของเขาดีกวา ดีกวาประเทศไทยเรามาก ไมแนวายางพาราที่คาดกันวาจะเปนพืชเศรษฐกิจแหงอนาคตของอีสานจะราคาดีอยางนี้ไปอีกไดนานเพียงใด เม่ือคาดวาผลผลิตยางพาราในอีก 10 ปขางหนาจะเพิ่มขึ้นเกือบเทาตัว และผูซ้ือรวมถึงผูปลูกรายใหญอาจจะเปนจีนนั่นเอง

มีปรากฏการณอันหนึ่งที่สะทอนอิทธิพลของความเปนทุนจีนในตลาดอินโดจีน ตอนนี้มีพอคาคนจีนเขามาเปนจํานวนมาก สินคาจีนหล่ังไหลเขามามากมายในภูมิภาคลุมน้ําโขง ตอนนี้เมืองไทยจึงเปนแหลงรวมของพอคาและแรงงานตางดาว และคนอีสานเองหากยังไมปรับตัว หรือเตรียมการรองรับใหดีในเร่ืองนี้ก็จะกลายเปนคนที่นาสงสารมาก แมเราจะรังเกียจการเปนผูใชแรงงานแบบเกาที่ถูกใชงานหนักๆ เพราะมีคนลาว คนเขมร คนพมามาทําแทน แตก็อาจจะกลายแรงงานไฮโซ คือ ทํางานเบาขึ้น แตสรุปแลวก็เปนเพียงแรงงานรับจางเหมือนกัน หรือบางทีอาจมีโอกาสตกงานมากขึ้น เม่ือจะเร่ิมเปดเสรีประชาคมอาเซียนเต็มตัวภายในป ค.ศ. 2015 นี้

คนรุนหลังจะลําบาก โดยเฉพาะเร่ืองการสงตอผืนแผนดินใหลูกใหหลานดูแลตอไป ในอนาคตจะมีแผนดินอยูอาศัยทํากินเชนคนรุนพอรุนแมหรือไมยังเปนเร่ืองที่นาศึกษาติดตามอยางมาก เพราะยังไมมีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อรองรับส่ิงเหลานี้ เนื่องจากแนวโนมของคนรุนหลังที่จะเขาสูอาชีพเกษตรกรตามพอแมลดลงเรื่อยๆ เปนเรื่องตองคิดกันใหมาก เพราะโลกาภิวัตนกําลังไลตอนเรา แตที่นาเจ็บใจคือเราไมรูสึกตัว บางทีกลับเห็นดีเห็นงามตามไปดวย

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ โปรดติดตาม วิกฤติอีสานจากการพัฒนา ตอนท่ี (2) ไดในฉบับ

หนา(กุมภาพันธ) อาจารยสันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย แหงคณะวิทยาศาสตร ม.ราชภัฏอุดรธานี ยังฝากมาบอกทานผูอานทุกทานวา เจอกันอีกครั้งขอมูลครบครันกวาเดิมแน!!!

Page 4: คนฮักถิ่น_76

จดหมายขาว คนฮักถ่ิน ปที่ 8 ฉบับที่ 76 ประจําเดือน มกราคม พ.ศ. 2555

ศูนยสื่อชุมชนเพ่ือสังคมที่เปนธรรม(ศสธ.) หนา 4

การผลิตพืชดานอาหารปรับเปล่ียนสูพื้นที่การผลิตพืช

พลังงานทดแทน นํามาสูวิกฤติการณอาหารโลก ราคาอาหารสูงขึ้นเพราะพื้นที่การผลิตพืชอาหารลดลง ประเด็นที่นาสนใจคือ การเขายึดครองที่ดินเพื่อเพิ่มพื้นที่การผลิตพืชพลังงานทดแทนนี้ กลุมที่เขายึดครองที่ดินกลับไมใชเกษตรกรเจาของผืนดินด้ังเดิมกลับกลายเปน กลุมทุนบรรษัทขามชาติขนาดใหญ กลุมกองทุนการเงินความม่ังค่ังตางๆ โดยใชวิธีการสัมปทานจากรัฐที่เอื้อประโยชนตอกันหรือการเชาที่ ดินในระยะยาวอาศัยผานเงินทุนที่มากมายมหาศาล นี่ ยังไมกลาวถึงปญหาจากสารเคมีที่ใชการเรงผลผลิตเพื่อใหทันความตองการของตลาดรับซ้ือ ในประเทศไทยโดยเฉพาะภาคอีสานจะเปนแหลงผลิตพืชพลังงานทดแทนที่ สํา คัญ จ. หนองบั วลําภู ถือเปนหนึ่ งที่ เ ร่ิมปรับเปล่ียนวิถีการผลิตจากการทําเกษตรแบบด้ังเดิม หรือ การทํานาขาว พัฒนากลายเปนพื้นที่สงเสริมการทําเกษตรแบบเขมขน หรือการปลูกพืชพลังงานทดแทน โดยเนนการใชสารเคมีเรงผลผลิต “ออย” ถือเปนหนึ่งในพืชพลังงานทดแทนที่สําคัญของ จ.หนองบัวลําภู

ในการสงเสริมการปลูก เนื่องจาก จ.หนองบัวลําภูอยูติดกับสองโรงงานน้ําตาลใหญสองแหง คือที่ อ.น้ําพอง จ.ขอนแกน และ อ. นากลาง จ.หนองบัวลําภูเอง โดยการปลูกออยของชาวบานนั้น จะพึ่งพิงระบบตลาดกับนายทุน โดยนายทุนธุรกิจการเกษตรเหลานี้จะรวมมือกับภาครัฐในการโฆษณาประชาสัมพันธผานการการดําเนินธุรกิจรวมกับชาวบานที่เรียกวา ระบบเกษตรพันธะสัญญา โดยสรางหลักประกันชวนเช่ือแกเกษตรกรวา เม่ือรวมดําเนินธุรกิจจะมีการนําปจจัยการผลิต เชน เมล็ดพันธ ปุย รวมถึงการสรางตลาดรับซ้ือให

โดยขอตกลงรวมกับเกษตรกรจะอยูในรูปแบบ สัญญาลายลักษณอักษร แตในความเปนจริงเม่ือดําเนินการผลิตในระบบพันธะสัญญากับกับนายทุนที่ผูกขาดปจจัยการผลิตไปไดสักระยะ เกษตรกรกับตกอยูในภาวะหนี้สินลนพน อยากจะเลิกแตเลิกไมไดเนื่องจากติดเง่ือนไขของสัญญา ไรอํานาจตอรองเพื่อเปล่ียนแปลงสภาพสูการทํานาขาวแบบเดิม

อุทัยวรรณ พรังสาลี เกษตรกรผูปลูกออย จ.หนองบัวลําภู เลาดวยแววตาไรความหวังวา “แตกอนเคยปลูกขาวเปนหลัก แตเม่ือเห็นเพื่อนบานเร่ิมมีการปลูกออยบอกวาไดเงินดี จึงอยากปลูก แตปที่ผานมาเกิดน้ําทวมพืชผลเสียหายขาดทุนยอยยับ จะเลิกก็เลิกไมไดเนื่องจากติดสัญญาโควตากับโรงงานอยู แถมยังตองมาชดใชหนี้สินจาก ปุย ที่ทางบริษัทใหซ้ือตามสัญญาที่เซ็นตไวต้ังแตกอนปลูก ตอนนี้หมดสิ้นทุกอยางจะกลับไปปลูกขาว ดินก็ไมดีเหมือนแตกอนเพราะใสปุยจากการปลูกออยไปเยอะ” นางอุทัยวรรณกลาวพรอมกับมองไปยังไรออยที่เคยเปนทองทุงนาอันเขียวขจีที่บัดนี้ไมมีใหเห็นแลว...@

ชวยกนัเบิ่งแยง

พืชเชิงเดี่ยว บวง กับดักของนายทุน

รงค ภัทรา

Page 5: คนฮักถิ่น_76

จดหมายขาว คนฮักถ่ิน ปที่ 8 ฉบับที่ 76 ประจําเดือน มกราคม พ.ศ. 2555

ศูนยสื่อชุมชนเพ่ือสังคมที่เปนธรรม(ศสธ.) หนา 5

เดือนน้ีมีอะไร ทีมขาวคนฮักถ่ิน

วันที่ 16 ม.ค. : นายกอบต.หวยสามพาด เชิญผูใหญบานในพื้นที่เหมือง (ต.หวยสามพาด) และตัวแทนชาวบานกลุมอนุรักษส่ิงแวดลอมอุดรธานี รวมประมาณ 30 คน ประชุมหารือ ที่หองประชุมอบต. กรณีการจัดประชุมประชาคมหมูบาน ตามขั้นตอนประทานบัตรเหมืองแรโปแตช โดยในที่ประชุมเห็นชอบรวมกันวาจะยังไมดําเนินการประชาคมหมูบาน จนกวาจะไดรับคําตอบกรณีรายงานการไตสวน และผลการคานภายใน 20 วัน ของชาวบาน ทั้งนี้ ใหอบต.หวยสามพาด ทําหนังสือทวงถามไปยัง ก ร ม อุ ต ส า ห ก ร ร ม พื้ น ฐ า น แ ล ะ ก า ร เ ห มื อ ง แ ร ( ก พ ร . )

วันที่ 20-22 ม.ค. : นักศึกษาคณะศิลปะศาสตร

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จํานวนกวา 60 คน ลงพื้นที่ศึกษาเรียนรูวิถีชีวิตชาวบานในพื้นที่โครงการเหมืองแรโปแตช จ.อุดรธาน ีและไดแลกเปล่ียนขอมูลกับกลุมอนุรักษส่ิงแวดลอมอุดรธานี

วันที่ 25 ม.ค. : ชาวบานกลุมอนุรักษส่ิงแวดลอมอุดรธานี จํานวนกวา 30 คน ย่ืนหนังสือประธานสภาเทศบาลตําบลหนองไผ เพื่อเรียกรองใหถอดญัตติการประชุมในประเด็นโครงการเหมืองโปแตช จังหวัดอุดรธานี ออกจากวาระการประชุมสามัญของสภาเทศบาลตําบลหนองไผ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 มกราคม พรอมแสดงเหตุผลวากรมอุตสาหกรรม กพร. และ

พรอมใหเหตุผลวา กพร. และบริษัทเอพีพีซี ดําเนินการขัดกับคูมือวิธีปฏิบัติงานขององคกรปกครองสวนทองถ่ิน เร่ือง การใหความเห็นในการพิจารณาอนญุาตประทานบัตรเหมืองแร พ.ศ.2545

วันที่ 26 ม.ค. : กลุมอนุรักษส่ิงแวดลอมอุดรธาน ีประมาณ

200 คน ชุมนุมที่หนาสํานักงานเทศบาลตําบลหนองไผ ระหวางการประชุมสภาเทศบาลฯ ทั้งนี้ เนื่องจากสภาเทศบาลตําบลหนองไผ ไดนําประเด็นประทานบัตรโครงการเหมืองแรโปแตช จ.อุดรธานี บรรจุเขาวาระการประชุม โดยมีผูแทนบริษัท เอเซีย แปซิฟค โปแตช คอรปอเรช่ัน จํากัด (เอพีพีซี) และเจาหนาที่ กพร. เขารวมช้ีแจง แตไมมีการลงมติอยางใด

วันที่ 27 ม.ค. : กลุมอนุรักษส่ิงแวดลอมอุดรธานี ประมาณ 60 คน เขาย่ืนหนังสือใหกับนายแกนเพชร ชวงรังษี ผูวาราชการจังหวัด ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี เพื่อเรียกรองผูวาฯ ไมใหนําเร่ืองโครงการเหมืองแรโปแตช เขาสูการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ในวันที่ 21-22 ก.พ. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เพราะอยูระหวางขั้นตอนการใชสิทธิโตแยง คัดคานประทานบัตรของชาวบานตามกฎหมายแร

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

Page 6: คนฮักถิ่น_76

จดหมายขาว คนฮักถ่ิน ปที่ 8 ฉบับที่ 76 ประจําเดือน มกราคม พ.ศ. 2555

ศูนยสื่อชุมชนเพ่ือสังคมที่เปนธรรม(ศสธ.) หนา 6

ศูนยสื่อชุมชนเพื่อสังคมท่ีเปนธรรม (ศสธ.) บรรณาธกิารอํานวยการ : สมชาย บางแกว บรรณาธกิาร : ปราณ ปองถิ่น

กองบรรณาธิการ : จัน ทองตาล ,แสงธรรม คําสงค ,อารมณ โนนสวาง ,รงค ภัทรา ,ภูผา ตั้งตระหงาน ท่ีอยู : ตู ปณ.14 อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 E-mail : [email protected] โทร.081-3696266

****************************************

กรุณาสง..........

เพชร องคกลาง ชางผมชั้นครูผูพิทักษแลนดไรท

ภูผา ตั้งตระหงาน

ค.คนฮักถิน่

เพชร อ ง ค ก ล า ง เฒ า วัย 81 ช าง ตัดผมใตสะพานลอยเย้ืองคายทหารโนนสูง อ. เ มือง จ.อุดรธานี ในปเดียวกันกับที่ ผูใหญลีตีกลองประชุม(พ.ศ.2504) พอใหญเพชรไดเขาบุกเบิกที่ดินบริเวณดงปาเล็บแมวและปาหวายนั่งริมถนนสายอุดร-ขอนแกน ปลูกเพิงหมาแหงนใชวิทยายุทธตัด

แตงทรงผมที่ไดรับการถายทอดมาจากบูรพาจารยประกอบอาชีพอยางสุจริตเร่ือยมา ทวาในป 38 ผูนําชุมชนไดเขามาขับไลเขาและเพื่อนบานใหออกจากพื้นที่โดยอางวาที่ดินที่เขา ใชเปนฐานที่ม่ันเล้ียงปากทองและอาศัยพักพิงนั้นเปนที่สาธารณประโยชน ในเวลาไรเร่ียกันทาง

อําเภอยังสําทับการใชอํานาจเหนือที่ดินของเขาดวยการติดประกาศขับไลประชาชน 13 ครัวเรือนที่อาศัยบริเวณดังกลาวตองยาย ออกจากพ้ืนที่ภายใน 90 วัน !!!

ดวยแรงบีบ ค้ันรอบดานผสมโรงกับการใชอํานาจรัฐที่ อยุติธรรม ราวป 39 เฒาเพชรตัดสินใจลุกขึ้นสูเพื่อปกปองสิทธิในที่ดินของเขาซ่ึงไดมันมาดวยความยากลําเค็ญรวมกับพี่นองสมัชชาคนจน จนกระทั่งป 2545 กรมที่ดินไดออกหนังสือแจงมายังจังหวัดอุดรฯ ใหดําเนินการรังวัดกันพื้นที่ 1-3-38 ไร ของพอใหญเพชรและเพื่อนบาน รวม 13 คูหา ออกจากการเปนที่ดินสาธารณะประโยชนตามหนังสือสําคัญที่หลวง ซ่ึงออกไวเม่ือป 41 เพราะเปนที่รกรางวางเปลา อีกทั้งใหจังหวัดพิจารณาจัดผลประโยชนใหกับราษฎร 13 ราย เปนสองแนวทาง คือ ใหเชาตามมาตรา 10หรือ11 หรือจะจัดใหแกประชาชนเชาซ้ือตามมาตรา 33 แหงประมวลกฎหมายที่ดิน

“หนวยงานทองถ่ินเขายืนยันจะจัดผลประโยชนใหเราโดยการใหเชาตามมาตรา 10 หรือ11 แตผมยืนยันจะสูใหเขาจัดผลประโยชนตาม มาตรา 33 เพราะมันเชาซ้ือผอนแลวมันก็ยังเปนของเรา เรายังอยูตอไปไดช่ัวลูกช่ัวหลาน ”

ทุกวันนี้ปญหาการลิดรอนสิทธิในที่ดินผืนนี้ยังไมมีทีทาจะยุติลงงายๆ แตพอใหญเพชรก็ยังคงเดินหนาสูตอเพื่อสรางความเปนธรรมใหบังเกิดอยางไมลดละ แมสังขารนั้นจะรวงโรยเต็มท.ี......@