ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

42
ขอความในเอกสารนี้ไมเกี่ยวของกับการสะทอนมุมมองของหนวยงานผูสนับสนุน

Upload: than-dendoung

Post on 01-Apr-2016

213 views

Category:

Documents


1 download

DESCRIPTION

โดย รศ. นาถฤดี เด่นดวง และ รศ.ดร สุพจน์ เด่นดวง

TRANSCRIPT

ขอความในเอกสารนี้ไมเกี่ยวของกับการสะทอนมุมมองของหนวยงานผูสนับสนุนISBN 9786163310149

ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ISBN 978-616-331-014-9

ผู้เขียน รศ.นาถฤดี เด่นดวง และ รศ.ดร.สุพจน์ เด่นดวง

พิมพ์ครั้งที่1 มิถุนายน 2557

จำานวนพิมพ์ 500 เล่ม

ผู้พิมพ์ สำานักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคม

และความมั่นคงของมนุษย์

พิมพ์ที่ บริษัท ลุคซ์ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำากัด

สนับสนุน สนับสนุนการวิจัย โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

สนับสนุนการจัดพิมพ์ โดย สำานักส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

สำานักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว

1. นิยามความรุนแรง 62. แรงงานหญิง 73. มิติและขนาดความรุนแรงต่อแรงงานหญิงในสังคมไทย 9 4. ความซ้ำาซ้อนของมิติความรุนแรง 10 5. บ้านหรือครอบครัวเป็นพื้นที่ซึ่งมีความรุนแรงเกิดขึ้นมากและหลากหลายรูปแบบที่สุด 116. ผู้กระทำาความรุนแรงในมิติครอบครัว 13 6.1 การทำาร้ายร่างกาย 13 6.2 การข่มขืนระหว่างสามีภรรยาหรือระหว่างคู่ครอง 14 6.3 ความรุนแรงอื่นๆในการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา 14 6.4 การกระทำาทารุณทางจิตใจ 15 6.5 การคลุมถุงชน 16 6.6 การละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ 177. ความรุนแรงในมิติการทำางาน 188. ผู้กระทำาความรุนแรงต่อแรงงานหญิงในมิติการทำางาน 20 8.1 การละเมิดสิทธิแรงงาน 20 8.2 การทำาร้ายร่างกายและการดุด่าว่ากล่าวด้วยถ้อยคำารุนแรง หยาบคาย 21 8.3 การบังคับให้ทำางานไม่ปลอดภัย 21 8.4 การล่วงละเมิดทางเพศในมิติการทำางาน 22 8.5 การละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ 229. การถูกกระทำารุนแรงในมิติชุมชน 24 10. การถูกกระทำารุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐ 2511. ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง 26 11.1 รายได้น้อยและได้ค่าจ้างต่ำากว่าค่าจ้างขั้นต่ำา 26 11.2 ชั่วโมงการทำางานปกติในแต่ละวันยาวนาน และยังต้องทำาโอทีเพิ่ม 27 11.3 รับภาระทั้งการทำางานหาเงินและการทำางานบ้าน 29 11.4 การเป็นผู้รับผิดชอบหลักค่าใช้จ่ายในครอบครัว 30 11.5 การทำางานจนแทบจะไม่มีวันหยุดงานในแต่ละสัปดาห์ 31 11.6 ไม่ได้เป็นสมาชิกประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน 32 11.7 งานที่แรงงานหญิงทำาเป็นอันตรายต่อสุขภาพและยังได้รับอุบัติเหตุจากการทำางาน 3312. มายาคติเกี่ยวกับ “ความรุนแรง” ของแรงงานหญิง 3413. อภิปรายและข้อเสนอแนะ 3514. ข้อมูลเพิ่มเติม 3815. บรรณานุกรม 40

สารบัญ

หน้าหัวข้อเรื่อง

สารบัญภาพ

ภาพที่ 1 ร้อยละของงานหรืออาชีพของแรงงานหญิง 8ภาพที่ 2 ร้อยละของความรุนแรงต่อแรงงานหญิงในรอบ 12 เดือน จำาแนกตามมิติชีวิต 9ภาพที่ 3 ร้อยละของจำานวนมิติความรุนแรงที่เกิดกับแรงงานหญิง 10ภาพที่ 4 ร้อยละของจำานวนรูปแบบที่แรงงานหญิงถูกกระทำารุนแรงในมิติครอบครัว 11ภาพที่ 5 ร้อยละของการถูกกระทำารุนแรงในแต่ละรูปแบบความรุนแรงในมิติครอบครัว 12ภาพที่ 6 ร้อยละของการถูกกระทำารุนแรงในแต่ละรูปแบบความรุนแรงในมิติการทำางาน 19ภาพที่ 7 ร้อยละของค่าจ้างต่อเดือนของแรงงานหญิง 27ภาพที่ 8 ร้อยละของจำานวนชั่วโมงการทำางานในเวลาปกติของแรงงานหญิง 28ภาพที่ 9 ร้อยละของจำานวนชั่วโมงการทำางานนอกเวลาปกติต่อวัน (โอที) ของแรงงานหญิง 28ภาพที่ 10 ร้อยละของเหตุผลในการทำางานล่วงเวลาของแรงงานหญิง 28ภาพที่ 11 ร้อยละของการเป็นผู้รับผิดชอบหลักการทำางานบ้านของแรงงานหญิง 29ภาพที่ 12 ร้อยละของจำานวนชั่วโมงการทำางานบ้านในแต่ละวันของแรงงานหญิง 29ภาพที่ 13 ร้อยละของผู้รับผิดชอบหลักค่าใช้จ่ายในครอบครัวของแรงงานหญิง 30ภาพที่ 14 ร้อยละของการหยุดการทำางานในแต่ละสัปดาห์ของแรงงานหญิง 31ภาพที่ 15 ร้อยละของการเป็นสมาชิกประกันสังคมของแรงงานหญิง 32ภาพที่ 16 ร้อยละของการเป็นสมาชิกกองทุนเงินทดแทนของแรงงานหญิง 32ภาพที่ 17 ร้อยละของแรงงานหญิงที่ระบุว่างานที่ทำามีอันตรายต่อสุขภาพ 33ภาพที่ 18 ร้อยละของแรงงานหญิงที่ระบุว่าได้รับอุบัติเหตุจากการทำางาน 33

สารบัญตาราง

ตารางที่ 1 ผู้กระทำาความรุนแรงทางร่างกายในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง 13ตารางที่ 2 ผู้กระทำาความรุนแรงทางเพศสัมพันธ์ในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง 15ตารางที่ 3 ผู้กระทำาความรุนแรงทางจิตใจในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง 16ตารางที่ 4 ผู้บังคับการเลือกคู่ครองในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง 16ตารางที่ 5 ผู้ละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง 17ตารางที่ 6 ผู้ละเมิดสิทธิแรงงานในมิติการทำางานของแรงงานหญิง 20ตารางที่ 7 ผู้กระทำาความรุนแรงทางร่างกายและวาจาในมิติการทำางานของแรงงานหญิง 21 ตารางที่ 8 ผู้บังคับให้ทำางานไม่ปลอดภัยในมิติการทำางานของแรงงานหญิง 21ตารางที่ 9 ผู้ล่วงละเมิดทางเพศในมิติการทำางานของแรงงานหญิง 22ตารางที่ 10 ผู้ละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ในมิติการทำางานของแรงงานหญิง 23ตารางที่ 11 ผู้กระทำาความรุนแรงในมิติชุมชนของแรงงานหญิง 24ตารางที่ 12 ผู้กระทำาความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน/องค์กรรัฐของแรงงานหญิง 25ตารางที 13 มายาคติเกี่ยวกับความรุนแรงของแรงงานหญิง 34

4 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

5ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

แรงงานหญิงได้รับความรุนแรงหลากหลายรูปแบบทั้งทางร่างกาย เพศสัมพันธ์ อารมณ์จิตใจ และสังคม

ความรุนแรงนี้มีทั้งความรุนแรงที่เกิดจากการกระทำาของบุคคลโดยตรง ความรุนแรงเชิงโครงสร้างจากสถาบันต่างๆ

ที่หล่อเลี้ยงความรุนแรง รวมถึงความคิดหรือคตินิยมในสังคม

ความรุนแรงทางตรงที่เกิดกับแรงงานหญิงเกิดมากที่สุดในมิติครอบครัวหรือบ้าน โดยผู้กระทำาหลักได้แก่

สามีหรือคู่ครอง พ่อ แม่ พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ญาติพี่น้องและแม้แต่ลูกของแรงงานหญิงเอง ความรุนแรง ในการทำางาน

เกิดขึ้นเป็นอันดับรองลงมา ผู้กระทำารุนแรงหลักคือ นายจ้าง หัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงาน ส่วนความรุนแรงที่เกิด

ขึ้นในชุมชน และความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานหรือองค์กรรัฐนั้นมีน้อยมาก

ความรุนแรงเชิงโครงสร้างทางสังคม ทำาให้แรงงานหญิงต้องเป็นผู้พึ่งพาผู้อื่น และถูกกระทำารุนแรงใน

ที่สุด เพราะการจ้างงานในตลาดแรงงานซึ่งกดค่าแรงของแรงงานหญิง ทำาให้ต้องทำางานให้หนักขึ้น มากขึ้น การ

ทำาโอทีหรืองานล่วงเวลาจึงกลายเป็นความจำาเป็นสำาหรับแรงงานหญิง เพื่อให้ได้ค่าจ้างที่เพียงพอกับการใช้จ่ายและ

การต้องแบกรับภาระของแรงงานหญิง

การที่ผู้หญิงได้รับเงินค่าจ้างค่อนข้างน้อย ไม่ได้รับสิทธิแรงงานและสวัสดิการทางสังคม ลักษณะการ

ทำางานที่ไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การแบ่งงานทำาในบ้านระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ทำาให้งานบ้านทุก

อย่างเป็นภาระของผู้หญิง จำานวนชั่วโมงการทำางานในแต่ละวันจึงเพิ่มมากขึ้น ปัญหาเหล่านี้ทำาให้ผู้หญิงไร้อำานาจ

ในการต่อรอง เหนื่อยล้า ขาดความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพและพลังอำานาจในตนเอง

ข้อเสนอแนะ คือ การมีนโยบายทางสังคมที่ก่อให้เกิดแรงจูงใจในการแบ่งงานในครอบครัวอย่างเป็นธรรม

เพื่อลดภาระและหน้าที่ของผู้หญิงลง พร้อมกับการพัฒนาศักยภาพของผู้หญิง นโยบายการจ้างงานที่มั่นคง ไม่เอา

เปรียบ มีการคุ้มครองทางสิทธิและสังคม การลดเวลาการทำางาน ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถต้านทาน

หลีกหนีต่อความรุนแรง เปิดโอกาสให้พักผ่อนและพัฒนาตัวเอง เพื่อที่จะสามารถพึ่งพาตัวเองและสามารถสร้าง

ความสุข ความอบอุ่นในครอบครัวได้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง

6 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

1 นิยามความรุนแรง

สังคมไทยให้ความหมาย “ความรุนแรง” แตกต่างกันมาก บางคนบอกว่าสามีทะเลาะตบตี

ภรรยาเป็นเหตุการณ์ปกติในครอบครัว แต่นักเรียนทะเลาะตบตีในโรงเรียนเป็นความรุนแรง บางคน

บอกว่า การใช้วาจาหยาบคายด่าทอผู้อื่นในที่สาธารณะเป็นความรุนแรง แต่ถ้าด่าทอลูกจ้างหรือคน

งานเป็นการสั่งสอน

ในทางวิชาการ ได้มีบุคคล หน่วยงาน องค์กร กำาหนดนิยามความรุนแรง ไว้หลากหลาย อาทิ

องค์การอนามัยโลก Johan Galtung (นักสันติภาพชาวนอร์เวย์) และ UNHCR ซึ่งต่างก็มีความ

แตกต่างกันเนื่องมาจากฐานแนวคิดแตกต่างกัน1

ดังนั้น จึงต้องทำาความเข้าใจกับนิยามของความรุนแรงให้ชัดว่า กำาลังพูดถึงความรุนแรงใน

ความหมายใด บนฐานความคิดใด ผู้เขียนให้นิยามความรุนแรงในเชิงกว้าง ซึ่งครอบคลุมการกระทำา

ต่างๆที่รุนแรง ทรมาน รวมถึงการขัดขวางหรือละเมิดสิทธิต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจากนิยามเชิงกว้าง ทำาให้

เห็นภาพความรุนแรงที่แตกต่าง หลากหลายรูปแบบ ลึกซึ้ง มีประโยชน์ต่อการกำาหนดนโยบาย จัดทำา

แผนงานโครงการต่างๆ และสร้างความรู้ใหม่ๆทางวิชาการ เพื่อนำาไปสู่การแก้ไขและลดปัญหาความ

รุนแรงในสังคม ส่วนนิยามตามกฎหมายนั้นแคบมากที่สุด เนื่องด้วยเน้นการพิจารณา วินิจฉัย เพื่อ

ฟ้องร้อง ลงโทษผู้กระทำาผิด มากกว่าลดความรุนแรงทั่วไปในสังคม

สำาหรับในเอกสารนี้ ผู้เขียนให้ความหมายความรุนแรงว่า “เป็นการกระทำาใดๆ ที่บุคคล

กระทำาต่อบุคคลอื่น ทั้งที่เป็นการใช้กำาลังหรือการบังคับ คุกคาม ละเมิดสิทธิทั้งทางร่างกาย จิตใจ

และภาวะการเจริญพันธุ์ เพศสัมพันธ์ การกระทำานั้นกระทำาบนพื้นฐานของการกีดกันแบ่งแยกความ

เป็นเพศ ความอคติ และการเอาเปรียบจากความเป็นแรงงาน ทำาให้เกิดความทุกข์ทรมานต่อแรงงาน

ที่ถูกกระทำา และส่งเสริมการแบ่งลำาดับชั้นทางสังคม ความไม่เป็นธรรมระหว่างหญิงชาย ทำาให้สิทธิ

ความมนุษย์ ความเป็นผู้หญิง ความเป็นผู้ชาย ความเป็นผู้ด้อยสถานะในสังคม และความเป็นแรงงาน

ถูกละเมิด”

7ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ข้อมูลของแรงงานหญิงไทย ในเอกสารฉบับนี้ ได้มาจาก รายงานการวิจัยเรื่อง อำานาจระหว่าง

หญิงชาย ชนชั้น กับความรุนแรงในแรงงานไทย ซึ่งผู้เขียนได้รับทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยมหิดล

พ.ศ. 2556 ให้ดำาเนินการวิจัยดังกล่าว

การวิจัยนี้เป็นการสำารวจเชิงปริมาณแบบตัดขวาง (Cross-sectional Quantitative Sur-

vey) โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นแรงงานหญิง ไม่จำากัด อายุ อาชีพ ซึ่งทำางาน และได้รับค่าจ้าง หรือ

ค่าตอบแทนอื่นที่ไม่ใช่ค่าจ้าง และอาจมีอาชีพค้าขาย อาจเป็นแรงงานว่างงาน แต่ต้องเคยทำางาน

และได้รับค่าจ้างหรือค่าตอบแทนในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาจำานวน 1,823 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบ

ความน่าจะเป็นตามลำาดับชั้นหกภาค แยกตามจังหวัด 10 จังหวัด ได้แก่ เขตกรุงเทพและปริมณฑล

(นนทบุรี และนครปฐม) เขตจังหวัดในภาคเหนือ (เชียงใหม่ และเชียงราย) เขตภาคกลาง (สุพรรณบุรี)

เขตภาคตะวันออก (ระยอง) เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อุบลราชธานี และขอนแก่น) และเขต

ภาคใต้ (สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช)

จากข้อมูล พบว่า แรงงานหญิงประมาณครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 54.2) ของแรงงานทั้งหมด เป็น

แรงงานอายุน้อย (18-37 ปี) อายุระหว่าง 38-60 ปี ร้อยละ 43.9 แรงงานที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มี

ร้อยละ 1.5 และมีส่วนแรงงานเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปีมีเพียงร้อยละ 0.4

แรงงานร้อยละ 38 ทำางานในสถานประกอบการขนาดเล็กที่มีแรงงานทำางานน้อยกว่า 10

คน และแรงงานถึงครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 54.4) ทำางานที่ใช้แรงงานจากคนล้วนๆ และร้อยละ 41.5 ใช้

แรงงานจากคนผสมเครื่องจักร อาชีพที่ทำา ได้แก่ งานในโรงงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง ไร่นา

ลูกจ้างร้านค้าหรือบ้าน ลูกจ้างสถานบริการบันเทิง ค้าขาย เป็นต้น (ภาพที่ 1)

2 แรงงานหญิง

8 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ภาพที่ 1 ร้อยละของงานหรืออาชีพของแรงงานหญิง

2 แรงงานหญิง

อุบลราชธานี

ขอนแก่น

เชียงราย

เชียงใหม่

สุพรรณบุรีนครปฐม

นนทบุรี

ระยอง

นครศรีธรรมราช

สุราษฏร์ธานี

0

4

8

12

16

20 20.0% 18.8%

/ 8.2% 5.0%

0.8% 1.2%

5.8%( ) 1.5%

0.3%/ 4.7%

0.2 19.4%

8.0% 5.5%

/TAXI 0.1% 0.2%

0.1% 0.2%

9ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

3 มิติและขนาดความรุนแรงตอ

แรงงานหญิงในสังคมไทย

ภาพที่ 2 ร้อยละของความรุนแรงต่อแรงงานหญิงในรอบ12 เดือน จำาแนกตามมิติชีวิต

ไม่ถูกกระทำารุนแรงถูกกระทำารุนแรง

ความรุนแรงต่อบุคคลอาจเกิดขึ้นได้รอบๆตัวของบุคคล ไม่ว่าเขาหรือเธอจะอยู่ในครอบครัว

หรือบ้าน การทำางาน ในชุมชนสังคมทั่วไป และแม้แต่เมื่อรับบริการจากองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ

ในภาครัฐ เราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า มิติ หรือ พื้นที่ในเชิงสังคม ซึ่งในแต่ละมิตินั้น รูปแบบความรุนแรง

ที่เกิดขึ้นอาจมีความเหมือนและความแตกต่างกัน และในแต่ละมิติมีผู้กระทำาความรุนแรงแตกต่าง

กัน นอกจากนี้ความสัมพันธ์ และอำานาจระหว่างแรงงานหญิงและผู้กระทำาความรุนแรงในแต่ละมิติ

ยังแตกต่างกันอีกด้วย

ถ้าไม่จำาแนกว่า เป็นความรุนแรงในมิติใด ในภาพรวมแรงงานหญิงถูกกระทำารุนแรงอย่าง

น้อยหนึ่งรูปแบบ (อาจถูกทำาร้ายทุบตี หรือ ด่าว่าอย่างรุนแรง หรือ ละเมิดทางเพศ อย่างใดอย่าง

หนึ่ง) ในรอบ 12 เดือน ร้อยละ 27.3

และเมื่อจำาแนกความรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละมิติชีวิตของแรงงานหญิง เห็นได้ชัดเจนว่า ใน

บ้านหรือครอบครัว เป็นพื้นที่ซึ่งแรงงานหญิงถูกกระทำารุนแรงมากที่สุด(ร้อยละ 18.3 ) รองลงมาคือ

ความรุนแรงในที่ทำางาน(ร้อยละ 16.5) และในชุมชน และจากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานหรือองค์กรรัฐ

ซึ่งมีความรุนแรงเกิดขึ้นน้อยมาก (ภาพที่ 2)

1.4%2.6%18.3% 16.5%เจาหนาที่ในหนวยงาน/องคกรรัฐ

รอยละความรุนแรงในรอบ12 เดือนที่แรงงานหญิงไดรับจำแนกตามมิติชีวิต

มิติชุมชนมิติการทำงานมิติครอบครัว

10 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

แม้ว่าความรุนแรงส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้านหรือครอบครัวและมิติการทำางาน แต่มิได้หมายความ

ว่า แรงงานหญิงแต่ละคนจะถูกกระทำารุนแรงเพียงในบ้านหรือที่ทำางานเพียงมิติเดียว แต่อาจถูก

กระทำาซ้ำาซ้อนหลายมิติพร้อมๆกันหรือมีขอบเขตของการถูกกระทำารุนแรงกว้างขวาง ครอบคลุมทั้งที่

บ้าน ที่ทำางาน ชุมชน และจากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน/องค์กรรัฐ ซึ่งแรงงานหญิงที่ได้รับความรุนแรง

มีขอบเขตสูง หรือ ตั้งแต่สามมิติชีวิตขึ้นไปพบ ร้อยละ 1.7 สองมิติ คือ ร้อยละ 7.8 ของจำานวนผู้

หญิงทั้งหมด (ภาพที่ 3)

ภาพที่ 3 ร้อยละของจำานวนมิติความรุนแรงที่เกิดกับแรงงานหญิง

4 ความซ้ำซอนของ

มิติความรุนแรง

72.7

17.8

7.8

1.4

0.3

ไมเคยไดรับความรุนแรง

100.0 (1,823)

ไดรับความรุนแรงอยางนอย 1 มิติ

ไดรับความรุนแรงอยางนอย 2 มิติ

ไดรับความรุนแรงอยางนอย 3 มิติ

ไดรับความรุนแรงทั้ง 4 มิติ

11ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

5บานหรือครอบครัวเปน

พื้นที่ซึ่งมีความรุนแรงเกิด

ขึ้นมากและหลากหลายรูป

แบบที่สุด

ครอบครัวหรือบ้าน เป็นพื้นที่ซึ่งสมาชิกทุกคนควรมีความสุข ความอบอุ่น แต่จากข้อมูลพบ

ว่า ครอบครัวเป็นพื้นที่ซึ่งเกิดความรุนแรงมากที่สุด ความรุนแรงอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายครั้งและ

เกิดเป็นเวลานาน นอกจากนี้แรงงานแต่ละคนอาจถูกกระทำารุนแรงหลายรูปแบบ ตั้งแต่ระดับความ

รุนแรงน้อย คือการสร้างความเจ็บช้ำาน้ำาใจทางวาจา จนถึงการสูญเสียชีวิต พิการ และสร้างความ

ทุกข์ทรมานใจอย่างมาก ความรุนแรงเหล่านี้ครอบคลุมทั้งทางร่างกาย จิตใจ การละเมิดสิทธิต่างๆ

รวมถึงเพศสัมพันธ์ในแรงงานหญิง

แรงงานหญิงที่ถูกกระทำารุนแรงมากรูปแบบที่สุดคือ 13 รูปแบบต่อคน และแรงงานหญิง

ร้อยละ 14.9 ถูกกระทำารุนแรง 1-3 รูปแบบ และร้อยละ 3.4 ถูกกระทำารุนแรงตั้งแต่ 4-13 รูปแบบ

(ภาพที่ 4)

ในครอบครัว มีความรุนแรงรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นในครอบครัวถึง 34 รูปแบบ บางรูปแบบมี

แรงงานหญิงถูกกระทำามาก และบางรูปแบบมีแรงงานหญิงถูกกระทำาน้อยมาก (ระหว่างร้อยละ 14.8-

0.1) (ภาพที่ 5 )

ภาพที่ 4 ร้อยละของจำานวนรูปแบบที่แรงงานหญิงถูกกระทำารุนแรงในมิติครอบครัว

0

18

36

54

72

90

81.7% 1 8.9% 2 - 3 6.0% 4 - 8 3.0% 9 - 13 0.4%

แรงงานหญิง

12 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

5บานหรือครอบครัวเปน

พื้นที่ซึ่งมีความรุนแรงเกิด

ขึ้นมากและหลากหลายรูป

แบบที่สุด

ภาพที่ 5 ร้อยละของการถูกกระทำารุนแรงในแต่ละรูปแบบความรุนแรงในมิติครอบครัว

85.2 14.8 100.0 (1,823)

94.2 5.8 100.0 (1,823)

97.5 2.5 100.0 (1,823)

98.1 1.9 100.0 (1,823)

98.2 1.8 100.0 (1,823)

98.6 1.4 100.0 (1,823)

/ / 98.7 1.3 100.0 (1,823)

98.8 1.2 100.0 (1,823)

99.1 0.9 100.0 (1,823)

99.1 0.9 100.0 (1,823)

99.1 0.9 100.0 (1,823)

99.1 0.9 100.0 (1,823)

99.2 0.8 100.0 (1,823)

99.2 0.8 100.0 (1,823)

99.2 0.8 100.0 (1,823)

99.3 0.7 100.0 (1,823)

99.3 0.7 100.0 (1,823)

99.5 0.5 100.0 (1,823)

99.5 0.5 100.0 (1,823)

99.5 0.5 100.0 (1,823)

99.5 0.5 100.0 (1,823)

99.6 0.4 100.0 (1,823)

99.6 0.4 100.0 (1,823)

/ 99.6 0.4 100.0 (1,823)

/ / 99.7 0.3 100.0 (1,823)

/ 99.7 0.3 100.0 (1,823)

99.7 0.3 100.0 (1,823)

99.7 0.3 100.0 (1,823)

99.7 0.3 100.0 (1,823)

/ 99.9 0.1 100.0 (1,823)

99.9 0.1 100.0 (1,823)

99.9 0.1 100.0 (1,823)

99.9 0.1 100.0 (1,823)

99.9 0.1 100.0 (1,823)

/ /

/

/ /

/

/

0.1%

0.1%

0.1%

0.1%

0.1%

0.3%

0.3%

0.3%

0.3%

0.3%

0.4%

0.4%

0.4%

0.5%

0.5%

0.5%

0.5%

0.7%

0.7%

0.8%

0.8%

0.8%

0.9%

0.9%

0.9%

0.9%

1.2%

1.3%

1.4%

1.8%

1.9%

2.5%

5.8%

14.8%

99.9%

99.9%

99.9%

99.9%

99.9%

99.7%

99.7%

99.7%

99.7%

99.7%

99.6%

99.6%

99.6%

99.5%

99.5%

99.5%

99.5%

99.3%

99.3%

99.2%

99.2%

99.2%

99.1%

99.1%

99.1%

99.1%

98.8%

98.7%

98.6%

98.2%

98.1%

97.5%

94.2%

85.2%

13ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

6 ผูกระทำความรุนแรง

ในมิติครอบครัว

“ผู้กระทำาความรุนแรง” ในครอบครัว อาจเป็นหญิงหรือชาย ได้แก่ สามีหรือคู่ครอง พ่อแม่

พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ลูก ญาติพี่น้อง บุคคลเหล่านี้มีความคุ้นเคยและมีความสัมพันธ์ยาวนาน (อาจตั้งแต่

เกิด) ความสัมพันธ์เหล่านี้มีความพิเศษ คือ มีทั้งความรัก ความกตัญญู ผูกพันห่วงใย ความรับผิด

ชอบ เกรงใจ แต่ก็อาจมีข้อขัดแย้ง บาดหมาง อิจฉา ริษยา น้อยใจ เกลียด เคียดแค้น ในระดับต่างๆ

นอกจากนี้บนความสัมพันธ์ต่างๆ ระหว่างบุคคล ในครอบครัวหรือบ้าน ก็ยังมีความสัมพันธ์

เชิงอำานาจแบบลำาดับขั้นอีกด้วย คือ มีผู้มีบทบาทและอำานาจสูงสุดในครอบครัว และมีบุคคลอื่นๆอยู่

ใต้อำานาจระดับรองๆลงมา

ในที่นี้จะนำาเสนอรูปแบบความรุนแรงบางรูปแบบซึ่งมีสัดส่วนแรงงานที่ถูกกระทำามาก และ

บางรูปแบบแม้จะมีแรงงานหญิงที่ถูกกระทำามีจำานวนน้อย แต่สะท้อนความทารุณโหดร้าย ต่อแรงงาน

หญิง

6.1 การทำาร้ายร่างกาย

การทำาร้ายร่างกายนั้น อาจเกิดขึ้นในหลายลักษณะ เช่น การทุบตี เตะ ต่อย การขู่ฆ่าหรือใช้

อาวุธข่มขู่ การใช้น้ำาร้อนหรือไฟเผาหรือลวก การกักขังหน่วงเหนี่ยว แม้ว่าบางรูปแบบจะมีแรงงาน

หญิงถูกกระทำาน้อยมาก แต่ก็นับเป็นรูปแบบที่มีความรุนแรงสูงที่เกิดขึ้นในครอบครัว และผู้กระทำา

หลักคือ สามีหรือคู่ครองของแรงงานหญิง นอกจากนี้ก็ยังพบความรุนแรงจากพ่อ แม่ และลูกของแรง

งานหญิงอีกด้วย (ตารางที่ 1)

ตารางที่ 1 ผู้กระทำาความรุนแรงทางร่างกายในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง

0.9 4.7 8.5 4.7 0.9 79.2 0.9 100.0(106)

0 7.7 0 7.7 3.8 80.7 0 100.0 (26)

0 50.0 0 0 0 50.0 0 100.0 (2)

16.7 33.3 0 33.3 0 16.7 0 100.0 (6)

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติครอบครัว

ความรุนแรงทางรางกาย แม ญาติ

พี่นอง

สามีหรือ

คูครองลูก รวม

(คน)

พอ พอ

เลี้ยง

แมเลี้ยง

ถูกทุบตี เตะ ตอย ทำรายรางกาย

ถูกขูฆา หรือ ใชอาวุธ ขมขู

ใชน้ำรอน ไฟลวก/ เผา ไฟฟาช็อต

กักขัง/หนวงเหนี่ยว เชน

ลามโซ/ผูกเชือก ขังไวในหองปด

14 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

6 ผูกระทำความรุนแรง

ในมิติครอบครัว

6.2 การข่มขืนระหว่างสามีภรรยาหรือระหว่างคู่ครอง

ในความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา อาจเกิดปัญหาความรุนแรงมากกว่าการทำาร้ายร่างกาย

ทั่วไป ได้แก่ การข่มขืน บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งแม้ว่าแรงงานหญิงจะได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

แต่แรงงานหญิงก็อาจต้องอดทน และยอมรับสภาพความรุนแรงที่โหดร้ายที่เนื่องด้วยเป็นการกระทำา

ของบุคคลที่รัก แรงงานหญิงอาจอาย ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากสังคม นอกจากนี้ ลูกอาจ

รับรู้และเห็นการกระทำาดังกล่าว (ตารางที่ 2)

6.3 ความรุนแรงอื่นๆในการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา

สังคมเชื่อว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา เป็นการตอบสนองตามหน้าที่ของภรรยา

และมีความสุข แต่ก็พบว่า แรงงานหญิงจำานวนหนึ่งต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณ แม้ว่า

ปัญหาที่เกิดขึ้นจะเกิดกับผู้หญิงเพียงบางส่วน แต่ก็เป็นปัญหาร้ายแรงที่แรงงานหญิงเหล่านี้ไม่มี

อำานาจในการต่อรอง แก้ไขปัญหาหรือหาทางออก แต่ต้องยอมรับ และอาจต้องทนไปตลอดชีวิต

ปัญหาเหล่านี้ยังอาจนำาไปสู่ปัญหาความรุนแรงในรูปแบบอื่นๆต่อไป เนื่องจากความรุนแรงมักขยาย

ตัวและเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

การทารุณกรรมต่างๆ อาจเกิด ก่อน ระหว่าง หลังการมีเพศสัมพันธ์ อาทิ ทุบตี ทำาร้าย

ร่างกาย บังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่นหรือต่อหน้าผู้อื่น บังคับให้ดูสื่อลามก/ภาพ/วีดิโอ บังคับ

ให้มีเพศสัมพันธ์กับสัตว์หรือใช้สิ่งของต่างๆ บังคับใช้ท่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ต้องการ บังคับให้

กิน/เสพยาเสพติด บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทวารหนัก บังคับถ่ายรูป ภาพยนตร์ เป็นต้น

(ตารางที่ 2)

15ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (33)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (9)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (5)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (23)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (17)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (8)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (7)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (22)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (7)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (6)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (16)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (12)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (2)

ความรุนแรงทางเพศสัมพันธ

ทุบตี ทำรายรางกาย

ขมขืน หรือ ถูกบังคับ หรือ จำใจมีเพศสัมพันธ

บังคับใหมีเพศสัมพันธกับบุคคลอื่นหรือตอหนาผูอื่น

บังคับใหดูสื่อลามก/ภาพ/วีดิโอ

บังคับใหมีเพศสัมพันธกับสัตวหรือใชสิ่งของ

บังคับใชทาการมีเพศสัมพันธที่ไมตองการ

บังคับใชอุปกรณรวมเพศที่เจ็บปวด

เชนถุงยางแปลกประหลาด

ทรมานกอนหรือหลังหรือขณะมีเพศสัมพันธ

บังคับใหมีเพศสัมพันธทางปากหรือทวารหนัก

บังคับถายรูป ภาพยนตร ขณะมีเพศสัมพันธ

บังคับใชยาหรือสารเคมีอื่นใดที่ทำใหเจ็บปวด

หรือไมตองการ

บังคับใหกิน/เสพยาเสพติด

กอนหรือหลังหรือขณะเพศสัมพันธ

ใชวาจา รุนแรง

หยาบคายกอนหรือหลังหรือขณะมีเพศสัมพันธ

แม ญาติ

พี่นอง

สามีหรือ

คูครองลูก รวม

(คน)

พอ พอ

เลี้ยง

แมเลี้ยง

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติครอบครัว

ตารางที่ 2 ผู้กระทำาความรุนแรงทางเพศสัมพันธ์ในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง

6.4 การกระทำาทารุณทางจิตใจ

ความรุนแรงเหล่านี้ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากสังคมและเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย เนื่องด้วย

ไม่ได้กระทำากับร่างกายโดยตรง เช่น การด่าว่าอย่างรุนแรงเสียหาย การกลั่นแกล้งหรือใช้บุคคลที่รัก

ของแรงงานหญิงเป็นเหยื่อของการกระทำา การทอดทิ้งยามเจ็บป่วย ความรุนแรงเหล่านี้เป็นเรื่องที่

เจ็บช้ำาอย่างที่สุดเมื่อถูกกระทำาโดยบุคคลที่รัก ซึ่งก็พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของการทารุณทางจิตใจ

เกิดจากการกระทำาของสามีหรือคู่ครอง อีกครึ่งหนึ่งกระทำาโดยพ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่ลูกของ

แรงงานหญิง (ตารางที่ 3)

6 ผูกระทำความรุนแรง

ในมิติครอบครัว

16 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ตารางที่ 3 ผู้กระทำาความรุนแรงทางจิตใจในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง

13.9 16.2 9.9 1.5 1.1 56.2 1.1 100.0(272)

8.9 28.9 0 2.2 0 51.1 8.9 100.0 (45)

0 15.4 0 15.4 7.7 61.5 0 100.0 (13)

11.1 22.2 0 11.1 0 55.6 0 100.0 (9)

ความรุนแรงทางจิตใจ แม ญาติ

พี่นอง

สามีหรือ

คูครองลูก รวม

(คน)

พอ พอ

เลี้ยง

แมเลี้ยง

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติครอบครัว

ดาวารุนแรง เสียๆหายๆ

กีดกัน ทอดทิ้ง

ไมพาไปรับบริการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บปวย

ทุบตี ทำรายรางกาย ทำอนาจาร บุคคลที่ทานรัก

เพื่อใหยินยอมทำในสิ่งที่เขาตองการ

ทำลายสิ่งของ กลั่นแกลงสัตวเลี้ยงที่รัก

เพื่อใหกดดันใหทาน เสียใจ เจ็บปวด

6.5 การคลุมถุงชน

การคลุมถุงชนหรือการบังคับเลือกคู่ครองหรือแต่งงานยังพบได้ในสังคมไทย และผู้กระทำา

รุนแรงส่วนใหญ่ก็คือ พ่อแม่ของแรงงงานหญิงนั่นเอง แม้ว่าอาจมีการให้เหตุผลว่า เป็นการทำาด้วย

ความหวังดี หรือเป็นสิทธิของพ่อแม่ในการเลือกคู่ครองให้กับลูก แต่การบังคับเลือกคู่ครองเหล่านี้

อาจจะนำาไปสู่การบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ และการบังคับค้าประเวณี (ตารางที่ 4)

44.1 14.7 41.2 0 0 0 0 100.0 (34)

28.6 14.3 42.9 14.3 0 0 0 100.0 (14)

16.7 16.7 66.7 0 0 0 0 100.0 (6)

50.0 50.0 0 0 0 0 0 100.0 (2)

ความรุนแรงทางเพศสัมพันธ แม ญาติ

พี่นอง

สามีหรือ

คูครองลูก รวม

(คน)

พอ พอ

เลี้ยง

แมเลี้ยง

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติครอบครัว

หามคบหากับแฟนหรือคูรัก

จัดหาคูหมั้นหรือสามีใหทานโดยไมเต็มใจ

ถูกบังคับหรือสงไปทำงานในสถานที่เสี่ยงตอ

การคาประเวณี

บังคับใหมีเพศสัมพันธกับบุคคลที่ไมเต็มใจ

ตารางที่ 4 ผู้บังคับการเลือกคู่ครองในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง

6 ผูกระทำความรุนแรง

ในมิติครอบครัว

17ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

6.6 การละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์

ในครอบครัว สภาวะการเป็นแม่ สิทธิในการเจริญพันธุ์ของแรงงานหญิงควรได้รับการตัดสิน

ใจอย่างอิสระ แต่ก็มีแรงงานหญิงส่วนหนึ่งถูกสามี/คู่ครอง พ่อแม่ ญาติพี่น้องของตน บังคับให้ยุติ

การตั้งครรภ์หรือทำาแท้ง กดดันให้ตั้งครรภ์มีบุตรหรือไม่มีบุตร และการคุมกำาเนิด แต่แรงงานหญิงที่

ถูกบังคับกดดันดังกล่าวมีจำานวนน้อยมาก (ตารางที่ 5)

ตารางที่ 5 ผู้ละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ในมิติครอบครัวของแรงงานหญิง

33.3 0 0 0 0 66.7 0 100.0 (6)

21.4 14.3 7.1 0 0 57.1 0 100.0 (14)

33.3 22.2 0 0 0 44.4 0 100.0 (9)

22.2 11.1 0 0 0 66.7 0 100.0 (9)

0 0 0 0 0 100.0 0 100.0 (2)

การละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ แม ญาติ

พี่นอง

สามีหรือ

คูครองลูก รวม

(คน)

พอ พอ

เลี้ยง

แมเลี้ยง

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติครอบครัว

ถูกบังคับ ใหตั้งครรภ หรือ ใหมีบุตร

ถูกบังคับ ไมใหตั้งครรภ หรือ ไมใหมีบุตร

ถูกบังคับใหยุติการตั้งครรภหรือทำแทง

ถูกตำหนิ ทำใหรูสึกวาเปนผูไรคุณคา

เนื่องจากไมสามารถมีบุตร

ถูกบังคับกดดันการตัดสินใจในการเลือกวิธีการ

คุมกำเนิด

6 ผูกระทำความรุนแรง

ในมิติครอบครัว

18 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

7 ความรุนแรงในมิติ

การทำงาน

ในพื้นที่การทำางานของแรงงานหญิง ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งซึ่งพบความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ

แม้ไม่รุนแรงเท่าในครอบครัว แม้ว่าแรงงานหญิงจะได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายแรงงาน โดย

แรงงานหญิงถูกกระทำารุนแรงหลากหลายรูปแบบถึง 29 รูปแบบ (ภาพที่ 6)

อย่างไรก็ตาม แรงงานหญิงที่ถูกกระทำารุนแรงในแต่ละรูปแบบมีค่อนข้างน้อย และแรงงาน

หญิงถูกกระทำาซ้ำาซ้อนหลายรูปแบบก็มีน้อยเช่นกัน คือ ตั้งแต่ 4-13 รูปแบบร้อยละ 3.1 ถูกกระทำา

รุนแรง 2-3 รูปแบบร้อยละ 5.3 และถูกกระทำารุนแรง 1 รูปแบบร้อยละ 8.1

19ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ภาพที่ 6 ร้อยละของการถูกกระทำารุนแรงในแต่ละรูปแบบความรุนแรงในมิติการทำางาน

7 ความรุนแรงในมิติ

การทำงาน

(1,823)

92.0 8.0 100.0

95.0 5.0 100.0

8 48 95.6 4.4 100.0

96.3 3.7 100.0

( ) 96.5 3.5 100.0

97.3 2.7 100.0

97.5 2.5 100.0

/ / 97.9 2.1 100.0

99.1 0.9 100.0

99.1 0.9 100.0

99.3 0.7 100.0

99.3 0.7 100.0

99.5 0.5 100.0

99.5 0.5 100.0

99.5 0.5 100.0

99.6 0.4 100.0

90 99.6 0.4 100.0

/ 45 99.6 0.4 100.0

99.7 0.3 100.0

99.7 0.3 100.0

99.8 0.2 100.0

99.8 0.2 100.0

99.8 0.2 100.0

99.9 0.1 100.0

99.9 0.1 100.0

99.9 0.1 100.0

( 15 ) 99.9 0.1 100.0

99.9 0.1 100.0

99.9 0.1 100.0

8 48

( )

/ /

90

/ 45

( 15 )

0.1%

0.1%

0.1%

0.1%

0.1%

0.1%

0.2%

0.2%

0.2%

0.3%

0.3%

0.4%

0.4%

0.4%

0.5%

0.5%

0.5%

0.7%

0.7%

0.9%

0.9%

2.1%

2.5%

2.7%

3.5%

3.7%

4.4%

5.0%

8.0%

99.9%

99.9%

99.9%

99.9%

99.9%

99.9%

99.8%

99.8%

99.8%

99.7%

99.7%

99.6%

99.6%

99.6%

99.5%

99.5%

99.5%

99.3%

99.3%

99.1%

99.1%

97.9%

97.5%

97.3%

96.5%

96.3%

95.6%

95.0%

92.0%

20 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำาความรุนแรงกับแรงงานหญิง เป็นความสัมพันธ์กันในเชิง

ของผลประโยชน์ เป็นอำานาจระหว่างเจ้านายหรือนายจ้างกับลูกน้องหรือแรงงาน (อำานาจในเชิงของ

ชนชั้น) และระหว่างเพื่อนร่วมงานด้วยกัน

ผู้กระทำาความรุนแรงในมิติการทำางาน ได้แก่ นายจ้าง หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงานชาย เพื่อน

ร่วมงานหญิง และลูกค้า

8.1 การละเมิดสิทธิแรงงาน

แม้ว่าการเป็นแรงงานไทยจะได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย แต่แรงงานหญิงจำานวน

มากก็ระบุถึงปัญหาการถูกละเมิดสิทธิแรงงานต่างๆ เช่น การถูกเลิกจ้างหรือไล่ออกโดยไม่มีความ

ผิด การถูกบังคับให้ทำางานในหนึ่งสัปดาห์โดยไม่มีวันหยุด การถูกบังคับให้ทำางานมากกว่าวันละ 8

ชั่วโมง การถูกโกงค่าจ้าง เป็นต้น กรณีเหล่านี้เกิดขึ้นจากการกระทำาของนายจ้างและหัวหน้างานเป็น

ส่วนใหญ่ (ตารางที่ 6)

ตารางที่ 6 ผู้ละเมิดสิทธิแรงงานในมิติการทำางานของแรงงานหญิง

66.7 28.2 0 5.1 0 100.0(42)

61.8 36.8 1.5

0 0 100.0(68)

59.3 40.7 0 0 0 100.0(81)

76.2 19.0 0 0 4.8

100.0(63)

82.4 17.6 0 0 0 100.0(91)

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติการทำงาน

การละเมิดสิทธิแรงงานนาย

จางหัวหนางาน

เพื่อนรวม

งานชาย

ลูกคา รวม

(คน)

เพื่อนรวม

งานหญิง

ถูกเลิกจาง/ไลออก/กดดันใหออกจากงานโดยที่ไมมีความผิด

ถูกบังคับใหทำงานในหนึ่งสัปดาหโดยไมมีวันหยุดหรือไม

ถูกบังคับใหทำงานมากกวาวันละ 8 ชั่วโมง หรือมากกวาสัปดาหละ 48

ชั่วโมงหรือไม

ถูกโกงคาจาง จายคาจางไมเปนธรรม (จายชา หรือ จายไมหมด)

ถูกผัดผอน เลื่อนระยะเวลาการจายคาจางหรือไม

8ผูกระทำรุนแรงตอ

แรงงานหญิงใน

มิติการทำงาน

การถูกกระทำรุน

แรงในชุมชน

21ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

8.3 การบังคับให้ทำางานไม่ปลอดภัย

การถูกบังคับให้ทำางาน เสี่ยง ไม่ปลอดภัย นั้นนับเป็นปัญหาสำาคัญต่อแรงงานหญิง ซึ่งมีกรณี

มากพอสมควร และเป็นการถูกบังคับโดยนายจ้างและหัวหน้างานเป็นหลัก (ตารางที่ 8)

8.2 การทำาร้ายร่างกายและการดุด่าว่ากล่าวด้วยถ้อยคำารุนแรง หยาบคาย

การทำาร้ายร่างกาย การดุด่าว่ากล่าวด้วยถ้อยคำารุนแรง หยาบคาย เป็นรูปแบบความรุนแรงที่

ปรากฏในทุกมิติชีวิต สำาหรับแรงงานหญิงนั้น การถูกดุด่าว่ากล่าวด้วยถ้อยคำารุนแรงหยาบคาย เป็น

กรณีที่เกิดขึ้นกับแรงงานหญิงมากที่สุด ผู้กระทำาหลักได้แก่ นายจ้าง หัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงาน

หญิงด้วยกัน

ส่วนการทำาร้ายร่างกาย ด้วยการตบตีเตะต่อยนั้นก็มีเช่นกัน แต่มีกรณีน้อยมาก และส่วน

ใหญ่เป็นการกระทำาจากแรงงานหญิงด้วยกัน ซึ่งน่าจะเป็นการทะเลาะเบาะแว้งและมีการทำาร้าย

ร่างกาย (ตารางที่ 7)

15.4 15.4 7.7 61.5 0 100.0(13)

37.3 26.2 3.4 31.0 2.1 100.0(145)

ถูกทำรายรางกาย เชน เตะ ตอย ตบ ตี

ถูกดาวา ดวยถอยคำ รุนแรง หยาบคาย เสียหายอยางมาก

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติการทำงาน

รูปแบบความรุนแรงในมิติการทำงานนาย

จาง

หัวหนางาน เพื่อนรวม

งานชาย

ลูกคา รวม

(คน)

เพื่อนรวม

งานหญิง

ตารางที่ 7 ผู้กระทำารุนแรงทางร่างกายและวาจาในมิติการทำางานของแรงงานหญิง

ตารางที่ 8 ผู้บังคับให้ทำางานไม่ปลอดภัยในมิิติการทำางานของแรงงานหญิง

43.5 54.3 0 2.2 0 100.0(46)

ถูกบังคับใหทำงาน เสี่ยง อันตราย ไมปลอดภัย

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติการทำงาน

รูปแบบความรุนแรงในมิติการทำงาน นาย

จางหัวหนางาน เพื่อนรวม

งานชายลูกคา รวม

(คน)

เพื่อนรวม

งานหญิง

8ผูกระทำรุนแรงตอ

แรงงานหญิงใน

มิติการทำงาน

การถูกกระทำรุน

แรงในชุมชน

22 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

8.4 การล่วงละเมิดทางเพศในมิติการทำางาน

การล่วงละเมิดทางเพศในมิติการทำางาน เป็นรูปแบบความรุนแรงสำาคัญที่เกิดกับแรงงาน

หญิง อาทิ การบังคับค้าประเวณี ข่มขืน การล่อลวง บังคับ ให้มีเพศสัมพันธ์ แต่ก็พบแรงงานหญิงที่

ถูกกระทำาน้อยมาก ยกเว้น การพูดจาแทะโลม ลามก ผู้กระทำาหลักได้แก่ เพื่อนร่วมงานชาย ลูกค้า

หัวหน้างานและนายจ้าง (ตารางที่ 9)

8.5 การละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์

ปัญหาการละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ในการทำางานนั้น มีแรงงานหญิงถูกละเมิดค่อนข้างน้อย

แต่ก็มีรูปแบบที่หลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นการละเมิดความเป็นแม่ของแรงงาน เช่น การไม่ได้รับสิทธิ

ลาคลอด 90 วัน นายจ้างไม่เก็บตำาแหน่งงานไว้ให้หากลาคลอด ถูกบังคับกดดันให้ลาออกจากงาน

เป็นต้น ผู้กระทำาหลักในประเด็นเหล่านี้คือ นายจ้างและหัวหน้างานของแรงงานหญิง (ตารางที่ 10)

ตารางที่ 9 ผู้ล่วงละเมิดทางเพศในมิติการทำางานของแรงงานหญิง

33.3 33.3 0 33.3 0 100.0(3)

17.6 23.5 35.3 0 23.5 100.0 (17)

100.0 0 0 0 0 100.0 (1)

8.0 4.0 50.0 0 38.0 100.0 (50)

0 100.0 0 0 0 100.0 (1)

100.0 0 0 0 0 100.0(1)

ถูกบังคับใหคาประเวณี ลอลวงใหขายบริการทางเพศ

ถูกกระทำอนาจาร แตะตอง จองมอง หนาอก อวัยวะเพศ

ถูกขมขืน

พูดจาแทะโลม ลามก สอไปในทางเพศกับทาน

โดยทานไมเต็มใจ รูสึกอับอาย

บังคับ จำใจ ขมขู ใหมีเพศสัมพันธกับบุคคลที่ทานไมเต็มใจ

ถูกลอลวง หลอก

ใหมีเพศสัมพันธโดยอาศัยเรื่องงานเปนขอแลกเปลี่ยน

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติการทำงาน

การลวงละเมิดทางเพศในมิติการทำงานนาย

จางหัวหนางาน เพื่อนรวม

งานชาย

ลูกคา รวม

(คน)

เพื่อนรวม

งานหญิง

8ผูกระทำรุนแรงตอ

แรงงานหญิงใน

มิติการทำงาน

การถูกกระทำรุน

แรงในชุมชน

23ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ตารางที่ 10 ผู้ละเมิดสิทธิการเจริญพันธุ์ในมิติการทำางานของแรงงานหญิง

66.7 33.3 0 0 0 100.0(3)

75.0 25.0 0 0 0 100.0 (8)

50.0 0 50.0 0 0 100.0 (2)

60.0 40.0 0 0 0 100.0(10)

100.0 0 0 0 0 100.0 (7)

50.0 50.0 0 0 0 100.0(6)

0 100.0 0 0 0 100.0 (1)

0 100.0 0 0 0 100.0(1)

100.0 0 0 0 0 100.0 (3)

ไมไดรับการเลื่อนขั้น เงินเดือน ตำแหนง เพราะการตั้งครรภ

ไมไดรับสิทธิการลาคลอด 90 วัน

ระหวางตั้งครรภ ตองทำงานที่ยกของหนักมากๆ(น้ำหนักเกิน

15 กิโลกรัม)

นายจางจะไมเก็บตำแหนงงานของทานไว หากทานลาคลอด

ไมไดรับคาตอบแทน/คาจาง ระหวางลาคลอด 45 วัน

ระหวางตั้งครรภ ตองทำงานสัมผัสสารเคมี

ถูกบังคับใหยุติการตั้งครรภหรือทำแทงโดยที่ทานไมเต็มใจ

ถูกบังคับ กดดันใหตองลาออกจากงาน เนื่องจากการตั้งครรภ

ถูกบังคับ ไมใหตั้งครรภหรือไมใหมีบุตร เชน

การบังคับคุมกำเนิด หรือ ทำหมัน

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติการทำงาน

การละเมิดสิทธิการเจริญพันธุนาย

จางหัวหนางาน

เพื่อนรวม

งานชาย

ลูกคา รวม

(คน)

เพื่อนรวม

งานหญิง

8ผูกระทำรุนแรงตอ

แรงงานหญิงใน

มิติการทำงาน

การถูกกระทำรุน

แรงในชุมชน

24 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

นอกเหนือจากการถูกกระทำารุนแรงในครอบครัวและการทำางานซึ่งมีขนาดของการถูกกระทำา

สูงมากกว่ามิติชีวิตอื่นๆ แล้ว ยังพบว่ามีการกระทำารุนแรงต่อแรงงานหญิงในมิติชุมชน แต่ขนาดของ

ปัญหานั้นน้อยมาก

การกระทำารุนแรงในชุมชนมีขนาดของปัญหาเพียงร้อยละ 2.6 และมีรูปแบบความรุนแรงเกิด

ขึ้น 10 รูปแบบ เช่น การถูกทำาร้ายร่างกาย เตะ ต่อย การด่าว่าด้วยถ้อยคำารุนแรง หยาบคาย

การถูกกระทำาอนาจาร พูดจาแทะโลม เป็นต้น

ผู้กระทำาความรุนแรงหลักในมิติชุมชนนั้นเป็นชาวบ้านทั่วไป ซึ่งรูปแบบความรุนแรงที่ชาว

บ้านทั่วไปเป็นผู้กระทำามีทั้งรูปแบบที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และเพศสัมพันธ์ สำาหรับผู้กระทำา

ความรุนแรงในมิติชุมชนกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ ผู้นำา หรืออบต.ชุมชน หรือผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงคนแปลกหน้า

ด้วย (ตารางที่ 11)

รอยละของผูกระทำความรุนแรงในมิติชุมชน

รูปแบบความรุนแรงในมิติชุมชน ชาวบานทั่วไป คนแปลกหนา รวม

(คน)

ผูนำชุมชน

95.8 4.2 0 100.0(24)

100.0 0 0 100.0 (3)

0 100.0 0 100.0 (1)

0 100.0 0 100.0 (1)

100.0 0 0 100.0 (2)

0 100.0 0 100.0 (1)

100.0 0 0 100.0 (8)

100.0 0 0 100.0 (2)

87.5 0 12.5 100.0(16)

100.0 0 0 100.0 (1)

ความรุนแรงที่เกิดกับจิตใจและการละเมิดสิทธิตางๆ

ถูกดาวา ดวยถอยคำ รุนแรง หยาบคาย เสียหายอยางมาก

ถูกกีดกันไมใหประชุม ชุมนุม เพื่อแสดงความคิดเห็น

ถูกละเลย/ไมปฏิบัติตาม/ไมบังคับใชกฎหมาย เมื่อไดรับการรองขอ

ถูกปฏิเสธ บายเบี่ยงไมยอมรับ การรองเรียน ปรึกษา

ขอความชวยเหลือกรณีถูกละเมิดสิทธิตางๆ

ถูกกลั่นแกลง โยน หรือ ยัดเยียด ยอมรับความผิด การกลาวหาตางๆ

ใหโดยไมไดกระทำ

ถูกบังคับ กำหนด จำกัด ขอบเขต พื้นที่การทำกิจกรรมตางๆ เชน การพูดคุย

แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ความรุนแรงทางรางกาย

ถูกทำรายรางกาย เชน เตะ ตอย ตบ ตี

ความรุนแรงทางเพศสัมพันธ

ถูกกระทำอนาจาร แตะตอง จองมอง หนาอก อวัยวะเพศ

พูดจาแทะโลม ลามก สอไปในทางเพศกับทาน โดยทานไมเต็มใจ รูสึกอับอาย

บังคับ จำใจ ขมขู ใหมีเพศสัมพันธกับบุคคลที่ทานไมเต็มใจ

ตารางที่ 11 ผู้กระทำาความรุนแรงในมิติชุมชนของแรงงานหญิง

08ผูกระทำรุนแรงตอ

แรงงานหญิงใน

มิติการทำงาน 9

การถูกกระทำ

รุนแรงในมิติชุมชน

25ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

10 การถูกกระทำรุนแรง

โดยเจาหนาที่รัฐ

ความรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้นกับแรงงานหญิงในหน่วยงานหรือองค์กรรัฐแตกต่างไปจากมิติ

อื่นๆอย่างมาก เนื่องด้วยทั้งผู้กระทำาและผู้ถูกกระทำาไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือผูกพันกันในอารมณ์

ความรู้สึก หรือมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะของฝ่ายหนึ่งเป็น

ผู้ให้บริการและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้รับบริการ หรือการเป็นผู้ให้ความคุ้มครองและดูแลความมั่นคงของ

รัฐและอีกฝ่ายเป็นผู้รับการคุ้มครองดูแล

ในภาพรวมของแรงงานหญิงที่ถูกกระทำารุนแรงจากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน/องค์กรรัฐ พบ

ว่า มีสัดส่วนน้อยมากคือเพียงร้อยละ 1.4 และมีเพียง 7 รูปแบบเท่านั้น แต่ความรุนแรงที่เกิดจาก

เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน/องค์กรรัฐนั้นมีความสำาคัญและได้รับความสนใจจากสังคม เนื่องจากมีความ

ละเอียดอ่อนอาจกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและอาจเชื่อมโยงไปยังปัญหาอื่นได้ง่าย

ผู้กระทำาความรุนแรงซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน/องค์กรรัฐ ได้แก่ ตำารวจ และเจ้าหน้าที่

ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในหน่วยงานต่างๆ ซึ่งพบว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นคือ การเรียกร้องเงินทองหรือ

ผลประโยชน์โดยไม่ชอบ และถูกละเลย/ไม่ปฏิบัติตาม/ไม่บังคับใช้กฎหมาย เมื่อได้รับการร้องขอ

(ตารางที่ 12)

ตารางที่ 12 ผู้กระทำาความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน/องค์กรรัฐของแรงงานหญิง

75.0 25.0 100.0 (4)

100.0 0 100.0 (2)

100.0 0 100.0 (1)

77.8 22.2 100.0 (9)

90.9 9.1 100.0 (11)

75.0 25.0 100.0 (4)

100.0 0 100.0 (2)

ความรุนแรงที่เกิดกับจิตใจและการละเมิดสิทธิตางๆ

ความรุนแรงทางรางกาย

ถูกดาวา ดวยถอยคำ รุนแรง หยาบคาย เสียหายอยางมาก

ถูกกีดกันไมใหประชุม ชุมนุม เพื่อแสดงความคิดเห็น

ถูกบังคับ กำหนด จำกัด ขอบเขต พื้นที่การทำกิจกรรมตางๆ

เชน การพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ถูกเรียกรอง เงินทอง ผลประโยชนโดยไมชอบ

เมื่อไปรับบริการจากหนวยงานภาครัฐ

ถูกละเลย/ไมปฏิบัติตาม/ไมบังคับใชกฎหมาย

เมื่อไดรับการรองขอ

ถูกปฏิเสธ บายเบี่ยงไมยอมรับ การรองเรียน ปรึกษา

ขอความชวยเหลือกรณีถูกละเมิดสิทธิตางๆ

ถูกจับกุม คุมขัง กักขัง โดยไมชอบดวยกฎหมายหรือไม

ตำรวจ เจาหนาที่ผูใหบริการ รวม (คน)

รูปแบบความรุนแรงจากเจาหนาที่ในหนวยงาน/องคกรรัฐรอยละของผูกระทำความรุนแรงจากเจาหนาที่ในหนวยงาน/องคกรรัฐ

26 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

นอกเหนือจากความรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นในมิติชีวิตของแรงงานหญิงโดยผู้กระทำาต่างๆเช่น สามี

หรือคู่ครอง นายจ้าง ชาวบ้านทั่วไป และเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ก็ยังมีความรุนแรงอีกระดับ คือ ความ

รุนแรงเชิงโครงสร้าง

Galtung2 นักสันติภาพชาวนอร์เวย์ ได้วิเคราะห์แยกระดับความรุนแรงเป็น 3 ระดับ ได้แก่

ความรุนแรงทางตรง ความรุนแรงทางโครงสร้าง และความรุนแรงทางวัฒนธรรม โดยอธิบายไว้ว่า

ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เป็นความรุนแรงที่เกิดจากการกระทำาของสังคมผ่านโครงสร้างต่างๆซึ่งมี

ความไม่เสมอภาค ส่งผลให้ผู้คนในสังคมได้รับโอกาสและทรัพยากรที่ไม่เสมอภาค ซึ่งเป็นผล

มาจากการตัดสินใจใช้อำานาจในระดับโครงสร้างสังคม ย่อมก่อให้เกิดความรุนแรงทางโครงสร้างกับ

ประชาชนในสังคมนั้น (Galtung, 1969, p.171 อ้างใน Confortini, 2004) โดย เขาอธิบาย

เพิ่มเติมว่า ความรุนแรงทั้ง 3 ระดับ คือความรุนแรงทางตรง ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง และความ

รุนแรงทางวัฒนธรรมนี้มิได้แยกขาดจากกันและเป็นลำาดับชั้น แต่เชื่อมโยงเป็นเหตุซึ่งกันและกัน และ

สามารถสลับสับเปลี่ยนตำาแหน่งกันได้อีกด้วย (Galtung, 1990, p.294)

ดังนั้นนอกจากความรุนแรงทางตรง ที่แรงงานหญิงถูกกระทำาโดยบุคคลต่างๆแล้ว ปัญหา

จากการเป็นแรงงานที่ค่าจ้างน้อยและต้องทำางานหนัก การไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการ มีการถูกกำาหนด

ให้รับภาระต่างๆซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ยังทำาให้ต้องเผชิญหน้ากับความไม่เสมอภาค และตกอยู่

ภายใต้เงื่อนไขการเป็นหญิงตามที่สังคมกำาหนด

11.1 รายได้น้อยและได้ค่าจ้างต่ำากว่าค่าจ้างขั้นต่ำา

แรงงานหญิงส่วนใหญ่มีรายได้ค่อนข้างน้อย (รายได้ในที่นี้รวมถึงค่าจ้างในการทำางานในเวลา

ปกติและค่าแรงในกรณีที่ทำางานนอกเวลาหรือโอที) โดยแรงงานหญิงได้ค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนเพียง

9,796.69 บาท และแรงงานหญิงถึงร้อยละ 70 มีค่าจ้างน้อยกว่า 9,000 บาทต่อเดือน (ภาพที่

7) ส่วนการได้รับค่าจ้างต่ำากว่าค้าจ้างขั้นต่ำา แรงงานหญิงถึงร้อยละ 26.6 ก็ยังได้รับค่าจ้างต่ำากว่าค่า

แรงขั้นต่ำาวันละ 300บาท

27ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

11.2 ชั่วโมงการทำางานปกติในแต่ละวันยาวนาน และยังต้องทำาโอทีเพิ่ม

แรงงานหญิงส่วนใหญ่ทำางานในเวลาปกติวันละ 6-8 ชั่วโมง และแรงงานหญิงถึงร้อยละ 18.8

ต้องทำางานมากกว่าวันละ 8 ชั่วโมง (ภาพที่ 8)

นอกจากการทำางานในเวลาปกติที่ยาวนานแล้ว แรงงานหญิงถึงร้อยละ 60.7 ยังต้องทำางาน

โอที (ภาพที่ 9) โดยแรงงานร้อยละ 42.1 ให้เหตุผลการต้องทำางานล่วงเวลาเพราะต้องการค่าจ้าง

เพิ่ม และเพราะนายจ้างบังคับให้ทำางานล่วงเวลา ร้อยละ 2.5 (ภาพที่ 10)

ภาพที่ 7 ร้อยละของค่าจ้างต่อเดือนของแรงงานหญิง

0

10

20

30

40

50

5,000 6.5%

6.5%

5,001 - 7,000 15.4%

15.4% 7,001 - 9,000 44.8%

44.8%

9,001 - 11,000 10.4% 10.4% 11,001 - 13,000 10.0% 10.0%

13,001 - 15,000 7.9% 7.9%

15,000 5.0% 5.0%

แรงงานหญิง

28 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ภาพที่ 8 ร้อยละของจำานวนชั่วโมงการทำางานในเวลาปกติของแรงงานหญิง

ภาพที่ 9 ร้อยละของจำานวนชั่วโมงการทำางานนอกเวลาปกติต่อวัน (โอที) ของแรงานหญิง

ภาพที่ 10 ร้อยละของเหตุผลในการทำางานล่วงเวลาของแรงงานหญิง

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

0

16

32

48

64

80

3-5 4.4%

4.4%

6-8 72.0%

72.0%

8 18.8% 18.8% 2.5%

2.5% 2.3%

2.3%

แรงงานหญิง

0

8

16

24

32

40

39.3%

39.3%

1 24.6%

24.6%

2 23.9%

23.9%

3 7.1%

7.1%

4 3.5%

3.5%

5 0.8%

0.8% 6 0.4%

0.4% 8 0.4% 0.4%

แรงงานหญิง

0

10

20

30

40

50

แรงงานหญิง

/

แรงงานหญิง

39.4%

39.4%

42.1%

42.1%16.0%

16.0%2.5%

2.5%

29ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

0

16

32

48

64

80

78.2%

78.2%

11.0%

11.0%

2.0%

2.0%

3.4%

3.4%

/ 2.5%

2.5%

1.3%

1.3% 1.3% 1.3%

/ 0.3% 0.3%แรงงานหญิง

11.3 รับภาระทั้งการทำางานหาเงินและการทำางานบ้าน

ปัจจุบันนี้โครงสร้างอาชีพเปลี่ยนแปลงไป ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต้องออกไปทำางานนอกบ้าน

เคียงบ่าเคียงไหล่ในทุกภาคการผลิต โดยแรงงานหญิงส่วนใหญ่ต้องทำางานนอกบ้านหาเงิน ทั้งงาน

ในเวลาปกติและงานล่วงเวลาวันละหลายชั่วโมง

เมื่อแรงงานหญิงกลับบ้าน ก็ยังคงได้รับมอบหมายจากครอบครัวและสังคมให้เป็นผู้รับผิด

ชอบหลักในการทำางานบ้าน โดยแรงงานหญิง แม่ พี่สาว/น้องสาว ประมาณร้อยละ 92 ก็ยังต้องรับ

ผิดชอบหลักในการทำางานบ้าน(ภาพที่ 11) และร้อยละ 62.8 ทำางานบ้านตั้งแต่วันละสองชั่วโมงขึ้น

ไป (ภาพที่ 12) ทำาให้ชั่วโมงการทำางาน ทั้งงานการผลิตและงานบ้านในแต่ละวันของผู้หญิงสูง ส่ง

ผลต่อความเหนื่อยล้าและปัญหาสุขภาพ ครอบครัว ตามมา

ภาพที่ 11 ร้อยละของการเป็นผู้รับผิดชอบหลักการทำางานบ้านของแรงงานหญิง

ภาพที่ 12 ร้อยละจำานวนชั่วโมงการทำางานบ้านในแต่ละวันของแรงงานหญิง

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

0

12

24

36

48

60

1 2 - 3 4 - 6

แรงงานหญิง

8.6%

8.6%

28.6%

28.6%

57.9%

57.9%4.9%4.9%

30 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

11.4 การเป็นผู้รับผิดชอบหลักค่าใช้จ่ายในครอบครัว

แรงงานหญิงทั้งหมดต้องทำางานหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว และครึ่งหนึ่งของแรงงานหญิง

เหล่านี้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหลักในครอบครัว ขณะที่สามีหรือคู่ครองเข้ามารับผิดชอบเพียง

ประมาณหนึ่งในสี่เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัวที่เกิดขึ้นนั้นจะเพียงพอหรือ

ไม่ ผู้หญิงจะต้องจัดการให้เรียบร้อยผ่านพ้นไปให้ได้ ดังนั้นผู้หญิงอาจต้องสละความสุขความสะดวก

สบายเพื่อทำางานหารายได้นอกเวลาให้มากขึ้น เพื่อมาช่วยครอบครัวให้ผ่านพ้นปัญหาทางด้านการ

เงินไป (ภาพที่ 13)

ภาพที่ 13 ร้อยละของผู้รับผิดชอบหลักค่าใช้จ่ายในครอบครัวของแรงงานหญิง

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

0

12

24

36

48

60

51.4%

51.4%

26.8%

26.8% 7.5%

7.5%

5.9%

5.9%

/ 0.5%

0.5%

/ 0.9%

0.9%

0.3%

0.3% 0.7%

0.7% 6.0% 6.0%

แรงงานหญิง

31ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

11.5 ทำางานจนแทบจะไม่มีวันหยุดงานในแต่ละสัปดาห์

ปัญหาเรื่องวันหยุดงานยังคงเป็นปัญหามากในกลุ่มของแรงงานหญิง แม้ว่าแรงงานหญิงส่วน

ใหญ่คือร้อยละ 67 จะมีวันหยุดสัปดาห์ละ 1-2 วัน แต่ก็พบแรงงานที่ต้องทำางานโดยไม่มีวันหยุด

ถึงร้อยละ12.1 และแรงงานหญิงอีกร้อยละ 9.7 นั้นต้องให้นายจ้างอนุญาตว่าจะให้หยุดงานได้หรือ

ไม่ (ภาพที่ 14)

ภาพที่ 14 ร้อยละของการหยุดการทำางานในแต่ละสัปดาห์ของแรงงานหญิง

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

0

14

28

42

56

70

1-2 67.0%

67.0%

12.1%

12.1%

9.7%

9.7%

3.7%

3.7%

1.7%

1.7%

4.8% 4.8% 1 10 0.6%

0.6% 1 2 0.4% 0.4%

แรงงานหญิง

32 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

11.6 ไม่ได้เป็นสมาชิกประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน

ขณะที่สังคมทั่วไปเห็นถึงปัญหาแรงงานข้ามชาติว่า เป็นแรงงานที่ไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิ

แรงงานหญิงไทยก็ไม่ได้แตกต่างจากแรงงานข้ามชาติ เพราะพบว่า แรงงานหญิงถึงร้อยละ 54.8 ไม่

ได้มีสิทธิประกันสังคม และแรงงานหญิงถึงร้อยละ 7.1 ไม่รู้จักการประกันสังคม (ภาพที่ 15)

ส่วนการเป็นสมาชิกกองทุนเงินทดแทน ก็พบว่า มีแรงงานหญิงถึงร้อยละ 71 ไม่ได้เป็น

สมาชิกกองทุนเงินทดแทน และไม่รู้จักกองทุนดังกล่าวถึงร้อยละ 16.4 (ภาพที่ 16)

ภาพที่ 15 ร้อยละของการเป็นสมาชิกประกันสังคมของแรงงานหญิง

ภาพที่ 16 ร้อยละของการเป็นสมาชิกกองทุนเงินทดแทนของแรงงานหญิง

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

0

12

24

36

48

60

/แรงงานหญิง

38.1%

38.1%

54.8%

54.8%7.1%7.1%

0

16

32

48

64

80

/แรงงานหญิง

12.6% 12.6%

71.0%

71.0%16.4%

16.4%

33ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

11.7 งานที่แรงงานหญิงทำาเป็นอันตรายต่อสุขภาพและยังได้รับอุบัติเหตุจากการทำางาน

นอกจากค่าจ้างน้อย งานหนัก การไม่ได้รับสิทธิหรือหลักประกันคุ้มครอง แรงงานหญิงยัง

เผชิญหน้ากับอันตรายจากการทำางานในระดับมากถึงมากที่สุดร้อยละ 8.9 และในระดับปานกลาง

ร้อยละ 40.6 (ภาพที่ 17)

ในส่วนของอุบัติเหตุจากการทำางาน แรงงานหญิงก็ยังเคยได้รับอุบัติเหตุจากการทำางานถึง

ร้อยละ 30.9 (ภาพที่ 18)

ภาพที่ 17 ร้อยละของแรงงานหญิงที่ระบุว่างานที่ทำามีอันตรายต่อสุขภาพ

ภาพที่ 18 ร้อยละของแรงงานหญิงที่ระบุว่าได้รับอุบัติเหตุจากการทำางาน

11 ความรุนแรงเชิง

โครงสราง

0

10

20

30

40

50

1.0%

1.0%

7.9% 7.9% 40.6%

40.6%

32.1%

32.1%

18.4%

18.4%

แรงงานหญิง

0

14

28

42

56

70

แรงงานหญิง

69.1%

69.1%

29.7%

29.7%1.2% 1.2%

34 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

12มายาคติเกี่ยวกับ

“ความรุนแรง”

ของแรงงานหญิง

มายาคติ เป็นคติความเชื่อของแรงงานหญิงที่ว่า สิ่งที่ตนเองเห็นหรือเชื่อนั้นเป็นภาวะปกติ

ธรรมดาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย มายาคติเกี่ยวกับความรุนแรงทั้ง 4 ประการนี้ เป็นคตินิยมที่หยั่งราก

ลึกในความคิดทั้งของแรงงานหญิง และสนับสนุนให้หญิงและชายสามารถกระทำารุนแรงได้โดยสังคม

ไม่เห็นว่าผิด หรือเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแรงงานหญิงเองนั้น ทำาให้พลังอำานาจใน

ตนเองอ่อนล้า และไร้ซึ่งอำานาจในการต่อรองกับปัญหาความรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย

จะเห็นได้ว่า แรงงานหญิงนั้นส่วนใหญ่ยังมีมายาคติในระดับปานกลางถึงสูง กล่าวคือ

แรงงานหญิงที่เชื่อว่า การที่สามีทุบตีทำาร้ายร่างกายภรรยาเป็นเรื่องปกติมีร้อยละ 19.2

และเวลาที่สามีภรรยาทำาร้ายร่างกายกันชาวบ้านไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องร้อยละ 22.3 ผู้ชายกระทำา

รุนแรงต่อผู้หญิงเพราะผู้หญิงยั่วโมโหก่อนร้อยละ 13.4

ส่วนเพศสัมพันธ์เป็นความปรารถนาและความต้องการของทั้งหญิงและชาย แรงงานหญิง

เชื่อว่า ชายซึ่งเป็นสามีสามารถกำาหนด บังคับ กดดัน แม้ผู้เป็นภรรยาไม่ต้องการก็ต้องยอม ทำาให้

ผู้หญิงตกอยู่ใต้อำานาจและความรุนแรงเป็นมายาคติในการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งแรงงานหญิงถึงร้อยละ

23.7 ก็มีมายาคตินี้ (ตารางที่ 13 )

ตารางที่ 13 มายาคติเกี่ยวกับความรุนแรงของแรงงานหญิง

41.9 37.8 19.2 100.0(1,816)

33.8 43.9 22.3 100.0(1,821)

42 44.6 13.4 100.0(1,819)

28.3 48.0 23.7 100.0(1,815)

การทีสามีทุบตีทำรายภรรยาหรือคูรัก เปนเรื่องปกติ

ไมใช ไมแนใจ ใช รวม (คน)มายาคติเกี่ยวกับความรุนแรง

เวลาผัวเมียทุบตีทำรายรางกายกัน ชาวบานไมควรเขาไปยุง

ผูชายกระทำรุนแรงกับผูหญิง ก็เพราะผูหญิงยั่วโมโหผูชายกอน

หากสามีมีความตองการทางเพศ แมภรรยาไมตองการ ก็ไมควรปฏิเสธ

35ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

13 อภิปรายและขอ

เสนอแนะ

1. ขนาดของปัญหาความรุนแรงที่เกิดกับแรงงานหญิงในมิติครอบครัวและมิติการทำางานมี

พอสมควร ส่วนการถูกกระทำาจากชุมชนและเจ้าหน้าที่รัฐนั้นน้อยมาก แต่ปัญหาหลักของแรงงาน

หญิงคือ ปัญหาความรุนแรงเชิงโครงสร้างและมายาคติซึ่งยังมีอยู่ชัดเจน

ดังนั้น นโยบายทางสังคมต่างๆ เช่น การเข้าถึงประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนใน

แรงงานทุกอาชีพ(ทั้งในระบบและนอกระบบ) การเพิ่มพูนความรู้และทักษะต่างๆ การเปิดโอกาส

หรือสร้างงานที่มั่นคงและมีผลตอบแทนที่เหมาะสมกับการทำางาน การให้เด็กทุกคนโดยเฉพาะเด็ก

ผู้หญิงได้รับการศึกษาถึงขั้นสูงสุด โดยไม่มีอุปสรรคทางด้านการเงิน เป็นนโยบายที่ต้องดำาเนินการ

โดยเร่งด่วน จริงจัง

2. ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงเป็นเรื่องสำาคัญ เนื่องด้วยเป็นประชากรครึ่งหนึ่งของสังคม ที่

ทำาหน้าที่พื้นฐานหลักในครอบครัว คือ การผลิตและเลี้ยงดูสมาชิกใหม่ในสังคม ซึ่งจะเป็นทรัพยากร

ที่สำาคัญ การดูแลสมาชิกใหม่นี้เริ่มต้นตั้งแต่การตั้งครรภ์ ขัดเกลาพัฒนาเด็ก ทั้งร่างกายและจิตใจ

ขณะเดียวกันผู้หญิงก็ทำางานนอกบ้านผลิตสินค้าและบริการให้กับสังคมเคียงข้างแรงงานชาย

การที่ผู้หญิงถูกกระทำารุนแรง เป็นการบ่อนทำาลายการทำาหน้าที่พื้นฐานของครอบครัว ทำาให้

ผู้หญิงไม่สามารถมีบทบาทและดูแลครอบครัว ส่งผลกระทบต่อสมาชิกอื่นๆในครอบครัว โดยเฉพาะ

เด็ก ผู้สูงอายุ เป็นต้น สังคมจำาเป็นต้องดูแลและตระหนักว่า เป็นปัญหาสำาคัญของสังคม มิใช่ปัญหา

ของผู้หญิง หรือ ปัญหาในครอบครัวเท่านั้น

3. ผู้ทำางานเกี่ยวกับความรุนแรงต้องตระหนักว่า ความรุนแรงมิใช่พฤติกรรมแยกส่วน และ

จบสิ้นเมื่อเสร็จสิ้นพฤติกรรมนั้นๆ เพราะความรุนแรงไม่ว่ารูปแบบใดทั้งในความคิดและการกระ

ทำา ความรุนแรงโดยตรงที่กระทำาโดยผู้กระทำาใดๆ ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง และวัฒนธรรม

ล้วนนำาไปสู่ความรุนแรงที่ไม่รู้จบ ผู้ที่เคยกระทำารุนแรงมักจะกระทำารุนแรงต่อไป ผู้ที่ถูกกระทำา

รุนแรงอาจแก้แค้นหรือแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงหรือส่งต่อความรุนแรงกับคนอื่นต่อไป ผู้ที่เห็น

หรือมีส่วนร่วมในความรุนแรงเช่น เด็กที่เห็นพ่อแม่รุนแรงต่อกันก็มีความเครียด เรียนรู้และเลียนแบบ

ที่จะกระทำารุนแรงต่อไป หรือหลีกเลี่ยงปัญหาโดยวิธีการต่างๆ แต่ท้ายสุดนำาไปสู่ความรุนแรง และ

จะถูกผลิตซ้ำาทั้งในระดับบุคคลและโครงสร้างในรูปแบบอื่นๆต่อไป

36 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

ดังนั้นเมื่อมีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้น ควรมีการแก้ไขปัญหาที่รากเหง้าของปัญหา ให้ข้อมูล

สนับสนุนการตัดสินใจของผู้หญิงด้วยตนเอง ไม่ปิดบังข้อมูลหรือปัญหาต่อสาธารณชน ไม่พยายาม

สนับสนุน ชักจูง ให้แรงงานหญิงต้องอดทนตามมายาคติที่ฝังรากลึกในสังคมไทย หรือตกอยู่ในกรอบ

ประเพณีซึ่งกดทับผู้หญิงให้ยอมรับสภาพ รอเวลาเปลี่ยนพฤติกรรมบุคคล เพราะนั่นอาจนำามาซึ่ง

อันตรายและความรุนแรงซึ่งร้ายแรงกว่า

4. การแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ดำาเนินในรูปของการรณรงค์ให้หยุดความ

รุนแรง โดยอาศัยสื่อ สิ่งพิมพ์ต่างๆ การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

เพราะว่า การรณรงค์นั้นไม่สามารถที่จะสร้างแรงจูงใจได้พอเพียง และเป็นการแก้ไขปัญหาที่ผิว

เผิน โดยไม่ยอมรับว่าปัญหาเหล่านั้นอยู่ในครอบครัวและสังคม นอกจากนี้สังคมยังไม่อนุญาตให้

เหยื่อโดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมได้ และหากออกมาเรียกร้อง ผู้หญิง

ที่ถูกกระทำารุนแรงอาจกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงรายใหม่ของสถาบันสังคม บุคคล สื่อ ต่างๆ

พร้อมกับถูกกล่าวหาและตั้งป้อมว่า เป็นความผิด ความเลว เป็นเพราะต้องการใส่ร้ายบุคคลอื่นของ

ผู้หญิง ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำาเพิ่มคือ นโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่สาเหตุ ทั้งใน

ระดับบุคคลและระดับโครงสร้าง คือ

หนึ่ง ส่งเสริมให้แรงงานหญิงมีพลังอำานาจจากภายใน เข้าใจตนเอง เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร มี

เวลาที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง เช่น การแบ่งปันภาระหน้าที่หรืองานในบ้านให้สมาชิกอื่น

ในครอบครัว เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับแรงงานหญิงมากจนเกินไป สร้างแรงจูงใจให้ผู้ชายแบ่งเบา

ภาระงานบ้านมากขึ้น เช่น การดูแลเด็ก ผู้ป่วย และผู้สูงอายุ เพิ่มพูนความรู้และทักษะเพื่อพัฒนา

ศักยภาพของผู้หญิงให้ช่วยตัวเองได้

สอง การได้ทำา “งาน” ที่มั่นคง และได้รับค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม แรงงานหญิงควรได้ค่า

จ้างที่เป็นธรรม ได้รับสวัสดิการทางสังคมครบถ้วน งานที่ทำาปลอดภัยและมีชั่วโมงการทำางานที่เหมาะ

สม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าจ้างที่เพียงพอจนแรงงานหญิงไม่ต้องทำางานล่วงเวลาให้เพียงพอกับค่าใช้

จ่าย เพื่อให้ผู้หญิงได้พัฒนาตัวเองและมีเวลาอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว

สาม ปรับเปลี่ยนค่านิยมและความคิดแบบอคติทางเพศต่างๆ ของคนในสังคม ทั้งในระบบ

การศึกษา การเมือง ครอบครัว สื่อบันเทิงทุกชนิด และในคนทุกเพศทุกวัย

13 อภิปรายและขอ

เสนอแนะ

37ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

13 อภิปรายและขอ

เสนอแนะ

5. ปัญหาความรุนแรงเป็นปัญหาของสังคม มิใช่ความรับผิดชอบของเฉพาะภาครัฐ องค์กร

พัฒนาเอกชน นักวิชาการ ต้องทำางานร่วมกัน มีทิศทางนโยบายไปในทางเดียวกัน มีความร่วมมือ ดัง

นั้น

หนึ่ง ต้องมีการทำางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการ

สังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่าง

ประเทศ กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ในการกำาหนดโยบาย มาตรการ ในภาพรวม ไม่แยกส่วน แต่

ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆในภาครัฐหรือกระทรวงต่างๆ และจากองค์กรพัฒนาเอกชน ในการแก้ไข

ปัญหา ซึ่งแม้ว่าในการวิจัยนี้จะเน้นปัญหาความรุนแรง แต่การแก้ไขปัญหานั้นต้องเปลี่ยนแปลงทั้ง

ทางเศรษฐกิจ การเมืองกฎหมาย มาตรการกลไกต่างๆทางสังคม

สอง ควรมีการแลกเปลี่ยนและทำางานร่วมกันระหว่างองค์กรภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน ทั้ง

ในระดับการกำาหนดนโยบาย และ การปฏิบัติงาน สร้างความไว้วางใจระหว่างกัน แบ่งปันทรัพยากร

และความชำานาญที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน

สาม ผู้ปฏิบัติงานในระดับจังหวัด พื้นที่ ต้องมีการดำาเนินการให้มีการประสานงานกัน

ระหว่างหน่วยงานต่างๆ มีการกำาหนดทิศทางและแนวทางในการดำาเนินงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ

และสอดคล้องกับแผนพัฒนาในจังหวัดนั้น

6. นิยามความรุนแรง ฐานคิด และการออกแบบการวิจัย ในแต่ละโครงการวิจัยที่มีความ

แตกต่างกัน ทำาให้ ข้อมูลขนาดของปัญหาในแต่ละงานวิจัยมีความแตกต่างกัน ผู้ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับ

ความรุนแรงต้องตระหนักและระมัดระวังในการอ้างอิงหรือใช้ข้อมูล

อย่างไรก็ตามขนาดของปัญหาโดยรวมก็ยังมีข้อจำากัดในตัวเองอยู่ค่อนข้างมาก เพราะยังขาด

มิติและรายละเอียดของปัญหา ดังนั้นจำาเป็นต้องพิจารณารายละเอียดของปัญหาในแต่ละมิติ รูปแบบ

ความซ้ำาซ้อนของมิติปัญหาที่เกิดกับแรงงานหญิง รวมถึงผู้กระทำารุนแรงซึ่งมีอำานาจความสัมพันธ์ที่

แตกต่างกันไปในแต่ละมิติความรุนแรงด้วย

38 ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

1. องค์กรและนักวิชาการได้กำาหนด “นิยามความรุนแรง” ไว้หลากหลาย นิยามเหล่านี้ล้วนวางอยู่บนแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับความรุนแรงที่แตกต่างกัน เช่น

องค์การอนามัยโลก ได้ให้คำานิยามหรือคำาจำากัดความของความรุนแรงไว้ว่า “ความรุนแรง หมายถึงการที่บุคคลจงใจ หรือเจตนาใช้การบังคับข่มขู่ ทางร่างกายหรืออำานาจ ต่อบุคคลอื่น หรือ ต่อกลุ่มคน หรือ ชุมชน หรือแม้แต่กระทำาต่อตนเอง ซึ่งการ กระทำานั้นจะทำาให้เกิด หรือน่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ชีวิต จิตใจ พัฒนาการที่ล่าช้า หรือเป็นการลิดรอนสิทธิต่อผู้ถูกกระทำา การกระทำานี้หมายรวมถึงการละเลยเพิกเฉย และการกระทำาทุกประเภทที่เป็นการทำาร้ายหรือทำาอันตรายต่อร่างกาย เพศสัมพันธ์ และจิตใจ ซึ่งก็รวมไปถึงการฆ่าตัวตายและการทำาร้ายตนเองด้วย” (World Health Organization, 1996)

ส่วน Johan Galtung นักสันติภาพชาวนอร์เวย์ ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรุนแรงครั้งแรกในปี 1969 ในหนังสือ “Violence, Peace and Peace Research” โดยได้อธิบายให้เห็นความแตกต่างระหว่างความรุนแรงส่วนบุคคลหรือทางตรง (direct or personal violence) กับความรุนแรงทางโครงสร้าง (structural violence) (Galtung, 1975 อ้างใน Catia C. Confortini, 2004) ต่อมา Galtung ได้พัฒนาและเสนอนิยาม ความรุนแรง ว่า “ความรุนแรงคือการขัดขวาง การดูถูก ดูหมิ่นต่อความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งความรุนแรงเข้าไปขัดขวางคุกคามต่อการดำาเนินชีวิตตามปกติของมนุษย์ ทำาให้ความต้องการของมนุษย์อยู่ในระดับต่ำากว่าความต้องการที่แท้จริงของมนุษย์” (Galtung, 1990, p.292)

United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) อธิบายว่า หมายถึง การกระทำารุนแรงต่อพื้นฐานความเป็นมนุษย์ ซึ่งมนุษย์ต่างก็ต้องมีบทบาทแตกต่างกันตามเพศ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นการลิดรอนเกียรติ/ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ลดอำานาจการตัดสินใจของบุคคล และขัดขวางการพัฒนาของมนุษย์อีกด้วย ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อทางร่างกาย และจิตใจ เนื่องมาจากการสนับสนุนให้ผู้หญิงอยู่ในสถานะที่เป็นรอง และถูกกระทำาจากอำานาจและการบังคับควบคุมของผู้ชาย แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งความรุนแรงต่อผู้หญิง (violence against women) และความรุนแรงทางเพศ (sexual violence) ต่างก็เป็นความรุนแรงรูปแบบหนึ่งของ gender-based violence ด้วย (UNHCR,2003)

2. ประเภทหรือชนิดของความรุนแรง ก็มีการอธิบายหรือแบ่งไว้หลากหลาย เช่น

Galtung วิเคราะห์ความรุนแรงโดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่

หนึ่ง ความรุนแรงทางตรง คือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับบุคคล หรือเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงต่อบุคคล (Galtung, 1990, p.294) โดยเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายใต้อำานาจการควบคุม (Galtung, 2002, p.4 อ้างใน Confortini, 2004) และความรุนแรงทางตรงเกิดขึ้นโดยมีผู้กระทำาเป็นบุคคลเพียงคนเดียวคอยกดขี่ หรือกระทำารุนแรงต่อบุคคลอื่น (Galtung, 1969 อ้างใน Carlsson, 1999)

สอง ความรุนแรงทางโครงสร้าง คือ ความรุนแรงที่เกิดจากการกระทำาของสังคมผ่านโครงสร้างต่างๆซึ่งมีความไม่เสมอภาค ส่งผลให้ผู้คนในสังคมได้รับโอกาสและทรัพยากรที่ไม่เสมอภาค ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจใช้อำานาจในระดับโครงสร้างสังคม ย่อมก่อให้เกิดความรุนแรงทางโครงสร้างกับประชาชนในสังคมนั้น (Galtung, 1969, p.171 อ้างใน Confortini, 2004)

สาม ความรุนแรงทางวัฒนธรรม คือ ความรุนแรงอันเนื่องจากวัฒนธรรม หรือสัญลักษณ์ของคนในสังคม เช่น ศาสนาและอุดมการณ์ของสังคม, ภาษาและศิลปะต่างๆ, ศาสตร์หรือความรู้ต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่ทำาให้เกิดความรุนแรง โดยความรุนแรงทางวัฒนธรรมสามารถเป็นสาเหตุของความรุนแรงทางตรงและความรุนแรงทางโครงสร้างได้ (Galtung, 1990, p.291)

โดย Galtung เสนอว่า ความรุนแรงทั้ง 3 ระดับ คือ ความรุนแรงทางตรง ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง และความรุนแรงทางวัฒนธรรมนี้มิได้แยกขาดจากกันและเป็นลำาดับชั้น แต่เชื่อมโยงเป็นเหตุซึ่งกันและกัน และสามารถสลับสับเปลี่ยนตำาแหน่งกันได้อีกด้วย (Galtung, 1990, p.294)

14 ขอมูลเพิ่มเติม

39ความรุนแรงในชีวิตแรงงานหญิง

UNHCR ได้กำาหนดไว้ 5 กลุ่มหลักได้แก่

หนึ่ง ความรุนแรงทางเพศ ได้แก่ การข่มขืน การทารุณทางเพศ การบังคับร่วมเพศ การเอาเปรียบหาประโยชน์ทางเพศ การบังคับขายบริการทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ

สอง ความรุนแรงทางร่างกาย ได้แก่ การทำาร้ายร่างกาย การค้ามนุษย์/ทาส

สาม ความรุนแรงทางจิตใจ (Emotion and psychological violence) ได้แก่ การลดเกียรติศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การกักขัง/จำากัดขอบเขต

สี่ ประเพณีปฏิบัติเกี่ยวกับความรุนแรง (Harmful traditional practice violence) ได้แก่ การขลิบอวัยวะเพศหญิง การบังคับให้แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย การฆ่าเพื่อเกียรติ/ศักดิ์ศรี การฆ่าตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อน/ทารก การละเลยต่อเด็กผู้หญิง

ห้า ความรุนแรงทางสังคม-เศรษฐกิจ (Socio-economic violence) ได้แก่ การเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง การกีดกันทางสังคม การกีดกันทางกฎหมาย (UNHCR, 2003)

องค์การอนามัยโลก จำาแนกประเภท ของความรุนแรงได้เป็น 3 ลักษณะได้แก่

หนึ่ง การกระทำาความรุนแรงต่อตนเอง ได้แก่ การฆ่าตัวตาย และการทำาร้ายตนเอง

สอง การกระทำาความรุนแรงต่อผู้อื่น ได้แก่ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวและคู่ครอง และความรุนแรงในชุมชน

สาม ความรุนแรงในสังคม เป็นความรุนแรงในสังคมที่กระทำาความรุนแรงโดยกลุ่มบุคคล หรือโดยรัฐ

14 ขอมูลเพิ่มเติม

ขอความในเอกสารนี้ไมเกี่ยวของกับการสะทอนมุมมองของหนวยงานผูสนับสนุนISBN 9786163310149