2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ ·...

32
1

Upload: others

Post on 11-Aug-2020

4 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

1

Page 2: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

2

ตารางวิเคราะหจุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผลที่เกิดกับผูเรียน กลุมสาระการเรียนรู วิทยาศาสตร ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 ชื่อหนวยการเรียนรู วิวัฒนาการ (Evolution) : วิถีแหงการอยูรอด สาระที่ ๑ ส่ิงมีชีวิตกับกระบวนการดํารงชีวิต มาตรฐาน ว ๑.๒ เขาใจกระบวนการและความสําคัญของการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช

เทคโนโลยีชีวภาพท่ีมีผลกระทบตอมนุษยและส่ิงแวดลอม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสตร ส่ือสาร ส่ิงท่ีเรียนรู และนําความรูไปใชประโยชน

สาระการเรียนรูแกนกลาง 1. ส่ิงมีชีวิตแตละสปชีสจะมีความหลากหลายท่ีแตกตางกัน ส่ิงมีชีวิตในสปชีสเดียวกันจะผสมพันธุและสืบลูกหลานตอไปได 2. การคัดเลือกตามธรรมชาติจะสงผลทําใหลักษณะพันธุกรรมของประชากรในกลุมยอยแตละกลุมแตกตางกันไปจนกลายเปน

สปชีสใหมทําใหเกิดเปนความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต ตัวชี้วัด ท่ี4. อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติตอความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต

จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. อธบิายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติและผลของการคดเลือกตามธรรมชาติตอความหลากหลาย ของสิง่มีชีวิต

ภาระงาน 1. กิจกรรมปากคีบและธัญพืช ช้ินงาน 1. Model ปากนกฟนซและอาหาร

การคัดเลือกโดยธรรมชาติทําใหประชากรท่ีมีลักษณะเหมาะสมกับสิ่งแวดลอมสามารถดํารงชีวิตและแพรพันธุประชากรในรุนตอไปได แตสําหรับประชากรท่ีไมเหมาะสมกับสิ่งแวดลอมนั้นก็จะถูกคัดท้ิงและลดจํานวนลงไป

1. สิ่งมีชีวิตจะเกิดปรับเปลี่ยน (adaptation) ใหมีลักษณะทางสรีระ พฤติกรรมและรูปแบบการดํารงชีวิตท่ีกลมกลืนกับสภาพแวดลอมท่ีอาศัยอยูเพื่อใหเกิดการอยูรอด

1. อธิบายความสัมพันธของปากคีบและธัญพืช 2. เช่ือมโยงการทดลองของปากคีบและธัญพืชสูการคัดเลือกทางธรรมชาติของนกฟนซ และสรุปเปนโมเดลได

1. ใฝเรียนรู 2. การสังเกต (Observation) 3. ความมีเหตุผล

Page 3: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

3

จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ช้ินงาน

สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด

ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค

2. สืบคน วิเคราะห การเกิดวิวัฒนาการมนุษยได

ภาระงาน 1. ใบงานเรื่อง “วิวัฒนาการมนุษย” ช้ินงาน 1. Mapping วิวัฒนาการมนุษย

มนุษยมีสายวิวัฒนาการมาจากสัตวกลุมไพรเมต (primate) ซึ่งถือเปนกลุมของสัตวเลี้ยงลูกดวยนมท่ีมีพัฒนาการสูงท่ีสุด การคนพบวิวัฒนาการมนุษยเริ่มจากสมัยไมโอซีน พบออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus) Homo habilis Homo erectus มนุษยนีแอนเดอรทัล (Neanderthal man) Homo sapiens

1. คนกับลิงมีวิวัฒนาการวมกัน แตคนไมไดพัฒนาการมาจากลิง 2. ไพรเมตกลุม ไดแก นางอายหรือลิงลม และลิงทารซิเออร (tarsier monkey) และไพรเมตอีกสายหนึ่งคือ แอนโทรพอยด (anthropoid) ไดแก ลิงมีหาง ลิงไมมีหางและมนุษย 3. มนุษยออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus)คือ ลูซี่ 4. มนุษย Homo habilis สามารถใชเครื่องมือได 5. Homo erectus คือมนุษยชวา รากศัพทมากจากลําตัวต้ังตรง

1. เขียน Mapping เรียงลําดับวิวัฒนาการของมนุษย 2. ยกตัวอยางของมนุษย สปซี่ตางๆ

1. การสํารวจ (Exploration) 2. การสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตร (Scientific Inquiry)

Page 4: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

4

จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ช้ินงาน

สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด

ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค

6. มนุษยนีแอนเดอรทัลอยูในสปชีสเดียวกันกับมนุษยปจจุบัน (Homo sapiens sapiens) แตแยกกันในระดับซับสปชีส

Page 5: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

5

จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ช้ินงาน

สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด

ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค

3. อภิปรายการศึกษาวิวัฒนาการผาน หลักฐาน ขอมูลตาง ๆ นําขอมูลทางพันธุศาสตร ประชากรและ ขอมูอื่น ๆ มาใชในการวิเคราะหแนวโนมการสูญพันธ ุ การเกิดสปชีส ใหมได

ภาระงาน 1. ใบงานหลักฐานวิวัฒนาการ ช้ินงาน 1.มโนทัศนหลักฐานวิวัฒนาการ

หลักฐานท่ีใชในการศึกษาวิวัฒนาการคือ 1. หลักฐานจากซากดึกดําบรรพของสิ่งมีชีวิต 2. ขอมูลสนับสนุนจากกายวิภาคเปรียบเทียบ 3. ขอมูลสนับสนุนจากคัพภะวิทยาเปรียบเทียบ 4. ขอมูลสนับสนุนทางชีวภูมิศาสตร 5. หลักฐานทางชีววิทยาระดับโมเลกุล

1. ซากดึกดําบรรพจะพบมากในหินช้ันหรือหินตะกอน 2. การเปรียบเทียบกายวิภาค แบงเปน 2 แบบคือโครงสรางของอวัยวะบางอยางคลายคลึงกันแมวาจะทําหนาท่ีแตกตางกันเรียก ฮอมอโลกัส (homologous structure)และโครงสรางท่ีมีลักษณะตางกันแตทําหนาท่ีเหมือนกันนี้วา อะนาโลกัส (analogous structure) 3. คัพภะวิทยา คือการเปรียบเทียบตัวออนของสิ่งมีชีวิต เรียกวา ทฤษฎีการยอนซ้ําลักษณะ

1. แยกประเภทของหลักฐาน วิวัฒนาการ 2. สรุป มโนทัศนเกี่ยวกับหลักฐานวิวัฒนาการ

1. การสังเกต (Observation) 2. วิเคราะหขอมูล

Page 6: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

6

จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ช้ินงาน

สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด

ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค

(Theory of Recapitulation) 4. ชีวภูมิศาสตร การศึกษาถิ่นท่ีอยูอาศัย สมมติฐานเรื่องแผนดินอาจตอเนื่องเปนผืนเดียวกัน 5. ชีววิทยาระดับโมเลกุล การศึกษาลําดับเบสในดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตแตละชนดิ

Page 7: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

7

แผนการจัดการเรียนรูแบบการสืบเสาะหาความรู 5 ข้ัน หนวยการเรียนรูวิวัฒนาการ (Evolution) : วิถีแหงการอยูรอด

Page 8: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

8

แผนการจัดการเรียนรู ที่ 1 ปรับตัว เพ่ือรอดตาย

กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร รหัสวิชา ว 40243 รายวิชาชีววิทยา หนวยการเรียนวิวัฒนาการ (Evolution) : วิถีแหงการอยูรอด เวลา 6 ชั่วโมง ผูเขียนแผน กมลรัตน ฉิมพาล ี เวลา 2 ชั่วโมง สาระสําคัญ การคัดเลือกโดยธรรมชาติถือเปนกลไกพ้ืนฐานของการเกิดวิวัฒนาการรวมกับกลไกอ่ืนๆ การคัดเลือกโดยธรรมชาติทําใหประชากรท่ีมีลักษณะเหมาะสมกับส่ิงแวดลอมสามารถดํารงชีวิตและแพรพันธุประชากรในรุนตอไปได แตสําหรับประชากรท่ีไมเหมาะสมกับส่ิงแวดลอมนั้นก็จะถูกคัดท้ิงและลดจํานวนลงไป ทําใหส่ิงมีชีวิตท่ีถูกคัดเลือกใหเหลืออยูเกิดวิวัฒนาการโดยปรับเปล่ียน (adaptation) ใหมีลักษณะทางสรีระ พฤติกรรมและรูปแบบการดํารงชีวิตท่ีกลมกลืนกับสภาพแวดลอมท่ีประชากรนั้นอาศัยอยู 2. จุดประสงคการเรียนรู

1. อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติตอความ หลากหลายของส่ิงมีชีวิต (K)

2. ทักษะการสังเกต ทักษะการใชเหตุผล (P) 4. มีความกระตือรือรนท่ีจะคนควาหาความรู (A)

3. สาระการเรียนรู

1. การคัดเลือกตามธรรมชาต ิ2. ตัวอยางของส่ิงมีชีวิตในการคัดเลือกตามธรรมชาต ิ

Page 9: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

9

4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู

7E ครู นักเรียน 1. เราความสนใจ(engage) 1. นําเสนอภาพส่ิงมีชีวิตตางๆ

จากนั้นนําเสนอภาพนก ท่ีมีลักษณะปากแตกตางกัน ตั้งคําถามวา เหตุใดนกแตละชนิดจึงมีลักษณะปากท่ีแตกตางกัน(ไมเฉลยคําตอบ)

1. ศึกษาภาพท่ีครูนําเสนอ 2. แสดงความคิดเห็น

2. สํารวจคนหา(explore) 1.จัดเตรียมปากคีบท่ีหลากหลายลักษณะ เชน

2. ธัญพืช 4 ชนิด เมล็ดฟกทอง เมล็ดแมงลัก ผลพุทรา และถ่ัว 3. แผนท่ีเปนหมูเกาะ 4 หมูเกาะ 4. วางธัญพืชแตละชนิดในแตละเกาะ 5. ใหนักเรียนแบงกลุม 6.อธิบายใหนักเรียนเลือกใชปากคีบท่ีเหมาะสมกับธัญพืชของแตละเกาะ

1. ฟงคําอธิบาย 2. แบงกลุมเทาๆกันใหได 5 กลุม 3. ลงมือปฏิบัติกิจกรรม 3) เม่ือปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแลวชวยกันเขียนรายงานการปฏิบัติกิจกรรม

3. อธิบาย (explain) 1) ถามกลุมท่ี 1 2 3 4 วาเลือกใชปากคีบอันไหนกับธัญพืชกลุมละชนิด เพราะอะไร ถาใชอันอ่ืนไดไหม ได/ไมได เพราะ

1) นักเรียนแตละกลุมชวยกันตอบคําถามแสดงความคิดเห็น

Page 10: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

10

7E ครู นักเรียน 2) ถามกลุมท่ี5 มีความแตกตาง

หรือคลายคลึงในการเลือกของกลุมไหนบาง คิดวาเพราะอะไร

4. ขยายความรู(elaborate) 1) แจกใบความรูเรื่องเกาะกาลาปากอสใหแตละกลุม ชวยกันศึกษาและหาคําตอบ 2) ใหเช่ือมโยงกิจกรรมท่ีปฏิบัติกับใบงานท่ีอาน 3) ใหแตละกลุมเสนอวิธีท่ีจะสรุปเรื่องท่ีเรียน เพ่ือนําไปจัดทําใหเรียบรอยและสงคร ู4) แจกแบบทดสอบ

1) ศึกษาใบความรู 2) ตอบคําถามในใบงาน 3) สรุปความรูดวยวิธีตางๆ เชน มโนทัศน, Mapping, แผนพับ,หนังสือเลมเล็ก 4) ทําแบบทดสอบ

5. ส่ือและแหลงการเรียนรู ส่ือการเรียนรู

1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรูพ้ืนฐานและเพ่ิมเติม ชีววิทยา เลม 5 2. เอกสารเรื่องปรับตัว เพ่ือรอดตาย 3. ใบกิจกรรมท่ี 1 เรื่องปากคีบกับธัญพืช 4. ใบกิจกรรมท่ี 2 เรื่องNatural Selection

แหลงเรียนรู

1. หองสืบคนขอมูลออนไลน เว็บไซต http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less5_2.html# http://www.ipecp.ac.th/cgi-binn/BP1/Program/chapter2/p2.html http://www.i-creativeweb.com/demo/biology/index.php?option= com_content&view=category&layout=blog&id=45&Itemid=112&limitstart=10 http://users.rcn.com/jkimball.ma.ultranet/BiologyPages/S/Speciation.html

Page 11: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

11

http://www.truthnet.org/Christianity/Apologetics/Evolutiontrue4/ และ http://mindfultourist.com/2009/10/13/galapagos-people-or-eco-system-and-do-we-have- to-choose/ http://www.huntzinger.com/galapagos.html http://www.houstonzooblogs.org/zoo/tag/galapagos-islands/

6. การวัดและการประเมินผล ส่ิงที่ตองประเมิน

ประเด็นการประเมิน หลักฐาน/วิธีการ/เคร่ืองมือ เกณฑการผาน ผูประเมิน

ดานความรู 1. อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติตอความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต (K)

แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรม

1. นักเรียนมีผลการประเมินระดับพอใชขึ้นไป

คร ู

ดานทักษะ 2. ทักษะการสังเกต ทักษะการใชเหตุผล (P)

การตรวจใบงานท่ี 1

1. นักเรียนทําใบงานไดถูกตองอยางนอยรอยละ 80

คร/ูนักเรียน

ดานเจตคต ิ(เง่ือนไขคุณธรรม)

3. มีความกระตือรือรนท่ีจะคนควาหาความรู (A)

แบบประเมินพฤติกรรมการเรียน

1. นักเรียนมีผลการประเมินระดับพอใชขึ้นไป

คร ู

Page 12: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

12

แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรม ช่ือกลุม …………………………

ที่ รายงานประเมิน ระดับคุณภาพ หมายเหต ุ1 ปฏิบัติงานถูกตามขั้นตอน 3 2 1 2 การแสดงความคิดเห็นและสรุปความคิดเห็น

ภายในกลุม

3 การแกปญหาระหวางการทํางาน 4 ตั้งใจและมีสวนรวมในการทํางาน 5 ทํางานเสร็จตรงเวลาท่ีกําหนด

รวม คะแนนเฉลี่ย

เกณฑการประเมิน 3 = ด ี 2 = พอใช 1 = ควรปรับปรุง

ลงช่ือ ………………………………. ผูประเมิน (…………………..…………………. ) วันท่ี……… เดือน ……………………พ.ศ. ……….

Page 13: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

13

แบบประเมินพฤติกรรมการทํางาน

เลขที-่ชื่อ

รายการประเมิน

รวมคะแนน

มีความ

กระต

ือรือร

นในการ

แสงห

าคว

ามรู

ซักถาม

เพื่อหา

เหตุผล

และ

คําตอบ

สน

ใจศึกษ

าเรีย

นรูเพิ่ม

เติม

มีความ

พยายา

มแล

ะทํางา

นเสร็จ

ตามกําห

นด

ชวยเห

ลือการ

ศึกษา

เรียนรู

ขอ

งเพื่อน

1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11.

เกณฑการประเมิน ประเมินพฤติกรรมการทํางาน องคประกอบที่ 1 มีความกระตือรือรนในการแสวงหาความรู 4 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดีมาก มีสวนรวมในกิจกรรม

การเรียนรูอยางขมีขมันทุกขั้นตอน 3 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดี มีสวนรวมในกิจกรรม

การเรียนรูดวยความตั้งใจทุกขั้นตอน 2 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดีพอสมควร มีสวนรวมในกิจกรรม เกือบทุกขั้นตอน 1 หมายถึง สนใจและมีสวนรวมในกิจกรรมการเรียนรูนอย

Page 14: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

14

องคประกอบที่ 2 ซักถามเพ่ือหาเหตุผลและคําตอบ 4 หมายถึง ซักถามเพ่ือหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ ใชคําถามท่ีแสดง

ความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดดีมาก 3 หมายถึง ซักถามเพ่ือหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ ใชคําถามท่ีแสดง

ความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดด ี2 หมายถึง ซักถามเพ่ือหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ ใชคําถามท่ีแสดง

ความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดพอใช 1 หมายถึง มีการซักถามเพ่ือหาเหตุผลและคําตอบนอยมาก

องคประกอบที่ 3 สนใจหาความรูเพ่ิมเติม

4 หมายถึง ศึกษาคนควาเพ่ิมเติมจากเอกสารและหาขอมูล ขอเท็จจริงตางๆ ท่ีเกี่ยวของกับเรื่องท่ีศึกษาอยางตอเนื่อง

3 หมายถึง ศึกษาคนควาเพ่ิมเติมจากเอกสารและหาขอมูล ขอเท็จจริงตางๆท่ีเกี่ยวของกับเรื่องท่ีศึกษาหลายครั้ง

2 หมายถึง ศึกษาคนควาเพ่ิมเติมจากเอกสารและหาขอมูล ขอเท็จจริงตางๆท่ีเกี่ยวของกับเรื่องท่ีศึกษาเปนบางครั้ง

1 หมายถึง ไมสนใจศึกษาหาความรูเพ่ิมเติม องคประกอบที่ 4 มีความพยายามและทํางานสําเร็จตามกําหนด 4 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาท่ีกําหนด

3 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาท่ีกําหนด โดยเพ่ิมเวลาให อีกเล็กนอย 2 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาท่ีกําหนด ตองเพ่ิมเวลา

ใหอีกมากกวา 1 ครั้ง 1 หมายถึง ไมตั้งใจทํางานใหเสร็จตามท่ีกําหนด

Page 15: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

15

องคประกอบที่ 5 ชวยเหลือการศึกษาเรียนรูของเพ่ือน 4 หมายถึง ชวยเหลือเพ่ือนดวยการสอน แนะนํา เสนอแนะวิธีการปฏิบัติเพ่ือใหเพ่ือนได

เรียนรูไปพรอมๆ กับตนดวยความเต็มใจ 3 หมายถึง ชวยเหลือเพ่ือนมาก แตชวยในลักษณะแบบบอกความรู หรือทําใหเพ่ือน

มากกวาชวยใหเพ่ือนไดเรียนรู 2 หมายถึง ใหความชวยเหลือเพ่ือนบางเล็กนอย และชวยในลักษณะบอกความรู หรือทํา

ใหเพ่ือนมากกวาชวยใหเพ่ือนไดเรียนรู 1 หมายถึง ไมใหมีความชวยเหลือการศึกษาเรียนรูของเพ่ือน หรือใหความชวยเหลือ นอยมาก

เกณฑการตัดสินผลการเรียน คะแนน ผลการประเมิน

0-4 คะแนน ปรับปรุง 5-10 ผานเกณฑ 11-15 พอใช 16-20 ดี

Page 16: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

16

1. วิวัฒนาการและความหลากหลายทางชีวภาพ

วิวัฒนาการถือเปนหัวใจท่ีสําคัญของชีววิทยา ท้ังนี้เนื่องจากปรากฏการณตางๆท่ีเกิดขึ้นในทางชีววิทยาสามารถท่ีจะอธิบายไดโดยอาศัยหลักวิวัฒนาการ กลาวอีกนัยหนึ่งก็คือปรากฏการณทางชีววิทยาท้ังหลายลวนแลวแตมีมูลเหตุมาจากการวิวัฒนาการ วิชาวิวัฒนาการ (Evolutionary biology) มีจุดกําเนิดมาจากแนวคิดของนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษช่ือ ชารล ดารวิน (Charles Darwin) (ภาพท่ี 1ก) ซ่ึงไดตีพิมพแนวคิดผานทางหนังสือช่ือ On the origin of species by means of natural selection ในป ค.ศ. 1859

(ก) (ข)

ภาพที่ 1 (ก) ชารล ดารวิน (1809 - 1882) (ข) หนังสือท่ีตีพิมพแนวคิดวิวัฒนาการของดารวิน (ท่ีมา Cambell and Reece, 2002)

โดยผลงานของดารวินเกิดจากการเก็บรวบรวมขอมูล การทําการทดลอง และการศึกษาคนควาเอกสารตําราตางๆมากมาย โดยชวงเวลาท่ีสําคัญท่ีสุดชวงหนึ่งคือการเดินทางออกสํารวจกับเรือหลวง Beagle จากการเดินทางสํารวจทําใหดารวินสังเกตเห็นความแตกตางแปรผันของส่ิงมีชีวิตในแตละภูมิภาค สถานท่ีหนึ่งท่ีสังเกตเห็นการเปล่ียนแปลงท่ีเดนชัดคือนกฟนสจากหมูเกาะกาลาปากอส (Galapagos) ซ่ึงอยูทางทิศตะวันตกของชายฝงอเมริกาใต โดยดารวินไดสังเกตเห็นความแตกตางของนกท่ีมาจากเกาะตางๆซ่ึงแมจะมีความคลายคลึงกันซ่ึงแสดงใหเห็นวามีความสัมพันธกันแตนกเหลานี้ก็มีความแตกตางกันมากจนถือเปนคนละสปซีส

เอกสารประกอบการเรียนรูเรื่อง ปรับตัว เพื่อรอดตาย

Page 17: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

17

ดารวินพยายามหาคําอธิบายปรากฏการณท่ีเกิดขึ้นและไดแนวคิดวาส่ิงมีชีวิตเหลานี้นาจะเกิดจากการปรับตัว (adaptation) เพ่ือใหเหมาะสมกับสภาพแวดลอมท่ีอยูอาศัยท่ีแตกตางกันออกไปในแตละพ้ืนท่ี เชน ขนาดปากของนกฟนสดูเหมือนจะมีความสัมพันธกับอาหารท่ีนกกินในแตละหมูเกาะท่ีนกอาศัยอยู โดยส่ิงแวดลอมเหลานี้ (เชน อาหาร) จะเปนตัวคัดเลือกลักษณะท่ีมีความเหมาะสมตอสภาพแวดลอมนั้นๆ (ท่ีมา : http://cyberclass.msu.ac.th/cyberclass/cyberclass-uploads/libs/html/44079/u106.html)

กาลาปากอส มาจากคําวา galapago ซ่ึงเปนภาษาสเปนหมายถึง เตาบก (tortoise) ซ่ึงก็คือสัตวท่ี พบห็นไดมากบนเกาะนี ้ เกาะกาลาปากอสนั้นมีสภาพโดยท่ัวไปแหงแลงและกันดาร เปนท่ีท่ีกระแสน้ําเย็นไหลมาพบกับกระแสน้ําอุน จึงทําใหสามารถพบส่ิงมีชีวิตไดท้ังประเภทท่ีชอบน้ําเย็น เชน สิงโตทะเลและเพ็นกวิน รวมท้ังสัตวท่ีชอบน้ําอุนก็หาไดบนเกาะนี้อีกเชนกัน ที่นี่จึงเปนแหลงรวมพันธุพืชและสัตวจํานวนมากหลากหลายสปชีส มีสายพันธุส่ิงมีชีวิตแปลกๆ แทบจะไมสามารถพบไดที่ไหนในโลก ท้ังแบบท่ีเช่ืองนารัก และมองดูดรายนากลัว อาทิ เตากระดอง (Galapagos Tortoise) ท่ีมีน้ําหนักมากถึง 200-500 ปอนด กิ่งกา (iguana) สิงโตทะเล (Galapagos Sea-lion)นกนานาชนิด โดยเฉพาะนกฟนซ

ภาพท่ี 2 Giant Galapagos tortoises

ท่ีมา progresoverde.org

Page 18: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

18

ภาพท่ี 3 Galapagos Marine Iguana

ท่ีมา worldtimezone.com

ความ “พิเศษ” ของส่ิงมีชีวิตท่ีกาลาปากลอสทําให ดารวินรูสึกตื่นเตนมากท่ีไดเห็น ดารวินพบวามีนกสปชีสเดียวกันแมวามันจะมีตนกําเนิดจากแหลงเดียวกันก็ตาม แตมันกลับมีลักษณะที่แตกตางกันไปเล็กนอย นกฟนช(finch) ชนิดหนึ่งบนกาลาปากอส ท่ีดารวินเคยสนใจศึกษาเปนพิเศษ เขาไดแบงวาเจานกชนิดนี้มีความแตกตางกันไปในแตละเกาะถึง 13 แบบ ซ่ึงส่ิงท่ีทําใหพวกมันแตกตางกันนั้น ก็ผันแปรไปตามส่ิงแวดลอมบริเวณท่ีนกพวกนั้นอาศัยอยู อยางรูปทรงของจงอยปากที่แตกตางกันในนกสปชีสเดียวกัน ที่เปนผลมาจากเมล็ดพืช ที่เปนอาหารของนกที่อยูบนแตละเกาะ

ภาพท่ี 4 Finches from the Galapagosท่ีมา www.dls.ym.edu.tw

Page 19: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

19

ดารวินจึงไดขอสรุปซ่ึงนับเปนการนําไปสูการอธิบายทฤษฎีวิวัฒนาการ วา ในอดีตกาลเม่ือบรรพบุรุษของนกไดมาจากทวีปอเมริกาใต แลวมาแพรพันธยังเกาะตางๆของหมูเกาะกาลาปากอส ซ่ึงมีสภาพแวดลอมแตกตางกัน นกชนิดใดท่ีสามารถปรับตัวใหอยูรอดในสภาพแวดลอมได มันก็จะอยูรอด สามารถแพรพันธุตอไปได มันจะคอยเกิดกลายกลายพันธุจากรุนสูรุนอยางชาๆ แบบท่ีเรียกวา “กลายพันธุ” และเม่ือการกลายพันธุท่ีวานี้เกิดขึ้นอยางตอเนื่องยั่งยนืมันก็จะกลายเปนวิวัฒนาการท่ีเรียกวา “การปรับตัวสืบทอด (descent with modification)” สวนตัวใดท่ีไมสามารถปรับตัวได มันก็จะคอยๆหายไป และสูญพันธุลงในท่ีสุด ซ่ึงกลไกท่ีคอยคัดสรรวาสัตวใดจะอยู สัตวใดจะไป นั้นก็คือส่ิงท่ีดารวินเรียกวา “การคัดเลือกตามธรรมชาติ (natural selection)” นั่นเอง

ความแตกตางไดแฝงตัวอยูในส่ิงมีชีวิต ทําใหพวกมันสามารถปรับตัวและแพรพันธุสืบทอดสูรุนตอๆไป ซ่ึงกุญแจสําคัญท่ีทําใหส่ิงมีชีวิตชนิดเดียวกันมีความแตกตางกันก็คือ สภาพแวดลอมท่ีตางกันนั่นเอง หรือท่ีจะกลาววา "สภาพแวดลอมไมใชส่ิงท่ีทําใหเกิดการผันแปรของส่ิงมีชีวิต หากแตความผันแปรเหลานั้นมีอยูในทุกชีวิตอยูแลว ธรรมชาติจึงทําหนาท่ีเปนเพียงผูคัดสรร" (ท่ีมา : http://www.vcharkarn.com/varticle/39371)

วิวัฒนาการและการคัดเลือกโดยธรรมชาต ิ

ทฤษฎีวิวัฒนาการของชารล ดารวิน อธิบายถึงกลไกของการวิวัฒนาการวาเปนผลมาจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติทําใหเกิดการปรับเปล่ียนของลูกหลานท่ีเกิดขึ้นมาใหม (descent with modification) ดารวินอธิบายวาส่ิงมีชีวิตทุกชนิดบนโลกลวนสืบเผาพันธุมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน โดยการเปล่ียนแปลงวิวัฒนาการเปนกลไกท่ีทําใหเกิดความแตกตางแปรผันของส่ิงมีชีวิตตางๆดังท่ีเราเห็นในปจจุบันนี้ กระบวนการท่ีทําใหเกิดความแตกตางแปรผันก็คือการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (natural selection) ซ่ึงทําใหเกิดการปรับตัว (adaptation) ของส่ิงมีชีวิตจนกระท่ังเปล่ียนแปลงเปนส่ิงมีชีวิตชนิดใหมขึ้นมาโดยอาศัยกลไกดังกลาวรวมกับระยะเวลาท่ียาวนานนับตั้งแตส่ิงมีชีวิตชนิดแรกกําเนิดบนโลกเม่ือ 3.5 ถึง 3.8 พันลานปท่ีผานมา จึงทําใหเกิดความหลากหลายทางชีวภาพดังท่ีปรากฏบนโลกในปจจุบันนี้ ดารวินกลาวเปรียบเทียบการวิวัฒนาการวาเปรียบเสมือนตนไมท่ีมีการแตกกิ่งกานสาขาออกจากลําตนซ่ึงเปรียบเสมือนการเกิดสปซีสใหมท่ีมีตนกําเนิดมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน ปจจัยท่ีทําใหเกิดกลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติและการปรับตัวมีดังตอไปนี้ ส่ิงมีชีวิตท่ัวไปมีศักยภาพในการสืบพันธุสูง กลาวคือส่ิงมีชีวิตสวนใหญใหกําเนิดลูกมากเกินกวาท่ีทรัพยากรจะรองรับไดเนื่องจากทรัพยากร เชน อาหาร ท่ีอยูอาศัย มีอยูอยางจํากัด จึงนําไปสูการแกงแยงเพ่ือการอยูรอด หรือคํา

Page 20: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

20

ของดารวินก็คือ “struggle for existence” ซ่ึงจะมีเพียงบางสวนของประชากรเทานั้นท่ีสามารถดํารงอยูได โดยท่ัวไปในประชากรของส่ิงมีชีวิตจะมีความแปรผันและลักษณะท่ีแปรผันบางลักษณะในประชากรมีความเหมาะสมกับสภาพแวดลอมมากกวาจึงทําใหการแกงแยงเพ่ือการอยูรอดนั้นดีกวาลักษณะอ่ืนๆ กลาวอีกนัยหนึ่งก็คือประชากรท่ีปรับตัวไดดีกวาจะมีโอกาสในการอยูรอดและการสืบพันธุท่ีดีกวา (คําศัพทท่ีอธิบายถึงโอกาสในการอยูรอดและการสืบพันธุคือ ฟตเนส (fitness)) เม่ือเวลาผานไปลักษณะท่ีเปนลักษณะท่ีเหมาะสมกับสภาพแวดลอมดังกลาวก็จะเพ่ิมขึ้นในประชากรและเม่ือลักษณะท่ีถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติสะสมมากขึ้นเรื่อยๆในประชากรเม่ือเวลาผานไปก็จะนําไปสูการเกิดสปซีสใหม (speciation) ในท่ีสุด

2. ตัวอยางการปรับตัวของส่ิงมีชีวิต

ในส่ิงมีชีวิตทุกชนิด ความสามารถในการสืบพันธุจะเพ่ิมจํานวนไดสูงมาก หากไมมีปจจัยท่ีจํากัด การเพ่ิมจํานวนแลวส่ิงมีชีวิตท้ังหลายคงจะลนโลก แตตามท่ีเปนจริงจํานวนของส่ิงมีชีวิตคอนขางจะคงท่ี เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (naturalselection)ซ่ึงอาศัยหลักเกณฑพ้ืนฐานวา จะไมมีลักษณะทางกรรมพันธุชุดเดียวท่ีเหมาะสมตอสภาพความเปนอยูของ ส่ิงมีชีวิตในแตละแหลงท่ีอยูอาศัย ฉะนั้นการคัดเลือกโดยธรรมชาติ จึงตองมีปจจัยสําคัญ คือ ความสามารถในการสืบพันธุ ของส่ิงมีชีวิต เพ่ือการถายทอดลักษณะแตกตางท่ีเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และส่ิงมีชีวิตนั้นตองอยูใตอิทธิพลของส่ิงแวดลอม ผลของการคัดเลือกโดยธรรมชาติจะไดส่ิงมีชีวิตท่ีมีลักษณะ สปชีสเดียวกัน ท่ีมีความแตกตางกัน อยางเห็นไดชัดทางกรรมพันธุ ซ่ึงเรียกวาโพลีมอรฟซึม(polymorphism)

Page 21: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

21

ตัวอยางเชน สีและลวดลายบนเปลือกหอย : หอยชนิด Cepaea nemoralis เปลือกมีสีเหลือง นํ้าตาลชมพู สมแดง และยังมีชนิดท่ีมีลวดลาย เปนเสนพาดไปตามเปลือกจากการศึกษาพบวาในแหลงท่ีอยูท่ีมีลักษณะเรียบๆ เชนบริเวณโคลนตมหรือทรายจะพบหอย ท่ีมีลักษณะเปลือกเปนสีเรียบๆมากกวาลักษณะอ่ืนๆ สวนในปาหญาจะพบวามีหอยท่ีเปลือกลายมากกวาลักษณะอ่ืน แตในท่ีบางแหงก็พบหอย ท้ังเปลือก มีลายและหอยเปลือกสีเรียบอยูในท่ีเดียวกันซ่ึงพบวาหอยเปลือกสีเรียบมีความทนทาน ตอการเปล่ียนแปลงอุณหภูมิไดดีกวาหอยเปลือกลายดังนั้นนอกจากความสัมพันธของเหยื่อและผูลาแลว ยังนาจะเกี่ยวของกับการปรับตัวทางสรีระอีกดวย

ภาพท่ี 5 หอย Cepaea nemoralis ท่ีมีลายเปลือกตางกัน ท่ีมา : http://www.sbp.univ-rennes1.fr และ http://www.tiscali.co.uk

Page 22: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

22

ภาพท่ี 6 ลายเปลือกของหอยท่ีไมเหมาะสมกับส่ิงแวดลอมอาจจะไมจะพนอันตรายจากผูลา ท่ีมา www.il.mahidol.ac.th/course/ap_biology2/chapter6/index.html

ภาพท่ี 7 สีของแมลงท่ีไมเหมาะสมกับส่ิงแวดลอม จึงถูกนกจับกินเปนอาหาร ท่ีมา http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less5_2.html#

Page 23: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

23

สีของผีเส้ือกลางคืน ผีเส้ือกลางคืนชนิด Bristom betularia ซ่ึงมีอยูมากในประเทศอังกฤษ อาศัยอยูตามตนไมท่ีมีไลเคนส เกาะอยูเต็ม สีตัวของมันจึงเปนสีออนจางซ่ึงชวยใหมันอําพรางตัวไดดี จนกระท่ังประมาณป 1845 ซ่ึงเปนชวงปท่ีมี การปฏิวัติ อุตสาหกรรมในเขตเมือง จะมีเขมาควัน จากปลองควันของโรงงานอุตสาหกรรมฟุงกระจายไปท่ัวในอากาศ เริ่มมีผูพบผีเส้ือกลางคืนสปชีส เดียวกันนี้แตมีสีดําเขมขึ้นกวาเดิมปรากฏขึ้นในเขตเมืองแมนเชสเตอร ซ่ึงเปนเขตท่ีมีการอุตสาหกรรมใหญ และมีกลุมควันจากโรงงาน อุตสาหกรรม ทําลายพวกไลเคนสตามเปลือกไม และทําใหตนไมมีสีดําเต็มไปหมดตอมาในชวงเวลาไมถึงรอยปพบผีเส้ือกลางคืนท่ีมีสีดําเพ่ิมขึ้น อยางรวดเร็ว จนเกือบท้ังหมด เปนผีเส้ือสีดํา

A สีออนจาง B สีดํา

ภาพท่ี 8 การปรับตัวของผีเส้ือ อางอิงจาก : http://en.wikipedia.org/wiki/Peppered_moth

Page 24: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

24

นอกจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติแลวกลไกของวิวัฒนาการที่สําคัญยังประกอบไปดวย

1. การผาเหลาทางพันธุกรรม การผาเหลา (mutation) เปนปรากฏการณท่ีเกิดขึ้นตามธรรมชาติของส่ิงมีชีวิตการผาเหลาหรือมิวเทชัน มีท้ังท่ีเกิดกับเซลลรางกาย ซ่ึงเรียกวา โซมาติคมิวเทชัน (somatic mutation) และท่ีเกิดกับเซลลสืบพันธุ เรียกวา แกมีติคมิวเทชัน (gameticmutation) มิวเทชันท่ีมีผลตอขบวนการวิวัฒนาการมาก คือ มิวเทชันท่ีเกิดกับเซลลสืบพันธุ เนื่องจากสามารถถายทอดไปสูรุนตอๆไปได มิวเทชันทําใหเกิดการแปรผัน ทางพันธุกรรม นอกจากนั้นในกระบวนการ สืบพันธุแบบอาศัยเพศ จะมีการแบงเซลลดวยวิธีไมโอซิส เพ่ือสรางเซลลสืบพันธุ ในกระบวนการไมโอซิสจะมีครอสซิงโอเวอร (crossing over) โดยมีการ แลกเปล่ียนช้ินสวนของโฮโมโลกัสโครโมโซมซ่ึงมีผลทําใหอัลลีลของยีน เกิดการเปล่ียนตําแหนงได รวมท้ังการรวมกลุมกันอยางอิสระ ของโครโมโซม ท่ีแยกตัวจากคูของมันแลวเปนผลใหยีนตางๆ ได รวมกลุมกันใหมในแตละรุน ดังนั้น การสืบพันธุแบบอาศัยเพศจึงชวยใหยีนตางๆ ท้ังเกาและใหม ไดมีโอกาส รวมกลุมกัน (gene recombination) ในรูปแบบตางๆ ท้ังขบวนการมิวเทชันและขบวนการ สืบพันธุแบบอาศัยเพศเปนสาเหตุท่ีทําให ส่ิงมีชีวิตเกิดความแปรผัน ทางพันธุกรรมอยางมากมาย

2. การอพยพของสมาชิกประชากร

ส่ิงมีชีวิตบางชนิดมีการอพยพเขาหรือออกของสมาชิก สงผลให มีการหมุนเวียนพันธุกรรมหรือท่ีเรียกวา การไหลของยีน (gene flow) เกิดขึ้นระหวาง ประชากรยอยๆ ซ่ึงการอพยพจะทําใหสัดสวนของอัลลีลเปล่ียนแปลงไป ในประชากรท่ีมีขนาดใหญมากๆ การอพยพเขาหรืออพยพออกของสมาชิก อาจจะเกือบไมมีผลตอสัดสวนของยีนในกลุมประชากรเลย แตถาประชากรมีขนาดเล็ก เม่ือมีสมาชิกอพยพออกไปทําใหกลุมประชากรสูญเสียยีนบางสวน ทําใหมีโอกาสในการถายทอดหรือแลกเปล่ียนยีนกับกลุมยีนนั้นนอยลงไป หรือไมมีโอกาสเลยในทางกลับกัน การอพยพเขาของประชากร ในกลุมประชากรขนาดเล็ก จะทําใหเกิดการเพ่ิมพูนบางสวน หรือบางยีนใหมเขามาในประชากร มีผลทําใหเกิดความแปรผันทางพันธุกรรมของประชากร

3. ขนาดของประชากร การเปล่ียนแปลงขนาดของประชากร มีบทบาทสําคัญตอการเปล่ียนแปลงความถ่ียีนและ

โครงสรางของ ยีนพูล (gene pool) ซ่ึงเกิดจากโอกาส หรือความบังเอิญ หรือจากภัยธรรมชาติ ประชากรท่ีมี ขนาดใหญและมีการผสมพันธุแบบสุม จะไมพบวามีการเปล่ียนแปลง ความถ่ีของยีน มากมายอยาง มี

Page 25: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

25

นัยสําคัญ แตถาเปนประชากรขนาดเล็กจะมีผลอยางมาก การเปล่ียนแปลงผกผันทางพันธุกรรม อยางฉับพลันอยางไมมีทิศทางแนนอน หรือการเปล่ียนแปลงความถ่ีของยีนอยางฉับพลันโดยเหตุบังเอิญ ตามธรรมชาติท่ีเกิดขึ้นแบบสุม ไมสามารถคาดการณทิศทางการเปล่ียนแปลงความถ่ี ของยีนไดแนนอน เชนนี้ เรียกวา เจเนติก ดริฟต (genetic drift) เปนกลไกท่ีสําคัญอยางหนึ่งท่ีทําใหความถ่ีของยีน มีการเบ่ียงเบน จนเกิดการเปล่ียนแปลง ความถ่ีของยีน ตัวอยางของปรากฏการณนี้ไดแก วิวัฒนาการ ของสัตวชนิดใหมท่ีเกิดขึ้นตามหมูเกาะตางๆ ในมหาสมุทรแปซิฟก ดังตัวอยางของแมลงหวี่ชนิดตางๆ ท่ีเกิดบนหมูเกาะฮาวาย หมายเหต ุ : gene pool หมายถึง ยีนโดยรวมซ่ึงแลกเปล่ียนกันระหวางส่ิงมีชีวิต โดยเฉพาะ ในเผาพันธุเดียวกัน เปรียบเหมือนมีบอของยีน ซ่ึงส่ิงมีชีวิตนํามาฝากและนําไปใช

รูปท่ี 2.18 ภาพแสดงปรากฏการณ เจเนติกดริฟต ของแมลงหวี ่ ที่มา : http://evolution/Berkeley/edu

Page 26: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

26

ใบกิจกรรมที่ 1 เร่ืองปากคีบกับธัญพืช วันท่ี...........เดือน............................พ.ศ.................... สมาชิกกลุมท่ี.......ไดแก 1. ………………………………………………… เลขท่ี…… 2............................................................................. เลขท่ี........ 3............................................................................ เลขท่ี....... 4............................................................................ เลขท่ี.......

วัสดุและอุปกรณ 1. 2. 3. 4. วิธีการทดลอง 1. 2. 3. บันทึกผลการทดลอง

เกาะ ธัญพืช คีมที่ใช

Page 27: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

27

สรุปผลการทดลอง .............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 28: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

28

ใบกิจกรรมที่ 2 เร่ือง Natural Selection

1. ใหนักเรียนวิเคราะหแนวโนมของประชากรตะบองเพชร จากภาพดังกลาว พรอมอธิบายเหตุผล

.............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. 2. ในภาพคือนกในอดีตและนกปจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางรูปราง ใหนักเรียนชวยกันเติมลักษณะส่ิงแวดลอมที่ทําใหนกมีลักษณะแบบนกปจจุบัน

.............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

1. อาศัยอยูใกลแมน้ํา 2. กินพืชน้ํา 3. มีผูลาท่ีอาศัยบนบก 4. อพยพเปนระยะทางท่ีไกลมากในแตละป

นกในอดีต นกในปจจุบัน

Page 29: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

29

แนวทางการตรวจคําตอบใบกิจกรรมที่ 1 1. นักเรียนบันทึกขอมูลครบถวนและสามารถสรุปไดวาการเลือกปากคีบขึ้นอยูกับลักษณะของธัญพืช (ขึ้นอยูกับดุลยพินิจของผูตรวจ)

แนวทางการตรวจคําตอบใบกิจกรรมที่ 2

1. แนวโนมลักษณะตะบองเพชรจะมีหนาม เพ่ือปองกันสัตวกัดกิน 2. นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะตางๆไดอยางสอดคลอง ลักษณะละ 1 คะแนน เหตุผลสนับสนุน ขอละ 1 คะแนน เชน ปกมีขนาดส้ันและบางลง เนื่องจาก ไมตองอพยพเปนระยะทางไกลเทาเดิม (1 คะแนน) (1 คะแนน) เนนใหนักเรียนอธิบายลักษณะกับสภาพแวดลอมอยางสมเหตุสมผล

Page 30: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

30

แบบทดสอบทายบท

1. ขอความที่สอดคลองกับวิวัฒนาการมากที่สุดคือขอใด? 1. การเปล่ียนแปลงของส่ิงมีชีวิตจากแบบงายๆไปซับซอนขึ้น 2. การเปล่ียนแปลงของส่ิงมีชีวิตมักมีโครงสรางใหมเกิดขึ้นเสมอ 3. การเปล่ียนแปลงของส่ิงมีชีวิตมีทิศทางท่ีไมแนนอน 4. การเปลี่ยนแปลงของส่ิงมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงอยางคอยเปนคอยไป สืบเนื่องกันตลอดเวลา

2. การเกิดวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิตนอกจากเกิดจากการคัดเลือกตามธรรมชาติแลว ยังอาจเกิดจากกลไกตางๆ ยกเวนขอใด? 1. การลอยหางจากกันทางพันธุกรรม (genetic drift) 2. การถายเทเคล่ือนยายยีน (gene flow) 3. การใชและไมใช (use and disuse) 4. การผาเหลา (mutation) 3. กรณีใดตอไปนี้เปนตัวอยางที่สนับสนุนทฤษฎี Natural selection ? 1. เช้ือเอดสแพรระบาดอยางรวดเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมท่ีไมเหมาะสมของมนุษย 2. มีพลาสโมเดียมสายพันธุที่ตานยารักษาโรคมาลาเรียเพ่ิมขึ้น 3. นกกะทาวางไขจํานวนมากขึ้นเม่ือชวงกลางวันยาวนานขึ้น 4. จิ้งจกเปล่ียนสีตามสภาพแวดลอมท่ีอยูอาศัย 4. วิวัฒนาการตามแนวคิดของดารวินยึดหลักตางๆยกเวนหลักเกี่ยวกับขอใด? 1. หลักการเกี่ยวกับการแปรผันของส่ิงมีชีวิต 2. หลักการเกี่ยวกับการคัดเลือกโดยธรรมชาต ิ3. หลักการเกี่ยวกับการอพยพยายถิ่นของส่ิงมีชีวิต 4. หลักการเกี่ยวกับการถายทอดลักษณะจากบรรพบุรุษไปลูกหลาน

Page 31: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

31

5. จากการสังเกตพบวาผีเส้ือที่มีสีสันกลมกลืนกับสีของเปลือกไมจะมีจํานวนมากกวาผีเส้ือชนิดอื่นๆ ขอสังเกตนี้จะใชขอมูลใดมาอธิบายสนับสนุนไดเหมาะสมที่สุด? 1. ทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติของดารวิน 2. สัญชาตญาณในการหลบหนีศัตรูของส่ิงมีชีวิต 3. การถายทอดลักษณะท่ีเกิดขึ้นใหมของลามารก 4. การผาเหลาอันเนื่องมาจากการเปล่ียนแปลงของส่ิงแวดลอม 6. ปจจัยใดสําคัญที่สุดในการเกิดวิวัฒนาการของนกฟนชในหมูเกาะกาลาปากอส ซ่ึงมีหลายสปชีสตางๆกัน? 1. การเกิดภัยธรรมชาต ิ2. การอพยพยายถ่ินตามฤดูกาล 3. กลไกการแยกทางการสืบพันธุ 4. การแยกกันทางสภาพภูมิศาสตร

7. ส่ิงที่ยืนยันถึงหลักการคัดเลือกโดยธรรมชาติคือขอใด ? 1. ส่ิงมีชีวิตท่ีแข็งแรงกวาคือผูชนะ 2. ส่ิงมีชีวิตที่จะอยูรอดตองเหมาะสมกับส่ิงแวดลอม 3. ส่ิงมีชีวิตท่ีจะอยูรอดตองมีขนาดใหญและมีลูกไดเปนจํานวนมาก 4. ถูกทุกขอ

8.ทฤษฎีวิวัฒนาการของดารวิน มีหลักการที่สําคัญเร่ืองใด 1. หลักการใชและไมใชอวัยวะ 2. หลักการคัดเลือกโดยธรรมชาต ิ 3. หลักการผันแปรของกรรมพันธุ 4. การถายทอดลักษณะท่ีไดจากการฝกฝน

Page 32: 2 ตารางวิเคราะห จุด ...€¦ · ธรรมชาติของนกฟ นซ และสรุปเป นโมเดลได 1. ใฝ เรียนรู

32

9.แมสุนัขตัวหนึ่งคลอดลูกออกมา 7 ตัว ตามแนวความคิดของ ชารล ดารวิน ลูกสุนัขทั้ง 7 ตัว จะมีสีขนเหมือนกันหรือตางกันอยางไร 1. มีสีขนตางกันทุกตัว 2. มีสีขนเหมือนกันทุกตัว 3. มีสีขนเหมือนแมทุกตัว 4. บางตัวสีขนเหมือนกันบางตัวตางกัน 10. การคัดเลือกในธรรมชาติ (natural selection) จะเกิดขึ้นตอเม่ือลักษณะนั้น 1. เปล่ียนแปลงไปตามส่ิงแวดลอม 2. ถายทอดไปยังรุนตอๆไปได 3. ควบคุมโดยจีนท่ีเกิด mutationไดยาก 4. มีความแตกตางกัน ในหมูประชากรนั้น