สงครามเปอร์เซีย เลขที่ 12 14 ม.62
TRANSCRIPT
ล ำดับเหตุกำรณ์ก่อนเกิดสงครำมเปอร์เซีย
ภายหลังสงครามอิรัก-อิหร่านซึ่งกินเวลาถึง 8 ปี ส่งผลให้อิรักบอบช ้ามากจากภาระบูรณะประเทศ อิรักต้องเป็นหนี ต่างประเทศจ้านวนประมาณ 80,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ท้าให้ฐานะเศรษฐกิจของอิรักทรุดหนัก อิรักมีสินค้าออกหลักคือน ้ามัน ซึ่งมีปริมาณร้อยละ 99 ของมูลค่าสินค้าออกทั งหมด อิรักจึงพยายามผลักดันให้องค์การโอเปกก้าหนดโควตาการผลิตน ้ามันและก้าหนดราคาน ้ามันเสียใหม่ให้อิรักมีรายได้เพิ่มขึ น
ธงชำติประเทศอิรัก
ธงชำติประเทศอิหร่ำน
เนื่องจาก8 ปีที่อิรักท้าสงคราม คูเวตได้ขยายพรมแดนล่วงล ้าเข้ามาทางใต้ของอิรัก4 กิโลเมตร เพื่อตั งค่ายทหารและตั งสถานีขุดเจาะน ้ามันเป็นการขโมยน ้ามันของอิรัก ยิ่งไปกว่านั น อิรักท้าสงครามกับอิหร่านในนามชาติอาหรับและเพื่อความมั่นคงของชาติอาหรับทั งมวล จึงสมควรที่คูเวตต้องช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการท้าสงคราม ข้อเรียกร้องที่รุนแรงของอิรัก คือให้คูเวตคืนดินแดนที่รุกล ้าเข้ามา คือ เขต Rumailah oilfield ซึ่งมีน ้ามันอุดมสมบูรณ์และขอเช่าเกาะบูมิยัน กับเกาะวาร์บาห์ ในอ่าวเปอร์เซีย เพื่อให้อิรักขายน ้ามันผ่านอ่าวเปอร์เซียโดยตรง โดยมิต้องขายน ้ามันทางท่อส่งน ้ามันผ่านซาอุดิอารเบียและตุรกีเช่นเดิม
ล ำดับเหตุกำรณ์ก่อนเกิดสงครำมเปอร์เซีย
Rumailah oilfielงำนขุดน ำมันของคูเวต
สงครำมอ่ำวเปอร์เซีย หรือบางทีเรียก
สั น ๆ ว่า สงครำมอ่ำว (Gulf War)
เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศอิรัก และกองก้าลังผสมจาก 34 ชาติใต้อาณัติ ของสหประชาชาติหรือ UN น้าโดยประเทศ
สหรัฐอเมริกา
สงครำมอ่ำวเปอร์เซีย
จุดเริ่มต้นของสงครามอยู่ที่การบุกรุกประเทศคูเวตของกองทัพอิรักในวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 ซึ่งท้าให้สหประชาชาติคว่้าบาตรทางเศรษฐกิจกับอิรักในทันที หลังจากการเจรจาด้านการทูตหลายครั ง สหประชาชาติจึงมีมติให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อขับไล่กองทัพอิรักออกจากประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1991
จุดเริ่มต้นของสงครำมอ่ำวเปอร์เซีย
บริเวณอ่ำวเปอร์เซียและพรมแดน
ประเทศคูเวตกับประเทศอิรัก
เหตุกำรณ์ในสงครำมอ่ำวเปอร์เซีย ภายใต้การน้าของประธานาธิบดีซัดดัม
ฮุสเซ็น ซึ่งทหารมากกว่า 1 ล้านคน มีประสบการณ์ร่วมท้าสงครามกับอิหร่านมาแล้ว และยังมีอาวุธที่ทันสมัยทั งเครื่องบิน จรวด อาวุธเคมี และก้าลังเริ่มต้นพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขึ นอีก ส้าหรับคูเวตเป็นประเทศเล็กๆตั งอยู่ระหว่างอิรักกับซาอุดีอาระเบียในอดีตคูเวตเป็นจังหวัดหนึ่งของอาณาจักรออตโตมันแต่ด้วยเหตุที่เป็นแหล่งน ้ามันอย่างมหาศาลท้าให้ถูกตกอยู่ภายใต้การ ปกครองของสหราชอาณาจักร ตั งแต่ ค.ศ.1914 และได้รับเอกราชเมื่อปี ค.ศ.1961 จึงเข้ายึดคูเวตได้อย่างง่ายดาย เป็นเวลากว่า 6 เดือน
ประธำนำธิบดี ซัดดัม ฮุสเซ็น
สำเหตุที่อิรักเข้ำยึดคูเวต
สาเหตุที่อิรักเข้ายึดคูเวตนั นมีสาเหตุหลายประการได้แก่
1. แรงกดดันจากหนี สงครามอิรัก-อิหร่าน อิรักจึงต้องการคุมแหล่งน ้ามันของโลกคือ คูเวต เพื่อเพิ่มอ้านาจต่อรองในการผลิตน ้ามันและการก้าหนดราคาน ้ามัน
แหล่งผลิตน ำมันในคูเวต
2.อิรักและคูเวตมีกรณีพิพาทดินแดน Rumailah Oilfield แหล่งน ้ามันที่ส้าคัญมาเป็นเวลานานและหาข้อยุติไม่ได้
อิรักจึงถือโอกาสยึดครองคูเวตด้วยเหตุผล ด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์
สำเหตุท่ีอิรักเข้ำยึดคูเวต
สำเหตุท่ีอิรักเข้ำยึดคูเวต
3.อิรักไม่มีทางออกทะเลหรือทางอ่าวเปอร์เซีย เพราะมีเกาะบูมิยันและเกาะวาห์บาห์ของคูเวตขวางทางอยู่ อิรักจึงมิอาจขายน ้ามันโดยตรงแก่เรือผู้ซื อได้ ทั งอิรักยังตกลงกับอิหร่านเรื่องการใช้เมืองท่าบัสราผ่านร่องน ้าซัตต์-อัล-อาหรับ ไม่ได้ แผนที่ประเทศอิรัก
เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1991หลังจากปฏิบัติการทั งทางอากาศและภาคพื นดินช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ชัยชนะเป็นของกองก้าลังผสม และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1991 ตั งแต่วันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 อันเป็นวันที่อิรักบุกเข้ายึดคูเวตเป็นต้นมาคณะมนตรีความมั่นคงได้ประกาศให้ทุกชาติคว่้าบาตรรัฐบาลอิรัก และด้าเนินการเคลื่อนไหวทางการฑูตเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม ก้าหนดให้วันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1991 เป็นเส้นตายที่อิรักจะปฏิบัติตามมติ ของคณะมนตรีความมั่นคงอิรักไม่ยอมท้าตามมติดังกล่าว ในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1991 กองก้าลังนานาชาติจึงเริ่มโจมตีทางอากาศและตามติดด้วยการรบภาคพื นดิน ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปฏิบัติการอันเป็นที่รู้จักกันในนาม "พายุทะเลทราย" (Desert Storm) ครั งนี มีกองทัพจากประธานาธิบดีจอร์จ บุช แห่งสหรัฐอเมริกา
กำรโจมตีจำกสหประชำชำต ิ
ประธำนำธิบดีจอร์จ บุช
ประเทศต่างๆเข้าร่วมรบโดยการอนุมัติของคณะมนตรีความมั่นคง และอยู่ภายใต้การบัญชาการของสหรัฐอเมริกาวันที่ 27กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ประธานาธิบดีจอร์จ บุช แห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศหยุดยิงและประกาศความเป็นอิสรภาพของคูเวต อิรักถอนทหารออกจากคูเวต คณะผู้สังเกตการณ์ สหประชาชาติกรณีอิรัก-คูเวต เริ่มปฏิบัติงานตั งแต่เมษายน ค.ศ.1991มีหน้าที่อ้านวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่นานาชาติเข้าควบคุมบริเวณแนวเส้นหยุดยิงและตรวจสอบก้าลังอาวุธที่อิรักมีไว้ในครอบครอง
แ
แผนที่กำรโจมตีของสหประชำชำต ิ
กำรโจมตีจำกสหประชำชำต ิ
ในปี ค.ศ. 2002 ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุชแห่งสหรัฐอเมริกา ด้าเนินการที่จะก้าจัดอาวุธอานุภาพท้าลายล้างสูง อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ นิวเคลียร์ของอิรัก โดยผ่านมติสภา มอบอ้านาจให้ประธานาธิบดี บุช สั่งโจมตีอิรักทันที่ที่จ้าเป็น โดยใช้วิธีการทางการฑูตก่อน หากไม่ได้ผลจึงใช้วิธีการทางทหาร สหรัฐกล่าวหาว่าประธานาธิบดี ซัดดัม ฮุสเซ็น ทุ่มเงินที่ได้จากการลักลอบขายน ้ามัน ซื อชิ นส่วน อาวุธ อันเป็นการละเมิดมาตรการ “ แซงก์ชั่น” การคว่้าบาตรของสหประชาชาติ
เครื่องบินทิ งระเบิดของสหรัฐ
กำรโจมตีจำกสหประชำชำต ิ
ก ำลังรบพิเศษของสหรัฐ
การโจมตีอิรักของสหรัฐอเมริกา ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายต่อประชาชนอิรักอิรักยิงเครื่องบินตรวจการณ์ของสหรัฐและอังกฤษ 750 ครั ง เหนือน่านฟ้า “No-Fly Zone” เขตห้ามบิน สหรัฐอเมริกาอ้างว่ามีหลักฐานเชื่อได้ว่าอิรัก ผลิตแก๊สมัสตาร์ด และแก๊สท้าลายประสาทสะสมไว้ กักตุนเชื อโรคแอนแทร็กช์ และสารชีวภาพอันตรายอื่นๆในปริมาณมหาศาล โดยอิรักต้องยอมให้คณะตรวจสอบอาวุธของสหประชาชาติเข้าไปพิสูจน์ในทุกที่ที่ต้องการ
ถ้าไม่ยอมท้าตาม คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติจึงจะออกมติให้สหรัฐเข้าแทรกแซงทางทหารได้
กำรโจมตีจำกสหประชำชำต ิ
ในที่สุดสหรัฐโจมตีอิรักโดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันตัว ผลการปลดปล่อยอิรักให้เป็นอิสระ(Operation Iraqi Freedom) ของพันธมิตรตะวันตกน้าโดยสหรัฐอเมริกา (20 มีนาคม – 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2003) มีการค้นหา จับกุมผู้น้า อิรักคนส้าคัญๆ และประธานาธิบดี ซัดดัม ฮุส เซน ในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2003 พร้อมทั งคนใกล้ชิด 11คน
กำรโจมตีจำกสหประชำชำต ิ
แม้ประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนจะหมดอ้านาจบริหารประเทศ แต่กลุ่มคนที่เคยเป็นศัตรู ก็ไม่พอใจที่สหรัฐยังคงก้าลังของตนและพันธมิตร และด้าเนินการในการจัดการปกครองอิรัก เขาเห็นว่าสหรัฐก้าลังเปิดโอกาสให้ชาวอิรักที่ไปพ้านัก ท้างานในต่างประเทศ
ในขณะที่หนีภัยจากซัดดัม ฮุสเซน ได้กลับมาเป็นผู้บริหารประเทศแทน แลผู้ที่ถือนิกายซุนนีมองว่าตนก้าลังจะสูญเสียสถานะภาพ พวกนิกานชีอาห์ บางกลุ่มไม่พอใจชาวตะวันตก เพราะต้องการจัดระเบียบ
อิรักเอง และต้องการสร้างรัฐอิสลาม จึงมีมุกตาดา อัลศอดร์ ก่อตั งกองทัพมะฮ์ดี (Mahdi Army) ขึ นต่อสู้
กับสหรัฐ และมีการจัดตั งรัฐบาลชั่วคราวของชาวอิรักเพื่อจัดตั งรัฐบาลทั่วไปเป็นครั งแรกในเดือน มกราคม ค.ศ. 2005 หลังจากสมัย ซัดดัม ฮุสเซน
กำรสิ นสุดของสงครำมอ่ำวเปอร์เซีย
ปฏิกริยำของประเทศต่ำงๆในระหว่ำงสงครำมต่ออิรัก
ปฏิกริยาของประเทศต่างๆ ที่มีต่อการยึดครองคูเวตของอิรักแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. สหประชาชาติ ชาติอภิมหาอ้านาจ รวมถึงกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก เห็นตรงกันที่ต้องรักษาดุลอ้านาจในตะวันออกลาง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ประณามการรุกรานและเรียกร้องให้อิรักถอนทหารออกจากคูเวตโดยไม่มีเงื่อนไข มติของคณะมนตรีความมั่นคงอันดับต่อมา คือ การประกาศคว่้าบาตรทางเศรษฐกิจแก่อิรักและคูเวต ยกเว้นอุปกรณ์ทางการแพทย์และอาหาร เพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม แต่อิรักก็ไม่ได้ปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ
2.กลุ่มประเทศอาหรับด้วยกัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ 2.1อิยิปต์ ซีเรีย ซาอุดิอารเบีย เรียกร้องให้อิรักถอนทหารออก
จากคูเวต สนับสนุนการเข้ามาของกองก้าลังพันธมิตรและถือว่าตนปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ
ปฏิกริยำของประเทศต่ำงๆในระหว่ำงสงครำมต่ออิรัก
2.2 จอร์แดน เยเมน ตูนีเซีย แอลจีเรีย และองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ กลุ่มนี เรียกร้องให้ชาติอาหรับเจรจาหาทางแก้ปัญหากันเอง โดยไม่ต้องให้เป็นภาระขององค์การระดับโลก นอกจากนี ยังมองว่าการปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติเท่ากับเป็นการรังแกชาวอาหรับด้วยกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสหรัฐอเมริกาด้าเนินการต่างๆ เพื่อเรียกร้องนานาชาติกดดันให้อิรักถอนทหารออกจากคูเวต ภาพของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน กลายเป็นวีรบุรุษชาวอาหรับที่กล้าท้าทายโลกตะวันตก สาเหตุที่สหรัฐอเมริกามีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงนั น เพราะอิรักท้าลายผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลาง และแสนยานุภาพของอิรักอาจเป็นอันตรายต่ออิสราเอลพันธมิตรที่ดีของสหรัฐอเมริกาในอนาคตอีก
ผลของสงครำม แม้สงครามอ่าวเปอร์เซียยุติตั งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 1991
แล้วก็ตาม มาตรการคว่้าบาตรของสหประชาชาติได้บีบคั นเศรษฐกิจของอิรักมากขึ นกว่าเดิม ประชาชนอดอยากขาดแคลนอาหารและยารักษาโรคจนมีสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมและต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง ในเดือน พฤศจิกายน 1991นั น สหประชาชาติได้จัดตั งคณะกรรมการพิเศษตรวจสอบอาวุธของอิรัก (unscom)
เข้าไปตรวจสอบแหล่งผลิตและที่ซ่อนอาวุธเคมี อาวุธนิวเคลียร์ และอาวุธชีวภาพของอิรัก เพื่อให้อิรัก
ท้าลายล้างอาวุธเหล่านี หลังจากนั นสหประชาชาติ จะยกเลิกมาตรการคว่้าบาตรต่ออิรัก
คณะตรวจสอบอำวุธ
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหประชาชาติกับอิรักได้เกิดขึ นเป็นระยะๆ จนถึงปัจจุบัน อิรัก
จะขัดขวางการท้างานของอันสคอม (เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธ)อยู่เสมอๆ นอกจากนี ในเดือนสิงหาคม 1992 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดตั งเขตห้ามบินทางตอนใต้ของอิรักและขยายมายังตอนเหนือเพิ่มขึ นในเดือนกันยายน 1996 ภายหลังสหรัฐอเมริกาได้โจมตีทางตอนใต้องอิรักอีก เพื่อเป็นการตอบโต้อิรักปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดอย่างรุนแรง
ผลของสงครำม
เมื่อ ค.ศ.1997 อิรักได้ขับไล่ชาวอเมริกันออกจากทีมงานอันสคอมโดยกล่าวหาว่า ชาวอเมริกาคนหนึ่ง
เป็นสายลับ ซึ่งสหรัฐอเมริกาปฏิบัติค้ากล่าวหานี การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและอันสคอม กับอิรักได้ตึงเครียดมาตามล้าดับ ค.ศ.1998 เมื่ออิรัก
ขัดขวางเจ้าหน้าที่อันสคอม ไม่ให้เข้าไปตรวจสอบอาวุธบริเวณท้าเนียบประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน
นายโคฟี อันนาม เลขาธิการสหประชาชาติเดินทางไปเจรจากับประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน เพื่อยุติการเผชิญหน้าระหว่างอิรักกับสหรัฐอเมริกา อิรักจึงยินยอมให้อันสคอมตรวจสอบอาวุธบริเวณท้าเนียประธานาธิบด ี
ผลของสงครำม
อันสคอม
16 ธันวาคม 1998 เจ้าหน้าที่ของอันสคอมต้องเดินทางออกจากอิรักเพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากอิรัก และเช้าตรู่ของวันรุ่นขึ น ประธานาธิบดี บิล คลินตัน ได้ส่งก้าลังทหารไปยังอ่าวเปอร์เซียร่วมกับกองก้าลังทหารอังกฤษเพื่อยิงถล่มอิรักภายใต้ปฏิบัติการชื่อ "ปฏิบัติการจิ งจอกทะเลทราย" เป็นเวลา 4 วัน จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส รวมทั งบรรดาชาติอาหรับอื่นๆ ต่างประณามการกระท้าของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ พร้อมทั งเรียกร้องให้ยุติการโจมตีอิรัก ส่วนสมาชิกนาโต ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ต่างสนับสนุนมาตรการแข็งกร้าวของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ
ผลของสงครำม
หน่วยปฏิบัติกำรจิ งจอกทะเลทรำย
ปัญหาอิรักคือปัญหาที่ท้าทายบทบาทของ
สหประชาชาติ ในเวลาเดียวกันก็เป็นปัญหาภาพลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาที่ชี น้าและด้าเนินการโดยพลการในนามสหประชาชาติ ถือเป็นการละเมิดกฏบัตรสหประชาชาติและหลักการของประชาคมโลก นายโคฟี อันนาม กล่าวแสดงความรู้สึกของเขาว่า "วันนี เป็นวันที่น่าเศร้าของยูเอ็นและชาวโลก
ผมได้ท้าทุกสิ่งเท่าที่มีอ้านาจหน้าที่สร้างความสงบตามปณิธานของยูเอ็น เพื่อระวังการใช้ก้าลัง สิ่งนี ไม่ใช่ของง่าย เป็นกระบวนการเจ็บปวดไม่มีที่สิ นสุด"
นำยโคฟ ีอันนำม
ผลของสงครำม
บรรณานกุรม http://en.wikipedia.org/wiki/Gulf_War http://th.wikipedia.org/wiki/Gulf_War http:// th.wikipedia.org/wiki/สงครำมอ่ำวเปอร์เซีย http:// www.kullawat.net/current4/ http:// www.becnews.com/data/war1 http:// www.historychannel.com http:// www.maryvit.ac.th/viboon/soc/his/his16 http://www.kullawat.net/current4/#sect3 http://www.rand.org/research_areas/national_security/ http://web.umr.edu/~rogersda/military_service/op_desert_storm.htm
จัดท้าโดย
นางสาว จิราพร ฟูธรรม เลขที่ 12
นางสาว ณัฐธิดา นิมิตรดี เลขที่ 14
ชั นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2