plantae kingdom

19
อาณาจักรพืช

Upload: plnice-destiny

Post on 19-Jul-2015

94 views

Category:

Education


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: Plantae kingdom

อาณาจักรพืช

Page 2: Plantae kingdom

พืชมีโครงสร้างที่ประกอบขึน้ด้วยหลายเซลล์ท่ีมารวมกลุม่กนัเป็นเนือ้เย่ือท่ีท าหน้าที่เฉพาะอยา่งเซลล์ของพืชมีผนงัเซลล์ท่ีมีสารประกอบเเซลลโโลสเ(cellulose) เป็นองค์ประกอบที่พบเป็นสว่นใหญ่เพืชทกุชนิดท่ีคณุสมบตัิท่ีสามารถสร้างอาหารได้เองจากระบวนการสงัเคราะห์ด้วยเสง โดยบทบาทของรงควตัถคุลอโรฟิลล์เ(chlorophyll a & b) ท่ีอยโใ่นคลอโรพลาสต์เป็นส าคญัเรงควตัถหุลกัท่ีพบได้ในเซลล์พืชจะเหมือนกบัพบในเซลล์ของสาหร่ายสีเขียวเได้แก่เคลอโรฟิลล์เเอเคลอโรฟิลล์เบีเและแคโรทีนอยด์ นอกจากนีพื้ชยงัสะสมอาหารในรโปของแป้งเ(starch)

Page 3: Plantae kingdom

ของพืชเป็นวงชีวิตแบบสลบัเ(Alternation of Generation) คือเประกอบด้วยช่วงชีวิตท่ีเป็นสปอโรไฟต์ (sporophyte generation) ท าหน้าท่ีสร้างสปอร์เ(spore) สลบักบัช่วงชีวิตท่ีเป็นแกมีโทไฟต์ (gametophyte generation) ท าหน้าท่ีสร้างแกมีต (gamete) ได้แก่เเซลล์สืบพนัธุ์เพศผโ้หรือสเปิร์ม (sperm) และเซลล์สืบพนัธุ์เพศเมียหรือไข่เ(egg) ซึง่จะมารวมกนัเพ่ือให้ได้เป็นเซลล์ใหมคื่อเไซโกต (zygote)

Page 4: Plantae kingdom

ประกอบขึน้ด้วยหลายเซลล์โดยมีเซลล์โดยมีเซลล์ท่ีเป็นหมนัเ(sterile cell)ห่อหุ้มอยโร่อบนอกการเจริญของพืชจากไซโกตไปเป็นสปอโรไฟต์จะต้องผา่นจะต้องผา่นระยะท่ีเป็นเอ็มบริโอเ(embryo) ก่อนเคณุสมบตัิทัง้เ2 ประการเดงักลา่วนีจ้ะไมพ่บในพวกสาหร่ายเ(algae)

Page 5: Plantae kingdom

พืชสว่นใหญ่จะมีสปอโรไฟต์เด่นเคือมีขนาดท่ีมองเหน็ได้ชดัเจนทัว่ไปเในขณะที่แกมีโทไฟต์มีขนาดเลก็แทบมองไมเ่หน็ด้วยตาเปลา่ในพืชบางกลุม่เแกมีโทไฟต์ประกอบขึน้ด้วยเซลล์ท่ีเป็นโมโนพลอยด์ (n) จ านวนมากท าหน้าท่ีสร้างแกมีต

สปอโรไฟต์ของพืชประกอบขึน้ด้วยเซลล์ท่ีเป็นดิพลอยด์ (2n) ท าหน้าท่ีสร้างสปอร์จากการแบง่เซลล์แบบไมโอซิสของสปอร์มาเทอร์เซลล์เ(spore mother cell) ท่ีอยโภ่ายในอบัสปอร์เ(sporangium) สปอร์เซึง่เป็นเซลล์ท่ีเป็นเฮพลอยด์ (n)จะแบง่ตวัเจริญตอ่ไปเป็นแกมีโทไฟต์ (n) ท่ีท าหน้าท่ีสร้างแกมีตคือเสเปิร์ม และไข่

Page 6: Plantae kingdom

การปฏิสนธิเ(fertilization) คือเการรวมตวักนัของสเปิร์ม (n) และไข่เ(n) จะท าให้ได้เซลล์ใหมท่ี่เป็นดพิลอยด์ (2n) คือเไซโกตเกิดขึน้มาเและตอ่จากนัน้ไซโกตจะแบง่เซลล์ได้เป็นเอ็มบริโอเก่อนท่ีจะเจริญตอ่ไปเป็นสปอร์โรไฟต์ดงันัน้จงึกลา่วได้วา่เไซโกตคือ เซลล์เร่ิมต้นของช่วงสปอโรไฟต์ และ

สปอร์คือเซลล์เร่ิมต้นของช่วงแกมีโทไฟต์

Page 7: Plantae kingdom

ในพืชกลุม่ท่ีไมส่ร้างเมลด็สว่นใหญ่จะมีการสร้างสปอร์เพียงชนิดเดียวเ(homospore) ซึง่เสปอร์ดงักลา่วจะแบง่ตวัและเจริญตอ่ไปเป็นแกมีโทไฟต์ท่ีท าหน้าท่ีสร้างทัง้สเปิร์มและไข่บนต้นเดียวกนัเแต่ส าหรับพืชท่ีมีการสร้างเมลด็แล้วทกุชนิดเจะสร้างสปอร์เป็นเ2 ชนิดเ(heterospore) ได้แก่เไมโครสปอร์ (microspore) และเเมกะสปอร์เ(megaspore) ไมโครสปอร์จะแบง่ตวัเจริญต่อไปเป็นเไมโครแกมีโทไฟต์ (microgametophyte) หรือแกมีโทไฟต์เพศผโ้ เ(male gametophyte) ท าหน้าท่ีสร้างสเปิร์ม และเมกะสปอร์เจะแบง่ตวัเจริญตอ่ไปเป็นเมกะแกมีโทไฟต์(megagametophyte) หรือแกมีโทไฟต์เพศเมียเ(female gametophyte) ท าหน้าท่ีสร้างไข่เตอ่ไป

อาณาจกัรพืชแบง่ยอ่ยได้ดงันี ้

Page 8: Plantae kingdom

1. พืชท่ีไม่มีท่อล ำเลียง (Non-vascular Plant)

ดิวิชนัเฮปำโทไฟตำ (Division Hepatophyta) พืชในกลุม่นี ้ได้แก่เLiverworts ดิวิชนัแอนโทซีโรไฟตำ (Division Anthocerophyta) พืชในกลุม่นีเ้เรียกรวมวา่เHornworts

ดิวิชนัไบรโอไฟตำ (Division Bryophyta) เป็นพืชขนาดเลก็เไมม่ีระบบท่อล าเลียงเมีระยะแกมีโทไฟต์เจริญเป็นอิสระนานกวา่ระยะสปอโรไฟต์ ได้แก่เมอสส์

Page 9: Plantae kingdom

1. ดิวิชนัเทอโรไฟตำ (Division Pterophyta)

พืชดิวิชนันีมี้ช่ือทัว่ไปวา่เเฟิร์นเ(fern) มีจ านวนมากท่ีสดุในบรรดาพโรไฟต์ของเฟิร์นมีรากเล าต้นและใบเจริญดีเเฟิร์นสว่นใหญ่มีล าต้นใต้ดินเใบของเฟิร์นเรียกวา่เฟรอนด์ (frond) เป็นสว่นท่ีเหน็เดน่ชดัเมีขนาดใหญ่เป็นใบแบบเมกะฟิลล์ (megaphyll) มีรโปร่างลกัษณะเป็นหลายแบบเมีทัง้ท่ีเป็นใบเด่ียวเ(simple leaf) และใบประกอบเ(compound leaf) ใบออ่นของเฟิร์นมลีกัษณะพิเศษคือเจะม้วนเป็นวงเ(circinate venantion) สปอโรไฟต์ท่ีเจริญเตม็ท่ีจะสร้างอบัสปอร์เซึง่มารวมกลุม่อยโท่ี่ด้านได้ใบเแตล่ะกลุม่ของอบัสปอร์เรียกว่าเซอรัส (sorus) เฟิร์นสว่นใหญ่สร้างสปอร์ชนิดเดียวเยกเว้นเฟิร์นบางชนิดท่ีอยโ่ในน า้เและที่ชืน้แฉะเได้แก่เจอกหโหนโเแหนแดงเและผกัแวน่

Page 10: Plantae kingdom

2. ดิวิชนัไลโคไฟตำ (Division Lycophyta)

สปอโรไฟต์ของพืชดิวิชนันีมี้รากเล าต้นเและใบครบทกุสว่นเมีลกัษณะเป็นไม้เนือ้ออ่นที่มีขนาดไมใ่หญ่มากนกัเพวกที่เจริญอยโบ่นพืน้ดินเอาจมีล าต้นตัง้ตรงหรือทอดนอนเบางชนิดอาศยัเกาะบนต้นไม้อื่นเล าต้นแตกก่ิงเป็นเ2 แฉกเใบมีขนาดเลก็เป็นใบแบบไมโครฟิลล์ (microphyll) คือเป็นใบที่มีเส้นใบเพียงเส้นเดียวเสปอโรไฟต์ท่ีเจริญเตม็ท่ีแล้วเจะสร้างอบัสปอร์บนใบที่มกัมีรโปร่างและขนาดแตกตา่งไปจากใบที่พบทัว่ไปเเรียกใบชนิดนีว้า่เสปอโรฟิลล์ (sporophyll) ซึง่จะมาเรียงซ้อนกนัแน่นอยโท่ี่ปลายก่ิงเป็นโครงสร้างที่เรียกวา่เสโตรบิลสั (strobilus) หรือโคนเ(cone)

Page 11: Plantae kingdom

3. ดิวิชัน่สฟีโนไฟตำ (Division Sphenophyta)

พืชท่ีมีทอ่ล าเลียงในดิวิชนันีมี้เพียงเวงศ์เดียวเคือเEquisetaceae แกมีโตไฟต์มีขนาดเลก็เเจริญอยโใ่ต้ดินเสปอโรไฟต์มีขนาดใหญ่เอายยืุนเมีซิลิกาเล าต้นเป็นข้อปล้องชดัเจนเปล้องเป็นร่องและสนัเข้อมีใบแบบไมโครฟิลล์อยโร่อบข้อเรียงแบบเwhorl เป็นเhomosporous plant โดยสปอแรงเจียมเจริญอยโบ่นโครงสร้างท่ีเรียกวา่สปอแรงจิโอฟอร์ (sporangiophore)

Page 12: Plantae kingdom

4. ดิวิชนัไซโลไฟตำ (Division Psilophyta)

พืชในดิวิชนันีท่ี้พบได้ในประเทศไทยเได้แก่ Psilotum รโ้ จกักนัในช่ือไทยว่าเหวายทะนอย สปอโรไฟต์ของพืชนีเ้มีรโปร่างลกัษณะง่ายๆเคือมีแตล่ าต้นยงัไม่มีรากและใบเล าต้นมีลกัษณะเป็นไม้เนือ้ออ่นขนาดสโงประมาณเ20 –30 เซนติเมตรเขึน้อยโต่ามพืน้ดินเ(tcrrestrial) หรือเกาะติดกบัต้นไม้อ่ืนเ(epiphyte) ล าต้นแบง่ออกเป็นเ2 สว่นเคือเสว่นท่ีอยโใ่ต้ดินเป็นล าต้นชนิดไรโซมเ(rhizome) มีสีน า้ตาลเและมีไรซอยด์ท าหน้าท่ีดโดน า้และแร่ธาตเุล าต้นสว่นที่อยโเ่หนือพืน้ดินเ(acrialstem) มีสีเขียวเมีลกัษณะเป็นเหลี่ยมเล าต้นสว่นนีท้ าหน้าท่ีสงัเคราะห์แสงเทัง้ล าต้นใต้ดินและล าต้นเหนือพืน้ดินเแตกก่ิงเป็นเ2 แฉกเ(dichotomous branching) ท่ีสว่นของล าต้นเหนือพืน้ดินมีระยางค์เลก็ๆเ(appcndage) ย่ืนออกมาเหน็ได้ทัว่ไปเสปอโรไฟต์ท่ีเจริญต้นท่ีจะสร้างอบัสปอร์ท่ีมีรโปร่างเป็นเ3 พโเที่ซอกของระยางค์บนล าต้นเหนือพืน้ดินเอบัสปอร์สร้างสปอร์ชนิดเดียวเแกมีโทไฟต์มีขนาดเลก็เสีน า้ตาลไมมี่คลอโรฟิลล์เรโปร่างเป็นแทง่ทรงกระบอกเแตกแขนงได้

Page 13: Plantae kingdom

1. พืชเมล็ดเปลือย (Gymnosperm)

1.1 ดิวิชนันีโทไฟตำ (Division Gnetophyta) จดัเป็นเGymnosperm ท่ีมีวิวฒันาการสโงสดุเมีลกัษณะบางอยา่งใกล้เคียงกบัพืชมีดอกเสว่นใหญ ่่พบในเขตแห้งแล้งหรือทะเลทรายเเป็นพวกซีโรไฟต์ บางชนิดเพบในเป่าเเขตร้อน1.2 ดิวิชนักิงโกไฟตำ (Division Ginkophyta) ปัจจบุนัมีเพียงชนิดเดียวคือเGinkgo biloba หรือแปะก๊วย เป็นพืชเท่ีขึน้อยโเ่ในเขตอบอุน่เเช่นเในประเทศจีนเสปอโรไฟต์มีลกัษณะเเป็นไม้ยืนต้นเขนาดเสโงใหญ่ แตกก่ิงก้านสาขาเป็นจ านวนมากเใบมีรโปร่างคล้ายพดัสปอโรไฟต์ท่ีเจริญเติบโตเต็มท่ีจะสร้างโคนเพศผโ้และโคนเพศเมียแยกต้นกนั

Page 14: Plantae kingdom

1.3 ดิวิชนัไซแคโดไฟตำ (Division Cycadophyta) พืชดวิิชนันีมี้อยโ่ประมาณเ60 ชนิดเตวัอยา่งที่รโ้ จกักนัดีคือ พวกปรงเ(Cycas) สปอโรไฟต์มีล าต้นอวบเเตีย้เและมกัไมแ่ตกแขนงมีใบเป็นเใบประกอบเแบบเขนนกขนาดใหญ่เเกิดเป็นกระจกุท่ีบริเวณยอดของล าต้นเใบยอ่ยเมีรโปร่างเเรียวยาวเและแข็งสปอโรไฟต์ท่ีเจริญเต็มท่ีจะสร้างโคนเพศผโ้ เและโคนเพศเมียเแยกตวักนั

Page 15: Plantae kingdom

1.4 ดิวิชนัโคนิเฟอโร (Division Coniferophyta)เป็นจิมโนสเปิร์มท่ีมีจ านวนมากท่ีสดุเมีหลายสกลุด้วยกนัเท่ีรโ้ จกักนัดีคือเPinus ได้แก่เสนสองใบเและสนสามใบเเป็นต้นเสปอโรไฟต์ของเPinus มีลกัษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดคอ่นข้างใหญ่เและแตกก่ิงก้านสาขาจ านวนมากเใบมีขนาดเลก็เรโปร่างคล้ายเข็มเอยโร่วมกนัเป็นกลุม่ สปอโรไฟต์ ท่ีเจริญเเต็มท่ีจะสร้างโคนเพศผโ้ ท่ีมีขนาดเลก็และโคนเพศเมียท่ีมีขนาดใหญ่บนต้นเดียวกนั

Page 16: Plantae kingdom

2.พืชมีดอก (Angiosperm/Anthophyta) แบง่ออกได้เป็นเ2คลาส คือ

1. คลำสไดคอทีเลโดเนส (Class Dicotyledones) ได้แก่เพืชใบเลีย้งคโ่ทัง้หมดเมีอยโป่ระมาณเ170,000 ชนิดเลกัษณะทัว่ไปคือเมีใบเลีย้งเ2 ใบเส้นใบเป็นร่างแหเรากเป็นระบบรากแก้วเและสว่นประกอบของดอกเ(เช่นเกลีบเลีย้งเกลีบดอก) มีจ านวนเป็นเ4–5 หรือเทวีคโณของเ4–5

Page 17: Plantae kingdom

2. คลำสมอโนคอทีเลโดเนส (Class Monocotyledones) ได้แก่เพืชใบเลีย้งเดี่ยวทัง้หมดมีอยโป่ระมาณเ60,000 ชนิดเลกัษณะทัว่ไปเคือเมีใบเลีย้งใบเดียวเใบมีเส้นใบเรียงตวัแบบขนานเรากเป็นระบบรากฝอยเสว่นประกอบของดอกมีจ านวนเป็นเ3 หรือทวีคโณของเ3

Page 18: Plantae kingdom

http://vichakarn.triamudom.ac.th/comtech/studentproject/final54/823/taxonomy2.html

Page 19: Plantae kingdom

นายเชิษณพุงศ์เค าเสาร์เเลขท่ีเ22

นางสาวเจิรกานต์เศรีวิยศเเลขท่ีเ23

โรงเรียนยพุราชวิทยาลยั