FACT BOOK

�

BIM

STEC

FTA

BIMSTEC (The Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่อยู่ในอนุทวีปเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดจากนโยบายมองตะวันตก (Look West Policy) ของไทย โดยมวีตัถปุระสงคใ์หไ้ทยเปน็ศนูยก์ลางเชือ่มโยงความรว่มมอืทางเศรษฐกจิ เพื่อเสริมสร้างประโยชน์ร่วมกันทั้งในด้านการค้า การลงทุน เทคโนโลยี คมนาคม การสื่อสาร พลังงาน การท่องเที่ยว และประมง รวมทั้งส่งเสริมการให้ความช่วยเหลือระหว่างกัน ประเทศกลุ่ม BIMSTEC ได้จัดตั้งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2540 โดยมีประเทศสมาชิกดั้งเดิม 4 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ศรีลังกา อินเดียและไทย ส่วนสหภาพพม่าได้เข้าเป็นสมาชิกเมื่อเดือนธันวาคม 2540 ต่อมา เนปาลและภูฏานได้เข้าเป็นสมาชิกเมื่อเดือนธันวาคม 2546 ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 7 ประเทศ

1. บทนำ

�

BIM

STEC

FTA

ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้า BIMSTEC ครั้งที่ 4 ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อเจรจาจดัทำกรอบความตกลงเขตการคา้เสร ีBIMSTEC (BIMSTEC Free Trade Area) ทั้งนี้รัฐมนตรีเศรษฐกิจ/การค้าของประเทศสมาชิก BIMSTEC ได้ร่วมลงนามในกรอบความตกลงดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2547 และมีการจัดตั้งคณะกรรมการการเจรจาการค้า BIMSTEC (BIMSTEC Trade Negotiating Committee : BIMSTEC TNC) เพื่อเจรจาจัดทำ ความตกลงเขตการค้าเสรี BIMSTEC ต่อไป โดยปัจจุบัน ศรีลังกาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม BIMSTEC TNC

2. ความเป็นมาของการจัดทำเขตการค้าเสรี BIMSTEC

การจดัทำความตกลงการคา้เสรใีนกรอบ BIMSTEC มวีตัถปุระสงค์เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนในประเทศสมาชิก และเพื่อดึงดูดนักธุรกิจจากภายนอกใหเ้ขา้มาทำการคา้และการลงทนุกบัประเทศสมาชกิ BIMSTEC ให้มากขึ้น โดยขอบเขตของกรอบความตกลงครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้า การเปิดเสรีการค้าบริการ การเปิดเสรีการลงทุน และการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

3. กรอบความตกลงการค้าเสรี BIMSTEC

�

BIM

STEC

FTA

3.1 การเปิดเสรีการค้าสินค้า การเปิดเสรีการค้าสินค้าระหว่างสมาชิกมีกรอบเวลาของการลด หรอืยกเลกิภาษศีลุกากรตามทีร่ะบไุวใ้นกรอบความตกลงฯ ซึง่มสีาระสำคญั ดังนี้ ประเทศสมาชิกได้กำหนดวิธีการและรูปแบบการเจรจาลด/ยกเลิกภาษี โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าเร่งลดภาษี (Fast Track) และกลุ่มสินค้าลดภาษีปกติ (Normal Track) นอกจากนี้ ได้มีการยกเว้นสินค้าบางรายการที่จะไม่นำมาลดภาษีระหว่างกัน (Negative List) สรุปการลดภาษีตามกรอบเวลา ดังนี้ (1.) กลุ่มสินค้าที่เร่งลดภาษี (Fast Track) กรอบความตกลงฯ ได้กำหนดกรอบเวลาการลดภาษี ดังนี้

สาระสำคัญของกรอบความตกลง

1 ก.ค. 2549 ถึง 30 มิ.ย. 2552 (3 ปี)

ประเทศ

อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

บังกลาเทศ ภูฏาน พม่า เนปาล

กรอบเวลาการลดภาษี

1 ก.ค. 2549 ถงึ 30 ม.ิย. 2552 (3 ป)ี

1 ก.ค. 2549 ถงึ 30 ม.ิย. 2550 (1 ป)ี

1 ก.ค. 2549 ถึง 30 มิ.ย. 2554 (5 ปี)

บงักลาเทศ ภฏูาน พมา่ เนปาล

อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

�

BIM

STEC

FTA

- การลดหรือยกเลิกภาษีของประเทศกำลังพัฒนา (อินเดีย ศรลีงักา และไทย) จะเริม่ลดหรอืยกเลกิภาษรีะหวา่งกนัตัง้แตว่นัที ่1 กรกฎาคม 2549 ถงึวนัที ่30 มถินุายน 2552 โดยภาษจีะลดเปน็ศนูยใ์นวนัที ่1 กรกฎาคม 2552 และจะลด/ยกเลกิภาษศีลุกากรใหป้ระเทศพฒันานอ้ยทีส่ดุ (บงักลาเทศ ภฏูาน พมา่ และเนปาล) ระหวา่งวนัที ่1 กรกฎาคม 2549 ถงึวนัที ่30 มถินุายน 2550 และภาษีจะลดเป็นศูนย์ในวันที่ 1 กรกฏาคม 2550 - การลดหรือยกเลิกภาษีของประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (บังกลาเทศ ภูฏาน พม่า และ เนปาล) จะลด/ยกเลิกภาษีให้ประเทศกำลังพัฒนา (อินเดีย ศรีลังกา และไทย) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2549 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2554 โดยภาษีจะลดเป็นศูนย์ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 และจะลด/ยกเลิกภาษีศุลกากรให้ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดด้วยกันตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2552 โดยภาษีจะลดเป็นศูนย์ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 (2.) กลุ่มสินค้าลดปกติ (Normal Track) กรอบความตกลงฯ ได้กำหนดกรอบเวลาการลดภาษีดังนี้

1 ก.ค. 2550 ถึง 30 มิ.ย. 2558 (8 ปี)

ประเทศ

อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

บังกลาเทศ ภูฏาน

พม่า เนปาล

กรอบเวลาการลดภาษี

1 ก.ค. 2550 ถงึ 30 ม.ิย. 2555 (5 ป)ี

1 ก.ค. 2550 ถงึ 30 ม.ิย. 2553 (3 ป)ี

1 ก.ค. 2550 ถึง 30 มิ.ย. 2560 (10 ปี)

บงักลาเทศ ภฏูาน พมา่ เนปาล

อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

�

BIM

STEC

FTA

- การลดหรือยกเลิกภาษีของประเทศกำลังพัฒนา (อินเดีย ศรลีงักา และไทย) จะเริม่ลดหรอืยกเลกิภาษรีะหวา่งกนัตัง้แตว่นัที ่1 กรกฎาคม 2550 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 โดยภาษีจะลดเป็นร้อยละ 0-5 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 และจะลด/ยกเลกิภาษศีลุกากรใหป้ระเทศพฒันานอ้ยทีส่ดุ (บงักลาเทศ ภฏูาน พมา่ และเนปาล) ระหวา่งวนัที ่1 กรกฎาคม 2550 ถงึวนัที ่30 มถินุายน 2553 และภาษจีะลดเปน็รอ้ยละ 0-5 ในวนัที ่1 กรกฏาคม 2553 - การลดหรอืยกเลกิภาษขีองประเทศพฒันานอ้ยทีส่ดุ จะลด ภาษีให้ประเทศกำลังพัฒนา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2550 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 โดยภาษีจะลดเป็นร้อยละ 0-5 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 และ จะลด/ยกเลิกภาษีศุลกากรให้ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดด้วยกันตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 โดยภาษีจะลดเป็นร้อยละ 0-5 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 (3.) สินค้ากลุ่มไม่ลดภาษี (Negative List : NL) กรอบความตกลงกำหนดให้สมาชิกมีรายการสินค้าที่จะไม่ลดภาษีได้ แต่จะต้องกำหนดเพดานจำนวนรายการสินค้าที่จะไม่นำมาลดภาษี นอกจากนี้ ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (บังกลาเทศ ภูฏาน พม่า และเนปาล) สามารถเรียกร้องให้ประเทศกำลังพัฒนา (อินเดีย ศรีลังกา และไทย) พิจารณาลดภาษีสินค้าส่งออกสำคัญของตนหากเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มไม่ลดภาษีของแตล่ะประเทศ (Derogation) เพือ่ใหโ้อกาสการคา้ของประเทศดังกล่าวมีความสมดุล และเท่าเทียมกัน 3.2 การเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุน การเจรจาเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุน มีกรอบเวลาการเจรจาเริ่มตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งครอบคลุมสาขาสำคัญๆ โดยใช้แนวทางเจรจาแบบระบุสาขาบริการที่สามารถเปิดเสรีได้ก่อน โดยแต่ละประเทศจะเลือก

�

BIM

STEC

FTA

เปิดเสรีในสาขาที่ตนมีความพร้อมก่อน (Positive list approach) และมีการให้ปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (Special and differential) และ ความยืดหยุ่นแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด 3.3 การเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่นๆ ใหม้กีารเสรมิสรา้งความรว่มมอืในสาขาตา่ง ๆภายใตก้รอบ BIMSTEC ให้ก้าวหน้ามากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน อาทิ การจัดทำความตกลงการยอมรับคุณสมบัติร่วม (Mutual Recognition Arrangements: MRAs) และความร่วมมือด้านพิธีการศุลกากร เป็นต้น

คณะกรรมการเจรจาการค้า BIMSTEC (BIMSTEC TNC) ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเจรจารายละเอียดในเรื่องต่างๆ ภายใต้กรอบความตกลงฯ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2547 – ปัจจุบัน มีการประชุม BIMSTEC TNC แล้ว 18 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2-4 มิถุนายน 2552 ณ จังหวัดภูเก็ต ประเทศสมาชกิ BIMSTEC สามารถหาขอ้สรปุการจดัทำความตกลงการค้าสินค้า (Agreement on Trade in Goods) ได้แล้ว สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ 1. การเปิดเสรีการค้าสินค้า ตกลงแนวทางการลด/ยกเลกิภาษศีลุกากรของสนิคา้ โดยใชอ้ตัราภาษีปกติ (MFN Applied Rate) ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2550 เป็นอัตราฐานในการลด/ยกเลิกภาษี แบ่งการลดภาษีสินค้าออกเป็น 3 กลุ่ม

4. ผลการเจรจาความตกลงการค้าเสรี BIMSTEC

�

BIM

STEC

FTA

1.1 การแบ่งกลุ่มการลด/ยกเลิกภาษ ี 1) กลุ่มเร่งลดภาษี (Fast Track: FT) จะลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ครอบคลมุรายการสนิคา้จำนวนรอ้ยละ 10 ของพกิดัศลุกากรในระดบั 6 หลกั ในระบบ HS 2007 2) กลุ่มลดภาษีปกติ (Normal Track: NT) แบ่งเป็น Normal Track Elimination (NTE) จะลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ครอบคลุมรายการสินค้าจำนวนร้อยละ 50 ของพิกัดฯ 6 หลักในระบบ HS 2007 และ Normal Track Reduction (NTR) จะลดภาษีเหลือร้อยละ 1-5 ครอบคลุมรายการสินค้าจำนวนร้อยละ 21 ของพิกัดฯ 6 หลักในระบบ HS 2007 3) กลุม่ไมล่ดภาษ ี(Negative List: NL) จะไมม่กีารลดภาษสีนิคา้ในกลุ่มนี้ ครอบคลุมรายการสินค้าจำนวนร้อยละ 19 ของพิกัดฯ 6 หลัก ในระบบ HS 2007 1.2 ระยะเวลาการลด/ยกเลิกภาษ ี การลดภาษีสินค้าในแต่ละกลุ่มจะเป็นแบบ Equal Annual Installment คอืลดภาษใีนแตล่ะปลีงในอตัราทีเ่ทา่กนัทกุป ีแตจ่ะมรีะยะเวลาการลด/ยกเลิกภาษีที่แตกต่างกันระหว่างประเทศกำลังพัฒนา และประเทศพัฒนาน้อยที่สุดโดยเริ่มลดภาษีสินค้า FT ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 สำหรับสินค้า NT จะเริ่มลดภาษีตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554

กลุ่ม Fast Track

1 ก.ค. 2553 - 30 มิ.ย. 2556

ประเทศ

อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

บังกลาเทศ ภูฏาน พม่า เนปาล

1 ก.ค. 2553 - 30 ม.ิย. 2556

1 ก.ค. 2553 - 30 ม.ิย. 2554

1 ก.ค. 2553 - 30 มิ.ย. 2558

บงักลาเทศ ภฏูาน พมา่ เนปาล

อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

�

BIM

STEC

FTA

2. กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า ตกลงใชเ้กณฑก์ารเปลีย่นพกิดัศลุกากรในระดบั 6 หลกั (Change in Tariff Sub-Heading: CTSH) ควบคูก่บัสดัสว่นมลูคา่เพิม่ภายในประเทศ (Local content) รอ้ยละ 35 เปน็กฎทัว่ไปในการพจิารณาแหลง่กำเนดิสนิคา้สำหรับประเทศกำลังพัฒนา (อินเดีย ศรีลังกา และไทย) และใช้เกณฑ์ CTSH+Local content รอ้ยละ 30 เปน็กฎทัว่ไปสำหรบัประเทศ LDCs (พมา่ บังกลาเทศ ภูฏาน และเนปาล) นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำกฎเฉพาะรายการสินค้า (Product Specific Rules: PSRs) จำนวนรวมทั้งสิ้น 142 รายการ 3. มาตรการปกป้อง ประเทศสมาชกิ BIMSTEC สามารถหาขอ้สรปุการจดัทำมาตรการปกปอ้งในกลุม่ BIMSTEC (BIMSTEC Safeguard) โดยตกลงใหใ้ชม้าตรการดังกล่าวในช่วง 2 ปี และใช้ต่อได้อีก 1 ปี และมีการกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำเพื่อใหม้กีารถกูยกเวน้การใชม้าตรการดงักลา่ว หากประเทศมสีดัสว่นนำเขา้ตำ่กวา่เกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ ยังตกลงให้ใช้มาตรการ BIMSTEC Safeguard ได้อีกเพียง 5 ปี หลังจากวันสิ้นสุดการลด/ยกเลิกภาษีในกลุ่มต่างๆ เสร็จสิ้นลงแล้ว

1 ก.ค. 2554 - 30 มิ.ย. 2562

ประเทศ

อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

บังกลาเทศ ภูฏาน พม่า เนปาล

1 ก.ค. 2554 - 30 ม.ิย. 2559

1 ก.ค. 2554 - 30 ม.ิย. 2557

1 ก.ค. 2554 - 30 มิ.ย. 2564

บงักลาเทศ ภฏูาน พมา่ เนปาล อนิเดยี ศรลีงักา ไทย

กลุ่ม Normal Track

10

BIM

STEC

FTA

4. การค้าบริการและการลงทุน คณะทำงานกลุม่ยอ่ยดา้นการคา้บรกิารและคณะทำงานกลุม่ยอ่ยด้านการลงทุน อยู่ระหว่างการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าบริการ และ ความตกลงการลงทุน

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร

5. การค้าระหว่างไทยและกลุ่มประเทศสมาชิก BIMSTEC

ประเทศ มูลค่า: ล้านเหรียญสหรัฐฯ

2547 2548 2549 2550 2551

51/50

(%)

(%) ของการคา้

BIMSTEC

พม่า

บังกลาเทศ

ภูฏาน

อินเดีย

ศรีลังกา

เนปาล

ไทย-BIMSTEC

1,954.09

387.93

2.86

2,048.93

192.67

39.29

4,625.76

2,498.90

424.14

2.80

2,805.97

207.34

26.55

5,965.71

3,077.45

501.89

5.33

3,427.99

321.77

24.93

7,359.36

3,259.28

524.66

26.89

4,729.02

309.45

38.80

8,888.10

4,707.54

596.46

5.91

5,974.84

411.38

52.95

11,749.09

44.44

13.69

-78.04

26.34

32.94

36.48

32.19

40.07

5.08

0.05

50.85

3.50

0.45

100

11

BIM

STEC

FTA

ในป ี2551 การคา้ระหวา่งไทย-กลุม่ BIMSTEC ม ีมลูคา่ถงึ 11,749.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 32.19 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นร้อยละ 3.3 ของการค้ารวมของไทย มูลค่าการส่งออกของไทยไปยังกลุ่ม BIMSTEC มมีลูคา่ 5,653.76 ลา้นเหรยีญสหรฐัฯ ขยายตวัสงูขึน้รอ้ยละ 27.18 เมื่อเทียบกับปีก่อน และการนำเข้าของไทยจากกลุ่ม BIMSTEC มีมูลค่า 6,095.33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 37.2 จากปีก่อนหน้า ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า 441.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประเทศคู่ค้าที่สำคัญอันดับแรกของไทยคือ อินเดีย รองลงมาเป็น บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล และภูฏาน ในปี 2551 ไทยมีมูลค่าการค้ากับอินเดียถึง 5,974.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 50.85 ของมลูคา่การคา้ไทยกบักลุม่ BIMSTEC) การคา้ไทยกบัพมา่มมีลูคา่ 4,707.54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ร้อยละ 40 ของมูลค่าการค้าไทยกับกลุ่ม BIMSTEC) การค้าไทยกับบังกลาเทศมีมูลค่า 596.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ร้อยละ 5 ของมูลค่าการค้าไทยกับกลุ่ม BIMSTEC) การค้าไทยกับศรีลังกามีมูลค่า 411.38 ลา้นเหรยีญสหรฐัฯ (รอ้ยละ 3.5 ของมลูคา่การคา้ไทยกบักลุม่ BIMSTEC) การค้าไทยกับเนปาลมีมูลค่า 52.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ร้อยละ 0.4 ของ มูลค่าการค้าไทยกับกลุ่ม BIMSTEC) และไทยมีมูลค่าการค้ากับภูฏาน 5.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ร้อยละ 0.05 ของมูลค่าการค้าไทยกับกลุ่ม BIMSTEC) สินค้าส่งออกของไทย สนิคา้สำคญัทีไ่ทยทีม่ศีกัยภาพในการสง่ออกไปยงัประเทศในกลุม่ BIMSTEC ได้แก่ เม็ดพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรและส่วนประกอบ เป็นต้น

1�

BIM

STEC

FTA

สินค้านำเข้าของไทย สินค้านำเข้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากประเทศในกลุ่ม BIMSTEC ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เป็นต้น การค้าบริการและการลงทุนของไทย ธรุกจิบรกิารและการลงทนุทีไ่ทยมศีกัยภาพและมโีอกาสขยายตวัสงู ได้แก่ สาขาการท่องเที่ยว โรงแรม/ที่พัก ร้านอาหาร ก่อสร้าง สุขภาพ ด้านการศึกษา และการขนส่ง ซึ่งสาขานี้จะรองรับการขยายตัวทางการค้าภายใต้เขตการค้าเสรีต่อไปในอนาคต

โครงสร้างสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าที่สำคัญ ของประเทศสมาชิก BIMSTEC 6.

ประเทศสมาชิก BIMSTEC มีโครงสร้างสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าที่สำคัญ ดังนี้

6.1 บังกลาเทศ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม กุ้งแช่แข็ง เครื่องหนังและผลิตภัณฑ์ ปอและผลิตภัณฑ์ ชา ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันสำหรับการบริโภค ข้าวสาลี ปุ๋ย เส้นใย เครื่องจักรกล เครื่องกำเนิดพลังงาน เหล็กและเหล็กกล้า ยานยนต์ ฝ้ายดิบ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น

6.2 ภูฏาน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ ส้ม หินปูน แร่โดโลไมต์ ถ่านหิน เป็นต้น

1�

BIM

STEC

FTA

สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม ลวดทองแดง เครื่องอุปกรณ์สื่อสาร ยานยนต์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เคมีภัณฑ์ เป็นต้น

6.3 อินเดีย สนิคา้สง่ออกสำคญั ไดแ้ก ่นำ้มนัเชือ้เพลงิ สิง่ทอและเครือ่งนุง่หม่ อญัมณแีละเครือ่งประดบั เหลก็กลา้และผลติภณัฑ ์เคมภีณัฑ ์เครือ่งจกัรกลและส่วนประกอบ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญ ไดแ้ก ่นำ้มนัปโิตรเลยีมดบิ เครือ่งจกัรกลและสว่นประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ทองคำ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน เป็นต้น

6.4 พม่า สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ไม้และผลิตภัณฑ์ ถั่วต่างๆ สินค้าประมง ข้าว เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปุ๋ย พลาสติก เครื่องจักรกล อุปกรณ์การขนส่ง เป็นต้น

6.5 เนปาล สินค้าส่งออกสำคัญ ไดแ้ก ่พรม เสือ้ผา้สำเรจ็รปู นำ้มนัและไขมนัจากพืชและสัตว์ พลาสติกและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ น้ำมันหอม น้ำหอม เครื่องสำอาง เส้นใยประดิษฐ์ เป็นต้น สนิคา้นำเขา้สำคญั ไดแ้ก ่นำ้มนัเชือ้เพลงิ เครือ่งจกัรกล เครือ่งมอืและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม พลาสติกและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

6.6 ศรีลังกา สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ชา ยางและผลิตภัณฑ์ เครื่องเพชรพลอย เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า ไขมันพืชและสัตว์ ผลไม้ ถั่ว เป็นต้น

1�

BIM

STEC

FTA

สนิคา้นำเขา้สำคญั ไดแ้ก ่นำ้มนัเชือ้เพลงิ เครือ่งจกัรกล อปุกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ฝ้าย ผ้าผืน พลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็กและเหล็กกล้า กระดาษและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

6.7 ไทย สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณี เครื่องประดับน้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า ยางพารา ข้าว เป็นต้น สนิคา้นำเขา้สำคญั ไดแ้ก ่นำ้มนัดบิ เครือ่งจกัรกลและสว่นประกอบเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กและผลติภณัฑ ์เปน็ตน้

7. ประโยชนท์ีไ่ดร้บัจากการจดัตัง้เขตการคา้เสร ีBIMSTEC

7.1 BIMSTEC เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่น่าสนใจซึ่งมีประชากรรวมกันประมาณกว่า 1,490 ล้านคน ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์ในการขยายการค้าและการลงทุนไปยังเอเชียใต้ ประเทศที่สามารถขยายเข้าสู่ตลาดได้ในระยะแรกๆ กจ็ะไดร้บัประโยชนก์อ่น ปจัจบุนัประชากรของประเทศเหลา่นี้สนใจที่จะเลือกบริโภคสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร รถยนต์และอุปกรณ์ 7.2 เป็นแหล่งวัตถุดิบแหล่งใหม่ของไทยที่จะนำเข้ามาผลิต เพื่อลดต้นทุนการผลิต 7.3 BIMSTEC เป็นตลาดใหม่ซึ่งช่วยไทยลดการพึ่งพาตลาดเก่าและบรรเทาปัญหาภาวะการแข่งขันของไทยในตลาดหลัก เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรปที่กำลังประสบอยู่ได้

1�

BIM

STEC

FTA

7.4 ช่วยลด/เลิกอุปสรรคทางการค้าทั้งด้านภาษี และที่ไม่ใช่ภาษีระหวา่งประเทศสมาชกิลง อนัจะสง่ผลใหก้ารคา้ระหวา่งกนัมคีวามคลอ่งตวัมากขึ้น และทำให้สมาชิกมีการปรับมาตรฐานกฎเกณฑ์ของประเทศสมาชิกใหส้อดคลอ้งและเปน็มาตรฐานเดยีวกนัได ้เพือ่เปน็การอำนวยความสะดวกทางการคา้ เชน่ มกีารปรบัมาตรฐานดา้นสขุอนามยั พธิกีารศลุกากร เปน็ตน้ 7.5 อนุภูมิภาคนี้ที่มีพื้นที่เชื่อมโยงติดต่อกัน ไทยจะสามารถ เปน็ประเทศเชือ่มโยงภมูภิาคเอเชยีและเอเชยีใตร้ะหวา่งกนัได ้โดยเสรมิสรา้งความสมัพนัธแ์ละความรว่มมอืทางเศรษฐกจิ ความรว่มมอืทางดา้นคมนาคม อาทิ เช่น การเชื่อมถนนจากไทยไปพม่าเพื่อเข้าสู่บังกลาเทศและอินเดีย หรือการพัฒนาท่าเรือระนองของไทยสู่ทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอลจะเป็นกลไกซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งเพื่อส่งเสริมการค้าในอนุภาคนี้และสามารถเชื่อมโยงไปภูมิภาคอื่นๆ ได้

8. ขอ้จำกดัทีเ่ปน็อปุสรรคทางการคา้ในกลุม่ BIMSTEC

8.1 ประเทศสมาชิกในกลุ่ม BIMSTEC แม้จะมีจำนวนประชากรกว่า 1.49 พันล้านคน แต่ยังมีจำนวนประชากรที่มีกำลังซื้อต่ำจำนวนมาก 8.2 ประเทศสมาชิก BIMSTEC บางประเทศยังคงมีมาตรการทางการค้าที่ซับซ้อนมาก โดยเฉพาะอินเดียที่ยังคงมีการใช้มาตรการกีดกันทางการคา้ทีม่ใิชภ่าษ ีอาท ินโยบายนำเขา้สนิคา้บางชนดิทีอ่นญุาตใหต้วัแทนของรฐัเปน็ผูน้ำเขา้ไดเ้พยีงผูเ้ดยีวและอนิเดยีมพีธิกีารทางศลุกากรทีค่อ่นขา้งยุง่ยากซบัซอ้น ซึง่จะเปน็อปุสรรคตอ่การคา้ระหวา่งประเทศสมาชกิ นอกจากนี ้เรือ่งมาตรฐานและการทดสอบมาตรฐานเปน็อกีมาตรการหนึง่ทีเ่ปน็อปุสรรคต่อการส่งออก ซึ่งหลายประเทศสมาชิกยังมีมาตรฐานที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

1�

BIM

STEC

FTA

8.3 ขอ้จำกดัดา้นสาธารณปูโภค และโครงสรา้งพืน้ฐานของประเทศสมาชกิสว่นใหญ ่เชน่ ไฟฟา้ ประปา ถนน โดยเฉพาะการคมนาคมขนสง่ทีย่งัไม่เอื้ออำนวยต่อการขยายการค้าระหว่างกันเท่าที่ควรทำให้การขนส่งสินค้ามีต้นทุนสูง ข้อจำกัดด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น - บังกลาเทศ มีปัญหาท่าเรือแออัดโดยเฉพาะที่ท่าเรือจิตตะกอง - ภูฏาน ไม่มีทางออกทะเล เส้นทางการขนส่งสินค้าจึงมีข้อจำกัด ไดแ้ก ่ทางอากาศโดยสายการบนิภฏูานซึง่เปน็เครือ่งบนิขนาดเลก็ และทางเรอืโดยผ่านท่าเรือที่เมืองกัลกัตตาในอินเดีย - พม่า ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทยแต่เส้นทางคมนาคมมสีภาพชำรดุทรดุโทรม นอกจากนี ้พมา่ยงัมมีาตรการหา้มนำเขา้สนิคา้ทางเรอื 14 ชนิดด้วย - เนปาล มีสภาพภูมิศาสตร์เป็นภูเขาและไม่มีพรมแดนติดทะเล จงึอาศยัการขนสง่ทางเรอืผา่นอนิเดยี (กลักตัตา) และบงักลาเทศ (จติตะกอง) 8.4 สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ และนโยบายเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาภัยธรรมชาติที่บางประเทศเผชิญซึ่งจะส่งผล อนัเปน็อปุสรรคในการขยายการคา้ในกลุม่ BIMSTEC อาท ิภฏูาน มนีโยบายเปิดเสรีทางเศรษฐกิจอย่างช้าๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมของประเทศมาก เนปาลและศรีลังกา มีความไม่มั่นคงทางการเมือง เป็นต้น

9. แนวทางการปรบัตวัของประเทศสมาชกิ BIMSTEC

9.1 แตล่ะประเทศจะตอ้งปรบักฎระเบยีบและมาตรการทางการคา้ที่มิใช่ภาษีที่ซับซ้อนให้โปร่งใสและสอดคล้องกับกติกาสากลมากขึ้น เพื่อ อำนวยความสะดวกทางการคา้และการลงทนุภายใตค้วามตกลงทางการคา้เสรี BIMSTEC

1�

BIM

STEC

FTA

9.2 การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยจะนำไปสู่การอำนวยความสะดวกในการขยายการค้า การลงทุน และส่งเสริมการท่องเที่ยว 9.3 ปรบัมาตรฐานการตรวจสอบสนิคา้ใหส้อดคลอ้ง และเสรมิสรา้งความร่วมมือการจัดทำความตกลงยอมรับร่วมกัน

แนวทางที่ผู้ประกอบการไทยอาจเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพทางการค้า 10.1 เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การจัดการ การบริหารต้นทุน โดยปรับใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย 10.2 พัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเพื่อขยายตลาดเชิงรุก และปรับมาตรฐานสินค้าให้สูงขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อถือในสินค้าของไทยให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มประเทศ BIMSTEC 10.3 มีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการแข่งขัน 10.4 พัฒนาฝีมือแรงงานและช่างเทคนิคให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป 10.5 ขยายช่องทางการขนส่งสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยเร็ว และทันเวลา 10.6 ปรบัเปลีย่นแหลง่วตัถดุบิโดยใชว้ตัถดุบิจากประเทศสมาชกิ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการค้า และเพื่อให้ได้แหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้เขตการค้าเสรี

10.. การปรับตัวของไทยเพื่อรองรับ FTA

BIM

STEC

FTA

1�

บังกลาเทศ

ทิศเหนือ ตะวันตก และตะวันออกตอนบนติดกับอินเดียโดยมแีนวชายแดนยาวตดิตอ่กนัประมาณ 4,053 กโิลเมตร ทศิตะวนัออกตอนลา่งตดิกบัพมา่ มแีนวยาว 193 กโิลเมตร และทิศใต้ติดกับอ่าวเบงกอล ขนาด 144,000 ตารางกิโลเมตร

พืน้ทีเ่กอืบทัง้หมดเปน็ทีร่าบลุม่ ในฤดรูอ้นมกัเกดิอทุกภยั

153,546,896 คน (2551)

กรุงธากา (Dhaka) ภาษาเบงกาล ีเปน็ภาษาราชการ ภาษาองักฤษใชส้ือ่สารได้ในหมู่ผู้มีการศึกษาดี และมีภาษาท้องถิ่นของชน กลุ่มน้อย

อิสลาม (ร้อยละ 88) ฮินดู (ร้อยละ 10)

พุทธ (ร้อยละ 0.6) คริสต์ (ร้อยละ 0.3)

ตากา (Taka) 1 บาท ประมาณ 1.47 ตากา และ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับประมาณ 62 ตากา (2551)

สาธารณรฐัระบบรฐัสภา โดยมปีระธานาธบิดเีปน็ประมขุของประเทศ นายกรฐัมนตรแีละคณะรฐัมนตรรีบัเลอืกตัง้ให้ดำรงตำแหน่งวาระ 5 ปี

Professor Dr. Iajuddin Ahmed (5 กันยายน 2545)

Dr. Fakhruddin Ahmed (Chief Advisor)

BIM

STEC

FTA

1�

ภูฏาน

ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย ทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือติดกับทิเบต ที่เหลือติดกับอินเดีย ไม่มีทางออกทะเล ขนาด 38,394 ตารางกิโลเมตร

682,321 คน (ปี 2552) ประกอบด้วย 3 เชื้อชาติ ได้แก่ 1) ชาชอฟ (Sharchops) ชนพื้นเมืองดั้งเดิม ส่วนใหญ่อยูท่างภาคตะวันออก 2) นาล็อบ (Ngalops) ชนเชื้อสายทิเบต ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันตก และ 3) โชซัม (Lhotshams) ชนเชื้อสายเนปาลส่วนใหญ่อยู่ทางภาคใต้

กรุงทิมพู (Thimphu)

ซองคา (Dzongkha) เป็นภาษาราชการ ภาษาอังกฤษใช้เป็นสื่อกลางในสถาบันการศึกษาและในการติดต่อธุ รกิจ ภาษาทิเบตและภาษาเนปาลมีใช้ในบางพื้นที่

ศาสนาพุทธมหายาน นิกายกายุบปา (Kagyupa) ซึ่งมีลามะ เช่นเดียวกับทิเบต ร้อยละ 75 (ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อชาติชาชอฟ และนาล็อบ) และศาสนาฮินดู ร้อยละ 25 (ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อชาติโชซัมทางภาคใต้ของประเทศ)

เงินงุลตรัม (Ngultrum) อัตราแลกเปลี่ยน 44 งุลตรัม เท่ากับ 1 ดอลลาห์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.2 รูปี เท่ากับ 1 บาท (เงินงุลตรัมมีค่าเท่ากับเงินรูปีของอินเดีย และเงินรูปีของอินเดียก็สามารถใช้ได้ทั่วไปในภูฏาน)

ระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ ปัจจุบัน คือ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกม ีเคซาร์ นัมเกล วังชุก (His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck) ทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชาธบิดอีงคท์ี ่5 แหง่ราชวงศว์งัชกุ เมือ่วนัที ่9 ธนัวาคม 2549

Lyonchoen Jigmi Thinley (มีนาคม 2551)

BIM

STEC

FTA

�0

อินเดีย

ตัง้อยูใ่นภมูภิาคเอเชยีใต ้มอีาณาเขตตดิตอ่กบั 6 ประเทศ คือ ภาคเหนือติดกับ จีน เนปาล ภูฏาน ภาคตะวันตกเฉยีงเหนอืตดิกบัปากสีถาน ภาคตะวนัออกตดิกบับงักลาเทศ และภาคตะวนัตกเฉยีงเหนอืตดิกบัพมา่ ขนาด 3,287,590 ตารางกิโลเมตร

กรุงนิวเดลี (New Delhi)

1.13 พนัลา้นคน (2551) มจีำนวนมากเปน็อนัดบัที ่2 ของโลก

ภาษาฮินดีเป็นภาษาประจำชาติ และภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในวงราชการ

ฮินดู (ร้อยละ 81.3) มุสลิม (ร้อยละ 12) คริสเตียน ซิกข์ พุทธและอื่นๆ

รูปี (Indian Rupee : INR)

ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา แบ่งเป็น 28 รัฐ และสหภาพอาณาเขตของรัฐบาลกลาง (Union Territories) 7 เขต

Mrs. Pratibha Patil เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2550

Dr. Manmohan Singh เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2547

BIM

STEC

FTA

�1

พม่า

ทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับจีนเป็นที่ราบสูงฉาน ทศิตะวนัออกตดิกบั สปป.ลาวและไทย มทีวิเขาตะนาวศรกีัน้ระหวา่งไทยกบัพมา่ ทศิใตต้ดิกบัทะเลอนัดามนั ทศิตะวนัตกและทศิตะวนัตกเฉียงเหนือติดกับอินเดีย บังกลาเทศ และอ่าวเบงกอล มีเทือกเขา ปัตไกและเทือกเขาอาระกันโยมากั้นเป็นแนวยาวระหว่างพม่ากับอนิเดยี มพีรมแดนตดิกบัจนี 2,185 กโิลเมตร สปป.ลาว 235 กโิลเมตร ไทย 2,401 กิโลเมตร อินเดีย 1,463 กิโลเมตร และ บังกลาเทศ 193 กิโลเมตร ขนาด 678,500 ตารางกิโลเมตร (พื้นดิน 657,740 ตารางกิโลเมตร พื้นน้ำ 20,760 ตารางกิโลเมตร)

มรสุมเขตร้อน

47.4 ล้านคน (กรกฎาคม 50)

เนปิดอ (Naypyidaw)

ร้อยละ 85 ใช้ภาษาพม่า นอกนั้นร้อยละ 15 พูดภาษากระเหรี่ยง มอญ และจีนกลาง ภาษาราชการคือภาษาพม่า ภาษาที่ใช้ติดต่อธรุกจิและการคา้ คอื ภาษาพมา่และภาษาองักฤษสว่นใหญช่าวพมา่

นบัถอืศาสนาพทุธรอ้ยละ 90 ศาสนาครสิตร์อ้ยละ 4 ศาสนาอสิลามร้อยละ 3 ศาสนาฮินดูร้อยละ 0.7 นับถือผีไสยศาสตร์ร้อยละ 2.3

จา๊ต (Kyat : Kt) = 100 Pyas อตัราแลกเปลีย่น (ทางการ) : 1 USD = 6.0 Kyats (มีนาคม 2551) อัตราแลกเปลี่ยน (ไม่เป็นทางการ) : 1 USD = 1,305 Kyats (มีนาคม 2551) : 37.8 จ๊าด/1บาท (มีนาคม 2551)

ระบบสภาทหาร (Military Council)

พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย (Senior General Than Shwe) ประธานของ SPDC (ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2535) พลโท เต็ง เซ่ง (Lt.Gen Thein Sein) (ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2550)

BIM

STEC

FTA

��

ศรีลังกา

ห่างจากตอนใต้ของอินเดียประมาณ 80 กิโลเมตร มีพื้นที่ 65,610 ตารางกโิลเมตร เปน็พืน้ดนิ 64,740 ตารางกโิลเมตร และเปน็พืน้นำ้ 870 ตารางกโิลเมตร ความยาวจากทศิเหนอืถึงทิศใต้ 435 กิโลเมตร และจากทิศตะวันออกถึงตะวันตกมีระยะทาง 225 กิโลเมตร ทิศเหนือและทิศตะวันออกจรดอา่วเบงกอล สว่นทศิใตแ้ละทศิตะวนัตกจรดมหาสมทุรอนิเดยี

ภูมิอากาศส่วนใหญ่ของศรีลังกาจะมีอากาศแบบเมืองร้อน ฝนตกชุกในช่วงมรสุม

20.9 ล้านคน (2550)

กรุงโคลัมโบ (Colombo)

ภาษาสงิหลเปน็ภาษาราชการและภาษาประจำชาตริอ้ยละ 74 และใช้ภาษาทมิฬเป็นภาษาประจำชาติร้อยละ 18 ภาษาอื่นๆ ร้อยละ 8 ส่วนภาษาอังกฤษใช้ติดต่อสื่อสารทั่วไปในภาครัฐ และประชากรสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ประมาณร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด

ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 70 ฮินดูร้อยละ 15 คริสต์ร้อยละ 8 และอิสลามร้อยละ 7

รปูศีรลีงักา (Sri Lankan Rupee) อตัราแลกเปลีย่น 1 เหรยีญสหรัฐฯ ประมาณ 108 รูปี และ 1 บาท ประมาณ 3.2 รูปี

Mr. Mahinda Rajapaksa

Mr. Ratnasiri Wickremanayake

BIM

STEC

FTA

��

เนปาล

ตั้งอยู่บนที่สูงทางทิศใต้ของเทือกเขาหิมาลัย มีอาณาเขตติดกับแคว้นทิเบตของประเทศจีนทางตอนเหนือและทิศใต้ติดกับอินเดียพื้นที่ 147,181 ตารางกิโลเมตร มีพายุฝนในฤดูร้อนและมีอากาศเย็นจัดในฤดูหนาว 28.9 ล้านคน (2551)

กรุงกาฐมาณฑุ (Kathmandu)

ภาษาเนปาลีเป็นภาษาราชการทั้งหมด

ฮินดูร้อยละ 90 พุทธร้อยละ 8 และอิสลามร้อยละ 2

รูปีเนปาล (Nepalese rupee) 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับประมาณ 68.5 รูปี

สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตย

Dr. Ram Baran Yadav

Mr. Pushpa Kamal Dahal

11. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ BIMSTEC FTA

กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 44/100 ถนนนนทบุรี 1 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ : 02-507-7444 โทรสาร : 02-547-5630-1 Website : http://www.dtn.go.th http://www.thaifta.com FTA Call Center : 02-507-7555 FTA One Stop Service : 02-512-0123 ต่อ 823

��

BIM

STEC

FTA

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง Thai Trade Center, Yangon 24-26 Kaba Aye Pagoda Road (Golden Hill Tower) Bahan Township, Yangon Union of Myanmar โทรศัพท์ : 007951 558628, 558556 Ext 7041 โทรสาร : 007-951 558644 E-mail : thaitrade.ygn@mptmail.net.mm สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน Thai Trade Center, Chennai Commercial Section Royal Thai Consulate No.21/22 Arunachalam Road, Kotturpuram, Chennai -600 085 โทรศัพท์ : 001-9144-4230-0790, 001-9144-24470505 โทรสาร : 001-9144-4202-0900, 001-9144-24471617 E-mail : thaitcchennai@eth.net สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงธากา Thai Trade Center, Dhaka 17, Mohakhali C/A 3rd Floor, Red Cresent Concord Tower Dhaka-1212 Bangladesh โทรศัพท์ : 001-88-02 8850056, 8850057, 8850058 โทรสาร : 001-88-02 8850059 E-mail : thaitrade@link3.net สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นิวเดลี Thai Trade Center, New Delhi 10 Bd., Ground Floor, Munirka Marg, Vasant Vihar, New Delhi, 110057, India โทรศัพท์ : 001-9111 46010409, 001-9111 46010408 โทรสาร : 001-9111 46010405, 001-9111 26156862 E-mail : thaicnewdelhi@depthai.go.th