Download - Saratta 1306

Transcript
Page 1: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð¨´ËÁÒ¢‹ÒÇ

www.thaiyogainstitute.com

ÁԶعÒ¹ 2556

http

://p

inte

rest

.com

/sm

north

ey/g

reen

-sce

ne/

Page 2: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

·Õ ่»ÃÖ¡ÉÒ กวี คงภักดีพงษ

แกว วิฑ ูรยเธ ียร

ธีรเดช อุท ัยว ิทยารัตน

นพ.ยงยุทธ วงศภ ิรมยศานติ ์

นพ.สมศักดิ ์ ช ุณหรัศมิ ์

¡ÃÃÁ¡ÒÃ กฤษณ ฟกนอย

ชนาพร เหลืองระฆัง

ชุต ิมา อรุณมาศ

วรพจน คงผาสุข

วรรณวิภา มาลัยนวล

วิล ินทร วิภาสพันธ

สมดุลย หมั ่นเพียรการ

Êӹѡ§Ò¹ พรทิพย อึงคเดชา

วัลลภา ณะนวล

สุจ ิตฏา วิเช ียร

¡Í§ºÃóҸԡÒà จิรวรรณ ตั ้งจ ิตเมธี

ณัตฐิยา ปยมหันต

ณัฏฐวรดี ศิร ิก ุลภัทรศรี

ธนวัชร เกตนว ิม ุต

ธีร ินทร อุชชิน

พรจันทร จันทนไพรวัน

วิสาขา ไผงาม

วีระพงษ ไกรวิทย

ศันสนีย นิรามิษ

สุจ ิตฏา วิเช ียร

ÈÔÅ»¡ÃÃÁ กาญจนา กาญจนากร

ÊÒúÑÞ

¤Ø¡ѹ¡‹Í¹ 2

»¯Ô·Ô¹¡Ô¨¡ÃÃÁ 2¡Ô¨¡ÃÃÁà¤Ã×Í¢‹Ò ธรรมะบำบัดความปวย.. .ได จร ิงหรือ 5

ของฉัน.. .ป นเปนบุญ 6

ประมวลธรรมประมวลรัก 6

àÃ × ่ͧàÅ‹Ò¨Ò¡ÍÔ¹à´Õ 7¨Ò¡à¾× ่͹¤ÃÙสายลมในแสงแดด 12¾ÃÐäµÃ»�®¡á¡‹¹¸ÃÃÁ

สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค

ทุกขธรรมสูตร 14µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้§à´ÔÁ

การฝกยมะดวยสัจจะปฏิญาณอันยิ ่งใหญ 17º·¡Å͹

เด ็กนอย 20

1

http

://w

ww

.dba

dens

.fr/g

aler

ie/i

ndex

?/ta

gs/1

8-pl

ante

Page 3: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð¤Ø¡ѹ¡‹Í¹

»¯Ô·Ô¹¡Ô¨¡ÃÃÁ

2

http

://p

inte

rest

.com

/apc

onsu

lting

/rai

n-w

ater

-eff

ect/

ยางเขาเดือนหก ฝนก็ตกพรำ ๆ...เราเรียนรูฤดุกาลผานบทเพลง แตเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนฤดูกาล

กลับแปรปรวนเพราะโลกใบนี้กำลังพยายามปรับตัวใหอยูในสภาวะที่เรียกวา “สมดุล” ดังนั้นแลวเมื่อมนุษย

ใชทุกสิ่งอยางในธรรมชาติอยางขาดความเอื้ออาทร ธรรมชาติก็พยายามดีดตัวเองอยางสุดโตง เพื่อเรียกรอง

หาความพอดี

มีขาวฝากบอกถึงเพื่อนสมาชิกทุกทาน ที่รับขอมูลขาวสารจดหมายขาวสารัตถะผานทางไปรษณีย

เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและปจจัยบางประการ สงผลใหทางสถาบันฯ มีความจำเปนขอปรับงบสนับสนุน

ขึ้นเปนปละ 250 บาท ซึ่งทานจะไดรับจดหมายขาวเดือนละ 1 ฉบับ เปนระยะเวลา 12 เดือน (เฉลี่ย

เดือนละ 21 บาท โดยประมาณ) โดยเริ่มตั้งแต 1 มิถุนายน 2556 เปนตนไป

สำหรับทานที่สงสัยวา อายุสมาชิกของทานจะทราบไดดวยวิธีใด ทานสามารถสังเกตวันที่ไดจาก

สติ๊กเกอรจาหนาชื่อผูรับ ซึ่งจะมีการวงเล็บวันสุดทายของสิทธิ์การรับขาวสารทางไปรษณีย ทานใดที่สนใจ

รับขาวสารทางไปรษณียหรือตออายุสมาชิก สามารถติดตอไดที่ นองกลอย สถาบันโยคะวิชาการ

â¤ÐÍÒÊ¹Ð¢Ñ ้¹¾× ้¹°Ò¹à¾× ่ͤÇÒÁÊØ¢ÊÓËÃѺ¼Ù Œ àÃ Ô ่ÁµŒ¹ ÇѹÍÒ·ÔµÂ�·Õ ่ 23 ÁԶعÒ¹àÇÅÒ 9.00 – 15.00 ¹. ที่ชั ้น 6 หอง 262 คณะมนุษยศาสตร มศว ประสานมิตร

คาลงทะเบียน 650 บาท สนใจโทร.สอบถามรายละเอียดไดที ่

สถาบันโยคะวิชาการ

â¤Ðã¹Êǹ¸ÃÃÁ ³ Ëͨ´ËÁÒÂà˵ؾط¸·ÒÊ ¿ÃÕ ·Ø¡àÂ็¹Çѹ¾Ø¸ áÅÐ ¾ÄËÑÊ àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹.áÅÐ ÇѹàÊÒÃ�·Õ ่ 22 ÁԶعÒ¹ àÇÅÒº‹Ò 2– 4 âÁ§àÂ็¹รวมสมทบคากิจกรรมไดดวยการบริจาค

ลงทะเบียนรวมกิจกรรมไดที ่ www.bia.or.th

â¤ÐÊÌҧÊØ¢ ³ ˌͧÍÒÈÃÁÊØ¢ÀÒÇÐ ÊÊÊ·Ø¡Çѹ¾ÄËÑÊ àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. áÅÐ ÇѹàÊÒÃ� àÇÅÒ 10.30 – 12.00 ¹.สำรองที่เขารวมกิจกรรมไดที ่ [email protected]

หรือ โทร.02 343 1500 ตอ 2 และ 081 731 8270

Page 4: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð »¯Ô·Ô¹¡Ô¨¡ÃÃÁ

3

ͺÃÁ¤ÃÙâ¤Ðà¾× ่Í¡ÒþѲ¹Ò¨Ôµ ËÅÑ¡Êٵà 230 ªÑ ่ÇâÁ§ ÃØ ‹¹·Õ ่ 13à»�´ÃѺÊÁѤÃáÅŒÇ

ª‹Ç§àÇÅÒͺÃÁ: 10 กรกฎาคม ถึง 2 พฤศจิกายน 2556àà Õ¹: เย็นวันจันทร พุธ และพฤหัส วันเสารเต็มวันสถานที่เรียน: คณะมนุษยศาสตร มศว สุขุมวิท 23เปาหมายของการอบรม :1 ผูเรียนไดฝกปฏิบัติโยคะพื้นฐานอยางสม่ำเสมอ จนเปนสวนหนึ่งของวิถีชีวิต2 ไดศึกษาโยคะตามตำราดั้งเดิม ตลอดจนเรียนวิชาที่เกี ่ยวของ เชน สรีระวิทยา ประวัติศาสตรโยคะ ปรัชญาอินเดีย ทัศนะชีวิต3 สามารถเผยแพร การปฏิบัติโยคะเพื่อพัฒนาจิต ใหกับผูอื ่นได• ฝกปฏิบัติ ทาอาสนะพื้นฐาน ปราณายามะ มุทรา พันธะ กิริยา ตามตำราดั้งเดิม • เขาเรียนไมต่ำกวารอยละ 80• เขาคายวิถีโยคะ1ครั้งและคายกิริยาโยคะ1ครั้ง• เรียนรูทัศนะชีวิต ผานกิจกรรม และเขียนบันทึกการทำความดีทุกวันตลอดชวงการ อบรม• ฝกสอนเทคนิคโยคะพื้นฐาน 20 นาที ตอนปลายภาค• เรียนวิชา สรีระวิทยาของเทคนิคโยคะ, ตำราโยคะดั้งเดิม, ประวัติศาสตรโยคะ, ปรัชญาอินเดีย และสอบขอเขียนผาน• ผูเรียนเลือกทำรายงาน หรือวิจัย ในหัวขอที่ตนสนใจ สงตอนปลายภาค พรอมรายงานหนาชั้น ไมเกิน 20 นาที• ทำการบาน เขียนสรุปเนื้อหาจากหนังสือเรียน 14 เลม• ผูที ่ผานเกณฑการอบรมจะไดรับประกาศนียบัตร จากทางสถาบันฯÃѺ¨Ó¹Ç¹¨Ó¡Ñ´ : 24ทาน¤‹Òŧ·ÐàºÕ¹ : 39,900บาท / คนตลอดหลักสูตร

µÒÃÒ§¡ÒÃͺÃÁ

10 ¡.¤. 17.30-19.30 ¹. »°Á¹Ôà·È ·Õ ่ ÁÈÇ.

Çѹ àÇÅÒ ÃÒÂÅÐàÍÕ´

12-13-14 ¡¤. ¤‹Ò 3 Çѹ 2 ¤×¹ ¤‹ÒÂÇÔ¶Õâ¤РÊǹ¸ÃÃÁÏ »·ØÁ¸Ò¹Õ

15 ¡¤ – 2 ¾Â ¨.¾.¾Ä Ê. ·Õ ่ ÁÈÇ.

17.30-19.30 ¹.8.00-11.00 ¹. 12.00-15.30

½ƒ¡»¯ÔºÑµÔÍÒʹлÃÒ³Ò ÁØ·ÃҾѹ¸ÐàÃÕ¹·ÄÉ®Õ

23-24-25 ʤ. ¤‹Ò 3 Çѹ 2 ¤×¹ ¤‹Ò¡Ôà ÔÂÒ ºŒÒ¹¡Ò¹¹ÔÊÒ ºÒ§ºÑǷͧ

7-25 µ¤. ¨Ñ¹·Ã� ¾Ø¸ ¾Ä àÊÒÃ�

17.30-20.00 8.00-11.00

½ƒ¡Ê͹»¯ÔºÑµÔ¹ÒàʹͧҹÇÔ¨ÑÂ

26 µ.¤.-2 ¾Â¨Ñ¹·Ã� ¾Ø¸ ¾Ä àÊÒÃ�

17.30-20.00 8.00-12.00

Êͺ·ÄÉ®Õ ¢ŒÍà¢Õ¹

หมายเหตุ ตารางอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

Page 5: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

4

¤ÃÙ¼Ù ŒÊ͹ วิทยากรหลักของหลักสูตรคือ ครูฮิโรชิ และ ครูฮิเดโกะ ไอคาตะ สามีภรรยาชาวญี่ปุ น ผูรักอิสระและใฝเรียนรู ซึ ่งทานไดพำนักอยูที ่ ประเทศอินเดียกวา 20 ป และทีมวิทยากรรวม จากสถาบันโยคะวิชาการ¡ÒÃÊ͹ÊÔ ้¹ÊØ´ ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ Œ àÃ Ô ่ÁµŒ¹ ดังนั้นไมวาคุณจะสนใจโยคะดวยเหตุผล ใด ไมวาสภาพรางกายและจิตใจของคุณจะเปน อยางไร สถาบันโยคะวิชาการเปดพื้นที่การ เรียนรู ที่จะชวยใหโอกาสคุณ ไดใชศักยภาพ ในการสืบคนถึงปญญาภายในตน ภายใต บรรยากาศการเรียนรูที ่อิ ่มเอมแวดลอมไปดวย กัลยาณมิตรทางธรรม ดวยจิตกรุณาเปดกวาง บนความเทาเทียมและไมแบงแยก และเมื่อ การสอนสิ้นสุดลง การเรียนรูของคุณจะเดินทาง ตอไปไดดวยตัวของคุณเอง และกลับมาชวยกัน เปนกำลังสำคัญ ในการนำสาสนแหงโยคะนี้ สืบทอดสูยุวชนรุนตอไปไดอยางสมบูรณà¤Å็´ÅѺÊÙ ‹¤ÇÒÁÊÓàÃ็¨ เคล็ดลับความสำเร็จ ที่บรรดาครู ทางจิตวิญญานแนะนำไว เพียงสองประการ หลักๆ คือ การฝกอยางตอเนื่อง และใหเปนไป ดวยความละวาง ดวยหลักสูตรที่ถูกออกแบบ ปรับปรุง และจัดวางใหผู เรียน มีโอกาสฝก อยางสม่ำเสมอสัปดาหละ 4 วัน ตลอดระยะ เวลา 3 เดือน เพื่อเอื ้อใหผู เรียนสามารถ ผนวกโยคะเขาเปนสวนหนึ่งของวิถีชีวิตไดใน เบื้องตน

ซึ่งเปนหนทางที่ผู ฝก จะหยั่งรู ถึง คุณคาแหงโยคะไดอยางกลมกลืนกับสภาพสังคม ในปจจุบันอยางลงตัว¤ÇÒÁ¤Ô´àË็¹¨Ò¡¼Ù Œ¼‹Ò¹¡ÒÃͺÃÁ• ทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตรโยคะพัฒนาจิต ของ สถาบันโยคะวิชาการเพราะตอบโจทยไดตรงประเด็นเกี่ยวกับ การสอนโยคะเพื่อเปนพื้นฐานเขาสูสมาธิ ทฤษฏีที่เขมขน ซึ่งเปนพื้นฐานเบื้องตน สำหรับการกาวเขาสูอาชีพครูโยคะ ขณะเดียวกันการฝกปฏิบัติก็เขมขนไมแพกัน โดยเฉพาะ ปราณายามะที่ ที่อื ่นไมมี• ความแตกตางของหลักสูตรครูโยคะเพื่อการ พัฒนาจิต- การวางเนื้อหาหลักสูตรที่ชัดเจน-ทฤษฏีที่เขมขน (Intensive Theory)- ความใสใจของครูผู สอน พอแบบ และแมแบบ สรางความหัวใจแหงความเปนครู (Teacher with heart and soul)- การปลูกฝงความรับผิดชอบ และการมีวินัยตอตัวเอง- กัลยาณมิตร (รุ นพี่กับรุนนอง) (A true and kind-hearthed friendship)- สรางคุณครูนักคิด และนักวางแผน (Thinking and Planning)

ความคิดเห็นของ หนึ่ง หลักสูตรครูโยคะ

เพื่อการพัฒนาจิต รุน 12

Page 6: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð ¡Ô¨¡ÃÃÁà¤Ã×Í¢‹ÒÂ

5

»˜ÞÞ¸ÒÃÒ Ã‹ÇÁ¡Ñº à¤Ã×Í¢‹ÒªÕÇ ÔµÊÔ¡¢Ò¢ÍàªÔÞ¼Ù ŒÊ¹ã¨·Ø¡·‹Ò¹à¢ŒÒËÇÁ¡ÒÃͺÃÁ“¸ÃÃÁкӺѴ¤ÇÒÁ»†ÇÂ...ä´Œ¨ÃÔ§ËÃ×Í?” ¤ÃÑ ้§·Õ ่ 4วันอาทิตยที ่ 16 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00-16.00 น.ณ อาคารเอนกประสงค ชั้น 2 ศูนยฝกอบรม ปญญธารา สถาบันการจัดการปญญาภิวัฒน ธาราพารค ถ.แจงวัฒนะ

08.30-09.00 น. ลงทะเบียน09.00-11.00 น. ฝกเจริญสติภาวนา และธรรมบรรยายเพื่อเกื ้อกูลตอความปวย โดย พระอาจารยประสงคปริปุณฺโณ อดีตเจาอาวาสวัดปาชิคาโก11.00-12.00 น. ฝกโยคะภาวนาเพื่อลมหายใจ อยางเปนสุข โดย ครูดล เครือขายชีวิตสิกขา12.00-13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน มังสวิรัติ (โดยเจาภาพจัดเตรียมตอนรับทุกทาน)13.00-15.30 น. สุขกาย ใจสงบ สยบมะเร็งโดย พญ.รุจิรา มังคละศิริ จากสาธารณสุข จังหวัด นครราชสีมา15.30-16.00 น. สรุป ธรรมบำบัดความปวย ไดจริงหรือ? และรับพร โดย พระอาจารยประสงค ปริปุณฺโณ อดีตเจาอาวาสวัดปาชิคาโก การอบรมครั้งนี้เปนธรรมทาน ฟรี ไมมีคาใชจาย เหมาะสำหรับผูปวย, ผูดูแลผูปวย และผูที ่สนใจทั่วไป หองอบรมเปนหองปรับอากาศ กรุณาเตรียมผาพันคอหรือผาคลุม แตงกายตาม ปกติไมจำเปนตองเปนชุดขาว สามารถลงทะเบียนออนไลนเพื่อรวมอบรม ธรรมะบำบัดความปวยไดจริงหรือ 4 ไดที ่https://docs.google.com/forms/d/1mpr2WTM6OfMs_4IfLEmq1cCGpw0Tmr5vR7tKHTjT3nU/viewform การลงทะเบียนจะสมบูรณเมื่อทานกดปุม สง / Submit โดยจะมีขอความยืนยันวา ธรรมะ บำบัดความปวย...ไดจริงหรือ? ครั้งที่ 4

ทานได ลงทะเบียนเรียบรอยแลว Your response has been recorded. หากทานมีความจำเปนตองยกเลิก ภายหลังจากลงทะเบียนไปแลวโปรดแจงกลับที่ Email address:[email protected]กรณีมีความสงสัยสามารถสอบถามขอมูลไดที ่ (087)-678-1669, (089)-983-4064 และ (087)-718-9555การเดินทางรถประจำทางสายที่ผานสาย 52,150, 358, รถปรับอากาศสาย ปอ.166รถตูอนุสาวรีย-ปากเกร็ด, มีนบุรี-ปากเกร็ด, ม.รามคำแหง-ปากเกร็ด, ฟวเจอรปารครังสิต- ปากเกร็ดดาวนโหลดแผนที่การเดินทางไดที ่ http://www.pim.ac.th/download/finish/53 /171/0

http

://p

ictu

res.4

ever

.eu/

love

/hea

rts/h

eart-

in-h

ands

-138

170

Page 7: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

6

»˜¹¹ํ ้Òã¨ã¹â¤Ã§¡Òà “¢Í§©Ñ¹...»˜¹à»š¹ºØÞ” ของรักของชอบใจของใชของสะสมหรือของดีที่เปนของฉัน มารวมแบงปนเพื่อแปรเปลี่ยน เปน...บุญ มูลนิธิพันดาราขอเชิญทานผูมีจิตเมตตา รวมแบงปนสิ่งของเสื้อผาหรือของใชที ่ยังอยูในสภาพดีเพื่อนำไปเปลี่ยนใหเปนบุญโดยการประมูลหรือ จำหนายรวม หาทุนในการกอสราง พระศานติตารามหาสถูป สถานปฏิบัติธรรมและ พระสถูปเพื่อสันติภาพของสรรพชีวิต ทานสามารถ รวมบุญปนสิ่งของไดที ่ มูลนิธิโดยตรงหรือสงทางไปรษณีย ถึงมูลนิธิพันดารา 695 ซอยลาดพราว 11 เขตจตุจักร กรุงเทพ 10900 สอบถามไดที ่ [email protected] โทร 0878299387; 0833008119 สำหรับผูสนใจจะปนนํ้าใจ สำหรับกิจกรรมวันที่ 22 มิถุนายนกรุณาสงของใหถึงมูลนิธิในวันที่ 20 มิถุนายน หรือนำไปมอบใหที่ หอประชุมคณะครุศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยระหวางเวลา 16.00-18.00 น.

ÁÙŹԸ Ծѹ´ÒÃÒ¢ÍàªÔÞËÇÁ¿˜§¡ÒúÃÃÂÒÂáÅСԨ¡ÃÃÁ¾ÔàÈÉ“»ÃÐÁÇŸÃÃÁ»ÃÐÁÇÅÃÑ¡” à˵Øà¡Ô´ ³ ä¡ÃÅÒÈวันเสารที ่ 22 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00-17.00 น. หอประชุมคณะครุศาสตรจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยจัดโดยมูลนิธิพันดาราเครือขายและองคกรภาคีรวมกับศูนยจริยธรรมวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีคณะอักษรศาสตรจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยลงทะเบียนสนใจเขารวมกิจกรรมสงชื่อ-นามสกุลลงทะเบียนไดที ่ [email protected] โทรศัพท 0878299387 (ปาตอย) 0833008119 (คุณใหม) ไมมีคาใชจายในการเขารวมกิจกรรมมีอาหารวาง บริการสามารถรวมบริจาคสนับสนุนกิจกรรม และทำบุญในโครงการพระมหาสถูปไดตามกำลัง ศรัทธากำหนดการประมวลธรรมประมวลรัก - เหตุเกิดณไกรลาศวันเสารที ่ 22 มิถุนายน 2556 8.30 ลงทะเบียน9.00 ภาวนาเพื่อรักและศานติ9.15 ปาฐกถานำเรื่อง "ประมวลธรรมประมวลรัก" โดยอ.ประมวลเพ็งจันทร10.30 พักและเยี่ยมชมบูธ11.00 “ทงเลนบทภาวนาแหงความรัก” โดยอ.กฤษดาวรรณหงศลดารมภ12.00 พักเที่ยงและเยี่ยมชมบูธ13.00 ศิลปะภาวนาแหงมิตรภาพโดยอ.มิวเยินเต็นและอ.วรรณวิภามาลัยนวล14.00 ดนตรีกับความรักโดยคุณเมธีจันทรา14.30 พักอาหารวางเยี่ยมชมบูธ15.00 เสวนาเรื่อง "เหตุเกิดณไกรลาศ" โดยอ.ประมวลเพ็งจันทรอ.กฤษดาวรรณหงศลดารมภและคณะจาริกบุญ17.00 จบกิจกรรม

http

://a

llach

eban

.blo

gspo

t.com

/

Page 8: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð àÃ × ่ͧàÅ‹Ò¨Ò¡ÍÔ¹à´ÕÂ

ตอจากฉบับที่แลว

7

¤ÅÒʽƒ¡ÍÒʹРเราฝกตอนเชาตรูหกโมงครึ่งกับตอนสี่โมงเย็นที่ Saraswati Hallคะ การจัดที่นั ่งจะแบงซีกซาย เปนผูชาย ซีกขวาเปนผูหญิง แลวเขาจะใหนักเรียน ตางชาติไดนั ่งสามแถวดานหนาที่จริงเขามีเสื ่อโยคะ ที่เปนยางวางไวใหแตคนสวนใหญก็จะมีผามาปูรอง ไว หรือเอาเสื่อโยคะของตัวเองมาดวย พอไดเวลา หกโมงครึ่งเปะก็เริ ่มฝก ครูจะสวดมันตราเปนการ เริ่ม การเรียน โดยสวดหนึ่งประโยคแลวให นักเรียนสวดตามทีละประโยค จากนั้นก็เริ ่ม ฝกอาสนะพื้นฐานซึ่งเราคุนเคยอยูแลวแตการฝก โยคะ ตอนเชาที่อากาศหนาวๆ นี่ตัวตึงสุดๆ เลย รูสึกถึงผิวหนังที่ขยายตัวออกโดยเฉพาะทาที่เหยียดยืดหลัง รูสึกชัดถึงใตตนขา หลังเขาที่ตองเหยียด ออก เวลาอากาศหนาวๆ ตัวตึงๆ นี่เรารับรูเวทนา ไดชัดดีนะเนี่ยเตยวา ครูใหพวกเราทำอาสนะใน ทานอนหงาย นอนคว่ำ นั่ง และยืนคะ จบดวยทาศพ แปปเดียวหนึ่งชั ่วโมงผานไป บางวันก็จะฝกกปาลภาติ อนุโลมวิโลมดวยนะคะ แลวแตครูจะจัดมา

พอตอนสี่โมงเย็นเราก็มาฝกอีกหนึ่งชัวโมงคะ ก็เปน ทาพื้นฐาน อาสนะอาจจะตางกับตอนเชาเล็กนอย ตอนบายรางกายและขอตอของเรายืดหยุนมากกวาตอนเชา แตที ่สำคัญเราตองมีสติตระหนักรู กับสภาวะภายในรางกายเราจดจออยูกับลมหายใจ ที่ปลายจมูก ขณะที่เราฝกจะมีนักเรียนดิพโพลมา ทำทาตัวอยางใหดูหนาหองทั้งฝ งผู ชายและฝง ผูหญิง รวมถึงมาชวยจัดทาดวยบาง เพราะบางที เวลานอนคว่ำแลวฟงภาษาอังกฤษสำเนียงแขก มองไมเห็นรูปปากขณะพูดเลยฟงไมออกก็มีคะ ถาเราทำไมถูกตองก็จะมีครูกับนักเรียนดิพโพลมา คอยชวยดูและจัดทาให สบายมากคะการฝกอาสนะชวงไมกี ่วันนี้เตยรูสึกสบายเมื่ออยูในทา มีสติ นิ่ง ทำเทาที่เราทำได และใชแรงเทาที่ ควรจะตองใช แมจะมีความคิดผานมาวอบๆ แวบๆ บาง แตสวนใหญการฝกปฏิบัติเปนไปดวยดี ครูบอกวาพวกเราตองนั่งฟงบรรยายและนั่งสวด มนตนาน ดังนั้นอาสนะที่เลือกมาก็จะชวยเหยียดยืด จัดปรับสมดุล และผอนคลายความเกร็งตึงของ กลามเนื้อที่ตองคงตัวไวนานๆ พอจบการฝกทุกครั้ง ก็รู สึกเบา สบาย ผอนคลาย มีแรงกลับไปรวมพิธี บูชาไดนานๆ โดยไมตองเปลี่ยนทา สำหรับเตย

Page 9: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

8

เตยรูสึกดีและมีความสุขทุกครั้งที่ไดฝกอาสนะและ ปราณายามะที่หองนี้ เพราะเปนหองที่เราเคยเรียน มากอนปที่แลวเลยรูสึกผูกพันเปนพิเศษ คงเปน เหมือนความรูสึกของศิษยเกาเวลาไปเยือนโรงเรียน เกา และในคลาสก็มีอะไรใหเราเรียนรูตลอดเวลา ทั้งลักษณะทาทางของครู การเลือกใชเสียง การสาธิตทา ลวนแลวแตเปนประโยชนที่เตย จะนำเอาไปปฏิบัติและนำไปใชสอนนักเรียน สำหรับเตยนะ เตยวาที่ไกวัลมีอะไรใหเตยได เรียนรูเยอะมาก มีเสนหมากๆ ในเรื่องความเรียบ งายคือนี่เปนธรรมชาติของเขาไง เปนธรรมชาติ เปนธรรมดาแตตัวเราที่เจอการปรุงแตงมามาก ก็ใชเวลาเรียนรูและยอมรับตัวเองอยูนานจนคอยๆ ลอกลอนเอาเงื ่อนไขที่มาพอกพูน (อยางหนา) ชีวิตออกไปทีละชั้นๆ รูสึกวาตัวเบาขึ้นเยอะเลย ใชชีวิตไดงายขึ้น สบายขึ้น เงื ่อนไขนอยลงเยอะ เวิ ่นเวิ ้อนอยลงเยอะมาก ตอนกลับมาใหมๆ เพื่อนเพิ่งถามวาเมื่อไหรเตยคนเดิมจะกลับมา (แปรววว) เพราะเมื่อกอนเปนคนเยอะ ^^ เลยบอกเพื่อนไปวาพอขี่จักรยานเปนแลวจะใหกลับ ไปขี่ไมเปนอีกก็ไมรู จะทำยังไง ขอเปนแบบนี้ดีกวา

¤ÅÒʺÃÃÂÒ อันนี้ไมคอยกลาเลาเลยเพราะสมอง สวนแปลภาษา ไมทำงานเลย เลยบอกครูฮิโรชิวา ทำไงดีคะครู หนูฟงบรรยายไมออกเลย บางคลาสพูดหนึ่งชั ่วโมง ไมรู เรื ่องไปสี่สิบหานาที มารูเรื ่องเอาสิบหานาที หลัง ครูฮิโรชิเลยบอกวา ไมเปนไรๆ เขาพูดเรื ่อง ปรัชญาอินเดีย ซึ่งตองมีองคความรูเดิมมาบาง ไมงั ้นก็ตอไมติด แลวเรื ่องที่บรรยายก็คอนขางยาก ดังนั้นไมตองคิดมาก แตยังโชคดีที่พอฟงโบกอลจี ออกบาง โบกอลจีเปนครูใหญของที่นี ่ เตยเคย เรียนวิชา Yoga & Mental Health มาแลวเลยพอ จับคำไดบาง หลักๆ เลยโบกอลจีเลาวากริยาโยคะ สามารถชวยคนที่ระทมทุกขได เพราะกริยาโยคะ จะใหพลังใจที่จะไมตอบโตกับอารมณและความรูสึกตางๆ สิ่งที่ตองทำเพียงแคเฝาดูตัวตนภายใน

ของเราเพื่อใหเกิดพลัง ซึ่งวิธีนี ้จะเพิ่มเพลังให กับตัวเอง และปฏิบัติกริยาโยคะไดดีขึ ้น นอกจากนี้กริยาโยคะยังมีพลังของการเยียวยา ซึ่งในสองสามวันแรกผูปฏิบัติอาจมีอาการปวดศีรษะซึ่งเปนสัญญาณของการชำระลางภายใน ขจัดความ ไมบริสุทธออกไปซึ่งเปนเชนเดียวกับการวิปสสนานอกจากนี้โบกอลจียังบอกวาถาหากจิตกลับมาสู สภาวะปกติเราจะมีความสุข หากรับรูถึงความรูสึก ที่ไมนาพึงใจแตความรูสึกนั้นก็จะไมรบกวนใจใหเกิดความโกรธขึ้นอีก ซึ่งทั้งหมดจะพาไปสูความเขาใจ ในการตระหนักรู เกิดความเติบโตภายใน ความคิด สรางรรค ความมั่นใจในตัวเอง การพึ่งพาตัวเอง ความเปนอิสระ มีขอแนะนำคือผูปฏิบัติควรพูดใหนอย ไมสะสมสิ่งที่เกินความจำเปน ไมคาดหวังจากผูอื ่น ไมพึ ่งพาอาศัยผูอื ่น เปนตน สำหรับการฝก ปราณายามะ จะทำใหผู ฝกรับรูตอสิ่งตางๆไดไวขึ้น และทำใหมีความเขมแข็งเปนการฝกตปส(มีวินัย อดทน) และสวาธยายะ(ศึกษาดานใน) จะทำใหเรา ลงลึกและใครครวญในความคิดและ อีศวรประณิธานะ(การอุทิศ) จะทำใหเรายอมรับ ความเปนจริงรอบตัว ในวันตอๆ ไปก็ยังมีวิทยากรทานอื่น มาบรรยาย โดยมีเนื้อหาที่เตยพอจับใจความไดบาง คือ เขาย้ำวาโยคะคือวิถีชีวิต เปนการปฏิบัติในชีวิต ประจำวัน มีผลงานวิจัยในวารสารโยคะมิมังสา เมื่อเดือนตุลาคม ปพ.ศ. 2467 (กวา 88 ป) ผลการวิจัยสรุปวาโยคีสามารถลดอัตราการเตนของหัวใจลง มีบางสิ่งที่เกิดขึ้นอยางเปนนัยยะสำคัญ ในสมองในขั้นของสมาธิ ในขั้นสมาธิของโยคี สงผลตอทาง สรีรวิทยาและแสดงใหเห็นถึงการ ผอนคลายอยางลึกของระบบประสาทอัตโนมัติทั ้งที่ไมไดมีอาการงวงงุนหรือนอนหลับไป โยคีสามารถดูแลระบบประสาทอัตโนมัติผานการ กำกับตัวเองเพื่อควบคุมภายในจนเกิดสภาวะที่ สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นภายในรางกายได การทำสมาธินั ้นเปนกระบวนที่เปนเอกลักษณ สามารถปรับเปลี่ยนโครงสรางสมองได

Page 10: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

9

มีการกลาวถึงการจัดการความเครียดดวยทา ศวาสนะหรือทาศพ ซึ่งพบวาใหผลดีมาก สามารถ ขจัดความเครียดไดอยางรวดเร็ว หัวใจจะเตนชา ลงดวย สำหรับโรคเบาหวาน ชนิดที่สองนั้น มีสาเหตุจากความเครียดเชนกัน อยางที่กลาวไป ขางตนวาการฝกโยคะสงผลตอไฮโพทาลามัส ควบคุมเรื ่องการมีจิตจดจอ การตอบสนองตอ การผอนคลาย อยางไรก็ตามตองปฏิบัติอยาง ตอเนื่อง เชน แปดสัปดาห สิบเดือน และเกิดการ เปลี่ยนแปลงโครงสรางทางสมองในสวนของ คอรเท็กซและระบบลิมบิค นั่นหมายถึงการปฏิบัติโยคะ จะชวยในเรื่อง ความดันโลหิตสูง โรคหอบดวยเชนกัน ผูปฏิบัติ จะไดรับประสบการณวาตัวเองเปนดั่งจักรวาล เกิดสภาวะมีสติตระหนักรูอยางใครครวญ และคิด พูดทำดวยความสุขุม หากมีการตระหนักรู ทั้งกายและใจ พลังสุขภาพจิต การกำกับดูแลตนเอง การบริหารความเครียด ผูปฏิบัติจะสามารถรับมือ กับสถานการณตางๆ ไดดีขึ ้น รับมือกับความ เครียดที่สูงขึ ้นได อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนมุมมอง ที่มีตอตนเองในแงมุมที่ลึกซึ้งยิ ่งขึ ้น ตลอดจนเกิด ความสงบ รูสึกถึงความเปนหนึ่งเดียวที่เกิดขึ้น

เกิดการเปลี่ยนแปลงการหลั่งสารเคมีในสมอง เขายกตัวอยางวาเมื่อเรารูตัววาสงจิตออกนอก จิตจะกลับมาอยูกับตัว ที่สำคัญยิ่งฝกมากเทาไหร จะยิ่งกาวหนามากขึ้นเทานั้น การทำเชนนี้จะลด กิจกรรมที่เกิดขึ้นในสมองสวนอารมณ (limbic system) ผลคือการโตตอบดวยอารมณก็จะลดลง ซึ่งหมายถึงผูปฏิบัติก็จะทุกขนอยลงดวย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยเรื ่องโยคะกับการจัดการ ความเครียด กลาวคือเมื่อคนเรามีความเครียด จะมีวิธีรับมืออยูสองประเภทคือตอสูกับถอยหนี หากผูปฏิบัติทำสมาธิจะเกิดความผอนคลาย ระบบประสาทอัตโนมัติพาราซิมพาเทติกซึ่งเปน ระบบผอนคลายจะทำงานเพิ่มขึ้น ตองอธิบายสักนิดวาระบบอัตโนมัติ อยูนอกเหนือการควบคุม เราไมสามารถสั่งงาน หัวใจเตนเร็ว-ชาไดการนั่งสมาธิโยคะทำจิตใจใหสงบจะชวยใหมีผลตอตอมใตสมองที่เรียกวา ไฮโพทาลามัสที่ควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติทำใหระบบประสาทซิมพาเทติกทำงานลดลงและพาราซิม- พาเทติกทำงานเพิ่มขึ้นดังนั้นผูที ่มีปญหาดานความ เครียดตองพึงดูแลเรื ่องสุขอนามัยที่ดีหมั่น ออกกำลังอยางเหมาะสม และบริหารความเครียด

Page 11: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

10

โดยทานสวามีใหเราฝกชุดของปราณายามะตอเนื่อง อยางเชน เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง กปาลภาติ 120-120-120(สามรอบรอบละหนึ่งนาทีพักหนึ่ง นาที) อุชชายี 10 ครั้ง(อัตราสวน 1:2 และหายใจออกรูจมูกซาย) เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง และจบดวยอนุโลมวิโลม 10 ครั้ง ใชเวลาประมาณสี่สิบหานาที ทานสวามีบอกวาฝกทำอนุโลมวิโลม 10 ครั้งควรใชเวลามากกวา 5 นาที หากนอยกวานั้นแสดงวาทำเร็วเกินไป ชวงแรกๆ ที่ทำรูวาแสบจมูกอยูบางเพราะมีควันจากกองไฟ แตพอจมูกเริ ่มปรับไดก็รู สึกไมติดขัดอะไร ขณะที่ฝกอยูรู สึกไดถึงลมหายใจที่คอยๆ ละเอียดและจิตที่สงบขึ้น ในวันตอมาชุดของปราณายามะประกอบดวยกปาลภาติ 120-120-120เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง ซ้ำดวยกปาลภาติ 120-120-120เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง แลวนั่งพิจารณาลมหายใจเขาออกหานาที

¤ÅÒÊ·Õ ่¡ Ø¯Ô อยางที่บอกไวขางตนวา เราจะไดรวม พิธีบูชากัน สวดมันตราและโยคะสูตร รวมถึงฝก ปราณายามะดวย โดยหลักๆ สวามีก็ทำพิธีบูชา ซึ่งในคัมภีรฤคเวทยกลาวถึงการบูชาไฟซึ่งเปนพิธีกรรมที่เดนที่สุดเพื่อขอพรจากพระเปนเจาใหทรงมอบความสุขและความโชคดีใหแกผู ที ่บูชานั้นเครื่อง สังเวยที่ใชในการบูชาไฟของพราหมณคือบูชาดวย อาหารที่หุงตมแลวโดยจัดทำภายในบานประกอบ ดวยน้ำนมเมล็ดขาวเนยแข็งเหลาโสม (กลั่นจาก ตนไม) ดอกไมเปนตนเราก็จะสวดมันตราไปใน ขณะที่ทำพิธี เนื่องจากเตยพอสวดไดบางบท เลยรูสึกลื่นไหลพอสมควร อันไหนสวดไมไดก็ สังเกตการรวบคำของคนขางๆ จากตอนแรกๆ ที่รู สึกวาสวดอะไรเนี่ยไมเปนทำนอง ไมเขากันเลย ทั้งมึนทั้งงง แตพอวันตอๆ มาก็รู สึกวาคำเริ่ม เขาปากมากขึ้น ความกังวลลดลง จิตใจจดจอกับ บทสวดไดดีขึ ้น และในบางบทที่ตองสวดซ้ำ ไปซ้ำมาเกือบรอยรอบก็ทำใหตัดความคิดออกไป อยูแตกับการสวด กับคลื่นเสียง กับความสั่น สะเทือนที่เกิดขึ้นในรางกายเทานั้น ทำใหรู สึกสงบ จิตสงบใจไดดี ตองบอกวาเตยเองไมมีอาการปวดศีรษะเลย แตในวันทายๆ เตยมีอาการอื่นคือหงุดหงิด เหมือนรูสึกสั่นๆ เหมือนมีอะไรเขยาตะกอน ขางในและมีน้ำตาไหล ไหลออกมาเองโดยไมไดรู สึก เสียใจอะไร โดยเฉพาะชวงครึ่งหลังของพิธี น้ำตาจะคอยๆ ไหลออกมาจากหางตาพอซึมๆ พอไปถามถึงเขาถึงบอกวาเกิดการชำระลางโดยรางกายขับเอาสิ่งที่คางอยูภายในหรือขับเอาความเครียดของรางกายสวนใดสวนหนึ่งออกมาเปนหยดน้ำตา ไมตองกังวลอะไร หลังจากนั้นก็เลยไมไดพะวง กับอาการนี้อีก สุดทายอาการหงุดหงิดกับ ที่น้ำตาไหลก็คอยๆ หายไปในชวงวันทายๆ ของการฝกกริยาโยคะ เตยอยากแชรในสวนของชุดการฝก ปราณายามะที่รู สึกวาทำใหจิตใจสงบดี เผื่อใครอยากลองเอาไปฝก เพราะเปนปราณายามะ พื้นฐาน

Page 12: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

11

ซึ่งตอนที่ทำพบวาควันไฟเปนอุปสรรคตอการทำ กปาลภาติมากเนื่องจากนั่งใกลไฟ และควันลอยต่ำ ดังนั้นเลยตองขับลมออกเบากวาที่เคยทำและลด จำนวนครั้งจาก 120 เปน 60 ครั้งตอหนึ่งนาทีหลังจากทดลองแลวพบวาชวยลด อาการสำลักควันไฟได แตพอทำเสร็จแลวมานั่งดูลมหายใจแมยังมึนๆ กับควันไฟก็ทำใหรู สึกวารับรูลมที่แตะดานในโพรง จมูกไดชัดเจนมาก เพราะการรับรูที ่บริเวณโพรงจมูกชัดกวาที่เคยสำหรับชุดของปราณายามะในวันอื่นๆ ประกอบดวย อนุโลมวิโลม 10 ครั้ง เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง อุชชายี 10 ครั้ง(อัตราสวน 1:2 และหายใจออกรูจมูกซาย) เปลงเสียงโอม 10 ครั้ง หยุดพัก แลวเปลงเสียงโอมตอ 10 ครั้ง โดยขณะฝกทานสวามีย้ำวาการเปลงเสียงนั้นไม สำคัญเทากับการรูสึกสุขไปกับชวงเวลา ณ ขณะนั้น

ซึ่งพอไดรับคำแนะนำดังนั้นแลวก็ทำใหคลาย ความเครงเครียดที่เกิดขึ้นมาโดยไมทันรูตัว พอบอกกับตัวเองวา ใหทำอยางมีสติ เพลินๆ ไมเพง ไมเรง ไมกดดันตัวเอง พอบอกกับตัวเอง อยูเรื ่อยๆ ก็เลยยิ่งทำใหรู สึกดีกับกริยาโยคะ เวิรคช็อปครั้งนี้เปนอยางมาก สรุปแลวหากถามวาเขารวมกริยาโยคะ เวิรคช็อปแลวไดอะไร เตยไดอยูกับตัวเอง เรียนรู ที่จะลองทำในสิ่งที่ไมเคยทำดวยใจที่เปดกวาง อะไรก็ได ยังไงก็ได ลองดู ทำใหไดรู จักตัวเอง มากขึ้น มองเห็นตัวเองในหลายแงมุม ทั้งขอดี ขอเสีย ขอจำกัด การปลอยวาง ความกังวล ความคาดหวังในตัวเอง ซึ่งการไดเห็นตัวเอง และยอมรับตัวเองทั้งแงบวกแงลบ กลาลืมตามองดู จุดเล็กๆ ที่บางทีเราไมอยากจะมองเห็น กลาที่ จะบอกกับตัวเองวา ใช นั่นเปนสวนหนึ่งของเรา เปนเรื ่องที่เราตองเรียนรูและเติบโต ไมใชเรื ่องนาอายที่เราไมรู หรือเคยทำพลาดไป ใหกำลังใจตัวเองในวันที่ไมงายเลย การที่ไดผานกระบวนการตางๆ ที่วามานี้ เปนชวงเวลาที่งดงามมากสำหรับเตยเลยทีเดียว แตถึงจะชอบกริยาโยคะแคไหนเตยก็ไมสามารถอยู จนจบไดเนื่องจากตองเดินทางไปเดลีซึ ่งเปนทริป ยาวนานมาก จากไกวัลไปพักที่เดลีกอนนั่งรถไฟ ไปตอรถยนตเพื่อไปฤษีเกศ เกิดมาก็เพิ่งเปน ครั้งแรก ที่ไดนั ่งรถไฟตูนอนแบบ สามชั้น ใชคะ อานไมผิด สามชั้น เมืองไทยมีแคสองชั้นใชไหมคะ ที่อินเดียมีสามชั้นคะคนนอนตรงกลางเปนไส แซนดวิช ไปเลย เดี๋ยวตอนหนามาดูกันวา การเดินทางแสนทรหดจากอุณหภูมิเกือบสามสิบ ไปเจอสองจุดเจ็ดองศาเราจะอยูกันอยางไร จะไปรอดไหม แลวพบกันใหมฉบับหนาคะ นมัสเตเตยเองคะ

Page 13: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð¨Ò¡à¾× ่͹¤ÃÙ

12

ÊÒÂÅÁã¹áʧᴴ

1.เปนอีกหนึ่งวันที่รอนระอุ.. เมื่อแสงแดดของเดือนเมษายนทำหนาที่ไดอยางไม ขาดตกบกพรองแตนั่นก็ไมอาจตานทานกระแสแหงญาติธรรมที่ พรอมจะหลั่งไหลกันมารวมตัวไดในงานรวมทอดผาปาเพื่อสรางสถานปฎิบัติธรรม ของหมูบานพลัม จ.โคราชภายในพื้นที่ที ่กินอาณาเขตกวางใหญไพศาล ทวายังคงไรซึ ่งสิ ่งกอสรางฉันมองเห็นศรัทธาจากหัวใจนับรอยๆ ดวงกำลังรวมวางอิฐกอนนอยลงคนละกอนสองกอน

2.และเนื่องจากเหตุที่วา..พื ้นที่ที ่ใชในการรวมพลังศรัทธาวันนี้จึงยังคงเปน เตนทสีขาวสะอาดหลายตอหลายหลังวางเรียงรายและบริเวณดานหนาของเตนทหลังหนึ่งก็ถูกจัดขึ้น เปนแทนยกระดับอยางเรียบงายมีไวสำหรับ ทานติช นัท ฮัน ที่ในโอกาสนี้ไดเดินทางมาเยือนประเทศไทยเปนครั้งที่สองฉันและคณะที่ไปดวยกันเดินหาที่นั ่ง ที่ทางหมูบานพลัมจัดวางเกาอี้วางไวตามแตละโซนเนื่องจาก ทานติช นัท ฮัน จะเทศนาธรรมเปนภาษาอังกฤษโดยจะมีภิกษุณี 2 รูปแปลเปนภาษาไทยและภาษาเวียดนาม ดังนั้นจึงมีโซนหนึ่งที่มีหูฟงไวสำหรับผูที ่สามารถฟงภาษาอังกฤษไดโดยตรงและโซนนั้นคอนขางวางหากเปนสมัยกอนฉันคงบอกกับตัวเองดวยถอยคำวา ชางเปนความโชคดีในความโชครายเสียนี่กระไรแตในตอนนี้ฉันเพียงรำพึงกับตัวเองเบาๆ ในใจวา ‘ธรรมะจัดสรร’เมื่อฉันและพี่บางคนสายหนานอยๆ กับการที่จะนั่งฟงธรรมบนเกาอี้ในโซนนั้น ดวยเพราะออนดอยภาษาที่วาพวกเราทั้งคณะเลยตองกระเถิบไปนั่งบนเสื่อที่ปู สำรองไว และเปนพื้นที่ที ่คนยังจับจองกันไมเยอะนักแรกเลยฉันรูสึกผิด เปนหวงพี่ๆ วาเขาจะนั่งไดไหม จะปวดขาปวดเขาหรือเปลา ดวยตองมานั่งพื้นเพราะฉันแตแลวพี่คนหนึ่งก็ชี ้ใหฉันดูบริเวณดานหนาที่หาง ออกไปไมกี ่กาว บนแทนยกระดับที่พวกเรามองเห็นเมื่อครูและตอนนี้ ทานติช นัท ฮัน ไดนั ่งอยูตรงนั้นแลว

อนัตตา /10.5.56 / โลกสี่เหลี่ยม

Page 14: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

13

3.พิธีการดำเนินไปอยางเรียบงาย..โดยกอนเริ่มเทศนาธรรม ภิกษุณีทานหนึ่งไดพูดผานเครื่องเสียงวา “ขอความกรุณาถายรูปเพียงสิบนาทีแรกเทานั้น นะคะ ทั้งนี้เพื ่อเกื ้อกูลตอทานติชขณะ บรรยายธรรม” เพื่อเกื ้อกูลหรือ.. ฉันรูสึกชอบใจคำ นี้มาก เพราะมันบงบอกถึงน้ำจิตน้ำใจ การอยูรวมกันของสังฆะตรงนี้ไดเปนอยางดี ไมตองออกกฎระเบียบบังคับเพื่อฝนใจกัน แคเอาใจเขามาใสใจเรา และเกื้อกูลใจดวงนั้นแคเริ ่ม.. ฉันจึงรู สึกเหมือนมีสายลมอาจหาญ ที่พัดผานดวงตะวันลอดเตนทเขามาไดบางแลวยิ่งทานติช นัท ฮัน เริ ่มการบรรยายธรรม ทามกลางแสงแดดดวยใบหนายิ้มแยมเปยมเมตตา นั่นอีกเลา ทำใหฉันที่เหมือนกำลังนั่งอยูในเตา ไมโครเวฟกลับเริ ่มรู สึกเหมือนมีลมเย็นๆ พัดมา ..แตแลวก็เหมือนมีใครบางคนมาหมุนเพิ่มระดับ ความรอนของไมโครเวฟใหมากขึ้น เมื่อสายตาพลัน มองเห็นชายหนุมตาน้ำขาวยางสามขุมผามา กลางวง และเมื่อหาที่ที ่ลงตัวไดแลว.. ซึ ่งนั่นก็คือ ตรงหนาฉัน ชายหนุมผูนั ้นก็นั ่งลง และยกกลอง ถายรูปขึ้น.. แมเวลานั้นจะลวงเลยมาเกิน สิบนาทีนานมากแลว ในตอนนั้นฉันรูไดทันที วาเหงื่อที่ไหลซึมจากความระอุของอากาศนั่นยังไม เทากับใจที่รอนดวยเพลิงกิเลส แลวยิ่งเมื่อเพลิง นั้นเริ ่มกระซิบบอกใจฉันวา “ชางไมรู เลยรึไง วาเขาไมใหถายรูปแลว” และอีกหลากหลายประโยค ที่ชักแมน้ำทั้งหามาใหใจฉันคลอยตามชั่วขณะตรง นั้น จึงเปนการฟงบรรยายธรรมดวยหูเพียง อยางเดียว สวนใจนั้นก็ครุนคิดเพียง แตจะเพงโทษผูอื ่น ขณะที่มือก็ยกพัดกระดาษ โบกไปมา เขาทำนองวา ‘ยิ ่งพัด..ยิ ่งรอน’และเมื่อวางพัดลงเพียงครูเพราะเมื่อยมือนั้นเอง ฉันก็รู สึกถึงแรงสะกิดเบาๆ จากทางดานหลังมีผู หญิงคนหนึ่งยื ่นหนามาและสื่อสารดวยภาษา อังกฤษ ขณะที่ใชภาษามือชี้มาที่พัดของฉันวา วาอะไรนั้นฉันฟงไมไดสรรพเอาเสียเลยดวยเพราะ

กลัวภาษาอังกฤษมาก จึงทำใหยังไมทันจะฟงเธอ ใหชัด และไมแมจะถามซ้ำก็แปลเอาเองวา เธอคงจะรอนดวยเชนกัน..จึงขอยืมพัดของฉันหนอยไดไหมดวยความวองไวฉันรีบยื่นพัดใหเธอ พรอมรอยยิ้ม แตเมื ่อหันหลังกลับมาก็รู สึก เหมือนมีสายลมเบาๆ โบกไปมาอยูดานหลังฉันรีบหันขวับอยางตกใจเมื่อพบวาหญิงสาวกำลัง ใชพัดเลมนั้นพัดลมใหฉัน และแนนอนวาดวย รอยยิ้ม เชนกัน ฉันจึงทิ้งความกลัวรีบพูดอยางงูๆ ปลาๆเทาที่พอจะนึกออกในตอนนั้นบอกเธอดวย ความ เกรงใจอยางมากวา “ขอบคุณมากคะ แตไมเปนไรนะคะ” และแมเธอจะตอบดวยภาษาที่ ฉันไมเคยเขาใจ แตคราวนี้ฉันวาฉันเขาใจมัน มากขึ้น เมื่อฟงถอยคำนั้นผานดวงตาของเธอดวยเธอกำลังบอกฉันวา “ฉันอยากทำให ไมเปนไรคะ”4.ฉันหันหลังกลับมาชาๆชายหนุมตาน้ำขาวตรงหนา ยังคง ยกกลองถายรูปอยูมองไปเบื้องหนาโนน ทานติชนัทฮันกำลังชี้ชวนใหเรารูสึกถึงกอนเมฆ ทองฟา สายลม แสงแดด ทุกสิ่งที่อยู รอบตัวเรา ชวนใหเราเกื้อกูลตอสรรพสิ่ง เพราะเราลวนเปน หนึ่งเดียวกัน เมื่อจบธรรมบรรยายฉันจึงสูดหายใจเขาลึกๆ อีกครั้งเพื่อรับเอาสรรพสิ่งเหลานั้นมาไวในตัวเอง.. แมแตแสงแดดที่แสนรอนนั้นขณะที่เริ ่มมีรอยยิ้ม อยูในใจ เมื่อเพิ่งสังเกตเห็นวาชายหนุมตาน้ำขาว ตรงหนาก็มีรอยยิ้มที่มุมปากเชนกันในยามที่เช็คดู รูปของทานติชนัทฮัน ที่ถายจากกลองดิจิตอลในมือแลวจึงรู สึกวาไฟในใจของฉันที่คุกรุ นกอนหนาเริ ่มมอดลง..ไฟในใจที่ลุกลามจนบดบังดวงตา ทำใหมอง เห็นเพียงสิ่งที่ผู อื ่นกระทำสวนสิ่งที่ตัวเองคิดตัดสิน เขาจนเกิดเปนเปลวไฟลุกลามไปทั่วใจนั้น ไมเคย มองเห็น ฉันจึงหันไปกลาวขอบคุณหญิงสาว ชาวเวียดนามคนนั้นอีกครั้ง ดวยภาษาพูด ภาษากาย และภาษาใจ ขอบคุณเธอสำหรับ สายลมออนๆ ที่ไมไดชวยใหฉันคลายรอนไดแคกายแตยังชวยดับไฟรอนที่คุกรุ นอยูภายในใจไดทันเวลา และขอบคุณที่เธอเธอชวยใหฉันไดเรียนรูจักคำที่วา ‘เกื ้อกูล’

Page 15: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

14

¾ÃÐäµÃ»�®¡ àÅ‹Á·Õ ่ ñø¾ÃÐÊصµÑ¹µ»�®¡ àÅ‹Á·Õ ่ ñðÊѧÂصµ¹Ô¡Ò ÊÌÒµ¹ÇÃä·Ø¡¢¸ÃÃÁÊÙµÃ

ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ในกาลใด ภิกษุยอมรูทั ่วถึงเหตุเกิดและความดับสูญแหง ทุกขธรรมทั้งปวง ตามความเปนจริง ก็ในกาล นั้นแล ภิกษุนั ้นเปนผูเห็นกาม เมื่อเธอเห็นกามแลว ความพอใจ ความเสนหา ความหมกมุนความ เรารอน เพราะกามในกามทั้งหลายไมนอนเนื่อง อยู ดวยอาการใด ก็ธรรมเปนเครื่องประพฤติ และธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยู ดวยอาการนั้นอกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌา และโทมนัส ไมครอบงำ ภิกษุผู ประพฤติอยูดวย อาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและธรรม เปนเครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยูดวยอาการนั้น ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ก็ภิกษุยอมรูทั ่วถึง เหตุเกิดขึ้น และความดับสูญแหงทุกขธรรม ทั้งปวงตามความเปนจริงอยางไร ภิกษุยอมรู ทั่วถึงเหตุเกิดขึ้น และความดับสูญแหงทุกขธรรม ทั้งปวงตามความเปนจริงอยางนี้วา รูปดังนี้ ความเกิดขึ้นแหงรูปดังนี้ ความดับ สูญแหงรูปดังนี้ เวทนาดังนี้... สัญญาดังนี้ สังขาร ทั้งหลายดังนี้... วิญญาณดังนี้ ความเกิดขึ้นแหง วิญญาณดังนี้ ความดับสูญแหงวิญญาณดังนี้ ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ภิกษุยอมรูทั ่วถึงเหตุเกิดขึ้นและความดับสูญแหง ทุกขธรรมทั้งปวงตามความเปนจริงอยางนี้แลฯ

¾ÃÐäµÃ»�®¡á¡‹¹¸ÃÃÁ

http

://n

amas

tew

orks

yoga

.com

/tag

/lot

us-m

udra

Page 16: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

15

ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ภิกษุเปนผูเห็นกาม แลวอยางไรเลา เมื่อเธอเห็นกามทั้งหลายอยู ความ พอใจ ความเสนหา ความหมกมุน ความเรารอน เพราะกามในกามทั้งหลาย ไมนอนเนื่องดวย อาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและ ธรรมเปน เครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยูดวยอาการนั้น ดูกรภิกษุทั ้งหลายหลุมถานเพลิงลึกกวาชั่วบุรุษ เต็มดวยถานเพลิงที่ปราศจากเปลว ปราศจากควัน ครั้งนั้นแล บุรุษผูปรารถนาเปนอยู ไมอยากตาย รักสุข เกลียดทุกข พึงมาบุรุษผูมีกำลัง ๒ คน จับบุรุษคนนั้นขางละแขน แลวฉุดเขาไปหาหลุมถาน เพลิงนั้น บุรุษนั่นพึงนอมกายนี้แหละเขาไปดวย ประการดังนี้ ขอนั้นเพราะเหตุอะไรเพราะวาบุรุษ นั้นไมมีความรูวา เราเห็นหลุมถานเพลิงนี้และ จะถึงความตายหรือความทุกขแทบตาย เพราะหลุม ถานเพลิงนั้นเปนเหตุ แมฉันใด ดูกรภิกษุทั ้งหลายภิกษุเปนผูเห็นกามอันเปรียบดวยหลุมถานเพลิง ฉันนั้นแล เมื่อเธอเห็นกามทั้งหลายอยู ความพอใจ ความเสนหา ความหมกมุน ความเรารอน เพราะกามในกามทั้งหลาย ไมนอนเนื่องอยูดวย อาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและ ธรรม เปนเครื่องอยู เปนอันติดตามเธออยูดวย อาการนั้น ฯ ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ธรรมเปนเครื่อง ประพฤติ และธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตาม ภิกษุอยางไรเลา อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌาและโทมนัส ยอมไมครอบงำภิกษุผู ประพฤติ อยูดวยอาการใด ธรรมเปนเครื่องประพฤติและ ธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตามภิกษุดวย อาการนั้น ดูกรภิกษุทั ้งหลายบุรุษพึงเขาไป สูปาที่มีหนามมาก ขางหนาบุรุษนั้นก็มีหนาม ขางซายก็มีหนาม ขางขวาก็มีหนาม ขางลางก็มี หนาม ขางบนก็มีหนาม บุรุษนั้นมีสติกาวเขาไปขาง หนาถอยกลับขางหลัง ดวยคิดวา หนามอยาเบียด เบียนเรา แมฉันใด ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ธรรมคือ ปยรูปและสาทรูปในโลก นี้เรากลาววาเปนหนาม ในวินัยของพระอริยเจา ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุรู แจงอยางนี้แลว พึงทราบอสังวรและสังวร ฯ

เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงผลที่เปนอันตรายดังกลาว ดูกรภิกษุทั ้งหลายอสังวรยอมมีอยางไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เห็นรูปดวยจักษุแลว ยอมนอม ใจไปในรูปอันนารัก ยอมขัดเคืองในรูปอันไมนารัก เปนผูไมเขาไปตั้งกายคตาสติไว มีใจมีประมาณนอย อยู และยอมไมรู ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปญญาวิมุติอันเปน ที่ดับไปไมเหลือแหงอกุศลธรรมอันลามก ที่บังเกิด ขึ้นแลวแกเธอ ตามความเปนจริง ฯลฯ ภิกษุรู แจง ธรรมารมณดวยใจแลว ยอมนอมใจไปใน ธรรมารมณอันนารัก ยอมขัดเคืองในธรรมารมณ อันไมนารัก เปนผูไมเขาไปตั้งกายคตาสติไวแลว มีใจมีประมาณนอยอยู และยอมไมรู ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปญญาวิมุติ อันเปนที่ดับไปไมเหลือแหงอกุศล ธรรมอันลามก ที่บังเกิดขึ้นแลวแกเธอ ตามความ เปนจริง ดูกรภิกษุทั ้งหลายอสังวรยอมมีอยางนี้แลฯ ดูกรภิกษุทั ้งหลาย สังวรยอมมีอยางไร ดูกรภิกษุทั ้งหลายภิกษุในธรรมวินัยนี้ เห็นรูปดวย จักษุแลว ยอมไมนอมใจไปในรูปอันนารัก ยอมไม ขัดเคืองในรูปอันไมนารัก เปนผูเขาไปตั้งกาย คตาสติไว มีใจหาประมาณมิไดอยู ยอมรูชัดซึ่ง เจโตวิมุติ ปญญาวิมุติ อันเปนที่ดับไปไมเหลือแหง อกุศลธรรมอันลามก ที่บังเกิดขึ้นแลวแกเธอ ตาม ความเปนจริง ฯลฯ ภิกษุรู แจงธรรมารมณ ดวยใจแลว ยอมไมนอมใจไปในธรรมารมณ อันนารัก ไมขัดเคืองในธรรมารมณอันไมนารัก เปนผูเขาไปตั้งกายคตาสติไว มีใจหาประมาณ มิไดอยู และยอมรูชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปญญาวิมุติ อันเปนที่ดับไปไมเหลือแหงอกุศลธรรมอันลามก ที่บังเกิดขึ้นแลวแกเธอ ตามความเปนจริง ดูกรภิกษุทั ้งหลาย สังวรยอมมีอยางนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ถาเมื่อภิกษุนั ้น ประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้อกุศลธรรมอันลามก คือ ความดำริอันซานไป เปนที่ตั ้งแหงสังโยชน ยอมบังเกิดขึ้นเพราะความหลงลืมแหงสติบางครั้ง บางคราว การบังเกิดขึ้นแหงสติชา ที่นั ้นแลภิกษุ นั้นยอมละ ยอมบรรเทาอกุศลธรรมอันลามกนั้น ยอมกระทำใหพินาศ ยอมใหถึงความไมมีไดเร็วพลัน

Page 17: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

16

ดูกรภิกษุทั ้งหลาย บุรุษพึงใหหยาดน้ำ สอง หรือสามหยาดตกลงใน กระทะเหล็กอันรอน จัดตลอดวัน หยาดน้ำตกลงชา ทีนั้นแล น้ำนั้นพึง ถึงความสิ้นไป เหือดแหงไปเร็วพลัน แมฉันใด ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ถาเมื่อภิกษุนั ้นประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ อกุศลธรรมอันลามก คือ ความดำริ อันซานไป เปนที่ตั ้งแหงสังโยชน ยอมบังเกิดขึ้น เพราะความหลงลืมแหงสติบางครั้งบางคราว การบังเกิดขึ้นแหงสติชา ที่นั ้นแล ภิกษุนั ้นยอมละ ยอมบรรเทาอกุศลธรรมอันลามกนั้น ยอมกระทำ ใหพินาศ ยอมใหถึงความไมมีไดเร็วพลัน ฉันนั้น เหมือนกันแล ดูกรภิกษุทั ้งหลาย อกุศลธรรมอัน ลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสยอมไมครอบงำ ภิกษุผู ประพฤติอยูดวยอาการใด ธรรมเปนเครื่อง ประพฤติและธรรมเปนเครื่องอยู เปนอันติดตาม ภิกษุดวยอาการอยางนี้แล ฯ

ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ถาวาพระราชา มหา อำมาตยแหงพระราชามิตร อำมาตย ญาติ หรือ สาโลหิต พึงปวารณาภิกษุนั ้นผูประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ เพื่อใหยินดียิ ่ง ดวยโภคะทั้งหลายวา ทานจงมาเถิดบุรุษผูเจริญ ผากาสาวะเหลานี้ ยังความเรารอนใหเกิดขึ้นแกทานมิใชหรือ ทานจะ เปนคนโลนเที่ยวถือกระเบื้องอยูทำไม ทานจงสึก มาบริโภคและจงทำบุญเถิด ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ก็ภิกษุนั ้นประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ จักบอกคืน สิกขาสึกมาเปนคฤหัสถ ขอนั้นไมใชฐานะที่จะมีได ดูกรภิกษุทั ้งหลาย แมน้ำคงคาไหลไป หลั่งไป เทไปในทิศปราจีนถาวามหาชนพึงเอาจอบและ ตะกรามาดวยคิดวา พวกเราจักชวยกันทำแมน้ำ คงคานี้ใหไหลไป หลั่งไป เทไปขางหลัง เธอทั้ง หลายจะสำคัญความขอนั้นเปนไฉนหมูมหาชนนั้นพึงกระทำแมน้ำคงคานี้ใหไหลไป หลั่งไปเทไปขางหลัง ไดบางหรือหนอแล ภิกษุทั ้งหลายกราบทูลวา หามิได พระเจาขา ฯ ขอนั้นเปนเพราะเหตุไร ฯ ขาแตพระองคผู เจริญ เพราะแมน้ำคงคาไหลไป หลั่งไป เทไปในทิศปราจีน แมน้ำคงคานั้นอันบุคคล จะทำใหไหลไป หลั่งไป เทไปขางหลัง ไมใชกระทำ ไดงาย ก็หมูมหาชนนั้นพึงเปนผูมีสวน แหงความ ลำบาก ความคับแคนเพียงไรแมฉันใด ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ถาวาพระราชา มหาอำมาตย แหงพระราชา มิตรอำมาตย ญาติหรือสาโลหิต พึงปวารณาภิกษุนั ้นผูประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ เพื่อจะใหยินดียิ ่งดวยโภคะทั้งหลายวา ทานจงมา เถิดบุรุษผูเจริญ ผากาสาวะเหลานี้ยังความเรารอน ใหเกิดขึ้นแกทานมิใชหรือ ทานจะเปนคนโลน เที่ยวถือกระเบื้องอยูทำไม ทานจงสึกมาบริโภค โภคะและจงทำบุญเถิด ดูกรภิกษุทั ้งหลาย ภิกษุนั ้น ประพฤติอยางนี้ อยูอยางนี้ จักบอกคืนสิกขา สึกออกมาเปนคฤหัสถ ขอนั้นไมใชฐานะที่จะมีได ฉันนั้นเหมือนกันแล ขอนั้นเพราะเหตุไร เพราะวา จิตของเธอนอมไป เอนไป เงื ้อมไปในวิเวกสิ้น กาลนาน ก็จิตนั้นจักเวียนมาเพื่อเปนคฤหัสถ ขอนั้นไมใชฐานะที่จะมีได ฯht

tp:/

/ww

w.d

anm

ala.

com

/gal

lery

Page 18: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

17

µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้§à´ÔÁ

¡Òýƒ¡ÂÁдŒÇÂÊѨ¨Ð»¯ÔÞÒ³ÍѹÂÔ ่§ãËÞ‹

ตอนที่แลวกลาวถึงเนื้อหาของคำวา อปริคระหะ(ประโยค ๒:๓๐)วาคือ การไมรับหรือ เก็บสะสมสิ่งใดๆ ซึ่งไมไดจำเปนตอการดำรง ชีพหรือตอหนาที่อันจำเปนของผูฝกโยคะ และไมมี ขออางวาสะสมสิ่งตางๆ เพราะในอนาคตอาจจะมี โอกาสไดใชประโยชนจากสิ่งเหลานั้น อปริคระหะ ในความหมายที่เขมงวดนี้เปนสิ่งที่ยากมากตอการ ปฏิบัติ ในยมะทั้งหมดของปตัญชลีอปริคระหะ เปนเพียงขอเดียวที่การปฏิบัติในระดับทางกายม ความสำคัญมากกวาการปฏิบัติในระดับจิตใจ จริงๆ แลวอปริคระหะในระดับจิตใจคือ สันยาสะ หรือการไมยึดติดทางใจตอสิ่งตางๆ ที่มีอยู

สันยาสะและอปริคระหะเปนสองดานของเหรียญ เดียวกันและควรจะปฏิบัติไปพรอมๆกัน อปริคระหะ ที่ปราศจากสันยาสะ(การไมยึดติดทางใจ) จึงเปน เรื ่องยากที่จะปฏิบัติได สวนสันยาสะที่ไมได ปฏิบัติอปริคระหะ ผูปฏิบัติอาจคุนชินที่จะใชสิ ่ง ตางๆ ที่ใหความสุขและอาจเกิดความรูสึก ยึดติดกับสิ่งเหลานั้นขึ้นมาในใจไดงาย โยคสูตรประโยคตอมากลาววา“ชาติ-เทศะ -กาละ-สมยานวัจฉินนาห สรรวเภามา มหาวรตัม”- ๒:๓๑ แปลวา การฝกยมะควรจะประพฤติปฏิบัติ ดวยสัจจะปฏิญาณอันสูงสงอยางถึงที่สุด นำไปใช ปฏิบัติไดในทุกสถานการณโดยไมมีขอยกเวน และ ไมอยูภายใตเงื ่อนไขใดๆ ไมวาจะเปนเรื ่องชาติ กำเนิด ในชนชั้นวรรณะหรือสถานภาพทางสังคม ใด(ชาติ) หรืออยูอาศัยในพื้นที่ใด(เทศะ) และไมขึ ้น อยูกับชวงเวลา(กาละ) และยุคสมัยใด(สมยะ) ประโยคนี้บอกวายมะหรือการปฏิบัติ ตามกฎแหงการควบคุมตนเองเหลานี้เปน “มหาวรตะ” หรือสัจจะปฏิญาณอันยิ่งใหญ เพราะ เปนการควบคุมบังคับตนเองใหปฏิบัติตามกฎที่ยิ ่ง ใหญมากเหลานี้ได และยังบอกตอไปอีกวามันเปน

วีระพงษ ไกรวิทย และจิรวรรณ ตั้งจิตเมธี แปลและเรียบเรียง

http

://w

ww

.tele

grap

h.co

.uk

Page 19: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

18

“สรรวเภามะ” หมายความวาตองนำไปใชปฏิบัติ ในทุกสถานการณและทุกเงื ่อนไขซึ่งบอกเปน นัยยะวา ผูฝกโยคะตองประพฤติปฏิบัติยมะ เหลานี้โดยปราศจากขอยกเวนหรือขออางใดๆ แตปตัญชลีคงไมพอใจกับขออางหรือขอยกเวนเหลานี้ ทานกลาวถึงเงื ่อนไขทั้งหมดนี้ อยางชัดเจน วาปกติแลวจะมีการนำไปใชเปนขออางเพื่อที่จะ ไดไมตองปฏิบัติตามกฎของยมะทั้งหลาย เงื ่อนไข ของชีวิตโดยเฉพาะสถานภาพทางสังคมหรือในสังคมฮินดูนั ้น บอยครั้งที่เรื ่องชนชั้นวรรณะสามารถ ใชเปนขออางสำหรับการไมปฏิบัติตามกฎของ ยมะสักขอหนึ่งหรือมากกวานั้น กฎหมายและ ประเพณีที่แปลกหรือมีลักษณะเฉพาะซึ่งแพรหลาย ในพื้นที่(เทศะ)หนึ่งหรือในประเทศหนึ่งหรือในชวง เวลาหนึ่งบางครั้งอาจปรากฏราวกับวามันกลายเปนอุปสรรคขัดขวางการปฏิบัติตามยมะทั้งหลาย หรืออาจมีบางโอกาสที่รู สึกเหมือนกับวาไมอนุญาตหรือไมเอื ้อใหปฏิบัติตามกฎแหงยมะ ปจจัยตางๆ ขางตนที่เปนขออางในการละเมิดยมะนั้นเปนเรื ่อง คอนขางปกติ อยางเชนคนหนึ่งกำลังพูดโกหก หรือกระทำการหลอกลวง เขากำลังละเมิดยมะ ขอสัตยะ และมักจะอางวาเปนเพราะยุคสมัย(สมยะ) หรือสถานที่(เทศะ)ที่เฉพาะเจาะจงเชนนี้ทำใหเขาไมอาจจะปฏิบัติตามขอสัตยะ(ความจริง)ได ทุกวันนี้พบวาคนจำนวนมากหรือแมแตผู เผยแพร โยคะที่ภูมิใจวาตนเองไดสอนและเนนเรื ่องการไม ละเมิดยมะ ตางกลาววายุคสมัยนี้เปนยุคที่ การดำรงตนอยูบนความซื่อสัตยและความจริงเปน เรื ่องที่แทบจะเปนไปไมไดแลวในทางปฏิบัติ ดังนั้นความเชื่อที่เชื ่อกันอยางงมงาย ของกลุมชนชั้นวรรณะและผูมีสถานภาพทางสังคม บางครั้งจึงกลายเปนขออางที่จะไดไมตองปฏิบัติตนใหดำรงอยูดวยความซื่อสัตย(สัตยะ) อาทิ ชนชั้นชางทองและชางตัดเสื้อในอินเดียเชื ่อกันอยางผิดๆ วา การโกหกหลอกลวงลูกคา และการโกง โลหะมีคาหรือผาเปนสิทธิอันชอบธรรมตั้งแตเกิด หรือแมแตเปนศาสนธรรม(ขอปฏิบัติทางศาสนา) ของชนชั้นพวกเขากันเลยทีเดียว ที่กลาวมานี้ไมได

จำกัดเฉพาะแตในอินเดียหรือสังคมวรรณะของชาว ฮินดูเทานั้น บางครั้งอาชีพอยางหนึ่งก็กลาย เปนขออางใหกระทำการหลอกลวงไดเชนกัน เชน อาชีพตำรวจ เปนตน ขออางตางๆ ที่กลาวมา นั้นไมไดถือเปนการอนุญาตสำหรับผูฝกโยคะที่ตองการกาวหนาบนหนทางแหงโยคะอยางแทจริง อยางนอยที่สุดหากเขามีขออางเชนนั้นแมจะเพียง บางครั้งก็ตาม ความกาวหนาของเขาก็จะลาชา ลงไปมาก ไดเคยกลาวไวแลววาแงมุมที่สำคัญจริงๆ ของยมะ ก็คือ แงมุมทางจิตใจ และไมเกี ่ยวของ กับการ กระทำทางกาย ดังนั้นบางครั้งอาจเปนไปไดวา คนหนึ่งกำลังมีปญหาหรือแมแตกำลังฆาคนอื่น อาจจะยังไมไดละเมิดยมะขออหิงสาก็ไดหากจุดประสงคทางใจของเขาไมไดมีเจตนาที่จะทำรายคนอื่น และการกระทำนั้นไมไดทำเพื่อผลประโยชนของตัว เขาเอง โดยเฉพาะการละเมิดยมะ โดยการกระทำ ทางกายที่กำลังเกิดขึ้นดวยเจตนาที่แทจริงวาเปน การทำประโยชนใหกับคนหรือสัตว หรืออยางนอย ก็เปน เพราะวามีความจำเปนอยางหลีกเลี่ยง ไมไดเพื ่อประโยชนของสังคมหรือคนสวนใหญ และไมไดทำไปเพื่อประโยชนอันเห็นแกตัวของผู กระทำเอง การกระทำนั้นก็ยังนับวาสอดคลอง ตองกันกับการปฏิบัติตามกฎยมะขออหิงสา ตัวอยางที่ชัดเจนมากในเรื่องนี้คือ ศัลยแพทยและ ทหาร ที่ตอสูเพื ่อความถูกตองและความเปนธรรม (1)

(1) ยกตัวอยางศัลยแพทยที่ผาตัดคนไข

เพื่อรักษาอาการเจ็บปวยแตกลับทำใหคนไขเสียชีวิต

ซึ่งดูเหมือนจะผิดยมะแตทำไปดวยเจตนาอันดีที ่ตองการชวยเหลือ

และตัวอยางทหารที่ตองฆาอีกฝายหนึ่งซึ ่งดูเหมือนจะผิดยมะแตทำ

ไป ดวยเจตนาเพื่อปกปองอธิปไตยของ ประเทศชาติไมใหผู อื ่น

มารุกรานเอาเปรียบได (ผู แปล)

Page 20: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

19

อรรถกถาจารยรุ นเกาบางทานตีความ ประโยคนี้วาเปนการแยกความแตกตางระหวางคำ วา มหาวรตะ กับคำวา วรตะ พวกเขาจึงอธิบายวา การปฏิบัติตามยมะอยางเครงครัดโดยปราศจากขอยกเวนใดๆ ตามที่ไดชี ้แจงและอธิบายอยางชัดเจน ขางตนแลวนั้นเรียกวา มหาวรตะ หรือสัจจะ ปฏิญาณอันยิ่งใหญ ตามแนวคิดของอรรถกถาจารย เหลานี้ การปฏิบัติตามยมะอยางเครงครัด เชนนี้เหมาะสำหรับโยคีที ่กาวหนาแลวเทานั้น ซึ่งทานเหลานี้เปนผูซึ ่งตองการเขาถึงโยคะอยาง สมบูรณแบบหรือ ไกวัลยะ สำหรับผูปฏิบัติโยคะใน ระดับธรรมดาหรือระดับพื้นฐานจะปฏิบัติยมะแบบ วรตะ เทานั้นซึ่งก็ถือวาเพียงพอแลว ในการปฏิบัติ วรตะอยางงายนี้บางครั้งจึงสามารถใชขอยกเวนได และการละเมิดยมะดูจะเปนเรื ่องที่ถูกตองในบาง สถานการณและในมุมมองทางโลกตามความเปน จริง อยางไรก็ตาม การตีความเชนนี้ ดูเหมือนจะไมสมเหตุ สมผลนัก อยางนอยก็ไมมีเหตุอันชัดเจน ที่จะ กลาววา ปตัญชลีตองการเสนอใหเห็นความ แตกตางของ(การปฏิบัติยมะ)สองแบบนี้

ดูเหมือน ทานจะไมไดมีความคิดที่จะแบงเกรด ความจริงจัง ของผูฝกโยคะใหเปนสองหรือหลายๆ ประเภท ตรงกันขามประโยค ๒:๓๕ ถึง ๔๕ ที่ชี ้ถึงผลหรือ เกณฑอันสมบูรณของการปฏิบัติ ตามยมะและนิยมะ นั้นใหรองรอยวา ปตัญชลีไดวางเปาหมายสูงสุด ของการ เขาถึงความสมบูรณในทุกๆ เรื่องของ โยคะโดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิบัติตามยมะ- นิยมะ จึงอาจเปนเรื ่องไมมีสาระที่จะคิดวาปตัญชลีคาดหวังใหผู ฝกโยคะบางคนมีการพัฒนาในระดับ พื้นๆ ธรรมดาบนเสนทางแหงโยคะ และจึงแนะนำ ใหฝกวินัยควบคุมตนเองในกรณีนี้แบบหลวมๆ หรือไมเครงนัก ตามมุมมองของอรรถกถาจารยเลมนี้ ขอเสนอของปตัญชลีเปนไปเพื่อผูฝกโยคะแตละคน และทุกๆ คน ดังนั้นผูฝกโยคะทุกคนจึงควรพยายาม อยางจริงใจมากๆ ที่จะเชื ่อและปฏิบัติตาม ยมะ (และนิยมะดวย) โดยปราศจากการพยายามที่จะหา ขออางที่จะละเมิดขอปฏิบัติเหลานี้ ไมตองสงสัย เลยวาในโลกแหงชีวิตจริงนั้น แมจะมีความตั้งใจ อยางแนวแน ที่สุดที่จะไมละเมิดกฎยมะแลวก็ตาม แตผู ปฏิบัติก็เลี ่ยงไมไดที ่จะตองประพฤติปฏิบัติใน ทางที่ละเมิดกฎเหลานี้อยางนอยที่สุดก็ในระดับทางกาย อยางไรก็ตามสิ่งนี้อาจจะไมเปนไรก็ได ความจริงแลวนี่อาจจะไมไดเปนการละเมิดยมะจริงๆ ก็ได ถาเจตนาของผูฝกไมไดเปนอยางเดียวกับผล ที่ออกมา(จากการกระทำ)นั้น อยางที่ไดเนนไวแลว วาการปฏิบัติยมะที่แทจริงคือ ในระดับจิตใจ หาใช เพียงรูปแบบการกระทำทางกายที่แสดงออกมาภายนอกเทานั้น หากเขาใจเหตุผลนี้อยางชัดเจนแลว ก็จะไมมีเหตุผลอันใดที่จะตองแยกความแตกตางของ มหาวรตะ กับ วรตะ ในการปฏิบัติตามกฎแหง ยมะทั้งหลาย

เอกสารอางอิง :

Karambelkar, P. V. (1986).PATANJALA YOGA SUTRAS

Sanskrta Sutras with Transliteration, Translation &

Commentary.Lonavla :Kaivalyadhama, p. 248-253.http

://w

ww

.flic

kr.c

om/p

hoto

s/ge

offj

kim

/716

2762

319/

Page 21: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

20

เด็กนอย1.เ ด็ ก น อ ยเมื่อเธอเริ่มเติบใหญเธอจึงเริ ่มเรียนรูที ่จะสื่อสารความรูสึกออกมาเปนถอยคำฉันจึงตั้งใจฟง, ทุกครั้งที่เธอพูดหรือแมแตในบางคำพูด, ที่เธอไมไดเอื้อนเอยออกมา

เพราะเธอมีความรูสึก มีความคิดเปนของตัวเองฉันจึงเชื ่อเสมอ, วาการยอมรับสิ่งเหลานั้นเปนเรื่องจำเปนเหมือนที่คนสวนเพียงรดน้ำพรวนดินแตการเติบโตนั้น, ใครเลาจะคาดเดาไดอยากระนั้นเลย..แมความงามของไมตนนั้นก็ยังเปนความลับของจักรวาล

2.เ ด็ ก น อ ยอยาไดเศราใจไปเลยหากเสียงของเธอจะไมมีใครไดยิน

เพราะฉันคอยตั้งใจฟงอยูเสมอแมแตเสียงเล็กๆ ในหยาดหยดน้ำตาที่ใครอื่นอาจมองวาเปนเรื่องธรรมดาของวัยเยาวแตฉันใครรู , หัวใจดวงนอยๆ ซอนความหมายใดไวในหยดน้ำ

3.เ ด็ ก น อ ยฉันอยากใหเธอคอยฟงเสียงนั้นอยูเสมอเพราะอีกไมนาน, เมื่อเธอเติบโตขึ้นเมื่อเธอเริ่มเรียนรูวิธีที ่จะโยนหัวใจไปขางหนาและเดินตามมันขอเธอจงเทาทัน, สิ่งที่อยูภายในนั้น

เพราะระหวางการเดินทางที่ยาวไกลเธออาจพบเจอเรื่องราวมากมายบางนำพามาซึ่งรอยยิ้มบางทิ้งรอยเทาแหงความเศราไวให

และเมื่อเวลานั้นมาถึงขอเธอจงทำความเขาใจกับสิ่งที่อยูภายในเพราะเราไมอาจจัดการกับโลกใบนี้ไดแตเราสามารถเรียนรู, ที่จะอยู และเขาใจโลกใบเล็ก. . ใ น ตั ว เ ร า เ อ ง

‘อนัตตา’

Page 22: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

21

à´×͹ ¾ÄÉÀÒ¤Á 2556 ÁÕ¼Ù ŒºÃԨҤʹѺʹع¡Ò÷ӧҹ¢Í§Ê¶ÒºÑ¹Ï ´Ñ§¹Õ ้

ครูวรพจน มาเนียม 2,000

ครูว ัลภา ณะนวล 200

ครูระวีวรรณ วงศกะวรรณ 1,000

ครูพลอยจิตมณฑา อวัสดาฐิต ิ 2,000

คุณศรีนวล อุณเวทยวานิช 100

ครูช ุต ิมา อรุณมาศ 200

เงินสมทบกิจกรรมโยคะในสวนธรรม 25/5/56 2,390

จากตู บร ิจาค ในสำนักงาน 3,618

ÃÇÁ 11,508

Page 23: Saratta 1306

ÊÒÃѵ¶Ð

22

ÂÔ¹´Õà Ѻ¡ÒÃʹѺʹع:สถาบันโยคะวิชาการดำเนินการโดยไดร ับการสนับสนุนบางสวนจากมูลนิธ ิหมอชาวบาน

มีรายไดจากคาลงทะเบียนกิจกรรม มีรายไดจากการจำหนายผลิตภัณฑต างๆ นอกจากนั ้น

สถาบัน ฯ ยังยินดีร ับการสนับสนุนจากผู สนใจรวมเผยแพร

เพื ่อนำเง ินมาใชดำเนินการใหบรรลุว ัตถุประสงคตามที ่ต ั ้งไว

สนับสนุนผานบัญชี : ธนาคารไทยพาณิชย

บ ัญชีออมทรัพย

ชื ่อบัญชี มูลนิธ ิหมอชาวบาน (สถาบันโยคะวิชาการ)

เลขที ่บ ัญชี 173-232-9491

สาขา The Mall 3 รามคำแหง

ʹѺʹع´ŒÒ¹·Ñ¡ÉÐสถาบันโยคะวิชาการยินดีร ับการสนับสนุน

ทักษะจากผู ม ีความสนใจ หรือถนัดในเรื ่องของการออกแบบ

เพื ่อช วยในการจัดทำอารตเว ิร คทั ้งในสวนของจดหมายขาวสารัตถะ ออนไลน

การทำโปสเตอรเพื ่อใช เป นสื ่อประชาสัมพันธหลักสูตร และ กิจกรรมอื ่น

ผู ม ีความถนัดในการติดตอสื ่อสาร

ที ่สามารถเปนชองทางในการเผยแพร และ ประชาสัมพันธหลักสูตร และ กิจกรรมสถาบันฯ

ผู สนใจรวมพัฒนา web page ของสถาบันโยคะวิชาการ

Page 24: Saratta 1306

ʶҺѹâ¤ÐÇÔªÒ¡Òà ÁÙŹԸ ÔËÁͪÒǺŒÒ¹201 «ÍÂÃÒÁ¤Óá˧ 36/1 ºÒ§¡Ð»� ¡·Á.10240â·ÃÈѾ·� 02 732 2016-7, 081 401 7744â·ÃÊÒà 02 732 2811ÍÕàÁÅ� [email protected]àÇ็ºä«·� www.thaiyogainstitute.com


Top Related