dee magazine

8
หนังสือดี ฉบับที่สิบเอ็ด มิถุนายน ๒๕๕๔ สํานักข่าวหัวดี หน้า เล่าสู่กันฟัง หน้า สกู๊ปพิเศษ หน้า ใคร อะไร ที่ไหน หน้า สุขภาพ หน้า ธรรมะ หน้า ร่วมด้วย ช่วยโลก หน้า บอกต่อ หน้า คุยกับหนังสือดี หน้า อ่านแล้วชอบใจ บอกต่อกันไปเยอะๆ หนังสือดี D E E M A G A Z I N E 2 0 1 1 ฉบับที๑๑ วันทีมิถุนายน ๒๕๕๔ หนังสือดีสําหรับคนไทย พบกันในวันเสาร์แรกของทุกเดือน หนังสือดีมีเจตนาที่จะใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง และตรวจทานอย่างละเอียดก่อนพิมพ์ อย่างไรก็ตาม หากเกิดข้อผิดพลาดในการใช้ภาษาหรือการสะกดคํา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หนังสือดีขออภัยผู้อ่านมา ที่นีพิมพ์ทีGB COMPUTER & DESIGN โทร 09 940 5334 EMAIL [email protected] www.gbnz.co.nz สาวๆอกหัก กษัตริย์จิกมีทรงสละโสด สาวสวยที่คุณเห็นในภาพ กําลังจะทําให้ผู้หญิงหลาย คน (โดยเฉพาะหญิงไทย) อิจฉาตาร้อน เพราะอีกไม่ นานนีเธอกําลังจะเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก (หรือ เจ้าชายจิกมีที่คนไทยรู้จัก) กษัตริย์หนุ่มวัย ๓๑ พรรษา แห่งประเทศภูฎาน สาวสามัญชนผู้นี้มีนามว่า เจ็ตซัน เปมา สาวน้อยชาว ภูฎานวัยเพียง ๒๑ ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทิมพู ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีทรงคบหาดูใจมาระยะหนึ่ง แล้ว จึงได้ตัดสินพระทัยแถลงต่อที่ประชุมสภาฯว่าจะ ทรงอภิเษกสมรสในเดือนตุลาคมที่จะถึงนีแต่ไม่ทรงมี พระราชประสงค์ให้จัดพิธีใหญ่โต เนื่องจากประเทศมี ทรัพยากรน้อยและทรงอยากได้พิธีแบบใกล้ชิดและ เป็นกันเอง ทรงตรัสถึงว่าที่พระราชินีของพระองค์ว่า ถึงแม้จะมีอายุน้อยแต่ เธอมีบุคลิกและจิตใจที่อบอุ่น อ่อนโยน มีเมตตา ซึ่งคุณสมบัติเหล่า นี้เมื่อผนวกเข้ากับภูมิปัญญาที่เธอจะได้รับในอนาคต เมื่อเธอมีวัย วุฒิและสั่งสมประสบการณ์ได้มากขึ้น เธอจะข้ารับใช้ที่ดีของ แผ่นดินทรงรับสั่งอีกว่า ข้าพเจ้าคิดมานานแล้ว และตัดสินใจว่าถึงเวลา แล้วที่จะต้องแต่งงาน เหล่าพสกนิกรของข้าพเจ้าคาดหวังไว้ว่าผู้ทีจะมาเป็นราชินีในอนาคตของพวกเขาจะต้องสวยสง่า เพียบพร้อม สมบูรณ์แบบ มีการศึกษาที่ดี ซึ่ง เจตซัน เปมา คนรักของข้าพเจ้า นั้น เป็นผู้หญิงที่มีหัวใจที่งดงาม จิตใจดี และพร้อมที่จะสนับสนุน ข้าพเจ้าในทุก เรื่อง และเป็นคนที่ข้าพเจ้าไว้วางใจมาก ข้าพเจ้า ไม่อาจทราบได้ว่าเหล่าพสกนิกรจะพูดถึงเธอว่าอย่างไรกันบ้าง แต่ ข้าพเจ้าบอกได้เพียงว่า เจตซัน เปมา มีคุณสมบัติที่เพรียบพร้อม เท่าที่สตรีคนหนึ่งพึงมี สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ ทรงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย ในปีพ.๒๕๔๙ ทรงเสด็จเยือน ประเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อทรงเข้าร่วมพระราชพิธีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงยึดเอาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่างในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการมีชีวิตแบบพอเพียง นอกจากนี้ทรงเป็นกษัตริย์หนุ่มที่ทั่วโลกจับตามอง เนื่องจากทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในโลก แต่ ทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ด้วยทรงจบการศึกษาสาขาการทูตและการเมือง จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ส่วนว่าที่พระราชินีของพระองค์นั้น ขณะนี้กําลังศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทีมหาวิทยาลัยรีเจนท์ ประเทศอังกฤษ ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ติดตาม ชีวิตที่มีแต่การให้ เรื่องราวของการใช้ชีวิตอย่างมี ความหมาย ของแม่ติ๋ว หรือตัวจริงของแม่ต้อย จากโฆษณาไทยประกันชีวิต ที่เรียกน้ําตาจากคนทั้งประเทศ ใน สกู๊ปพิเศษ หน้า

Upload: anni-krageloh

Post on 09-Mar-2016

238 views

Category:

Documents


5 download

DESCRIPTION

Magazine for Thais in NZ

TRANSCRIPT

Page 1: Dee Magazine

หนังสือดี ฉบับที่สิบเอ็ด

มิถุนายน ๒๕๕๔

สํานักข่าวหัวดี หน้า ๒

เล่าสู่กันฟัง หน้า ๓

สกู๊ปพิเศษ หน้า ๔

ใคร อะไร ที่ไหน หน้า ๖

สุขภาพ หน้า ๗

ธรรมะ หน้า ๗

ร่วมด้วย ช่วยโลก หน้า ๗

บอกต่อ หน้า ๘

คุยกับหนังสือด ี หน้า ๘

อ่านแล้วชอบใจ บอกต่อกันไปเยอะๆ

หนังสือดี D E E M A G A Z I N E 2 0 1 1

ฉบับที่ ๑๑ วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๔

หน ังส ือด ีส ําหร ับคนไทย พบก ันในว ันเสาร ์แรกของท ุกเด ือน

หนังสือดีมีเจตนาที่จะใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง และตรวจทานอย่างละเอียดก่อนพิมพ์ อย่างไรก็ตาม หากเกิดข้อผิดพลาดในการใช้ภาษาหรือการสะกดคํา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หนังสือดีขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้

พิมพ์ที่ GB COMPUTER & DESIGN โทร 09 940 5334 EMAIL [email protected] www.gbnz.co.nz

สาวๆอกหัก กษัตริย์จิกมีทรงสละโสดสาวสวยที่คุณเห็นในภาพ กําลังจะทําให้ผู้หญิงหลายคน (โดยเฉพาะหญิงไทย) อิจฉาตาร้อน เพราะอีกไม่นานนี้ เธอกําลังจะเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร ์นัมเกล วังชุก (หรือเจ้าชายจิกมีที่คนไทยรู้จัก) กษัตริย์หนุ่มวัย ๓๑ พรรษา แห่งประเทศภูฎาน

สาวสามัญชนผู้นี้มีนามว่า เจ็ตซัน เปมา สาวน้อยชาวภูฎานวัยเพียง ๒๑ ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทิมพู ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีทรงคบหาดูใจมาระยะหนึ่งแล้ว จึงได้ตัดสินพระทัยแถลงต่อที่ประชุมสภาฯว่าจะทรงอภิเษกสมรสในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ แต่ไม่ทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดพิธีใหญ่โต เนื่องจากประเทศมีทรัพยากรน้อยและทรงอยากได้พิธีแบบใกล้ชิดและเป็นกันเอง

ทรงตรัสถึงว่าที่พระราชินีของพระองค์ว่า “ถึงแม้จะมีอายุน้อยแต่เธอมีบุคลิกและจิตใจที่อบอุ่น อ่อนโยน มีเมตตา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เมื่อผนวกเข้ากับภูมิปัญญาที่เธอจะได้รับในอนาคต เมื่อเธอมีวัยวุฒิและสั่งสมประสบการณ์ได้มากขึ้น เธอจะข้ารับใช้ที่ดีของแผ่นดิน”

ทรงรับสั่งอีกว่า “ข้าพเจ้าคิดมานานแล้ว และตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องแต่งงาน เหล่าพสกนิกรของข้าพเจ้าคาดหวังไว้ว่าผู้ที่จะมาเป็นราชินีในอนาคตของพวกเขาจะต้องสวยสง่า เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ มีการศึกษาที่ดี ซึ่ง เจตซัน เปมา คนรักของข้าพเจ้านั้น เป็นผู้หญิงที่มีหัวใจที่งดงาม จิตใจดี และพร้อมที่จะสนับสนุนข้าพเจ้าในทุก ๆ เรื่อง และเป็นคนที่ข้าพเจ้าไว้วางใจมาก ข้าพเจ้าไม่อาจทราบได้ว่าเหล่าพสกนิกรจะพูดถึงเธอว่าอย่างไรกันบ้าง แต่ข้าพเจ้าบอกได้เพียงว่า เจตซัน เปมา มีคุณสมบัติที่เพรียบพร้อมเท่าที่สตรีคนหนึ่งพึงมี”

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร ์ทรงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย ในปีพ.ศ ๒๕๔๙ ทรงเสด็จเยือนประเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อทรงเข้าร่วมพระราชพิธีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงยึดเอาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่างในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการมีชีวิตแบบพอเพียง

นอกจากนี้ทรงเป็นกษัตริย์หนุ่มที่ทั่วโลกจับตามอง เนื่องจากทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในโลก แต่ทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ด้วยทรงจบการศึกษาสาขาการทูตและการเมือง จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ส่วนว่าที่พระราชินีของพระองค์นั้น ขณะนี้กําลังศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยรีเจนท์ ประเทศอังกฤษ

ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ติดตาม ชีวิตที่มีแต่การให้เรื่องราวของการใช้ชีวิตอย่างมี

ความหมาย ของแม่ติ๋ว

หรือตัวจริงของแม่ต้อย

จากโฆษณาไทยประกันชีวิต

ที่เรียกน้ําตาจากคนทั้งประเทศใน สกู๊ปพิเศษ หน้า ๔

Page 2: Dee Magazine

หนังสือดี หน้า ๒

ทักทายสวัสดีค่ะ

ยังสบายดีกันอยู่ใช่ไหมคะ

ช่วงนี้มีโรคประหลาดๆออกมากันเยอะเหลือเกิน นอกจากโรคหวัดที่มากับฤดูกาลแล้ว คนทางประเทศแถบยุโรปยังต้องเจอกับเชื้อโรคตัวใหม่ที่มากับผักผลไม้ที่ไม่สะอาด ไม่ใช่แค่ทําให้ท้องร่วงธรรมดาๆ หลายคนถึงขั้นเสียชีวิต

อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวนะคะ เดี๋ยวนี้เชื้อโรคยุคดิจิตอลมันก็ไวเหมือนเทคโนโลยี เกิดทางโน้น เดี๋ยวเดียวมาระบาดทางนี้แล้ว ไอ้อย่างนี้นี่น่ากลัวกว่าวันสิ้นโลกที่เพิ่งเลือนกําหนดการไปอีกนะคะ

อยากรู้รายละเอียดเรื่องวันสิ้นโลก ติดตามใน “คุยกับหนังสือดี” หน้าหลังสุดสิคะ

ผู้จัดทํา

สนใจลงโฆษณา

ต้องการแสดงความคิดเห็น หรือ

ส่งบทความลงหนังสือดีติดต่อเราที่

Ph 09 424 5542 email :

[email protected]

สํานักข่าวหัวดี

มาเลเซียตั้งชมรมภรรยาผู้อยู่ในโอวาทสามี

เชื่อว่าคงเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาคุณผู้ชายทั้งหลายเป็นแน่แท้ เมื่อมาเลเซียก่อตั้ง “ชมรมภรรยาผู้อยู่ในโอวาท” ในปลายพ.ค.ที่ผ่านมา หวังเพื่อลดปัญหาการหย่าร้างที่พุ่งสูงขึ้นเป็นสองเท่า ชมรมนี้มีจุดประสงค์สอนให้ภรรยาเชื่อฟัง และรู้จักเอาอกเอาใจสามีมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสังคมต่างๆที่นํามาซึ่งการหย่าร้าง เช่น การนอกใจ ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่ง “ภรรยาที่อยู่ในโอวาท” ต้องไม่ใช่แค่ดูแลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า แต่ต้องสร้างความบันเทิงให้สามี และต้องเชื่อฟังสามี ตามวิถีอิสลามด้วย

นี่ถ้าไม่ใช่ประเทศอิสลาม ทําไม่ได้นะนี่...

ลาภที่มากับทุกข์

ยิ้มได้ไม่เท่าไหร่ น้องไมร่า มณีภัสสร สาวน้อยเสียงใสกังวาน ก็ต้องเสียน้ําตาจากการถูกกระแสวิจารณ์เรื่องที่เธอกวาดรางวัลที่ ๑ พร้อมเงินสดกว่า ๑๐ ล้านบาท จากเวทีไทยแลนด์ก๊อตทาเลนท์ ทั้งๆที่การแสดงของเธอก็ถือว่าค่อนข้างจะธรรมดา เมื่อเทียบกับการแสดงของกลุ่มคิดบวกสิปป์ที่แสดงศิลปะเงาได้อย่างสวยงาม น่าทึ่ง และมีความหมาย หรือเมื่อเทียบกับการแสดงการเล่นกีต้าร์ของชายแขนเดียว ทําให้เกิดเสียงค่อนแคะว่า การที่ไมร่าชนะนั้นเป็นผลของคะแนนโหวต ซึ่งไม่ใช่ผลที่แสดงว่าไมร่ามีความสามารถเหนือคนอื่น

บางเสียงก็เล่าลือว่ามีการล๊อคโหวตทําให้เธอได้ที่ ๑ ไปครอง ซึ่งเสียงวิจารณ์หนาหูจนกลายเป็นทอล์ค ออฟ

เดอะ ทาวน์ นี้ก็ทําให้ไมร่า วัย ๑๓ ปี และคุณแม่ของเธอเสียใจเป็นอย่างมากจนถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อถูกสัมภาษณ์ในงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน คุณแม่ถึงกับพ้อว่า “ไมร่าทําอะไรผิดเหรอ” ส่วนไมร่าก็บอกว่า “ขอบคุณทุกคนที่ให้กําลังใจ และจะอดทนไว้ ไม่ว่าใครจะว่ายังไง”

วิลลี่ - เยลหลี ปลื้ม รอลุ้นลูกน้อยอีกสามเดือน

เอ้า ช่วยกันเป็นกําลังใจให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่คู่ใหม่แห่งวงการบันเทิงบ้านเรากันดีกว่า อีกไม่นานนี้เยลหลีก็จะครบกําหนดคลอดแล้ว หลังจากที่พยายามมากว่า ๒๑

ครั้ง วิลลี่กล่าวว่า “ตอนนี้เกือบจะเปลี่ยนชื่อจากวิลลี่ มาเป็นประคอง เพราะต้องคอยประคองภรรยาอยู่ตลอด และเพื่อนๆในกลุ่มมีเงินซื้อปอร์เช่กันหมด ส่วนตัวเองซื้อไม่ได้ เพราะหมดเงินไปกับการทํากิฟท์กว่า ๕ ล้านบาท ส่วนตัวก็เสียดายอยู่เหมือนกันเพราะยิงพลาดเป้าบ่อย แต่ครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่ได้ลูกคนนี้มา” คราวนี้วิลลี่ - เยลหลีจะได้ลูกชาย ซึ่งกําหนดคลอดเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่ทั้งคู่เคยสูญเสียลูกแฝดหญิงชายไปเมื่อปี ๒๕๕๐

อ่านหนังสือดีออนไลน์ ได้แล้วในเฟสบุคwww.facebook.com/ เพี้ยนจนได้้เรื่อง

หนุ่มวัย ๓๕ ปีชาวรัสเซียคนหนึ่ง ต้องการพิสูจน์ความอึดของตัวเอง จึงบอกให้เพื่อนช่วยขุดหลุมฝังตัวเองในสวนหลังบ้านเป็นเวลาหนึ่งคืน จากนั้นสองคนช่วยกันขุดหลุมแล้วเอาโลงลงไปใส่ เสร็จแล้วชายเจ้าของ ไอเดียเพี้ยนๆคนนี้ก็ลงไปนอนในหลุม พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ท่ออากาศสําหรับหายใจ น้ําดื่มบรรจุขวด

ผ้าห่ม และโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่เพื่อนของเขาจะกลบดินให้แน่นตามที่ตกลงกันไว้ กลบเสร็จ ชายในโลงก็ยังโทรมายืนยันว่าสบายดี เพื่อนจึงกลับบ้านไป เช้าอีกวันมาขุดดู ปรากฎว่าชายจอมเพี้ยนได้เสียชีวิตลงแล้ว เบื้องต้นสอบสวนจากพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทําให้ดินบริเวณหลุมอ่อนตัว แล้วไหลไปปิดท่อหายใจของชายผู้เคราะห์ร้าย จนขาดอากาศหายใจเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด

Page 3: Dee Magazine

de4

หน้าหนาวมาแล้วและมาแรง มีทั้งพายุทอร์นาโดที่เกินชาวกีวีจะคาดการณ์ว่าจะเกิดในประเทศนี้ เชื่อว่าหลายๆคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นคงช๊อคไปตามๆกัน เพื่อนผองของผู้เขียนเองก็พลอยได้รับความเดือดร้อนไปนิดหน่อยกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ําชัดเจนว่าอย่าประมาท เดี๋ยวนี้อะไรๆที่อยู่เหนือความคาดหมาย ก็เกิดขึ้นได้

เดือนกรกฎาคมที่ใกล้เข้ามานี้ ก็มาแบบร้อนแรงเบียดแซงความหนาว มีน้องๆหลายคนกําลังเตรียมตัวมาเผชิญกับลมหนาวที่นิวซีแลนด์กัน เลยอยากเอาข่าวมาบอกว่า ทางอิมมิเกรชั่นเค้าประกาศตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ที่ผ่านมาโน่นแล้วว่า ตอนนี้การยื่นขอวีซ่านั้นไม่ต้องแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษให้เสียเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ที่อาจต้องขอให้แปลเอกสารบางตัวตามที่เห็นสมควร

ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงเรื่องการแปลเอกสาร ค่ายื่นขอวีซ่าก็เปลี่ยนแปลงแล้วอีกต่างหาก หลายคนอาจจะทราบดีแล้วว่า เดี๋ยวนี้เค้าขึ้นค่าขอวีซ่านักเรียนเป็น ๕,๓๐๐ บาทแล้ว จากเดิม ๔,๖๐๐ บาท ถ้าขอต่อวีซ่านักเรียนที่นี่จะอยู่ที่ ๒๒๐ NZD เพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยตามกระแสเศรษฐกิจที่ขึ้นๆๆแต่ไม่ค่อยจะลงอยู่ตลอดเวลา ส่วนค่าขอวีซ่านักท่องเที่ยวยังเป็น ๓,๓๐๐ บาทเท่าเดิมไม่เปลี่ยน

ได้อ่านหน้าเฟสบุคของเพื่อนที่รู้จักที่สรรสร้างทําหน้า “คนไทยในโอ๊คแลนด์” ขึ้นมา มีสมาชิกเพียบ เห็นแล้วก็อดชื่นชมเพื่อนคนนี้ไม่ได้ ที่ทําให้นักเรียนไทยในโอ๊คแลนด์ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรึกษา แลกเปลี่ยนข้อมูล เชื่อว่าคงทําให้หลายๆคนได้รับประโยชน์จากหน้านี้ ต้องขอชื่นชมเป็นการส่วนตัวโดยไม่ได้ขออนุญาตมา ณ ที่นี้ด้วยนะจ๊ะ หากได้อ่านบทความนี้แล้วรู้ตัวว่าเป็นใครก็ตบมือดังๆให้กับตัวเองได้เลย

อีกข่าวล่าสุดอัพเดทจากอิมมิเกรชั่นที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าด้วยการทําให้การขอวีซ่านักเรียนนั้นยากกว่าเดิม เพราะเค้าต้องการคัดคนที่อยากมาเรียนจริงๆ โดยมิได้แอบแฝงจุดประสงค์อื่น และต้องการตอกย้ําให้ศึกษาในสถานศึกษาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพเท่านั้น โอ้ยมากมายจริงๆ กฏใหม่นี้จะบังคับใช้กับผู้ที่ต้องการจะลงเรียนในคอร์ส level ๕ เป็นเวลาหนึ่งปี จากที่เคยเรียนแค่ปีเดียวแล้วได้ work visa หรือ graduated visa ที่เอื้อโอกาสให้ทํางานหรือหางานทําที่นี่ได้เป็นเวลาหนึ่งปี กลับกลายเป็นว่าต้องเรียน ๒ ปีขึ้นไปถึงจะได้รับโอกาสนี้ แล้วสถานศึกษาที่มีคอร์สแบบนี้ส่วนมากคือมหาวิทยาลัย อ้าวว แต่กรณีนี้สําหรับผู้ที่เรียนในระดับ Postgraduate หรือโอนหน่วยกิตจากระดับปริญญาตรีเพื่อระดับการศึกษาที่สูงกว่า ซึ่งอาจต้องเรียนน้อยกว่าสองปีก็จะไม่ได้รับผลกระทบนี้ อีกเรื่องคือเงินรับรองค่าใช้จ่ายในบัญชีที่จากเดิม ๑๐,๐๐๐ NZD ต่อปีก็เพิ่มเป็น ๑๕,๐๐๐ NZD ต่อปีแล้วนะจ๊ะ

แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจไปเพราะเค้ายังไม่ได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ยังต้องผ่านการกลั่นกรองอีกจนกว่าจะวันที่ ๒๕ กรกฎาคมนี้ แล้วจะมาเล่าสู่กันฟังให้ทราบ ส่วนใครที่อ่านแล้วเหี่ยวอยู่เพราะว่ามันโดนฉัน ก็เย็นไว้ได้เพราะเรื่องนี้จะส่งผลกระทบสําหรับผู้ที่จะลงเรียนหลังวันที่ ๒๕ กรกฎาคมเท่านั้น ผู้ที่กําลังเรียนอยู่หรือคอร์สเริ่มก่อนหน้านั้นไม่เป็นผลค่ะ

ส่วนผู้ที่ต้องการ points เพื่อขอพีอาร์นั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยดังนี้ค่ะ ผู้ที่จะใช้พอยส์จะต้องจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า และเพื่อให้ยากยิ่งขึ้นผู้ที่มีพอยส์ครบในการขอพีอาร์จะต้องมีงานที่ตรงสายอาชีพในประเทศอีกด้วยต่างหาก ดูจํานวนพอยส์ได้จากตารางนี้นะคะ

หนังสือดี หน้า ๓

กุฎาภรณ์ ชวะโนทัย (พี่กิ๊ก)Ph. 09 846 4288 Mob. 021 202 2458 Email: [email protected]

www.2ddeducation.co.nz www.facebook.com/educationjourney

วางใจให้เรานําพาคุณไปสู่ความสําเร็จด้านการศึกษา ติดต่อเราวันนี้!

เล่าสู ่กันฟัง (๘) กุ ๊กกิ ๊กคอลัมนิสต์

แนะแนวการศึกษาต่อทุกระดับEnglish Courses, High School, Certificate, Diploma, Bachelor, Post Graduate

รับจัดทัวร์เป็นหมู่คณะ เกาะเหนือ-เกาะใต้ ที่พักดี อาหารอร่อย ราคากันเอ๊ง..กันเองThe Path to Success

อีกหนึ่งข่าวที่อยากแจ้ง คือตอนนี้ Education Journey กําลังทําเวปไซท์ใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ส่วนอันเก่าเราก็ทิ้งไป หากทําเสร็จเมื่อไหร่จะรีบนํามาอวดกันแน่นอน ฉบับนี้เรื่องเล่ายาวแล้ว พอก่อนดีกว่า ฉบับหน้าถ้ามีอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านจะรีบมาขีดๆเขียนๆเล่าสู่กันฟังเหมือนเดิมนะคะ ใครสงสัยอยากรู้เรื่องการขอวีซ่าต่างๆนานา อีเมลมาคุยกันได้ที่ [email protected] ได้เลยค่า

QUALIFICATION (NQF) CURRENT FROM 25 JULY 2011

Level 3-6 50 40

Levels 7-8 50 50

Level 9-10 55 60

Page 4: Dee Magazine

ดหากดดหกดหกดหกดหกดหกดหนังสือดี หน้า ๔

สกู ๊ปพิเศษ : ชีวิตที ่มีแต่การให้

ชีวิตที่มีค่า คือ การทําให้ชีวิตผู้อื่นมีค่า

แม่ติ๋ว มีวัยเด็กที่ไม่สวยงามนัก ถึงแม้ฐานะทางบ้านจะไม่ได้ยากจนข้นแค้น แต่ครอบครัวก็ไม่มีความสุข เนื่องจากพ่อมีผู้หญิงหลายคนจนต้องแยกทางกับแม่ ในที่สุดแม่ก็มีครอบครัวใหม่ เธอไม่เคยมีพ่อและแม่อยู่พร้อมหน้า และต้องไปๆมาๆระหว่างสองครอบครัว ในขณะที่พ่อและแม่ยังรักเธอเหมือนเดิม แต่เธอเข้ากับครอบครัวใหม่ของทั้งสองฝ่ายไม่ได้ เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กที่ขาดความรัก อยู่เสมอ พอโตขึ้นจึงรู้สึกอยากมอบความรักให้กับเด็กทั้งหลายที่ไม่มีโอกาสได้อยู่กับพ่อแม่

เมื่อแรกเริ่มก่อตั้งมูลนิธิ แม่ติ๋วมีเด็กๆในความดูแล ๒๒ คน แรกๆไม่มีบ้านต้องอาศัยอยู่ในเต๊นท์ เมื่อไหร่ที่ฝนตกก็ต้องนอนที่เปียกๆ กินข้าวคลุกน้ําฝนและน้ําตา ต่อมามีชาวบ้านให้ความสนใจแม่ติ๋วและเด็กๆเพิ่มขึ้น เลยไปเอาสังกะสีจากวัดมาให้แม่ติ๋วและเด็กๆช่วยกันสร้างบ้าน

ต่อมาเมื่อพ่อเสีย แม่ติ๋วตัดสินใจขายมรดกที่พ่อให้ ได้เงินมา ๘ หมื่นบาท เธอใช้เงินจํานวนนี้สร้างบ้านโฮมฮักขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นที่พักพิงของเด็กและเยาวชนที่ชีวิตอยู่ในภาวะวิกฤต เด็กที่มาอยู่บ้านโฮมฮักส่วนใหญ ่เป็นเด็กที่พ่อแม่เสียชีวิตจากเชื้อเอดส์ หรือเป็นเด็กที่ติดเชื้อเอดส์ จนถึงเด็กที่ถูกทารุณกรรมหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ เด็กๆเหล่านี้รู้สึก

ว่าถูกสังคมรังเกียจ แต่ในอาณาเขตของบ้านโฮมฮัก พวกเขาจะได้ความรักอย่างเต็มที่และไม่มีเงื่อนไขจากครูพี่เลี้ยงและจากแม่ติ๋ว ผู้เป็นหัวเรือใหญ่แห่ง “ศูนย์รวมแห่งรัก” แห่งนี้

แม่ติ๋วบอกว่า “เด็กๆบ้านโฮมฮักบอบช้ํามามาก ความตาย..ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากลัวมากเท่ากับการไม่ได้รับความรัก” ด้วยเหตุนี้เอง แม่ติ๋วจึงพร่ําบอกเด็กๆทุกคนว่า “แม่รักหนู” เนื่องจากพวกเขาเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้อยู่กับพ่อแม่ที่แท้จริง เหมือนอย่างที่เธอไม่มีโอกาส ทั้งยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รังเกียจของสังคม

ทุกวันนี้ บ้านโฮมฮัก เป็นที่พักพิงและที่พักใจให้กับเด็กๆและเยาวชนที่ประสบชะตากรรมอันเลวร้ายกว่า ๑๐๐ ชีวิต ตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่วัน จนถึงวัยเรียนมหาวิทยาลัย แม่ติ๋วต้องตัดงานด้านอื่นเพื่อเอาแรงกายมาทุ่มเทกับการดูแลเด็กๆที่บ้านโฮมฮักอย่างเดียว

แต่ในขณะที่ช่วยเด็กหลายคนให้มีชีวิตดีขึ้น ตัวเธอเองกลับมีชีวิตที่แย่ลง แม่ติ๋วกําลังป่วยเป็นโรคมะเร็งลําไส้

ช่วงแรกที่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง แม่ติ๋วเข้ารับการรักษาพยาบาลเหมือนผู้ป่วยทั่วไป พอพบว่ายาที่หมอให้มาทานนั้น มีผลข้างเคียงให้เธอปวดหัว อาเจียน นอนซม ทําให้เธอห่างเหินจากเด็กๆ รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลก็แสนจะแพง เธอจึงปฏิเสธการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน หันมาใช้วิธีล้างพิษและการอบสมุนไพร โดยเอาสมุนไพรเท่าที่หาได้ ไม่จํากัดชนิด และไม่มีส่วนผสมที่ชัดเจนมาสุม หลังอบเสร็จก็มักจะมีเด็กๆ มาต่อคิวขออบต่อเสมอๆ กลายเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขถ้วนหน้าสําหรับสมาชิกบ้านโฮมฮัก

คุณสุธาสินี น้อยอินทร์ หรือ “แม่ติ๋ว” แห่งบ้านโฮมฮัก บอกกับตัวเองเช่นนี้เสมอมา สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เธอเป็นคนอุดมการณ์สูงเช่นเดียวกับนักศึกษาหลายๆคนในช่วงนั้น จึงเริ่มต้นทํางานเกี่ยวกับเด็กที่สนามหลวง ดูแลเด็กๆที่ขายหนังสือพิมพ์ ขายพวงมาลัยอยู่แถวนั้น พอเรียนจบเธอไปทํางานด้านสาธารณะสุข ดูแลเด็กบนดอยสูงที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ถึง ๘ ปีโดยไม่ได้เงินเดือนสักบาท จนทางบ้านทนไม่ไหวและสั่งให้กลับเข้ากรุงเทพ

เมื่อมาอยู่กรุงเทพ เธอเข้าทํางานมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม จนได้พบต้นตอของปัญหาว่า คนในสลัมส่วนใหญ่มาจากชนบท ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทําให้พวกเขาต้องทิ้งถิ่นฐานมาหางานทําในกรุงเทพ เด็กๆเกิดและเติบโตในสลัมอย่างโดยไม่มีคนดูแล เนื่องจากพ่อแม่ต้องทํางานตั้งแต่เช้ายันค่ํา หลายครอบครัวมีปัญหาเรื่องเหล้า ยาเสพติด ความรุนแรง หนําซ้ํากระแสวัตถุนิยมยังทําให้เด็กในสลัมหลายคนหันไปขายบริการหรือค้ายาเสพติดเสียเอง

เมื่อเห็นสาเหตุของปัญหา แม่ติ๋วจึงตัดสินใจไปอยู่ต่างจังหวัดด้วยความต้องการที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เธอจึงเลือกที่จะทําโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนที่จังหวัดยโสธร เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๒ เธอทําเกี่ยวกับยาเสพติดจนรู้เบื้องหลังและเครือข่ายของผู้ค้ายา หลายครั้งที่เธอไป “เหยียบเท้า” คนมีสีหรือผู้มีอิทธิพลเข้า จนต้องหนีการคุกคามในข้อหาเป็นภัยต้อสังคม ในที่สุดมาสร้างบ้านโฮมฮักและก่อตั้ง “มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน” ขึ้น

Page 5: Dee Magazine

หนังสือดี หน้า ๕

4/280 หมู่ 14 ถนน ลาดพร้าว-วังหิน เขตลาดพร้าว, กรุงเทพฯ 10230

โทร 02-942-0143-4แฟ็กซ์ 02-942-3541

อีเมล [email protected]

จัด STUDY TOUR ทุกปิดเทอม เดือนเมษายน และตุลาคมที่ประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อังกฤษ และ อเมริกา

หากสนใจให้ลูกหลานของท่านที่อยู่เมืองไทย ได้เดินทางกับเมขลาทัวร์ท่านสามารถติดต่อขอรับโปรแกรมได้แล้ว วันนี้!

STUDY TOUR คุณภาพ

ดําเนินงานโดย คุณอุทุมพร ศิลาพันธุ์

บ้านโฮมฮักของแม่ติ๋วนั้นถึงจะอบอุ่นไปด้วยความรักแต่สภาพการเงินนั้นแร้นแค้น เธอขายสมบัติส่วนตัวจนหมด เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านที่ตกเดือนละหลายแสนบาท ซึ่งส่วนใหญ่หมดไปกับค่ายารักษาโรคเอดส์ ค่าเล่าเรียนของเด็กๆ ค่าอาหาร ในขณะที่ครูพี่เลี้ยงก็ได้ค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย แลกกับการดูแลเด็กๆตลอด ๒๔ ชั่วโมง บางเดือนที่บ้านไม่มีรายได้ เงินเดือนของครูพี่เลี้ยงก็พลอยหายไปด้วย เนื่องจากปากท้องของเด็กๆร้อยกว่าชีวิตต้องมาก่อน

หลังจากที่เรื่องราวของแม่ติ๋ว ได้ถูกถ่ายทอดออกสู่สายตาประชาชน ในรูปแบบของหนังโฆษณาไทยประกันชีวิต เรื่องราวของบ้านโฮมฮักก็เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แม่ติ๋วถูกเชิญไปสัมภาษณ์ออกทีวี และบางรายการอย่าง “คนค้นฅน” ก็มาเยี่ยม เมื่อสื่อให้ความสนใจคนก็บริจาคกันมาก แต่พอกระแสเงียบๆไป เงินจุนเจือจากผู้บริจาคก็หดหาย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนยังคงสูงเท่าเดิม

“เด็กๆบ้านโฮมฮักบอบช้ํามามาก ความตาย..ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากลัวมากเท่ากับการไม่ได้รับความรัก”

แม่ติ๋วบอกว่า “ช่วงไหนเงินหมด เด็กๆก็ต้องอดอยาก เก็บแมลงมาคั่วและปั่นโรยข้าว เพื่อให้พอกินกันทั้งบ้าน เด็กที่โตแล้วก็ต้องกินแค่ครึ่งท้องเพื่อน้องๆจะได้กินบ้าง”

ถึงแม้ว่าต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง ทุกวันนี้แม่ติ๋วยังเข้มแข็งและแข็งแรงตามวัยและสังขาร ด้วยกําลังใจที่ได้จากสาธารณะชนและคนที่เข้าไปเยี่ยมเยียนเด็กๆ เธอห่วงก็แต่เพียงว่า

วันใดที่เธอจากโลกนี้ไป ทิศทางของบ้านโฮมฮักจะเป็นอย่างไร และเด็กๆจะมีชีวิตเช่นไร

สิ่งที่เธอหวัง มีเพียงแค่การที่สังคมจะยอมรับว่าเด็กๆเหล่านี้ก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคม หยิบยื่นพื้นที่ให้พวกเขามีโอกาสได้ยืนและเติบโต และเปิดโอกาสให้พวกเขามีอนาคตในการศึกษาและการทํางาน อย่างเช่นคนอื่นๆทั่วไป

ชีวิตของแม่ติ๋วเป็นตัวอย่างให้เราเห็นว่า เราสามารถใช้ชีวิตที่มีความหมายได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะการณ์ใด และถึงแม้ร่างกายจะเจ็บป่วย ตราบใดที่ใจเรายังเข้มแข็ง

ข้อมูลจาก หนังสือ “แม่ติ๋ว..ชีวิตนี้อยู่เพื่อใคร” ,

เว็ปไซท์บ้านโฮมฮักภาพจาก เว็ปไซท์บ้านโฮมฮัก

รายละเอียดในการบริจาคเงิน

ชื่อบัญชี “มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน” ธนาคารไทยพาณิชย ์ สาขายโสธร เลขที่บัญชี 561-2-21187-7 swift code: SICOTHBKธนาคารทหารไทย สาขายโสธร เลขที่บัญชี 437-2-13090-8 swift code: TMBKTHBKธนาคารกสิกรไทย สาขายโสธร เลขที่บัญชี 129-2-57021-6 swift code: KASITHBK

บ้านโฮมฮัก เลขที่ ๓ หมู่ที่ ๑๒ บ้านประชาสวรรค์ ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร ๓๕๐๐๐โทร ๐๔๕ - ๗๒๒๒๔๑, ๐๔๕ - ๕๘๐๒๐๐

www.banhomehug.org

Page 6: Dee Magazine

ใคร อะไร ที่ไหน

เนื่องด้วยวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ

เดือนหก เป็น วันวิสาขบูชาโลก หรือเป็นวันคล้ายวันประสูติ

ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่าเป็นวันสําคัญทางศาสนา และในปีนี้ ยูเนสโก หรือองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาโลกเป็นวันสําคัญวันหนึ่งของโลก โดยเรียกว่า “THE BUDDHA DAY” นําความภาค

ภูมิใจมาสู่พุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง และในปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานฉลองวันวิสาขบูชาถวายแด่พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ วัดญาณประทีปจึงจะจัดให้มีการทําบุญและบวชเนกขัมมบารมี เริ่มในวันเสาร์ที่ ๑๔ พ.ค. ถึงวันอังคารที่ ๑๗ พ.ค. ที่ผ่านมา

มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมงานจํานวนมาก

หนังสือดี หน้า ๖

ผ่านพ้นไปแล้วสําหรับงานกาล่าดินเนอร์ “ไทยถึงไทย ร่วมใจ ต้านภัยพิบัติโลก” ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ ๒๓ พ.ค. ที่ผ่านมา ต้องขอแสดงความยินดีกับ Thai Society Charitable Trust of NZ (TSCT) ที่จัดงานสําเร็จลุล่วงไปด้วยดี มีพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติไปร่วมงานคับคั่ง ซึ่งถือว่าประสบความสําเร็จเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับระยะเวลาเตรียมงานเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์

เมื่อฯพณฯ นภดล เทพพิทักษ์ เอกอัครราชฑูตไทยประจํานิวซีแลนด์ ได้กล่าวเปิดงานแล้ว ก็เป็นการแสดงอันสวยงามของนักเรียนกศน.จากวัดญาณประทีป หลังจากนั้นศิลปินคนพิเศษของค่ําคืนวันนั้น คุณเจิน เจิน บุญสูงเนิน ก็ออกมาทักทายแขกผู้มีเกียรติและขับกล่อมบทเพลงให้ทุกท่านฟัง

นอกจากนั้นยังมีศิลปินรับเชิญหลายท่านที่มาช่วยสร้างสีสันให้กับงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอุปทูตนนทวัฒน์ ที่โชว์ความสามารถในการเล่นกีต้าร์และร้องเพลงเอลวิส เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้มาร่วมงานอย่างล้นหลาม รวมทั้งท่านทูตนภดล ที่ออกมาครวญเพลง “แต่ปางก่อน” ร่วมกับคุณเจิน เจิน ได้อย่างไพเราะซาบซึ้ง เรียกเงินบริจาคได้ถึง ๒๕๐ NZD

รายได้จากการจําหน่ายบัตร, การประมูลสิ่งของและจากเงินบริจาคในค่ําคืนนั้นมีมากถึง ๘,๐๐๐ NZD (หลังหักค่าใช้จ่าย) ซึ่งเมื่อนําไปรวมกับเงินที่เหลือในกองทุนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมืองไครสเชิร์ช ของ TSCT ที่มีอยู่จํานวน ๔,๐๐๐ NZD แล้ว เป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น ๑๒,๐๐๐ NZD

ซึ่งเงินจํานวนนี้ คณะกรรมการบริหารของ TSCT ได้มีมติให้แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรกมอบผ่านทางตัวแทนของ New Zealand Red Cross เพื่อนําไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมืองไครสเชิร์ช จํานวน ๖,๐๐๐ NZD และส่วนที่สองมอบผ่านฯพณฯ นพดล เทพพิทักษ์ เอกอัครราชทูตไทยประจํานิวซีแลนด์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ของประเทศไทย จํานวน ๖,๐๐๐ NZD

ทางทีมผู้จัดงานได้ฝากขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงาน รวมทั้งขอขอบคุณศิลปินรับเชิญทุกท่าน คุณเจิน เจิน บุญสูงเนิน และสปอนเซอร์ทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนการจัดงานกาลาดินเนอร์การกุศลในครั้งนี้

Page 7: Dee Magazine

หนังสือดี หน้า ๗

ร่วมด้วย ช่วยโลก ธรรมะ จาก หลวงปู ่ฝั ้น อาจาโร

ลักษณะของบุญ คือ ใจเราด ีใจเรามีความสุข

ใจเรามีความสบาย เย็นอกเย็นใจไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่วุ่นไม่วาย

นั่นแหละคือ “บุญ”

“ทั้งปี..ไม่มีขยะ” หรือ Rubbish Free Year ฟังดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่สามีภรรยาชาวไครส์เชิร์ชคู่หนึ่งทําได้ และได้ทําไปแล้วเมื่อสามปีก่อน

ในปี ๒๐๐๘ แมทธิว ลักซั่น และเวฟนีย์ วาร์ธ

ตั้งใจว่าจะลองใช้ชีวิตแบบไม่มีขยะ ที่บ้านของทั้งสองมีป้ายติดว่า “welcome to our rubbish free home” เป็นการบอกผู้มาเยือนเป็นนัยๆว่า กรุณาอย่าเอาขยะมาบ้านเรานะจ๊ะ

บ้านของแมทธิวกับเวฟนีย์ เป็นบ้านธรรมดาๆ มีผลไม้สองสามต้น มีเรือนกระจก มีพื้นที่สําหรับเลี้ยงไก่และถังปุ๋ย ทั้งคู่สารภาพว่าตอนแรกทําสวนไม่เป็น แต่เมื่อเริ่มลงมือก็ได้เรียนรู้

ไปเรื่อยๆ เริ่มต้นจากการปลูกผักไว้ทานเอง และกินไข่จากไก่ที่เลี้ยงไว้

เมื่อปลูกต้นไม้ ทั้งสองก็เริ่มทําปุ๋ยจากเศษอาหารและเศษผักผลไม้ ซึ่งโดยปกติแล้วทั้งสองอย่างนี้จะเป็นขยะที่กินพื้นที่จํานวนมากในถุงขยะ นอกจากนั้นก่อนซื้ออะไร ทั้งคู่จะดูก่อนว่าบรรจุภัณฑ์นั้นๆสามารถนําไปรีไซเคิลได้หรือไม่ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่มีสินค้าประเภทอาหารและอีกมากมายหลายอย่างในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่บรรจุในหีบห่อที่สามารถนําไปรีไซเคิลได้

แต่เนื่องจากซุปเปอร์มาร์เก็ตมักจะขายเนื้อสัตว์ในถาดโฟม แมทธิวและเวฟนีย์ก็ต้องไปซื้อที่ร้านขายเนื้อ โดยถือกล่องจากบ้านไปใส่ นอกจากนี้ร้านขายสินค้าออร์แกนิกส์มีผลิตภัณฑ์อีกหลายอย่าง ที่ทําจากวัสดุอย่างอื่นแทนพลาสติก เช่น แปรงสีฟันด้ามไม้ ถุงผ้าห่อแซนด์วิช แปรงขัดด้ามไม้ สนนราคาก็ไม่ห่างไปจากปกตินัก

ทั้งคู่บอกว่าการที่ต้องไปซื้อของหลายที่ไม่ทําให้เปลืองเวลา เพราะของหลายอย่างเราไม่จําเป็นต้องซื้อทุกสัปดาห์ อย่างเนื้อสัตว์ที่เราสามารถซื้อมาเยอะๆแล้วมาแช่แข็งไว้ได้ ดีไม่ดีก็จะใช้เวลาน้อยกว่าการช้อปในซุปเปอร์มาร์เก็ตเสียอีก เพราะเรามักจะเพลิดเพลินเดินดูจนมักจะได้ของที่ไม่ตั้งใจซื้อ และยังต้องมาต่อคิวยาวอีก

พอจบปี Rubbish Free แมทธิวกับเวฟนีย์มีขยะที่ให้เทศบาลมาเก็บไปทั้งหมด ๑ ถุงถ้วน หนัก ๒ กิโล

แมทธิวกล่าวว่า ขยะที่มันถูกทําให้ดูสวยงาม ที่แท้ก็เป็นขยะอยู่วันยังค่ํา ลองนึกว่าถ้าไม่มีเทศบาลมาเก็บขยะให้ทุกสัปดาห์ และคุณต้องทิ้งขยะในบ้านตัวเองสักปีหนึ่ง คุณคงต้องคิดแล้วคิดอีกและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ

Easy Tips for a Rubbish Free Household

ซื้อของที่บรรจุภัณฑ์นําไปรีไซเคิลได้ โดยสังเกตเครื่องหมาย และดูตัวเลขในเครื่องหมาย ถ้ามีตัวเลข ๑ - ๗ แสดงว่าบรรจุภัณฑ์นั้นสามารถนําไปรีไซเคิลได้

ซื้อของจําพวกซีเรียล ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้แห้ง จาก Bulk Food section โดยใช้ถุงผ้าบางๆที่นําไปจากบ้านไปใส่แทนถุงพลาสติก เช่นเดียวกับการซื้อผักและผลไม้

อบขนมปัง คุกกี้ บิสกิต muesli bars ไว้ทานเอง

Reduce, Reuse, Rehome, Recycle สําคัญมากๆในการลดขยะ

หากบ้านใครมีพื้นที่สักนิดนึง ทําถัง compost รองรับเศษผักผลไม้คลุกเคล้ากับดิน จะได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพ และประหยัดถุงขยะไปได้เยอะ

ซื้อของใช้และเสื้อผ้ามือสอง เพราะของใหม่ๆมักจะถูกบรรจุใน แพคเก็จจิ้งที่ในที่สุดก็ต้องแกะทิ้ง

ข้อมูลจาก www.christchurchcitylibraries.com

สุขภาพ

ประโยชน์ของฮูลาฮูป

หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าไอ้ห่วงยางอันใหญ่เหมือนที่เคยหมุนรอบเอวเล่นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กนั้น นอกจากจะช่วยให้เอวที่หายไปนั้นกลับคืนมาแล้ว

ยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกตั้งหลายทาง

การเล่นฮูลาฮูปเป็นเวลา ๑๐ นาที จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ถึง ๔๐๐ กิโลจูล และยังช่วยเรื่องการทรงตัว ช่วยให้กล้ามเนื้อหลังมีความยืดหยุ่น ทําให้กล้ามเนื้อท้องและสะโพกแข็งแรงขึ้น รวมถึงช่วยให้ระบบหัวใจทํางานได้อย่างเป็นปกติอีกด้วย

เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับหน้าหนาวแบบนี้สุดๆ ไม่ต้องเสียตังค์มาก ไม่ต้องออกไปข้างนอก แค่มีพื้นที่ในบ้านให้ฮูลาฮูปได้เหวี่ยงสักหน่อยก็พอแล้วรู้อย่างนี้แล้ว รีบไปสอยฮูลาฮูปสักอันมาเหวี่ยงเล่นโดยด่วนนนนน

ผู้หญิงกับผลไม้รสเปรี้ยว

ผลการวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้หญิงที่ชอบทานผลไม้รสเปรี้ยวเป็นประจํา ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งทุกชนิดได้ถึง ๑๔ เปอร์เซ็นต์ และจะให้ดีต้องดื่ม ชาเขียว ควบคู่ไปด้วย เพราะจะทําให้ลดความเสี่ยงได้มากถึง ๑๗ เปอร์เซ็นต์

ข้อมูลจาก หนังสือแพรว ฉบับ ๗๕๘ ภาพจาก กูเกิลอิมเมจ

Page 8: Dee Magazine

หนังสือดี หน้า ๘

สบู่สมุนไพรมาดามเฮง ต้นตํารับของแท้เนื้อแข็ง ฟองมาก รักษาสิวฝ้าจุดด่างดําระงับกลิ่นตัวได้ผล

ติดต่อ

คุณแมว 09 480 5464 ยายหนู 09 521 2764

ร้านเดียวที่ได้รับรางวัล Award Winning Metro Magazine 2 ปีซ้อน!

Bangkok Cafe

2/236 Dominion Rd, Mt Edenโทร 09 623 2334

ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด หอยทอดกรอบนอกนุ่มใน

สุกี้ เย็นตาโฟทะเลสดก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น

ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ผัดไทออส่วนหอยนางรม

เมนูใหม่!! ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ําแดงสูตรตลาดน้ํา ฯลฯ

มีหนังสือพิมพ์ไทย และนิตยสารใหม่ๆมากมายให้คุณอ่าน

Find us on Facebook. www.facebook.com/dee.magazine

พบกับ หนังสือดี ฉบับหน้าได้ใหม่ วันเสาร์ที ่ ๒ กรกฎาคม ศกนี ้

นวดแผนโบราณ นวดอโรมา นวดหินร้อน

Original Thai Massageต้นตํารับนวดหินร้อน เจ้าแรกในนิวซีแลนด์

โทร 027 271 2174

ปวดเมื่อยจากการทํางานหรือออกกําลังกาย โทรหาเราสิคะ

คุยกับหนังสือดี

บอกต่อ...

วัดพระธรรมกายนครโอ๊คแลนด์ ขอเชิญทุกท่านร่วมพิธีบูชาข้าวพระ

ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน

ณ Orewa Primary School Hall, Orewa เวลา ๙.๐๐ น. เป็นต้นไป

สอบถามได้ที่ 09 845 6044

อ่านจบแล้วกรุณารีไซเคิล

วัดญาณประทีป ขอเชิญพุทธศาสนิกชน ทําวัตรสวดมนต์ เช้า-ค่ํา บําเพ็ญจิตภาวนา/แผ่เมตตาอุทิศมัยบุญ

สนทนาธรรม เวลา ๐๖.๐๐ น. และ ๑๘.๐๐ น.ได้ทุกๆวัน และฟังธรรมะวันพระ เวลา ๑๓.๐๐น.

ขอเชิญสมัครบวชเนกขัมมบารมีเนื่องในวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาเพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บุพการีบูชา

และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงมีพระชนมายุครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา

ในวันศุกร์ที่ ๑๕ (เช้า) ถึงวันที่ ๑๘ (เช้า) มิถุนายน ศกนี้

สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (รับจํานวนจํากัด)ติดต่อ ณ วัดญาณประทีป โทร.09-8131055 แฟ็ก. 09-8131066

Email: [email protected] Sabulite Rd. Kelston, Auckland

หากคุณลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วอย่าลืมทําหน้าที่สําคัญของคนไทย ด้วยการไปเลือกตั้ง

ที่หน่วยเลือกตั้ง วัดญาณประทีป

วันที่ ๑๘ - ๑๙ มิถุนายน ที่จะถึงนี้ เวลา ๙ - ๑๖.๐๐ น.

เตรียมบัตรประชาชน (หมดอายุแล้วก็ใช้ได้) หรือพาสปอร์ตเข้าคูหา เลือกคนที่คุณคิดว่าดี เข้าทํางานรับใช้ชาติ

กลายเป็นประเด็นสนทนากันทั้งเดือน ถึงคําทํานายเรื่อง “วันพิพากษา” หรือ Judgement Day ที่คุณปู่ชาวอเมริกันคนหนึ่งวัย ๘๙ ปี ออกมาประกาศเตือนชาวโลกผ่านทางวิทยุว่า พระผู้เป็นเจ้าได้กําหนดให้วันที่ ๒๑ พ.ค. เป็นวันที่โลกาจะพินาศ มนุษยชาติจะถึงคราวดับสูญ

แล้วก็เหมือนไฟไหม้ฟาง คําทํานายของคุณปู่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว คนที่เชื่อคําทํานายออกมาถือป้ายเดินขบวนให้ผู้คนยอมรับชะตากรรม บางคนถึงขั้นขายทรัพย์สินเตรียมตัวตาย

แล้วภายใน ๒๔ ชั่วโมงของวันนั้นก็มีหลายเหตุการณ์ที่เข้าเค้า อย่างเช่นปรากฏการณ์ภูเขาไฟปะทุที่ไอซ์แลนด์ และแผ่นดินไหวหลายแห่งรอบวงแหวนไฟ ทําเอาหลายคนตาติดทีวีด้วยใจระทึก แต่สุดท้ายโลกก็ยังหมุนรอบตัวเอง ต้อนรับเช้าวันใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในที่สุดคุณปู่คนเดิมก็ออกมาขอโทษขอโพยว่า เอ่อ..ขออภัย ผมคํานวณผิดไป ๕ เดือน ที่แท้แล้วโลกจะดับสูญในวันที่ ๒๑ ตุลาคม ที่จะถึงนี้ต่างหาก

เอ๊า..เพิ่งรู้ว่าวันสิ้นโลกก็เลื่อนกําหนดการณ์ได้ ??? ช่างเป็นข้อแก้ตัวที่สุดแสนจะรับผิดชอบซะจริงๆ

ประเทศไทยไชโยของเราก็มีอะไรแบบนี้ ผู้อ่านหนังสือดีคงจํากันได้ เราเคยลงเรื่องที่ “นอสตราดามุสเมืองไทย” ทํานายว่าจะเกิดสึนามิขึ้นอีกครั้งในทะเลอันดามันในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทําเอาเศรษฐกิจหลายจังหวัดพังเป็นแถบๆ คุณว่าพวกนักทํานายมั่วๆเหล่านี้ ควรจะได้รับบทลงโทษอะไรบ้างหรือไม่...

ดังนั้น จึงเชื่อว่าเราไม่สมควรจะไปกังวลอะไรกับมันมากจนไม่เป็นอันทําอะไร ไม่ว่าวันสิ้นโลกที่เพิ่งเลื่อนกําหนดการไปสดๆร้อนๆ หรือคําทํานายวันโลกแตกจากตําราอื่น ที่กําหนดไว้ในเดือนธันวาคมปีหน้า

เพราะอะไรๆมันก็เปลี่ยนกันได้….