cephalexin - srisangworn sukhothai hospital · ใช้เป็น switch therapy...

Cephalexin

ชื่อสามัญทางยา: Cephalexin monohydrate

รูปแบบยา/ความแรง: แคปซูลสีเทา-ส้ม พิมพ์อักษร siam และ ตัวเลข 250 ขนาดยา 250 mg/cap

ประเภทยา: ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ประเภทบัญชี ก

กลุ่มยา: Antibacterial agent : beta-lactams (First generation Cephalosporins )

ราคา/หน่วย: 170 บาท/100 แคปซูล

ผู้ผลิต/ตัวแทนจ าหน่าย: บริษัทสยามเภสัช จ ากัด/ บริษัท สยามฟาร์มาซูติคอล จ ากัด

เหตุผลในการเสนอยาเข้า: ใช้เป็น switch therapy ในผู้ป่วยเด็กโตที่ติดเชื้อแบคทีเรีย ในระบบทางเดินปัสสาวะหลังผ่าตัด ซึ่งมรีาคาถูกกว่ายา cefixime กลไกการออกฤทธิ์:

ยา Cephalexin เป็นยาต้านจุลชีพกลุ่ม First generation

ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (bactericidal) โดยยาจับ Penicillin-binding

protein (PBP) ที่จะใช้ในกระบวนการสร้าง Peptidoglycan ซึ่งเป็น

ส่วนประกอบของผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ท าให้สร้างได้ไม่สมบูรณ์

และส่วนประกอบภายในเซลล์มีการรั่วออกมา เชื้อแบคทีเรียจึงไม่

สามารถด าเนินกิจกรรมต่างๆ ได้

เชื้อแบคทีเรียที่ยา Cephalexin ครอบคลุมแบคทีเรียแกรมบวก

ได้แก่ Methicillin-susceptible Staphylococcus aureus (MSSA),

Streptococcus spp. แบคทีเรียแกรมลบ ได้แก่ Proteus mirabilis,

Escherichia coli, Klebsiella spp.

Cephalexin

monograph

ข้อบ่งใช้:

ใช้รักษาการติดเชื้อในระบบต่างๆ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในหูชั้นกลาง

การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ กระดูกและข้อ และระบบอื่นๆ ที่เชื้อไวต่อยา Cephalexin

คุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์

Absorption ดูดซึมได้ 90% อย่างรวดเร็ว อาหารจะท าให้ลดระดับยาสูงสุด ( Cpeak ลดลง)

Distribution Vd = 0.23-0.35 L/kg

ยาสามารถกระจายไปเนื้อเยื่อและของเหลวในร่างกายได้ดี

รวมถึง gallbladder, liver, kidneys, bone, sputum, bile, and pleural

and synovial fluids แต่ผ่าน CSF ได้น้อย

Time to peak ประมาณ 1ชั่วโมง

Protein binding 6-15%

Half-life 0.5-1.2 ชั่วโมง

Excretion ก าจัดทางปัสสาวะประมาณ 80-100% ภายใน 8 ชั่วโมง

ขนาดการใช้ยา/การบริหารยา Cephalexin ในข้อบ่งชี้ต่างๆ

ระบบการติดเชื้อ ขนาดยาส าหรับผู้ใหญ่ ขนาดยาส าหรับเด็ก

Urinary tract infectious disease

250 mg po q 6 hr (dose range 250 mg to 1 g po q 6 hr depending on type and severity of infection)

uncomplicated cystitis: 500 mg po q 12 hr 7-14 days

25-50 mg/kg/day po divided q 6 hr

severe infections: 50-100 mg/kg/day po divided q 6 hr (max 4 g/day)

Infection of skin AND/OR subcutaneous tissue (MSSA)

500 mg po q 6-12 hr

25 mg/kg/day po divided q 6 hr หรือ 25-50 mg/kg/day divided q 12 hr

ขนาดการใช้ยา/การบริหารยา Cephalexin ในข้อบ่งชี้ต่างๆ (ต่อ)

ระบบการติดเชื้อ ขนาดยาส าหรับผู้ใหญ่ ขนาดยาส าหรับเด็ก

Osteomyelitis 250 mg po q 6 hr (dose range, 250 mg to 1 g po q 6 hr depending on type and severity of infection)



Respiratory tract infection

250 mg po q 6 hr (dose range, 250 mg to 1 g po q 6 hr depending on type and severity of infection)

25-50 mg/kg/day po divided q 6 hr หรือ


CAP (>3 months of age): 75-100 mg/kg/day po 3-4 divided doses

Streptococcal pharyngitis

500 mg po q 12 hr 10 days 25-50 mg/kg/day po divided q 6-12 hr 10 days (max 4 g/day)

Otitis media 250 mg po q 6 hr (dose range, 250 mg to 1 g po q 6 hr depending on type and severity of infection)


การใช้ยากับกลุ่มคนพิเศษ:

1. การใช้ในหญิงตั้งครรภ์:

U.S FDA: Pregnancy category B (all trimester) หมายถึง กรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้ การศึกษาในสัตว์ทดลองไม่พบความเสี่ยงต่อฟีตัส แต่ยังไม่มีการศึกษาชนิดควบคุมการวิจัยในหญิงตั้งครรภ์ หรือการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบอันตรายบางประการ แต่ไม่ได้รับการยืนยันจากการศึกษาชนิดควบคุมการวิจัยในหญิงตั้งครรภ์ระยะไตรมาส 1 (และไม่พบหลักฐานว่ามีความเสี่ยงในไตรมาสต่อมา)

Australian Drug Evaluation Committee's (ADEC) Category: A เป็นยาที่มีการใช้ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงในวัยเจริญพันธุ์จ านวนมาก โดยไม่พบหลักฐานที่ยืนยันว่าเพ่ิมความถ่ีในการเกิดรูปพิการหรือผลเสียอื่นๆ ต่อทารก ในครรภ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ดังนั้น สามารถใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ได้

2. การใช้ยาในหญิงให้นมบุตร: The American Academy of Pediatrics& WHO: compatible คือ สามารถใช้ยาในหญิงให้นมบุตรได้

3. การใช้ยาในผู้ป่วยที่มีปัญหาการท างานของไตผิดปกติหรือฟอกเลือด: ผู้ใหญ่ CrCl (ml/min) Dosing adjustment

10-50 500 mg q 8-12 h <10 250-500 mg q 12-24 h

ผู้ป่วยที่ท า hemodialysis แนะน าให้รับประทานยาหลังฟอกเลือก

4. การใช้ยาในผู้ป่วยที่มีปัญหาการท างานของตับบกพร่อง: ไม่จ าเป็นต้องปรับขนาดยา

ข้อห้ามในการใช้ยา:

ผู้ที่แพ้ยาหรือส่วนประกอบของยา cephalexin

ในกรณีที่มีประวัติแพ้ยา penicillin, cephalosporin หรือ carbapenem แบบรุนแรง เช่น anaphylaxis, SJS, TEN ไม่แนะน าให้ใช้ยา cephalexin

ในกรณีที่มีประวัติแพ้ยา amoxicillin, ampicillin, cefaclor, cefadroxil ไม่แนะน าให้ใช้ยา cephalexin เพราะมีโครงสร้าง side chain ต าแหน่งที่ 7 เหมือนกัน จึงมีโอกาสแพ้ยาข้ามกันสูง

อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา:

Dermatologic effect Erythema multiforme, Maculopapular eruption, Pemphigus vulgaris, Rash, Stevens-Johnson syndrome, Toxic epidermal necrolysis

Gastrointestinal effect Abdominal pain, Diarrhea, Gastritis, Indigestion, Nausea, Vomiting, Pseudomembranous enterocolitis

Hematologic effects Eosinophilia, Hemolytic anemia, Neutropenia, Thrombocytopenia

Hepatic effect Slight increases in AST and ALT

Musculoskeletal Effects

Arthralgia, Arthritis

Neurologic Effects Dizziness, Headache

Renal Effects Interstitial nephritis, Renal failure, Renal impairment

อันตรกิริยาระหว่างยาที่ส าคัญ:

รายการยาที่เกิดอันตรกิริยา รายละเอียด Histamine H2 antagonist Onset: rapid

Severity: Moderate Effects: Histamine H2 antagonist may decrease the bioavailability of cephalosporin (cephalexin) Mechanisium: change in gastric PH may affect drug absorption Management: take cephalosporin with meal.

การรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์:

1. ส าหรับการติดเชื้อทางระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection: UTI) ในเด็ก

เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ คือ E. coli นอกจากนี้ยังพบเชื้อ Enterococcus spp., Proteus spp., Klebsiella spp. ตามล าดับ โดยการรักษาจะเริ่ม empirical therapy เป็นยาต้านจุลชีพชนิดฉีดก่อน แล้วประเมินการตอบสนองของผู้ป่วย ถ้ามีการตอบสนองต่อการรักษาก็สามารถเปลี่ยนเป็นยาต้านจุลชีพชนิดรับประทานต่อจนครบ 7-14 วัน ซ่ึงแนวทางการรักษาการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะในเด็ก ตาม America acadermic pediatrics (AAP) ปี 2011 ไดแ้นะน ายาที่สามารถใช้เป็น switch therapy ไว้ดังแสดงในตารางที่ 1

ตารางท่ี1 ยาต้านจุลชีพที่ใช้เป็น switch therapy ในการรักษาการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะในเด็ก8

จากตะรางที่ 1 แสดงให้เห็นว่าการ switch therapy มียาต้านจุลชีพได้หลายตัวที่แนะน า ซ่ึงยากลุ่ม cephalosporins ก็เป็นยาที่แนะน าให้ใช้ในการรักษาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะในเด็ก ซึ่งรูปแบบยาชนิดรับประทาน โดยที่มีใช้ในโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย พบว่าเพียง 2 ชนิด คือ cephalexin (125 mg/5 ml) syr. และ cefixime (100 mg/cap) ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม first และ third generation cephalosporins ตามล าดับ

ส าหรับปัญหาการรักษาโรคติดเชื้อในเด็กสิ่งส าคัญท่ีควรพิจารณาร่วม คือ ความร่วมมือในการบริหารยา เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา เฉลี่ย 7-10 วัน ดังนั้น จึงต้องพิจารณา regimen ที่สะดวกในการบริหารยา หรือรูปแบบยาที่รับประทานง่าย เช่น ยาเม็ด เป็นต้น

จากผลการศึกษาของ Copp และคณะ ปี 2011 เรื่อง National Ambulatory Antibiotic Prescribing Patterns for Pediatric Urinary Tract Infection, 1998 –2007 ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ PEDIATRICS9 ที่ได้ศึกษาการใช้ยาต้านจุลชีพและหาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ broad spectrum antibiotics ในการรักษาโรคติดเชื้อทางระบบปัสสาวะในเด็ก เนื่องจากมีการสั่งจ่ายยา broad-spectrum antibiotics โดยเฉพาะ third-generation cephalosporins ในการรักษาอย่างมาก เพ่ือจะส่งเสริมการสั่งจ่ายยาต้านจุลชีพในการรักษาการ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กอย่างสมเหตุสมผล รูปแบบการศึกษาเป็นแบบ retrospective observational study ท าการศึกษาใน National Ambulatory Medical Care Survey (NAMCS) และ National Hospital Ambulatory Medical Care Survey (NHAMCS) ระยะเวลาตั้งแต่ 1998-2007 Population: ท าการศึกษาในเด็กอายุระหว่างแรกเกิด ถึง 18 ปี ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น UTI 1828 คน

Intervention: ยาต้านจุลชีพที่มีการสั่งจ่ายในการรักษา UTI ในเด็กแบบไป-กลับ มีกลุ่ม penicillin, cephalosporin, macrolide, lincosamide, tetracycline, quinolone, aminoglycoside , urinary anti-infective agent เช่น nitrofurantoins และ methenamine mandelates และ sulfonamide combinations โดย Broad-spectrum antibiotic ได้แก่ Amoxicillin-clavulanate, Quinolones, Macrolides, second- and third-generation cephalosporins Comparator: ไม่มีตัวเปรียบเทียบ

Outcome:

Visit Characteristics: พบว่าระยะเวลาที่ท าการศึกษา 1998-2007 มีเด็กท่ีอายุน้อยกว่า18 ปี ที่มารักษา UTI มี 16 ล้านvisit เฉลี่ย 1.5-1.75 ล้านครั้งต่อปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเพศหญิงที่มีปัญหาอย่างเฉียบพลัน และน้อยกว่าร้อยละ 1 ของvisit ทั้งหมดที่ต้องเข้านอนรักษาตัวในรพ.

Antibiotic Prescription Trends: พบว่าผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น UTI ร้อยละ 70 จะได้รับยาต้านจุลชีพ โดยยาต้านจุลชีพที่มีการสั่งจ่ายในการรักษา UTI ในเด็ก พบว่า Trimethoprin-sulfamethoxazole เป็นยาที่ที่มีการสั่งจ่ายมากที่สุดในการศึกษาถึงร้อยละ 49 ส่วนยา First-generation cephalosporins มีการใช้ประมาณร้อยละ 5 ทั้งท่ีมีการรายงานว่าเชื้อ E. coli ที่เปน็เชื้อก่อโรค UTI มีการดื้อยา First-generation cephalosporins <3.5% และพบว่า มีการสั่งจ่ายยาต้านจุลชีพชนิด broad-spectrum antibiotic ทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 32 ของยาต้านจุลชีพทั้งหมด เมื่อพิจารณาแนวโน้มของการสั่งจ่ายยาพบว่ายากลุ่ม Third-generation cephalosporins มีแนวโน้มการใช้ยามากข้ึนเป็น 2 เท่าจากร้อยละ 12 ในปี 1998-2000 เป็นร้อยละ 25 ในปี 2005-2007 (p = 0.02)

Predictors of Broad-Spectrum Antibiotic Use: พบว่าเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี จะได้รับ

broad spectrum antibiotic มากกว่าเด็กท่ีมีอายุ 13-17 ปี อย่างมีนัยส าคัญ (p = 0.01) และเด็กที่มีไข ้(T>38 C) และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจะได้รับ broad-spectrum antibiotic มากกว่าเด็กท่ีไม่มีไข้และไม่ได้รับการนอนโรงพยาบาลอย่างมีนัยส าคัญ (p = 0.01)

ดังนั้น ในการศึกษานี้ตัวแปรส าคัญทีเ่ป็นตัวท านายการจ่าย broad-spectrum antibiotic และ Third-

generation cephalosporin คือ เด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี, เพศหญิง และอุณหภูมิที่มากกว่า 38 C

จากการศึกษานี้สรุปได้ว่าโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กสามารถพบได้บ่อย โดย Ambulatory care physicians จะมีการสั่งจ่ายยาต้านจุลชีพชนิด broad spectrum มาก โดยเฉพาะกลุ่ม Third generation cephalosporins ที่มีการสั่งจ่ายมากเพ่ิมข้ึนเป็นสองเท่า ดังนั้น ควรมีแนวทางในการสั่งใช้ยาที่สมเหตุผล เพ่ือลดผลกระทบของการใช้ยา broad spectrum โดยเฉพาะเมื่อพบว่าเชื้อก่อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นเชื้อไวต่อยา

2. ประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจระหว่างการใช้ยา Cephalexin และ Cefixime11

ชื่อวิจัย Cefixime in the treatment of patients with lower respiratory tract infections: results of US clinical trials. Clin Ther 1996; 18:373-390.

รูปแบบการศึกษา randomized studies ในการรักษา acute lower respiratory tract infections

การใช้ยา Cefixime 400 mg single dose หรือ 200 mg bid นาน 14 วัน ตัวเปรียบเทียบ cephalexin 250 mg po q 6 hr นาน 14 วัน ผลการศึกษา Cure or improvement totaled 94% in cefixime recipients

(n=210) and 82% in cephalexin patients (n=49)

Overall bacterial eradication response for patients treated with cefixime was 94% and for cephalexin-treated patients was 79%

post-therapy percentage of persistent organisms in the cefixime-treated group was 5%, in the cephalexin-treated group the percentage totaled 21%

In a subset of patients

diagnosed with chronic obstructive pulmonary disease overall clinical response to cefixime treatment was 92%; response to cephalexin treatment was 74%

ADR: rare in both group

3. ประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะระหว่างการใช้ยา Cephalexin

และ Bactrim12 ชื่อวิจัย Kasanen A, Hajba A, Junnila SYT, et al: Comparative study of

trimethoprim and cephalexin in urinary tract infection. Curr Ther Res 1981; 29:477-485

การใช้ยา Bactrim 2x2 pc นาน 7 วัน ตัวเปรียบเทียบ Cephalexin (250mg) 2x2 pc นาน 7 วัน ผลการศึกษา Acute urinary tract infection resolved in 98.3% of 118 patients

of Bactrim and in 82.1% of 123 patients after cephalexin.

After 6 weeks urinary tract infections recurred in 15.2% of the trimethoprim group and 30.9% of the cephalexin

4. ประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจระหว่างการใช้ยา Cephalexin และ Bactrim13 ชื่อวิจัย Phadtare JM & Rangnekar RY: Comparative study of the efficacy of

co-trimoxazole and cephalexin in respiratory infections. Pharmatherapeutica 1988; 5:183-188.

รูปแบบการศึกษา randomized studies การใช้ยา Bactrim 2x2 pc นาน 15 วัน ตัวเปรียบเทียบ Cephalexin (250mg) 2x4 pc นาน 15 วัน ผลการศึกษา Bactrim and Cephalexin were equally effective in treating severe

respiratory tract

Cephalexin was slightly superior to Bactrim after 10 days of treatment

after 15 days of treatment there was no significant difference between treatment groups.

ข้อมูลเปรียบเทียบรายการยาอื่นๆ ท่ีมีใช้ในโรงพยาบาล

ข้อมูล Cephalexin Cefixime Amoxicillin/Clavalunic acid Bactrim©

ประเภทยา

ตามบัญชียา

ก ง ค ก

กลุ่มยา 1st generation Cephalosporins 3rd generation Cephalosporins Penicillins Sulfonamides and trimethoprim

ครอบคลุมเชื้อ 1. แบคทีเรียแกรมบวก เช่น MSSA,

Streptococcus spp.

2. แบคทีเรียแกรมลบ เช่น

- Proteus mirabilis

- E. coli

- Klebsiella spp.

1. แบคทีเรียแกรมบวก เช่น MSSA,

Streptococcus spp.


- Proteus mirabilis

- E. coli

- Klebsiella spp.

- H.. influenzae

- Neisseria spp.

- Enterobacteriaceae

(ไม่คลุม Pseudomonas spp.)

1. แบคทีเรียแกรมบวก เช่น

Enterococcus spp. ,

Streptococcus spp.


- H. influenzae

- E. coli

- Klebsiella spp.

- Neisseria spp.

- Moraxella catarrhalis

- Proteus mirabilis

3. แบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจน เช่น

Bacteroides spp.,

Clostridium spp. เป็นต้น

1. แบคทีเรียแกรมบวก เช่น

MSSA, MRSA,

Streptococcus spp.


- E. coli

- Klebsiella spp.

- H. influenzae

- Neisseria spp.

- Enterobacteriaceae

(ไม่คลุม Pseudomonas spp.)

- Shigella spp

- Salmonella spp.

- Nocardia asteroides

ข้อมูลเปรียบเทียบรายการยาอื่นๆ ที่มีใช้ในโรงพยาบาล


ข้อบ่งใช้ ใช้ในการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมบวก

โดยเฉพาะ S.aereus ในผู้ป่วยที่แพ้

Penicillins แบบไม่รุนแรง และการ

ติดเชื้อจากชุมชนจากแบคทีเรียแกรม

ลบ เช่น E. coli

1. ใช้เป็น switch therapy ในผู้ป่วยที่มี

การติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ

2. .ใช้รักษาหนองในแท้เฉพาะที่

อวัยวะเพศและทวารหนัก เมื่อไม่

สามารถใช้ยา ceftriaxone ได ้

1. ใช้เป็นยาแทน (alternative drug)

ของ oral co-trimoxazole ในการ

รักษา melioidosis

2. ใช้ส าหรับการติดเชื้อที่สงสัยว่า

อาจจะเกิดจากเชื้อ H.

influenzae และ/หรือ M.

catarrhalis ที่ดื้อต่อ ampicillin

3. ใช้รักษาโรคติดเชื้อผสมระหว่าง

แบคทีเรียชนิด aerobes และ

anaerobes

1. ใช้รักษาปอดอักเสบจาก

เชื้อ Pneumocystis jirovecii

2. ใช้รักษาการติดเชื้อ

toxoplasmosis

3. ใช้รักษาโรคติดเชื้อ MRSA ที่

ผิวหนัง

ขนาดยาในการ

รักษา UTI

เด็ก>1 ปี: 50-100 mg/kg/day PO

q 6-8 h (max dose 4g/day)

เด็ก> 6 เดือน: 8 mg/kg/day PO

divided q 12-24 h (max dose 400

mg/day)

เด็กแรกเกิดถึง 2 ปี: Amoxicillin 20-

40 mg/kg/day q 8 h

เด็ก: TMP 6–12 mg หรือ SMX 30–60 mg/kg/day BID

ผู้ใหญ่: 500 mg PO q 12 h (max

dose 4g/day)

เด็ก> 50 kg หรือ อายุ >12 ปีและผู้ใหญ่:

400 mg/day q 12 (max dose 400

mg/day)

เด็ก > 40 kg และผู้ใหญ่: 625 mg q

12 h หรือ 500 mg q 8 h



รูปแบบ/ความแรง 125 mg/ 5 ml in 60 ml

250 mg/capsule

100 mg/capsules ปริมาตร 70 ml/ขวด

ยา 5 ml มี Amoxicillin 400 mg/

Clavalunic acid 57 mg

ปริมาตร 60 ml/ขวด

ยา 5 ml: มี TMP 40 mg/

SMX 200 mg

ยาเม็ด: TMP 80 mg/SMX 400 mg

ราคา/หน่วย 170 บาท/100 capsules

(1.7 บาท/capsule)

1,177 บาท/100 capsules

(11.77 บาท/capsule)

179.76 บาท/ขวด

Syrup: 9.50 บาท/ขวด

Tablets: 275 บาท/500 เม็ด

(0.55 บาทต่อเม็ด)

การบริหารยาใน

การติดเชื้อทางเดิน

ปัสสาวะในเด็ก

น้ าหนัก 30 กก.

1,500-3,000 mg/day

1500 mg: 2x3 PO

3000 mg: 3x4 PO

240 mg/day

240 mg = 1x2 PO

600-1200 mg/day

1-1.5 ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง

TMP 180-360 mg/day

ยาน้ า = 2.5-5 ช้อนชา วันละ 2 ครัง้

ยาเม็ด = 2x2 pc

ค่าใช้จ่าย 10.2-20.4 บาทต่อวัน

(71.4-142.8 บาทต่อ 7 วัน)

35.31-47.08 บาทต่อวัน

(247.17-329.56 บาทต่อ 7 วัน)

179.76-359.52 บาทต่อ 7วัน ยาน้ า: 28.5-57 บาทต่อ 7 วัน

ยาเม็ด: 15.4 บาทต่อ 7 วัน

การบริหารยา หลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมอาหาร

(ลด Cpeak)

อาหารจะท าให้การดูดซึมยาช้าลง ควรกินยาพร้อมอาหารเพ่ือเพ่ิมการดูดซึม

ยาและลดอาการทาง GI

อาหารไม่มีผลต่อการดูดซึมยา



อาการไม่พึง

ประสงค์

อาการไม่พึงประสงค์ไม่รุนแรง เช่น ไข้

ชัก ผื่นคัน คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย

พิษต่อตับ ความผิดปกติของระบบ

เลือด เช่น neutropenia,

leukopenia, thrombocytopenia

เป็นต้น

ท้องเสีย (>10%)

ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน (2-10%)

ความผิดปกติของการท างานของไต

anaphylactic/anaphylactoid

reactions (<2%)

ท้องเสีย (3-34% ขึ้นกับขนาดยา)

ผื่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน (1-10%)

คลื่นไส้,อาเจียน,ไม่อยากอาหาร

Photosensitivity, ผื่นคัน

Agranulocytosis, aplastic

anemia, eosinophilia, hemolysis

(G6PD deficiency)

Hepatotoxicity

ข้อควรระวัง/

ข้อห้ามใช้

- ระมัดระวังถ้ามีการใช้ยาเป็นระยะ

เวลานานในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรค

เกี่ยวกับทางเดินอาหาร

โดยเฉพาะ colitis

- ระมัดระวังในผู้ป่วยที่แพ้ยากลุ่ม

Penicillins โดยเฉพาะแพ้ยา Type-:

IgE-mediated reaction

- ระมัดระวังถ้ามีการใช้ยาเป็นระยะ

เวลานานในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรค

เกี่ยวกับทางเดินอาหาร

โดยเฉพาะ colitis

- ระมัดระวังผู้ป่วยที่มีมีประวัติเป็นความ

ผิดปกติของเลือด เนื่องจากมีรายงานยา

กลุ่ม cephalosporins ลดการท างาน

ของ prothrombin ในกระบวนการ

แข็งตัวของเลือด เช่น ผู้ป่วยที่มีการ

ท างานของไตหรือตับผิดปกติ

มีภาวะทุพโภชนาการ ได้รับยาต้านจุลชีพ

เวลานานและยา anticoagulants

- ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยากลุ่ม

Penicillins แบบรุนแรง

- ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติ G6PD

deficiency เนื่องจากจะท าให้เกิด

hemolysis (dose-related)

- ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยากลุ่ม Sulfa

- ระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีภาวะ folate

deficiency หรือในหญิงตั้งครรภ์

เนื่องจากยายับยั้งกระบวนการ

สังเคราะห์ folate ที่จ าเป็นใน

กระบวนการสร้าง DNA

- ระมัดระวังผู้ป่วยสูงอายุ

- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยตับ

สรุป

ยา cephalexin เป็นยากลุ่ม first generation cephalosporin ในรูปแบบ 250 mg/cap จัดเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ประเภทบัญชี ก มีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียแกรมบวก เช่น MSSA, Streptococcus spp. และแบคทีเรียแกรมลบ เช่น Proteus mirabilis, H. influenza, E. coli เป็นต้น ดังนั้น สามารถใช้เป็น switch therapy ในการรักษาโรคติดเชื้อในระบบต่างๆ ได้ เช่น ระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น

ยากลุ่ม cephalosporin รูปแบบรับประทานที่มีใช้ในโรงพยาบาลศรีสังวรพบว่ามีอยู่ 2 ตัว คือ cephalexin syr (250 mg/ 5ml) และ cefixime (100 mg) ซึ่งหากน ายา cephalexin เข้ามาใช้อาจมีข้อด้อยกว่ายา cefixime ซึ่งเป็น third generation cephalosporin ที่มีขอบเขตการออกฤทธิ์ที่กว้างกว่า โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ อีกท้ังยังบริหารยาง่ายกว่า โดยยา cephaxin ต้องบริหารยาวันละ 3-4 ครั้ง ซึ่งอาจมีผลต่อความร่วมมือในการใช้ยาโดยเฉพาะผู้ป่วยเด็ก

อย่างไรก็ตาม ยา cephalexin มีข้อดีที่เหนือว่า cefixime คือ มีมูลค่าการใช้ยาในการรักษา โรคติดเชื้อที่น้อยกว่าประมาณ 2 เท่า เช่น ค่าใช้ยาในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กน้ าหนัก 30 kg ต่อ 1 คอร์ส พบว่ายา cephalexin มีมูลค่าการรักษาประมาณ 71.4-142.8 บาท ในขณะที่ยา cefixime มีมูลค่าการรักษาประมาณ 247.17-329.56 บาท ส าหรับรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน

โดยสรุป หากต้องน ายา cephalexin มาใช้ในโรงพยาบาล อาจไม่สามารถตัดรายการยา cefixime ออกจากบัญชีโรงพยาบาลได้ เพราะมีข้อบ่งชี้ในการรักษาที่แตกต่างกัน ซึ่งควรพิจารณาเลือกใช้ตามความจ าเป็น

เอกสารอ้างอิง

1. Borgsdore LR, Cada DJ, Cirigliano M, Covington TR, Generali JA and Hussa DA. Drug Facts and Comparisons.60 th edition. U.S.A:Wolters Kluwer Health;2006.

2. DRUGDEX® System:Klasco RK (Ed): DRUGDEX® System (electronic version). Thomson Micromedex, Greenwood Village, Colorado, USA. Available at:

http://www.thomsonhc.com (cited: 15 Nov 2012). 3. Pregnancy and lactation. http:drugsafetysite.com/drugs/index/. (cited: 15 Nov 2012). 4. Committee on Drugs, American Academy of Pediatrics. The transfer of drugs and other

chemicals into human milk. Pediatrics 1994;93:137-50. 5. AHMED MS. SWEDLUND KS. Evaluation and Treatment of Urinary Tract Infections in

Children. Am Fam Physician; 1998 (57:7):1573-1580

6. SUBCOMMITTEE ON URINARY TRACT INFECTION and STEERING COMMITTEE ON QUALITY IMPROVEMENT AND MANAGEMENT, Urinary Tract Infection: Clinical Practice Guideline for the Diagnosis and Management of the Initial UTI in Febrile Infants and Children 2 to 24 Months. PEDIATRICS ;2011(128:3)

7. Committee on Quality Improvement Subcommittee on Urinary Tract Infection, Practice Parameter: The Diagnosis, Treatment, and Evaluation of the Initial Urinary Tract Infection in Febrile Infants and Young Children, PEDIATRICS;1999

(103: 4) 8. Beetz R, Westenfelder M. Antimicrobial therapy of urinary tract infections in children.

International Journal of Antimicrobial Agents. [doi:10.1016/j.ijantimicag.2011.09.006]. 2011;38, Supplement(0):42-50.

9. Copp LH. Shapiro JD. Hersh LA., National ambulatory antibiotic prescribing patterns for pediatric urinary tract infection, 1998-2007. Pediatrics ;2011(127:6)

10. Jadresić LP. Diagnosis and management of urinary tract infections in children. Paediatrics and Child Health. [doi:10.1016/j.paed.2010.02.004]. 2010;20(6):

274-8. 11. Quintiliani R: Cefixime in the treatment of patients with lower respiratory tract

infections: results of US clinical trials. Clin Ther 1996; 18:373-390. 12. Kasanen A, Hajba A, Junnila SYT, et al: Comparative study of trimethoprim and

cephalexin in urinary tract infection. Curr Ther Res 1981; 29:477-485 13. Phadtare JM & Rangnekar RY: Comparative study of the efficacy of co-trimoxazole and

cephalexin in respiratory infections. Pharmatherapeutica 1988; 5:183-188.

cephalexin - srisangworn sukhothai hospital · ใช้เป็น switch therapy...

Documents