basic guitar solo

เข็มหลอ 1

BASIC basic BASIC พื้นฐานการฝก Guitar สิ่งที่คุณควรมีในการเลนกีตาร

1. Guitar สวนตัวจะเปนแบบ Electric or Acoustic ก็ได ตามแตสไตร 2. Pick สําหรับดีดกีตาร 3. Metronome [ สามารถ Download ไดที่ดานลางของหนาเว็บนี้ ] 4. Amplifiers (สําหรับคนที่ใชกีตารไฟฟา) 5. แสตนดวาง Note 6. แจ็คกีตาร สายกีตาร เอฟเฟค ฯลฯ (ตามแตความสามารถ) 7. หัวใจที่รักในการเลนกตีารและดนตรี กับ มืออีกสองขางของคุณ. [ขอนี้สําคัญที่สุด]

การเริ่มตนฝกกีตารที่ดี 1. ควรฝกกีตารกับเครื่องเคาะจังหวะทุกครั้ง (เครื่อง Metronome) 2. ควรฝกจากการเลนที่ Tempo ชาๆ กอน เมื่อคลองแลวจึงเรงความเร็วของ Tempo ขึ้นเรื่อย ๆ 3. ควรฝกใหไดทุกวัน อยาขาด ถาอยากเกง 4. ควรมีการ warm นิ้วกอนการฝกทุกครั้ง โดยใชการเลนแบบโครมาติกส 5. ควรใหความสําคัญกับเสียงที่เราดีดออกมาดวย วามีความตอเนื่องของเสียง และน้ําหนักการดีดดีไหม

วิชาที่นักกีตารควรรู 1.Reading วิชาวาดวยการอานโนต 2.Theory วิชาทฤษฎีดนตรี 3.Rhythm Guitar วิชาการเลนริทึ่ม 4.Solo Guitar วิชาวาดวยการเลนเดี่ยวกีตาร 5.Ear Training วิชาวาดวยการฝกหู

นี้เปนกฎการฝกอยางงายๆ แตไดผล ที่ผูฝกกีตารควรกระทํา. เราควรฝกอะไรบางในแตละวัน #

หลายทานที่เริ่มจะเอาจริงกับการฝกกีตาร สวนใหญมักมีคําถามนี้เกิดขึ้นกับตนเองเปนลําดับแรก ๆ ตอนนี้เราเลยมีคําแนะนําสําหรับการฝกซอมที่ผมคิดวานาจะไดผลกับทุกคนมาเเสนอ ขอย้ําวา.. แนะนํานะครับ !!! เราควรจะซอมอะไร? ซอมอยางไร? ซอมนานเทาไหร? คําถามเหลานี้ลวนเปนคําถามที่ขึ้นอยูกันกับตัวแปรของแตละคนไป ซึ่งตัวแปรของแแตละคนก็จะแตกตางกันไป... ตัวแปรคืออะไร... >

ตัวแปรก็คือ สภาพแวดลอมตางๆ เชน เวลาที่แตละคนมีใหกับการฝกซอม ความรูที่ใชเปนวัตถุดิบในการฝกซอม เปนตน ตางๆ เหลานี้..ซึ่งแตละคนยอมมีไมเหมือนกัน และการฝกกีตารก็จะแตกตางกันไปขึ้นอยูกับตัวแปรเหลานี้ เวลา...

ผูที่มีเวลาในการฝกซอมมาก ก็จะไดมีเวลาในการอยูกับ GUITAR มาก ผูที่มีเวลานอย ก็แนนอนเวลาในการจับกีตารก็ยอมนอยลงไปดวย แตก็ใชแแนเสมอไปวา...ผูที่มีเวลาในการฝกมากจะใชเวลาในการซอมได


ประโยชนสูงสุด ตรงขาม...ถาผูที่มีเวลาซอมนอย แตรูจักจัดสรรเวลาในการฝกใหมีประสิทธิภาพ ผูที่มีเวลาซอมนอยอาจจะมีอะไรดีๆ มากกวาผูที่มีเวลาซอมมากก็เปนได (แคอาจจะนะ...) วัตถุดิบ...

วัตถุดิบ ในที่นี้ผมหมายถึง ความรูทางดนตรีของผูที่จะฝก คือ ถาผูที่ฝกกีตารมีความรูมาก สิ่งที่ผูฝกคนนั้นกจ็ะมีเยอะมากเปนเงาตามตัว ตรงขาม...ถาผูที่ฝกมีความรูนอย แนนอนสิ่งที่ผูฝกก็จะมีนอยตามไปดวย ฉะนั้น .. เราตองหมั่นหาความรูทางดนตรีบอย ๆ และสม่ําเสมอ

ตอไปนี้เปนตารางที่ผมขอแนะนําใหผูที่คิดวาจะเริ่มฝกกีตารอยางจริงๆ จังๆ นําไปลองใชหรือปรับเปลี่ยนใชใหเหมาะกับตนเองดู เปนการแนะนํากวางๆ ที่คิดวาเหมาะกับทุกๆ คน..ดังนี้ >>>

เวลา สิ่งที่ควรฝก 1/2 ช่ัวโมงแรก warm นิ้วดวยแบบฝกโครมาติกส 1/2 ช่ัวโมงตอไป ฝกการอาน-เลน note 1/2 ช่ัวโมงตอไป ฝกในเรื่องของ Chord และ Rhythm 1/2 ช่ัวโมงสุดทาย ฝกแกะเพลงหรือฝกการ Solo Guitar รวม 2 ช่ัวโมง รวม 3 วิชา นอก จากการฝกในภาคปฏิบัตินี้แลว เราควรหาเวลาในการอาน : ศึกษาในสวนของทฤษฎีดนตรีดวย

*** ควรจะฝกใหเวลาตอเนื่องกันไป ไมใชเชาครึ่งช่ัวโมง เย็นครึ่งช่ัวโมง อยางนี้ไมได ... ถาคุณฝกแบบนี้ก็เทากับวา คุณฝกแควันละ 1/2 ช.ม. เทานั้นเอง และควรฝกใหไดทุกวันอยาเวน จะเวนก็ปวยหรือใกลตายเทานั้น...555 และการเลนกีตารเพื่อความบันเทิง (การเลนที่เปนแบบ เลนใหเพื่อนฟง หรือ เลนแกเซ็ง) เราไมควรนํามานับวานั้นคือการฝกกีตารของเรา *** ลองนําไปใชดู ตอนผมเริ่มฝกใหมๆ ผมก็ฝกคลายๆ อยางนี้ครับ ปจจุบันก็ไมคอยเกงขึ้นมาเลย...:->

การฝกจับ Chord เบื้องตน ผูที่เพิ่งเริ่มหัดเลนกีตารสวนใหญ มักนึกถึงการฝกเรื่องการจับ Chord เปนอยางแรก แนนอน!!! ทานมัก

ไมรูวา เบื้องตนคอรดใดควรฝกกอนคอรดใดควรฝกหลัง ตรงหนานี้เราจะมาแนะนําทาน 4 คอรดเบื้องตนที่สําคัญ C - Am - F - G Chord ทั้ง 4 นี้จําเปนในเบื้องตน


สัญลักษณตางๆที่ทานเห็นใน Form ทั้งสี่มีความหมายดังนี้. 1. เครื่องหมายเสนโคง คือ การใชนิ้วทาบกดลงไปบนสาย 2. เครื่องหมายวงกลม คือ ไมตองกดสายนั้น หรือเลนสายเปดนั้นเอง 3. เครื่องหมายกากบาท คือ ไมตองดีดสายนั้นใหมีเสียงออกมา

ก็ลองฝกกันดูกับมือใหมหัดจับทั้งหลาย เปนกําลังใจใหครับ "กรุงโรมไมไดสรางเสร็จภายในวันเดียวฉันใด การฝกกีตารก็ฉันนั้น."

ไดมีผูที่ติดตามเว็บไซคแหงนี้เขาไปเขียนไวใน GuestBook และ WebBoard วาตอนนนี้เขาจับคอรดเปนแลวแตไมรูจะเริ่มฝกการเลนคอรดอยางไร ผมจึงขอโอกาสนี้แนะนําการเลนคอรดเบื้องตนใหพอเปนแนวทาง แตกอนที่จะเลนคอรดขอใหเรามาทําความเขาใจกับสัญลักษณนี้กันกอน..

คือสัญลักษณแทน Quarter Note(เรื่องโนตอานไดในหนา Theory) ตอไปคือวิธีการเลนคอรด...

จากที่ไดแนะนําคอรดพื้นฐานไปแลว 4 คอรดคือ C Am F G7 เราจะนําคอรดนี้ออกมาเลนเปนการตีคอรด โดยมีวิธีการฝกดดังนี้...

1. ใหเรากรีดปคกีตารลงบนสายกีตารเปน Quarter Note อยางเดียวกอนในการฝกใหมๆ 2. ใหเราตบเทาไปดวย...ลองดูโนตตอไปนี้

Pic.1

ตอมาก็มาเริ่มเลนกับคอรดที่เราจับไปไดแลว ดังตัวอยางนี้... Pic.2

ในตัวอยางเปนการเลนคอรด C & F เพียงแค 2 คอรด. Guitar Rhythm Basic

ตามคําเรียกรองครับ สําหรับบทความนี้ เปนบทความซึ่งแนะนําการเลนคอรด + การฝกตีคอรดแบบงายๆ กับบทเพลงงายๆ ครับ

เพลงที่นํามาลงใหลองเลนดูกันเปนตัวอยางนี้ช่ือวาเพลง All I Have To Do Is Dream. ไมแนใจวาเคยไดฟงกันมากอนหรือเปลา แตทํานองของเพลงนี้เคยถูกนํามาประกอบโฆษณาขนมเด็กยี่ฮอหนึ่ง เมื่อสมัยสัก 10 กวาปกอน


วีธีการเลนคอรด 1. ในเพลง ๆ นี้จะมีคอรดอยูดวยกัน 4 คอรด คือ C Am F G7 คงจะจับกันไดแลว 2. ใหทําการดีดคอรดในแตละคอรด โดยการกรีดสายลงอยางเดียว พรอมทั้งตบเทาตามไปดวย 3. ตบเทา 1 ครั้ง ใหเรากรีด หรือ ดีดลง 1 ที 4. เพลงนี้มีการเลนในแบบ 1 คอรด ตอ 2 บีท เพลง 5. ดังนั้น เราจะตบเทา 2 ครั้งพรอมทั้งดีดลง 2 ครั้ง ตอการเลน 1 คอรด เชน เลน C โดยการดีดลง 2 ครั้ง

แลวจึงเปลี่ยนคอรดไปคอรดอื่นตามเพลง ทางเดินคอรดในบทเพลง

Sound ของการตีคอรด

คอรดจะเลนวนเพียงแค 4 คอรดดังในรูปดานบน คือ จะเลนเปน C -> Am -> F -> G7 -> C -> Am -> F -> G7 -> C ->....|| ไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งเพลง

หวังวาคงจะชวยเปนแนวทาง สําหรับผูที่มืดมนกับการเลนคอรด หรือ การดีดจังหวะบางนะครับ เพราะมีหลายทาน จับคอรดไดแลว แตไมรูวาตนเองจะดีดอยางไรกับเพลง....

เมื่อนานมาแลวผมไดเขียนบทความแนะนําการจับคอรดเบื้องตนไปจํานวน 4 คอรด มาในคราวนี้ระลึกขึ้นมาไดวา ...เราควรจะแนะนําคอรดเพิ่มเติมเขาไป เพื่อใหมือใหมหัดตะครุบคอรดไดนําไปเปนแนวทางในการเลนกีตารสืบไป... คราวนี้เลยขอแนะนําคอรดพื้นฐานที่จําเปนในการเลนกีตารืเพิ่มอีก 4 คอรดครับ แลวจะทยอยเขียนแนะนําคอรดอื่น ๆ ตอไป เมื่อผมระลึกได....

Basic Chord ที่จะแนะนําคราวนี้ก็ยังเปนคอรดพื้น ๆ อีก 4 คอรดเชนเคย สําหรับมือใหม ใครที่มือเกาแลวก็ไมตองอานก็ไดครับ หรือ จะอานเพื่อเปนการทบทวนความรูไปดวยก็ได หรือจะอานไปเพื่อการจับผิดผมก็ไดครับ วาผมเขียนถูกไหม...คอรดตาง ๆ มีดังนี้ครับ D Bm Em A ดังมีรูปแบบการจับคอรดในตําแหนง Open Position ดังนี้ครับ >>>

คอรดที่นํามานี้เปนคอรดซึ่งอยูใน Key. D Major ครับ ถาจะพูดตามหลักการเรียบเรียงก็จะเปนคอรดใน

ชุด I - VI - II - V (หนึ่ง - หก - สอง - หา) โดย


- I คือคอรด D - VI คือคอรด Bm - II คือคอรด Em - V คือคอรด A

ถามือใหมอานแลวงงตรงที่อธิบายก็ขอใหขามไปนะครับ หรือถาอยากรูก็ลองหาอานเนื้อหาที่เกี่ยวของนี้ไดจากหนา Theory ของ kitatann นะครับ สําหรับสัญลักษณการจับคอรดตาง ๆ ใหทานเขาไปอานไดในบทความแรกของหัวขอนี้นะครับ

การใช Pick กอนอื่นเรามาทําความเขาใจในสัญลักษณของการใช Pick ดีดกีตารกันเสียกอน ดังนี้...

หมายถึง การใชปคดีดลง (down) | หมายถึง การใชปคดีดขึ้น (up) การใช Pick ก็มีท้ังหมด 3 รูปแบบที่เรานิยมใชกันในปจจุบัน คือ. Alternate Picking Sweep Picking Economy Picking ในจุดเริ่มแรกนี้เรามาเรียนรูการใชปคในแบบ Alternate กันกอน หลักการของการใชPickในแบบ Alternate ใชปคดีดสลับขึ้น-ลงตลอดการดีดสายกีตาร(Down&Up) ไมวาnote นั้นจะเปลี่ยนไปอยางไร EX.1

***ใหเลนในลักษณะนี้กับทุกสาย&เฟร็ทของกีตาร.*** EX.2

ทั้ง 2 แบบฝกนี้ใหคุณใชปคตามที่กําหนดไวให และแนะนําวาควรฝกจากการหัดดีดชาๆกอน ให

ความสําคัญกับเสียงที่ดังขึ้นมาดวย ดีดใหมีจังหวะที่สม่ําเสมอกัน... ครั้งหนามาดูการใชปคในแบบ"สวีพ ปคกิ้ง"กันตอ


SWEEP PICKING เราไดเรียนรูถึงหลักการการใชปคในแบบ Alternate กันไปแลวในบทกอน มาในบทเรียนนี้เรามาทํา

ความรูจักถึงหลักการการใชปคในแบบ สวีพ ปคกิ้งกันบาง... Sweep Picking คําๆ นี้เมื่อสัก 8-9 ปกอนมือกีตารหลายๆ คนหลงอยูกันกับเทคนิคการใชปคแบบนี้ จน

หลายคนคิดผิดไปวา...ใครเลนเทคนิคแบบนี้ไดคือคนที่เลนกีตารไดเกง!!! แตถาเรามารูจักถึงหลักการของมัน เราจะรูวา...แทจริงแลวไอเทคนิค Sweep มันก็แควิธีการใชปคในอีกรูปแบบหนึ่งเทานั้นเอง ไมไดมีอะไรที่วิเศษมากมายเลย ฉะนั้น...ขอใหเรามองของทุกสิ่งวาเปนเพียงสิ่งๆหนึ่งเทานั้น อยาไปมองวา...เทคนิคนี้ช้ันสูง เทคนิคการเลนแบบนี้ช้ันต่ําหหรือพ้ืนๆ จงมองมันดวยความเสมอกัน แลวคุณจะเขาใจดนตรีไดงายขึ้น หลักการของ Sweep Picking

ใหใช Pick ไปในทิศทางเดียวกันโดยตลอด (จะดีดลงก็ดีดลงอยางเดียว หรือจะดีดขึ้นก็ขึ้นอยางเดียว) ถาดีดในสายเสนเดียวกันใหดีดเปนแบบสลับขึ้น-ลง. ตัวอยาง...

**ใหคุณสังเกตตรงสัญลักษณการใช Pick ดวย (สัญลักษณการใชปค อธิบายไปแลวในตอนกอนยอนกลับไปอานนะ) **

จบไปอีกครั้งกับหลักการๆ ใชปคในแบบ สวีพ ปคกิ้ง ยังเหลือการใชปคอีกแบบคือ Economic Pickinng เอาไวคราวหนามาวากันตอ

จริงแลวบทความนี้นาจะอยูในบทตนของวิธีการใช pick ในการดีดกีตาร แตเนื่องจากวาปจจัยและทุนทรัพยอุปกรณเรานอย เราจึงไมสามารถทําไดในตอนเริ่มแรก เพราะบทความนี้ตองใชรูปภาพประกอบ ซึ่งรูปภาพที่วานั้นตองไดออกมาจากการถายภาพแลวนําไปแสกนลงคอมพิวเตอรอีกทีนึง หรืองไมก็ตองใชกลองดิจิตอลจึงจะสามารถจัดทํารูปภาพนี้ขึ้นมาได แตดวยบุญพาวาสนาสงของเรา kitatann จึงมีเพื่อนใจดีของเราเอื้อเฟออุปกรณใหในการถายภาพ เราจึงไดภาพนั้นนํามาจัดทําบทความนี้ ขอขอบคุณเพื่อนทานนั้นไวณ.โอกาศน้ีดวยครับ

วิธีการจับปค (pick) ก็ไมมีอะไรยุงยากนัก เรามาดูขั้นตอนการจับปคกันตามรูปภาพดังตอไปนี้ >>> Pic.1

ใน pic.1 นี้เปนการจัดรูปมือเพื่อใชในการจับปดกีตาร


Pic.2

ใน pic.2 เปนการจัดวางปคกีตารลงไปที่ดานขางของนิ้วช้ีของมือที่เราใขในการดีดกีตาร โดยปรกติก็จะเปนมือซาย Pic.3

ใน pic.3 เปนการจับปคกีตาร โดยใหจับแบบสบาย ๆ ไมตองจับแนนเกินไป หรือจับหลวมจนเกินไป ใหปลายของปคเกินออกมาตามสมควร

Chromatic Exercise ผมเชื่อมั่นเปนอยางมากวา...กวา 90 เปอรเซ็นของมือกีตารทั่วโลก มักจะนิยมซอมลูกโครมาติกสนี้ ผม

เเคยสังเกตV.D.O. สอนกีตารตางๆ ที่มีนักกีตารระดับโลกมาสอน สวนใหญการสอนของเขาเหลานั้นก็หนีไมพนการฝกในแบบโครมาติกส Chromatic คืออะไร...???

โครมาติกสก็คือ บันไดเสียงหรือ Scale ทางดนตรีชนิดหนึ่ง ซึ่งมีโครงสรางเปนไปในแบบ Semi-tone โดยตลอด หรือมีระยะหางกันของเสียงเทากับ 1/ 2 เสียงตลอดทั้งสเกล (1/2เสียงเทากับ 1 Fret Guitar.) ประโยชนของแบบฝกใน Form ของ Chromatic

1. ชวยในเรื่องของแรงนิ้วมือ 2. ชวยในเรื่องของการจัดระเบียบนิ้วมือ 3. ชวยเพิ่มทักษะในการใชนิ้ว 4. ชวยในเรื่องการใช Pick 5. ชวยในการเพิ่ม speed ของนิ้วมือ ทีนี้ก็ไดเวลามาลองฝก Lick ในแบบ Chromatic กันเสียที โดยเริ่มจากโครมาติกสในแบบStandartที่เราคงเคย

เห็นกันทั่วไปดังใน EX.1


Ex.1

ใหคุณใช pick ดีดสลับขึ้นลงโดยตลอด (down-up) และเลนใหทั่วทั้งคอกีตารของคุณ.. Ex.2

หลักการของ Exercise.2 นี้ก็คือ การใชระบบนิ้ว-เวน-นิ้ว. สําหรับครั้งนี้ก็ขอแนะนําในเรื่องการฝกแบบโครมาติกสไวเพียง 2 ตัวอยางกอนเอาไวคราวหนาวากัน

อีก (มีอีกเพียบครับ...) พบกันอีกครั้งกับการนําเสนอลูกนิ้วการฝกในแบบโครมาติกส กอนที่จะไปดูแบบฝกก็อยากจะแนะนําท

ริคการฝกสักนิดนึง....ดังนี้ 1. ควรฝกแบบฝกพวกนี้กับMetronomeทุกครั้ง 2. ใหใชการดีดPickในแบบAlternateหรือสบับขึ้น-ลงโดยตลอด (Down&Up) 3. เลนแบบฝกพวกนี้ใหไดกับทุกPositionหรือทุกเฟร็ท 4. ใหเริ่มฝกจากการเลนชาๆไปหาเร็ว 5. ใหความสําคัญกับเสียงที่ดังออกมาดวย ควรใหเปนเสียงที่ตอเนื่องกัน และมีความดังที่สม่ําเสมอกันใน

แตละตัวโนต. คงแคนี้สําหรับคําแนะนําการฝก ที่นี้ก็ไปดูแบบฝกไดเลยครับ.


EXERCISE ONE

หลักการหรือแนวความคิดของแบบฝกนี้คือ...เปลี่ยนการเริ่มตนของนิ้วมือซายไปเรื่อยๆในทุกชุด ใหใช

นิ้วในการเลนตามที่กําหนดไวดวย. EXERCISE TWO

***นําไปเลนกับทุกตําแหนงบนคอกีตาร โดยใชFormนิ้วเดิม*** ครั้งหนาพบกันใหมกับแบบฝกโครมาติกส

กลับมาอีกครั้งกับการฝกเลนกีตารในแบบ Chromatic หลังจากที่หางหายกันไปนาน เนื่องจากณ.ที่ kitatann แหงนี้มีผมเปนผูจัดทํา ออกแบบ คิดเนื้อหา เขียนเนื้อหา ตลอดถึงการอัพโหลดหนาเว็บ ดวยตัวคนเดียว จะมีบางที่บางเนื้อหาอยางในสวนของ Song ที่มีนองชวยเขามาทําให 1 เนื้อหา ฉะนั้นจึงชาบางเปนธรรมดา...

เรารูเรื่องประโยชนของการฝกในแบบโครมาติกสไปแลวในตอนที่แลว มาตอนนี้ก็จะมีลูกนิ้วใหมในแบบดครมาติกสืนี้ใหไปฝกกันอีก มาดูกันใน Fig.1 FIG.1


ในตัวอยางfig.1 นี้เปนการเลนโดยใช 1 นิ้วตอ1 fret ตามแบบการเลนโครมาติกสทั่วๆไปที่กลาวไปแลวในบทกอนๆ แตที่แปลกออกมาคือ เปนการเลนในแบบ 4 สายกีตาร โดยคิดเปน 1นิ้วตอ 1 Fret และ ตอ 1 สายของกีตารดวย เมื่อเขาใจในไอเดียของลูกนิ้วนี้แลวก็ไปดูวิธีการนําเอาไอเดียนี้ไปใชกันใน Ex.1 & Ex.2

Ex.1

ใน Ex.1 นี้เปนการเลนในแบบหนาตัดของคอกีตารลงไป ใหใช pick ในแบบสลับขึ้นลงโดยตลอด หา

ม...ใชปดในแบบลง หรือ ขึ้นอยางเดียว เปนขอสําคัญในการฝก. Ex.2

ใน Ex.2 นี้เปนการเลนไปตามแนวยาวของคอกีตาร ก็เชนเคยใชปคสลับขึ้น-ลงโดยตลอด และใหนําไป

เลนกับทุกๆสายกีตารดวย อยางเพียงแตเลนในแบบตัวอยางที่ใหมานี้เทานั้น เพราะในตัวอยางนี้ใหเลนเพียงแคสายที่ 6 - 5 - 4 - 3 แตคุณอาจจะไปประยุกตเลนในสายที่ 5 - 4 - 3 - 2 หรืออื่นก็ได ฝกกีตารืกับ kitatann ตองคิดครับ เพราะทีนี้เราสอนใหคิดและเลน ถาจะเลนเพียงอยางเดียวที่นี้ไมมีครับ ตอไปเรามาดูประโยชนจากแบบฝกที่ผมนํามาแนะนํานี้กัน ประโยชนจากแบบฝก

แบบฝกที่แนะนําไปในหนานี้จะชวยคุณในเรื่องของการใชปค [pick] กีตาร และการควบคุมการดีดของมือขวาของคุณ เพราะถาคุณลองฝกดูแลวคุณจะพบวาแบบฝกนี้ไมงายนัก ถาจะดีดใหมีเสียงที่ Clean หรือ สะอาด เพราะเมื่อเราดีดสายนี้สายนั้นก็จะพลอยดังหรือดันดีดไปเกี่ยวเอาสายอื่นมาดวย แบบฝกนี้ชวยในการวางนิ้วมือซายของคุณ และ จะชวยไดมากกับการจับคอรด ** นี้เปนเพียงประโยชนคราวๆ ที่ผมพอจะมองออกและเขียนได แตมันจะมีประโยชนมากมายขนาดไหนก็ตาม ประโยชนเหลานั้นก็ไมสามารถที่จะเกิดขึ้นได ถาคุณไมนําไปฝกอยางจริงจัง.**


How To Lead จะฝกเลน SOLO ไดอยางไร

นักกีตารหนาใหมหลายทาน มักจะพบทางตันในการฝกเลน SOLO เพราะไมรูจะเริ่มจากตรงไหนดี บางก็สายหนาปฏิเสธการเลน SoLo ไปเลย ในคราวนี้ผมจะมาแนะนําหนทางสูสวรรคใหกับนักกีตารหนาใหมทั้งหลาย ดวยการแนะนําจุดเล็กๆ ในการเริ่มฝก Solo กัน การเลน SOLO คืออะไร

ผมจะขอกลาวขามไปสําหรับความหมายของคําวา "SOLO" เพราะรูสึกผมจะเขียนไวที่หนาอื่นๆแลว แตผมจะขอบอกไปเลยวา...โซโลในความหมายของเราๆทานๆนะคืออะไร. การ SOLO ที่เราเขาใจกันสวนมากก็คือ การเลนกีตารออกมาในแบบ Melody หรือ เลนออกมาในแบบทํานองเพลง ไมใชการเลนออกมาในลักษณะของเสียงประสาน หรือที่เรารูจักกันวาการเลน Chord ฉะนั้น...เอาเปนวาที่เราจะแนะนํากันในณ.ตรงนี้คือการแนะนําการเลน Guitar Melody ก็แลวกัน จะเร่ิมตนอยางไร

ไมยาก...ก็เริ่มตนแตตอนนี้ ตอนที่เรายังมีลมหายใจกันอยู เริ่มโดยการใหคุณเริ่มหัดที่จะ ฮัม...แนวทํานองเพลง เพลงใดก็ไดที่คุณชอบ และแนวทํานองนั้นมันติดอยูในหัวคุณแลว ฮัม...มันออกมาเปนเพลง โดยใชกลองเสียงของคุณนี่หละ พอคุณเริ่มฮัม...มันไดแลว ตอมาคุณก็ลองจับกีตารตัวโปรดของคุณขึ้นมา แลวขั้นตอไปคุณก็ลองไลหาทํานองที่คุณฮัม...มันขึ้นมาในตอนแรก ก็ลองไลหาทํานองมันไปกอนเอาที่ละทอน โดยตอนแรกแนะนําใหยังไมตองไปแครกับระดับเสียงที่เราฮัม...วามันจะเปนโนตตัวเดียวกันหรือเปลา ตอนแรกเราเอาแคทํานองใหถูกพอกอน หรือถายังไมมีเพลงโปรดในหัวใจที่จะฮัม...ก็ลองเอาเพลงที่ผมนํามาลงในหนานี้ไปฮัม..กันดู

หรือถาไมอยากจะเริ่มโดยการ ฮัม...ก็เอาโนตนี้ไปเลนเลย โดยการใชวิธีจําทํานองนี้ใหได เมื่อจําไดแลวก็ลองจับกีตารแลวกดไปตามชองของกีตารและสายกีตารที่เขียนไวใน TAB.

วิธีการอาน TAB เบื้องตน

เสนทั้ง 6 ที่เราเห็นนั้น แทนสายกีตารทั้ง 6 เสน โดยเสนลางสุดจะแทนสายที่ 6 ของกีตาร เรียงลําดับกันขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงสายบนสุดซึ่งแทนสาย 1 ของกีตาร ( 6 5 4 3 2 1 )

ตัวเลขที่อยูบนเสนบรรทัดนั้น แทนตําแหนงในการเลนหรือกด เชน เลข 2 หมายถึง ใหเลนหรือกดสายกีตารเสนนั้นๆลงไปที่ชองหรือเฟร็ทที่ 2 ของ Fingerboard. ***เบื้องตนในการเลนตาม TAB นี้คุณไมตองไปสนใจตัวโนต ใหสนใจแตตัวเลขใน TAB พอกอน*** เอาไวเทานี้กอนสําหรับเบื้องตนบทแรกนี้ ไวคราวหนาวากันอีกที่กับเรื่องนี้


หลังจากที่ตอนกอนเราไดแนะนําวิธีการหัดเลนโซโลหรือการ lead กีตารไปแลวบางสวน หลายคนอาจจะเริ่มเขาใจแลว วาการที่เราจะเลนโซโลไดเราตองฝก ฮัม ทํานองเพลงหรือทํานองของกีตารโซโลเปนกอน เมื่อเราเริ่มฮัมหรือรองทํานองนั้นออกมาได ตอไปเราก็คอยนําเอาทํานองที่เราฮัมไดมาเลนกับสายกีตารของเรา ซึ่งถาเราทําตรงจุดนี้ได ตอไปการเลนsoloก็ไมใชเรื่องยากอะไรอีกตอไปแลว.

ในตอนนี้ผมมีทํานองเพลงของ Metalica มาใหคุณลองฝกฮัมและลองนําไปเลนกันดู ช่ือเพลง The Unforgiven หลายคนคงเคยฟงกันมาบางแลว ผมแนะนําใหคุณคลิ๊ก Play เพื่อฟงทํานองกันกอนๆที่คุณจะขามไปดู TAB ที่ผมนํามาลง...

***อยางไรก็ลองเลนกันดู ย้ําอีกทีตองฮัมและรองทํานองเพลงออกมาใหไดกอนนะครับ***

Streching Lick STRECHING LICK คือ ลูกนิ้วที้ชวยในการฝกการยืดออกของนิ้ว ทําใหมีพ้ืนที่ในการเลนบนฟงเกอร

บอรดของกีตารไดมากขึ้น ในเบื้องตนนี้เราคงจะตองมาฝกลูกนิ้วในแบบพื้นฐานกันเสียกอนๆ ที่เเราจะไปเลนlickจริงๆ ในบท

ตอๆไป ลูกนิ้วพ้ืนฐานก็คงหนีไมพนเรื่องของการฝกในแบบ" โครมาติกส" ในหนานี้ผมมีมาใหคุณ 2 แบบ ดังนี้ Ex.1

ใน ex.1นี้เปนการเลนในแบบเรียงนิ้วไปที่ละนิ้ว เริ่มตั้งแตนิ้วช้ีไปจนถึงนิ้วกอยของมือซาย และผม

แนะนําใหเลนในตําแหนงที่ 1 (position one) ครับ แตถาผูฝกใหมยังเลนในตําแหนงนี้ไมได ก็อนุญาตใหเปลี่ยนไปเลนในตําแหนงอื่นๆ ที่มีชอง fretไมหางกันก็ไดครับ


Ex.2

ใน ex.2 นี้ก็คลายๆ กับแบบฝกแรก เพียงแตยากขึ้นมานิดตรงที่ตองเลนสลับนิ้วครับ. ***ทั้งหมดนี้ก็ลองฝกกันดู การเลนในแบบนี้มีประโยชนอยางมากในการเลนกีตารเราทุกกวันนี้ โดยเฉพาะการเลนในระบบ Three per string ครับ***

หางหายไปสําหรับแบบฝกสําหรับการฝกยืดนิ้ว ก็อยางที่รูกัน เราทํางานกันแบบคอยเปนคอยไป สะสมทีละเล็กละนอย ที่ละ lick สอง lick ฝกไปฝกมา อาว !!! เกงเสียแลว เขาเรียกวา เกงแบบไมรูตัว ...5555 มาดูแบบฝกในแบบ Streching Lick กันตอเลยดีกวา Ex.1

ใน ex.1 เปนลักษณะการเลนคลาย ๆ ในแบบ Chromatic Exercise แตเปนการเลนในแบบ 2 สาย คูกัน

ไป ลองนําไปปรับเปลี่ยนเลนกับสายคูอื่น ๆ นอกเหนือจากแบบฝกนี้ดวย เชน ในแบบฝกเราเลนเปน สาย 1 กับ สาย 2 เราลองเปลี่ยนไปเลนเปน สาย 2 กับ สาย 3 ก็ได โดยใชนิ้วแบบเดียวกัน ลองฝกกันดูนะครับ Ex.2

ใน ex.2 นี้เปนการเลนเสกล G Major (1 Sharp) กับการเลนในแบบ Three Per String หรือในการเลน

แบบ 3 โนต ตอ 1 สาย ซึ่งการเลนในแบบ Three Per String นี้ตองอาศัยการเลนในแบบ Streching เลนเปนอยางมาก ลองฝกกันดู และลองนําไปเคลื่อนยายบน Finger Board เพื่อเปลี่ยน key ในเสกลอื่น ๆ ดวย ลองนําไปเปนแนวทางการฝกกันนะครับ ครั้งหนาพบกันใหมครับ


Finger Style (เลนในแบบเกาสาย) เห็นมีหลายทานสอบถามกันเขามาวา ถาอยากจะเลนกีตารแบบ "เกา" จะตองฝกอยางไรบาง ตอนแรก ๆ

ผมก็ออกตัวไปวาผมคนกีตารไฟฟา คงไมสันทัดนักกับการเลนกีตารดวยนิ้วมือขวานี้ เพราะคนกีตารไฟฟาจะหนักไปในการฝกเลน pick เสียมากกวาครับ แตก็ใชาวาผมจะเลนไมไดเสียเลยทีเดียว ก็เคยฝกมาบาง สมัยหัดเลนใหม ๆ ครบ เคยไปลงเรียนกีตารคลาสสิคอยูพักนึง เลยพอจะมองเห็นแนวทางการเขียนอธิบายการฝกแบบเกากีตารนี้ไดบาง แตก็ขอออกตัวกอนนะครับวาผมไมไดลึกมากทางนี้ครับ

กอนจะมาทําความเขาใจในการเลนกีตารแบบ "เกา" นี้ ผมขอทําความเขาใจเกี่ยวกับคําวา Finger Style นี้กอนครับ >>>

Finger Style :: สาํหรับผม หมายถึงการเลนกีตารในแบบใชนิ้วในการเลน(มือขางที่เลนนะ ไมใชมือขางที่จับคอรด) ทั้งหมด แตไมใชการเลนในแบบ Guitar Classic นะครับ เพราะการเลนในแบบคลาสสิคนั้น จะมีกฏการวางมือที่ตางออกไป ย้ํานะครับวานี้คือความหมายของผม ผูที่เปนเซียนทางดาน Finger Style อาจจะไมเห็นดวยกับผมก็ได...เมื่อเขาใจแลวก็เริ่มมาลุยกันกับบทความแรกเลยครับ >>> Basic

กอนที่จะวาดวยเรื่องของการฝกหรือการเลน เราควรจะมาทําความเขาใจในสัญลักษณของการสื่อสารกันนิดครับ สัญลักษณของมือขวา (มือที่ใชเลนกีตาร) p = นิ้วโปง - i = นิ้วช้ี - m = นิ้วกลาง - a = นิ้วนาง สัญลักษณของมือซาย 1 = นิ้วช้ี - 2 = นิ้วกลาง - 3 = นิ้วนาง - 4 = นิ้วกอย

รูปแสดงนิ้วมือ และ สัญลักษณที่ใชแทนนิ้ว

มือซาย มือขวา

เมื่อเราทราบอักษรที่จะมาใชแทนนิ้วมือตาง ๆ แลว ตอมาก็มาทราบถึงตําแหนงของนิ้วมือเหลานั้นกัน ดังนี้ >>> มือขวา >>> นิ้วหัวแมมือหรือนิ้งโปง ( p ) จะประจําตําแหนงที่สายเบส คือ สายที่ 6 - 5 และ 4 นิ้วช้ี ( i ) จะประจําตําแหนงการเลนที่สาย 3 นิ้วกลาง( m ) จะประจําตําแหนงการเลนที่สาย 2 นิ้วช้ี ( a ) จะประจําตําแหนงการเลนที่สาย 1 มือซาย >>> โดยตามปรกติจะเลนเปนเฟร็ทละ 1 นิ้ว เชน นิ้ง 1 เลนที่เฟร็ที่ 1 นิ้วที่ 2 เลนที่เฟร็ทที่ 3 นิ้วที่ 4 เลนเฟร็ทที่ 4 เปน


ตน (เฟร็ทหรือชองตามฟงเกอรบอรด)

คําวาประจําตําแหนงในที่นี้ไมไดหมายความวา เราตองใชนิ้วนั้นเลนที่สายนั้น ๆ เปนกฏตายตัวนะครับ เพียงแตเบื้องตนนี้ใหเราฝกตามนี้ครับ เพราะจะทําใหเรามีพ้ืนที่ดีในการใชนิ้วตาง ๆ สําหรับมือของเราครับ สัญลักษณเหลานี้เปนมาตราฐานครับ ในทางกีตารคลาสสิคก็ใชเชนเดียวกันนี้

ครั้งนี้ขอเกริ่นนําเพียงหลักการใชนิ้วและสัญลักษณของนิ้วไวกอนครับ คราวหนาจะเปนแบบฝกครับ...ไมนานเกินรอนะ

ครั้งกอนไดทําการอธิบายในเรื่องของสัญลักษณตาง ๆ ที่เราจะใชสื่อสารกันในการเลนแบบเกาสาย หรือ Finger Style นี้ หวังวาคงจะจํากันไดนะครับวาสัญลักษณใดหมายถึงอะไรครับ ถาจําไมไดก็กลับไปอานไดครับอยูในเนื้อหา ตอนที่ 1 ครับ คราวนี้ก็มาถึงเรื่องของแบบฝกตาง ๆ กันครับ ซึ่งแบบฝกที่จะนําเสนอในคราวนี้มีอยู 3 แบบฝกครับ เปนแบบฝกที่ไมยาก แตเราตองฝกใหได เพราะจะเปนพื้นฐานที่ดีในการใชนิ้วมือขวาของเราเลนกับสายกีตารทั้ง 6 ครับ ก็ลองมาดูตามไปนะครับ โดยเริ่มจากงาย ๆ Basic ๆ กอนครับ >>> Fig. 1

ใน Fig.1 นี้เปนแบบฝกเบื้องตนใหเราใชนิ้วมือขางที่เลนกีตาร (โดยปรกติทั่วไปก็จะเปนนิ้วมือขวาครับ) โดยใหเราทําการใชนิ้วตามที่เขียนบอกมาใน TAB นี้เปนหลักในการฝกครับ โดยหลักก็คือ ใหเราใชนิ้วโปง หรือ นิ้วหัวแมมือของเราเลนที่สาย Bass คือ สายที่ 6 - 5 - 4 ของกีตารครับสวนในนิ้วอื่น ๆ ก็อยางที่อธิบายไปในตอนที่ 1 นะครับโดยที่ใน Fig.1 นี้ยังไมมีในสวนของการจับ Chord เขามาเกี่ยวของครับ Fig. 2

Fig.2 นี้เปนการฝกเลนคลาย ๆ แบบ Fig.1 ครับ แตใน Fig.2 นี้จะมีการเลนคอรดรวมดวยครับ สังเกตดูวา เมื่อเราเลนคอรดไหน นิ้วโปงของเราก็จะเลน Root ที่คอรดนั้น เชน ใน Bar แรกเปนคอรด C เราก็ใชนิ้วโปงเลนที่โนต C ของสายที่ 5 ครับ ซึ่งการเลนในลักษณนี้เปนการเลนมาตราฐานในการเลนแบบเกาสายที่นิยมใชกันโดยทั่วไปครับ


Fig.3

Fig.3 นี้เปนการเลนที่เปน Pattern มากขึ้นมาครับ คือจะเปนลักษณที่เปนแบบแผนเขามา ซึ่งแบบแผนของ Fig.3 นี้ก็คือ เลนสาย Bass 1 ครั้ง จากนั้นมาเลนที่สาย 3 สาย 2 สาย 3 แลวไปเลนที่สาย 1 กลับมาสาย 3 ไปสาย 2 และมาที่ 3 อีกครั้ง เปนแแบนี้ไปกับการเลนในทุก ๆ คอรดครับ ซึ่ง pattern นี้เปนที่นิยมเลนกันทั่วไปครับ คุณอาจจะเคยฟงหรือเคยเห็นเพลงที่เลน pattern แบบนี้กันมาบางแลว ** แบบฝกทั้งหมดนี้ใหคุณสังเกตการใชนิ้วมือขวาในการเลนดวยนะครับ วาเขามีหลักการวางนิ้วใชนิ้วงอยางไรกับ pattern ที่นํามาลงใหดูเปนตัวอยางครับ พบกันใหมคราวหนาครับ***

Five Form Scale ตามปรกติแลว Form ของสเกลที่เราใชกันโดยทั่วๆไปบนคอกีตารก็จะมีอยูทั้งหมด 5 แบบ ทั้งสเกลทาง

Major และ Minor สําหรับของ Major Scale แลวก็จะมีดังนี้...


**อันนี้มีประโยชนมากนะ ควร Save เก็บไวดูแลวฝกไลสเกลตาม Form ทั้ง 5 นี้** ตามปรกติแลว Form ของสเกลที่เราใชกันโดยทั่วๆไปบนคอกีตารก็จะมีอยูทั้งหมด 5 แบบ ทั้งสเกลทาง Major และ Minor สําหรับของ Minor Scale แลวก็จะมีดังนี้...

**อันนี้มีประโยชนมากนะ ควร Save เก็บไวดูแลวฝกไลสเกลตาม Form ทั้ง 5 นี้**

เร่ิมตนแกะ Solo Guitar จริง ๆ แลวเรื่องนี้ผมไมอยากเขียนสักเทาไหรครับ เพราะกลัวเขียนไปแลวผูอานจะไมรูเรื่องและไม

เขาใจ เรื่องของการแกะเพลงเนี้ย มันเปนเรื่องของการฟงครับ แลวการฟงมันเปนนามธรรมจับตองไมได ฉะนั้น...การที่เราตองมานั่งเขียนเรื่องของนามธรรมจึงเปนเรื่องยากพอตัวทีเดียว เอาเปนวาจะเขียนพอเปนแนวทาง และพยายามจะเขียนอธิบายวิธีการที่คิดแลววา...คุณทําได (ถาพยายามดวยนะ) และก็ขอออกตัวนิดวา ผมไมไดเปนเซียนแกะเพลงเทาไหรนะครับ... เร่ิมตน...>>>

เริ่มจากการหยิบเพลงที่เราชื่นชอบมากอนเปนอันดับแรก แตการเลือกควรเลือกที่เราคิดวาเราแกะไดทําได และที่สําคัญเลือกที่เราจําทํานองเพลงนั้น ๆ ไดอยางขึ้นใจมาทาํการแกะ ขั้นที่สอง...>>>

ฟง แลวก็ฟง และก็ฟง อยางเดียว ฟงใหทอนเพลงที่เราจะแกะขึ้นใจ (ฟงทอนนั้นทอนเดียว) สมมุติวาเราจะแกะทอน Solo Guitar เราก็ฟงทอนนี้ทอนเดียว ฟงกลับไปกลับมา พอฟงเขาใจในทํานองทอนนั้น ๆ แลว ตอไปก็เริ่มทําการ ฮัม ทํานองนั้น ๆ ตาม จะฮัมออกเสียง หรือจะฮัมในใจก็ได


ขั้นที่สาม...>>> จัดการตั้งสายกีตารของคุณใหเขากับมาตรฐานในเพลงนั้น ผมใชคําวามาตรฐานในเพลงนะครับ ไมใช

มาตรฐานที่เราต้ังกันทั่วไป ดวยเหตุที่วา ปจจุบันบทเพลงตาง ๆ มีการต้ังสายกีตารที่เปลี่ยนแปลงไปแลวแตบทเพลง แตรอยละ 80 - 90 ก็จะตั้งสายแบบปรกติครับ คือ สาย 6 - E, 5 - A , 4 - D.......... เปนตน เรื่องการตั้งสายกีตารใครที่มีเครื่องตั้งสายคงไมยากเทาไหรนะครับ การที่ตองตั้งสายกอนก็เพื่อวาเราจะไดหาโนตตาง ๆ ไดถูกตองและงายขึ้น ขั้นที่สี่...>>>

พอฮัมไดแลว จําทํานองขึ้นใจแลว การจําทํานองนี้หมายความวา ใหเราจําทํานองของเครื่องดนตรีช้ินนั้น ๆ ที่เราจะทําการแกะ เชน เราจะแกะ Guitar Solo เราก็ตองจําทํานองของกีตารโซโลในทอนนั้นใหไดอยางขึ้นใจ ตอมาก็เริ่มจับอุปการณเครื่องดนตรีขึ้นมา แลวทําการหาเสียงโนตที่เราจําไดแลว วิธีการหาเสียงโนต....... ใหเราหาเสียงโนตที่คางยาวที่สุดของทอนเพลงนั้น ๆ เปนเบื้องแรกกอน หาแคโนตเดียวกอน การหาโดยการหาไปเทียบเสียงกับเทป หรือ CD หรือวัตถุบันทึกเสียงอะไรก็ตามสะดวกครับ เมื่อหาโนตที่มีเสียงยาวที่สุดในทอนนั้นไดแลว ตอมาก็เริ่มหาโนตที่เปนทํานอง ซึ่งตอเนื่องกับโนตตัวที่เราหาไดตอไป..... ทําอยางนี้ไปเรื่อย ๆ จนจบทอนนั้น ๆ ครับ การบาน...>>> ใหผูที่สนใจในบทความนี้ หาเพลงที่ช่ือวา "เลาสูกันฟง" ของ...ไมตองบอกนะครับ หามาฟงกันนะ เอาทอน Intro อยางเดียวเลย ตรงที่เปนเสียง Guitar Solo นะครับ ฟงใหขึ้นใจ และใหจําทํานองกีตารโซโลใหได แลวกลับมาอานบทความในภาคปฏิบัติกันครับ ผมจะยกเอาการแกะทอน Intro ของเพลง ๆ นี้มาเปนตัวอยาง เพราะไมยากนักสําหรับมือใหม (ย้ําวาสําหรับมือใหมนะ) อีกไมนานเกินรอ ** นี่เปนเพียงทฤษฎีในการแกะเพลงเทานั้นครับ บทหนาผมจะลองนําเสนอวิธีการปฏิบัติใหชมครับ **

คราวนี้เรามาวาถึงการปฏิบัติกัน หวังวาจากบทความที่แลวทุกคนคงเขาใจในแนวทางการแกะเพลงขึ้นมาบางนะครับ และก็หวังวาการบานที่ผมแนะนําไป ที่ใหไปฟงเพลง "เลาสูกันฟง" ทอง Intro กันนั้น ทุกคนก็คงจะไปฟงกันมา และก็คงจะจําทํานองของ Guitar Solo กันไดแลว ถายังจําไมไดก็ Click เปดฟงไดที่ Control ดางลางนี้นะครับ ซึ่งจะมีเฉพาะเสียงกีตารโซโลที่เราจะสาธิตการแกะเทานั้นครับ เร่ิมแกะ...>>>

ใหทําการตั้งสายกีตารเปนแบบมาตราฐาน คือ สาย 6 เสียง E สาย 5 เสียง A สาย 4 เสียง D สาย 3 เสียง G สาย 2 เสียง B และสาย 1 เสียง E แตแนะนิดวาควรตั้งสายกับเครื่องตั้งสายจะดีกวาครับ ขั้นที่สอง...>>>

จากในภาคที่แลวคือภาคของทฤษฎี เราไดบอกไววาใหเราฟงและฮัมทํานองใหไดกอน จากนั้นใหเราหาโนตที่เสียงคางยาวที่สุดกอน มาในภาคปฏิบัตินี้ เรานําเพลง เลาสูกันฟง ทอน Intro มาเปนตัวอยาง เราจะไดทําการอธิบายวิธใีนสวนนี้ใหไดเขาใจกันดังนี้ เมื่อเราไดฟงและพอจําทํานองของกีตารโซโลของเพลงนี้ไดแลว ตอมาก็ใหเราฟงทอนกีตารโซโลเหมือนเคยอีก แตคราวนี้ใหเราฟงทํานอง แลวใหเราแยกทํานองออกเปนวลี หรือเปนประโยค ๆ ออกมา โดยทํานองของ Guitar Solo เพลงหนึ่ง ๆ จะประกอบดวยประโยค หรือวลีของทํานองเปนหลาย ๆ สวน สําหรับใน


เพลงนี้แบงไดเปน 3 ประโยค หรือวลี ประโยคหรือวลีตาง ๆ 1. ทํานองประโยคแรกของ Guitar Solo เพลง เลาสูกันฟง 2. ทํานองประโยคที่สอง 3. ทํานองประโยคที่สาม ขั้นที่สาม...>>>

เมื่อไดแบงประโยคของทํานองออกไดแลว ตอไปก็เริ่มทําการแกะจริง ๆ จัง ๆ เสียที โดยใหเราฟงและหาโนตเสียงที่คางยาวที่สุดของประโยค ๆ นั้น ๆ กับเครื่องมือของเรานั่นคือ Guitar ในประโยคแรก เสียงที่คางยาวที่สุด หรือก็คือเสียงของโนตสุดทายของประโยคแรกนั่นเอง ลองหาโดยไลหาวาเสียงโนตนี้อยูที่ตําแหนงใด เฟร็ทใด สายใด ของสายกีตาร โดยหาไปเทียบเสียงกับโนตนี้ไปจนกวาจะเจอ ถาเราคิดวาหาเจอแลวก็ลองดีดโนตนั้นไปพรอม ๆ กับเสียงที่ไดยินจากเทป ถาคุณฟงแลวมันเขากันเปนเสียงเดียวกัน นั่นก็แสดงวา OK คุณหาเจอแลว แตถาคุณฟงวาเสียงเขากัน เสียงเดียวกันไมออกหรือฟงไมเปน ตรงนี้ก็เริ่มยากแลวในขั้นนี้ แตถาฟงไมออกจริง ๆ ผมจะเฉลยให ใหคุณลองเปดฟงโนตนี้ใหม แลวใหคุณกดลงไปที่สายที่ 1 บนเฟร็ท(หรือชอง)ที่ 10 ของกีตารของคุณ แลวลองฟงดูวาใชโนตที่คางยาวที่ผมวาไหม ถาคุณวาไมใช นั้นอาจจะเปนไปไดวา คุณฟงไมออก หรืออาจจะเปนไปไดวาคุณยังไมไดต้ังสายกีตารในขั้นตอนแรก ครับ ขั้นที่สี่...>>>

เมื่อคุณหาโนตที่คางยาวในประโยคนั้น ๆ ไดแลว ตอไปก็ใหฟงแลวทําการหาโนตอื่น ๆ ที่นํามาประกอบเปนทํานองตอไป โดยการนําเอาทํานองที่คุณไดยินอยูในหัวคุณนะแหละทําการหา และทําการเทียบเสียงวาใชหรือไมแบบการหาโนตคางยาวนั่นแหละ ลองทํากันดู โดยแบงการแกะออกเปนประโยค ๆ ไป จะทําใหงายขึ้น วันนี้อาจไดประโยคเดียว พรุนนี้แกะตอไปทําไปเรื่อย ๆ ครับ สักพักก็ไดทั้งเพลง...ตรงนี้ผมจนดวยปญญาจะแนะนําเปนตัวอักษรครับ... THE END...>>>

บทสรุปคือ...ถาคุณยังทําไมไดใหระลึกประโยคดังตอไปนี้ไวแลวคุณจะทําไดแนนอน... "หนูทําได เราทําได ผมทําได ฉันทําได และ Guทําได" ** หวังวา 2 บทความนี้ทั้งภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติ คงจะเปนแนวทางใหแกทุกทานที่ยังไมเขาใจในการแกะ Solo Guitar นะครับ**

นี้เปนบทความประเภทเชิงกึ่ง Workshop บทความแรกที่ผมคิดขึ้นมาเพื่อจะสอนดนตรีใหคุณ ๆ ไดเขาใจและทําไดมากที่สุด โดยใชทรัพยากรที่มีอยูอยางจํากัด ถาคุณผูอานเขาใจหรือไมเขาใจอยางไรชวยแสดงความคิดเห็นทีนะครับ เพราะเราจะไดตัดสินใจไดวา การนําเสนอและการสอนในแบบนี้ คุณเขาใจและสามารถนําไปปฏิบัติไดจริง เราจะไดพยายามทําเนื้อหาแนวนี้ออกมาอยางสม่ําเสมอ เพื่อผลประโยชนของผูที่รักการเรียนรูดนตรี และผูติดตาม kitatann

ใหคุณจํารูปรางหนาตาของฟอรมใหได โดยวิธีจําคือ...จําใหไดวาตําแหนงนี้กับตําแหนงอื่นๆหางกันกี่Fret กีตาร หรือจําใหไดวามันหางกันกี่ชอง จําโนตRoot ของฟอรมนั้นๆวามันประจําอยูบนตําแหนงไหนของสายกีตารที่เทาไหร การเคลื่อนยายฟอรมเพื่อไปเลนในคียหรือตําแหนงอื่น ใหเคลื่อนยายไปทั้งฟอรม ช่ือคีย(Key) จะเปลี่ยนไปตามโนตรูท(root)นั้นๆ


*** โนต root คือ โนตหลักในคีย เชน คีย C จะมีโนตรูทเปนโนต C เปนตน.*** [ ตัวอยางการอานฟอรม ]

ดูรูปใน C Major Scale ฟอรมนี้เปนฟอรมที่ 1 (I) สังเกตโนตที่เขียนอยูบนสายกีตารในแตละเสนจะเปน โนตในสเกล C Major ทั้งหมด (ไมมี # & b ) โดยในสเกลC นี่เรานําฟอรมที่ 1 มาเลนใน Position ที่ 2 และโนตรูทอยูบนสายที่ 5 ของกีตารในเฟร็ทที่ 3 สวนโนตนอกนั้นใหเราเลนไปตามรูปแบบฟอรม โดยไมจําเปนตองดูโนตตัวอื่นวาเปนโนตอะไรก็ได แตขอใหเลนใหถูกฟอรมของมัน คือ ตองเลนตามตําแหนงของรูปแบบฟอรมที่กําหนดมา เชน จากโนตrootไปโนตที่ 2 หางกัน 1ชองกีตารหรือ 1 เฟร็ทกีตาร ตาม

แบบฟอรมที่กําหนดมา เราก็ตองเลนโนตที่2นี้ใหหางจากโนตรูท 1เฟร็ทหรือ 1ชองกีตารเชนเดียวกับที่กําหนดมา ลองดูการยายคียจากรูปสเกล D major ซึ่งใชฟอรมที่ 1 เชนเดียวกันกับ C Major ที่ยกตัวอยางมาแลว แตสําหรับคีย D นี้ โนตรูทมันอยูที่เฟร็ทที่ 5 บนสายที่ 5 ของกีตาร ฉะนั้นเราตองเลื่อนฟอรมมาเลนใน Position ที่ 5 แทน สวนโนตอื่นที่ตามมาก็เลนไปตามฟอรมที่กําหนดมา และเราจะสังเกตเห็นไดวา โนตตางๆที่เราเลนออกมา ถาเราเลนถูกแบบฟอรม โนตตางๆมันจะเปนไปตามคียนั้นๆเอง โดยที่เราไมจําเปนที่ราจะตองรูโนตทุกตัวที่เราเลนก็ได (สังเกตโนตในรูป D major Scale จะเห็นไดวามันมี 2 ชารป (#) ตามสเกล D Major )

วิธีการอานแบบฟอรมนี้คุณสามารถนําเอาไปใชอานฟอรมตางๆก็ได เชน ฟอรม Chord เปนตน. ** ลองสังเกตดูรูปแบบของทางเดินโนต และ นิ้ว ของทั้ง 2 ตัวอยาง เราจะพบวามันมีหนาตาเหมือนกัน เพียงแตตางที่ตําแหนงบนคอกีตารเทานั้น **


*** มีประโยชนมาก นาเก็บไวดูนะ ***

ศัพทกีตารนารู เห็นหลายทานมาPostไวที่ GustBookของเราวา...อยากจะใหมีศัพททางดนตรี/กีตารไวๆ ผมก็เลยเรงทําให อาจจะรวบรวมมาไวไดไมมากเทาไหรนะครับในตอนแรกนี้ เอาไวสัญญาวาจะupDateเพิ่งเติมศัพทใหเรื่อยๆครับ ตอนแรกนี้ก็ขอเริ่มจากศัพทของคนเลนกีตารกันกอน สวนศัพทดนตรีทั่วไปเอาไวทีหลังนะครับ...

ศัพท ความหมาย

Ad Lib การคิดขึ้นมาสดๆ แบบเดียวกับการเลนอิมโพรไวส

ALTERNATE PICKING การเลนปคในแบบสลับขึ้น-ลง ARTIFICIAL HARMONIC การเลนในแบบกัดปค BEND การดันสายกีตาร

CHORD โนตที่เปลงเสียงออกมาพรอมกันตั้งแต 3 โนตขึ้นไป

EAR TRAINING การฝกหู

GHOST NOTE โนตที่มากอนโนตจริง

HAMMER ON การเลนตบสายกีตาร IMPROVISATION การเลนโดยการคิดทํานองขึ้นมาสดๆ

MUTE เลนเสียงนั้นใหบอดโดยการวางสันมือซายลงไปเพื่อคุมเสียง


PULL OFF การเลนเกี่ยวสายกีตาร PICKING PICK SCRAPES การใชปคกีตารครูดสาย OPEN HAMONIC การเลนฮาโมนิคสายเปด

SWEEP PICKING การเลนปดไปในทิศทางเดียวกัน

SOLO การเลนเดี่ยว SLIDE การเลนรูดสาย VIBRATO การเลนสั่นสาย TAPLATURE สัญลักษณแทนสายกีตาร TAPPING การเลนจิ้มสายกีตาร

TRILL การใชHammer OnสลับกับPull Offโดยเลนสลับกันอยางรวดเร็ว

***บางความหมายผมเขียนขึ้นมาเอง จากวิธีการเลนของศัพทนั้นๆ ผูรูทานใดเห็นวาผมใหความหมายผิด ก็กรุณาทวงติงมาได...***

Note in Major Scale

วิธีใช ตัวเลข หมายถึง ลําดับNoteในสเกล ตัวอักษรในแนวตั้ง หมายถึง Note.ในสเกลของคียนั้นๆ


Techniques (ลูกเลนตางๆ) เราไดเรียนรูเรื่องพื้นฐานทางดานการเลนกีตารไปแลว 2 เรื่อง คือ Hammer On & Pull Off มาในบทนี้

เราขอเสนอเรื่องเทคนิคการเลนกีตารอีก 2 รูปแบบ คือ การดันสาย และ การสไลด [ Bend & Slide ] BEND BEND หรือ เทคนิคการดันสาย

เปนเทคนิคที่นิยมใชกันมาก กับนักกีตารทั่วๆไป วากันที่จริงแลวเทคนิคนี้เกิดขึ้นมาเพื่อ การเชื่อมโยงเสียงโนตที่ตองการ2เสียงเขาดวยกัน โดยมือกีตารตองการเชื่อมโยงNote 2เสียงนั้น ดวยเอกลักษณของเครื่องดนตรีที่ตนเลนอยู และการเชื่อมโยงเสียงสองเสียงนั้นก็เปนเอกลักษณของเครื่องดนตรีที่เปนเครื่องสายเทานั้น เราจะไมพบเสียงของการเชื่อมโยงโนน2เสียงแบบนี้จากเครื่องดนตรีประเภทอื่นๆ.

วิธีการดันสายและสัญลักษณ สัญลักษณที่ใชใหเรารูวานี้เปนการเลนในแบบดันสายก็คือ สัญลักษณ "ลูกศร" สวนคําวา Full และตัวเลขตางๆที่เห็น มีความหมายดังนี้. Full = ดันสายขึ้น 1 เสียงเต็ม. 1/2 = ดันสายขึ้น 1/2เสียง หรือ 1semitone 1 1/2 = ดันสายขึ้นหนึ่งเสียงครึ่ง.

แตถาทานไปเจอตัวเลขที่แตกตางไปจากตัวอยางนี้ ก็ขอใหทานจําไววา...มันมีหลักการแบบเดียวกัน.

สัญลักษณตอไปของการดันสายก็คือ สัญลักษณการผอนกลับของเสียง โดยเราใชสัณลักษณ ลูกศร เชนเดียวกัน แตเปนลูกศรช้ีลง.วิธีการคือ...เมื่อเราดันสายใหเสียงสูงขึ้นไป ตอมาเราก็คอยๆผอนเสียงนั้นลงมากลับมาที่เสียงเดิมของโนตนั้นๆ ***ถาทานอยากมีสําเนียงการดันสายที่เยี่ยมยอดละกอ...ขอแนะนําใหทานฟงผลงานของมือกีตารในแนวบูลสตางๆดู*** SLIDE Slide หรือ เทคนิคการรูดสาย

เทคนิคงายๆที่นักกีตารนิยมใช และมีเสนหอยูในตัว โดยเฉพาะเมื่อเรานํามาเลนในบทเพลงหวานๆกินใจแลวละก็..เทคนิคนี้ชวยในการเรียกอารมณไดพอดูเลยทีเดียว วิธีการเลนและสัญลักษณ

คําวา SL.นี้คือคํายอของเทคนิคSlide และสัญลักษณที่ใชในการแทนการเลนเทคนิคนี้ก็คือ เสนเฉียงๆที่ทานเห็น.


Slideก็มีอยู 2 แบบคือ การสไลดจากเสียงโนตตํ่าไปหาเสียงโนตที่สูงขึ้น กับ การสไลดจากเสียงโนตที่สูงสไลดไปหาโนตเสียงที่ตํ่ากวา.

ลองหาแบบฝกกันดูกับเทคนิคตางๆเหลานี้ หรือไมก็รอที่webนี้สักพักเราทําแน แตตอนนี้อยากปูพ้ืนฐานของเทคนิคตางใหแนนเสียกอน .

กอนที่เราจะเรียนรูเรื่องเทคนิคหรือลูกเลนกีตารที่หวือหวากัน เราควรที่จะเลนหรือเขาใจกับศัพทเทคนิดทางการเลนกีตารกันเสียกอน ก็มาเริ่มกันเลย กับลูกเลนกีตารแบบงายๆ ที่มือกีตารทุกคนบนพื้นพิภพนี้ตองเลนได ไมวาจะ สตีฟ วาย จิมมี่ เฮนดริกส ตองเลนทั้งนั้น นั่นก็คือ...สองลูกนิ้วเด็ด Hammer On & Pull Off. Hammer On

ถาเราเรียกกันแบบมือกีตารลูกทุงๆหนอย เขาก็จะเรียกเทคนิคอันนี้วา"เทคนคิการตบสาย" แตนี้เราเรียกกันแบบIT ก็เรียกวาเทคนิคHemmer onกันไปเลยจะดีกวา ดูวิธีเลนไดจาก TAB กีตารขางลางนี้

อักษร H แทนการเลนในแบบ Hammer on Pull Off

เทคนิคPull offคอืการเลนในแบบเกี่ยวสาย โดยจะเปนการเกี่ยวสายจากเสียงที่สูงกวาปลอยมาสูเสียงที่ตํ่ากวา คุณลองเลนดูจากTABแบบฝกขางลางนี้...

อักษร P แทนเทคนิค Pull off . ***หมายเหตุ...ถาคุณอยากมีฟอรมนิ้วการเลนกีตารที่สวยงาม แนะนําใหคุณพยายามเลนลูกนิ้วเหลานี้ โดยการใชนิ้วมือซายในการเลนตามที่ระบุไวใน TAB ดวย***

Arpeggio (การเลนในแบบกระจายคอรด) คือการนําเอาโนตในคอรดออกมาเลนเปนMelody

ในหนานี้เราจะมาเรียนรูเรื่องการนําเอาNoteในChordออกมาเลนเปนทํานองกัน หรือที่เราเรียกกันวา อะเปจิโอ ในเบื้องแรกนี้เราตองมาดูแนวความคิดพื้นฐานในเรื่องนี้กันกอน คือ การเลนArpeggioนี้ มันก็ไมไดซับซอนอะไรมากมาย ถาคุณเขาใจในเรื่องการสราง Chordมาแลว ถายังก็กรุณาไปที่หนาTheory ของเว็บนี้นะครับมีใหศึกษากัน ตอนนี้ก็จะมาถึงเรื่องของการปฏิบัติ มาดูกันในFig.แรก.


FIG.1

เปนการกระจายคอรดใน C Major Triad chord ซึ่งประกอบดวยโนต- C-E-G.(ใหคุณสังเกตดูวา...ใน

โนตที่ปรากฏบนStaffจะมีแคเพียงโนต 3 ตัวนี้เทานั้น) FIG.2

นี่ก็เปนการArpeggioใน C Major เชนเดียวกัน แตคนละ Form ลองสังเกตที่noteดู. ** นี้เปนพื้นฐานการเลนในแบบ ARPEGGIO ที่ผูรักการเลนดนตรีควรจะรู บทหนาเราจะมารูจักการเลนArpeggioในรูปแบบตางๆกัน ** ไดกลาวถึงในหลักการคราวๆ ของการคิดลูกเลนในแบบ "กระจายคอรด" (Arpeggio) ไปแลวในตอนกอน มาในตอนนี้ จึงเปนการนําเอาหลักการที่ไดมาลองเลนดูบนคอกีตาร จากตัวอยางดังตอไปนี้... Ex.1

เปนการกระจายคอรดในคอรด C ซึ่งประกอบไปดวยโนต C-E-G ดังในโนตนี้ ใหเราสังเกตตําแหนง

ของ Form นิ้วในการเลน วา...เลนอยางไร


Ex.2

เปนการกระจายคอรดในคอรด D ซึ่งประกอบไปดวยโนต D-F#-A ดังในโนตนี้ ใหเราสังเกตตําแหนง

ของ Form นิ้วในการเลน เราจะสังเกตเห็นไดวา...นิ้วและ Form ที่ใชในการเลนนั้น มีความเหมือนกันกับใน การกระจายคอรด C ใน Ex.1 เพียงแตในคอรด D นี้ มันมีการยายตําแหนง {Position} ในการเลนมาอยูที่ Fig.4 แทน Fig.2 และการเลนในแบบนี้นี่แหละที่เราเรียกกันวาการเลนในแบบ "BOX" ที่เรียกกันเชนนี้ก็เพราะ...นิ้วเราถูก Block ไวในฟอรมที่เหมือนกัน แตแตกตางกันเพียงตําแหนงในการเลนเทานั้นเอง ***ใหคุณลองยายตําแหนงไปเลนในตําแหนงอื่นดู แลวสังเกตดูที่โนตบนเสนที่ 5 สําหรับฟอรมนี้ เพราะโนตบนสายที่ 5 บอกถึง ช่ือของคอรด+คียที่เราเลนอยู*** Ex.3

นี้ก็เปนอีกหหนึ่งฟอรม ในตัวอยางเปน คีย G.ใหคุณสังเกตตําแหนงนิ้วและฟอรม แลวพยายามยายมัน

ไปเลนในตําแหนงอื่นดวย... หางหายไปนานสําหรับตอนตอมาของการเลนในแบบกระจายคอรด ผมไมขอแกตัวอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะคงทราบกันดีอยูแลวนะครับ วาเว็บนี้ผมทําอยูคนเดียวจริง ๆ ทั้งการออกแบบ การเขียนโปรแกรม การเขียนเนื้อหา การทําบทความ ฉะนั้น..ความชาจึงตามมา มาคราวนี้ก็เปนการนําเอาเรื่องของการเลนในแบบกระจายคอรดตอนที่ 3 มาเลาสูกันครับ ไปดูกันครับ Ex.1

ใน Ex.1 เปนการเลนในแบบฟอรมที่นักกีตารมักจะนําเอามาเลนกัน ซึ่งมีการเลนตัวโนตในคอรตอไปนี้ >>>


Am -> A - C - E Em7 -> E - G - B - D Dm7 -> D - F - A - C เราจะพบแบบฟอรมของการเลนกระจายคอรดในแบบนี้ไดกับบทเพลงของมือกีตารฮีโรทั้งหลายบอยมาก เชน เพลงของ Yngwie หรือของ Vinnie Moore เปนตน ลองเลนกันดูนะครับ และที่อยากใหสังเกตคือ ตัวโนตกับคอรดที่เลนไปกับคอรดนั้น ลองดูความสัมพันธกันนะครับ เปน Key :: A Minon ครับ Ex.2

ใน Ex.2 นี้ผมใชแบบฟอรมการเลนเหมือนเดิม แตผมแทรกไอเดียของการดับเบิ้ล (Double) สัดสวน

โนตเขาไป จากใน Ex.1 ผมเลนอยูที่ Eight Note แตใน Ex.2 ผมเลนใน Sixteen Note ครับ ลองสังเกตและลองนําไปเลนดูครับ

Sequences Lick

มือกีตารบางรายอาศัยลูกเลนในแบบซีเควนสนี้เพียงลูกแลนเดียว ก็สามารถโชวออฟไดอยางสบายๆ แตแทจริงแลวลูกเลนในลักษณะนี้ไมไดมีอะไรที่ชวนพิสดารเลยจริงๆ เราจะมาเรียนรูในหลักการเบื้องตนของลูกนิ้วที่ช่ือวา Sequencesนี้กัน หลักการของ SEQUENCES LICK.

ไมมีอะไรมากสําหรับหลักการคิดลูกนิ้วแบบนี้ ถาคุณนับเลขเปนก็เปนอันวาใชไดกับการคิดลูกซีเควนสนี้ หลักการมีดังนี้...ใหคุณสมมติโนตตางๆเปนตัวเลขขึ้น เชนถาคุณตองการเลนลูกเลนนี้เปนชุดละ 4 ตัวโนต ตัวเลขที่จะไดก็จะเปน 1-2-3-4 แลวเมื่อคุณจะทําการซีเควนสตัวโนตก็ใหคุณนับชุดตอไปดังนี้ 2-3-4-5 และชุดตอไป 3-4-5-6 ชุดตอไปก็ทําในทํานองเดียวกัน ลองดูโนตดังนี้.

นี้ถือเปนหลักการเบื้องตนที่คุณตองเขาใจในลิกสที่ช่ือวาSequences. ตอไปนี้เปนlickเรียกน้ํายอยสําหรับลูกเลนนี้ ที่เราจะนําเสนอทานตอๆไปในอนาคตกาลขางหนานี้.


FIG.1

ลองเลนดูนะครับ แบบฝกซีเควนสชวยพัฒนาความเร็วของนิ้วมือไดนะครับ คราวหนามาลุยแบบฝกกันแบบเต็มๆ

ผมปลอยใหหนานี้ขาดการอัพเดทเรื่องราวไปตั้งหลายเดือน(เกือบป) ดวยเหตุที่วา "ลืม" ผมลืมไปวาหนานี้เรื่องราวของ lick ในแบบ Sequences นั้นมันแขวนอยูเรื่องหรือตอนเดียวมาตั้งนานแลว เราก็มัวแตไปอัพเดทเรื่องอื่นๆสะ ก็ขออภัยดวย คราวนี้กลับมาอัพใหอีก 1 ตอน กับ 2 lickในแบบซีเควนส ลองติดตามดูกัน Ex.1

ใน Ex.1 นี้จะเปนลูกนิ้วในแบบ Sequencesที่คิดขึ้นมาจากสเกล Patatonic Minor โดยคิดขึ้นมาเปนชุดละ 4 ตัวโนต (ใหสังเกตุตรงตัวโนตเริ่มตนในแตละชุดดวย) โดยเลนอยูในคีย A minor และเลนในสัดสวนของ Sixteen note ครับ


Ex.2

ใน Ex.2 นี้เปนการเลนใน A minor scale และเลนอยูในชุดละ 6 โนต ในโนตกอนโนตสุดทายตอนจบที่คุณเห็นเปนโนต G# นั้น คิดมาจาก A Hamonic minor แบบที่ขุนขวานสาย Neo-classic ใชกัน

Pedal Lick พีดัล ลิกส : นี้เปนที่นิยมใชกันมาก โดยเฉพาะกับบรรดาขุนขวานในสายNeo Classic Pedal lick จะมีวิธีคิดและวิธีฝกอยางไรลองติดตามอานกันดู. หลักการลูกเลนในแบบ Pedal. มีโนตกลุมหรือตัวใดตัวหนึ่งเลนย้ําอยูกับที่ สลบักับโนตใดโนตหนึ่งที่เลนเปนMelody ดังตัวอยางใน Fig.1นี้. Fig.1

ในFig.1 นี้เราจะเห็นไดวา...มีโนต E{สาย2 เฟรท5}เลนโนตย้ําอยูกับที่ โดยมีโนตอื่นๆสลับกับโนต E นี้ เลนติดตอกันไปเรื่อยๆเปนชุดๆ

จากตัวอยางขางตน เปนลักษณะของการเลนในแบบ พีดัลโนต เราจะมาลองดู lick ของ Pedalกันตอไปอีกสักหนึ่งแบบ ดังนี้.


Fig.2

ใน Fig.2 เราจะเห็นไดวามีโนต D เลนซ้ําๆอยูกับที่ และมีโนตอื่นๆเลนสลับกันไปเรื่อยๆเพื่อเปนตัวเดิน

ทํานอง ลองนําไปฝกกันดู ครั้งนี้เปนการแนะนําแนวคิดในการสราง Pedal Lick คราวหนาติดตามแบบฝกของ

Pedalนี้เต็มๆครับ. ในตอนกอนเราไดอธิบายถึงหลักการการคิดลูกเลนในแบบ พีดัลฯไปแลว ในตอนนี้เราจะมาดูลูกเลนใน

แบบพีดัลที่เหลาขุนขวานนํามาเลนในบทเพลงตางๆ ดูบาง เพื่อประกอบความเเขาใจ... Ex.1

ใน Ex.1 นี้เปนทอนหนึ่งในเพลงของเจาพอนีโอฯ ตัวจริงYngwie ช่ือเพลงวาCrying ในอัลบัม Triloggy.

เราจะสังเกตเห็นไดวา มีโนต D เปนโนตพีดัลคือเลนซ้ําไปซ้ํามา สลับกับโนตอื่นที่เลนเปนเมโลดี้.. Ex.2

ใน Ex.2 เปนทอนหนึ่งจากเพลง Beyond the door ของVinnie Moore ใหเราดูที่ beat ที่3-4 เราจะ

สังเกตเห็นวาเขาใชโนต G ในสายที่ 3 มาเปนโนตพีดัล จากในทั้งสองตัวอยางนี้คุณคงจะไดรับความเขาใจในเรื่องของลูกเลนในแบบ Pedal กันบาง คราวหนา

เราจะนําเอาแบบฝกมาฝากครับ...


Licks (จากมือกีตารระดับโลก) ในครั้งนี้เราขอเสนอLickของมือกีตารผูลวงลับดับไปจากโลกนี้แลวสักหนึ่งคน เปนมือกีตารที่ใครๆตาง

ก็เรียกรองสนใจในการชําเรากีตารของเขายิ่งนัก เปนมือกีตารที่เรียกไดวาเปนนักกีตารเพียงไมก่ีคนที่มีสําเนียงการเลนกีตารในแบบHeavy Metal ไดชัดเจน เขาก็คือ Randy Rhoads อดีตมือกีตารของ Ozzy นั่นเอง. เราลองมาดูลูกเลนของเขากัน...

Figure 1.

ในlickนี้เปนการคิดมาจากสเกล Pentatonic เลนใน Key. 3 Sharp{A or F#m} Figure 2

Figure2. เปนการเลนในแบบ Arpeggio ซึ่งการกระจายคอรดแบบนี่ แรดดี้ โรด นิยมใใชมากกับบทเพลงของเขา. Figure 3


ในlickนี้เปนการเลนในลักษณะการ Trill นิ้วมือซาย ใครที่เคยเลนผลงานของเขาจะรูวา...ลูกเลนแบบนี้ Randy Rhoads โปรดปรานเพียงใด. ครับแตเพียงเทานี้ เอาไวเดือนหนาวากันตอไปกับlickของมือกีตาร

มือกีตารตางๆในเมืองไทยเราคงไมมีใครไมรูจัก พอล กิลเบิรต เปนแน เพราะเขาเคยมาเปดการแสดงดนตรีของเขาในบานเราไปแลว ในนามของคณะดนตรีที่ช่ือ Mr.Big และนอกจากนั้นเขายังเคยมาทําการเปด Workeshop การเลนกีตารใหเราไดดูกันอีกดวย มาในคราวนี้ก็เลยขอนําลิกสของเขามาใหเราไดดูกัน และวิเคราะหตามวาเเขาคิดมาไดอยางไร... Fig.1

ใน Fig.1 เปนลิกสที่อยูในเพลง Daddy,Brother,Lover,Littel Boy อยูในอัลบั้ม Lean Into It เปนลิกสที่อยูในคีย Gm (2 flat) ใน bar แรก พอลเลนมาจากโนตในสเกล G Pentatonic minor with b5 ( G - Bb - C - Db-D - F ) หรือทีเราเรียกกันวา Blues scale ในบารถัดมาพอลก็เลนในแบบโครมาติกส คือ เลนในแบบ ครึ่งเสียงตอเนื่องกัน ลองฟงกันดู... Fig.2

ใน Fig.2 คือลิกสในเพลง Colorado Bulldog ในอัลบั้ม Bump Ahead อยูในคีย Em (1 sharp) ในลิกสนี้

เปนการเลนโดยการอาศัยการกางนิ้วออกเปนอยางมาก โดยกิลเบิรต คิดลิกสนี้เปนการเลนในแบบ Three Per Sting หรือการเลนในแบบ 3 โนตตองหนึ่งสาย และเปนการเลนใน tempo / Quarter Note = 140 ซึ่งไมหมูเลยถาเราจะเลนออกมาแลวฟงดูดี ลองฟงกันดู...

เอาไปแค 2 lick สําหรับในครั้งนี้ คราวหนาจะเปนลิกสของเกจิใดโปรดติดตาม สุดยอดขุนขวานแหงป 1990 และในปจจุบัน คงไมมีใครปฏิเสธเขาคนนี้ไปได John Petrucci แหงคณะ Dream Therter ครัง้แรกที่ผมฟงเขาเลนในเทป (สมันนั้นยังไมมีพวก MP3 หรือสื่ออื่น ๆ ที่ถูกไปกวาเทป) ผมแทบตกใจคนอะไรหวะเลนไดจังหวะสุด ๆ จริง ๆ ผมหมายถึงวา เขาเลนแบบที่มี Rhythm ยาก ๆ ไดอยางกับเคี้ยวขนมหวานเลย ซึ่งนอยนักที่ผมจะเคยฟงใครเลนไดในแบบนี้ นี้ยังไมพูดถึงความเร็วของนิ้วมือที่เปนมาตราฐานไปแลวสําหรับผูที่เลนกีตารนะ มาคราวนี้เลยไปงัดเอา LICK ที่เขาเขียนไวใหกับ kitatann เฮย !!! ไมใชเขียนไวใหกับ Guitar World เมื่อประมาณป


1994 ครับ เกือบ 10 ปแลวสําหรับ LICK นี้ อะ ๆ อยาเพิ่งประมาทถึงแมเปน lick ที่เกาแตก็เกาเกมนะครับ ลองไปดูกัน Figure 1

เปน LICK ที่เปน E Pentatonic (E - G - A - B - C ) ที่เลนไปบนคอรด Am7 ครับ เปนลูกนิ้วที่มีสําเนียงแปลก ๆ หูไปอีกแบบครับ Figure 2

ใน Figure 2 เปนการเลนในแบบ Arpeggios ครบั ลองสังเกตชื่อคอรดตาง ๆ ที่เขียนไวบน Staff ตามไปครับ จะรูวาในแตละ Bate เขาใชโนตในคอรดใดเอามาเลนครับ เปนลูกนิ้วที่นาฝกมาก ๆ ครับ ตรงนี้ JOHN บอกวาคุณจะมองเปนการใช A Dorian Mode (A - B - C - D - E - F# - G) ก็ได ที่สําคัญเวลาเราเลน LICK ที่ 2 นี้ใหเรารักษาความสะอาดของเสียงดวยครับ จบไปสําหรับ lick ของอีกหนึ่งยอดขุนขวาน ไวคราวหนาจะงัดเอา lick เด็ด ๆ ของมือกีตารอื่น ๆ มาใหเลนและศึกษากันอีกครับ...

Riff RIFF คือ อะไร

มีเกจิทางดนตรีหลายทานไดใหคํานิยามของคําวา Riffนี้ไวหลายนัยะดวยกัน เชน... ริฟฟ คือ ทอนดนตรีที่เลนวนไปวนมา จนทําใหเราจําทอนดนตรีนั้นได. ริฟฟ คือ หัวใจของดนตรีRock. ริฟฟ คือ ทอนดนตรีสั้นๆที่ใชเปนไอเดียหลักในการคิดบทเพลงนั้นๆ และอีกหลายๆนิยาม.


แตความหมายเปนเชนไรผมไมขอออกความคิด เพราะณ.ตรงนี้เราจะนําเสนอการคิดทอนRiff โดยการศึกษาดูจาก ทอนริฟฟของมือกีตารระดับโลก ที่ไดรับการยอมรับวา RIFF เปนอมตะ. Smoke on The Water

คงไมมีใครปฏิเสธเพลงๆนี้วา...ไมรูจัก และคงไมตองสาธยายสรรพคุณของเพลงนี้ใหมากความ ฉะนั้นก็มาดูRiffของเพลงๆนี้กันเลย.

เพลง Smoke...อยูในคีย Minor{2Flat.}Riffนี้ก็เปนการคิดมาจาก Power Chord โดยมีการคิดในแบบ Syncopation คือ คิดเปนแบบจังหวะขัดนั่นเอง. ถาจะพูดในแงของคนที่เรียนทฤษฎีดนตรีมาเครงๆ ก็จะบอกวาเปนการเลนในแบบ Interval คือ เปน Perfect 4th. ** ก็ลองนําไปเปนแนวคิดในการสรางRiffกันดู อาจจะไดอะไรใหมๆขึ้นมาบาง พบกันใหมตอนหนากับ Riff อมตะอื่นๆ. **

เรื่อง riff เราคงทราบกันไปบางแลววาหมายถึงสิ่งใด จากในตอนกอน มาคราวนี้เรามีริฟฟของวงดนตรีที่เปนระดับตํานานแหงวงการ Metal มาใหยลกัน คือเปนริฟฟของ Black Sabbath มือกีตารที่ช่ือวา Tony Iommi นั้นไดรับการกลาวถึงกันมาก ในแงของมือกีตารที่มักจะมี riff เด็ดออกมาใหเราไดยินกัน เราไปดูกันเลยกับริฟฟระดับตํานานของเขา Paranoid's Riff

Riff นี้ซาวดโดยรวมก็มาจาก Pentatonic + Power Chord ครับ คียที่เลนก็คือ E major{4ชารป} แต Scale Pentatonic ที่เขาเลนเขาเลนเปน Pentatonic Minor ครับ คือเลน E Pentatonic Minor{ E-G-A-B-D} Iron Man 's Riff


Riff นี้สรางขึ้นมาโดยใช Power chord ในการคิด โดยนําเอาPower chord มาเรียนรอยออกมาเปน Melody ซึ่งวิธีการคิดริฟฟแบบนี้นี่แหละที่เปนเอกลักษณของ Tony Iommi และเปนไอเดียหนึ่งที่ดีมากๆในการสรางริฟฟที่เปน Metal

คงจะไดอะไรจากริฟฟทั้ง 2 นี้กันไปบาง นําเอาไปลองเปนวัตถุดิบในการคิดริฟฟของเราบางจะไดเปนประโยชน ไมแน...ริฟฟของคุณอาจจะเปนริฟฟระดับตํานานเหมือนของ Tony Iommi ก็ได...

Metal Rhythm Guitar

POWER CHORD หากเราจะพูดถึงการเลน Chord ในแบบ Metal แลว แนนอนรูปแบบคอรดที่ใชในการเลนยอมหนีไมพน

เรื่องของ Power chord เปนแน เพาวเวิอร คอรดนี้...บางที่นักกีตารหนาใหมอาจจะคุนเคยในชื่อตางๆกัน เชน คอรดรอค คอรดเฮฟวี่ คอรดคูหา เปนตน. ในที่นี้เปนบทแรกของการรูจักการเลนในแบบ Metal Rhythm ฉะนั้นเราตองมารูที่มาที่ไปของคอรดแบบนี้กันกอนวา มันมีการคิดขึ้นมาไดอยางไร...

Power Chord ที่จริงแลวโดยเนื้อแทของมันไมอาจจะจัดอยูในคําวา"คอรด"ได ดวยเหตุที่วา...คอรดแบบนี้มันไมไดประกอบขึ้นมาจากโนต 3 เสียง แตคอรดในลักษณะนี้มันประกอบขึ้นมาแคเพียงจากโนต 2 เสียงเทานั้น คือ Root + โนตตัวที่5 (หาอานเรื่องความหมายของคอรดกอนจะเขาใจมากขึ้น ในหนาTheory) chordในแบบนี้จะไมมีการแบงแยกTonality วาเปน Major & Minor ก็ดวยเหตุที่วา...Power Chord นี้มันไมมีโนตตัวที่ 3 นั่นหมายความวา ทั้งคอรดในแบบ เมเจอร หรือ ไมเนอร ถาเราจะเลนคอรดพวกนี้ในแบบ Power Chordมันก็จะมีรูปแบบฟอรมคอรดที่เหมือนกันหรืออันเดียวกันนั่นเอง.มาดูตัวอยางของคอรดพวกนี้กัน. Ex.1.

**เราจะใชนิ้วที่ 1 + 3ในการจับหรือเลนคอรดนี้ แตอาจจะมีนักกีตารหลายๆทานมักจะถนัดที่จะจับคอรดพวกนี้โดยใชนิ้ว 1 + 4 แตสําหรับผมๆแนะนําใหใช 1 + 3 ในการเลน เพราะวา...นิ้วคนเรามี 5 นิ้ว ในการเลนกีตารเราได


เสียนิ้วไปแลว 1 นิ้วคือ นิ้วหัวแมมือ เสียไปโดยการนํามันไปอยูหลังคอกีตาร ฉะนั้น..ถาเราจะใชนิ้ว 1+4 ในการเลนคอรดนี้อีก นั่นหมายความวา...เราจะไมมีนิ้วอื่นเหลืออีกเลยในการทําอยางอื่น แตถา!!! เราใช 1+3 ในการเลนคอรดนี้ เราจะยังเหลืออีก1นิ้วในการเลนอยางอื่นอีก คือนิ้วกอย (นิ้วที่ 4) ลองจับกันดูทั้ง 2 รูปแบบ คุณอาจจะเขาใจมากกวาการนั่งอาน...*** Ex.2

***สังเกตดูวาวิธีการเขียนช่ือคอรดในแบบ Power Chord นี้ เขาจะเขียนเปน ตัวอักษารบอกคียของคอรด + โนตตัวที่5 ตัวอยางเชน เขียนวา C5 หมายความวา ในคอรดนี้เขาใช Note C กับ โนตตัวที่ 5 ในคีย C (C + G) เปนตน.. แตเขาจะไมเขียนบอกวาคอรดๆนี้เปน เมเจอรหรือไมเนอร เหมือนการเขียนช่ือคอรดโดยทั่วๆ ไป***

ในบทแรกนี้เอาหลักการความเปนมาของ Power Chord ไปศึกษาทําความเขาใจกันกอน คราวหนามาพบกับแบบฝกครับ....

เมื่อตอนที่แลวเราเรียนรูเรื่อง Power Chord ไปแลว มาในคราวนี้จะเปนการแนะนําเทคนิคการเลน Rhhythm ในแบบ Metal กันบาง

โดยหลักการคราวๆแลวการเลน Metal Rhythm มันก็ไมมีอะไรยุงยากมากมาย เพียงแตคุณตองทําความเขาใจและตีประเด็นการเลนใหดีเทานั้นเอง ลองดูตัวอยางที่ผมแนะนําดังตอไปนี้... Ex.1

ใน ex.1นี้เปนการเลน Power Chord สลับกับการเลน Muteสายกีตาร ในตัวอยางนี้เปน K.Am ผมจึงเลือกที่จะเลน Mute โนต A (คือสายเปดของสายที่5) เพราะโนต A เปนโนต Tonic ของคีย.


Ex.2

ใน ex.2 นี้เปนการเลนคลายๆกับ ex.1คือใชการ Mute สายในโนต Tonic ซึ่งโนตโทนิคในที่นี้คือโนต E แนวคิดแบบนี้มือกีตารสาย Metalชอบใชกันมาก ไมวาจะเปน Metallica - Black Sabbath ฯลฯ มักจะมี

ไอเดียแบบนี้ไปปะปนกับงานเพลงของเขาเสมอๆ คุณลองเอาไปประยุกตและคิดกันดู... นี่เปนแนวคิดการใชงาน Power Chord สวนหนึ่งยังมีอีกหลายๆแนวความคิดคอยๆเรียนรูและติดตาม

อานกันไปครับ คราวนี้สวัสดี.. เราไดรูจักวิธีการจับ - เลน รูปแบบของ Power Chord กันมาพอสมควรแลว มาในคราวนี้ก็จะขอแนะนํา

เอารูปแบบฟอรมของการเลนแบบ Power Chord นี้มาเสนออีกสัก 1 แบบ เปนแบบที่เรามักไมคอยเลนกัน และเรียกไดวาแบบฟอรมคอรดที่จะนําเสนอนี้จับไดยากที่สุดในกระบวนของฟอรมคอรดแบบนี้ Pic.1

ใน Pic.1 เปนรูปแบบฟอรมของ Power chord ที่กลาวถึง ไมทราบเคยเลนกันมาบางหรือเปลา แตผมจําไดวาผมเคยเลนฟอรมนี้กับเพลงของ Ozzy นะ ถาจําไมผิด Form นี้จะมีโนตรูท [Root] หรือโนตหลักอยูที่ สายที่ 4 ของกีตาร ตอไปมาดูแบบฝกยอยๆ เพื่อประกอบความเขาในการเลน Power Chord ฟอรมนี้กัน


Ex.1

รูปใน Ex.1 นี้เปนรูปแสดงใหเห็นการเลนคอรด A ในฟอรมคอรดแบบนี้ เลนสลับกับการ Mute สายเปด

ของสายที่ 5 สวนตรง beat ที่ 2 ของบารที่ 2 จะเปนคอรดที่แทรกเขามาคือ คอรด G. Ex.2

ใน Ex.2 นี้ก็คลายๆกับ Ex.1 แตจะมีการเลนรวมไปกันกับแบบฟอรมของ Power Chord ในรูปแบบอื่นๆ Tapping Lick

Coming Soon มาสะนาน เนื่องจากเหตุขัดของบางประการ เพราะวามัวแตหารูปภาพประกอบเรื่องนี้ พอดีไดคุณ Nutt สงภาพมาให ก็ขอขอบคุณณ.ที่นี้ดวยครับ

Tapping คือ เทคนิคการเลนกีตารวิธีหนึ่ง โดยคนไทยเราเรียกกันวา "การจิ้มสาย" หตุที่ตองกําเนิดมีวิธีการจิ้มสายนี้ขึ้นมาก็คงเปนเพราะ ขอจํากัดทางนิ้วมือซาย [ ขางที่ใชจับคอกีตาร ] ที่ไมสามารถเหยียดนิ้วออกไปไดกวางจนถึงโนตที่ตองการได นักกีตารก็เลยจําเปนตองหาวิธีการที่เขาจะสามารถเลนโนตในตําแหนงที่ตองการได วิธีการที่นักกีตารใชก็คือ การ Tapping สาย.

วิธีการTap ก็โดยการใชนิ้วมือขางขวา หรือ ขางที่เราใชจับปคกีตาร อาจจะเปนนิ้วช้ี หรือ นิ้วนางก็ตามแตจะถนัด กดลงไปบนตําแหนงหรือ note ที่ตองการ แลวเขี่ยลง [ เขี่ยหรือเกี่ยวลงคลายๆกับที่เราเลน Pull off ]ลองดูภาพประกอบ สัญลักษณบน Staff ที่นิยมเขียนกันเพื่อสื่อใหเห็นวานี้คือการเลนเทคนิค Tapping คือ อักษร T ตอไปมาดูแบบฝกการ Tap เบื้องตนที่จะแนะนํากัน Ex.1


ใน Ex.1 นี้เปนการแท็ปโดยกดลงไปที่สายที่ 1 เฟร็ทที่ 12 เมื่อกดแลวก็ใหปลอยโดยการเขี่ยไปที่สายเปลา [ 0 ] จากนั้นใหเราเลนเปน Hammer On กับโนตตัวอื่นๆ Ex.2

Slow >>> Fast >>> ใน Ex.2 นี้ก็คลายๆกับใน Ex.1 เพียงแตเลนใหเต็มรูปแบบขึ้นเทานั้นเอง -- แนะนําพอหอมปากหอมคอเทานี้กอนครับ ไวครั้งหนามาดูแบบฝกกันเต็มๆ --

ปลอยเรื่องของการ Tapping หอยโตงเตง..อยูตอนเดียวมาเปนป ไมไดอัพเดทตอนตอไปสักที...มาคราวนี้เอาเสียหนอย เดียวจะจิ้มไดไมเกงกัน มาวากันเลยนะครับ Ex.1

ใน Ex.1 เปนการเลน Tapping หรือการจิ้มสายดวยมือขวา เปนการเลนในแบบ Arpeggio ในแบบ Triad

หรือ Chord ในแบบ 3 เสียง ในหองแรกจะเปนโนตซึ่งอยูในกลุมของคอรด A minor ตามมาดวย F และตามมาดวย Em ในหองที่ 3 มีการหยอดดวย E7 นินึงเพื่อใหไดสุมเสียงในแบบ Hamonic Minor Scale สังเกตดูตรงโนต G# นะครับ Ex.2


ใน Ex.2 ก็ยังเปนการเลน Tapping กับการกระจายคอรดในชุดเดิมอยู เพียงแตวา ผมทําการ Double Feel ของโนตเขาไป จากเดิมเลนอยูที่ Triple หรือแบบ 3 โนตตอ beat มาเลนอยูใน 6 โนตตอ Beat แทน ซึ่งเปนแนวคิดที่มือกีตารหลายคนนํามาใชในการสราง Link ครบั

ฝกกันนะครับ...ครั้งนี้นํามาเสอนแนวคิดและการเลนเพียง 2 แบบเทานั้นครับ คอย ๆ update กันไป คอย ๆ ฝกกันไป....

การนําสเกลมาใชประโยชน สอบถามกันเขามามากมายวา ผมเลนสเกลเปนแลว แตใชประโยชนอยางไร ไดแตนั่งไลขึ้นไลลง...??? บทความนี้ก็เลยจะพยายามไขปริศนาในคําถามนี้ใหครับ แตกอนที่จะไขปริศนาของคําถามแบบนี้ได เราตองมาทําความเขาใจ และ ปรับพื้นความเขาใจในเรื่องพื้นฐานกันนิด

กอนที่เราจะเริ่มบทแหงการปฏิบัติในการนําสเกลไปใช ผมขอชี้แจงเกี่ยวกับทฤษฎีหรือสิ่งที่คุณตองรูกอนที่คุณจะนําสเกลไปใชได ซึง่แทที่จริงก็คือเรื่องของทฤษฎีดนตรีพ้ืนฐานนั้นเอง สิ่งที่คุณควรรูเบื้องตนก็คือ 1. เรื่องของ Chord เชน โครงสรางคอรด การสรางคอรด ทางเดินคอรด ไมตองรูมาก รูแคคอรดแบบ 3 เสียง หรือ Triad Chord ก็ได 2. เรื่องของสเกล (scale) ตาง ๆ เชนการสรางสเกล โครงสรางเสกล ก็ไมตองมากอีก เอาแค 2 สเกลก็ได คือ Major & Minor Scale 3. เรื่องของ Key ในทางดนตรี เชนวา คีย C มีก่ี # & b คีย B minor มีก่ี # & b เปนตน 4. เรื่องของ Melody เขนวา เมโลดี้หรือทํานองคืออะไร เปนตน 5. เรื่องของ Rhythm 6. เรื่องของชีพจรในดนตรี หรือ Pulse 7. เรื่องของวลี หรือ ประโยชนของทํานองเพลง ทั้ง 7 หัวขอขางตนถาคุณเขาใจก็ OK แลวในการที่จะนําเอา Scale มาใชประโยชน ไมตองรูลึกในเรื่องตาง ๆ เพียงเอาแคพอรูแตเขาใจดีเปนใชได ถายังไมเขาใจ หรือ ตองการทบทวนเพื่อความเขาใจ คุณก็สามารถหาอานสิ่งเหลานี้ไดในหนา Theory ของ kitatann ครับ

บทความนี้ถือเปนบทความเกริ่นนํากอนที่เราจะไปเรียนรูกันจริง ๆ ในการนําเอาสเกลไปใชงาน ออ...ออกตัวกอนนิดวาบทความ การนําสเกลไปใชประโยชนนี้ จะสอนใหนําไปใชในการ Solo Guitar นะครับ เพราะสเกลนําไปใชงานไดหลากหลาย จึงขอบอกแนวทางการนําเสนอเสียกอน

คราวกอนเราพูดถึงเรื่องของทฤษฎีที่เกี่ยวของกับการนําเอา Scale มาใชประโยชนไปแลว มาในคราวนี้ก็ถึงวิธีอธิบายดวยเสียงประกอบบทความ ในบทความนี้จะเปนการบอกถึงไอเดียคราว ๆ เกี่ยวกับการนําเอาสเกลไปใชงานนะครับ อานเขาใจไมเขาใจก็สอบถามกันเขามาไดทาง webboard ของเว็บนะครับ


การนําสเกลมาใชก็เหมือนกับการที่เราเอาภาษาที่เราใชพูดกันมาใชประโยชน คือ เราตองสามารถนําเอาภาษานั้น ๆ มาใชในการสื่อสารเรื่องราวตาง ๆ ที่เราตองการอธิบายบอกเลาได เชน คุณจะบอกวาคุณรักแฟนคุณเปนภาษาอังกฤษ คุณก็ตองสามารถรูวาจะเอาอักษรหรือคํา ๆ ไหนในภาษาอังกฤษมาสื่อความหมายออกไป แนนอนตรงนี้คุณก็จะไดคําประมาณวา " I love you" เปนตน ในทางดนตรีก็เชนเดียวกัน เมื่อคุณตองการจะสื่อความหมายทางดนตรีออกไป คุณก็ตองเลือกสรร จัดหาภาษาถอยคําที่คุณสามารถอธิบายสิ่งที่คุณตองการออกมา ในทางดนตรีจึงเกิด สเกล (Scale) ตาง ๆ ขึ้นมา เพื่อใหเปนภาษาสากลในโลกของดนตรี และเปนมาตราฐานเดียวกัน และมาตารฐานนี้ก็ยังสามารถแยกยอยออกไปเปนมาตราฐานยอย ๆ ไดอีก เชน Major, Minor, Hamonic เปนตน

ภาษาทางดนตรีที่เราเอาสเกลมาใชในการสื่อสารนั้นเราเรียกอีกอยางวา "ทํานอง" หรือ Melody ซึ่ง ทํานอง หรือ เมโลดี้ นี้ เกิดขึ้นมาจาก เราเอาระดับเสียงตาง ๆ รวมกันกับ ริทึ่ม (Picth + Rhythm = Melody) ผมจะเรียกเปรียบเทียบใหคุณเขาใจงาย ๆ แบบเราเรียนภาษาตาง ๆ กัน scale เปรียบเหมือน ตัวอักษรหรืออักขระ rhythm เปรียบเหมือน สําเนียงตาง ๆ เมื่อรวมกันจึงเกิดเปน ทํานองขึ้นมา (Scale ในที่นี้คือ ระดับเสียง หรือ picth ที่นํามาเรียงตอ ๆ กันอยางมีแบบแผนและมีโครงสรางที่แนนอน)

ที่นี้ผมมีทํานองของ solo guitar ของผมใหคุณทดลองฟงประกอบบทความนี้ เปนเพลง 8 bar เทานั้นผมต้ังช่ือมันวา Naver Lie เปนเพลงสั้น ๆใหคุณลองฟงดู แลวบทความหนาผมจะเขียนอธิบายวาเพลง ๆ นี้ผมมีวิธีการนําเอาสเกลมาใชอยางไร และรวมถึงอธิบายดวยวาเราควรจะนําสเกลมาใชใหเกิดประโยชนไดอยางไร

ขอออกตัวกอนวาเพลง ๆ นี้ผมแตงโดยการเขียนโนตลงไปในโปรแกรม ไมไดเกิดจากการจับกีตารแลวดีดออกมาและเปนเพลงที่เขียนออกมาโดยใชเวลาไมถึง 30 นาที ฉะนั้น จึงมีความแข็งกระดาง และปราศจากความไพเราะ (หรือถาคุณวาไพเราะแลวก็ขอบคุณครับ)

12 Bar Blues

เราเรียนรูพ้ืนฐานในทางทฤษฎีเรื่องของ 12 Bar Blues นี้ไปแลวจากหนา Theory (ทานใดยังไมไดอานก็เขาไปอานก็ดีนะครับ) อยางวที่บอกไววา ทฤษฎีหนะ มันตองควบคูไปกับการปฏิบัติถึงจะดี มาคราวนี้เลยมาแนะนําใหเลน 12 บาร บูลส กันแบบงาย ๆ แตกอนอื่น กอนที่เราจะเลนเพลงในแบบบูลส (Blues) นี้ไดเราตองเขาใจในเรื่องของฟล (Fell) ของบูลสเสียกอน ดังนี้..

Fell ของบูลส เราเรียกกันวา Suffle Fell (ชับเฟลฟล) ฟลในแบบนี้จะออกลักษณะเสียงโยน ๆ คือไมคงตัวเหมือนกับฟลปรกติในเพลงประเภทตาง ๆ ที่เราเคยฟงกันมา ซึ่งตรงนี้ถือกันวาเปนเอกลักษณเฉพาะตัวของบทเพลงประเภทบูลสเลย จะกลาวไดวา เพลงใดกลาวอางวาเปนบูลส แตไมมีฟลนี้อยู ก็บอกไดเลยวานั้นไมใชบูลส !!! Shuffle Fell เปนอยางไร

ไมทราบวาเคยฟงเพลงบูลสกันมาบางหรือไม ถาเคยฟงกันมาคงไมตองอธิบายกันมากเพราะคุณคงจะเคยสัมผัสกับฟลนี้เขาไปแลว แตถายังจะขออธิบายเรื่องของ Suffle งาย ๆ ดังนี้ Shuffle เปนการเลนฟลออกมาในลักษณะออกโยน ๆ อยางที่บอกไป แตโยนอยางไร ใหคุณลองเปดไฟลเเสียงดานลางนี้ฟงกอน


>>> Shuffle Feel

ซึ่งจากไฟลเสียงขางตนที่คุณฟงคุณรูสึกไหมวาจังหวะทวงทํานองมันโยก ๆ โยน ๆ อยางไร (อธิบายลําบาก) ถาคุณยังไมรับรูความรูสึกแบบ Shuffle อีกที่นี้ใหคุณเปดไฟลเสียงขางลางนี้เปรียบเทียบกันดู >>> Fell โดยปรกติ

ลองเปดทั้ง 2 เสยีงนี้เทียบกัน โดยผมอยากจะบอกคุณวาทั้ง 2 ไฟลเสียงนี้เลนออกมาจากโนต (note) ตัวเดียวกัน สัดสวนโนตเหมือนกัน ตําแหนงโนตบนคอกีตารตําแหนงเดียวกัน เพียงแตเลนในตางฟลเทานั้นเอง ดูรูปโนตที่ผมเลน

>>> Note ท่ีเลนในไฟลเสียงทั้ง 2 ขางตน

เมื่อดูโนตแลวคุณลองเปดไฟลเสียงทั้ง 2 ฟงใหม แลวเปรียบเทียบกันดูวาแตกตางกันหรือไม ถายังไมรับรูถึงฟลในแบบ Shuffle อีก ก็เปดฟงซ้ําไปเรื่อย ๆ จนกวาจะแยกกันออกไดวาฟลปรกติเปนเชนไร ฟลแบบ Shuffle เปนเชนไร อธิบายในทางทฤษฎี

อธิบายเรื่องของ Shuffle Fell ในทางทฤษฎีก็จะไดเปน เมื่อเราเห็นหรือพบเพลงไหนที่มีการเลนแบบ Shuffle นี้ ใหเราเลนโนตที่เปน Eight Note ใหเลนออกมาเปนแบบ Triple Note แตเปน Triple Note ที่ตัดโนตตรงกลางของ Triple ออกไป เราจะรูไดอยางไรวาเพลงไหนเลน Shuffle Fell ..?? 1.รูไดโดยการฟง วาเพลงนั้นมีฟลนี้ไหม 2. รูไดโดยการดูที่โนต โดยที่เพลงแบบ Shuffle Fell นี้ ตรงหัวหองเพลงของโนตเพลงนั้นจะมีสัญลักษณบอกไววาเพลงนี้ใหเราเลนแบบ Shuffle Fell นะ สัญลัษณนั้นจะเปนดังนี้

ลองสังเกตที่สัญลักษณนี้ดู เราจะเห็นวาเขาบอกใหเราทราบวา ถาเราเห็น Eight Note ใหเราเลนเปน Triple Note นะ นั้นคือการบอกวาเพลง ๆ นี้ใหเลนฟลในแบบ Shuffle นั่นเอง

ที่จริงเสียง MIDI ที่นํามาประกอบบทความนี้ ทําไดไมดีพอสําหรับ Shuffle Fell นี้ แตก็พอใชประกอบได เพราะ Shuffle Fell นี้จริง ๆ แลวเราตองฟงจากผูที่เลนจริง ๆ ถึงจะไดเสียงที่ตรงกันกับฟลนี้อยางแทจริง อยากใหคุณลองหาเพลงบูลสของศิลปนตาง ๆ เชน BB.King หรือคนอื่น ๆ มาฟงดู ถาคุณฟงตรงนั้นบอย ๆ คุณจะสามารถซึมซาบฟลแบบนี้เขาไปไดเองโดยไมตองอธิบายครับ

คราวนี้อธิบายเรื่อง Shuffle Fell ไปกอนคราวหนาวาดวยเรื่องการเลนลวน ๆ ครับ และแนะนําใหคุณติดตามบทความเรื่อง 12 Bar Blues นี้ไปเรื่อย ๆ เพราะผมตั้งใจจะทําเพื่อใหคุณเห็นพัฒนาการของดนตรี ที่เขาบอกกันวา Rock เกิดจาก Blues นั้นเปนเชนไร ไมเพียงแต Rock เทานั้นที่เกิดไปจากบูลสนี้ แมแต Jazz นั้นก็มีพ้ืน


ไปจาก Blues ดวยเชนกัน ลองติดตามไปครับ คุณจะทราบถึงประวัติทางดนตรี ไดดวยวิธีการเลนดนตรี มิใชการทราบโดยอางตําราที่เขียนบอกกันมา...!!!

คราวที่แลวเกริ่นนําไปในเรื่องของ Shufflำ Fell ที่ใชในบทเพลงบูลส คราวนี้เราลองมาเริ่มเลนกันจริง ๆ เสียที แตกอนที่เราจะไปเลนนั้น ขอเสริมเรื่อง Shuffle Fell นี้อีกสักนิด คือ Shuffle Fell นี้มันจะมีช่ือที่ใชเรียกกันในหมูนักดนตรี แตกตางกันไป เชน ในบทเพลงประเภท JAZZ นั้น เขาจะเรียกฟลแบบนี้วา Swing Fell เปนตน และยังมีช่ือเรียกสําหรับ Shuffle Fell นี้อีกอยางนึงวา Triplet Fell ครับ ทั้ง 3 ช่ือนี้ คือ Shuffle Fell , Swing Fell , Triplet Fell นี้ใหเขาใจกันวาคือฟลประเภทเดียวกัน

ที่นี้เรามาลองเลนเพลงแบบ 12 Bar Blues กัน โดยเบื้องตนเพื่อการซึมซับทาง Fell ที่เปนแบบ Shuffle นี้ ผมการเลนซึ่งคลาย ๆ กับทางเดินของเบสในแบบ 12 Bar มาใหลองเลนกันดู ดัง Staff ดานลางนี้ครับ สังเกตดูที่หัวหองเพลงครับ จะมีการเขียนกํากับ FELL ไว และก็ใหสังเกตจํานวนหองที่เลน วามี 12 หองจริง ๆ ไหม และก็อยางสุดทายที่ใหลองสังเกตคือ การใชคอรดครับ หรือ Chord Progression ครับ คราวหนาจะมีตัวอยางเพลงในแบบ 12 Bar Blues มาใหลองฟงกันดูครับ 12 Bar Bules

คราวกอนไดพูดไปถึงเรื่องของ FELL ในแบบ Shufel ไปแลวนะครับ หวังวาคงเขาใจกันไมมากก็นอย

เพราะตรงนั้นเราถือเปนจุดที่สําคัญในการที่เราจะเขาในในเพลงบูลส และสําเนียงในแบบบูลสครับ ถาเราไมเขาใจในตรงจุดนั้น คุณอาจจะไมมีทางเขาใจในสําเนียงเพลงบูลสเลยวาแตกตางจากเพลงประเภทอื่น ๆ อยางไร

มาในครั้งนี้ก็มาเริ่งเลนกันจริง ๆ จังเสียทีครับ โดยเราจะเลนออกมาเปนแบบเต็ม ๆ เลย ไมเหมือนคราวกอนที่เราเลนเพียงแคโนตตัวเดียวที่เดินทํานองไปจนครบ 12 หองเพลง ครั้งนี้เราจะมาดูกันวาถาเราจะนําเอา


Chord ทั้ง 3 ที่ใชในเพลงบูลสเบื้องตน กับอีก 12 Bar มาเลนเปนเพลงจะออกมาแบบไหน โดยผมจะมีตัวอยางเพลงที่ผมแตงขึ้นมาจากพื้นฐานในแบบ 12 BAR นี้มาให Download กันไปฟงในแบบ MP3 ครับ มีทั้งแบบเต็มอุปกรณ และ แบบ Guitar เดี๋ยว ๆ ครับ Samana Blues

เพลงนี้ผมใชช่ือวา Samana Blues ครับ เปนเพลงที่เลนอยูใน Key E Major ( 4 sharp ) ครับ โดยวิธีการคิดผมจะคิดอยูใน 12 Bar Blues ที่ผมไดพูดถึงไป คือ ผมจะเลนอยูเพียง 12 หองเพลง ยอนไปยอนมา โดยคอรดที่นํามาเลนก็จะเปน I - IV - V ในคียนี้ก็จะไดคอรด E - A - B ครับ แตจะเปนสุมเสียงออกไปทาง Dominate ครับ ลองมาดู Note กัน >>> Samana Blues

ใน 4 บารแรกจะเปนคอรด E7 ครับ ใหคุณสังเกตดูที่หัวหองเพลงนะครับ จะมีการเขียนบอก FELL ใน

การเลนไววาเพลงนี้ใหเลนในแบบ Triplet Fell ครับ และเลนในความเร็วเทากับ quarter note = 80 bpm ครับ

อีกใน 4 หองตอมาก็เปนไปตาม 12 ฺBar Blues แหละครับ คือเลนในคอรดที่ 4 ในที่นี้คือ A7 ครบั เลนไป

อีก 2 หอง จากนั้นกลับมาที่คอรดที่ 1 อีก 2 หอง

และตอมาใน 4 บารสุดทาย ก็จะเลน คอรดที่ 5 ในที่นี้คือ B7 ครับ จากนั้นก็ A7 กลับไปที่คอรดที่ 1 และ

กลับมาที่ B7 ซึ่งเปนคอรดที่ 5 เพื่อทําการสงยอนกลับไปหาหองที่ 1 อีกครับ โดยเราจะเลนยอนไปยอนมาตามวิถีทางแหง 12 Bar Blues ครับ


อยางไรอยากใหลองทําความเขาใจกันดูนะครับ อยาไปยึดติดวาถาเราเลนคอรดแลวเราตองจับคอรดแบบที่เราเคยจับมาเวลาหัดใหม ๆ นะครับ เพราะนี่คือเพลงจริง ๆ ที่มีการเรียบเรียงขึ้นมาแลว ถาอยากเขาใจเพลงนี้มากขึ้นลอง Download เพลงนี้ในรูปแบบของไฟลเพลงไปฟงกัน ซึ่งจะมีเสียงเครื่องดนตรีแบบเต็มวงใหฟงครับที่หนา Song for Learing คราวหนาในเรื่อง 12 Bar Blues นี้ผมจะนําเอาเพลง ๆ นี้มาใสการ Solo เขาไปเพื่อประกอบการเรียนรูเรื่องการใช Scale กับบทเพลงครับ...อีกไมนานเกินรอ..ถาไมเขาใจก็ขอเชิญฝากขอสงสัยไวไดที่ webboard ของเว็บนะครับ

การแกะเพลงโดยใชสเกล

หลังจากที่ผมนําเสนอการแกะเพลงในแบบพื้นฐานไปในคราวที่แลว ก็มีเสียงตอบรับกลับมาอยางดี วาอยากจะใหทําตอไปในเรื่องการแกะเพลงโดยใชสเกล ผมก็หาเวลาวาง ๆ อยู นึกไมคอยออกวาจะนําเพลงอะไรมาเปนแบบฝกตัวอยางดี เพราะปจจุบัยผมหันหลังใหกับ Guitar โดยสิ้นเชิงแลว แมแตเพลงผมยังไมไดฟงเลยวัน ๆ หนึ่งเนี้ย ตอนที่นั่งเขียนบทความนี้อยูก็ยังนึกไมออกวาจะนําเอาเพลงใดมาแกะแลวนํามาลงเปนตัวอยางใหดูกันจะ ๆ ดี ใครมีไอเดียจะแนะนําเพลงที่เหมาะแกการเปนตัวอยางเขามาก็จะเปนพระคุณยิ่งเลยครับ เอาเปนวาตอนที่นึกเพลงตัวอยางไมออก ก็เขียนเปนภาคทฤษฎีขึ้นมาใหศึกษาพอเปนแนวทางไปกอนแลวกันนะครับ...

ทฤษฎีการนําสเกลมาใชแกะเพลง เกร่ินนํา

การนําเอาสเกล (Scale) มาใชแกะเพลงนั้นจะชวยใหเราแกะเพลงและคลําหาทิศทางของตัวโนตตาง ๆ ในเสียง Solo ของกีตารไดงายขึ้น เพราะอะไร...ก็เพราะวา ทํานองของดนตรีก็สรางขึ้นมาจากสเกล และการ Solo กีตาร ก็เปนทํานองดนตรีชนิดหนึ่ง ฉะนั้น การนําสเกลมาใชแกะเพลงจึงเปนสิ่งที่ถูกตอง และควรศึกษา บทความนี้ผมจะไมขอกลาวถึงวาสเกลคืออะไร มีที่มาที่ไปอยางไร มีวิธีสรางอยางไร เพราะสิ่งเหลานี้คุณตองเรียนรูมากอน ๆ ที่จะอานบทความนี้นะครับ (หาอานไดจากหนา Theory) ฉะนั้น เรามาเริ่มเนื้อหาสาระกันเลย เร่ิมตน

สิ่งแรกที่เราจะตองทราบกอนที่เราจะรูวาเพลง ๆ นั้นใช Scale ใดในการ Solo Guitar เลย ก็คือเรื่องของ Key เพลง คุณอาจจะดูคียเพลงไดจากตามหนังสือเพลง- คอรดกีตารที่มีขายทั่วไปก็ได วิธีการสังเกตคียเพลงในหนังสือเพลงเหลานี้ ผมจะแนะนําโดยสังเขป และเปนวิธีที่ไดผลเปนที่หนาพอใจก็คือ ใหเราสังเกตคอรดแรกจของเพลงนั้น ๆ วาเปน Chord อะไร เชนเพลงมีอยู 4 คอรดในตอนทอน Intro ดังนี้ Intro :: Dm / A7 / Dm / Gm7 / เรามาดูที่คอรดแรกของเพลง เราจะไดวาคอรดแรกของเพลงคือคอรด Dm (ดี ไมเนอร) ในขั้นตนนี้ใหเราสันนิฐานไดเลยวา นาจะเปนเพลงในคีย D Minor

นี่เปนวิธีการสังเกตคียเพลงงาย ๆ จากหนังสือเพลงที่มีวางขายโดยทั่วไป แตหลักการนี้จะมีขอยกเวนอยูบางกับบางเพลง เพราะเพลงทุกเพลงไมไดขึ้นตนคอรดเปนช่ือเดียวกับ Key เพลงทุกเพลงไป จะมีบางเพลงที่มีผูเรียบเรียงตองการเรียบเรียงใหฟงดูแปลกออกไป เขาอาจจะนําเอาคอรดอื่นของคียไปใสไวที่คอรดแรกของเพลงก็เปนได แตสวนใหญเพลงไทยจะเปนแบบที่ผมยกตัวอยางไป


ขั้นตอไป เมื่อเราทราบคียของเพลงแลวตอไปเราก็เริ่มที่จะไดแนวทางของทํานอง Solo ในเพลงนั้น ๆ แลว เราก็มา

ดูตอไปวาทอน Solo กีตารที่เราจะทําการแกะทํานองนั้นประกอบดวยคอรดอะไรบาง ผมขอยกตัวอยางทางเดินคอรดเดิม คือ Solo :: Dm/A7/Dm/Gm7/ ถาทางเดินคอรดของทอน Solo เปนแบบนี้ ผมก็จะอนุมานไดวา เขานาจะใช Scale ที่เปนในแบบ Hamonic Minor เพราะอะไร...เพราะวา...ใหเราดูที่คอรด A7 ครับ คอรด ๆ นี้ถาเปนในคีย D Minor ปรกติ คอรด A ตองเปน Am ครับ หรือ Am7 หรืออื่น ๆ แตจะไมเปนคอรดทางเมเจอร Dominate 7 ครับ เพราะคอรดเมเจอรโดมิแนนท 7 จะเปนคอรดซึ่งมีโนตนอกคีย D Minor มาประสม คือ ในคีย D Minor จะประกอบดวยโนต 1 flat นั้นคือมี Bb เทานั้น แตในคอรด A7 ที่เปนทางเดินคอรดตัวอยางจะประกอบดวยโนต A - C# - E - G ครับ โนต C# มาจากไหน...??? ในคีย D Minor ไมมีโนตนี้ ถาใครรูเรื่องสเกลมาแลวคงตอบไดไมอยาก โนต C# มาจาก D Minor Hamonic Scale ครับ ลองพลิกกลับไปอานเรื่องสเกลในหนา Theory ดูนะครับ เรื่องโครงสรางของ Hamonic Minor พอเราวิเคราะหทางเดินคอรดออกวาเขาใชสเกลไหนในการเลน Solo ของเขา ตอไปเราก็นําเอาสเกลที่เราคิดวานาจะใชมาทําการแกะเพลงตอไปครับ...

นี่เปนทฤษฎีการนําเอาสเกลมาสใชในการแกะเพลงครับ ใครอานแลวงง ๆ คงตองรื้อฟนเรื่องของสเกลแลวครับ จริง ๆ ผมไมอยากเขียนเรื่องนี่เลย เพราะเกรงวาผูที่ไมมีพ้ืนฐานมาอานเขาแลวจะงง เพราะนี้เปนทฤษฎีดนตรีทางดาน Arraging อยางนึงครับ คือ ไมใชแคเราเลนสเกลไลไปไลมาบนคอกีตารแลวเราจะเขาใจในจุดนี้ได แตเราตองเขาใจในทางเดินของโนตตาง ๆ ของสเกลนั้น ๆ ดวย แถมดวยเรื่องโนตในคอรดตาง ๆ อีก แตก็จงสูตอไปครับ ถาไมเขาใจแนะนําใหอานบทความนี้ประกอบกับบทความเรื่องสเกล และประกอบกับการหัดคิด หัดเขียน หัดสรางสเกลตาง ๆ ดู รับรองวาคุณจะเขาใจมันไดอยางทะลุประตูดินเลยครับ ไวพบกับ ภาคปฏิบัติเร็ว ๆ นี้ครับ

basic guitar solo

Documents