งานนำเสนอ nan

27

Upload: nannee

Post on 05-Jul-2015

6.278 views

Category:

Documents


5 download

TRANSCRIPT

Page 1: งานนำเสนอ Nan
Page 2: งานนำเสนอ Nan

ขม้ินเป็นสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน มีประโยชน์หลายด้าน ทั้งทางด้านยารักษาโรค ด้านเครื่องสำาอาง ด้านอาหารขม้ินที่สำาคัญมี

อยูด่้วยกนั 3 ชนิด 1. ขม้ินอ้อย 2. ขม้ินชัน 3. ขม้ินขาว ขม้ินแต่ละชนิดมีประโยชน์ที่แตกต่างกนัไปแล้วแต่การนำาไปใช้ เรา

จึงได้จัดทำาโครงงานน้ีขึน้มาเพื่อศึกษาประโยชน์ และโทษของขม้ินและเพื่อให้ทุกคนได้รู้ถึงคุณค่าของขม้ินไม่มองขา้มสมุนไพรที่อยูใ่กล้

ตัวเราและรู้จักนำามาใช้ประโยชน์ให้ถูกต้อง ถูกวิธี

Page 3: งานนำเสนอ Nan

1.เพื่อศกึษาสรรพคุณที่มีมายาวนานของขม้ิน 2.เพื่อศกึษาการนำาขม้ินมาใช้ประโยชน์ด้านต่างๆทั้งทาง

ด้านยา ด้านอาหาร ด้านเครื่องสำาอาง 3.เพื่อศกึษาประวตัิความเป็นมาของขม้ิน 4.เพื่อศกึษาวิธีการที่จะนำาขม้ินแปรรูปเป็นยาสมุนไพร 5.เพื่อที่จะรู้ถึงโทษของการใช้ขม้ินเกินปริมาณ 6.เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกดิประโยชน์

Page 4: งานนำเสนอ Nan

1.สืบค้นหาข้อมูลที่ต้องการจะศึกษา 2.ได้หัวข้อโครงงานที่จะศกึษา 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล 4. การวิเคราะห์ข้อมูล 5.สรุปงาน 6.ลงมือปฏิบัติ                 

Page 5: งานนำเสนอ Nan

ชื ่อพ ื ้นเม ือง : ขม้ินม่วง ชื ่อสาม ัญ : Curcuma white

ชื ่อว ิทยาศาสตร ์ : Curcuma mangga Val.&.Zijp. ชื ่อวงศ ์ : ZINGIBERACEAE

รส : รสเผ็ดล ักษณะทางพฤกษศาสตร ์

เป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดิน กลิ่นหอม ลำาต้นสูง ราว 40-80 ซม. พชืชนิดน้ีหน้าแล้งใบจะโทรม พอถึงฤดู ฝน เหง้าที่อยู่ใต้ดินจะแตกใบขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

Page 6: งานนำเสนอ Nan

ใบ เป็นใบเดี่ยวมีก้านยาวหุ้มต้นแบบเวียนสลับ รูปทรงของ ใบเป็นใบพายโคนสอบปลายแหลม กวา้ง 12-15 ซม. ยาว

30-40 ซม. สีเขียว

ดอก ออกเป็นช่อ มีก้านข้อยาวแทงจากเหง้าใต้ดิน เวลาสีเหลืองอ่อนมีกลบีประดับสีเขียวอมชมพูซ้อนทับแบบเวียนสลับหลายกลีบ

สรรพคุณทางยา ขม้ินขาว สรรพคุณ ขับลมในลำาไส้ ขม้ินมีสารชนิดหน่ึง

เรียกวา่ curcumin ป้องกันมะเร็งได้ นำ้าต้มขม้ินมีฤทธิช่์วย กระตุ้นการหลั่งของนำ้าดี ใช้รักษาอาการน่ิวในถุงนำ้าดี และ

โรคกระเพาะอาหารได้ ขม้ินสดยังช่วยขับลม แก้ท้องอืดอกี ด้วย ขม้ินขาวสด เม่ือทาน 100 กรัมให้วติามินซีถึง 16

มิลลิกรัม ส่วนขม้ินชันให้วิตามินซี 12 มิลลิกรัม ประโยชน์ทางอาหาร

เหง้าสด นำามารับประทานเป็นผักสดร่วมกบันำ้าพรกิ หรือนำา ไปยำา แกง

ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร เหง้าสด 

Page 7: งานนำเสนอ Nan

ชื ่อว ิทยาศาสตร ์ : Curcuma zedoaria  (Berg) Roscoe          ชื ่อสาม ัญ : Zedoary, Luya-Luyahan          วงศ ์ : Zingiberaceae  ล ักษณะของ ขมิ ้นอ ้อย ต้น : ขม้ินออ้ย เป็นไม้ล้มลุกสงู 50-70 ซม.

ลักษณะคล้ายขม้ินชัน แต่ต้นสูงกวา่ ขนาดเหง้าและใบ ใหญ่กว่า โดยเหง้าใต้ดินจะโผล่ขึ้นมาเหนือดินเล็กน้อย มี

เน้ือในสีเหลืองอมส้ม กลีบดอกสีนวล มีกลิน่หอม

ใบ : ใบออกเป็นรศัมีติดผิวดิน รูปหอกแกม ขอบขนาน กวา้ง 8-10 ซม. ยาว 30-40 ซม. ก้านใบยาว

8-15 ซม. ท้องใบจะมีขนน่ิม ๆ ในหน้าแล้งใบจะแห้งลงหัวบางครั้งเราก็เรียกว่าขม้ินหัวขึ้น ดอก : ขม้ินอ้อยจะออกดอกเป็นช่อ ก้านดอก

ยาวพุ่งออกจากเหงา้ที่อยู่ใต้ดิน ช่อดอกจะมีใบประดับ ดอก มีสีขาว ตรงปลายช่อดอกจะเป็นสีชมพู ส่วนดอกสีเหลอืงจะ

บานจากล่างขึ้นข้างบน และจะบานครั้งละ 2-3 ดอก

Page 8: งานนำเสนอ Nan

ส่วนที่ใช้ทำายา ใบ มรีสเฝื่อน ช่วยขับปัสสาวะ แก้ชำ้าบวม

เหง ้า มีรสเฝื่อน แก้ครั่นเนือ้ครั่นตัว สมาน ลำาไส้ แกอั้กเสบ แก้ลม แก้เลือดคั่ง เลือดลมไหล

เวียนไมส่ะดวก

Page 9: งานนำเสนอ Nan

สรรพคุณ ของ ขมิ ้นอ ้อย

ร ักษาอาการท ้องร ่วง ท ้องเด ิน ( ที ่ไม ่ใช ่บ ิดหร ืออห ิวาตกโรค) โดยใช้หัวขม้ินออ้ยสด ๆ ประมาณ 2

แว่น มาบดผสมกับนำ้าปูนใส กินแก้ท้องร่วงได้

ร ักษาแผล โดยนำาขม้ินออ้ยไปหุงในนำ้ามัน มะพร้าว แล้วนำามาใส่แผล จะช่วยให้แผลหายเร็ว

เน่ืองจากหัวขม้ินอ้อยเป็นยาฝาดสมานด้วย

ร ักษาฝ ี ถ้าเป็นฝีหัวเดือน ให้นำาใบไผ่มาเผ่า ไฟให้ไหม้ แล้วนำาหัวขม้ินออ้ยมาตำาด้วยกัน แล้วใช้นำ้า

เป็นกระสายยา และใช้ได้ทั้งกินและทา หรือพอก

แก้ฝ ีในมดล ูก โดยใช้ขม้ินอ้อย 3 ท่อน บอ ระเพ็ด 3 ท่อน ลกูขี้กาแดง 1 ลูก ( ผ่าเป็น 4 ซีกแต่ใช้แค่ 3)

นำามาต้มรวมกับสุรา กินแก้ฝีในมดลูกได้

ร ักษาอาการเส ี ้ยนหนามตำา โดยนำาขม้ิน อ้อยมา 5 แว่น ข้าวเหนียวสุก ประมาณ 1 กำามือ ดอกชบา

5 ดอก ใช้ตำาพอก จะดูดเสี้ยนและหนองออกจากแผลได้

Page 10: งานนำเสนอ Nan

ร ักษาอาการปวดบวม ฟกชำ ้า โดยนำาขม้ินสด ๆ มาตำาให้ละเอยีดแลว้นำามาพอกบริเวณปวดบวม ฟกชำ้า

แก้หว ัด โดยนำาหัวขม้ินอ้อย พริกหาง อบเชยเทศ มาต้มและเติมนำ้าผึ้งลงไปผสม นำามารับประทาน

แก้หวัดได ้

แก้ร ิดส ีดวงทวาร นำาขม้ินอ้อย พรกิไทย ล่อน เปลือกยางแดง มาผสมกันทำายาผง แล้วนำาไปละลาย

ในนำ้ายางใส ปั้นทั้งหมดเป็นลูกกลอนขนาดเท่าปลายน้ิวช้ีรับประทานเช้า-เย็น

แก้ห ัดหลบใน นำาต้นต่อไส้ 1 กำามือ ขม้ิน อ้อย 5 แว่นมาต้มรวมกับนำ้าปูนใสพอสมควร แล้วใช้ดื่มครั้ง

ละ 1 ถ้วยชากอ่นอาหารเช้าเย็น

Page 11: งานนำเสนอ Nan

ฆ่าเช ื ้อแบคทีเร ีย เช่น เช้ือแบคทีเรียที่ทำาให้ เกิดฝี หนองทีแ่ผล เช้ืออหิวาตกโรค เช้ือที่ทำาให้ทางเดิน

ปัสสาวะอักเสบ เช้ือที่ทำาให้เจ็บคอ เพราะนำ้ามันหอมระเหย ในขม้ินออ้ย จะมีฤทธิย์ับยั้งเช้ือแบคทีเรยีได้ดี

ฆ่าเช ื ้อรา มีผลวจัิยพบว่า ขม้ินอ้อย มีฤทธิ์ ฆ่าเช้ือราได้ถึง 11 ชนิด และหยุดการเจริญเติบโตของเช้ือ

ราอกี 4 ชนิด ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นเช้ือราที่ทำาให้เกดิโรค ผิวหนัง เช่น กลาก ชันนะตุ เช้ือราที่เลบ็ ผิวหนัง ซอกน้ิว

เท้า นอกจากน้ี ขม้ินชัน ยังมีฤทธิ์ฆา่เช้ือราได้เหมือนขม้ินออ้ย

ขับลม นำ้ามันหอมระเหยในขม้ินออ้ยสามารถช่วยขบัลมในทอ้งได้

บำาร ุงผ ิว นำาขม้ินออ้ย กระชาก พริกไทย หัว แห้วหมู มาทุบรวมกันแล้วดองด้วยนำ้าผึ้ง รับประทานก่อน

นอนทกุคืน จะช่วยให้ผิวสวย

Page 12: งานนำเสนอ Nan

การแพ้ยา

คีรีบูน จงวุฒิเวศย์.(2546). อาการแพ้ทีเ่กิดจาก สมุนไพร สมุนไพรมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับยาทั่วไป คือ

มีทั้งคุณและโทษ บางคนใช้แลว้เกิดอาการแพ้ได้ แต่เกิดขึ้นได้น้อยเพราะสมุนไพรมิใช่สารเคมีชนิดเดียวเช่นยาแผน

ปัจจุบัน ฤทธิ์จึงไม่รุนแรง (ยกเว้นพวกพืชพิษบางชนิด) แต่ถ้าเกดิอาการแพ้ขึ้นควรหยุดยาเสียก่อน ถ้าหยุดแลว้

อาการ หายไป อาจทดลองใช้ยาอกีครั้งโดยระมัดระวัง ถ้าอาการ

เช่นเดิมเกดิขึ้นอกีแสดงว่าเป็นพษิของยาสมุนไพรแน่ ควร

Page 13: งานนำเสนอ Nan

อาการที่เกิดจากการแพ้ยาสมุนไพร มีดังน้ี 1. ผื่นขึ้นตามผิวหนังอาจเป็นตุ่มเลก็ๆ ตุ่มโต ๆ เป็นปื้นหรือ

เป็นเม็ดแบนคล้ายลมพิษ อาจบวมที่ตา (ตาปิด) หรอืริมฝีปาก (ปากเจ่อ) หรือมีเพียงดวงสีแดงที่ผิวหนัง 2. เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน (หรืออย่างใดอย่างหน่ึง) ถ้ามี

อยู่ก่อนกินยาอาจเป็นเพราะโรค 3. หูอื้อ ตามัว ชาที่ลิน้ ชาที่ผิวหนัง 4. ประสาทความรู้สึกทำางานไวเกินปกติ เช่นเพยีงแตะผิวหนัง

ก็รู้สึกเจ็บ ลูบผมก็แสบหนังศรีษะ ฯลฯ 5. ใจสั่น ใจเต้น หรือรู้สึกวูบวาบคล้ายหัวใจจะหยุดเต้น และเป็นบ่อยๆ

6. ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเหลืองและเม่ือเขย่าจะเกิดฟองสีเหลือง (เป็นอาการของดีซ่าน) อาการน้ีแสดงถึง

อันตรายร้ายแรงต้องรีบไปหาแพทย์ อาการเจ็บป่วยและโรคที่ไม่ควรใช้สมุนไพรหรือซ้ือยารับประทานด้วยตนเอง

Page 14: งานนำเสนอ Nan

ขม้ินชันมีประโยชน์และสรรพคุณหลายประการ ดังน้ี ขม้ินชันมีวติามิน เอ, ซี, อี ที่เข้าสู่ร่างกายแล้วจะ

ทำางานพร้อมกันทั้ง 3 ตัว จึงมีผลทำาให้ช่วยลดไขมันในตับ สมานแผลภายในกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร

ทำาความสะอาดลำาไส้ เปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเน้ือ ต้าน อนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งตับ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนัง

กำาจัดเช้ือราที่ปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไปและ สะสมในร่างกายเตรียมก่อตัวเป็นเซลล์มะเร็ง ช่วยขับนำ้านม

สำาหรับสตรีหลังการคลอดบุตรได้ดี รองมาจากการกินหัวปลี

กินขม้ินชันให้ตรงเวลา ที่อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เปิดการทำางานในช่วงเวลาน้ัน จะได้ผลตรงกับประเด็นที่

ต้องการจะบำารุง หรอืแก้ไขฟื้นฟูอวยัวะ รับประทานเพียง 1 แคปซูลเทา่น้ัน จะออกฤทธิ์มากกว่าเวลาอื่นถึง 40 เท่าตัว

แต่ถ้ามีปัญหาหลายอย่างก็รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล ทุก ๆ 2 ช่ัวโมง ถ้ารับประทานขม้ินจำานวนมาก ส่วนที่เหลือ

จะทำาหน้าที่ขับไขมันในตับ

Page 15: งานนำเสนอ Nan

กินขมิน้ชันตามเวลาต่อไปนี้จะได้ผลโดยตรงกับอวัยวะสว่นนั้น เวลา 03.00 - 05.00 น. ช่วยบำารุงปอด ป้องกันการ

เป็นมะเรง็ปอด ช่วยทำาให้ปอดแข็งแรง ช่วยเรื่องภูมิแพ้ของ จมูกที่หายใจไม่สะดวก และช่วยเสรมิสร้างภูมิคุ้มกันที่

ผิวหนัง เวลา 05.00 - 07.00 น. ช่วยแก้ปัญหาลำาไส้ใหญ่

ถ้าเคยกนิยาถา่ยมาเป็นเวลานาน ให้กินขม้ินชันเวลาน้ี ขม้ินชันจะฟื้นฟปูลายประสาทของลำาไส้ใหญ่ แต่ต้องกิน

เป็นประจำา ถงึจะทำาให้ลำาไส้ใหญ่บีบรัดตัวเพื่อขับถ่าย อย่างปกติ แก้ปัญหาลำาไส้ใหญ่กลืนลำาไส้เล็ก หรือ

ลำาไส้ใหญ่มีปัญหาถา่ยมากเกินไปหรือถ่ายน้อยเกนิไป ถ้า ลำาไส้ใหญ่ไม่มีปัญหา ให้กินขม้ินชันพรอ้มกับสูตรโยเกิต +

นมสด + นำ้าผึ้ง + มะนาว หรือนำ้าอุ่นก็ได้ จะไปช่วยล้าง ผนังลำาไส้ที่มีหนวดเป็นขนเล็กๆ อยู่เป็นล้านๆ เส้น ซ่ึงขน

เหล่าน้ีมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารเพือ่ไปสร้างเม็ดเลือด ขม้ิน ชันจะช่วยล้างให้สะอาดได้ ก็จะไม่ค่อยมีขยะตกค้าง จึงไม่

เกิดแก๊สพิษที่ทำาให้เกิดกลิ่นตัว และจะไม่ค่อยเป็นริดสีดวง ทวาร ไม่เป็นมะเร็งลำาไส้

 

Page 16: งานนำเสนอ Nan

เวลา 07.00 - 09.00 น. ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง กระเพาะอาหาร เกิดจากการกินข้าวไม่เป็นเวลา ท้องอืด

จุกแน่น ปวดเข่า ขาตึง ช่วยบำารุงสมอง ป้องกันความจำาเสื่อม

  เวลา 09.00 - 11.00 น. ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนำ้า

เหลืองเสีย มีแผลที่ปาก อว้นเกินไป ผอมเกินไปที่เกี่ยวกับ ม้าม ลดอาการของโรคเก๊าต์ ลดอาการเบาหวาน

  เวลา 11.00 - 13.00 น. สำาหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ

โรคหัวใจ มีหรือไม่มี ถ้ากินขม้ินชันเวลาน้ี จะช่วยบำารุง หัวใจให้แข็งแรง ถ้าเลยเวลา 11.00 น. ไปแล้ว ขม้ินชันจะ

ไปทำางานที่ตับ แลว้ตับจะส่งมาที่ปิด ปอดจะส่งไปยัง ผิวหนัง แต่ส่วนมากมาไม่ถึงเพราะกินขม้ินชันน้อยเกินไป

อวัยวะส่วนอื่นจะดึงไปใช้งานก่อนเลยมาไม่ถึงผิวหนัง จึงต้องลงขม้ินชันทางผิวหนังช่วยอีกทางหน่ึง

เวลา 15.00 - 17.00 น. ช่วยดูแลหูรดูกระเพาะ ปัสสาวะให้แขง็แรง แกป้ัญหาเรื่องตกขาวของสตรี และ

ควรกินนำ้ากระชายเวลาน้ีด้วย จะช่วยดูแลหูรูดกระเพาะ ปัสสาวะให้แขง็แรง ช่วงเวลาน้ีควรทำาให้เหงอืกออกจะดี

มาก เพราะร่างกายต้องการขับสารพิษให้ได้มากที่สุดในเวลาน้ี

Page 17: งานนำเสนอ Nan

  ขมิ ้น (Turmeric หรือช่ือวิทยาศาสตร์วา่ Curcuma

longa) พชืตระกูลขิงข่าที่ส่วนรากและเหง้าถูกนำามาใช้ใน การปรุงอาหาร ให้มีสีเหลืองและกลิ่นหอม สมุนไพรชนิดน้ี

พบทั่วไปในแถบเอเชีย ขม้ินถกูเรียกวา่ "ฮาลด"ิ (Haldi) ในภาษาฮินด ี(ภาษาของชายอินเดียทางตอนเหนือ) ภาษา

จีนเรียกวา่ " เจียง ฮวง" (jiang huang) และภาษาทมิฬ เรียก " มอง จัล" (monjal) โดยมีประวตัิสรรพคุณทางยา

ยาวนานกว่า 5,000 ปี เริ่มต้นที่สรรพคุณในการรักษาแผล แกพ้ิษในเลือกและโรคกระเพาะ ในตำารายาอายุรเวชของ

อนิเดีย (India's Ayurvedic system of medicine) ชาว ฮินดูใช้รักษาอาการ เคล็ด ขัด ยอก และบวม ชาวจีนนำา

ขม้ินมารักษาอาการปวดท้อง ส่วนคนไทยเรานอกจากจะ นำามาสมานแผลแล้วยังใช้ขัดผว พอกหน้าอกีด้วย

         

Page 18: งานนำเสนอ Nan

ขม้ิน และสารประกอบ Curcumin ในขม้ินรวมๆแล้ว เรียก Curcuminoids มีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแด

นท์ (antioxidant) สารต่อต้อนการอกัเสบ ต่อต้านไวรัส และแบคทีเรีย ซ่ึงสามารถทำางานท้าทายโรคมะเร็ว โรคเบา

หวาน โรคข้ออักเสบ โรคเรื้อรังต่างๆ และที่สำาคัญโรคอัล ไซเมอร์ ที่ทำาให้ขม้ินโดดเด่นเตะตานักวจัิย

อ ัลไซเมอร ์ (Alzheimer's disease) ถูกตั้ง ช่ือตามผู้ที่ค้นพบ คือ ดร. อโลอิส อลัไซเมอร์ (Dr. Alois

Alzheimer's) นักวิจัยเวชศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ซ่ึงค้นพบ อาการผิดปกติในสมองผู้ป่วย โดยอัลไซเมอร์จะทำาลาย

สมองของผู้ป่วยไม่ให้ทำางานได้ตามปกติ ผู้ป่วยอาจหลงๆ ลืมๆ สูญเสียความทรงจำา และอาจทำาให้พดูไม่ชัด

Page 19: งานนำเสนอ Nan

ในปี 2548 มีผลงานวิจัยเกีย่วกับขม้ินปรากฏในฐาน ข้อมูล PubMed ของห้องสมุดทางการแพทย์ของสหรัฐ

(NLM National Library of Medicine) จำานวนเกือบ300 ฉบับในปีเดียว เปรียบเทียบกับกอ่นหน้าน้ีห้าปีซ่ึงมี

งานวิจัยเพียง 100 ฉบับเท่าน้ัน เน่ืองจากขม้ินเป็นที่นิยม ในวงการศกึษาวิจัย จนนักวิจัยหลายคนตั้งช่ือตัวเองขำาขำา

ว่า "นักขม้ินศาสตร"์ (Curcuminologists) ขม้ินให้ผลทางบวกกับร่างกายของคนเราและมีระดับ

ความเป็นพษิตำ่า ขม้ินนอกจากจะไม่เป็นแค่เพยีงยารักษา เท่าน้ันแต่ยังเป็นสารสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวมังเองอย่างช้าๆ

และอาจนำาไปสู่การบิดเบื่อนทางพนัธุกรรมที่ซับซ้อน(Multiple Mutations) ได้เช่นกัน งานวจัิยบางช้ินจาก

งานวิจัยทุกฉบับ (1700 ฉบับ) ในฐานข้อมูล Pubmed ได้ เตือนให้ระวงัเรื่องการนำาสารขม้ินไปใช้ในวงกว้าง

เน่ืองจากขม้ินทำางานในระดับชีวโมเลกุล และบางทีขม้ินอาจจะทำาให้โรคแย่ยิ่งกวา่เดิมก็เป็นได้

Page 20: งานนำเสนอ Nan

งานวิจัยช้ินแรกที่พบในฐานข้อมูล PubMed เม่ือ 37 ปีที่แลว้เม่ือกลุ่มนักวิจัยชาวอนิเดียพบว่าขม้ินสามารถลดระดับ

โคเลสเตอรอลในหนูทดลองได้ อีกกา้วหน่ึงของการศกึษาใน 20 ปี ต่อมา ( ปี 2533) เม่ือนายบารัท อักการ์วาล (Bharat Aggarwal)

ศิษย์เก่าจากสถาบันเจเนนเทค (Genentech) ได้วจัิยเพื่อค้าหาช่องทางในการรักษามะเร็งและงานช้ินน้ันก็ได้พาเขากลับมาพบกับสารประกอบขม้ิน

เม่ือปี 2523 บารัทและทีมงานจากเจเนนเทค เป็นกลุม่แรกที่ ได้กลั่นบริสทุธิ๋โมเลกุลสำาคัญสองโมเลกลุ คือ Tumor Necrosis

Factor (TNF) alpha และ TNF beta ซ่ึงได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นสารประกอบท่มีศักยภาพต่อต้านมะเร็งโมเลกุลเหล่าน้ีที่จริงสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้เม่ือถูกนำาไปใช้เฉพาะบริเวณที่เซลล์เป็น

โรค แต่เม่ือปลอ่ยให้กระจายไปกับกระแสเลอืดโมเลกุลเหล่าน้ีจะ เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติโดยช่วยสนับสนุนก่อใหเกดิเซลล์มะเร็ง

โมเลกุล TNF จะไปกระตุ้นการทำางานของโปรตีนชนิดหน่ึงที่เรียก ว่า Nuclear Factor (NF) Kappa B ซ่ึงเราสามารถเปิดการ

ทำางานของกลุ่มยืนส์ที่ทำางานเกี่ยวกบั การอักเสบ(inflammation) และการเพิ่มจำานวนของเซลล์มะเร็ง (Cell Proliferation)

Page 21: งานนำเสนอ Nan

ความสัมพนัธท์ี่พบน้ีทำาให้บารัทย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้น ในปี 2532 เขาได้ย้ายไปที่ศูนย์มะเรง็ เอ็ม ดี

แอนเดอสัน แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส (University of Texas M.D. Anderson Cancer Center) และเริ่มต้น

ศึกษาสารประกอบที่รักษาการอักเสบ เขาตัดสินใจจะ ทดลอง เอาขม้ินจากในครัวมาโรยลงบนเซลล์ ปรากฏว่า

มันสามารถหยุดการทำางานของ TNF และ NF Kappa B อย่างเหลือเช่ือ

บารัท ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาเรื่องที่ขม้ินสามารถยับยั้งการแตกตัวและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

หลายชนิดงานช้ินน้ีทำาให้เกิดจุดหักเหในวงการวิจัย จากการทดลองเล็กๆโดยใช้ขม้ินเป็นองค์ประกอบในการรกัษา

มะเร็งชนิดต่างๆ การทดลองเริม่ต้นที่ความพยายามจะ ป้องกันมะเร็งลำาไส้ และโรคอัลไซเมอร์ และโรคอื่นๆ ใน

การทดลองกับสัตว์ทดลอง พบว่าขม้ินสามารถยับยั้งโรค อักเสบต่างๆได้หลายชนิด เช่น ตับออ่นอกัเสบ

(Pancreatitis) โรคข้ออักเสบ (Arthritis) โรคลำาไส้อักเสบ (Inflammatory Bowel disease) อาการ

ลำาไส้ใหญ่บวม (Colitis) โรคกระเพาะอักเสบ (Gastrtitis) อาการแพ้และไข้หวัด

Page 22: งานนำเสนอ Nan

ศูนย์มะเร็ง เอ็ม ดี แอนเดอสัน ซ่ึงเป็นศูยน์มะเร็งช้ัน นำาของโลก ได้เริ่มประชาสัมพนัธ์เรื่องการใช้ขม้ินมากกว่า

ที่คาดคิด ในเว็บไซต์ในหน้า "FAQ" ได้ระบุวา่ผู้ป่วยจะได้ รับสารขม้ินวันละ 8 กรัม (ซ่ึงในอาหารอนิเดียที่บรโิรคกัน

ตามปกติมากกว่าน้ันถงึ 40 เท่า) ในบางส่วนถึงกับระบุวา่ หลังจาก 8 สัปดาห์ที่สารขม้ิน ผู้ป่วยก็ถูกคาดว่าน่าจะมีการ

พฒันาที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำาคัญ เม่ือถูกถามถึงผลค้างเคียง บารัทกล่าวว่า ในการทดลองเล็กๆโดยสถาบันอืน่ๆ ทีพ่วก

เขาใช้สารขม้ินกบัผู้ป่วยมากถึง 12 กรัม และถ้ามีอาการ ข้างเคียง จากขนาดที่ศนูย์แนะนำาผู้ป่วยก็จะแจ้งให้เขา

ทราบ นักวจัิย (ผู้ซ่ึงรับประทานขม้ินอัดทุกวนั) หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงการทดลองก่อนทีจ่ะได้รับการศึกษาในวงกว้างกับ

ผู้ป่วยและมีการควบคุมตัแปรเป็นอย่างดี ส่วนนายบารัทก็ ยังยืนยังกรานว่า "คนเรารับประทานวิตามินเสริมอาหา

รอืน่ๆตั้งหลายอย่าง แต่ถ้าคุณทางขม้ินแล้วก็ไม่จำาเป็นต้องทานอย่างอื่นอีก"

Page 23: งานนำเสนอ Nan

สมุนไพรชนิดตา่งๆ

1. ใบโหระพา ช่วยให้ลำาไส้ทำางานอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมน

2. ใบกระเจ๊ียบ ทำาให้เลือดสะอาดและไหลเวียนดีขึ้น 3. ใบกระเพรา ช่วยจัดระเบียบการทำางานของอวัยวะ

ภายใน และปรับสมดุลของร่างกาย 4. มะกรูด ช่วยจัดการสารที่หลั่งออกมาจากต่อมไขมันใต้

ผิวหนังให้สมดุล และมีสว่นช่วยทำาให้ผิวหนังเต่งตึง 5. ขิงสด ช่วยทำาให้ร่างกายเย็นลง และทำาให้นำ้าเหลืองหมุนเวียนดีขึน้

6. เปปเปอร์ มินต์ ช่วยในการย่อยอาหาร และรักษาการทำางานของกระเพาะและลำาไส้ให้เป็นปกติ

7. ตะไคร้หอม ทำาให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย แก้อาการนอนไม่หลับ

8. ข่า มีสาร anti-oxidation ที่ช่วยทำาให้ภมิูคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

9. ใบแครอท อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยป้องกนัความแก่ได้

Page 24: งานนำเสนอ Nan

10. ดอกดาวเรือง ช่วยขับเหงื่อ และทำาใหร้่างกายกระปรี้กระเปร่า

11. ตะไคร้ ลดความเครียดและทำาให้ระบบหมนุเวียนเลือดดีข้ึน

12. ขมิน้อ้อย ช่วยเพิม่พละกำาลังใหก้ับร่างกาย13. ใบมะขาม ช่วยในการทำางานของถุงนำ้าดีกระตุ้นในการขจดัสารพษิ

14. ใบเตย ช่วยเพิม่ภมูคิุ้มกนัต้านไวรัส15. ขมิน้ ช่วยในเรื่องระบบประสาท และเพิม่ประสทิธิภาพการทำางานของตับ

16. ใบมะกรูด ช่วยลดความร้อนในร่างกาย และรักษาความดันเลือดใหเ้ป็นปกติ

17. ไพล ช่วยคลายความเครียด ลดความตึงของ กล้ามเนื้อ และลดปวดตามข้อต่างๆ

18. กระชาย ช่วยในเรื่องการทำางานของตับ และลดอาการบวมตามร่างกาย

Page 25: งานนำเสนอ Nan

ได้รู้ประโยชน์ของการนำาขม้ินมาใช้เป็นสมุนไพร ได้อนุรักษ์ขม้ินซ่ึงเป็นสมุนไพรทีอ่ยู่คู่คนไทยมาช้านาน ได้รู้ถึงประโยชน์ของขม้ินหลายๆด้าน ได้รู้ถึงโทษของการใช้สมุนไพรเกนิขนาด ได้ใช้ทักษะกระบวนการทางความคิดริเริ่ม ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

Page 26: งานนำเสนอ Nan

1. กำาหนดหัวข้อที่จะทำาโครงงาน 2. เขียนโครงสร้างของ รปูแบบการทำาโครงงาน 3.วางแผนในการทำาโครงงาน 4. ลงมือปฏิบัติ

Page 27: งานนำเสนอ Nan

สืบค้นจากแหล่งข้อมูล http://www.lef.org/magazine/mag2004/dec2004_report_curcumin_01.htm dated June 24,2007

.

www.YesSpaThailand.com