ทำซักรีดให้รวย (laundry business : how-to)

ทำซักรีดให้รวย

Laundry Business : How-To

Knowing “Us” รู้จักเรา

เจตนารมณส์ำคญัยิง่ของสำนกัพมิพใ์นการจดัทำหนงัสอื คอื ตอ้งการเผยแพร ่สาระประโยชน์ออกสู่สังคม ด้วยการผลิตหนังสือคุณภาพในแนว How-To ทีเ่หมาะสำหรบัการเปน็คูม่อื หรอืแนวทางในการทำงานและใชช้วีติ ซึง่รปูแบบ การนำเสนอ เราได้คัดสรรถ้อยคำผ่านตัวอักษรที่เข้าใจง่าย โดยกลั่นมาจากประสบการณ์จริงของผู้ที่คร่ำหวอดในสาขาอาชีพนั้นๆ เพื่อต่อยอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกับผู้อ่านภายใต้สำนักพิมพ์ในเครือเดียวกัน 2 สำนักพิมพ์ คือ ผลิตหนังสือแนวธุรกิจ (Business How-To) : การจัดตั้งธุรกิจประเภทต่างๆ การบริหาร การจัดการ การตลาด ธุรกิจขนาดเลก็ การคา้และการลงทนุในตา่งประเทศ รวมไปถงึไอเดยีในการทำธรุกจิ ฯลฯ ผลิตหนังสือแนวการใช้ชีวิตทั่วไป (Living) : การสร้างแรงบันดาลใจ การให้กำลังใจ ประสบการณ์ในอาชีพต่างๆ ธรรมะปรัชญา สันทนาการ จิตวิทยา คู่มือในการใช้ชีวิตให้เป็นสุข ฯลฯ ทางสำนักพิมพ์ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านสำหรับการเลือกซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ของเรา และเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสร้างสรรค์สังคมแห่งภูมิปัญญา

ทำซักรีดให้รวย Laundry Business : How-To ลิขสิทธิ์ Copyright c 2008 by busy-day Co., Ltd. ISBN 978-974-312-912-4 จำนวนพิมพ ์ 3,000 เล่ม (กันยายน 2551) พิมพ์ที่ บริษัท พราว เพรส จำกัด

ที่ปรึกษา มงคล ทิวสนเรียง ทวี นพเจริญวงศ์ เจตน์สฤษฎ์ จิดาภาศิริกุล ไชยวัฒน์ พิทยธนากุล เกริกอิสร์ ลีวงศ์เจริญ เมธี ศรีวิริยะเลิศกุล ลี เชาซิน บรรณาธิการบริหาร ไชยกร ปลื้มเจริญกิจ บรรณาธิการ สิริลักษณ์ ปรินรัมย์ กองบรรณาธิการ คมสัน สินสุขภัณฑ์ ผู้เขียน เกษมสุข ชินะพัฒนวงศ์ ผู้เรียบเรียง ฤชุดา บุญเปลี่ยน ออกแบบปก บริษัท ตานี มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ออกแบบรูปเล่ม [email protected] พิสูจน์อักษร Pla & Slash ขาย-การตลาด กิตติกาญจน์ เหมรุ่งเรืองกุล นันท์นิชา บุณยะโภคา บัญชี-การเงิน จารุณี เกตุศิริ สามารถ อุปลา ประสานงาน อาภัสรา ศรีสมบูรณ์ จัดจำหน่ายโดย บริษัท บิสซี่เดย์ จำกัด 56 อาคารญาดา ชั้น 3 ห้องเลขที่ 3/1 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0-2632-7972-4 แฟกซ์ 0-2632-7980 E-mail : [email protected] http://www.busy-day.com กรณีต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก กรุณาติดต่อที่บริษัท ห้องสมุด หรือสถาบันการศึกษาสามารถซื้อที่บริษัทได้ในราคาพิเศษ

เนือ้หาหนงัสอืเลม่นีไ้ดร้บัการคุม้ครองตามกฎหมายลขิสทิธิท์ีเ่กีย่วขอ้ง การผลติและลอกเลยีน ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

คำนำสำนักพิมพ ์ ถึงแม้เศรษฐกิจอาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ แต่ธุรกิจหนึ่งก็ยังมีการเติบโตอย่างเงียบๆ ต่อไปเรื่อยๆ นั่นคือ ธุรกิจซักรีด ทำไมถึงคิดเช่นนี้ ก็ต้องขอแอบบอกสถิติของผู้คลิกดูกระทู้หนังสือธุรกิจซักรีดของทางสำนักพิมพ์ busy-day ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาก่อนว่า มีผู้เข้ามาดูกระทู้นี้หลายร้อยคนด้วยกัน กอปรกับบางท่านอาจยังไม่หนำใจขอโทรศัพท์เข้ามาสอบถามหนังสือซักรีดที่สำนักพิมพ์อยู่เรื่อยๆ ให้รู้กันไปว่าหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจซักรีดมีคนต้องการมากแค่ไหน ดังนั้น หนังสือ “ทำซักรีดให้รวย (Laundry Business : How-To)” ที่ได้จัดทำออกมานี้ ส่วนหนึ่งมาจากเสียงเรียกร้องจากผู้อ่าน และอีกส่วนเป็นการอัพเดทข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้สำหรับผู้ที่สนใจจัดตั้งธุรกิจซักรีดขนาดกลางและขนาดเล็ก นอกจากนี้ ถือว่าเป็นความโชคดีของทางสำนักพิมพ์ที่ ได้คุณเกษมสุข ชินะพัฒนวงศ์ มาเป็นที่ปรึกษาและผู้ให้ข้อมูลคนสำคัญ ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดและมีประสบการณ์การทำธุรกิจซักรีดมากว่า 20 ปี มาเป็นผู้ถ่ายทอดข้อมูล และบอกเล่าประสบการณ์การทำธุรกิจซักรีด ทำให้หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยประสบการณ์มากมายจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ซึ่งต้องยืนยืนอีกครั้งว่าท่านผู้นี้เป็นบุคคลผู้มุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจซักรีดด้วยใจรัก และบริการด้วยคุณภาพจริงๆ เรียนรู้ทุกปัญหา พร้อมแก้ไขทุกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

เมื่อธุรกิจซักรีด เป็นธุรกิจที่มีรายละเอียดยิบยิ่งกว่าธุรกิจใด หากใจไม่รักจริงและอดทนพอ โอกาสปดิรา้นกอ่นกำหนดกย็ิง่เปน็ไปไดม้าก ดงันัน้ การเรยีนรู้และศึกษาความสำเร็จของผู้มีประสบการณ์มาก่อน จึงเป็นการเรียนรู้ทางลัด เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจซักรีดของท่านได้จริงในสักวันหนึ่ง

เรียนรู้ก่อนเริ่มต้น สร้างพลังใจเพื่อการเติบโต บรรณาธิการ

หมายเหตุ : ติดตามความคืบหน้าโครงการอบรมสัมมนาซักรีดของสำนักพิมพ์ได้ที่ www.busy-day.com

คำนำผู้เขียน ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจซักรีดกว่า 20 ปี ทำให้ผมได้พบเจอประสบการณ์มากมายจากธุรกิจนี้ ทุกปัญหาที่พบเจอคือการเรียนรู้และการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนในวันนี้ ผมรู้สึกดีใจที่ได้มีหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจซักรีดอย่าง “ทำซักรีดให้รวย” จากสำนักพิมพ์ busy-day ออกมา อันเนื่องด้วยยุคปัจจุบันผู้คนในสังคมเมืองต่างมีชีวิตที่วุ่นวายอยู่นอกบ้านตลอดทั้งวัน และการมีแม่บ้านมาดูแลบ้านแทนก็หายากและเสี่ยงมากขึ้น ดงันัน้ จงึเกดิธรุกจิซกัรดีขึน้มากมายทัว่ทกุซอกซอยในกรงุเทพฯ และเมอืงใหญ ่อื่นๆ แต่จะมีสักกี่ร้านที่เป็นมืออาชีพและรู้จริง ผมจึงคิดว่า หนังสือเล่มนี้ จะได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เนื่องด้วยธุรกิจซักรีดเป็นธุรกิจที่มีรายละเอียดอีกมากมาย ที่คงไม่สามารถบอกได้หมดภายในเล่มเดียว แต่การได้อ่านและศึกษาก่อน ก็เท่ากับเป็นการเริ่มต้นของการเรียนรู้การทำธุรกิจซักรีด ซักแห้งได้ ไม่ว่าจะคิดให้ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจหลักที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ หรือเป็นธุรกิจเสริม ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ท่านผู้สนใจต้องใฝ่รู้ มีความอดทน ท่านก็จะประสบความสำเร็จในที่สุดเช่นกัน

เกษมสุข ชินะพัฒนวงศ์

สารบัญ บทนำ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตธุรกิจซักรีด 13 บทที่ 1 ประเมินความเสี่ยงก่อนเอาจริง 19 ภาพรวมธุรกิจ (Industry Overview) 19 วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจ (SWOT) 24 ซักรีดแบบไหนที่ใช่ตัวเรา 26 ค้นหาทำเล หัวใจของธุรกิจ 35 คุณสมบัติเจ้าของกิจการซักรีด 37 บทที่ 2 เรียนรู้เรื่องเงินก่อนลงทุน 39 เงินทุนเริ่มต้น 39 ผลตอบแทนและระยะเวลาคืนทุน 43 การคำนวณค่าใช้จ่ายและรายได้ 43 การวางแผนทางการเงิน (Financial Plan) 45 - การลงทุนเริ่มต้น (Initial Investment) 45 - ที่มาของเงินลงทุนและเงินทุนหมุนเวียน (Cash Flow) 46 - ประมาณการรายได้ 48 - ประมาณการรายจ่าย 48 แผนสำรองเมื่อประสบภาวะขาดทุน 50

บทที่ 3 เปิดร้านดำเนินงาน 53 การเลือกซื้อเครื่องซัก อบ รีด และอุปกรณ์ 53 บริหารพนักงานซักรีดให้ได้ใจ 66 การตั้งราคาบริการ 68 การคิดค่าบริการ Service Charge 70 บทที่ 4 ทำตลาดให้เป็น 73 หลากกลยุทธ์การตลาดซักอบรีด 73 การขยายตลาดและบริการ 75 การขยาย Line ธุรกิจ 76 บทที่ 5 รู้จริงแบบมืออาชีพ 79 ขั้นตอนการทำงาน 79 - การรับผ้า 80 - การซักผ้า 86 - การรีดผ้า 88 - การส่งผ้า 90 รู้เรื่องซักน้ำ-ซักแห้ง 93

บทที่ 6 บริการประทับใจ และแก้สารพันปัญหา 97 บริการประทับใจลูกค้า 97 - กลยุทธ์มัดใจลูกค้า 98

สารพันปัญหาในร้านซักรีด 103 - ปัญหาเรื่องผ้า ผ้า 103 - เรื่องยุ่งๆ ของน้ำยาเคมี 107 - เรื่องยุ่งๆ ในการรีด 107 - ตัดราคา ตัดรายได้ 109 - เรียนรู้ปัญหาจากเครื่องซัก 110 ภาคผนวก 123 อัตราค่าบริการซักอบรีดโดยทั่วไป คำศัพท์ภาษาอังกฤษกับงานซักรีด ประเภทของเส้นใยที่ควรรู้ เรียนรู้เรื่องสีผ้า การขจัดรอยเปื้อน ทุกเคล็ดลับเพื่องานซักรีด ตัวอย่างการดูแลรักษาผ้าชนิดต่างๆ สัญลักษณ์การซักรีด (Laundry Care Label Symbols) การจัดตั้งบริษัทและการเสียภาษี รายชื่อสถาบันการเงินที่ให้คำปรึกษาและกู้ยืม

12 ทำซักรีดให้รวย 13

บทนำ

ธุรกิจร้านซักรีดในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ผมขอเขียนถึงเฉพาะในกรุงเทพฯ โดยประมาณ 30 ปีมาแล้ว ส่วนใหญ่ผู้ที่ทำร้านซักรีดในสมัยก่อน และประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบันนี้มีอยู่เพียงไม่กี่ท่านที่ยังดำเนินธุรกิจซักรีดอยู่ ซึ่งก่อนที่บุคคลเหล่านี้จะประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ได้ ต่างก็ต้องมีความมานะอดทนมาก เพราะในสมัยก่อนการทำซักรีด ต้องอาศัยวิชาลักจำ แล้วลองผิดลองถูก เสียหายก็มาก ผิดเป็นครู ผิดแล้วก็แก้กันไป ใช้สารเคมีล้วนๆ กัดมือ กัดผิวหนัง กัดเล็บ เช่น ใช้เซ่าซึง เคมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ น้ำมันก๊าด น้ำมันทินเนอร์ เป็นต้น ซึ่งสารเคมีเหล่านี้ในสมัยก่อนไม่มีการปรุงแต่งให้อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม และง่ายต่อการใช้งานเหมือนทุกวันนี้

ธุรกิจร้านซักรีดในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

14 ทำซักรีดให้รวย 15ธุรกิจร้านซักรีดในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ดังนั้น เวลาซักผ้าก็ใช้ขี้เถ้าผสมน้ำ ใช้สบู่ทำเอง สบู่กรด มาระยะหลังถึงมีผงซักฟอก ส่วนใหญ่โรงซักใหญ่ๆ ในสมัยก่อนทำผงซักฟอกเอง นำเคมีต่างๆ มาผสมกัน สีตก ผ้าด่างก็แก้กันไป ถือว่าเก่ง บางท่านที่แกร่งวิชา เริ่มออกมาหาประสบการณ์ชีวิตด้วยตนเอง เปิดร้านซักรีด ซักแห้ง ด้วยฝีมือการรีดผ้าที่เรียบมาก ผ้าสีขาว ขาวสวยงาม เตารีดก็ใช้แบบวางถ่านอยู่บนหลังเตารีด บางรุ่นก็ต้องนำไปอังไฟที่เตาถ่านเพื่อให้ได้ความร้อน แล้วนำผ้าขาวบางมาวางบนผ้าก่อนรีดเพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าเหลือง ไม้แขวนเสื้อก็เป็นไม้ เวลาแขวนกางเกง กระโปรงต้องใช้เชือกผูกปลาย นำเข็มตะปูกลัดที่ขอบเอว ผ้าซักแห้งส่วนใหญ่ซักน้ำ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงซักขนาดใหญ่ และทุกวันนี้ก็ยังใช้วิธีนี้อยู่ เช่น ผ้าไหมไทยใช้อ่างน้ำ 2 หลุม หรือรางน้ำแถวยาว เปิดน้ำให้ไหลผ่านตลอดเวลาเพื่อป้องกันสีตกใส่ตัวมันเอง ไม่บิดผ้า และ ใช้วิธีเอาผ้าขนหนูดูดซับน้ำไว้ ส่วนผ้า Wool ก็ใช้กรรมวิธีเดียวกัน ในร้านซักรีดสมัยก่อน เมื่อเข้าไปในร้านมักมีกลิ่นแปลกๆ เหมือนกันเกือบทุกร้าน คือ บางร้านใช้น้ำมันเบนซินขาว (White Spirit) ในการซักแห้ง ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ ชนิดแห้งเร็ว และแห้งช้า เป็นสารค่อนข้างจะไวไฟ ในปัจจุบันนี้ ตามร้านซักรีดทั่วไปก็ยังใช้น้ำมันเบนซินขาวกันอยู่ ซึ่งที่ใช้ กันอยู่ เนื่องมาจากไม่ค่อยยอมรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือบางร้านอาจ มองว่า ของเดิมใช้ได้ไม่จำเป็นต้องรองรับสิ่งใหม่ ซึ่งตามความจริงของใหม่มักจะดีกว่ามาก แต่อุปกรณ์ที่ใช้ค่อนข้างจะมีราคาแพง จึงไม่อยากลงทุน และบางรา้นมกัชำนาญในการทำงานระบบเกา่มากเกนิกวา่จะเปลีย่นความคดิ

แต่อย่าลืมว่า หากเราไม่พัฒนาและนำเครื่องมาช่วยในการทำงาน เราก็ ไม่สามารถที่จะรับงานได้มาก บางร้านอาจพูดได้ว่า “ทุกวันนี้ก็รับงานมากได้อยู่แล้ว” แต่มีจำนวนจำกัด ผมคิดว่าต้องใช้บุคลากรจำนวนมากมาทำงาน พร้อมทั้งใช้เวลานานในการทำงาน อีกทั้งยังมีของเสียหายเกิดขึ้นบ่อย ถ้าท่านใช้เครื่องมือที่ทันสมัยขึ้น งานที่ทำ จากยากก็จะเป็นง่าย และชัว่โมงการทำงานกจ็ะเรว็ขึน้ ประหยดัทัง้เวลา คา่แรงงาน พลงังานไฟฟ้า ในอนาคตอันใกล้นี้ ยังมีการพัฒนาระบบการซักรีดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และประหยัดพลังงาน รวมทั้งใช้บุคลากรไม่มาก ทำงานได้รวดเร็ว หากเรายังไม่คิดที่จะพัฒนาแนวความคิดเพื่อรองรับกับนวัตกรรมใหม่ แถมยังมีเครื่องรุ่นใหม่ๆ มาพัฒนาการทำงานให้รวดเร็ว อีกทั้งยังประหยัดพลังงาน เราก็คงย่ำอยู่กับที่ สู้คู่แข่งได้ลำบากไม่น้อยเลย ผมคิดว่าอนาคตธุรกิจซักรีด ยังมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้ 1. เป็นธุรกิจที่มีลูกค้ารออยู่แล้ว เนื่องจากปัญหาคนรับใช้หายากขึ้น 2. เป็นธุรกิจที่อนาคตสดใสมากยิ่งขึ้นเนื่องจากผู้คนเริ่มไม่มี เวลา ในการทำงานบ้าน 3. เป็นธุรกิจที่ใช้เครื่องมาช่วยทำงานแทนคนได้ 4. เป็นธุรกิจที่มีการตามตลาดเสื้อผ้า แฟชั่น ทำให้เราดูแลลูกค้าให้ได้ ใส่เสื้อผ้าราคาแพงได้


5. เป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนงาม ขยันมากได้มาก 6. เป็นธุรกิจที่สามารถสืบทอด มรดก ตกทอดไปยังลูกหลานได้ 7. เป็นธุรกิจที่ทำที่บ้านได้ 8. เป็นธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นเพื่อน 9. เป็นธุรกิจที่ทันสมัยก้าวทันโลกสมัยใหม่ 10. เป็นธุรกิจที่สามารถรองรับงานมากกว่าซักรีดอย่างเดียว 11. เป็นธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนตามภาวะเศรษฐกิจได้ดี 12. เป็นธุรกิจที่สามารถทำทั้งครอบครัวได้



บทที่ 1

ประเมินความเสี่ยงก่อนเอาจริง ภาพรวมธุรกิจ (Industry Overview) โครงสร้างของตลาด ในช่วงปัจจุบัน ที่ภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง และภาวะเงินเฟ้อ ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้คาดการณ์ว่า กลุ่มธุรกิจการค้าและการบริการโดยรวมจะทรงตัว แต่สาขาที่ต้องระวังคือ โรงแรม ภัตตาคาร บริการเช่าสินทรัพย์ บริการคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ บริการการศึกษา บริการเสริมสขุภาพสปาและสงัคม ตลอดจนรา้นคา้ปลกีและคา้สง่ขนาดเลก็ ดังนั้น ส่วนธุรกิจระดับ SMEs ต้องมีการปรับตัวให้แข็งแกร่งพอสำหรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งผลกระทบในเชิงบวกและเชิงลบที่เป็นทั้งโอกาส และขอ้จำกดัในการดำเนนิธรุกจิ โดยตอ้งมีกลยุทธ์และแผนธุรกิจที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์

ประเมินความเสี่ยงก่อนเอาจริง

20 ทำซักรีดให้รวย 21ประเมินความเสี่ยงก่อนเอาจริง

รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพภายในเรื่องการบริหารจัดการให้สามารถแข่งขันได้ ทั้งในเรื่องการลดต้นทุน และการเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการที่ใช้ความรู้เป็นพื้นฐานสำคัญ ขนาดของตลาด ในปัจจุบันมีอาคารที่พัก คอนโดมิเนียมต่างผุดขึ้นมาตามเส้นทางรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รวมไปถึงมีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์มากมายนับไม่ถ้วน รวมแล้วเป็นร้อยๆ โครงการ และผู้คนรุ่นใหม่ต่างนิยมอยู่อาศัยในอาคารคอนโด-มเินยีมสงูใจกลางเมอืงเพือ่ความสะดวกสบายในการเดนิทาง และไปทำงานมากขึ้น เมื่อคนรุ่นใหม่เลือกอยู่ห้องในคอนโดมิเนียมสูง ความคับแคบของสถานที่ เวลาวา่งทีม่นีอ้ย ทำใหค้นในเมอืงตอ้งการความสะดวกสบาย การไดพ้กัผอ่น มากขึ้น และการลดการทำงานบ้านให้น้อยลง ดังนั้น ธุรกิจซัก อบ รีด จึงได้เข้ามาตอบสนองความต้องการส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี หากแค่เพียงเลือกทำเลถูก มีการบริหารการจัดการธุรกิจได้อย่างเหมาะสม และให้บริการประทับใจลูกค้า กำไรเป็นกอบเป็นกำในระยะยาวก็คงอยู่ในมืออย่างแน่นอน

ความต้องการของตลาด และซัพพลายที่มีอยู่ แนวโน้มที่สำคัญของธุรกิจ ในช่วงปี 2550-2551 ธุรกิจซักรีดที่ได้ลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์ในหนังสือ Yellow Pages มีจำนวน 348 แห่งทั่วประเทศ โดยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 130 แห่ง ส่วนบรรดาโรงแรมที่ถือเป็นลูกค้าของธุรกิจซักรีดบางส่วน มีอยู่ 282 โรงแรม มีห้องรวมกันกว่า 56,799 ห้อง (ข้อมูลเดือนมิถุนายน 2550 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย) ซึ่งโรงแรมส่วนใหญ่ที่เปิดใหม่ก็มักเป็นโรงแรมขนาดเล็กลง อยู่ใจกลางเมือง และตัดแผนกซักรีดออกไป โดยหนัไปเนน้จา้งซกัรดีนอกโรงแรมแทน ประกอบกบับรรดาคอนโดมเินยีม ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ดตามเส้นทางรถไฟฟ้า ทั้งบนฟ้าและใต้ดิน ก็บอกได้คร่าวๆ ว่าตลาดซักรีดมีมากมายเพียงใด และยังเป็นการตลาดที่หาได้งา่ยมากขึน้อกีดว้ย ซึง่คณุถวลิ จวนรมณยี ์ ผูจ้ดัการทัว่ไป บรษิทั อเีลคโทรลกัซ ์ประเทศไทย จำกัด ให้ความเห็นที่น่าสนใจสำหรับโอกาสทางการตลาดของธุรกิจซักรีดไว้ว่า “แนวโน้มของโรงแรมในบ้านเรา ขนาดจะเล็กลง เก่งๆ ก็ 80 ห้อง 50 ห้อง หรือบางแห่ง 30 ห้องเป็นแบบบูติก อยู่ใจกลางเมือง แวดล้อมด้วยบรรยากาศดี ที่ธุรกิจซักรีดต้องมองให้ออกว่ามันเป็นโอกาสทางธุรกิจ”


นั่นอาจบอกได้ว่า ธุรกิจซักรีดกำลังเติบโตขึ้นอย่างเงียบๆ โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยว ที่มีโรงแรมที่พักตั้งอยู่จำนวนมาก เนื่องจากโรงแรมเล็กๆ เหล่านี้มักส่งผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าขนหนู ให้กับร้านซักรีดภายนอกรับผิดชอบ เนื่องจากมองว่าการซักรีดเป็นงานที่ยุ่งยาก แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามหากคิดจะเริ่มต้นธุรกิจซักรีด คือ ธุรกิจนี้มีคู่แข่งขันเป็นต่างชาติร่วมด้วย เพราะรัฐบาลได้เปิดทางให้ต่างชาติเป็นเจ้าของและ มีอำนาจจัดการได้ 100% โดยไม่มีข้อจำกัดและเงื่อนไขใดๆ นอกจากนี้ เมื่อมุมมองของคนส่วนใหญ่เมื่อมองเข้าไปในธุรกิจซักรีด อาจเห็นได้ว่าเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง หาทำเลไม่ยาก ใช้บุคลากรเพียง 2-3 คน ได้ผลตอบแทนด ีคืนทุนในระยะเวลาที่สั้นคือ 1-2 ปี รวมทั้งเป็นงานอิสระหรือเป็นอาชีพที่สองได้เลย แต่การมองแค่นั้น แน่ใจหรือว่าเพียงพอที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจซักรีด เพราะคุณถวิล จวนรมณีย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด กลับมองว่า “ปัจจุบัน ธุรกิจซักรีดส่วนหนึ่งมักเป็นพวกเกิดง่ายตายเร็ว คือ เปิดร้านไปสักพักแล้วไปต่อไม่ไหว ต้องเลิกไป เป็นการทำธุรกิจแบบฉาบฉวย ไม่ใช่ มืออาชีพที่แท้จริง คือ ไม่รู้เรื่องซักผ้าจริง แค่ซักผ้าเป็นเหมือนคนทั่วไปเท่านั้น และไม่รู้ลึกลงถึงรายละเอียดการทำธุรกิจซักรีดอย่างมืออาชีพ ไม่มีความอดทนเพียงพอ อย่างแรกสุด เครื่องไม้เครื่องมือที่คนส่วนใหญ่เปิดร้านไม่ได้เป็นเครื่องมือ ที่มืออาชีพเขาใช้ จริงๆ แล้วซักรีดเป็นงานที่หนัก คนที่คิดว่ามีแค่เงินแล้วเปิดร้าน จ้างคนมาทำ พวกนี้ไปไม่รอด ธุรกิจนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจจะทำจริงๆ มีเวลาแต่ไม่ถึงขนาด 24 ชม.ที่ต้องอยู่ร้าน มันสามารถแบ่งเวลาได้ แต่ว่าอย่างน้อยตัวเองต้องรู้ ต้องทำเป็น”

ปั จจุ บัน ธุ รกิ จซั ก รี ดของ ไทย สว่นใหญท่ีเ่ปดิอยูย่งัไมใ่ชม่อือาชพีที่แท้จริงและมีมาตรฐานมากนัก ยกเว้นกลุ่มธุรกิจซักรีดรายใหญ่ๆ ที่มีสาขาเยอะ และโรงแรมที่มีมาตรฐานงานซักรีด มีความรู้จริง นอกจากนี้ ภาครัฐบาลยังไม่ให้การส่งเสริมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะบุ ค ล า ก ร ท า ง ด้ า น ก า ร ซั ก รี ด เหมือนกับอาชีพอื่นๆ เช่น ทำผม ตัดผ้า หรือทำอาหาร ดั งนั้น แนวโน้มของธุรกิจซักรีดยังต้องพัฒนาอีก และที่สำคัญบ้านเรายังขาดผู้ เชี่ยวชาญที่ เป็นมืออาชีพและรู้จริงในงานซักรีด

Laundry Business

: How-To


วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจ (SWOT) จุดแข็งของธุรกิจ (Strengths)

- ธุรกิจซักรีดเริ่มต้นตามขนาดของธุรกิจ เลือกได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ใช้เงินทุนเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 5 แสนบาทเป็นต้นไป - เจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องลงลึกในธุรกิจ หรือมีประสบการณ์มากนัก เพียงอาศัยความรอบรู้ และใฝ่หาความรู้พัฒนางานอยู่เสมอเท่านั้น - เจ้าของธุรกิจสามารถคืนทุนได้เร็วภายในช่วงเวลา 1-3 ปีแรก ขึ้นอยู่ กับความชำนาญในการทำตลาดเป็นหลัก - เจ้าของไม่จำเป็นต้องอยู่ดูแลร้านตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มีเวลาว่าง ในการทำธุรกิจต่อเนื่องและสร้างสรรค์การตลาด หรือธุรกิจอื่นๆ ได้ เพิ่มเติม - ผู้ที่เติบโตได้ดีในธุรกิจนี้ ต้องมีความอดทน เรียนรู้จริงจึงจะสามารถ สร้างรายได้ที่ดี อยู่ได้นาน และเป็นมืออาชีพตัวจริง จุดอ่อนของธุรกิจ (Weaknesses)

- ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของธุรกิจอยู่ที่ค่าแรงในการรีดผ้า - บุคลากรผู้มีความชำนาญด้านการรีดหายาก และมีการเปลี่ยนงานบ่อย เพื่อขึ้นค่าแรง - เป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าที่ เป็นทรัพย์สินมีมูลค่าของลูกค้า หากทำหายอาจมีผลต่อชื่อเสียงของ ร้านค้าได้เสมอ และต้องชดใช้ในราคาของสินค้าที่หายไปตามตกลงกับ ลูกค้า - ผู้ที่ทำงานในธุรกิจต้องเป็นบุคคลที่มีความอดทนสูงในการทำงาน เพราะต้องทำงานซ้ำๆ กันทุกวัน

- หากใช้เครื่องซัก-อบที่ไม่เหมาะสมกับงานซักรีด อาจทำให้เครื่อง มีปัญหาง่าย พังเร็ว - แม้ดูเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่ายๆ แต่กระบวนการทำงานของธุรกิจที่มีหลาย ขั้นตอนและต้องใช้ความพิถีพิถันอยู่ตลอด ประกอบกับหาพนักงาน รีดผ้ายาก ทำให้บางรายต้องปิดตัวไปโดยง่ายเช่นกัน โอกาส (Opportunities)

- ผู้คนต่างเร่งรีบในแต่ละวัน ไม่มีเวลาในการซักรีดเสื้อผ้า ทำให้มีโอกาส ทางการตลาดเพิ่มขึ้นทุกวัน - จำนวนโรงแรมขนาดกลาง ขนาดเล็ก และสถานบริการอื่นๆ ที่ เกี่ยวข้องเช่น ร้านเสริมสวย ร้านสปา มีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นอีกหนึ่ง โอกาสทางการตลาดที่น่าสนใจ - สภาวะอากาศที่แปรปรวน ประเทศไทยต้องเจอกับฤดูฝนที่ยาวนาน ถึง 6 เดือนต่อปี ทำให้ธุรกิจซักรีดได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อุปสรรค (Threats)

- ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาจส่งผลให้คนจับจ่าย ใช้สอยอย่างพิถีพิถันและอาจตัดค่าใช้จ่ายบางส่วนออกไป ซึ่งอาจรวม ถึงการจ้างซักรีดด้วย - เมื่อเป็นธุรกิจที่เข้ามาง่าย ทำให้มีจำนวนคู่แข่งขันในตลาดมาก โอกาส การทำตลาดด้วยการตัดราคาย่อมมีสูง - ระดับค่าครองชีพในประเทศสูงขึ้น ทำให้ค่าแรงงานมีแนวโน้มสูงขึ้น ด้วย


ซักรีดแบบไหนที่ใช่ตัวเรา ร้านซักรีดส่วนใหญ่เป็นการลงทุนแบบอิสระ เจ้าของคนเดียว ไม่จำเป็นต้องทำวิจัยการตลาดที่ยุ่งยากเกี่ยวกับ ทำเล ที่ตั้ง กลุ่มเป้าหมาย สภาพการแข่งขัน แต่หากต้องร่วมหุ้นมักเป็นคนใกล้ชิด เช่น ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท เป็นต้น และบางรายมักทำร้านซักรีดเป็นอาชีพเสริมมากกว่า แต่หากใครที่สนใจธุรกิจร้านซักรีด คงต้องเริ่มต้นถามตนเองก่อนว่า มีความสนใจทำซักรีดแบบใด เพราะปัจจุบันที่เห็นได้ชัดเจนคือ การทำร้านซักรีดที่รับผ้าเป็นประจำหรือรายชิ้น ซึ่งอาจเป็นเจ้าของร้านเอง หรือ รับสิทธิ์แฟรนไชส์มา และร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญ ซึ่งอย่างหลังนับวันจะมีมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากเป็นการทำที่ไม่ยุ่งยาก เพียงมีพื้นที่วางเครื่องตามชุมชน แหล่งที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ ก็สามารถทำได้ ซึ่งความเป็นจริง ร้านซักรีดที่ควรทำ ควรเป็นอย่างไร เรามาลงลึกกันทีละส่วนดังนี้ ธุรกิจเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ “ระบบหยอดเหรียญบ้านเราไม่ได้มาตรฐาน ผู้ลงทุนเครื่องหยอดเหรียญ ไม่กล้าลงทุนใช้เครื่องมือที่ดีและมีมาตรฐาน เพราะระบบหยอดเหรียญบ้านเรามักซื้อเครื่องใช้ตามบ้านมาทำ แล้วเครื่องซักผ้าที่มีรอบสลัดของผ้าที่ออกมาผ้าแห้งมาก พอเอาไปแขวนตากผ้าก็ซีดลง เพราะผ้าที่แห้งเกินไป

จะทำลายเสน้ใยของผา้ แตใ่นปจัจบุนั เครือ่งซกัตามบา้นทีม่าทำเครือ่งหยอดเหรียญมีการพัฒนามากขึ้น โดยมีระบบการปรับระดับน้ำและรอบสลัด” “งานซักผ้าหยอดเหรียญ ต้องคิดให้ละเอียดทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่ใช่แค่การซื้อเครื่องไปตั้งเอาไว้ตามมีตามเกิดแบบที่เราเห็นๆ กันอยู”่ เพียง 2 ประโยคจากผู้อยู่ในแวดวงซักรีดมากว่า 20 ปี อาจทำให้ผู้ที่กำลังจะทำธุรกิจซักรีดแบบหยอดเหรียญต้องคิดให้หนักอีกครั้ง เพราะหากต้องการสร้างธุรกิจที่ดีในระยะยาว ธุรกิจซักผ้าแบบหยอดเหรียญที่ควรจะเป็นก็คงไม่ใช่รูปแบบที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน แม้ธุรกิจซักผ้าแบบหยอดเหรียญอาจเริ่มต้นด้วยเงินทุนเพียง 5 หมื่นบาท และติดเครื่องหยอดเหรียญก็สามารถใช้ได้แล้ว แต่สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องระมัดระวังคือ กลโกงของลูกค้าบางคนที่อาจใช้ฝาขวดต่างๆ มาใส่แทนการหยอดเหรียญเงินบาทแทน


นอกจากนี้ เครื่องหยอดเหรียญที่แท้จริงต้องเป็นเครื่องอุตสาหกรรมที่มีโปรแกรม และมีขนาดแตกต่างกันไปทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ เพราะเสื้อผ้าบางชนิดใส่รวมกันไม่ได้


เช่น - ใช้โปรแกรมอ่อนนุ่มแต่เอากางเกงยีนส์ไปซักรวมกับผ้าหนาไม่ได้ เพราะมันจะตีให้เสื้อผ้าเก่า และโทรม เป็นขนได้ - หากซักเสื้อผ้าที่อ่อนนุ่มก็ต้องใช้น้ำยาอีกประเภทหนึ่งต่างหาก - ผ้าขนหนูซักรวมกับเสื้อผ้าที่เป็นผ้าเนื้อบางหรือเสื้อยืด ขนของ ผ้าขนหนูก็ไปติดเสื้อยืดได้ ดังนั้น ผ้าขนหนูควรซักกับผ้าขนหนู หรือรวมกับปลอกหมอนหรือผ้าห่มได้ดีกว่าผ้าอย่างอื่น

“ระบบหยอดเหรยีญบา้นเราไมไ่ดม้าตรฐาน เพราะวา่ไมม่เีครือ่งอบ สลดัผา้ออกมาผ้าแห้งเกินไป แล้วผ้าเสียหาย ของฝรั่งเขามีตู้เครื่องซักผ้าให้เลือกเยอะแยะ ถ้าเรามีผ้าเยอะเราเลือกตู้ใหญ่ขึ้น ผ้าจำนวนน้อยก็ใช้ตู้เล็กลง หรอืผา้ทีเ่ราซกัเปน็ชดุชัน้ใน เขาจะมขีนาด 6-7 กโิลกรมัใหแ้ยกซกัตา่งหาก ซึ่งถูกต้อง แต่เมืองไทยเป็นลักษณะเอาเครื่องไปตั้ง แล้วทุกคนก็มาหยอดเหรียญใช้บริการ เป็นสิ่งที่เรียกว่าไม่ใช่มืออาชีพ” หากคิดจะทำธุรกิจซักผ้าหยอดเหรียญ ควรจัดเป็นร้านหยอดเหรียญ ที่อาจทำธุรกิจอื่นๆ รวมอยู่ในร้านเดียวกันได้ เช่น ร้านหนังสือ ร้านกาแฟขณะรอผ้าเสร็จ หรือมิเช่นนั้น อาจไปรวมอยู่กับร้านอาบน้ำสุนัข หรือร้านวิดีโอ กอ็าจทำได ้เพราะเจา้ของผา้ควรเฝา้รอจนผา้ซกัเสรจ็ และรา้นหยอดเหรยีญ ควรมีโต๊ะสำหรับพับผ้าให้กับลูกค้าเพื่อเก็บเรียงใส่ตะกร้ากลับบ้าน และเป็นการพัฒนาธุรกิจซักผ้าหยอดเหรียญในบ้านเราให้ทันสมัยและมีระบบได้มากกว่านี้ “ทุกวันนี้ ร้านที่ทำหยอดเหรียญอยู่ ทุกคนได้ทุนคืนหมด เพราะทำแบบ ไม่ได้มาตรฐาน แต่ได้ถอนทุนเร็ว แล้วไม่เคยคิดจะปรับตัวได้ดีกว่านี้ ลงทุน 5 เครื่อง ถอนทุนเสร็จภายใน 8 เดือน เครื่องเจ๊งปิดเครื่องไปซื้อเครื่องใหม่ลงอีก”

จุดที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ดีควรเป็นเครื่อง ซักผ้าฝาหน้าเช่นเดียวกับร้านซักรีดมืออาชีพทั่วไป เพราะเครื่องซักผ้าหยอดเหรยีญทีใ่ชฝ้าบนอยา่งทีเ่ปน็อยูเ่มือ่ตอ้งรองรบัการซกัทำความสะอาดอย่างหนักและบ่อยครั้ง ก็ทำให้เกิดการทับถมสิ่งสกปรกไว้ในตัวเครื่องที่มีตัวกรองสิ่งสกปรก และผลที่ได้คือ ยิ่งซักผ้า ผ้ายิ่งสกปรกและหมองลง ธุรกิจซักผ้าแบบแฟรนไชส ์ การซื้อแฟรนไชส์อาจช่วยเรื่องการใช้ชื่อแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงการซักรีดมากระตุ้นความสนใจจากลูกค้า และวางใจในเรื่องการอบรมซัก อบ รีด ก่อนเปิดร้าน ซึ่งแนวทางการเปิดร้านซักรีดแบบแฟรนไชส์จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบที่แฟรนไชส์มาทำเอง และแบบเปิดเป็นร้านรับผ้าส่งให้กับ แฟรนไชส์อีกที แล้วกินส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งก่อนตัดสินใจทำธุรกิจซักรีดแบบแฟรนไชส์ควรจะลองเปรียบเทียบหลายๆ เจ้า เพื่อดูเงื่อนไข ผลตอบแทนที่จะได้รับ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดของการลงทุน การเปิดร้านซักรีดแบบแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะมีเงินลงทุนตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป (ไม่รวมค่าตกแต่งสถานที)่ ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจจะแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1. ค่าตกแต่งร้านและอุปกรณ์ดำเนินงาน เช่น บัตรสมาชิก โบรชัวร์ ใบปลิว ใบรับงาน เป็นต้น 2. เงินประกันสินค้า 3. ค่า Loyalty Fee ซึ่งคิดจากรายได้ทั้งหมด ก่อนหักค่าใช้จ่าย อาจอยู่ ตั้งแต่ 25% - 50% ประเมินความเสี่ยงก่อนเอาจริง


คุณสมบัติผู้ลงทุนในธุรกิจซักผ้าแบบแฟรนไชส์ 1. มีความพร้อมที่จะเปิดร้านซักรีดได้ทันที 2. มีลูกค้าอยู่ในมือ มีคนดูแลร้าน หรือสามารถลงมือทำเองได้ 3. มีทำเลที่ตั้งในการเปิดร้านแล้ว 4. มีเงินทุน


ธุรกิจเครื่องซักผ้าแบบซักน้ำ (Washing Machine) เนื่องจากผ้าที่จะนำมาซักกับเครื่องไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทุกประเภทของผ้า การเลือกเครื่องซักผ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ และปัจจุบันเครื่องซักผ้ามีหลายรูปแบบ เช่น - เครื่องซักผ้าตามบ้าน (Home use) - เครื่องซักผ้ากึ่งอุตสาหกรรม (Commercial) - เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม (Industrial) เครื่องซักผ้าตามบ้าน เป็นการลงทุนที่ถูกที่สุด แต่มีข้อจำกัดคือ - ทำงานได้ช้า - ได้ปริมาณงานน้อย - สูญเสียเวลาและพลังงาน - ไม่ทนทาน แต่ในปัจจุบัน เครื่องซักผ้าตามบ้านได้มีการพัฒนาออกมาหลายรูปแบบ และมีความจุของเครื่องมากขึ้น รวมทั้งใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยระบบ การทำงาน อาทิ ระบบปรับระดับน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนผ้าที่ซัก ระบบปลอ่ยลมรอ้นของฮตีเตอรใ์หด้บักลิน่และฆา่เชือ้ และระบบปรบัรอบสลดัผา้เหลือความชื้นได้หลายระดับ เป็นต้น เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอุตสาหกรรม เป็นการลงทุนที่สูงขึ้น เพราะเป็นเครื่องที่ใช้ทั้งไฟฟ้าและไอน้ำ (Stream) ทำให้ - ทำงานเร็ว - ได้ปริมาณงานมาก - ประหยัดเวลาในการทำงาน และพลังงาน

รายละเอียดของกิจการซักรีดแบบแฟรนไชส์

กิจการ สินค้า เงินลงทุน (บาท)

วิชชี่ วอชชี่ บริการซัก อบ รีด 250,000

ลอนดรีเมด บริการซักแห้ง ซักน้ำ 300,000

ซินไฉฮั้ว บริการซักรีดน้ำ 100,000

/ แห้ง

มิสซิสลอนดรี้ บริการซักแห้ง 350,000

ซัก อบ รีด

เอ็กซ์เพรสดรายคลีนนิ่ง บริการซักแห้ง 100,000


ลอนดรี้เอ็กซ์เพรส บริการซัก อบ รีด 200,000

ซักแห้ง

อิชิยา บริการซัก อบ รีด 300,000

โปรลอนดรี้ บริการซักแห้ง 200,000


Allright Drycleaning บริการซักแห้ง 50,000–170,000

Laundry ซัก อบ รีด

วอชมี บริการซัก อบ รีด 200,000


- โปรแกรมการใช้เครื่องมีหลากหลาย การลงทุนทำธุรกิจซักรีดด้วยเครื่องซักผ้ากึ่งอุตสาหกรรม จำเป็นต้องมีทักษะมากพอสมควร จำเป็นต้องศึกษาจากผู้ขายเครื่องที่นำมาใช้งาน เพราะมีการใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย และยังต้องศึกษาไปถึงระบบการติดตั้ง การวางระบบไฟฟ้า น้ำดี น้ำทิ้ง และพื้นที่ในการติดตั้งเครื่องอีกด้วย เครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรม เป็นเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่มากพร้อมทั้งต้องขอใบอนุญาตในการประกอบการเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรม ซึ่งลักษณะงานคือ - ระบบการทำงานคล้ายกับเครื่องกึ่งอุตสาหกรรม - ได้ปริมาณงานเป็นจำนวนมาก สามารถกำหนดงานได้ - ประหยัดเวลาในการทำงาน และพลังงาน - ทนทาน - มีโปรแกรมการใช้งานที่หลากหลาย ธุรกิจเครื่องซักผ้าแบบซักแห้ง (Dry Cleaning) การซักแห้ง หมายถึง การไม่ใช้น้ำในการซักผ้า แต่ใช้น้ำมัน ที่เรียกว่า สารโซลเวน (Solvent) หรือ น้ำมันซักแห้ง ต้องใช้ความละเอียดในทุกขั้นตอน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ลูกค้ามักนำเสื้อผ้ามีราคาแพงและมีแบรนด์มาให้ซักแห้ง หรือมิเช่นนั้น มักเป็นการขจัดคราบเปื้อนพวกไขมันที่ซักน้ำไม่ออก ซึ่งลักษณะงานคือ


- เครื่องจักรต้องมีความทนทานและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน - เครื่องซักแห้งมักมีราคาสูง หลายแสนบาทจนถึงหลักล้าน - อาศัยพนักงานที่มีประสบการณ์สูง และสามารถประเมินเนื้อผ้าเพื่อ แยกไปสู่การซักรีดที่แตกต่างกันไป - ร้านจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับพนักงานเรื่องสวัสดิการและค่าจ้าง รวมทั้งการอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

ข้อสังเกตที่สำคัญสำหรับระบบการซักผ้าด้วยเครื่อง สิ่งที่จำเป็นที่สุด คือ การเลือกโปรแกรมการซักให้มากที่สุดเพื่อที่จะให้เราสามารถตั้งโปรแกรมเหมาะสมกับเสื้อผ้าที่จะนำมาซักได้หลากหลาย ซึ่งจะเปลี่ยนการทำงานที่ยากให้ง่ายขึ้น หลังจากเรียนรู้กิจการซักรีดในแบบต่างๆ แล้ว ต่อไปก็หันกลับมามอง ตัวเจ้าของกิจการว่ามีศักยภาพเพียงพอในการทำธุรกิจนี้หรือไม่ คือ


1. มีทำเลที่ตั้ง เพราะธุรกิจนี้ควรตั้งอยู่ในทำเลที่พักอาศัย คือ ตามแหล่งชุมชนในหมู่บ้าน อพาร์ตเมนต์ หอพัก คอนโดมิเนียม และหากเจ้าของกิจการมีสถานที่เป็นของตัวเอง ก็สามารถลดต้นทุนในด้านสถานที่ลงไปได ้ 2. มีบริการดี มีคุณภาพ ธุรกิจซัก อบ รีด เป็นงานบริการ ดังนั้นอันดับหนึ่งที่ต้องมีคือ การบริการที่ดี งานได้คุณภาพและสะอาดเป็นที่วางใจแก่ลูกค้า และสร้างความประทับใจและความเชื่อถือได้เป็นอย่างดี 3. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เจ้าของกิจการควรสร้างความรู้สึกที่ดีแก่ลูกค้า ทั้งการต้อนรับที่หน้าร้าน การพูดคุยอย่างเป็นกันเอง เพื่อสร้างสัมพันธภาพ ที่ดีในระยะยาว 4. มีความรู้เรื่องผ้า เจ้าของกิจการควรมีความรู้ในเรื่องเนื้อผ้าบ้าง เพราะผ้าแต่ละชนิดต่างมีวิธีการซัก รีด ที่แตกต่างกันไป เมื่อเตรียมตัวพร้อม จับกระเป๋าเงินของท่านดูว่า เงินลงทุนพร้อมด้วย หรือไม่ (ซึ่งต่อจากนี้ไป จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจซักอบรีดกึ่งอุตสาหกรรม ที่เป็นเชิงพาณิชย์เพื่อให้ธุรกิจซักอบรีดได้รับการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น)


ค้นหาทำเล หัวใจของธุรกิจ ร้านซักรีดควรเปิดในแหล่งชุมชนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ลูกค้ามีกำลังซื้อและมีความต้องการ ซึ่งอาจเปิดเป็นแหล่งรับ-ส่งเสื้อผ้าแทน แต่ร้าน ซักทำความสะอาดอาจอยู่อีกที่ก็ทำได้ แต่ทั้งนี้ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเข้ามาด้วย นอกจากนี้ เจ้าของกิจการต้องพิจารณาด้วยว่าแหล่งที่ตั้งมีคู่แข่งขันจำนวนกี่ราย และมีลูกค้าจำนวนมากเพียงพอหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการตัดราคาในการแข่งขัน “ปัญหาการตัดราคากันเองระหว่างร้านซักรีดที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน เช่น คิดรายเดือน 50 ชิ้น/500 บาท แต่อีกเจ้าตั้งราคาที่ 70 ชิ้น/600 บาท ซึ่งมันไม่คุ้ม” ทำเลร้านซักรีดที่ดี ต้องคำนึงถึงว่า ไม่ควรอยู่ใกล้กับร้านที่มีกลิ่นแรงหรือเสียงดัง อาทิ ร้านอาหารตามสั่งที่ผัดแกงกันที่หน้าร้าน หรือร้านซ่อมรถ หากมาสรุปอีกครั้งทำเลร้านซักรีด ควรเป็น 1. อยู่ในแหล่งชุมชน มีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ 2. ร้านอยู่ริมถนน ไปมาสะดวก และเป็นเส้นทางที่กลุ่มลูกค้าผ่านไปมา และหากมีบริเวณจอดรถเพื่อรับส่งผ้าด้วยจะเป็นการดี 3. แหล่งที่ตั้งร้าน ไม่ควรมีร้านซักรีดกระจุกอยู่มากเกินไป เพราะจะมีผล ต่อการแย่งลูกค้าและตัดราคากันได้


หากเจ้าของกิจการไม่สามารถหาทำเลกลางใจเมืองได้ ก็สามารถแก้ปัญหาด้วยการเปิดเป็นร้านรับ-ส่งผ้าเล็กๆ ตามใต้ตึกสำนักงาน โรงแรม หรือห้างสรรพสินค้า หรือมิเช่นนั้น ก็เน้นการบริการรับ-ส่งผ้าโดยอาศัยที่จอดรถตามตึกต่างๆ แทนได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากไม่ต้องเปิดร้านเต็มรูปแบบแล้วยังได้ใจลูกค้าอีกทาง ร้านลาเวนด้าของคุณเกษมสุข ได้เปิดหน้าร้านตามอาคารสำนักงาน โดยแห่งแรกที่อาคารแสงทองธานี (ซิตี้แบงค์) แห่งที่สองคืออาคารสาทรธานี ซึ่งเป็นอาคารที่มีคนทำงานมีเงินเดือนมาก และมักใส่เสื้อผ้ามีราคา จึงต้องการการดูแลเสื้อผ้ามากกว่าปกต ิ ซึ่งวิธีการเปิดสาขาที่ดี คือ ค่อยๆ เปิดทีละสาขา สำรวจตามอาคารสำนักงานที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่พอสมควร ถึงแม้ค่าเช่าจะแพง แต่เมื่อมีการดูแลเสื้อผ้าดี มีการรับ-ส่งผ้าในถุงแพคอย่างดี เสื้อผ้าสะอาด ก็ทำให้ลูกค้าติดใจ และเจ้าของกิจการยังสามารถคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้อีก นิดหน่อยด้วย (ซึ่งค่าเช่ารายเดือนสำหรับเปิดร้านรับ-ส่งผ้า ตามตึกสำนกังานกลางเมือง จะอยู่ประมาณ 7,000 - 20,000 บาท)


คุณสมบัติเจ้าของกิจการซักรีด เมื่องานซักอบรีดเป็นงานบริการที่มีรายละเอียดมาก ต้องเอาใจใส่ และมีความรู้เรื่องผ้าเป็นอย่างดี และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ความอดทน เพราะงานนี้หนักไม่ใช่เล่น และคุณสมบัติที่เจ้าของกิจการจำเป็นต้องมี คือ - มีความมุ่งมั่น - มีความคิดอ่านทางธุรกิจได้ดี - เป็นนักการตลาด มองหาตลาดใหม่ให้กับธุรกิจอยู่เสมอ - สนใจเรยีนรู ้นวตักรรม ความกา้วหนา้ในวงการเครือ่งซกัผา้อยูเ่สมอ - ค้นคว้าหาความรู้ ติดตามความเคลื่อนไหววงการซักรีดตามสื่อ ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ นิตยสาร หรือตำราต่างๆ - เข้าร่วมอบรม เข้าชมงานนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับงานซักรีด - เป็นนักสู้ มีความรู้เรื่องธุรกิจดี - มี Know How งานซักรีด - มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทั้งการต้อนรับด้วยหน้าตายิ้มแย้ม และพูดคุย เป็นกันเองกับลูกค้า


ทำซักรีดให้รวย (laundry business : how-to)

Documents

knowhow laundrybusiness

to2 business howto

laundry business

swot strengths

commercial industrial

machine homeuse

industry overview

wool white spirit