สุชาติ ภูมิบริรักษ์

12
อนุสาวรียเจาพอพระยาแล .ชัยภูมิ

Upload: hot-menu-magazine

Post on 20-Mar-2016

218 views

Category:

Documents


4 download

DESCRIPTION

บุคคล,สุชาติ ภูมิบริรักษ์

TRANSCRIPT

Page 1: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

104

อนุสาวรียเจาพอพระยาแล จ.ชัยภูม ิ

Page 2: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

105

สุชาติ ภูมิบริรักษ

ป ระวัติศาสตรบอกใหเรารูวา การไปมาหาสูกันระหวางบรรพชนของไทยกับชาวจีน มีมาชานานนับพันป แตความสัมพันธทางการคาในระบบบรรณาการ เริ่มขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ความสัมพันธทางการคาในระบบนี้มาสิ้นสุดลงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาฯ หรือรัชกาลที่ ๔ แหงราชวงศจักรีกับปลายสมัยราชวงศชิง

ขุนภูมิพาณิช ผูมีสวนพัฒนาทุนนิยมในไทยระดับหนึ่ง (๑)

Page 3: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

106

ในชวงรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกลาฯ ความสัมพันธทางการคาระหวางประเทศไทย(สยาม) กับประเทศจีนพัฒนาคอนขางคึกคักกวาสมัยใดๆที่ผานมา เรือสำเภาท่ีแลนไปมาระหวางจีน-ไทยปรากฏใหเห็นเสมอ และพอคาจีนรวมท้ังนักเผชิญโชคชาวจีนประเภทตาง ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในกรุงเทพฯและหัวเมืองใกลเคียงหลายแหง

ยังมีชาวจีนอีกสวนหน่ึง อพยพลงมาต้ังถิ่นฐานบานชองทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทยดวย แตชาวจีนสวนนี้มีจำนวนไมมากเทาสวนที่มาจากหนานหยาง คือผานเขามาทางอาวไทย

และในชวงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุล-จอมเกลาฯกับตนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาฯ ปรากฏวาชาวจีนจากภาคใตของจีน ไดอพยพผานอาวไทยเขาสูกรุงเทพฯ อยุธยา นครไชยศรี เปนตน มากข้ึนและมากข้ึนเร่ือย ๆ สภาพอันน้ีเห็นจะเปนเพราะคำเลาลือถึงความอุดมสมบูรณและ

Page 4: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

107

การทำมาหากินสะดวกของเมืองไทยดวย อีกดานหนึ่ ง ในชวงเวลาเดียวกันนี้ ในประเทศจีนการเคล่ือนไหวตอสูของชนช้ันนายทุนกำลังขึ้นสูกระแสสูง และระบอบศักดินาของราชวงศชิงกำลังจะพังทลาย ประชาชนจีนตองประสบกับความทุกขยากเดือดรอนไปทุกหยอมหญา ใครที่สามารถหนีไดก็หนีไป ที่หนีไมไดก็หันหนาเขาสูกับผองภัย มีอยูไมนอยท่ีเขารวมการตอสูของชนช้ันนายทุน

ภายใตสถานการณดังกลาวน้ี

วันหนึ่งในฤดูรอน มีเรือประมงลำหนึ่งแลนออกจากอาวทางดานตะวันตกของเกาะไหหลำและมุงหนาไปทางตะวันตกเฉียงใต ผูโดยสารในเรือลำน้ีเปนชายลวน ๆ ๑๗ คน บุคคลเหลานี้มีอาชีพเปนชาวประมง เรือที่พวกเขากำลังใชอยูนี้ เปนเรือของเถาแกเจานายของพวกเขา การใชเรือครั้งนี้ไมใชเพื่อออกจับปลาใหเถาแก แตเปน “การถือวิสาสะ” ใชเรือหนีไปเผชิญโชค โดยไมบอกความจริงใหเจาของเรือรู

Page 5: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

108

ชาวประมง ๑๗ คนน้ีตั้งใจจะไปเผชิญโชคท่ีไหน? พวกเขาปรึกษาหารือกันกอนที่จะลงมือพาเรือหนีวาจะไปเผชิญโชคที่เวียดนาม

เรือลำนี้แลนโตคลื่นฝนลมมา ๖-๗ วัน เชาวันหนึ่งพวกเขาก็มองเห็นฝงเขียวชอุมเปนพืดสุดลูกหูลูกตา พวกเขาบางคนตะโกนออกมาดวยความดีใจวา “พวกเราไมอดตายแลว !”

เมื่อเรือเขาเทียบฝง และนักเผชิญโชคเหลานี้ขึ้นฝงเสร็จ พวกเขาจึงรูวาดินแดนท่ีพวกเขามาถึงไมใชเวียดนาม ! แตเปนประเทศสยาม ! และผืนดินที่พวกเขาเหยียบยืนอยูเรียกกันวา “เมืองชล”

ชาวไหหลำเหลานี้ยังไดพบวา ที่เขตทาเรือนี้มีพี่นองชาวจีนของพวกเขาอยูไมนอย พวกเขาใหการตอนรับบรรดานักเผชิญโชคอยางอบอุน

นักเผชิญโชคท้ัง ๑๗ คนน้ี นองคนเล็กของพวกเขาชื่อฝูเจี้ยนกวอ (ผูเกี้ยนกก 符建国) อายุ ๑๗ ป

Page 6: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

109

มีประวัติความเปนมานาสนใจกวาคนอื่น ๆ ฝูเจี้ยน-กวอเกิดในครอบครัวที่ยากจนมาก พอแมเปนชาวอำเภอเหวินชาง บนเกาะไหหลำ ตอนอายุ ๘-๙ ขวบเขาเปนโรคฝดาษจนสลบไป พอแมคิดวาเขาตาย จึงเอาเส่ือที่เขานอนอยูหอพันตัวเขาแลวยกไปวางท้ิงไวขางกำแพงวัด เพราะไมมีเงินซื้อโลงใสศพ

ตกดึกน้ำคางลง เจาหนูฝูเจ้ียนกวอฟนจากสลบ เห็นตัวเองอยูในสภาพคลายคนตายท่ีถูกนำมาท้ิง ก็รูสึกเศราเสียใจ แลวก็กลายเปนความนอยใจที่ถูกพอแมทอดท้ิง เขาคอย ๆ ดิ้นหลุดออกมาจากส่ิงผูกมัด เมื่อพยุงตัวลุกข้ึนได เขาก็เดินไปขางหนาเร่ือย ๆ ไมยอมหันหลังกลับบาน เขาเดินไปอยางไมมีเปาหมาย จนมาหมดแรงลงท่ีหนาบานชาวประมงครอบครัวหน่ึง ฝูเจ้ียนกวอโชคดีที่มาเจอครอบครัวของผูมีจิตเมตตา เจาของบานออกปากรับเขาไวและใหความอุปการะตามสมควร ไมไดรังเกียจที่เขาเปนโรคฝดาษ ทั้งยังแนะนำเขาใหลงเลนน้ำทะเลหนาบานทุกวัน ซึ่งอาจจะชวยรักษาโรคน้ีได ปรากฏวาไดผล โรคของเขาคอย

Page 7: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

110

หายวันหายคืนจนเปนปรกติ และก็กลายเปนแรงงานที่ดีของครอบครัวนี้ดวย เขาคอย ๆ เติบโตมากับครอบครัวนี้

ตอนท่ีฝูเจี้ยนกวออายุ ๑๕ ป เจาของบานไดพาเขาไปฝากเปนลูกมือในเรือประมงลำหนึ่ง หนุมนอยคนน้ีรูปรางคอนขางสูงกวาเด็กรุนเดียวกันและทำงานขยันขันแข็ง เพ่ือนชาวประมงรุนพี่จึงรักชอบเขา เขาทำงานประมงอยูประมาณ ๒ ป ตอนน้ันเขาอายุ ๑๗ ป วันหน่ึงหัวหนาเรียกเขาไปคุย และบอกถึงความตั้งใจท่ีจะออกจากเกาะไหหลำไปเผชิญโชคท่ีเวียดนามเพื่อความอยูรอดของชีวิต เ ม่ือฝูเจี้ยนกวอทราบเจตนารมณของหัวหนาที่จะไปเผชิญโชคในตางแดนแลว เขาก็เห็นดวยและตัดสินใจจะรวมทุกขรวมสุขไปกับพรรคพวก

ครั้นมาถึงปลายทาง แมที่นี่ไมใชเวียดนามแตเปนเมืองไทย พวกเขา - นักเผชิญโชคชาวจีนไหหลำทุกคนก็รูสึกพอใจ โดยเฉพาะฝูเจี้ยนกวอเขามองไป รอบ ๆ บริเวณอีกคร้ัง แลวเสียงของเพื่อนคนนั้นก็แวว

Page 8: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

111

ขึ้นในหูของเขาอีก “พวกเราไมอดตายแลว !” เขากำหมัดชกลมอยางพอใจและม่ันใจ แลวก็ เดินตามหัวหนาไป

ไปท่ีไหนเขาไมทราบ

ครูใหญก็มาถึงชุมนุมชาวจีน หัวหนาไดเจรจากับผูรับผิดชอบท่ีมาตอนรับ

ฝูเจี้ยนกวอไมมีใครมารับ และเขาก็ไมยอมไปกับ “ผูมาหาแรงงาน”

ขณะท่ีเขาเตรอยูในเขตชุมชนชาวจีนน้ัน ก็มีคนเขามาถามชื่อแซเขา เมื่อพูดคุยกันอยูครูหนึ่งแลว เขาผูนั้นก็บอกฝูเจี้ยนกวอวา “ที่อำเภอสีค้ิว เมืองโคราช มีพอคาคนหน่ึงแซฝู ถาเอ็งไปหาเขา เขาคงจะใหความชวยเหลือเอ็ง เพราะเปนคนแซเดียวกัน---” ฝูเจี้ยนกวอฟงแลวก็หันไปปรึกษาเพ่ือนรวมเผชิญโชคสามสี่คนที่ไมมีญาติหรือคนแซเดียวกันมารับ ในท่ีสุดพวกเขาก็ตกลงกันที่จะเดินทางไปอำเภอสีคิ้วตามคำ

Page 9: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

112

แนะนำของเขาคนนั้น และเขาคนนั้นก็จดชื่อตำบลที่อยูของพอคาสีคิ้วใหฝูเจี้ยนกวอดวยความปรารถนาดี ทั้งบอกทิศทางและวิธีการเดินทางใหดวย

ฝายหัวหนาของฝูเจี้ยนกวอน้ัน ปรากฏวาเขาไดตกลงกับคนแซเดียวกัน จะไปทำงานขนสงสินคาในกรุงเทพฯ หัวหนาบอกฝูเจี้ยนกวอวา นักเผชิญโชคคนอื่น ๆ ที่มาดวยกันนั้น มีคนแซเดียวกันกับพวกเขามาจองตัวไวหมดแลว เมื่อเขารูวาฝูเจี้ยนกวอก็มีคนแนะนำใหเดินทางไปหาพอคาคนแซเดียวกันที่อำเภอสีคิ้วพรอมกับเพื่อนอีกสามคน เขาก็แสดงความยินดีดวยและอวยพรใหพวกเขาโชคดี

หัวหนาไดนัดพบกลุมเผชิญโชคของเขาเพื่ออำลากันกอนจากไปเผชิญชีวิต ณ เมืองตาง ๆ ในไทย

ฝูเจี้ยนกวอกับเพ่ือนสามคนออกจากเมืองชลเดินทางเขากรุงเทพฯ พักอยูในกรุงเทพฯระยะหน่ึงแลวก็ออกเดินทางไปตามเสนทางที่ผูปรารถนาดีคนนั้นบอก ครั้นถึงปากชองพวกเขาก็หยุดพักแรมอยูขางทาง

Page 10: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

113

เปลี่ยว และกอไฟข้ึนปองกันสัตวราย ตกดึกขณะท่ีพวกเขานอนหลับใหลอยู เหตุรายก็ไดเกิดข้ึน เสียงรองของเพื่อนคนหนึ่งในสามของฝูเจี้ยนกวอปลุกใหคนอื่น ๆ ตื่นดวยความตกใจ ณ บัดนั้นปรากฏวา เพื่อนคนหนึ่งหายไป ตามหากันอยูพักหนึ่งก็ไมพบ ได เห็นแต รอยเลือดเปรอะอยู บนพื้ น พวกเขาสันนิษฐานวาคงถูกเสือกัดตายแลวลากไปกิน

ทุกคนไดแตหลั่งน้ำตาดวยความเศราเสียใจ แลวก็ตัดสินใจงมมืดออกเดินทางมาจนถึงอำเภอสีคิ้ว และก็ไดพบกับพอคาคนแซฝูสมความปรารถนา พอคาคนน้ีใหการตอนรับฝูเจี้ยนกวอเปนอยางดีและถือเปนเสมือนญาติ สวนอีกสองคนซ่ึงเปนเพ่ือนรวมทุกขรวมสุขและรวมเปนรวมตายของฝูเจี้ยนกวอ พอคาสีคิ้วคนนี้ก็ใหการตอนรับเปนอยางดีเชนกัน

ตอมาไมนานพอคาแซฝูก็หาอาชีพใหฝูเจี้ยนกวอทำ โดยออกทุนใหเขาไปเปนพอคาวัวตาง(ใชวัว หรือลอบรรทุกสินคาไปขาย) สวนเพ่ือนอีกสองคนน้ัน พอคาแซฝูก็ออกทุนใหเขาไปทำการคาเชนเดียวกัน

Page 11: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

114

ปรางคกู ปราสาทที่ไดพบหลักฐานวาเปนอโรคยาศาล ท่ีสรางขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ นั่นคือ มีปรางคประธานอยูตรงกลาง ๑ องค วิหารหรือบรรณาลัยดานหนา ๑ หลัง ลอมรอบดวยกำแพงซึ่งมีโคปะร ุ

Page 12: สุชาติ ภูมิบริรักษ์

115

เม่ือฝูเจี้ยนกวอไดอาชีพเปนพอคาวัวตาง เขาก็นำสินคาประเภทของใชประจำวัน เชน เสื้อผา ยารักษาโรค ยาสูบ เข็มเย็บผา และอ่ืน ๆ ไปเรขายตามหมูบานใกลเคียงกับสีคิ้ว เขาคอย ๆ เรียนรูการซื้อถูกขายแพง ปรากฏวาการคาของเขาไปไดดี มีกำไรเปน กอบเปนกำ วัวตางของเขาไดเพิ่มจากตัวเดียวเปนสองตัว เขาคนเดียวชักจะทำไมไหว จึงตองจางลูกจางมาชวย ไมนานนักวัวตางของเขาก็เพิ่มขึ้นเปนหลายตัว ความคิดทุนนิยมไดงอกงามขึ้นในสมองของเขาเปนลำดับ

เสนทางการคาของเขาก็ขยายไกลออกไปเร่ือย ๆ จากอำเภอสีคิ้วมาจนถึงเมืองชัยภูมิ